นิทาน เรื่อง "พญานาค"

อบรมแท็ปเล็ตอยู่พิมพ์ยากจังนิ
ทักทายแค่นี้แหละ.

 

งั้น ให้ สิริเทวี หาเทพบุตร มาให้สักองค์แทนแล้วกันครับ
แต่ เอ เทพบุตร ไม่คอยชอบนาคี ชอบแต่นางฟ้าครับ
สิริเทวี คิดว่าอย่างไร ครับ

 

ว้า...จ้องแต่จะหาคู่ให้อย่างเดียวเลยนะคะ คุณปู่ ห่วงใยมากมายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เรามีแล้วเทพบุตรสุดหล่อน่ะ รอเราอยู่นานแล้ว แค่หลับตาก็เจอกันแระ อิอิ

ให้การบ้านคุณปู่ดีกว่านะ ไปคิดมาว่าเราต้องการอารายมากที่สุด? มีรางวัลเป็นอารายดีน้า ถึงจะเหมาะสมกับคุณปู่ซู่ซ่า

 

เมื่อสักครู่เน็ตหลุดค่ะกว่าจะเข้ามาดูต่อได้
ท่านประธานคะไม่ทราบเรื่องศาลเจ้าจริงค่ะ ทราบแต่ว่าพอได้เข้าไปกราบไหว้แล้วรู้สึกมีความสุข เกิดปิติมากค่ะ
ขอโทษด้วยนะคะคุณฟ้ามุ่ยขา ไม่ทราบจริงๆค่ะ เราต้องขอให้ท่านประธานเล่าให้ฟังค่ะ

 

ท่านประธานหายตัวไปแล้วจ้าาาาา...

 

หาข้อมูลเบื้องต้นมาให้อ่านกันก่อนแล้วกัน (มีความเชื่อว่ามังกรเป็นศิษย์ของเจ้าแม่กวนอิม)

เสามังกร นั้น เรียกว่า เสาทีตี่แป่บ้อ หรือ เสาทีกงเต็ง ไว้สำหรับอัญเชิญตะเกียง สัญลักษณ์ของงานพิธีนั้นๆ เช่น งานกินเจ งานประสูติองค์เจ้า แต่เดิมใช้ไม้ไผ่ทั้งต้น นอกจากจะเป็นสัญญาณแล้ว ยังเป็นการสื่อระหว่างฟ้าและดิน

อธิบายเพิ่มเติม องค์ทีตี่แป่บ้อนั้น ท่านเป็นอากาศธาตุ อุปมาให้รู้ว่าฟ้าเป็นเหมือนพ่อ ดินเป็นเหมือนแม่ ที แปลว่า ฟ้า ตี่ แปลว่า ดิน แป่ แปลว่า พ่อ บ้อ แปลว่า แม่

เพราะคนจีนให้ความสำคัญของการกตัญญูต่อพ่อแม่ก่อนอื่นใด ก่อนไหว้เจ้า ก็ให้ไหว้พ่อแม่ก่อน

เสามังกร หรือเสาฟ้าดิน ที่ใช้ไหว้ตามศาลเจ้าภายในมีเขียนคำว่า ที่ตี่แป๋บ้อ มาจากคำว่า ทีแป๋ (พ่อฟ้า) ตี่บ้อ (แม่ธรณี)

ป.ล.เหตุผลที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตามเราต้องไหว้ทีกงหรือ ทีตี่แป๋บ้อก่อน เพราะ ถือกันว่าตรงจุดนี้เป็นจุดรวมเทพเจ้าทั้งหลายในสากลโลก เป็นประธานทั้งหมด และเป็นการเคารพ พ่อฟ้า แม่ดิน อีกทางหนึ่ง

เหตุีที่จะต้องตั้งเสาให้ตรงได้ฉากเป๊ะๆ (90 องศา) ก็คงมาจาก ที่เสามังกรนี้เป็นสื่อกลางของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสากล ฟ้าและดินย่อมเที่ยงตรง มีความยุติธรรม เอนเอียงไม่ได้ค่ะ

 

คุณปู่ขาาาาา...อย่าหลังไมค์นานค่ะ มาเฉลยได้แล้วเรื่องการตั้งเสามังกร รออ่านหนอค่ะ...

