เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    555+ ขออภัยค่ะข้าพเจ้าพิมพ์สื่อความไม่ชัดเจนเอง
    ที่อยากทราบเป็นพิเศษคือความหมายของพระปิดตาค่ะ
    ได้แนบรูปไว้ด้านบนแล้ว รอบแรกแนบไม่ติดค่ะ
    เห็นสวยแปลกตาดี และรู้สึกขนลุกเมื่อตอนที่เห็นครั้งแรก
    (องค์อื่นๆก็ไม่เป็นนะคะ อาการขนลุกที่ว่า)


    พระปิดตา
    หรือ พระภควัมบดี
    ตามความเข้าใจดั้งเดิมโดยทั่วๆ ไปเข้าใจกันว่า พระปิดตาหรือพระปิดทวารทั้งเก่าเป็นพระมหาอุตม์จะอุดโชคอุดลาภต่างๆ เช่นเดียวกับพระรอด ซึ่งมักจะเข้าใจกันว่า โชคลาภต่างๆ ระรอดพ้นไปหมด ยังเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

    คำว่า ?อุตม์? กับ ?อุด? มีความหมายต่างกัน
    ?อุตมะ? มีความหมายว่าสูงยิ่ง เลิศ มากมาย บริบูรณ์
    ?อุตมัตถ์? มีความหมายว่าผลอันยอดเยี่ยม
    ?มหา? มีความหมายว่ายิ่งใหญ่
    ?อุด? มีความหมายว่า จุกกันจุดช่อง จุดให้แน่น

    ดัง นั้น ?มหาอุตม์? จึงมีความหมายว่า ผลอันยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ และเป็นความหมายที่ถูกต้องกว่าคำที่ว่า ?มหาอุด? เช่นเดียวกับคำว่า ?รอด? หรือทางเหนือเขียนว่า ?ลอด? ซึ่งหมายถึงมีขนาดเล็ก


    พระมหาอุตย์ จึงมีความหมายว่า พระนั้นๆ มีพุทธานุภาพอันยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ ซึ่งมีความหมายที่ถูกต้องกว่าคำว่า ?มหาอุด? ซึ่งหมายถึงยิงไม่ออก ยิงไม่เข้า

    พระมหาอุตม์ หรือพระปิดตาหรือพระปิดทวาร หรือพระปิดทวารทั้งเก้า หรือพระสังกัจจายน์ ก็คือพระอรหันต์องค์เดียวกัน ซึ่งเป็นสาวกของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าชื่อว่า ?พระภควัมบดี? หรือที่เรียกว่า พระควัมปติมหาเถโร? แต่อยู่ในพุทธลักษณะแตกต่างกันไป

    - ปางปิดตา
    - ปางปิดทวารทั้งเก้า
    - ปางอุ้มท้องหรือสังกัจจายน์

    ดัง นั้น ที่ถูกที่ควรพระภควัมบดี ควรจะเป็น ?พระมหาอุตม์? ซึ่งหมายถึงเป็นพระที่ยอดเยี่ยมดีทุกอย่างมากกว่าคำว่า ?พระมหาอุด? ที่มีความความเฉพาะดีทางคงกระพันเท่านั้น

    คำว่า ?อุตมะ? เป็นคำที่มาจากภาษาสันสกฤต ตรงกับคำในภาษาไทยว่า ?อุดม? พระภควัมบดี จึงเป็นพระที่อุดมไปด้วยความดีทุกอย่าง ทุกทางโดยสมบูรณ์เช่นเดียวกับสมเด็จ ขอสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี นับว่าใช้ได้ทุกทางที่เรียกว่า ?ครอบจักรวาล? เช่นเดียวกับยาไทย คือ ยาดำ ยาเขียว สามารถรักษาได้หลายๆโรค ไม่ใช้เป็นพระ ?อุด? ดังมีความเข้าใจกันโดยทั่วๆ ไปแต่เพียงอย่างเดียวด้วยประการฉะนี้

    จากการพิจารณาความหมายดังกล่าว มาแล้วจะเห็นได้ว่า พระภควัมบดีไม่ได้เป็นพระอุดโชคลาภตลอดจนผู้มีครรภ์ พระจะอุดไม่ให้ผู้มีครรภ์สามารถคลอดบุตรได้ถ้าจะเทียบกับพุทธานุภาพของพระ ภควัมบดีเป็นโอสถ โอสถนี้ก็จะสามารถรักษาได้สารพัดโรค ซึ่งถ้าพระเกจิอาจารย์ได้สร้างและปลุกเสกตามแบบฉบับมาตรฐานพระคณาจารย์แต่ ครั้งโบราณกาล เว้นเสียแต่พระเกจิอาจารย์บางองค์บางท่านจะดัดแปลง ประจุเวทมนตร์คาถา โดยที่พระเกจิอาจารย์ท่านนั้นจะเลือกเอาดีทางหนึ่งทางใดโดยเฉพาะเท่านั้น เป็นต้นว่าประจุเวทมนตร์คาถาทางคงกระพันหรือทางแคล้วคลาดแต่เพียงอย่างเดียว ถ้าจะเปรียบพระภควัมบดี ก็เหมือนกับยันต์ที่มีพุทธคุณใช้ได้ทุกทาง อาทิเช่น

    ?พระยันต์มหาโสรฬมงคล? ตามแบบฉบับของปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง นนทบุรี ลงแผ่นโลหะใช้ทำตะกรุด ตะกรุดโทน

    ?พระยันต์ไตรสรณาคม? ตามแบบฉบับของพระพิมลธรรม (นาค) วัดแจ้ง กรุงเทพ ลงแผ่นหนังหนาผากเสือ ใช้ทำตะกรุด

    ?พระยันต์อิสะสติ? ตามแบบฉบับของหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า ชัยนาท ลงแผ่นโลหะใช้ทำตะกรุด

    ?พระยันต์พุดซ้อน? ตามแบบฉบับของสมเด็จพระวันรัตน์ (แดง) วัดสุทัศน์ ลงแผ่นโลหะใช้ในการหล่อพระ ลงแหวนก็มี

    พระยันต์เหล่านี้ในอุปเท่ห์สิทธิการิยะ และในทางปฏิบัติที่ประสบกันมาสามารถใช้ได้ดีทุกทางจนเรียกได้ว่า ครอบจักรวาลกันเลยทีเดียว

    ในหลักใหญ่ของพระพุทธานุภาพของพระภควัมบดี สามารถแยกออกได้ ๓ ประการ ตามตำราแต่ครั้งโบราณกาล กล่าวถึงการสร้างพระภควัมบดี ดังนี้

    ประการที่หนึ่ง ?ให้มีสง่าราศีเป็นสิริมงคล และมหาอำนาจเปรียบดังราศีของพระภควัมบดี?
    ประการที่สอง ?ให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดและฉับพลันเปรียบดังพระสารีบุตร ผู้ทรงด้วยปัญญา?
    ประการที่สาม ?ให้มีโชคลาภสีกการะ ดุจดังพระศิวลี ผู้เพรียบพร้อมไปด้วยลาภ สักการะนานัปการ?

