อยากร่ำรวยอย่างนางวิสาขา มาดูต้นแบบแห่งการทำทานบารมีกันค่ะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ฟาฟา, 4 กันยายน 2012.

  1. ฟาฟา

    ฟาฟา ฟาฟา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +2,617
    นางวิสาขาคนรวย (นางทำบุญมาเช่นไรนางจึงเป็นมหาเศรษฐี)
    แหล่งที่มา: กฏของกรรม เล่มที่ ๔ รวบรวมโดย พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร ป.ธ.๔(ฤาษีลิงดำ))
    หน้าที่ ๑๑ – ๒๒
    ความรู้สึกอยากรวย อยากมั่งมีศรีสุขเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์โลกเราทุกคนแต่เราต้องทำอย่างไรให้ไปถึงซึ่งคำว่ารวย ใครอยากรวยมาดูต้นแบบที่ดีและงดงามแห่งทานบารมีโดยดิฉันชื่นชอบในเรื่องของนางวิสาขาเพราะนอกจากท่านจะสวยแล้วท่านยังรวยอีกต่างหาก ใครอยากสวยเอาไว้เดี๋ยวคราวหน้าดิฉันจะนำมาสรุปให้ฟังนะคะแต่สำหรับวันนี้ขอแบบรวยก่อนก็แล้วกันค่ะเราจะเข้าเรื่องกันเลยนะคะเพื่อไม่ให้เสียเวลา หลวงพ่อท่านเล่าไว้ในหนังสือว่า นางวิสาขาเป็นผู้ที่บูชาพระพุทธเจ้า นางได้เป็นพระโสดาบัน ตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ก็ยังบูชาพระพุทธเจ้ายันตายมีความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าเป็นปกติและจริงใจ ทั้งนี้เพราะว่าเป็นอุปนิสัยเดิม ซึ่งเคยบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีผล ถึงแม้ว่าตนจะระลึกชาติไม่ได้แต่ว่ากำลังใจ บรรดาท่านพุทธบริษัท น้ำใจที่เคยตั้งมั่นอยู่ในความดีของพระพุทธเจ้า มันไม่ถอยหลัง ที่ท่านกล่าวว่าการสร้างบุญบารมีสะสมเข้าไว้ ความจริง ความดีที่เราสร้างไว้ เราสะสมเข้าไว้ เกิดชาติต่อๆไปก็สร้างสรรค์ความดีเพิ่มหรือสร้างเติม จนกว่าบารมีจะเต็ม ครั้งเมื่อบารมีเต็มแล้วก็เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน บารมี แปลว่า กำลังใจ คือทำกำลังใจให้เต็ม ทานบารมีเรามีความตั้งใจในการให้ทานเป็นปกติแต่ว่าการให้ทานนี้ เราจะให้ตามกำลังที่เรามีอยู่ ไม่ใช่ว่าให้เกินพอดี ถ้าให้เกินพอดีแล้ว องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงติว่า เป็นการเบียดเบียนตนเกินไป ฉะนั้น การเต็มใจในการให้ทานไม่ใช่ว่า มีเท่าไหร่ก็ให้หมด
    มาดูสิว่าเขารวยขนาดไหน คนในตระกูลนี้ ที่เป็นปัจจัยให้ร่ำรวยมีอยู่ ๕คน คือ
    ๑.ท่านเมณฑกเศรษฐี ผู้เป็นปู่ของนางวิสาขา
    ๒.ธนัญชัยเศรษฐี ผู้เป็นพ่อของนางวิสาขา
    ๓.มารดาของนางวิสาขา
    ๔.ตัวนางวิสาขา
    ๕.นายปุณณะ ผู้เป็นทาส
    ท่านทั้งหลายทั้ง ๕ คนนี้นั้นต่างคนต่างบูชาความดีของพระพุทธเจ้าด้วยการถวายทาน
    อย่างตระกูลนางวิสาขานี้มีความสบายมากไม่ต้องไปโกงใครเขา อยากจะได้อะไร ก็สมความปรารถนาเราจะสร้างความดี คือการให้ทาน การสงเคราะห์ ก็ทำได้สะดวก การให้ทานเป็นปัจจัยของความสุข คือเป็นการผูกมิตร ทำจิตให้สบาย จะไปทางไหนก็มีแต่เพื่อน จะไปทางไหนก็มีแต่คนรัก นี่เป็นผลของการให้ทาน แล้วนางวิสาขาทำอย่างไร เรื่องนี้ปรากฎในพระธรรมบทขุททกนิกาย องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุธเจ้าทรงเทศน์ไว้ว่าถอยหลังจากชาตินี้ไปประมาณแสนกัป สมัยนั้นมีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงอุบัติขึ้นในโลก มีพระนามว่า พระวิปัสสีทศพล ในกาลนั้น