 

แถมประวัติมังกร

ตามคำบอกเล่าแต่โบราณแล้ว "มังกร" ในความเชื่อของชาวจีน มักได้รับการกล่าวขานในแง่ของความเป็นมิตรมากกว่าความร้ายกาจ และถูกยกให้เป็น สัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งความสุขและความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง

มังกรในความเชื่อของจีนสามารถพบได้ในแม่น้ำและทะเลสาบ ชอบที่จะอยู่ท่ามกลางสายฝน ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างกฎแห่งความใจบุญ และเป็นสิ่งที่เสริมสร้างความมั่นใจ ความเชื่อมั่นให้แก่กษัตริย์ อย่างในสมัยราชวงศ์ชิงกษัตริย์หรือฮ่องเต้จะต้องประทับบนบัลลังก์มังกร เดินทางโดยเรือมังกร เสวยอาหารบนโต๊ะมังกร และบรรทมบนเตียงมังกร ของใช้ต่างๆรวมถึงเสื้อผ้าก็จะตัดเย็บด้วยผ้าที่ประดับด้วยลวดลายมังกร โดยที่คนธรรมดาสามัญไม่สามารถตัดเย็บหรือใช้ของที่มีลายมังกรได้โดยเด็ดขาด และมังกรของจักรพรรดินั้นจะพิเศษกว่ามังกรโดยทั่วไป นั่นคือมันจะต้องมี 5 เล็บ

ลักษณะเฉพาะของมังกรจีน ตามพจนานุกรมจีน "มังกร" มีความหมายว่า สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีลักษณะหัวคล้ายหัวอูฐ มีเขาคล้ายเขากวาง ดวงตาคล้ายกับดวงตาของกระต่ายป่า หูคล้ายหูวัว ปีกคล้ายนกอินทรี มีลำคอยาวคล้ายงู ช่วงท้องมี ลักษณะคล้ายกบหรือหอยกาบ และเกล็ดเหมือนของปลาคาร์พ รูปร่างคล้ายกับปลาตัวใหญ่ เท้าคล้ายกับเท้าเสือ เสียงร้องคล้ายเสียงตีฆ้อง เมื่อหายใจลมหายใจของมันมีลักณะคล้ายเมฆ ซึ่งบางครั้งก็ออกมาเป็นฝน บางครั้งก็เป็นเปลวไฟ

มังกรจีนจะมี เขี้ยวขนาดใหญ่หนึ่งคู่อยู่ที่ขากรรไกรบน มีหนวดยาวลักษณะเหมือนไม้เลื้อย และมีแผงคอเหมือนของสิงโตอยู่บนคอ ,คาง และข้อศอก มีเกล็ด 117 แผ่น แบ่งออกเป็นหยินและหยาง โดย 81 แผ่นเป็นหยางมีความดี 36 แผ่นเป็นหยินมีความชั่ว เขามีสันหลังทอดยาวไปตามหลังและหางเป็นหนามยาวและสั้นสลับกัน มีโหนกอยู่บนหัวไว้สำหรับบินเรียกว่า เชด เม่อ (chih muh) แต่ถ้าเขาไม่มีโหนกนี้ มังกรก็จะกำคทาเล็กๆที่เรียกว่า โพ เชน (po-shan) ในการบินแทน