    ดังจะกล่าวถึงรายละเอียดในการสร้างพระภควัมบดีตามแบบคณาจารย์โบราณกาลต่อไป

    พระ ภควัมบดี ตามภาษาบาลีเรียกว่า ?พระภควัมปติ มหาเถโร? มีพุทธลักษระงดงามละม้ายคล้ายสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถือว่า พระภควัมบดีเป็นอัคราสาวองค์หนึ่ง เพรียบพร้อมไปด้วยความเฉลียวฉลาด สามารถอธิบายธรรมได้ดียอดเยี่ยมกว่าพระสาวกองค์อื่นๆ ถือกำเนิดตระกูลพราหมณ์-ปุโรหิตกัจจายนะโคตร์ แห่งเมืองอุเชนี เนื่องมาจากวรรณะของท่านงดงามดังทองท่านจึงมีนามว่า ?กาญจน? ได้ศึกษาไตรเทพจนเจนจบ ได้เป็นพราหมณ์ปุโรหิตแทนบิดา ในสมัยพระเจ้าจันทร์ปัตโชติ ต่อมาได้ฟังธรรมในสำนักพระศาสดาจนบรรลุเป็นพระอรหันต์ ภายหลังจึงได้อุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาเนื่องจากพระภควัมบดีมีผิว เหลืองดังทอง และรูปร่างละม้ายคล้ายคลึงกับพระพุทธเจ้า ฉะนั้นเมื่อไปยังแห่งหนตำบลใดก็ตามไม่ว่าเทพยดาหรือมนุษย์ต่างแซ่ซ้อง สรรเสริญว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมา ท่านจึงเห็นว่าไม่เป็นการอันสมควรเป็นแน่แท้จึงได้อธิษฐานตัวท่านเอง ให้มีร่างกายเตี้ย พุงพลุ้ย ดูน่าเกลียดจากการเนรมิตตัวท่านเองในครั้งนี้ จึงทำให้พระคณาจารย์ต่างๆ ทำรูปเคาระ ในพุทธลักษณะปางต่างๆ อาทิเช่น ปางปิดตา ปางปิดทวารทั้งเก้า และปางสังกัจจายน์เป็นต้น

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2012
  2. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    ...................ต่อ.................

    การสร้างพระภควัมบดีตามตำราโบราณ

    ตาม ตำราโบราณให้ใช้รากหิงหายผี หรือรากรักซ้อนที่ดอกบานชี้ไปทางตะวันออก มาแกะเป็นรูปพระปิดตานั่งสมาธิราบขนาดเล็กใหญ่ตามที่ต้องการ หรือตามขนาดรากไม้ทั้งสองที่หามาได้ถ้าเอาไว้ที่บ้านเรือนก็ให้มีขนาดใหญ่ สำหรับตั้งไว้บูชา ถ้าต้องการนำติดตัวห้อย ก็ให้มีขนาดเล็กกระทัดรัด เพื่อสะดวกในการนำติดตัวไปไหนๆ แล้วคว้านใต้ฐานองค์พระให้กว้างพอดีขนาดบรรจุของตามที่ตำรากำหนดไว้ คือ

    - ยอดรักซ้อน ๑
    - ยอดชัยพฤกษ์ ๑
    - ยอดราชพฤกษ์ ๑
    - ยอดสวาท ๑
    - ยอดหิงหายผี ๑
    - ยอดกาหลง ๑
    - ยอดมะยม ๑
    - พระธาตุสารีบุตร
    - พระธาตุสิวลี
    - กระดาษว่าวลงพระยันต์ตามตำราการสร้างพระภควัมบดี

    เอา ส่วนยอดไม้มงคลต่างๆ บดให้ละเอียดรวมกับพระธาตุสารีบุตร และพระธาตุสิวลีห่อด้วยกระดาษว่าวที่ลงยันต์ตามตำรากำหนดไว้ ประจุเข้าใต้ฐานพระภควัมบดีที่คว้านไว้แล้วอุดด้วยชันนะโรงใต้ติน หรือขี้ครั่งที่จับต้นพุทราให้แน่นจากนั้นอาจจะลงรักปิดทองทั้งองค์ให้สมกับ พระนามพระภควัมบดีที่มีนามว่า ?กาณจน? แต่ตอนประจุนี้ ควรดูฤกษ์ยามให้ดีกำหนดพระสงฆ์เก้ารูปเจริญพระพุทธมนต์ในขณะที่ประจุ จัดตั้งพิธีปลุกเสกขึ้น นำพระภควัมบดีแช่ลงในน้ำมัน ๙ กลิ่น ปลุกเสกในพระอุโบสถ จนกระทั่งเกิด ?อุคหนิมิตร? พระภควัมบดีซึ่งวางนอนราบอยู่ ตอนปลุกเสกจะลุกขึ้นตั้งหมด จึงจะแล้วเสร็จตามพิธี

    พระภควัมบดีสร้างขึ้น ถ้าเป็นองค์เล็กๆ ก็ใช้นำติดตัว โดยแขวนห้อยคอ ส่วนที่สร้างขึ้นเป็นองค์ใหญ่ก็ใช้บูชาที่บ้าน โดยที่คาถาสวดบูชาทุกค่ำเช้า ก็จะประสบลาภผล พูนทวีหาที่สุดมิได้ ดั่งพระสิวลีมหาเถโร ในสมัยพุทธกาลนั้นเปี่ยมไปด้วยลาภนานัปการ

