เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย chandayot, 18 เมษายน 2012.

  1. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    อีกครั้งหนึ่งท่านเคยบอกผมได้ใจความว่า

    •บทพระมหาจักรพรรดินี้ หลวงปู่ดู่ท่านบอกหลวงตาว่า
    มีทั้งอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ในบทนี้ ใครที่สวดเป็นจะเอาอภิญญาสมาบัติก็ยังได้เลย•



    •การสวดพระคาถามหาจักรพรรดิตอนสองทุ่มครึ่ง•

    การสวดพระคาถามหาจักรพรรดิตอนสองทุ่มครึ่งนั้น
    หลวงตาท่านเคยบอกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องสวดตอนสองทุ่มครึ่งเป๊ะๆก็ได้
    แม้จะเลยเวลาสองทุ่มครึ่งไปแล้วนิดหน่อย ก็ยังสามารถสวดได้
    หลวงตาม้าท่านว่า สองทุ่มครึ่งเนี่ย ไม่ว่าเราจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนก็ตาม
    แม้เดินๆอยู่ก็สามารถนึกมาสวดที่ถ้ำก็ได้ สวดในใจก็ได้

    การสวดพระคาถามหาจักรพรรดิตอนสองทุ่มครึ่งนั้น
    หากเราทำเป็นประจำทุกวัน จะส่งผลดีต่อเราอย่างไม่น่าเชื่อที่เดียว
    นอกจากจะเป็นการสร้างสมบุญบารมีในตัวเองแล้ว
    แม้แต่เทวดาเทพพรหมท่านก็ช่วยเหลืออย่างแน่นอน
    หลวงตาม้าท่านบอกผมได้ใจความว่า สองทุ่มครึ่งนี้
    ถ้าเราสวด เทวดาก็จะปกปักษ์รักษาเรา
    ไปที่ไหนเรามีเทวดาเทพพรหมเป็นพวก ไม่เห็นจะต้องกลัวใคร
    เผลอๆเขาให้โชคให้ลาภเราด้วย

    แน่นอนว่าเมื่อมีเทวดาเทพพรหมมาให้การช่วยเหลือ
    ปัญหาในชีวิตที่เกิดขึ้นก็จะลดหย่อนผ่อนปรนลงไปหรือมีทางออกในที่สุด...
    หลวงตาม้าท่านเคยบอกกับลูกศิษย์ท่านหนึ่งเอาไว้ว่า
    สวดจักรพรรดิตอนสองทุ่มครึ่งเนี่ย ถ้าสวดดีๆ จะเอารวยก็ยังได้เลยนะ!

    การสวดพระคาถามหาจักรพรรดินั้น ไม่ว่าจะเป็นเวลาสองทุ่มครึ่งหรือไม่ก็ตาม
    ไม่จำเป็นว่าเมื่อมีปัญหาแล้วจึงจะมาสวด
    แต่ขอให้ทำอย่างสม่ำเสมอ(ทำทุกวัน)
    และตั้งใจเอาไว้ว่าเราทำถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    เราทำถวายให้กับหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า เราทำเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเราเองและผู้อื่น

    ผู้ใดที่ไม่มีความเดือดร้อน ก็สามารถมาสวดได้เช่นกัน
    ยกตัวอย่างเช่น ไม่มีความเดือดร้อนด้านธุรกิจการงานที่กำลังทำอยู่
    แต่ก็สามารถที่จะมาสวดพระคาถามหาจักรพรรดิพร้อมๆกับนึกถึงงานที่กำลังทำอยู่ ก็ได้ แม้ว่างานนั้นๆจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราก็ตาม หากทำอย่างนี้จะยิ่งส่งผลดีต่อหน้าที่การงานนั้นๆยิ่งๆขึ้นไป


    •บุญต่อบุญ•

    หากรายได้ที่เราหามาได้นั้น เหลือเก็บหรือเหลือพอใช้
    ก็ให้แบ่งทำบุญกับพระพุทธศาสนาไปบ้าง จะมากหรือน้อยก็ได้ตามแต่กำลังของแต่ละท่าน อานิสงค์จากการให้ทานนี้จะส่งผลดีต่อเราอย่างยิ่ง
    นอกจากนี้จะเป็นการลดความตระหนี่ถี่เหนียวในใจเราได้เป็นอย่างดี
    ส่งผลต่อการปฏิบัติธรรมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป



    มีเกร็ดเล็กๆน้อยที่เคยได้ยินท่านหลวงตาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องโชคเรื่องลาภ
    จึงขอนำมาเล่าให้พี่ๆน้องๆฟังกันอีกทีนะครับ

    หลวงตาม้าท่านเคยบอกกับลูกศิษย์ท่านหนึ่งว่า เวลาถูกหวยหรือล็อตเตอรรี่
    ให้แบ่ง1ใน3ของส่วนที่ได้ไปทำบุญ แล้วครั้งต่อไปจะถูกอีก! เป็นบุญต่อบุญไง

    และอีกครั้งหนึ่ง ท่านเคยบอกได้ใจความว่า
    บางคนที่ไปขูดขอหวยตามต้นไม้เนี่ย บางคนก็เห็นเป็นตัวเลข
    แต่บางคนก็ไม่เห็นนะ มันต้องเป็นคนที่มีบุญจะได้ตังค์ มันถึงจะมองเห็น


    บางทีเวลาเราไปขอหวยหรือขอเรื่องทรัพย์กับเทวดาเนี่ย
    เขาก็อยากให้เราเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้นะ
    แต่คนบางคนเนี่ย มันไม่เคยให้ทานมาก่อนเลย
    เทวดาเขาก็มองไม่เห็นบุญ เลยไม่รู้จะให้ยังไง

    ดังนั้นเวลาไปขอเรื่องทรัพย์หรือเรื่องหวยกับเทวดาเนี่ย
    ก่อนจะขอนั้น ให้เรานึกถึงบุญที่เราเคยทำทานมาก่อน
    เอาทานที่มันใหญ่ๆที่เราเคยทำมา นั่นแหละ เทวดาเขาจะมองเห็นบุญเรา แล้วเขาจะให้ได้

    จากที่หลวงตาม้าท่านกล่าวนั้น ที่ท่านบอกว่า ให้นึกถึงทานที่มันใหญ่ๆ
    ที่เราเคยทำมา บางท่านอาจจะไม่ทราบว่าอย่างไหนที่เรียกว่าทานอย่างใหญ่
    ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เช่น ร่วมสร้างวิหาร ร่วมสร้างวัด
    ร่วมสร้างพระแล้วแจกฟรี หรือให้ธรรมะเป็นทาน อย่างนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบุญใหญ่ทั้งนั้น

    ที่เป็นบุญใหญ่เพราะ อย่างการสร้างวัดนี้
    ใครก็ตามที่เข้าไปทำบุญใดๆที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนี้
    เราก็มีส่วนได้บุญด้วยทั้งหมด เพราะเราเป็นเหตุให้เขาได้บุญ
    เอาแค่ว่ามีคนไปกวาดลานวัด เราก็ได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ

    หรือการให้ธรรมะเป็นทานนั้น เช่น ถ้าเราไปสอนใครสวดมนต์
    แล้วเขาคนนั้นนำไปสวด ทุกครั้งที่เขาสวด เราก็มีส่วนได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ

    หลวงตาม้าท่านเคยบอกผมว่า

    หลวงปู่(ดู่)ท่านสอนว่า เวลาจะทำอะไรให้เลือกทำที่มันยาวๆจะดีกว่า

    เมื่อเห็นผมทำหน้างง ท่านก็เมตตาพูดต่อได้ใจความว่า อย่างการสร้างพระพุทธรูปเนี่ย
    พระพุทธรูปบางองค์อยู่ได้เป็นหลายร้อยปีเลยนะ ภายในระยะเวลาหลายร้อยปีนั้น
    ผู้ใดก็ตามที่มากราบพระพุทธรูปองค์นี้หรือมาทำบุญกับพระพุทธรูปองค์นี้
    คนที่สร้างจะมีส่วนได้บุญทั้งหมด เพราะเป็นเหตุให้เขาได้กราบหรือได้ทำบุญ


    อย่างครูบา(ศรีวิชัย)เนี่ย ท่านไปสร้างวัดใช่ไหม ใครก็ตามที่ทำบุญใดๆที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนั้น
    ท่านครูบาได้ด้วยหมดเลย(หัวเราะ)