สีของมังกรจีนมีหลายสี ตั้งแต่แกมเขียวจนถึงทองหรือบางแหล่งก็ว่ามังกรจีนมีสีน้ำเงิน ,ดำ ,ขาว ,แดง ,เขียว หรือเหลือง มังกรจีนในตำนานมีอิทฤทธิ สามารถทำตัวเองให้ใหญ่เท่ากับจักรวาล หรือให้เล็กเท่ากับหนอนไหมก็ได้ (เจ๋งไหมล่ะ) นอกจากนี้ยังมีนิสัยเมตตากรุณา ,เป็นมิตร ,ทะเยอทะยาน และมองโลกในแง่ดี นอกจากนี้ มังกรจีนยังฉลาด ,มีปัญญามาก ,มีความเด็ดขาดและมีพลัง จึงถูกยกย่องให้เป็นที่ปรึกษาของผู้นำ

 

ชนิดของมังกรจีน

คนจีนก็แทนลักษณะเฉพาะของมังกร 9 อย่าง ตามลักษณะของมังกรที่แตกต่างกันดังนี้
1. พิว โหล (pu lao) ถูกสลักบนยอดของระฆังและฆ้องเพราะว่าเขามีนิสัยชอบส่งเสียงร้องดังเมื่อถูกโจมตี
2. ไชยู (chiu) อยู่บนที่หมุนของซอตั้งแต่มังกรส่วนมากชอบดนตรี
3. ไพ ไซ (pi his) ถูกสลักที่ส่วนบนของโต๊ะหินเนื่องจากความรักของมังกรที่มีต่อวรรณคดี
4. พา ไซ อะ (pa hsai) พบได้ที่ฐานของอนุสาวรีย์หินในฐานะที่มังกรสามารถรับน้ำหนักมากได้
5. เชโอะ เฟ่ง (chao feng) วางอยู่ที่ชายคาของวัดในฐานะที่มังกรตื่นตัวต่ออันตรายเสมอ
6. เช่ย (chih) ปรากฏบนคานของสะพานตั้งแต่มังกรชอบน้ำ
7. ซ่วง หนี่ (Suan ni) ถูกสลักบนบัลลังก์ของพระพุทธรูปในถานะที่มังกรชอบพักผ่อน
8. เย่ สึ (Yai tzu) ถูกสลักบนด้ามดาบ ตั้งแต่มังกรถูกรู้ว่ามีความสามารถที่จะฆ่าได้
9.ไพ ฮั่น (pi han) ถูกสลักบนประตูคุก เพราะมีมังกรที่ชอบการทะเลาะ และการสร้างปัญหา

 

กำเนิดมังกรจีน

ชาว จีนมีตำนานกล่าวว่า มังกรเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้าอึ่งตี่หรือหวงตี้ โดยทรงมีพระราชประสงค์ในการสร้างมังกร เพื่อให้เป็นเครื่องหมายประจำชาติ ด้วยการนำเอาสัญลักษณ์ของกลุ่มชนเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ภายในประเทศจีนขณะ นั้นมาผสมผสานกัน

ความเชื่ออื่นๆเกี่ยวกับมังกร

มีตำนานกล่าวว่ามังกรเป็นสัตว์อมตะและยังมีอิทธิฤทธิ์มาก เนื่องจากมังกรมีลูกแก้ววิเศษอยู่ในปาก ทำให้สามารถเหาะเหิรเดินอากาศได้หรือจะเดินดิน-ดำน้ำก็ได้ สามารถล่องหนหายตัวแปลงกายให้เล็ก ใหญ่ สั้นยาวก็ได้ ชาวจีนจึงยกย่องให้มังกรเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง

