ว่าด้วย"ธรรมชาติ"ของพระสมเด็จ

ยังไม่จบครับสำหรับองค์นี้ พี่ๆอย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ อิๆ ^^ นึกสนุกครับเลยนำท่านไปถ่ายที่ร้านถ่ายรูปพระให้ดูกันชัดๆครับ แสง สี ธรรมชาติตามความเป็นจริงเลยครับ ลองดูกันสนุกๆนะครับ วิจารย์ได้เต็มที่ครับ ว่างๆก็ไปอุดหนุนกันนะครับร้านอยู่ใน ไอทีพลาซ่าหลังน้อมจิตบางกะปิ ราคาไม่แพงครับ

 

ถ้าถามผม ผมชอบคราบดินครับ เพราะจริง ๆ แล้ว พระที่แตกกรุเป็นทางการเป็นคราบดินครับ (ถามคนที่ไปเช่ากับวัดช่วงนั้นจริง ๆ) แต่ที่ผ่านมาเห็นแต่คราบแคลเซียม ไม่ค่อยเห็นคราบดินกันเลยครับ พึ่งจะเริ่มมามีขายกันช่วงนี้ ไม่รู้ทำไม

 

คุณBrutusตั้งชื่อเหมือนหนังฟอร์มยักษ์เลยครับ "คราบกรุ ขี้กรุ และฟองเต้าหู้" ผมชอบครับของคุณBrutus แต่คราบกรุในลักษณะแบบนี้เขาเรียกว่าลักษณะผดหรือเปล่าครับ ไม่หนามากแต่แผ่กระจาย เหมือนการเรียงตัวของคราบที่เกาะอยู่บนหินตามชายฝั่งทะเลนะครับ

 

องค์นี้เนื้อจัดคราบดินเกาะเหนียวแน่นเลยครับพี่Brutus และภาพดูเป็นธรรมชาติมากครับ อาจจะอยู่ที่การใช้แสงไฟของช่างหรือเปล่าครับ

 

รูปจากภาพถ่าย ดูดี แท้ตาเปล่า ก็มีเสร็จมาหลายรายแล้วครับ ตัวผมก็เคย แต่พอได้ดูองค์จริง กลิ่นตังอิ้วแตะจมูกก็ฤกษ์ไม่ดีแล้ว (แต่เขาว่าไม่เสมอไป บางทีพระนำไปใส่รวมกับพระองค์อื่นอาจจะดูดกลิ่นมาได้เหมือนกัน) พอดูองค์จริงแล้วไม่เก่า แต่ภาพถ่ายดูเก่า ธรรมชาติดี คราบกรุดูดีเลย คิดในทางกลับกัน เพราะฉะนั้น บางองค์ที่เขาดูรูปแล้วบอกว่าไม่ดีเลย แต่ถ้าหากได้เห็นองค์จริงอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะครับ

 

ครับแบบนี้ก็ดูง่ายครับ..แต่ผมชอบคราบเยอะๆเวลาส่องดูเหมือนกับเราขี่เครื่องบินสำรวจดวงจันทร์เลยท่าน..มันมีทุกอย่างที่..มันมากๆ..บนผิวแบบนั้น..จินตนาการไปแบบหนังอวกาศจิงๆ..55555

 

เห็นด้วยกับพี่Brutusครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นและดูองค์จริงครับ ว่างๆมาMeeting พระสมเด็จกันดีกว่า

 

5555555+

เดิมผมก็หาอย่างที่คุณชัยว่าอะครับ แต่ด้วยไม่เก่ง เจอแต่ฝีมือครับ ทำตากลับไปเลย ตอนนี้เลยเลือกดูง่ายไว้ก่อนถึงหยิบมาส่อง เช่น คราบดิน รอยปรื้น รอยเสี้ยน เป็นต้นครับ

 

อิอิ อันนี้สวยดีครับ ชอบชอบชอบ

 

กระทู้นี้สมาชิกครึกครื้นดีจริงๆ

 

ตอนแรกยาว่าจะไม่ยุ่งแล้วนะคะ ถ่ายรูปมาได้ชัดเจนจริงๆ สวยดีคะ ยานำภาพมาให้คุณsur ลองวิเคราะห์ดู