    การบรรจุพระธาตุพระสารีบุตรและพระธาตุสิวลี
    เนื่องมาจากคติของพระคาณจารย์ของพระคณาจารย์เหล่านั้นคือ

    การประจุพระธาตุพระสารีบุตร ถือเคล็ดว่ามีปัญญาเฉลียวฉลาดเพราะพระสารีบุตรเป็นเอกทัคคะในด้านนี้

    ส่วน พระธาตุสิวลี ซึ่งเรียกกันว่า ?พระฉิม? หรือ ?พระฉิมพลี? เป็นพระที่มีลาภไม่ขาดมือ ไม่มีสาวกองค์ใดร่ำรวยลาภเสมอเหมือน ทรงผนวชในสำนักพระสารีบุตร และได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ขณะที่ปลงผมอยู่

    ด้วย เหตุที่กล่าวนี้จึงทำให้พระคณาจารย์ครั้งโบราณยึดการประจุพระธาตุของทั้งสอง สาวก เพื่อเป็นการเพิ่มความขลังให้แก่พระภควัมบดีที่สร้างขึ้น นับได้ว่าพระคณาจารย์เหล่านั้น ท่านเป็นนักออกแบบที่ดี ทั้งในทางวิชาการและด้านปฏิบัติได้อย่างยอดเยี่ยม ในเวลาต่อมาได้หาพระธาตุของสาวกทั้งสองยากมาก พระเกจิอาจารย์จึงใช้กระดาษว่าวจารึกนามพระอรหันต์ทั้งสองพระองค์บรรจุแทน พระธาตุ


    และต่อมาอีกก็มีเกจิอาจารย์ได้สร้างจากผงมหาราช ปัทมังอิธิเจและผงพุทธคุณต่างๆ นำมาผสมน้ำมันตั้งอิ๊วบ้าง ผสมรักบ้างอัดขึ้นเป็นองค์พระ เช่นพระของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรีของหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงนนทบุรี ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังบางขุนเทียน ของหลวงพ่อสุขวัดอู่ทอง ชัยนาท ของหลวงพ่อจีนวัดท่าราช แปดริ้ว และของหลวงพ่อปู่ไข่ วัดเชิงเสน กรุงเทพฯของหลวงพ่อยิ้ม วัดหนองบัวกาญจนบุรี หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู ลพบุรี หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี หลวงพ่อขำ วัดแก้ว ธนบุรี ฯลฯ

    นอกจากนี้ยังมีการสร้าง ด้วยปัญโลหะ นวโลหะ สำริด เมฆสุทธิ์เมฆพัด ตะกั่ว ทองแดง เงิน ทองคำ งาช้าง ฯลฯ เช่นของ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง บางขุนเทียน หลวงพ่อทับ วัดอนงค์ ธนบุรี หลวงพ่อทัพ วัดทองบางกอกน้อย หลวงพ่อนาค วัดห้วยจรเข้ นครปฐม หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม หลวงพ่อบุญ วัดกลางบางแก้ว นครชัยศรี หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

    วัสดุ ที่จัดสร้างมักจะหาจากแหล่งที่พระเกจิอาจารย์จำพรรษาอยู่ อาทิเช่น หลวงพ่อวัดมะขามเฒ่านิยมสร้างพระภควัมบดีจากรากไม้หิงหายผี เพราะบริเวณวัดและอาณาเขตใกล้เคียงจากวัดสิงห์ถึงอุทัยธานี มีเถาไม้หิงหายผีอยู่มาก หรือจำพวกเนื้อเมฆพัดมักจะสร้างแถบนครปฐม เพราะแถบนั้นนิยมพวกเนื้อเมฆพัด เช่นพระวัดห้วยจรเข้ ของหลวงพ่อนาค หรือหลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง หรือหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตกเป็นต้น นอกจากนี้พวกที่สร้างจากผงพุทธคุณต่างๆ ก็มักนิยมสร้างกันแถวเมืองชลฯ เช่นของหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดจนกลายเป็นแฟชั่นของเมืองชลใครเห็นพระปิดตาก็มักจะ เรียกว่าพระหลวงพ่อแก้วไปหมด เรียกโดยความไม่เข้าใจ ที่แท้ก็เป็นพระภควัมบดีนั่นเอง

    ตามตำราโบราณกาลกล่าวไว้ว่าบุคคลใด หรือครอบครัวใดมีพระภควัมบดี สวดมนต์บูชาทุกเช้าค่ำจะปราศจากทุกข์โรคโศกภัยเจริญด้วยลาภยศสรรเสริญ แคล้วคลาดจากศาสตราวุธ คุ้มกันได้สารพัด เอาพระภควัมบดีแช่น้ำมันเสกด้วยพระคาถาเสกน้ำมัน น้ำมันนั้นจะใช้ได้ในทางเมตตามหานิยมอย่างดีเลิศ ติดต่อหรือเข้าหาผู้ใหญ่ก่อให้เกิดความรัก ความเมตตาอย่างได้ผล จะมีลาภสักการะไม่ขาดมือ เนื่องจากพุทธานุภาพ ๓ ประการ คือ

    ๑. ความงามซึ่งได้จากบารมีของพระภควัมบดี
    ๒. ความมีสติ และปัญญาหยั่งรู้ ได้จากบารมีของพระสารีบุตร
    ๓. ความอุดมสมบูรณ์ด้วยลาภได้จากบารมีของพระสิวลี