    หรืออย่างหลวงตาสร้างพระเนี่ย ใครก็ตามที่เอาพระของหลวงตาไปกำทำสมาธิ
    หลวงตาก็ได้บุญด้วยหมดเลยนะ ตอนนี้หลวงตาใจสบายตลอดเวลาเลยเนี่ย
    เพราะมีคนสวดให้ตลอดเวลา(หัวเราะ)

    เมื่อหลวงตาท่านพูดอย่างนี้ ผมจึงได้เข้าใจ การทำบุญใดๆที่ทำแล้วส่งผลเป็นระยะยาว


    อานิสงค์ย่อมได้มากกว่าบุญที่ทำแล้วจบลงตรงนั้นเลย บางท่านอาจจะคิดว่า
    เอ...เรื่องนี้เกี่ยวข้องกันยังไงกับชื่อกระทู้ที่บอกว่า
    รวย..!ด้วยบทพระคาถามหาจักรพรรดิ ก็ต้องขอตอบว่า
    รวยนี้มีรวยหลายอย่าง คนสวดจักรพรรดิจะเอารวยทางด้านโลก(เงิน)ก็ได้
    หรือจะเอารวยทางบุญ ก็ยังได้

    ----จากคุณ แวนโก้--เว็ปเรานี่เองครับ

     
  2. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    <table id="post3393596" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt1" id="td_post_3393596" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"><center>บทสวด พระมหาจักรพรรดิ พร้อมคำอธิฐาน

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> <ins style="display:inline-table;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"></ins></ins>
    บทสวดพระมหาจักรพรรดิ
    เป็นบทสวดที่เรียบเรียงมาจาก[FONT=&quot][/FONT]ชมพูปติสูตร[FONT=&quot][/FONT]ในตอนที่พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตรพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเพื่อกำราบทิฐิมานะของพญาชมพูบดีพระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ โดยผู้ที่แต่งพระคาถาบทนี้คือหลวงปู่ดู่พรหม ปัญโญ คาถาจักรพรรดิ บทนี้เป็นพระคาถาหลักที่หลวงปู่ดู่ใช้ในการรวมบารมีแผ่ช่วยเหลือภพภูมิและ ใช้ในการอธิษฐานปลุกเสกพระเครื่องทุกชนิดของท่าน
    การสวดครั้งหนึ่งมีอานิสงค์แผ่ไปทั้งสามแดนโลกธาตุแผ่บุญไปทั่วถึงสรรพสัตว์ตลอดจนเทวดาประจำตัวเรา ญาติมิตร เพื่อนฝูง ครอบครัวเจ้ากรรมนายเวรบทสวดพระมหาจักรพรรดินี้เป็นการสวดไหว้พระพุทธเจ้าทั่วทั้งหมดตลอดจนถึงพระธรรมและพระโพธิสัตว์เจ้าพระอริยสงฆ์ทั้งมวล รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพพรหม พระอริยะเจ้า พระเจ้าจักรพรรดิทุกพระองค์ พระมหาโพธิสัตว์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต มาอารธนารวมเข้าที่กายใจอัญเชิญเข้าตัวป้องกันภัยมีการกล่าวถึงพระสีวลีเป็นมหาโชคมหาลาภและบทนี้มีพลังงานอย่างยิ่งในการเจริญกรรมฐานหากสวดบทนี้สามารถอธิษฐานเรื่องราวที่ขัดข้องให้ผ่านพ้นไปอย่างทะลุปรุโปร่ง
    ทุกๆวัน ในเวลา ๒๐.๓๐ น.หลวงตาม้า[FONT=&quot]([/FONT]ลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ที่ยังดำรงค์ขันธ์อยู่[FONT=&quot])[/FONT]และศิษย์ทั้งหมดจะร่วมสวดมนต์บทนี้ เพราะเป็นช่วงที่เปิดทั้งสามโลกธาตุให้สื่อถึงกันได้หมดเทพพรหมทั่วแสนโกฏิจักรวาล จะร่วมกันสวดบทนี้ ในช่วงนี้แม้แต่ไฟนรกก็ดับชั่วคราว
    คาถา มหาจักรพรรดิเปิดโลก
    ที่หลวงตาหลวงตานำลูกศิตย์ และ เทพพรหม โอปปาติกะทั่ว 3 แดนโลกธาตุ สวดตอน 20.30 น. ของทุกวัน

    ตั้งสัจจะอธิฐาน คำอัญเชิญ ภพภูมิ

    คำอัญเชิญภพภูมิ

    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐานกราบขออาราธนาเมตตาบารมีรวมหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่ขอหลวงปู่ได้โปรดมีเมตตา อารธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลายโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคตบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ท่านอันเป็นที่สุดบารมีรวมหลวงตาม้าเป็นต้น
    ขอบารมีหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำ ภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง3 แดนโลกธาตุอันประกอบไปด้วยเทพ6 ชั้นพรหม20 ชั้นเทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดยทั่วทั้งหมื่นแสนโกฎิจักรวาลเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่หลวงตาม้าเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ท่านปู่พระอินทร์เจ้าฟ้าท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง4 พระยายมราชพร้อมด้วยบริวารทั้งหมดพระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆพระองค์วีรบุรษและวีรสตรีทั้งหลาย ที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยามโอปาติกะทั้งหลายพระฤาษีและดาบสทั้งหลายศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัดพระเสื้อเมืองพระทรงเมืองพระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณีแม่พระคงคาพระเพลิง พระพาย พระพิรุณพระยายมราชพร้อมบริวารพญาครุฑ-พญานาคพร้อมด้วยบริวาร คนธรรณ์ชาวเมืองลับแลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำท่านทั้งหลายมาร่วมสวดบทพระมหาจักรพรรดิพร้อมกันกับพวกข้าพเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด


    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐานกราบขออาราธนาเมตตาบารมีรวมหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่ขอหลวงปู่ได้โปรดมีเมตตา อารธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลายโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคตบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ท่านอันเป็นที่สุดบารมีรวมหลวงตาม้าเป็นต้น



    บทบูชาพระ


    พุทธัง ชีวิตตัง เมปูเชมิ


    ธัมมัง ชีวิตตัง เมปูเชมิ


    สังฆัง ชีวิตตัง เมปูเชมิ








    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px"> [​IMG] [​IMG] [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px; border-top: 0px" align="right"> [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  3. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    ช่วงนี้ผมมีเวลานั่งสมาธิได้นานเป็นพิเศษ แต่ผิดสังเกตุอยู่ที่ตอนผมนอนหลับชอบฝันทุกที และฝันแต่ล่ะทีแปลกๆทั้งนั้นมันเป็นเพราะอะไรครับ ล่าสุดเมื่อคืนฝันว่ามีผู้หญิงผิวพันธุ์หน้าตาเหมือนแขกหน้าผากเค้าเหมือนเจิมด้วยยันต์ มาทักว่า"เวลาผมขับรถไปหรือกลับเวลาผ่านสถานณ์ที่แปลกๆ หรือเป็นป่าท่านขอให้กดแตร์ทุกครั้งด้วยเพราะมีคนเฝ้าดูอยู่" จนผมสดุ้งตื่นขึ้นเลยทันที มันหมายความว่าอย่างไรครับพี่เจษฎาช่วยแปลความหมายในฝันให้ผมทีครับ
     
  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    กราบพระ ๖ครั้ง


    พุทธัง วันทามิ(กราบ) ธัมมัง วันทามิ(กราบ)สังฆัง วันทามิ(กราบ)

    ครูอุปัชฌาย์อาจาริยคุณัง วันทามิ(กราบ) มาตาปิตุคุณังวันทามิ(กราบ) พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ(กราบ)




    บทสมาทานศีล


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(๓ ครั้ง)


    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ


    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ


    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ


    ทุติยัมปิ พุทธัง สรณังคัจฉามิ


    ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณังคัจฉามิ


    ทุติยัมปิ สังฆัง สรณังคัจฉามิ


    ตะติยัมปิ พุทธัง สรณังคัจฉามิ


    ตะติยัมปิ ธัมมัง สรณังคัจฉามิ


    ตะติยัมปิ สังฆัง สรณังคัจฉามิ


    ปาณาติปาตา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ


    อทินนาทา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ


    อพรัมจริยา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ


    มุสาวาทา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ


    สุราเมรยะ มัชชปมาทัฎฐานา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ


    อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ(๓ครั้ง)


    สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะโภคะสัมปทา


    สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย




    บทอาราธนาพระ


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(๓ ครั้ง)