นางวิสาขาเกิดเป็นสตรีคนหนึ่ง มีฐานะไม่ใช่เศรษฐี และก็ไม่ใช่คหบดี เป็นคนอย่างเราๆท่านๆทั้งหลาย คือมีฐานะพอกินบ้าง ใช้บ้าง แบบธรรมดาๆแต่ว่ามีสตรีนางหนึ่งเป็นเพื่อนของนางวิสาขาเธอเป็นลูกของมหาเศรษฐีใหญ่ มีเงินนับไม่ได้ สตรีผู้นี้เคยเป็นเพื่อนเก่ากับนางวิสาขามาตั้งแต่เด็กเป็นมิตร สนิทชิดเชื้อและเธอนั้นเป็นผู้บำรุงพระพุทธศาสนา คือเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับอยู่ในเมืองนั้นกาลใด จะมีพระสงฆ์ติดตามมา กี่แสนกี่ล้านองค์ก็ตาม นางสตรีผู้นี้จะรับอุปการะทุกเวลา ทั้งสถานที่อยู่ เครื่องใช้ไม้สอยทุกอย่าง ตามความจำเป็นของสมณวิสัย ตลอดจนอาหารการบริโภค ยารักษาโรค ทุกอย่าง นางรับอุปการะทั้งหมดเป็นเหตุให้สาวกของพระบรมสุคต มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานมีความสุข ไม่ลำบากด้วยความเป็นอยู่ ที่เป็นอย่างนี้ องค์สมเด็จพระบรมครูท่านกล่าวว่า เพราะว่านางบำเพ็ญกุศลทาน มีการ ถวายสังฆทานเป็นต้น
    ต่อมา องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เทศน์ผลของการถวายสังฆทานว่า การถวายสังฆทานนี้มีผลมาก ตามลำดับของทาน(ให้ทุกท่านกลับไปอ่านหัวข้อ ที่ Admin TATA ลงไว้นะคะเกี่ยวกับการจัดลำดับทาน)ใครจำไม่ได้ก็กลับไปอ่านอีกครั้งใครจำได้แล้วอ่านกันต่อค่ะ หลวงพ่อท่านกล่าวต่อว่าเมื่อนางวิสาขาสมัยนั้นชื่อว่าอะไรก็ไม่ทราบ ท่านไม่ได้บอกชื่อ เมื่อได้ฟังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเทศน์ว่า การถวายสังฆทาน มีอานิสงส์มาก แม้แต่ถวายทานแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเองถึง ๑๐๐ ครั้งก็มีผลไม่เท่ากับ การถวายสังฆทาน ๑ ครั้งเพราะการถวายสังฆทานนี้ต้องปรารภพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เพราะอะไร เพราะว่าถ้าเราถวายทานแด่พระสงฆ์ เราก็ต้องน้อมจิตถึงพระพุทธเจ้าด้วย เพราะคำว่าสังฆทานแปลว่า ทานเพื่อหมู่ ไม่ใช่เพื่อบุคคล เป็นส่วน สาธารณประโยชน์ เมื่อนางได้ฟังอย่างนั้นแล้ว จึงได้อาราธนาองค์สมเด็จพระประทีปแก้วพร้อมไปด้วยพระสงฆ์ตามสมควร ไปรับสังฆทานที่บ้านเมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงรับด้วยอาการ ดุษณีภาพ(หมายความว่า พระพุทธเจ้าเวลาท่านรับนิมนต์ ท่านไม่ออกปากว่า รับได้ ถ้านิมนต์แล้ว ท่านไม่ขัดท่านเฉย ถือว่า รับ)
    เมื่อถึงเวลาแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พร้อมด้วยพระสงฆ์ก็ไปที่บ้านของนาง นางก็ถวายทานแด่พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ ตามกำลังฐานะที่พึงจะถวายได้(อาจจะมีแกงเลียงตำลึงสักถ้วย มีต้มยำสักหม้อ มีน้ำพริกสักถ้วยหนึ่ง มีผักดิบ มีผักต้ม อย่างนี้เป็นต้น คือเป็นของธรรมดาๆ)เพราะว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี พระสงฆ์ก็ดี เป็นผู้เลี้ยงง่าย ใครเขาเลี้ยงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น พระองค์ไม่เคยรังเกียจ ไม่ใช่ว่าเป็น พระสำรวย เวลามียศฐาน์บรรดาศักดิ์ขึ้นมาต้องกินข้าวด้วยตะลุ่มมุก ต้องกินจานแก้ว จานเงิน จานทอง สำรับสวยๆพระดีท่านไม่ทำแบบนั้น ถ้าทำแบบนั้น ก็เป็น พระนรก เท่านั้น พระดีเขาไม่คิด คิดเสียว่า ถ้าชาวบ้านเขามีศรัทธาแล้วเป็นใช้ได้)