ทั้งยังเป็นพาหนะของเจ้าแม่กวนอิมอีกด้วย ธรรมชาติของมังกรเป็นสัตว์ดุร้ายแต่ก็สามารถจะบันดาลประโยชน์สุข ให้บังเกิดแก่มวลมนุษย์ได้เช่นกัน เพราะมังกรสามารถทำให้เกิดฤดูกาลต่างๆบันดาลให้เกิดฝน-ลม-ไฟ ช่วยกำจัดสิ่งชั่วร้าย ดังตำนานของชาวจีนที่เล่าต่อกันมาว่า เมืองจีนในช่วงฤดูหนาวบังเกิดความแห้งแล้ง มีสาเหตุมาจากเป็นช่วงเวลาที่มังกรหลับ แต่พอมังกรตื่นขึ้นมาจะนำพาเอาน้ำมาด้วยอย่างมากมายจนเกิดอุทกภัย สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทั้งแผ่นดิน (ตกลงแล้วดี หรือเปล่าเนี่ย T_T)

จากความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนหมู่มากนี้เอง ทำให้เจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์ต้องลงโทษ ให้มังกรต้องเข้าไปจำศีลภาวนาชดใช้กรรมอยู่ภายในถ้ำถึง 3,000 ปี จนมังกรบังเกิดบารมีจนกลายเป็นสัตว์ชั้นเทพ สามารถเหาะขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ได้ ทั้งยังต้องทำหน้าที่เฝ้าดูแลลูกแก้ววิเศษของเจ้าแม่กวนอิมโพธิสัตว์อีกด้วย เราจึงมักเห็นรูปวาดของมังกรจีนมีลูกแก้วอยู่ในมือยังไงล่ะคะ

 

มังกรมี 3 ชนิด

1.มังกรสวรรค์ มีหน้าที่เทวดา และดูแลวิมานสวรรค์มิให้พังทลาย

2.มังกรเทพเจ้า มีหน้าที่กำหนดลม ฟ้า อากาศ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์

3.มังกรเฝ้าทรัพย์ มีหน้าที่คอยปกป้องสมบัติของแผ่นดินมิให้สูญหาย

มังกรประกอบไปด้วยสัตว์ 9 ชนิดได้แก่

1.มี หัวเหมือนอูฐ 2.มีเขาเหมือนกวาง 3.มีตาเหมือนกระต่าย 4.มีหูเหมือนวัว 5.มีคอและลำตัวเหมือนงู 6.มีอุ้งเล็บเหมือนเสือ 7.มีเล็บคล้ายเหยี่ยว 8.มีเกล็ดเหมือนปลาตะเพรียน 9.มีท้องเหมือนกบ คีบหลังจะมีทั้งหมด 81 ครีบ โดยจะเรียงกันเหมือนสันเขา

เรามารู้ประวัติของการเชิดมังกรกันดีกว่า

กาลครั้งหนึ่งที่จีน มีมังกรตัวหนึ่งขึ้นมาจากมหาสมุทร มาอยู่ตรงริมชายหาด มังกรตัวนั้นได้นอนเจ็บปวดอยู่ที่ริมชายหาด แล้วไม่รู้ว่าเป็นอะไร จึงแปลงร่างเป็นชาวบ้านเข้าไปรักษาในเมือง ไปพบหมอคนไหน ก็ไม่มีทางรักษาเพราะไม่รู้ว่าเป็นอะไร จนมาถึงหมอผู้หนึ่งเป็นหมอวิเศษ หมอผู้นั้นรู้ว่าคนๆนี้ไม่ใช่มนุษย์ จึงนัดกันไปเจอที่ริมชายหาด หมอผู้นั้นบอกว่าให้กลายร่างเป็นเหมือนเดิม คนๆนั้นจึงกลายเป็นมังกรเหมือนเดิม แล้วหมอก็เดินเข้าไปดู แล้วก็พบตะขาบอยู่ในเกล็ดของมังกร หมอผู้นั้นจึงเอาจะขาบออกให้ มังกรเลยตอบแทนบุญคุณโดยการให้หมอวิเศษจดจำรุปลักษณะของมังกรไปทำเป็นหุ่น เชิด เมื่อเกิดภัยพิบัติให้นำหุ่นมังกรไปแห่รอบเมืองแล้วภัยพิบัติก็จะหายไป แต่หมอผู้นั้นลืมจำรุปส่วนหางมา หุ่นมังกรที่เห็นอยู่ทุกวันนี้จึงมีหางเหมือนปลา หรือมีหางเป็นแฉกหรือรูปอื่นๆ