    พุทธัง อาราธนานังกะโรมิ


    ธัมมัง อาราธนานังกะโรมิ


    สังฆัง อาราธนานังกะโรมิ


    คาถาหลวงปู่ทวด


    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ทวดแล้วว่าคาถาดังนี้


    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (๓ครั้ง)




    คาถาหลวงปู่ดู่


    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ดู่แล้วว่าคาถาดังนี้


    นะโม โพธิสัตโต พรหม ปัญโญ (๓ครั้ง)


    บทขอขมาพระรัตนตรัย


    โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโตมะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ


    โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโตมะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ


    โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโตมะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ


    บทสวดมหาจักรพรรดิ


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ(๓ ครั้ง)


    *สวดตามกำลังวัน อาทิตย์ ๖[FONT=&quot], [/FONT]จันทร์ ๑๕[FONT=&quot], [/FONT]อังคาร ๘[FONT=&quot], [/FONT]พุธ ๑๗[FONT=&quot], [/FONT]พฤหัส ๑๙[FONT=&quot], [/FONT]ศุกร์ ๒๑[FONT=&quot], [/FONT]เสาร์ ๑๐


    นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ

    มณีนพรัตน์สีสะหัสสะสุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีธานัง วะรังคันธังสีวลีจะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโยอะหังวันทามิสัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะสังฆะปูเชมิ






    บทอัญเชิญพระเข้าตัว[FONT=&quot] ([/FONT]แผ่เมตตา)


    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมาสัพเพสังฆา

    พะลัปปัตตาปัจเจกานัญจะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส[FONT=&quot]([/FONT]สวด ๕ จบ)




    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิสังฆังอธิษฐามิ

    [FONT=&quot]([/FONT]ให้อธิษฐานจิตแผ่บุญไปทั้งสามโลกธาตุ ภพภูมิทั้งหมดทั้งมวลบิดามารดา ญาติ เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ และส่งวิญญาณทั้งหลาย)





    คำอธิษฐานในตอนเช้า (สามารถนำไปใช้ในตอนสองทุ่มครึ่งได้เช่นกัน)



    เริ่ม ต้นด้วยการสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิทันทีที่รู้สึกตัวตื่น จากนั้น ลุกขึ้น ล้างหน้า และตั้งจิตสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิในตอนเช้า 1, 3, 9 จบ หรือจะสวดตามกำลังวันก็ได้ หลังจากสวดเสร็จแล้วให้อธิษฐานแผ่บุญก่อน แล้วสัพเพฯ ไป 5 รอบเวลาสัพเพฯ ให้นึกถึงคนที่เราต้องการแผ่บุญไปให้ครบ หากมีมาก จะสัพเพฯ มากกว่า 5 รอบก็ได้ หรือให้นึกภาพรวมของกลุ่มที่เราต้องการจะแผ่บุญไป อย่างเช่นเรานึกถึงแผนที่ประเทศไทย ก็จะได้ทั้งหมด แม้แต่เทวดาก็จะได้ด้วย จากนั้นให้อธิษฐานรวมบุญดังนี้

    “...ข้าพเจ้า ขอตั้งสัจจะอธิษฐาน สิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐาน ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังวนเวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐานนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานขอบารมีกำลังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ ถึงองค์ปัจจุบัน บรมมหาจักรพรรดิทุกๆ พระองค์ ขอบารมีพระแก้วแดง พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ ทั้งหลาย ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุด

    ขอ ได้โปรดเมตตารวมบุญบารมีที่ข้าพเจ้าเคยสะสม เคยอบรมมา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันชาติ ไม่ว่าจะเป็นทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา และทศบารมี เพื่อนำกำลังนี้มาใช้เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน.....(อธิษฐานเอาตามปรารถนา) เป็นประโยชน์กับชาติ พุทธศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์
    >>
    ข้าพเจ้า ขออนุโมทนาบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวล แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ พระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งหมด ทั้งมวล หลวงทวด หลวงปู่ดู่ พระศรีสยามเทวาธิราช หลวงตาม้า ผู้สวดคาถามหาจักรพรรดิทั่วทั้งสามแดนโลกธาตุ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน

    จนถึงอนาคตเทอญ ข้าพเจ้าขออธิษฐาน ขออาราธนาบารมี

    องค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้โปรดเมตตาสถิตเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า ได้โปรดเมตตาสถิตเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่อยู่เบื้องซ้ายและขวา เสมือนข้าพเจ้าสวดพระคาถามหาจักรพรรดิอยู่ตลอดเวลา ขอให้กายทิพย์ของข้าพเจ้าสวดพระคาถามหาจักรพรรดิตลอดเวลา และขอทุกลมหายใจเข้าออกของข้าพเจ้า เป็นสัพเพฯ แผ่กุศลผลบุญไปทั่วทั้งสามแดนโลกธาตุอย่างไม่มีประมาณ แผ่ให้กับเจ้ากรรมนายเวร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกลมหายใจด้วยเทอญ
    >>
     
  5. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234

    ข้าพเจ้า ขออาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่ สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะเป็นตา หู จมูก ปาก ลิ้น กาย และใจ ขอข้าพเจ้ารู้ได้ตามสภาพความเป็นจริง>>
    ขอ ให้ข้าพเจ้าพบแต่ความดีตลอดไป ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเกิด ณ ที่แห่งใดในสามแดนโลกธาตุนี้ ขอความขัดข้อง ความไม่มี อย่าได้เกิดกับข้าพเจ้าอีกเลย นับตั้งแต่บัดนี้ ตราบจนข้าพเจ้าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
    ข้าพเจ้าขออธิษฐานต่อองค์พระศรีสยามเทวาธิราช โปรดเมตตา
    ขจัดปัดเป่าปัญหาและอุปสรรคในชีวิตข้าพเจ้าให้หมดสิ้นไป
    ขออธิษฐานต่อองค์พระอุปคุต โปรดเมตตาช่วยให้การงาน การเงินของข้าพเจ้ามีความคล่องตัว ไม่มีอุปสรรคใดๆ
    ขอ อธิษฐานต่อองค์พระกาล โปรดเมตตาเลื่อนเวลาแห่งความดีงาม ความสำเร็จทั้งในทางโลกทางธรรม เข้ามาสู่ชีวิตของข้าพเจ้าโดยพลัน เพื่อนำมาเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อชาติ พุทธศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์สืบไป....
    สัพเพฯ 5 รอบ หรือมากกว่า เวลาสัพเพฯ ให้นึกไปถึงธุรกิจการงานต่างๆ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง หากมีมาก ให้นึกถึงภาพรวม

    “การสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิคือการชาร์จพลังงาน การสัพเพฯ คือการแผ่กระจายพลังงานออกไป”
    จากนั้นให้อธิษฐานขอหลวงปู่ท่านอีกครั้ง ขอท่านตรงๆ ง่ายๆ แต่ต้องขอในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และอธิษฐานว่า
    “...ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมีหลวงปู่ดู่ด้วยกำลังแห่งพระมหาจักรพรรดิ
    ขอ สิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐานนี้ สำเร็จเป็นจริงโดยฉับพลันทันใจทุกประการ ด้วยอิมังสัจจะวาจังอธิษฐมิ พุทธังอธิษฐามิ ธัมมังอธิฐามิ สังฆังอธิษฐามิ...”

    วิธีการฝึกจิต
    หลักสำคุญในการฝึกจิตนั้นก็คือ ทำตัวให้สบายทำใจให้สนุก นั่นคือการ ตั้ง>>
    จิต ให้สบาย กำพระหรือกำหนนึกรู้เห็นพระ (จะเป็นพระพุทธนิมิตก็ดี หลวงปู่ทวดก็ดี หลวงปู่ดู่ ก็ดี เรียกอีกอย่างว่าการ ตั้งองค์พระ) วางอารมณ์จิตเบาๆ วางลมหายใจสบายๆ ตามปกติ และภาวนาคลอไปเรื่อยๆ
    ทำ ได้ทุกอิริยาบท ยืน เดิน นั่ง นอน ยามหลับ ยามตื่น รู้ตัว มิรู้ตัว ให้ภาวานา และตั้งองค์พระ (คือการกำหนดภาพพระ) ไว้ตลอด ทำทุกครั้งที่มีสตินึกระลึกรู้ ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องเกร็ง ให้ทำอย่างสบายๆ ยามจะหลับ ให้ ภาวนาไปจนหลับ ยามตึ่น ให้รีบภาวนาจนมีสติดีแล้ว ให้นึกถึงพระ พร้องทั้งอธิฐานดังนี้ >>