    ด้วย บารมีของพระอรหันต์ทั้งสามที่พระคณาจารย์ได้ประจุลงในพระภควัมบดี จึงก่อให้เกิดพุทธานุภาพ ดังได้กล่าวมาแล้วขอให้ท่านผู้มีพระภควัมบดีบูชาทุกเช้าค่ำ จะก่อให้เกิดสิริมงคลแก่ตัวเองพระภควัมบดีจะไม่อุดมโชคลาภและสิ่งดีงาม แต่จะขจัดความไม่ดีงามความไม่เป็นมงคลแก่ท่านออกไปโดยสิ้นเชิง อย่าได้ไปหลงเชื่อพวกอคติ ประเดี๋ยวท่านจะต้องนำพระปิดตา ปิดทวารทั้งเก้าไปทิ้งตามวัดตามโคนต้นโพธิ์ เพราะจะไม่เป็นมงคล ปรากฏว่ามีจำนวนไม่น้อยที่หลงเชื่องมงาย ขนาดที่วัดบวรนิเวศน์มีนับสิบองค์ แล้วพวกอคติเหล่านั้น ก็ได้ไปเก็บพระบัวเข็มซึ่งเป็นพระของมอญ และได้รับตกทอดจากบรรพบุรุษมาหลายชั่วอายุคน อยู่ๆ ต้องมาเสียของตกทอดมรดกด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คือนำพระบัวเข็มไปให้นักเลงพระเช่า บางองค์มีราคายับหมื่นบาททีเดียว กลายเป็นเรื่องเศร้าใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่งฉะนั้นขอให้ระมัดระวังอย่า ได้เข้าใจผิดนำพระปิดทวารทั้งเก้าของวัดหนัง วัดทองฯลฯ ไปไว้ตามโคนโพธิ์ โดยเชื่อคนยุยงว่าไม่เป็นมงคลก็ได้ กว่าจะรู้เรื่องก็เข้ากับคติที่ว่า ?พรุ่งนี้ก็จะสายไปเสียแล้ว?
     
  3. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    อ่านไปก็ขนลุกไปเหมือนกันล่ะครับท่านพี่ทุกๆท่าน ว่าจะใจแข็งแล้วนาแต่ก็อ่อนโดยสิ้นเชิงผมดีใจน่ะครับที่พวกเรามาคุยกันได้โดยมิได้นัดหมายแม้ว่าจะไม่เคยเห็นน่าคาดตากันมาก่อน แต่ก็รู้สึกอุ่นใจดีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (AA Metatron)
    เรื่อง: Time, Space, Time-Travel & Teleportation & Happy Endings

    ประจำวันที่: 28 กรกาคม 2012
    ผู้รับสาส์น: นาย James Tyberonn

    ที่มา:


    Time, Space, Time-Travel & Teleportation & Happy Endings > Earth Keeper


    ตอนที่ 12:


    คำถาม: มีสถานที่ใดในโลกไหมครับ ที่มีการบิดเบี้ยวของกาลเวลาเกิดขึ้นตามธรรมชาติ?


    Metatron: มีแน่นอน และพวกเราก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ไปแล้วด้วย

    กาลเวลาก็เหมือนกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั่นแหละ เพราะว่าโปรแกรม Windows
    ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกคุณ ก็ยังสามารถเกิดอาการเพี้ยนๆขึ้นมาได้บ่อยๆเลย
    รวมถึงโปรแกรมย่อยๆทั้งหลายของมัน ก็ยังสามารถเกิดอาการทำงานขัดกันเองขึ้นมาได้เลย

    ในทำนองเดียวกัน พวกเราสามารถพูดได้เลยว่า ทั้งช่องว่างและกาลเวลา ที่พวกคุณเข้าใจกันว่า
    มันเป็นแบบเส้นตรงนั้น มันคือโปรแกรมย่อยของโครงข่ายพลังงานของดาวเคราะห์โลก
    ซึ่งถูกฉายขึ้นมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงนี้เท่านั้นเอง เราอาจจะเรียกทั้งช่องว่างและกาลเวลาว่า
    เป็น “โปรแกรมภาพลวงตา” ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้พวกคุณรู้สึกว่า ควอนตัมของ Omni-Earth
    แยกขาดจากความเป็น “นิรันดรแห่งปัจจุบันขณะ” อย่างสิ้นเชิง เพื่อทำให้พวกคุณรู้สึกว่า
    พวกคุณกำลังมีชีวิตอยู่ในชาติภพของใครของมันอยู่

    ดังนั้น พวกเราจะบอกคุณว่า โปรแกรมภาพลวงตาของเมตริกซ์ของโลก
    มันก็เหมือนกับโปรแกรม Windows ของพวกคุณนั่นแหละ
    ที่สามารถเกิดอาการเพี้ยนขึ้นมาได้ ในบางครั้ง

    คือแทนที่มันจะทำงานแยกจากกันและเป็นเส้นตรงตามปกติ มันกลับเกิดความผิดปกติขึ้น
    จนทำให้กาลเวลาเกิดการผสานรวมกันและบิดเบี้ยวไป ซึ่งการบิดเบี้ยวดังกล่าวนี้ สามารถเกิดขึ้นได้ในหลายระดับ

    ระดับแรก เกิดขึ้นจากความผิดปกติของแรงโน้มถ่วงที่จะเกิดขึ้นเป็นจังหวะๆ ในบางพื้นที่
    หรือเกิดจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของแรงโน้มถ่วง ที่ถาโถมเข้ามาเหมือนกับคลื่นกระหน่ำ เป็นต้น
    ซึ่งความผิดปกติดังกล่าวนี้ ก็จะไปทำให้สภาพความโน้มถ่วงในพื้นที่นั้นๆถูกบิดเบี้ยวไปด้วย
    และก็จะไปกระทบกับ “กระแสช่องว่าง-กาลเวลา” (space-time continumm) ในพื้นที่นั้นๆอีกต่อหนึ่งด้วย

    ด้วยเหตุนี้เอง “สนามพลังทะลุมิติ” (dimensional aperture field) จึงเกิดขึ้น
    เช่นเดียวกันกับที่เกิดขึ้นบริเวณขั้วโลกทั้งสอง