 

ส่วนคนที่ถือลูกแก้วนำหน้ามังกรเวลาแห่นั้นคือ นาจา มีประวัติอยู่ว่า มีมังกรตัวหนึ่งออกอาละวาดบ้านเมือง ทำให้มนุษย์เดือดร้อนไปหมด พอเรื่องนี้รู้ไปถึงเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่กวนอิมจึงลงมาปราบมังกรแล้วถอดเอาหัวใจของมังกรมาไว้ข้างนอกให้มังกร เฝ้าไว้อย่าให้หาย ถ้าลูกแก้วมังกรหายและถูกทำลายมังกรจะตาย

มีอยู่วันหนึ่งมังกรนอนหลับอยู่ในถ้ำ และนาจาซึ่งเป็นเด็กซุกซนได้เข้ามาขโมยลูกแก้วมังกรไป เมื่อมังกรตื่นไม่เห็นลูกแก้วมังกรก็ออกตามหา แล้วไปเจอนาจา มังกรเลยต้องตามนาจาเพื่อที่จะเอาลูกแก้วมังกร จึงมาเป็นท่าทางของการเชิดมังกรจนถึงทุกวันนี้

ในการเชิดมังกร มังกรที่ใช้เรียกกันว่า "มังกรคาบแก้ว" ซึ่งเป็นมังกรที่ตัวใหญ่ ส่วนหัวทำจากไม้ไผ่เหมือนกับหัวสิงโต และมีน้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัมต่อหนึ่งหัว ลำตัวทำจากผ้า มีโคลงเป็นไม้ไผ่ขดเป็นวงกลมและมีเชือกผูกต่อกันหลายๆอันอยู่ข้างใน เพื่อทำให้มังกรคงรูปเป็นทรงกระบอก และมังกรชนิดนี้สามารถพ่นไฟได้โดยการนำพลุไปเสียบไว้ในท่อที่อยู่ในปากของ หัวมังกร

 

วันนี้ได้ความรู้เรื่องมังกร
แหม๋ กำลังเล่นเกมส์เลี้ยงมังกรอยู่พอดีเลยขอรับ 555 (เกี่ยวกันไหมนี่)

 

สวัสดีค่ะน้องฝน เมื่อคืนไปตามนัดหรือเปล่าหนอ...พี่มัวแต่หลับไม่ได้จดจำค่ะ หวังพึ่งพิงความจำของนู๋อยู่นา...คุณปู่ เนียนๆ ไปอีกแย้ววว...

 

ไปไหนไม่รู้ค่ะ ไม่ถึงพระธาตุสักที ยังนั่งรถและใส่ชุดขาว
ไปกันหลายคนค่ะ แต่คุยอะไรก็ไม่รู้ค่ะ ... Y.Y จำไม่ได้เลยนะขอรับ

 

5555++++ คืนนี้ไปอีกจะถึงมั้ยเนี่ย? เมื่อคืนพี่นัดแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจกำหนดค่ะ มันชอบเป็นมารตัวเอง ออกสื่อไม่ได้เลย

กลับเข้าห้องไป ก็หยิบหนังสือมานั่งอ่านต่อ อ่านไปอ่านมาดูเวลา...ดึกแล้วนี่ ไม่สวดมนต์ทำสมาธิแล้วหละ หนังสือก็วางไว้หัวเตียง ซุกเข้าใต้้ผ้าห่ม หลับปุ๋ยทันใด ได้นอนภาวนาหรือเปล่าก็ไม่รู้ จำไม่ได้ค่ะ