    คำอธิษฐาน ฝึกจิตเร่งสมาธิเร่งนิมิต

    ข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าพระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิพระโพธิสัตว์และพระบรมมหาจักรพรรดิ ตั่งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆกันมาโดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุดขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะ พระกรรมฐานทั้ง40 ทัศ พระปิติทั้ง5 และวิปัสสนาญาณทั้ง9 ขอพระกรรมฐานทั้ง40 ทัศ พระปิติทั้ง5 และวิปัสสนาญาณทั้ง9 จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวารในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    .......ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต สามารถกำหนดจิตรู้ภาวะการณ์ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบันได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใสและพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการเหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด




    จาก นั้นให้ภาวนา เบาๆ สบายๆ ยืน เดิน นั่ง นอน ได้ทุก อริยาบถ เมื่อจะใช้งานหรือจะดูอะไร ก็สวดบท สัพเพฯ อาราธนาเชิญพระเข้าตัว จากนั้นให้นึกถึง หลวงปู่ดู่ ขอบารมีท่านดูเอา



    วิธีการอธิฐานขอบารมีพระช่วยเหลือในกรณีพิเศษ
    ในเวลา 20.30 ของทุกวัน
    ให้ เตรียมกาย เตรียมใจให้พร้อมก่อนถึงกำหนดเวลา จากนั้นเมื่อถึงเวลา 20.30 น. ให้กำพระผงกรรมฐานแล้วอธิฐานจิต ขอท่านตามความปรารถนา แล้วสวดมนต์ตามแบบของหลวงปู่ อธิฐานซ้ำอีกครั้งหลังจากสวดมนต์เสร็จแล้ว หากทำเช่นนี้ทุกวันก็จะเป็นการเร่งให้ได้ผลร็วขึ้น


    วิธีการอธิฐานฝากดวง
    ให้ ตั้งจิตระลึกถึงหลวงปู่ดู่ แล้วอธิฐานว่า ...ข้าพเจ้าขอยกให้หลวงปู่เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้หลวงปู่ช่วยดูแลข้าพเจ้าทั้งทางโลกและทางธรรม และขอฝากดวงฝากชีวิตนี้ไว้กับหลวงปู่ นับตั้งแต่บัดนี้ไป จนกว่าข้าพเจ้าจะเข้าสู่พระนิพพานเทอญ...
     
  6. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---ทั้งหมดได้จากสมาชิกนามว่า"ปรารถนาบุญ"ครับ

    คำอธิษฐาน
    แผ่บุญหลังสวดมนต์(20.30 น.)

    ข้าพเจ้า
    [FONT=&quot] ......([/FONT]นามของท่าน)...ผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนาขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีรวมแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าพระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ พระโพธิสัตว์ และพระบรมมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์โดยตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต โดย มีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด
    ขอพระบารมีอันหาที่สุดมิได้นี้
    โปรดจงส่งไปให้ถึงภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง [FONT=&quot]3 [/FONT]แดนโลกธาตุ อันประกอบไปด้วยเทพ [FONT=&quot]6 [/FONT]ชั้น พรหม [FONT=&quot]20 [/FONT]ชั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดย ทั่วทั้งหมื่นแสนโกฏิจักรวาลเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคตท่านปู่พระอินทร์เจ้าฟ้า ท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง [FONT=&quot]4 [/FONT]พระยายมราชพร้อมด้วยบริวารทั้งหมดพระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆพระองค์ วีรบุรุษและวีรสตรีทั้งหลายที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะทั้งหลาย พระฤาษีและดาบสทั้งหลายศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัด พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระราหูวราหกเจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พระเพลิง พระพาย พระพิรุณพญาครุฑ-พญานาคพร้อมด้วยบริวาร คนธรรพ์ ชาวเมืองลับแลและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ ตลอดจนถึง สิ่งมีชีวิตทั้งหลายสรรพสัตว์ในดินแดนอบายภูมิทั้งหลายทั้งหมดทั้งสิ้นขอโปรดจงได้รับมหากุศลผลบุญบารมีนี้ โดยถ้วนทั่วทุกตัวตน ทุกคนทุกท่านเทอญ[FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]([/FONT]
    ตั้งใจโน้มนำบุญและแผ่บุญออกไปด้วยบทสัพเพฯ)

    บทอัญเชิญพระเข้าตัว[FONT=&quot] ([/FONT]แผ่เมตตา)


    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา
    สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
    [FONT=&quot] ([/FONT]สวด ๕ จบ)



    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง
    อธิษฐามิ[FONT=&quot] ([/FONT]ให้อธิษฐานเอา)





    คำอธิษฐานรวมกำลังจักรพรรดิ์

    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐาน (ตั้งสัจจะโดยจะสวดมหาจักรพรรดิ์ทุกวันหรือ สัจจะใดก็ตามที่เราคิดว่าทำได้ทุกวัน)
    ด้วยสัจจะอธิษฐานลูก ขอบารมีหลวงปู่ดู่โปรดเมตตารวมบุญน้อมนำบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆพระองค์
    ขอบารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุดขอบารมีรวมของดวงจิตพระโสดาบัน พระสกิทาคามี และพระอนาคามีทุกๆ ดวงจิต
    สิ่งที่ลูกอธิษฐานลูกอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด
    สิ่งที่ลูกอธิษฐานนี้ลูกขออาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่น้อมนำบารมีรวมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์
    ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ขอได้โปรดเมตตารวมกำลังพระจักรพรรดิในทุกรูปลักษณ์และที่ลูกได้สวดทุกวัน เพื่อนำกำลังนี้มาเป็นประโยชน์ต่อหน้าที่การงานของลูก[FONT=&quot] ([/FONT]ฯลฯ)
    และแผ่ออกไปให้กับประเทศไทย (กำหนดภาพแผนที่ประเทศไทย)พระเจ้าแผ่นดินองค์ปัจจุบัน ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาทั่วโลกผู้ที่ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติศาสนา
    [FONT=&quot]([/FONT]สัพเพฯ[FONT=&quot] 3 [/FONT]ครั้ง)


    คำอธิษฐานรวมบารมี
    [FONT=&quot] 10[/FONT]​


    ลูกขอตั้งสัจจะอธิษฐาน[FONT=&quot] ([/FONT]ตั้งสัจจะโดยจะสวดมหาจักรพรรดิ์ทุกวัน หรือสัจจะใดก็ตามที่เราคิดว่าทำได้ทุกวัน)
    และลูกขออนุโมทนาบุญแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พระโสดาบันพระสกิทาคามี และพระอนาคามีทุกๆ ดวงจิต
    สิ่งที่ลูกอธิษฐานลูกอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังเวียนว่ายตายเกิด
    สิ่งที่ลูกอธิษฐานนี้ลูกขออาราธนาบารมีกำลังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ขอบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ บุญบารมีใดที่ลูกเคยสะสมอบรมมาเคยปฏิบัติมาจากอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติไม่ว่าจะเป็นบุญบารมีทั้ง[FONT=&quot] 10 [/FONT]ทัศอันได้แก่ ทาน[FONT=&quot], [/FONT]ศีล[FONT=&quot], [/FONT]เนกขัมมะ[FONT=&quot], [/FONT]ปัญญา[FONT=&quot], [/FONT]วิริยะ[FONT=&quot], [/FONT]ขันติ[FONT=&quot], [/FONT]สัจจะ[FONT=&quot], [/FONT]อธิษฐาน[FONT=&quot], [/FONT]เมตตาและอุเบกขา
    ลูก ขอบารมีหลวงปู่ดู่รวมบุญบารมีนี้ น้อมถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ์ จนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิถวายหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ขอถวายเป็นพุทธบูชา มหาเตชวันโต ธัมมะบูชา มหาปัญโญสังฆะบูชา มหาโภควะโห ถวายแด่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ขออาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่โปรดน้อมนำบารมีทั้งหมดทั้งมวลนี้กลับมายังลูกเป็นเท่าทวีคูณเพื่อลูกจะได้นำมาเป็นกำลังในการช่วยชาติ ศาสนา ราชบัลลังค์ หมู่คณะ สัตว์และมนุษย์ทั้งมวล
    [FONT=&quot]([/FONT]ตั้งจิตแผ่เมตตาให้กับผู้มีพระคุณเจ้ากรรมนายเวรทั้งที่บ้านและหมู่คณะ)

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมาสัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส



    [FONT=&quot]([/FONT]กล่าว[FONT=&quot] 5 [/FONT]ครั้งและอธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา)