    การถวายสังฆทานครั้งนี้ขอผลบุญอันนี้จงส่งให้หม่อมฉันในชาติต่อไป ให้มีโอกาสได้เลี้ยงดูพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาเป็นผู้บำรุงพระพุทธศาสนา เช่นเดียวกับสตรีที่เป็นเพื่อนของหม่อมฉันเถิด พระพุทธเจ้าข้า (นางกล่าวเจตนาไม่ได้หวังความเป็นเศรษฐี ต้องการอย่างเดียวคือเลี้ยงดูพระสงฆ์ให้มีความสุข ดูเจตนาของนางให้ดี บรรดาท่านพุทธบริษัท)
    เมื่อองค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ได้ทรงสดับแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ทรงตรวจดูด้วยอำนาจพุทธญาณ ก็ทราบชัด เมื่อทราบแล้ว องค์สมเด็จผู้ทรงสวัสดิโสภาคย์ได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า
    ภคินิ ดูกรน้องหญิง นับตั้งแต่นี้ไปอีกแสนกัป จะมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งมีพระนามว่า พระสมณโคดม สมัยนั้นเธอจะเกิดเป็นลูกของ ธนัญชัยเศรษฐีมีปู่มีนามว่า เมณฑกเศรษฐี เธอมีนามว่านางวิสาขา จะมีทรัพย์สินรวยมาก นับไม่ได้ และจะเป็นผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน หลังจากชาตินั้นแล้วนางวิสาขาก็ท่องเที่ยวอยู่บนสวรรค์สิ้นกาลนาน เมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงอุบัตินางก็มาเกิดเป็นลูกธนัญชัยเศรษฐี แล้วก็ได้บรรลุ พระโสดาบัน ตั้งแต่อายุ๗ ขวบ และเกิดความมั่งมีศรีสุข ร่ำรวยเงินทองจนนับไม่ได้
    เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เรื่องราวของ พุทธบูชามหาเตชวัณโต สามารถทำบุคคลให้ร่ำรวยมีทรัพย์ศฤงคารมาก นับไม่ได้ก็กล่าวมาแล้วพอสมควร ในเรื่องราวของนางวิสาขามหาอุบาสิกา สำหรับตอนนี้ ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล จงมีแก่ท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี
    เรื่องราวที่หลวงพ่อท่านได้ให้พระธรรมเทศนาเรื่องวิสาขาคนรวยนั้นความยาวถึง ๑๑ หน้าแอดมินมิสามารถยกมาทั้ง ๑๑ หน้าได้เกรงว่าอ่านบนเฟสบุ๊คจะไม่สะดวกจึงได้ตัดตอนมาในส่วนของนางวิสาขาเท่านั้นและไม่ได้เพิ่มหรือเสริมอะไรใดๆลงไปทั้งสิ้นเป็นการคัดลอกบทความหลักๆมาให้อ่านเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติของเราเหล่า ชาวศีล ๕ และญาติธรรมทั้งหลาย เราทั้งหลายจึงต้องหมั่นส้างบุญบารมีสะสมเข้าไว้ และในการทำทานบารมีทุกครั้งต้อง เต็มใจในการให้ทาน ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานนี้ด้วยค่ะ สาธุ หมั่นสร้างทานบารมีกันค่ะ ^^
    ฝากกดLikeเฟสบุ๊คช่วยกันแชร์ธรรมทานหรือจะมาโพสต์แชร์ธรรมะก็ได้นะคะ
    ศีล ๕ สุขแห่งธรรมะ- กลุ่มของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจธรรมะ ( PROM 5 Group ) | Facebook
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2012
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    ฮาๆฮ่าๆฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ งั้นผมก็คงได้ตามนั้นแล้วสินะครับ เพราะผมได้สร้าง พระที่เขาทำข้างไว้ แล้วไม่ทำต่อ ค้างมาหลายปี ทำมาแล้วหลายองค์ ๑๐ ศอก ๔ ศอก ๕ ศอก ๒ ศอก และ ศอกกว่าๆครับ ผมได้อนิสงฆ์ นั้น แล้ว ต่อมายังไม่ได้เป็นเหมือน นางวิสาขา แต่ผมน่ะ ไม่อยากเกิดเป็นหญิง แล้ว ครับ แล้ว (เกิดเป็นผู้ชายนี่ ) จะมีเครื่องลดามหาปราปราสาท แบบนางวิสาขาใส่ไหมครับคุณ ฟาฟา
     