    ………………………. __________________
     
  5. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เมื่อก่อนก็มีพระปิดตาแบบนี้องค์หนึ่ง ภรรยาให้พี่ชายที่พิการไป เขาชอบมาก แต่ก็หายไปไหมไม่ทราบ --คำว่ามหาอุด คือ มหาอุตมะ หรือ มหาอุดม สารพัดสิ่งดีๆ--ทั้งเมตตามหานิยม ตามที่คุณมังกรน้อยค้นมาน่ะครับ
    -----------------------------------------------
    <center>
    </center> เคยมีเรื่องที่เขียนไว้ในหนังสือเรื่องประตูเวลา ของ อ.บูรพา ผดุงไทย ได้อ้างถึงไว้ว่า ถึงเรื่องการเกิดประตูเวลา เคยมีรถไฟในอิตาลีขบวนหนึ่งวิ่งผ่านม่านหมอกควันน่าสงสัยพวกนี้เข้าไปและจาก ปากคำของผู้โดยสารพวกนี้ กลุ่มนี้ซึ่งหลังๆ เขาคิดว่ากลุ่มนี้ยกเมฆขึ้นมา แต่จริงๆแล้วผู้ที่รู้ดีที่สุดก็คือญาติๆ และหลักฐานใบเกิดต่างๆ นั่นล่ะที่จะยืนยันได้ว่าพวกเขาอายุเท่าไร และเหมาะสมกับกาลเวลาหรือไม่ในเมื่อ รถไฟที่พวกเขานั่งเขาบอกว่า วิ่งผ่านเข้าไปเพียงแค่ 10 กว่านาทีเท่านั้น แต่เมื่อกลับออกมา เวลาบนรางรถไฟนั้น เมื่อรถจอดปรากฏว่า ผ่านไปจริงๆแล้วถึง 30 ปีปฏิทิน เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต แม้กระทั่งนักวิทยาศาสตร์ก็เคยมีการทดลองเรื่องเหล่านี้ตลอดเวลาจนกระทั่ง ทุกเวลานี้ ปีนี้ 2008 ก็ยังมีการทดลองเรื่องพลังงานที่จะเปิดมิติกาลอากาศให้ได้ในที่สุด ด้วยทฤษฏีต่างๆ มากมาย และเคยมีบันทึกการทดลองในฟิลาเดลเฟียให้ได้ ทราบกันในหมู่ผู้ที่สนใจเรื่องเหล่านี้มาบ้างพอสมควร จากนี้ไปเราจะพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับคนเรือ-- และเรือในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้ากันครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา
    จากบล็อกนี้ครับ--
    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=seamanfanclub&group=8&month=05-2009&date=27
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2012
  6. illanzer

    illanzer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +840
    [​IMG]

    ยกมืออยากฟังด้วยอีกคนคร้าบบบบบบบบบบบบ
     
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ปิรามิดบอสเนีย อ่านตามนี้ครับ---การกระตุ้น(เหนี่ยวไก)เอกภพ--คำตอบจากเทพเมตาตรอน ชนิดม้วนเดียวจบคร้าบ (ขอบคุณเว็ปมิธแลนด์- ดินแดนลี้ลับ จากหนุ่มสาวภาควิชาฟิสิกส์ ม.นเรศวรครับ)

    ค้นพบปิรามิดยักษ์! กำลังจะเผยโฉมในปี 2012 - Mysterious - Mythland | รวมเรื่องลึกลับ | The Mysterious World,เรื่องลึกลับ,UFO,จานบิน,มนุษย์ต่างดาว,เอเลี่ยน,ดาวอังคาร,Nibiru,2012,ชาวมายา,เทพ,ตำนาน,โบราณคดี,พระเจ้า,สัตว์ประหลาด,ผี | - Powered by Discuz!
     
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG]

    กระทู้แตกใหม่--อินเตอร์เน็ตจิต คลังอากาศิกส์ พระแม่ไกอา

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%9B%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94.356793/


    [​IMG]
    เรียนสมาชิกทุกท่าน


    เนื่องจากช่วงนี้ท่านอาจจะมีปัญหาเรื่องการอัพโหลดต่างๆในเว็บ แต่ปัญหานี้และปัญหาเว็บโหลดช้าจะหมดไปภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพราะทางเว็บกำลังเตรียมตัวดำเนินการเปลี่ยนเซิฟเวอร์สเปคตัวใหม่ล่าสุดที่ สามารถรองรับผู้เข้าชมได้ถึงวันละ 2 แสนกว่าคน จะเป็นเซิฟเวอร์ตัวที่ 4 ของเว็บที่มีชื่อว่า 'อภิญญา 6 เซิฟเวอร์'

    ช่วงนี้ท่านอาจจะประสพปัญหาบ้าง ขอรบกวนให้อดทนอีกหน่อย จึงต้องขออภัยสมาชิกทุกท่านในความไม่สะดวก และกราบขอบพระคุณทุกๆท่านที่มีส่วนช่วยเหลือ สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้เว็บพลังจิตเสมอมา


    วีระชัย (WebSnow)
    เว็บมาสเตอร์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2012
  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2012
  10. จิตปีศาจ

    จิตปีศาจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +66
    ติดอยู่หน้ากล้อง หรือ ลอยอยู่ครับ
     
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    มันซุมได้ ก็คือยานอวกาศนะครับ มีรูปอื่นอีกนะครับ
    [​IMG]อันนี้ประตูมิติ หรือจานบินอะไรไม่รู้ ก่อตัวกลางวันแสกๆ ต่อหน้ากล้องด้วย


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2012
  12. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ภาษาสันสกฤต (สันสกฤต : संस्कृता वाक्, สํสฺกฤตา วากฺ; อังกฤษ: Sanskrit) เป็นภาษาที่เก่าแก่ที่สุดภาษาหนึ่งในภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียน (หรืออินเดีย-ยุโรป) สาขาย่อยอินโด-อิเรเนียน (อินเดีย-อิหร่าน) และอยู่ในกลุ่มย่อยอินโด-อารยัน (อินเดีย-อารยะ) โดยมีระดับวิวัฒนาการในระดับใกล้เคียงกับภาษาละตินและภาษากรีก เป็นต้น โดยทั่วไปถือว่าเป็นภาษาที่ตายแล้ว ทว่ายังมีผู้ใช้ภาษาสันสกฤตอยู่บ้างในแวดวงที่จำกัดในประเทศอินเดีย โดยมีการคิดคำศัพท์ใหม่ ๆ ขึ้นมาด้วย ในศาสนาฮินดูเชื่อว่า ภาษาสันสกฤตเป็นภาษาสื่อที่เทพเจ้าใช้สื่อสารกับมวลมนุษย์ เพื่อถ่ายทอดความรู้แจ้งและปัญญาญาณแก่เหล่าฤษีทั้งหลายแต่ครั้งดึกดำบรรพ์
    --------------------------------------------------------------------
    อักษรที่เป็นเส้นๆ พืดๆ นั่นปัจจุบันเรียกเทวนาครี แต่ไม่ใช่ภาษาเทพแน่นอน ที่มีรูปถ่ายมาตรงต้นๆ ก็อาจจะใช่ภาษาเทพ แต่ไม่ใช่แบบที่ผมเคยเห็น
    --ปัจจุบันมีวิชาเรียนเป็นเทพ เรียนภาษายาวี เรียนวิธีนั่งกระทะน้ำเดือด แทงแก้มอะไรก็ว่าไป ผมจึงถามเทพว่า เรียนภาษายาวี แล้วเจอเทพจริงจะเข้าใจกันไหม เทพบอกว่า "ภาษายาวี ก็เป็นหนึ่งในภาษาเทพเหมือนกัน อยากรู้ภาษาเทพ ให้ไปหัดเขียน อักษรขอมจารึก"