    ขอสิ่งที่ลูกอธิษฐาน
    จงศักดิ์สิทธิ์สำเร็จเป็นจริง โดยฉับพลันทันใจทุกประการ


    อิมัง สัจจะวาจานัง
    อธิฐามิพุทธัง อธิฐามิ ธัมมัง อธิฐามิ สังฆังอธิฐามิ


     
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234

    ตัวอย่างแนวทางการปฏิบัติสำหรับผู้เริ่มต้น

    ๑. เริ่มต้นด้วยการกล่าวคำบูชาพระ สมาทานศีล (เปลี่ยนศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร เป็น อะพรัหมะจะริยาฯ เพื่อเตรียมจิตก่อนอธิษฐานบวชจิต) จากนั้น ก็กล่าวคำอาราธนากรรมฐาน ว่า
    พุทธัง อาราธะนัง กะโรมิ, ธัมมัง อาราธะนัง กะโรมิ, สังฆัง อาราธะนัง กะโรมิเป็นต้น

    ๒. เบื้องต้น ยังไม่ต้องรีบร้อนบริกรรมภาวนา หรือนึกนิมิตใดๆ หากแต่ให้ปรับท่านั่งให้เข้าเป็นที่สบาย โดยตั้งกายให้ตรง ผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อทุกส่วน สูดลมหายใจลึกๆ สักสองสามครั้ง พร้อมกับทำจิตใจของเราให้ปลอดโปร่งโล่งว่าง สร้างฉันทะที่จะปฏิบัติกรรมฐาน ระลึกว่าเรากำลังใช้เวลาที่มีคุณค่าแก่ชีวิต คือการพัฒนาจิตใจ ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่ากว่าสมบัติอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย หรือทรัพย์สมบัติ


    ๓. กล่าวอาราธนาขอให้พระพุทธเจ้า หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงปู่เกษม ได้โปรดมาเป็นผู้นำและอุปการะจิตในการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ จากนั้น ก็น้อมจิตกราบพระว่า พุทธังวันทามิ ธัมมังวันทามิ สังฆังวันทามิ


    ๔. สำรวจอารมณ์ที่ค้างคาอยู่ในใจเรา แล้วชำระมันออกไป ทั้งเรื่องน่าสนุกเพลิดเพลิน หรือเรื่องชวนให้ขุ่นมัวต่าง ๆ ตลอดถึงความง่วงเหงาหาวนอน และความฟุ้งซ่านรำคาญใจต่าง ๆ รวมทั้งปล่อยวางความลังเลสงสัยเสียก่อน


    ๕. เมื่อชำระนิวรณ์อันเป็นอุปสรรคของการเจริญสมาธิออกไปในระดับหนึ่งแล้ว กระทั่งรู้สึกปลอดโปร่งโล่งว่างตามสมควร จึงค่อยบริกรรมภาวนาในใจว่า
    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ, สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    ๖. มีหลักอยู่ว่าต้องบริกรรมภาวนาด้วยใจที่สบายๆ (ยิ้มน้อยๆ ในดวงใจ) ไม่เคร่งเครียด หรือจี้จ้องบังคับใจจนเกินไป


    ๗. ทำความรู้สึกว่าร่างกายของเราโปร่ง กระทั่งว่าลมที่พัดผ่านร่างกายเรา คล้ายๆ กับว่าจะทะลุผ่านร่างของเราออกไปได้


    ๘. ให้มีจิตยินดีในทุกๆ คำบริกรรมภาวนา ว่าทุกๆ คำบริกรรมภาวนา จะกลั่นจิตของเราให้ใสสว่างขึ้นๆ


    ๙. เอาจิตที่เป็นสมาธิพอประมาณนี้มาพิจารณาร่างกายว่ามันเป็นก้อนทุกข์ ยามจะแก่ จะเจ็บ จะตาย เราก็ไม่อาจบังคับบัญชา หรือห้ามปรามมันได้ ถึงแม้ว่าเราจะดูแลมันดีอย่างไร มันก็จะทรยศเรา มันจะไม่เชื่อฟังเรา ให้พิจารณาให้ละเอียดลงไปซ้ำๆ จนกว่าจิตจะเห็นและยอมรับความจริง เมื่อจิตยอมรับจิตก็จะคลายจากความยึดมั่นถือมั่นว่ากายนี้เป็นเราหรือเป็น ของเรา (การปฏิบัติกรรมฐานครั้งต่อไป ก็อาจเปลี่ยนเป็นการพิจารณาอย่างอื่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น หรือพิจารณาโดยรวมว่าร่างกายเราหรือคนอื่นก็สักแต่ว่าเป็นโครงกระดูก แม้ภายนอกจะดูแตกต่าง มีทั้งที่ผิวพรรณงาม หรือทรามอย่างไร แต่เบื้องลึกภายในก็ไม่แตกต่างกันในความเป็นกระดูก ที่ไม่น่าดูน่าชม เสมอกันหมด ให้พิจารณาให้จิตยอมรับความจริง เพื่อให้คลายความหลงยึดในร่างกาย ฯลฯ)


    ๑๐. เมื่อรู้สึกว่าจิตเริ่มขาดกำลังหรือความแจ่มชัด ก็ให้หันกลับมาบริกรรมภาวนาเพื่อสร้างสมาธิขึ้นอีก


    ๑๑. ในบางครั้งที่จิตขาดกำลัง หรือขาดศรัทธา ก็ให้นึกนิมิต (นอกเหนือจากคำบริกรรมภาวนา) เช่น นึกนิมิตหลวงปู่ดู่ อยู่เบื้องหน้าเรา นึกง่ายๆ สบายๆ ให้คำบริกรรมดังก้องกังวานมาจากองค์นิมิตนั้น ทำไปเรื่อยๆ เวลาเผลอสติไปคิดนึกเรื่องอื่น ก็พยายามมีสติระลึกรู้เท่าทัน ดึงจิตกลับมาอยู่ในองค์บริกรรมภาวนาดังเดิม


    ๑๒. เมื่อจิตมีกำลัง หรือรู้สึกถึงปีติและความสว่าง ก็ให้พิจารณาทบทวนในเรื่องกาย หรือเรื่องความตาย หรือเรื่องความพลัดพราก ฯลฯ หรือเรื่องอื่นใด โดยมีหลักว่าต้องอยู่ในกรอบของเรื่องความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ และความที่ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนที่เที่ยงแท้แน่นอน (อนัตตา)


    ๑๓. ก่อนจะเลิก (หากจิตยังไม่รวม หรือไม่โปร่งเบา หรือไม่สว่าง ก็ควรเพียรรวมจิตอีกครั้ง โดยให้เลิกตอนที่จิตดีที่สุด) จากนั้นให้อาราธนาพระเข้าตัวว่า สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพะลัง อะระหัน ตานัญ จะเต เชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมังอธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ (นึกอาราธนาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มาไว้ที่จิตเรา หรืออาจจะนึกเป็นนิมิตองค์พระมาตั้งไว้ในตัวเรา


    ๑๔. สุดท้าย ให้นึกแผ่เมตตา โดยนึกเป็นแสงสว่างออกจากใจเรา พร้อมๆ กับว่า พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะ ป
    ?จจะ โยโหตุ โดยน้อมนึกถึงบุญอันมากมายไม่มีประมาณของพระพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย อีกทั้งบุญกุศลที่เราสั่งสมมาดีแล้ว รวมทั้งบุญจากการภาวนาในครั้งนี้ ไปให้กับเทพผู้ปกปักรักษาเรา ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้กับบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผีเหย้าผีเรือน พระภูมิเจ้าที่ เทพ พรหม ทั้งหลาย แลสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณ ท่านทั้งหลายที่ยังทุกข์ ขอจงพ้นทุกข์ ท่านทั้งหลายที่มีความสุขอยู่แล้ว ขอจงมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป

    หมาย เหตุ การอาราธนาพระเข้าตัว (บทสัพเพฯ) ก็เพื่อว่าเมื่อเวลาเลิกนั่งสมาธิไปแล้ว จะได้ระมัดระวังรักษาองค์พระในตัว โดยการสำรวมระวังรักษากาย วาจา ใจ ตลอดวัน ซึ่งการสำรวมระวัง หรือที่เรียกว่าอินทรียสังวรนี้ จะช่วยให้การปฏิบัติกรรมฐานครั้งต่อๆ ไป จิตจะเข้าถึงความสงบได้โดยง่าย
     