  3. ชัญญาพัชญ์

    ชัญญาพัชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2010
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +238
    สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับ จขกท ที่นำสิ่งดี ๆ มาบอกเป็นธรรมทาน
     
  4. manigold

    manigold เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +123
    มีโอกาสสร้างพระอยากรบกวนให้พี่ pm บอกผมเป็นการส่วนตัวหน่อยน่ะครับ เพราะบางทีโพสนืไว้แล้วผมอาจจะอ่านไม่ทั่วถึงน่ะครับ ใจอยากร่วมสร้างพระมากๆครับ ตอนบวชเคยตั้งใจไว้ว่าเงินที่เหลือตอนบวชจะนำไปสร้างพระ ได้ใช้สร้างพระไปแค่ 1/3 เอง ครับ ตอนนี้ก็รอหาโอกาสเหมาะๆเพื่อร่วมสร้างพระอีกครับ
     
  5. ฟาฟา

    ฟาฟา ฟาฟา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +2,617
    555+นั่นสิคะคุณพี่จาได้แบบไหนนะคะต้องเก็บเอาไปถามพระอาจารย์กันเสียแล้วล่ะค่ะ อนุโมทนาค่ะคุณพี่^^
     
  6. ฟาฟา

    ฟาฟา ฟาฟา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +2,617
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะในสัจจะบารมีและมีวิริยะบารมีของท่าน สาธุค่ะ_/|\_
     
  7. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
     
  8. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ทีนี้ขอเสริมเจ้าของกระทู้ด้วยคนครับว่า