    ----สรุปเลยละกัน--บางท่านบอกว่า เฉพาะแม่ภาษา แบ่งออกเป็น300กว่าแม่ภาษา ส่วนเทพทางบ้านผมท่านบอกว่า เรียนไหวเหรอ อวตารภาคนึง ท่านก็มีภาษาเทพแบบนึง ตายละวา ไม่มีภาษาแบบครอบจักรวาล

    --ที่ผมเคยเห็น ก็เป็นกึ่งตัวญี่ปุ่นกับเกาหลี จะว่าเหมือนก็ไม่เหมือนนัก ก.ไก่ของเราก็คือ 1 ในอักษรกูโบส --ตัวดับบลิวตัวเขียนหวัด ตัวใหญ่ อ่านว่า ฟู๊ค แปลว่า ความดีงาม ถ้าผิดก็ขออภัย ให้ไปอ่านในหนังสือ "แว่นส่องจักรวาล" ซึ่งแม้แต่ฝรั่งยังก๊อปครับท่าน--แปลว่าคนไทยรู้มาก ฝรั่งรู้น้อย แปลอีกที่คือ ฝรั่ง"โง่"กว่าเราครับ

    http://palungjit.org/posts/6628348

    ที่หายไป เพราะตอบมากมายไว้ที่กระทู้นี้
     
  13. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    คุณ chandayot
    -มีหลายคนก็บอกว่าเรามีของเก่าติดตัวมา ส่วนตัวเราคิดว่าของเดิมของเก่านั้น
    จะเคยเป็นมาอย่างไร ภพไหน ก็ไม่รู้ จะเอาอะไรมายืนยันให้แน่ชัดก็ไม่มี
    แม้จะให้เห็นในความฝันบ้าง หรือจะมาให้รับทราบทางอื่นบ้างก็ตาม
    และที่สำคัญก็คือ อดีตชาติไม่สำคัญเท่ากับปัจจุบันที่เราเป็นอยู่
    (หากอดีตมันมันดีพร้อมอยู่แล้ว ก็คงไม่ต้องมาเกิดเป็นคนแบบนี้หรอก)
    นั่นแปลว่าเรามีอะไรบางอย่างที่ต้องมาเรียนรู้เพิ่มเติมเอาจากโลกมนุษย์นี่แหละ

    -การเป็นแม่หมอทำนายดวงชะตา อันนี้ก็ได้เล่นไพ่ยิปซีมาตั้งแต่อยู่ม.2

    แต่คิดว่าเหมือนเป็นการสื่อสารกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่าเป็นการทำนาย
    โดยจะไม่ตั้งความหวังหรือคาดหวังคาดเดาคำตอบที่อยากได้ในใจ
    ทำตัวราวกับว่าเราเป็นกาต้มน้ำ ที่ต้องเสียบปลั๊ก(ตัวไพ่) เพื่อให้ไฟฟ้า
    (พลังที่ยิ่งใหญ่) ทำให้น้ำร้อน(คำตอบจากไพ่) ปัจจุบันก็ยังเล่นอยู่และ
    ไม่เคยเล่นเป็นอาชีพ จะดูเฉพาะเวลาที่ไพ่อยากให้เราหยิบเขาขึ้นมา
    หรือเมื่อรู้สึกว่าอยากจะคุยกับเขาจริงๆ ถ้าเล่นไพ่ด้วยความอยาก
    คุณก็จะได้แต่คำตอบที่คุณอยากฟัง ไม่ใช่ความจริงหรอก

    -การดูจิตตามจักรา อันนี้คิดว่าเป็นการผสมผสานวิชาความรู้ทั้งหลาย

    เข้าด้วยกันมากกว่าค่ะ ไม่น่าจะใช่วิชาเฉพาะเจาะจงอะไรหรอก
    และเราก็ไม่สามารถยืนยันได้นะคะว่าวิธีที่เราถนัดทำนั้นถูกต้องทั้งหมด
    แต่ก็อยากนำมาแบ่งปันแก่เพื่อนๆที่สนใจค่ะ

    การเดินจักระที่ได้มานั้นก็ตอนไปเรียนฮวงจุ้ยแล้วมีอาจารย์ท่านสอนรำมวยมังกร

    (ฝึกกายและจิตให้สอดประสานไปพร้อมกัน) พร้อมๆกับสอนการกำหนดจิตไปตามจักระ
    ซึ่งแม่เราไปเรียนมาก่อนและท่านนำมาสอนเราอีกทีหนึ่ง วิธีง่ายๆก็คือ
    ให้นึกถึงแสงสีในขณะที่หลับตา (พยายามอย่าเกร็งนะคะ)ไล่ความรู้สึกขึ้นมาตั้งแต่
    1.ฝีเย็บ-สีแดง 2.ใต้สะดือราวๆ2นิ้ว(จุดตันเถียน)-สีส้ม 3.ลิ้นปี่-สีเหลือง
    4.หัวใจ-สีเขียว 5.คอหอย-สีฟ้า 6.ตาสาม-สีน้ำเงิน 7.กลางกระหม่อม-สีม่วง
    ตั้งแต่จักระแรกให้หายใจเข้าให้นานที่สุด จนถึงจักระสุดท้ายให้กลั้นลมไว้นิดหนึ่ง
    แล้วค่อยๆผ่อนลมหายใจออกช้าๆ (ตอนนั้นจะเหมือนมีพลังพุ่งออกจากกลางศีรษะเลย)
    พอทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจะเหมือนลมหายใจมันหายไป บางครั้งก็จะรู้สึกว่ามีลมผ่านออกทาง
    แถวๆก้นกบ หรือบางทีก็เหมือนหายใจทางผิวหนังแผ่วๆ