  8. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    การนั่งสมาธิ ภาวนา ปฏิบัติธรรม ต้องทำไปอย่างสม่ำเสมอ เหมือนกับ การตักน้ำใส่ตุ่ม หากตักใส่ไปเรื่อยๆ น้ำก็จะเต็มตุ่ม หากหยุดตักใส่เมื่อไร น้ำก็ไม่เต็มตุ่ม...เป็นปริศนาธรรมคำสอนที่ หลวงปู่ดู่ มักจะสอนลูกศิษย์เสมอ---(ปรารถนาบุญ)

    หุบเขาเขียวเคียงคู่
    หมู่เมฆขาวเคล้าเคลียครอง
    ฐานันดรศักดิ์มุ่งหมายปอง
    ครองสันโดษกระท่อมน้อย

    ดอกไม้ป่าตูมย้อยห้อยบาน
    ไม่นำพารุ่งเรืองล้มเหลวไม่ยืนนาน
    พอประมาณประทังชีพก็สำราญ

    แม้นยากไร้ไม่แปรฮึกหาญ
    ยามสิ้นหวังไม่เปลี่ยนปณิธาณ
    (โดย อาวุโสพรรคมาร)


    มาแนวธรรมมะเข้มข้นส่งกลิ่นหอมดั่งดอกไม้ป่าอีกแล้วครับท่านผู้อ่าน ต้องขอบคุณหนูสายชลครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2012
  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ผู้เป็นข้ารับใช้แห่งพระพุทธองค์ขอนอบ น้อมและน้อมนำบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิพระโพธิสัตว์ และพระบรมมหาจักรพรรดิ ตั่งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆกันมา โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะ พระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 ขอพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    .......ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต สามารถกำหนดจิตรู้ภาวะการณ์ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการเหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าขอ ให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด


    ท่องตอนเช้า เย็นไปตลาด ซื้อปลามาทุบหัวแกง ...... อันตรายนะจะ(เฉพาะผู้รักษาศีล 5 ขึ้นไปเท่านั้น)--โดยคุณ เค้านท์ดาว์น
     
  10. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    [​IMG] <table border="0" width="100%"><tbody><tr> <td valign="middle">[​IMG]</td> <td valign="middle"> านิสงค์ บทสวดมหาจักรพรรดิ
    « เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2010, 01:29:18 AM »
    </td> <td style="font-size: smaller;" align="right" height="20" valign="bottom">
    </td> </tr></tbody></table> <hr class="hrcolor" size="1" width="100%"> บทสวดมหาจักรพรรดิ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    (ตั้ง3 จบในครั้งแรกภาวนารอบต่อไปไม่ต้องตั้งก็ได้)

    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

    เชิญพระเข้าตัว แผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญานและอธิษฐานจิต

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส ( 3 หรือ 5 จบ)

    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

    (ให้อธิฐานจิตแผ่แล้วอธิษฐาน)



    อานิสงค์การสวดบทพระบรมมหาจักรพรรดิ

    โดยย่อกล่าวคือ

    บทนี้เป็นการสวดไหว้พระพุทธเจ้าทั่วทั้งพระนิพพานตลอดจนถึงพระธรรมเจ้าและพระโพธิสัตว์เจ้า

    พระอริยสงฆ์สาวกทั้งมวลไหว้พระพุทธเจ้าทั้ง5พระองค์รวมถึงน้อมนำกำลังของเทพพรหมพระอริยะเจ้าทั้งหลาย

    การสวดครั้งหนึงเป็นการดึงกำลังของพระเจ้าจักรพรรดิทุกๆพระองค์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาร่วมถึงกำลังของ

    พระมหาโพธิสัตว์เจ้ามารวมอารธนาเข้าที่กายและใจ
    และรวมกำลังของพระโพธิญานโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายตั้งแต่อดีต ถึง ปัจจุบัน และอณาคต

    การสวดครั้งหนึงมีอานิสงค์แผ่ไปทั่วจักวาลสามแดนโลกธาตุสามารถแผ่บญไปทั่วทุกสรรพสัตว์ตลอดจนเทวดา

    ประจำตัวเราญาติมิตรเพื่อนฝูงครอบครัวเจ้ากรรมนายเวรและหากนำบทสวดนี้ไปสวดในนรกหรือแผ่ไปไฟนรกจะดับชั่วขณะ

    บทนี้เป็นการสร้างกำแพงแก้วคุ้มกันตัวร่วมถึงการอารธนาบารมีครูบาอาจารย์พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อัญเชิญเข้าตัวเพื่อ

    ป้องกันภัยและสร้างมหาโชคมหาลาภ

    อานิสงค์แก่ผู้สวดมีทั่งมหาบุญมหาลาภเนื่องจากมีการกล่าวถึงพระสีวลีร่วมถึงบทนี้มีพลังงานอย่างยิ่งในการเจริญพระกรรมฐาน

    หากนำไปสวดบริกรรมก่อนหรือระหว่างนั่งภาวนากรรมฐาน...จะทำให้การภาวนามีพุทธานุภาพมาคลุมและคุมการปฎิบัติของเรา

    คลุมกายและจิตเราเป็นวิมานทิพย์(ครอบวิมานให้ตัวเองหรือสวดอธิษฐานครอบคนอื่นก็ได้)

    หากสวดบทนี้สามารถอฐิษฐานเรื่องราวใดๆมี่ติดข้องใจได้ให้ผ่านพ้นไปอย่างทะลุปรุโปร่ง กล่าวโดยสรุปได้ว่าคาถาจักรพรรดินี้

    จากการเรียบเรียงถ้อยคำโดยหลวงปู่ดู่ท่าน ก่อให้เกิด จักรพรรดิ กำลังจักรพรรดิขึ้นด้วยในบทสวด พระคาถาครอบจักรวาล

    ปล.สำหรับนักปฎิบัติเบื้องต้นใช้คู่กับพระผงจักรพรรดิจะทำให้ก้าวหน้าเร็ว



    --------------------------------------------------

    พระคาถามหาจักรพรรดิก่อให้เกิดพุทธนิมิตครอบสถิตผู้ทรงคาถา

    พระคาถามหาจักรพรรดิที่หลวงปู่ดู่แต่งขึ้นมานั้น
    นอกจากท่านจะได้ทำการอธิษฐานบารมีให้ผู้สวดได้รับพลังจากพระรัตนตรัย
    อย่างมหาศาลแล้ว ยังก่อให้กิด "พุทธนิมิต" เป็นวิมานแก้วพระพุทธเจ้า
    มาครอบสถิตผู้สวดด้วย โดยมีลักษณะเป็นมณฑปแก้วจัตุรมุข
    ปรากฎฉัพพรรณรังสีหกประการสว่างสไหวพร้อมด้วยโพธิสัตตราวุธ
    ทั้ง 4 ประการ ประจำอยู่ทั้ง 4 ทิศ ได้แก่ พระมหามงกุฎ
    ตรีศูล จักรแก้ว และ พระขรรค์เพชร ทั้งหมดล้วนเป็นของคู่บุญบารมี
    ของพระศรีอารย์โพธิสัตว์ โดยมี "พระมหามงกุฎ" เป็นศิราภรณ์ที่ปี่ยมไปด้วย
    บุญญฤทธิ์ (หลวงปู่บุดดา ถาวโร พระอรหันต์ระดับจตุปฎิสัมภิทาญานได้เคย
    นำมาถวายหลวงปู่ดู่เป็นพุทธบูชาอีกองค์หนึงด้วย)

    ส่วนอาวุธที่เหลือทั้ง 3 ล้วนเป็นเทพศาสตราวุธชั้นสูง
    มีไว้เพื่อประดับบารมีแห่งพระโพธิสัตว์ และเปี่ยมไปด้วยอิทธิฤทธิ์อย่างยิ่ง
    หากสวดเป็นประจำสามารถอธิษฐานให้เกิดเป็นองค์พระพุทธนิมิต
    ปางมหาจักรพรรดิได้ ซึ่งเปี่ยมไปด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์
    มีความศักสิทธิ์อย่างมาก ประดับด้วยครื่องทรงแห่งพระมหาจักรพรรดิ
    อย่างวิจิตรอลังการเปล่งรัศมีหลากสีด้วยแสงแห่งรัตนอัญมณี
    เรียกว่า "พระมหาวิษิตาภรณ์" มาครอบสถิตผู้ภาวนา บารมีของ
    หลวงปู่ดู่ที่ท่านน้อมนำอธิษฐานจิตจึงมีความศักสิทธิ์ป็นอย่างมาก
    เพราะท่านใช้บารมีทั้งหมดของท่านอัญชิญกระแสบารมีแห่งพระรัตนตรัย
    และตั้งองค์พระพุทธนิมิตปางมหาจักรพรรดิบรรจุลงไปในวัตถุมงคลที่บารมี
    ท่านมาประจุอีกด้วย