เครดิตข้อมูล Amuletism

วิธีพิจารณาสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑ เศียรบาตร
1. เส้นซุ้มของพิมพ์นี้ต่างจากพิมพ์อื่นอย่างชัดเจน คือจะมีขนาดของเส้นเรียวบางคล้ายเส้นซุ้มของพิมพ์เส้นด้าย แต้จะค่อนข้างนูนคมชัดกว่า ส่วนโค้งด้านขวาขององค์พระจะสอบและโย้ไปด้านซ้าย โค้งด้านขวาจึงดูชันกว่าด้านซ้ายและพิมพ์นี้จะไม่มีเส้นฐานด้านล่างของซุ้ม
2. พระเกศเป็นเส้นยาวมีโคนปลายเกศแหลมวิ่งขึ้นไปจรดยอดตรงกลางเส้นซุ้มพอดี
3. พระพักตร์ใหญ่รูปทรงคล้ายบาตรพระ ปรากฏพระกรรณค่อนข้างหนาแนบชิดแก้ม ปลายหูแหลมชี้เฉียงออกไปด้านข้าง เส้นลำคอนูนขึ้นมาเล็กน้อย
4. พระอุระลำพระองค์ ส่วนของลำตัวยาวเด่น หน้าอกอูมเป็นรูปตัววี ปรากฏแนวสังฆาฏิพาดเฉียงจากบ่าซ้ายลงมาจรดฝ่ามือ ปลายสังฆาฏิดูแหลมรับกับหน้าอกดูคล้ายปากครุฑ
5. วงพระกร หัวไหล่ขวาจะกางออกมากกว่าไหล่ซ้าย วงแขนขวาจะกางออกเป็นวงโค้งส่วนวงแขนซ้ายจะทิ้งดิ่งลงมาแล้วจึงหักศอกชัดเจน ซอกแขนขวาจึงเป็นแอ่งกว้างกว่าด้านซ้าย แนวฝ่ามือดูเรียวบางและว่งประสานแนบกับหน้าตัก
6. พระเพลา หน้าตักดูใหญ่หนาคล้ายหมอน แต่หัวเข่าจะยกลอยขึ้นทั้งสองด้าน เข่าซ้ายจะหนาและสูงกว่าด้านขวา
7. ฐานสามชั้น แต่ละชั้นจะมีขนาดใหญ่คล้ายหมอนรถไฟ ฐานชั้นบนหัวฐานด้านขวาจะยาวเท่ากับหัวเข่าขวา ส่วนด้านซ้ายจะยื่ยยาวออกไปมากกว่าหัวเข่าซ้าย และที่ขอบด้านบนและด้านล่างมีสันนูนคล้ายครีบขึ้นมา ฐานชั้นกลางหัวฐานด้านซ้ายจะยาวเท่ากับฐานชั้นบนแต่ด้านขวาจะยาวมากกว่าหันฐานชั้นบน ลักษณะหัวฐานด้านขวาจะตัดเฉียงแหลมลงไป ตรงกลางฐานจะมีร่องยุบเป็นแนวยาว ฐานชั้นล่างจะหนาใหญ่กว่าทุกชั้น ด้านหน้าของฐานเป็นสัน หัวฐานด้านซ้ายจะเป็นหัวเหลี่ยมตัดตรง ในขณะที่หัวฐานด้านขวาจะตัดเฉียงปลายแหลมชี้ออกเกือบจรดกับปลายเส้นซุ้ม

ขออนุญาติหยิบรูปภาพท่านเจ้าของภาพมาเพื่อเป็นการศึกษาคะ







ภาพคุณ sur

 

พิจารณาเอาเองนะคะ ยานำเสนอรูปให้ดูเปรียบเทียบ

 

ขอบพระคุณมากครับคุณยา จัดเต็มเลย555 พิมพ์ทรงนี้ของผมค่อนข้างจะอวบอ้วนหน่อย ก็ต้องวิเคราะห์กันต่อครับ เพราะเท่าที่ดูมาพิมพ์นี้ก็เข้าพิมพ์อกครุฑมากที่สุดถ้าจัดเป็นพิมพ์ไกเซอร์(พระในตำนาน)ก็ยังไม่ถูกเรื่องฐานและช่วงลำตัว ซึ่งผมไม่แน่ใจเรื่องบล็อคและแม่พิมพ์ขององค์นี้ที่แน่นอนครับว่ามีมาทั้งหมดกี่แบบตั้งแต่ตอนก่อนบรรจุกรุ และก็ไม่รู้ว่าถูกสร้างมาตั้งแต่วัดระฆังหรือไม่ซึ่งในสภาพที่ชำรุดอย่างนี้ก็คงต้องวิเคราะห์เรื่องพิมพ์ต่อไปครับ ใครพอทราบรายละเอียดที่ลงลึกช่วยผมหน่อยนะครับ