    -อันนี้อยากเพิ่มเติมให้ค่ะ รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ต้องบอกหากท่านจะทดลองทำ
    ที่แปลกคือเราจะทราบโดยอัตโนมัติว่าคนอื่นเจ็บหรือป่วยที่ตรงไหน
    เพราะอาการเจ็บป่วยนั้นจะเกิดที่ตัวเราด้วย(แต่จะปรากฎแค่อาการนะคะ ไม่ได้เจ็บป่วยจริงๆ)
    ถ้าเป็นคนสายเลือดเดียวกันก็จะรักษาให้ทุเลาหรือหายได้ง่ายกว่าคนอื่น
    แต่ตรงนี้อาจมีอันตรายได้หากเป็นการกระทำที่เกินกำลังหรือฝืนจนเกินไป
    และจะเป็นอันตรายมาก หากมีอัตตาตัวตนเกิดขึ้น (ชั้นเก่ง ชั้นแน่)
    และโปรดอย่าลืมว่า "เราฝืนกฎแห่งกรรมไม่ได้ แม้คนๆนั้นจะร่วมสายเลือดเดียวกันกับเราก็ตาม"
    เวลาอยู่ในภาวะเช่นนี้ท่านอาจกำลังเดินบนทางแพร่งที่จะนำท่านไปสู่อัตตาตัวตนที่เหนียวหนากว่าเดิม
    หรืออาจเป็นการนำพาให้ท่านเห็นสัจธรรมแห่งชีวิต ความว่างที่ไม่สุขไม่ทุกข์ก็เป็นไปได้
    ในระหว่างทางแพร่งนี้อาจมีบททดสอบมากมาย หรือเสี่ยงกับการพรากจากความสุข
    ความพึงพอใจ ความมั่นคง(ที่ท่านคิดว่าแน่นอน)
    และหลายบทท่านต้องเสี่ยงถึงชีวิตทีเดียว
     
  14. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    พระเจ้าจากอวกาศ!!!

    ในบรรดานักเขียนฝรั่งเจ้าของทฤษฎีพิลึกพิลั่น ที่เรารู้จักกัน ในนามของทฤษฎี พระเจ้าจากอวกาศนี้ เห็นจะไม่มีใครโด่งดังเกิน Erich Von Daniken ไปได้ครับ ดานิเก้น เริ่มสั่งสมชื่อเสียงโดยการเขียนหนังสือเรื่อง Chariots of the Gods ซึ่งขายดิบขายดีกว่า 40 ล้านเล่มทั่วโลก ทฤษฎีของเขามีอยู่ว่า โลกของเรา ได้รับการมาเยี่ยมเยือน จากอาคันตุกะต่างพิภพอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่มนุษย์เรา ได้เริ่มสั่งสมอารยธรรม และก่อร่างสร้างสังคมขึ้นมานั้น สิ่งทรงภูมิปัญญาจากนอกโลกจำนวนไม่น้อย ได้คอยหนุนอยู่เบื้องหลังวิวัฒนาการของมนุษย์ ระยะเวลาที่ว่า ก็ประมาณ 40,000 กว่าปีลงมานี่แหละครับ

    ข้อ เสนอของดานิเก้นใช่จะเหลวไหลไปซะหมด เขาชี้ให้เห็นอย่างน่าฟังว่า ระหว่างที่สิ่งทรงภูมิปัญญาเหล่านั้นมาเยือน พวกเขาได้สร้างมหาปิระมิด สร้างสนามบินและถนนสำหรับคมนาคมเล็กๆในเปรู (อ่านรายละเอียดในเรื่องอารยธรรมอินคานะครับ) แม้กระทั่งการเข้ามา "จัดการ" กับวิวัฒนาการบางส่วนของมนุษย์วานร เพื่อให้กลายเป็นโมเดิร์น แมน หรือ Homo sapiens อย่างที่พวกเราเป็นๆกันอยู่

    ดา นิเก้นยังแจงต่อไปว่า ตำนาน และจารึกในบรรดาชนชาติที่เจริญแล้วในอดีต ล้วนกล่าวถึงพระเจ้าที่ทรงพาหนะบินไปมาในอากาศ ตำนานที่เขาอ้างมา ล้วนกล่าวถึงยานพาหนะเหล่านั้นแบบค่อนข้างมีหลักการ ไม่ได้อิงไปทางอภินิหารแบบลอยๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ ในมหากาพย์เรื่องมหารภารตะของอินเดีย มีการกล่าวถึงอากาศยานของเหล่าเทพ ชื่อเรียกของมันคือวิมานะครับ เจ้า "วิมานะ" นี้สามารถขับเคลื่อนไปมาในอากาศ โดยอาศัยโครงสร้างที่ทำจากโลหะผสมเบาบาง ขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานความร้อน ดูเอาเถิดครับ บันทึกของชาวภารตะเมื่อหลายพันปีก่อน ช่างดูทันสมัยเสียจริงๆ

    ทฤษฎี ของดานิเก้นยังอ้างถึงมหาปิระมิดแห่งอียิปต์ เขากล่าวว่า ชาวไอยคุปต์โบราณ ไม่มีทางสร้างปิระมิดได้หากปราศจากเทคโนโลยีจากต่างดาวเข้ามาช่วย รายละเอียดเหล่านี้ยังครอบคลุมถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างจักรวาล - เลขฐานสิบ - และโครงสร้างของมหาปิระมิด รวมทั้งลายเส้น และสนามบินของอารยธรรมนาซก้าในเปรู ลายเส้นเหล่านี้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากทางอากาศเท่านั้น ชาวนาซก้าโบราณจะทำไปทำไมล่ะครับ ในเมื่อหลายพันปีที่แล้ว พวกเขาไม่มีเครื่องบิน