    การถวายทานมามากมายและด้วยนานาวิธี ย่อมมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นตามมาเสมอคือ อันสิ่งใดก็ตามที่เรากระทำบ่อยๆกระทำมากๆ จิตจะเกิดภูมิปัญญาขึ้น กระแสบุญก็ส่งกำลังเกื้อหนุน อันจิตใจก็มีความ่ออนโยนเมตตามากยิ่งขึ้น สุดท้ายคือจิตพัตนายกระดับจิตสูงยิ่งๆขึ้นไป สุดท้าย ก็จิตใจที่ดีย่อมละกิเลสได้มากขึ้น สะอาดยิ่งขึ้นบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น
    พอถึงเวลามาเสวยบุญ เกิดมาร่ำรวย ด้วยความที่จิตสะอาดกำลังบุญฝ่ายดีส่งเสริม ก็ยิ่งต่อบุญต่อทานบารมีเพิ่มยิ่งๆขึ้นไป

    ทีนี้มันมีปัญหาสำหรับพวกที่หลงในบุญในทานที่ตนทำตนได้คือขาดปัญญา บางคนนี้บังเอิญวาสนาดลบันดาลให้มีโอกาสได้ทำบุญใหญ่ร่วมกับเขา อธิฐานขอให้ชาติหน้าร่ำรวย
    ปรากฏว่าได้ดั่งคำอธิฐาน แต่มาเสวยบุญเกิดมาร่ำรวย แต่ขาดปัญญารวยไม่นานเพราะไม่มีปัญญาใช้ความร่ำรวยให้ถูกทางถูกวิธี กลับเอาไปสนองตันหาความอยาก สนองอำนาจใช้เงินซื้อลาภยศ ซื้ออำนาจ สุดท้ายกลายเป็นทำบาบกรรมเบียนเบียนผู้อื่น พอหมดบุญ ต้องไปนรกที่เดียวต้องไปติดในนรกอีก เพื่อใช้กรรมนานแสนนาน แล้วอย่างนี้จะร่ำรวยไปทำไม

    ขอท่านทั้งหลายพึงใช้ปัญญาพิจารณาต่อด้วยครับ ว่าควรทำบุญอย่างไร ศรัทธาปัญญาในการทำบุญควรมีอย่างไร เพื่อให้เราได้ทำบุญอย่างดีงามพร้อมกับการยกจิตตนให้สูงยิ่งขึ้นไปด้วยครับ สาธุ
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:({) อ๋อตรงนั้นไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมมีครบแล้ว แต่กำลังสร้างกำลังใจ เพื่อหาหนทางพ้นทุกข์ครับคุณก็เท่านั้นเอง:cool:
     
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:({) ผมอ่านของคุณ เข้าใจหมด ครับ แต่ถ้าคนมันมีกำลังใจ ไม่เสมอกันนี่ ติดบุญน่ะดี แต่ผมว่ามันไม่ติดจริงน่ะสิครับ เวลาผมทำ ไม่ค่อยจะคิดถึงบุญที่ทำ ทำแล้ว อธิฐานแล้ว ผมได้ อ่านประวัติ พระพุทธเจ้า พระอริสงฆ์ แต่ละองค์ ท่านสำเสร็จ มาจากอธิษฐาน บารมี ทั้ง นั้น ก่อนที่จะจบกิจ เป็นพระอรหันต์ หรือ องค์ พุทธธะ แม้นางวิสาขา ก็เหมือนกัน ล้วนมาจาก การอธิษฐาน ทั้งสิ้น