    --จากเว็บ วัดถ้ำเมืองนะ
     
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    มีคำแปลมาฝากครับ

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">
    คำแปล

    นะโมพุทธายะ........ ขอไหว้พระห้าพระองค์ผู้ทรงศรี
    พระกกุกสันโธผู้โสภี พระโกนาคมรังสีฉวีวรรณ
    อีกพระกัสสปะพุทธเจ้า ให้แนบเนาขจัดทุกข์พบสุขสันต์
    พระสมณโคดมนิยมครัน พระศรีอริยเมตไตรยนั้นขอวันทา.....
    พระพุทธไตรรัตนญาณพระพุทธองค์ทรงผ่านญาณสามหนา
    พระญาณแก้วสามประการละลานตา คือบุพเพนิวาสานุสติญาณ
    -ระลึกชาติก่อนได้ไม่จำกัด สารพัดทั่วหล้ามหาศาล
    กำเนิดสัตว์-จุตูปปาตญาณ เกิด-ตายผ่านชาติภพครบวงจร
    อาสวักขยญาณ-ดับด่านเหตุ ฆ่ากิเลสคุ้ยขุดจนหลุดถอน
    เป็นพระผู้ประเสริฐเลิศสุนทร นิรันดรในนิพพานสราญรมย์
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมามีสมบัติล้นค่าราคาสม
    คือ ดวงแก้วเก้าประการเบิกบานชม อภิรมย์พระนวโลกุตตรธรรม
    คือ พระวิปัสสนาญาณเก้า ก้าวล่วงเข้าอริยะชมสุดคมขำ
    โสดาปฏิมรรค-ผลชั้นต้นนำ สกิทาคามีธรรมอริโย
    อนาคามีมรรค-ผลจนอรหัตต์ สี่คู่จัด-แปดลักษณ์งามอักโข
    เก้า คือ นิพพานาสัมมาโพธิ์ พระพุทโธส่องกระจ่างสว่างไกล......
    พุทโธ-ธัมโม-สังโฆ-ร่มโพธิ์แก้ว แสนผ่องแผ้วนำทางสว่างไสว
    เป็นผู้รู้-ผู้ตื่น-ผู้เบิกบานใจ พระธรรมจริงยิ่งใหญ่วิไลงาม
    อีกพระสาวกสงฆ์ธำรงยอด- ธรรมสืบทอดมั่นคงครบองค์สาม
    ผดุงศาสนาพุทธที่สุดงาม รักษาความงามประเสริฐเลิศวิมล......
    ยะธาพุทโมนะ พุทธเจ้า ขอบังเกิดแก่เราหวังเอาผล
    พุทธปางมหาจักรพรรดิสวัสดิ์ยล ประสบผลชัยชนะแก่พญา-ชมพู-
    ผู้มีฤทธิ์มากจากบัดนี้ ขอสวัสดีศรีศักดิ์เป็นนักหนา…..
    พุทธะบูชา-ธรรมะบูชา-สังฆะบูชา อันตัวข้าฯบูชาพระรัตนตรัย
    พระพุทธเจ้า-พระธรรมะ-อริยสงฆ์ ตั้งจิตตรงพระนิพพานตระการใส
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง-ไฟ ด้วยธูป-เทียนสว่างไสว-ดอกไม้งาม-
    น้ำอบ-น้ำหอมปรุงบำรุงโสต ยังประโยชน์ดับชั่วราคถอนขวากหนาม....
    สีวลี จะมหาเถรังนาม เด่นเลิศงามทางโชคลาภกราบพระองค์-
    พระสีวลีอันข้าฯสักการะ ขอพรจากพระเถระดังประสงค์
    อริยทรัพย์ขอจงได้เหมือนใจจง ฐานมั่นคงรุ่งเรืองสินเนืองนอง......
    อะหัง วันทามิ ทูระโต กราบพระโพธิ์-สถานศักดิ์สิทธิ์ทั้งผอง
    เช่นสังเวชนียสถานอันเรืองรอง ช่วยฉายส่องจิตข้าฯปัญญาดี.....
    อะหัง วันทามิ ธาตุโย กราบพุทโธภควาเสริมราศี
    พระบรมสารีริกธาตุพิลาสดี พระธาตุมีหลายโกฏินักทั่วจักรวาล.....
    อะหัง วันทามิ สัพพะโส ขอไหว้พระอริโยรโหฐาน
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลกโชคประทาน โปรดบันดาลชีวิตข้าฯสถาพร......
    พุทธะ-ธรรมะ-สังฆะ ปูเชมิ เจริญสติกราบพระองค์ที่ทรงสอน
    พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์ทรงสุนทร ขอวิงวอนสวัสดีมีสุขเทอญฯ.....

    ที่มา :

    ชัย แสงทิพย์
    ChaiSangthip@www.com

    จาก--นายแบงก์จ้า
     
  12. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    สวดตามกำลังวัน อาทิตย์ 6 จบ จันทร์ 15จบ อังคาร 8 จบ พุธ 17จบ
    พฤหัส 19 จบศุกร์ 21จบ เสาร์ 10 จบ

    ตามนี้นะครับ แต่จะสวดมากกว่านี้ก็ดีนะครับ--อาวุโสพรรคมาร

    วิทยากร มาอบรมเรื่องบุคลิกภาพยังแซวเลย ว่า เราเป็นนักศึกษา พอลูกศิษย์ช่วยบอกว่าเป็นอาจารย์ค่ะ นั่นเกิดจาก ผลแห่งการสวดบทจักรพรรดิ วิธีการคือเวลาอาบน้ำฝักบัว ก็สวดบทนี้อาบน้ำมนต์จักรพรรดิ ทำแบบนี้อานิสงล์ทำให้หน้าตาเยาว์และดี อิอิ _______________<table id="post3059024" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">
    </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right">
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> พระยาเดโชชัยมือศึก
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    </td></tr></tbody></table>___ผมสวดมาได้ร่วม 2ปีกว่าแล้ว ขอรับรองผลของการสวดครับ ใช้ได้ทั้งทางโลกและทางธรรมจริงๆ. ถ้ามีโอกาสไปกราบหลวงตาม้าที่วัดถ้ำเมืองนะ กันนะครับ ไปสวดพระจักรพรรดิที่ถ้ำใหญ่ หลวงตาบอกให้สวดให้ได้ตลอดเวลา นึกได้ก็สวดทันที กำลังพระจักรพรรดิ จะสะสมอยู่ที่จิตของเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ เป็นกำลังบุญนะครับ อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้และทุกๆท่านสาธุครับpreechaniy
    ------------------------------------------
    ทำงบปลา--ห่อแอ๊บปลา หาสูตรมานานแล้ว กลิ่น รส สุดคลาสสิก ทำกินเองง่ายนะครับพี่น้องครับ
    http://library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=91
    อิทส์ อะ ลาบหมูครับ เนื่องด้วยประเทศไทยมีหลายความหลากหลายวัฒนธรรม จึง แบ่งออกเป็น ลาบทางเหนือ ลาบอิสาน และภาคกลาง เห็นภรรยาทำอีกแบบ ใส่น้ำมะขามคั้น ใส่ขิงด้วย
    http://library.cmu.ac.th/ntic/lannafood/detail_lannafood.php?id_food=30
    ลาบอิสาน
    http://www.mookfood.com/Fry/Labhmooisan.asp
    ปลาดุกทอดกรอบ
    http://www.mookfood.com/pad/padpedfishdootookoon.asp
    แกงส้มดอกแค
    http://www.mookfood.com/kangsom/kangsom2.asp

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2012
  13. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    ขอบคุณมากครับ

    ตรงกับที่ผมกำลังเริ่มปฎิบัติเลยครับ ผมขอคัดลอกเอาไว้อ่านไว้ปฎิบัติน่ะครับพี่เจษฎา และผมขออนุโมทนาบุญกับพี่ด้วยครับสำหรับวิทยาทานนี้ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    สนุกดีครับ พวกเอนกิ, นินกิ, กีกิ และ อนูนากิ
    มีชื่อใหม่อีกครับ สุกียากิ