 

เพิ่มเติมรูปครับผมได้ลงรายอะเอียดตกแต่งครับ( ถ้าวาดได้ไม่ดีต้องขออภัยนะครับ อิๆ) องค์พระองค์นี้ตรงส่วนกลางลำตัวได้ถูกหักครึ่งออกซึ่งไม่รู้ว่ามีชิ้นเนื้อที่หลุดไปมากน้อยเพียงใดรวมถึงด้านข้างขององค์พระรอบๆเส้นซุ้มและการต่อชิ้นส่วนของเจ้าของเดิมยังดูไม่ค่อยสมานกันเท่าไร ซึ่งใครมีภาพลักษณะแบบองค์นี้เต็มๆช่วยลงให้ดูทีนะครับ สภาพชำรุดแบบนี้ผมก็เหนื่อยวิเคราะห์ครับ อิๆ แต่ก็ท้าทายครับ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่ไม่ใช่บางขุนพรหมแต่ผมก็นึกไม่ออกจริงๆว่าจะเป็นพระกรุที่ใหนที่มีลักษณะแบบอกครุฑเศียรบาตร และเนื้อทางโซนบางขุนพรหมแบบนี้

 

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน ขอบคุณสำหรับข้อมูลจากคลังภาพเเละข้อมูลเชิงวิเคราะห์ที่นำลงมาเเชร์กันครับ ผมได้นำภาพพระของตัวเองมาลงให้พิจารณาดูเเละมีคำถามถึงสิ่งที่ผุดขึ้นมาจากเนื้อพระด้านหน้ามีลักษณะกลมสีขาว ปรากฎทั่วด้านหน้าองค์พระ เเล้วคราบรักเเละคราบทองดูเป็นอย่างไรบ้างครับ ;อยากเอาไปให้คุณยาถ่ายเจาะชัดๆ ถ้ามีโอกาศครับ ขอบคุณครับ

 

ตอนเช้าพยายามช่วยค้นหาข้อมูล หาไม่เจอ เหอเหอ สรุปเป็นกำลังใจให้ก็แล้วกันนะคะ ถ้ายาเจอจะนำมาบอก ตอนเช้ารื้อหนังสือมากองหาให้ โหยย ตอนเก็บนี่สิขี้เกียรจชะมัดเลย เฮ้อ

 

ภาพไม่ชัดเจนคะ ยังดูเบลอๆ ลองให้พี่ชัยช่วยดูสิคะ พี่ชัยชำนาญกว่ายาเยอะ หรือ ไม่ก็พี่เอ๋ และ ท่าน จขกท. ช่วยพิจารณาก็ได้คะ ช่วงนี้สายตายามันทะแม่งๆชอบกล

ปล. พระองค์นี้ยาคุ้นๆจำไม่ได้เหมือนเคยเห็น เฮ้อ แก่แล้วหลงๆลืมๆ

 

ขอบพระคุณมากครับพี่ยา อุตสาห์ลงรูปเปรียบเทียบให้ดูละเอียดเลย ซึ่งผมก็ได้พี่ๆในนี่แหละ(น่ารักทุกคน ^^ )ที่คอยให้ความรู้เสมอมา ผมก็คงเก็บท่านไว้ใช้บูชาและศึกษาเนื้อดูนะครับ และก็จะค้นคว้าไปเรื่อยๆ(แต่งบบ่ค่อยมี555) จะพิมพ์ใหนไม่สำคัญขอให้แท้ไว้ก่อนเป็นอันดีครับ แต่มีหลายๆคนบอกให้นำท่านไปซ่อมช่วงกลางที่หักเพราะจะได้เป็นศิริมงคล พี่ๆมีความเห็นว่ายังไงครับ

 

ส่วนตัวชอบองค์ที่สองครับ ถ้าขยายได้มากกว่านี้จะดีมากเลยครับ รอพี่ๆท่านอื่นอีกทีนะครับ