    ถึง อย่างนั้นข้อมูลที่ได้จากการถอดรหัสก็ยังคงความอภินิหารอยู่ แต่เป็นอภินิหารของ "พระเจ้า" จากอวกาศครับ มีทั้งการผ่าตัด การทำโคลนนิ่ง และดัดแปลง DNA ของมนุษย์ นักวิชาการที่ไม่เห็นด้วยก็แย้งว่า เรื่องพวกนี้มันแค่ตำนาน แถมยังตีความมาจากภาษาโบราณอีก จะเอาอะไรมาอ้างอิงได้


    http://khunsamatha.fix.gs/index.php?topic=254.0 สุดยอดความรู้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2012
  15. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    โอ้..ขอขอบคุณคุณมังกรน้อย101 ด้วยนะคะ
    ได้ความรู้ใหม่เยอะเลยค่ะ อ่านแล้วขนลุกพรึ่บๆๆๆ
    ขอบคุณสำหรับคำตอบใหม่ที่เราได้กับตัวเอง
    เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะจำได้ว่า สมัยเรียนวิชา
    สปช.ตอนประถมเจอคำว่า"พหูสูตร"และ"เอกทัคคะ"
    ติดใจในสองคำนี้มากๆ และตอนนั้นก็ตั้งใจไว้ว่า
    เราจะเป็นอย่างนั้นให้ได้

    พอมาเจอคำว่า
    "เอกทัคคะ" อีกครั้ง ขนลุกไม่หยุดเลยค่ะ
     
  16. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    คุณอิสรีลครับ สุดยอดแห่งความรู้แล้วครับ เพราะการกำหนด หรือภาพจุดจักรานั้น มีแต่ในทางโยคะเท่านั้น ทางจีนมีแต่จุดฝังเข็ม อืม เดี่ยวต้องไปค้นปรัชญาโยคะมาให้ดู (จักระใหญ่ เป็นดอกบัวพันกลีบ อยู่กลางกาย จุดตันเถียน--นึกเหมือนกัน ไม่กล้าเขียน กลัวผิด..จะหาข้อมูลต่อกลับลืมเฉยเลย)
    --การดูไพ่ยิปซีก็ทำให้ญาณ ความหยั่งรู้ นั้นได้ฝึกฝนและแม่นยำขึ้น มีบางคน รักษาโรคระยะไกลทางโทรศัพท์ คลำดูรัศมีออร่ามีตรงไหนฉีกขาด -รักษาได้ มีคนเขียนตำรานี้ด้วย สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นคนไทยครับ เขียนเรื่องนี้ไว้ที่อเมริกา เป็นหนังสือที่ขายดีมากๆ
    --สำหรับผม คุณเป็นคนที่น่าทึ่งมากทีเดียว เรียกว่า รถรุ่นใหม่ออกตัวแรงครับ คลื่นลูกหลังไล่คลื่นลูกแรก ยินดีครับที่ได้พบคนแบบคุณ เหมือนจะดูดซับเอาความรู้-ศาสตร์ลึกลับทั้งหลายเข้าสู่คนๆเดียว..

    ---วันนี้ผมแบ่งภาคเป็น4 คนครับ เล่น 4 กระทู้พร้อมกัน กับหาข้อมูลทางอเมริกาด้วย เล่นเอาวินโดว์แทบเดี้ยง เปิดที20 หน้าต่าง

    --คาถามากมาย เลือกได้
    P-tharathiphora -

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2012
  17. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    โห คุณ chandayot เราไม่ได้น่าทึ่งอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ
    ชมกันขนาดนี้เราเขินแย่เลย (>..<)
    เราคิดว่านี่คือสิ่งปกติพื้นฐานที่คนทุกคนเข้าถึงได้หมด ทุกคนมีเท่าๆกัน
    เป็นคุณสมบัติพื้นฐานดั้งเดิมโดยแท้ของจิตเลยล่ะเพียงแต่ สิ่งที่ต้องทำ
    ไม่ใช่การสรรหาอะไรมาเพิ่ม แค่เอาการพอกพูนของสิ่งแปลกปลอมออกไป
    ก้พอแล้ว
     
  18. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    "พฤตติของจิตตามธรรมดา".. ออกตัวอย่างสวยงามตามแบบผู้รอบรู้ โอเคครับ ทุกท่านสามารถเก่งได้เท่าคุณอิสรีล และเท่าผม..จงพยายามเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2012
  19. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG]

    จับภาพแสงเหนือ แต่มีวัตถุแปลกปลอมมาอีก


    [​IMG]

    ภาพจากโครงการอวกาศของยุโรป ไม่ใช่นาซ่า

    [​IMG]

    วันนี้ข้อมูลแน่นมากทั้งต่างดาวและลึกลับ ภูมิใจมาก เรื่องภาษากูโบส ในโลกนี้รู้ไม่กี่คน ยิ่งฝรั่งเหรอ เงียบสนิทครับ
    --ถ้าเงียบไป คือ หลับคาจอครับ
     
  20. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG]

    แต่งเอง มั่วเอง-พากษ์เอง--กัปตันถามว่า "นี่ ไม่มีใครมีพลังจิตแบบเห็นภาพล่วงหน้ามั่งเลยหรือ"
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=WKZuT2GN3q0&feature=youtube_gdata_player"]Unknown Flying Entities. Anomalies In The Sky. - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=3Lt7KeSTr_Y&feature=related"]UFO 2010 VERY VERY CLOSE AMAZING DETAILS ! - YouTube[/ame]
    จานบินที่สวีเดน ชัดมาก
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=YPTs4okJNG8&feature=related"]UFO Sightings "The Body" Alien Creature or Chupacabra shot dead by a Colombian Farmer! - YouTube[/ame]
    Chupacabra ชูปาคาบร้า สัตว์ร้ายจากต่างดาว ถูกยิงตาย

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=ZnWN31z6RKg&feature=related"]Sensation Alien spaceship found in Russia Patomskiy Crater Tunguska Event - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=MehCtfneacU&feature=related"]400 MILLION YEAR OLD MACHINE FOUND IN RUSSIA - YouTube[/ame]

    เครื่องจักรอายุ 400ล้านปี ขุดพบที่รัสเซีย







     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...