    พวกนี้มีความแตกต่างกันในสายพันธุ์เนื่องจากว่า พวกผู้เจริญเหล่านี้มีลักษณะนิสัยชอบ
    1. แพร่กระจายเหล่ามนุษย์โคลน หรือ สร้างเทียม ไปตามมุมต่างๆของจักรวาล
    2. ชอบทำการทดลองเพื่อหาสภาวะเลิศ และ สร้างความหลากหลายในระบบนิเวศน๋ ผลก็เลยได้มนุษย์แตกต่างความสูงกันไป

    ผมเชื่ออย่างนั้น,

    ก็มีบ้างมนุษย์กลุ่มที่ไม่มี "จิต(soul)" เข้ามาอาศัย อย่างที่คุณ Chandayot อ้างถึง
    แล้วพวกเขาทำได้ไง ?
    ก็คงไม่พ้นเรื่องของ (1)การตั้งเจตจำนงค์ และ (2)การติดต่อกับ God ตามความเชื่อของเหล่ามนุษย์ที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีสูง
     
  15. saychl anusonthi

    saychl anusonthi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +350
    ขอบคุณ คุณอามากคะที่ให้ความรู้และขออนุโมทนาบุญในครั้งนี้ที่คุณอาได้ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน หนูจะนำไปใช้และฝึกปฏิบัติตามที่คุณอาได้กล่าวไว้ข้างต้นคะ ขอบคุณมากคะ;aa47
     
  16. Isreal

    Isreal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +1,327
    มาขอบคุณคุณ chandayot ด้วยอีกคนค่ะ
    เพิ่งรู้จักบทสวดนี้เหมือนกัน และเพียงตั้งใจ
    กวาดสายตาอ่านตามก็เกิดสมาธิขึ้นได้จริงๆค่ะ
     
  17. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    อนโมทนาสาธุการ
    หลวงปู่ดู่ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่สว่างไสวและยิ่งใหญ่ในตัวท่านเองมากครับ พอนึกถึงท่าน ก็ติดเลย

    กล่าวคือ ถ้าเราทำตัวจิต"ถึง"ตัวจิตท่าน ท่านก็ปั๊บถึงเราเลย และอาจจะสามารถช่วยสงเคราะห์ตาม เหตุกำลังของเราผู้ขออนุเคราะห์และท่านได้ครับ

    น่านับถือมากครับ
     
  18. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    พายุโบละเว่น เข้าถล่มเกาหลีใต้ จมเรืือจีนไปสองลำที่ใกล้เกาะเชจู นับเป็นพายุที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ10 ปีครับ ลูกก่อนเพิ่งเข้าถล่มเวียดนามและจีน ไม่นับ สามลูกติดๆกันช่วงก่อน
    ---ลองคิดดูสิครับว่า ถ้าเปลี่ยนทิศทางมาไทย สักสามหลูก ก็คงไม่น้อยกว่าปี 54 นะครับน้ำท่วมน่ะ
    โอกาสที่จะเกิดมัน เป็น50-50 อย่าประมาทนะครับ ขนาดเตรียมตัวรับกัน เจอทั้งน้ำป่า ดินถล่มก็เดือดร้อนกันหมดเลยครับ

    --ยินดีครับทุกๆท่าน สำหรับท่านองค์นี้ พระรูปนี้ท่านของดีของแท้แน่นอน สัมผัสแล้วเย็นใจดีครับ

    --ผมเล่าหรือยังที่ดาราสาวโดนผีหลอกทั้งกองถ่าย เดี๋ยวเล่า เรื่องคุณบิณฑ์ครับ
    ---ผี อยู่คนละภพ ทำไมมาสัมผัสตัวคนเราได้ มาให้เห็น บีบคอคนก้ได้ หรือมันใช้พลังจิตสร้างร่าง หรือข้ามมิติมาครับ
    ผมก็ไม่ได้สัมภาษณ์ เนื่องจากหาผีตัวจริงไม่ได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2012
  19. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เล่าเรื่องนิดนึง มีคนเล่าว่า เขาเป็นพ่อค้าเร่ วันหนึ่งมีคนรู้จักเรียกเขาไปหา แกชื่อเจ๊ดา แกบอกว่าขอฝากสมร ลูกสาวไปด้วย จะได้หัดค้าขาย ทั้งๆที่เขามีเมียอยู่ ก็จำเป็นต้องรับ
    --ด้วยความเหงา เขาก็ได้สมรเป็นเมียอีกคน พักหนึ่งเธอก็ขอกลับมารอที่บ้าน เขาเองพอหมดหน้าค้าขายก็กลับมา คนแรกที่เจอคือสมร เธอบอกว่าให้พ่อมาสร้างบ้านไว้นอกหมู่บ้าน
    --เขาก็ไปอยู่กับเธอ มีอะไรๆ ตามแบบผัวเมียกันตามปกติทั่วไป
    --วันหนึ่งเขาเดินกลับบ้านตอนกลางวัน เห็นมือผู้หญิง แขนที่ยาวเหยียดเป็น10 เมตร ยื่นออกมาเก็บผ้า เขาก็คิดว่าตาฝาดไป เช้าบ้านก็เห็นสมรพับผ้าอยู่

    --คืนนั้น เมืยเขาร้องไห้กลางดึก ช่วยด้วยๆ ช่วยหน่อย แฉันไม่อยากตาย เขาตกใจว่า"เธอเป็นอะไร" เธอบอกว่าเจ็บที่ขา ท่ามกลางแสงลางๆ กระดูกขาของเธอโผล่ออกมานอกเนื้อทั้งสองข้าง เขาตกใจมาก"น้องเป็นอะไร" "น้องโดนรถชน น้องตายแล้ว พี่จ๋าเขามารับน้องแล้ว ชาติหน้าเอาไว้เจอกันใหม่นะพี่" แล้วร่างเธอก็เลือนหายไป

    --ความเศร้าแบบนี้ ผมพบมาสองสามครั้งแล้ว บางครั้งเทพเอาวิญญาณของภรรยาไป เจตภูติของเธอก็ออกมาคุยกับผม --เจตภูติ คือจิตดวงใหญ่ของทุกคน และเจตภูติทุกองค์ของทุกคนจะเป็นผู้ชายครับ -ท่าทางดุๆด้วย มีครั้งหนึ่งเธอกินยาสั่ง เทพก็มาถอนให้ มีครั้งนึงเทพบอกว่าเธอจะตายใน7วัน ในที่สุดก็เลื่อนออกไป เรียกว่า เสียน้ำตากันมากมายเลยครับ ตามความรู้สึกนะ คิดว่าเธอเป็นน้องสาว เป็นลูกสาวของผมมากกว่า ชาติก่อนก็เป็นพี่เลี้ยง-ทหารองครักษ์เธอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2012
  20. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    คุณบิณฑ์ ณ บังกาโลเขาค้อ บรรยากาศดีเยี่ยม เขาเข้านอนแต่หัวค่ำ พอ รู้สึกตัวอีกที มีทหาร
    มายืนล้อมรอบเตียงเต็มไปหมด "ลากมันลงมา" หัวหน้าสั่ง ไม่สนใจกับเสียงร้องขอชีวิตของตุณบิณฑ์ ทหาร5-6 คนก็เข้าจับตัวเขา เขาดิ้นรน และท่องคาถาชินะบัญชร แม้จะหลับตา แต่ก็ยังจำหน้าตัวหัวหน้าได้ดี หน้าดำเหมือนถ่าน ตาแดงเหมือนแสงไฟเลย
    --พอรู้ตัวอีกที เขาหล่นลงมาจากเตียงครึ่งตัวแล้ว
    ------พอสอบถามพนักงานๆบอกว่า เจอทุกคนเลยแบบนี้ บางคนมันจับเตียงพลิก เทเอาคนลงมาครับ เอี้ยนสุดๆ มีแบบนี้ด้วย เขาบอกว่า ไม่ใช่ทหารไทยหรอก น่าจะเป็นพวกคอมมิวนิสต์เขาค้อ
    --จากรายการคนอวดผี

    -น้ำท่วมบริเวณปากแม่น้ำ ตอนใต้ของพม่า คนร่วมสามหมื่นคน ไร้ที่อยู่อาศัย

    --นาย บัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ สอบถามมายังอองซาน ซู จี เรื่อง สิทธิความเป็นคนของชาวโรฮิงยา อองซานตอบไม่ถูกเพราะไม่เคยคิดมาก่อน---ซึ่งล่าสุดได้รบกับพวกชาวพุทธอย่างหนัก ยังไงก็ตาม แม้ไม่มีทะเบียน แต่ชาวโรฮิงยาก็เป็นคนเหมือนกันกับเรานะครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...