    ผมเองก่อนที่จะอธิษฐาน ใหญ่ ผมขออธิษฐาน ให้มีความคล่องตัว ในปัจจุบันทันด่วน แล้วบุญ ก็สนอง มาแล้ว โดยตลอด แม้แต่ความชั่ว มันย่อมให้ผล เร็ว ทั้งสองอย่าง แต่บุญ บางอย่าง อาจจะให้ผลในชาติหน้า หรือชาติ ต่อๆไปครับ และขอยืนยัน ตามนั้นครับ แต่ก็ต้องทำอยู่ เนืองๆ ทานการให้ นึก ตัวเดียว ก็ไปนิพพานได้ แต่เราไม่ค่อยจะตาม นึกถึงบุญน่ะสิครับท่าน แต่อธิฐานข้อใหญ่ ของผม มันก็ถึงนิพพานเป็นที่สุด ถ้าชาตินี้ไม่ถึง ก็คงเกิด น้อยชาติลง ชาตินี้ไม่ได้ ชาติหน้าก็คงได้ แต่ข้อสำคัญ ผมมักจะอธิษบาน ขอให้มี อิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ปัญญาฤทธิ์ คุมเลยจะได้หรือไม่ได้ ขอให้อธิษฐานไว้ก่อน แล้วกันครับ:cool:
     
  11. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    แถวกรุงเทพไง พระตั้งแต่ ๕ นิ้วขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องอธิฐาน จิตก็ได้ เทวดาและพรหม จะมารักษานะ แต่ต่ำ กว่า ๕ นิ้วลงมา ต้อง ทำพิธี อธิฐานจิต ตามกำลัง ของครู บาอาจารย์แต่ละองค์ แหละครับ ถ้า ๙ นิ้ว ซอยสายลม ก็มีนี่ :cool: เน็ตไม่รู้เป็นไร กดไม่มา ดันมาตั้ง สาม ลีอดเลยอ่ะ:cool:
     
  12. ฟาฟา

    ฟาฟา ฟาฟา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +2,617
    สาธุค่ะคุณพี่แบบนี้ฟาต้องเช่าแต่รุ่น 9นิ้วถวาย อ่ะค่ะไม่รู้ต้องทำวิธีการอฐิษฐานอย่างไรจึงจะถูกต้องถ้าคุณพี่ลงไว้สำหรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์ไม่ถึงรุ่น 9นิ้วก็จักเป็นพระคุณมากค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยค่ะคุณพี่
     
  13. ฟาฟา

    ฟาฟา ฟาฟา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +2,617
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านนะคะ มีธรรมทานใดจะช่วยต่อเติม หรือเสริมกระทู้เชิญได้เลยนะคะ สาธุค่ะ
     
  14. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    =====

    ขอช่วยตอบนะครับ เรื่องการหาพระแก้วมรกตสีแดง คือมรกตต้องสีเขียว แต่ถ้าเป็นเนื้อแก้วทับทิมสีแดงหรือแก้วแดงหรือพลอยแดง หน้าตัก15นิ้วคงจะหากยากมากๆครับ อีกอย่างพระเนื้อแก้วอย่างที่คุณว่าถ้าไม่มีบุญวาสนาจริงก็ยากที่จะได้มาบูชา ผมเคยไปเจอที่สระบุรี เนื้อแก้วสีเขียวใสสวยมากหน้าตัก9นิ้ว ราคา3หมื่นบาท ถ้า15นิ้วเนื้อแก้วสีแดงไม่ต่ำกว่า5หมื่นครับ ที่แพงมากเพราะ เนื้อแก้วที่เป็นพลอย หรือหินอ่อนเป็นแก้วใสหายากมากครับ
    แต่ถามว่าหาได้หรือไม่ ตอบว่าหาได้มีอยู่สามที่ดังนี้คือ เขตสระบุรีลพบุรี เพราะเขาทำเหมืองหิน เขตกาญจนบุรีและเขตลุ่มแม่น้ำโขงครับ ส่วนช่างแกะสลักต้องยกให้แดนล้านนาครับ ว่างๆก็ลองsearchในnetดูครับ ผมมีพลอยมรกตสีเขียวเข้ม ขนาดดท่าลูกกอฟ ยังไม่มีโอกาสนำไปเจียนรไนเลยครับ ว่าจะเอาไว้เป็นพุทธบุชาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...