ตอนนี้จะพยายามฝึกกรรมฐานธรรมจักรให้ได้ จะได้ไปเที่ยวนรก สวรรค์ หรือที่อื่นๆ ที่อยากไป ความจริงคิดแบบนี้ผิดวัตถุประสงค์นะเนี่ย

ฝันค่ะ แต่ตื่นมาแล้วลืม เพราะไม่ได้ตั้งใจจำไว้ก่อนนอน บอกกับตัวเองว่าง่วงนอน นอนดีกว่า...อยากพักผ่อนและให้หลับไปเลย พอบอกอย่างนี้ทีไร ไม่เคยจำฝันได้สักที

 

เมื่อวานกลับบ้านเร็ว หาของกิน อิ่มแล้วก็นอน ตื่นอีกที 5 ทุ่มเลยค่ะ
เดี๋ยวนี้จำความฝันไม่ค่อยได้ ... เว้นแต่เรื่องที่อยากให้จำจะจำได้แม่น
สมุดบันทึกก็เอาไว้ตรงที่นอนเลย กะว่าตื่นมาแล้วต้องจดไว้ก่อน 5555
แต่ลืมทุกทีสิน่า >.<" ... ก่อนนอนจะเขียนบันทึกไว้ค่ะว่ามีอะไรสำคัญๆ เกิดขึ้นบ้าง
เผื่อว่า ถ้านอนแล้วไม่ได้กลับมา ก็เอาไว้ให้คนที่บ้านอ่านเล่น ^^
สมบัติที่ซ่อนไว้ทุกซอกทุกมุมก็อยู่ในสมุดบันทึกนี้แหละขอรับ .. ชอบซ่อนไว้ แล้วลืมเองก็มี 555

แต่มีเรื่องนึงค่ะที่น่าตกใจ

เมื่อวานนี้ฝนนับเงินในกระเป๋า จำได้ว่ามีแบงค์พันใบนึงที่เหลือเป็นแบงค์ร้อยหมด แล้วก็ม้วนๆ ไว้ในกระเป๋า ตั้งใจว่าวันนี้ จะกดตังเพิ่มอีกห้าร้อย เพราะต้องไปจ่ายค่าบ้านให้คุณพ่อ
แต่ตอนเช้า ไปซื้อของหน้าปากซอย เปิดกระเป๋าตังมาต้องตกใจ เพราะแบงค์ห้าร้อยมาจากหนายยยย ....

 

สวัสดีค่ะ ท่านประธาน พี่รั้ง และเพื่อนๆ พี่น้องที่น่ารัก ทุกท่าน มาเล่าความฝันค่ะ เมื่อคืน ฝันว่า ผีผู้หญิงนอนอยู่กับผู้ชาย แล้วเราไปเห็น เราจะเข้าไปช่วยผู้ชาย แต่ผีไม่ยอม ไล่หลอกเราก้เลยวิ่งไปหาคนมาช่วย มีญ. คนนึ่งมากับเรา แต่พอเจอผีก็หนีกันกระจาย เราเอาๆไฟฉายส่องหน้าผี ผีก็ไล่เข้ามา เราจะท่องชินบัญชรแต่จำไม่ได้ จนผีเข้ามาจะถึงตัว ก็เลยท่อง ชินะ บัญชะระ แล้วก็มีไม้เท้าลอยลงมาตรงกลาง และไม้เท้าก็งอกออกมาเรื่อย เราก็ตื่นดุนาฬิกา 5.15น.
(ไม่รู้ว่ากลัวผีมากไปป่าวเลยเก็บไปฝัน)

 

ของตัวเองซ่อนแล้วลืมหรือเปล่า? ล้อเล่นค่ะ คงมีใครมาแอบใส่ไว้ให้มั้ง
พี่ก็เคยเจอบ่อยๆ ค่ะ แบบนี้ บางทีบ่นว่าไม่มีเงิน ประหยัดแบบสุดๆ
ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมดออกไป ปีนั้นทั้งปี เรียกว่าจนสุดๆ
ตัดแม้กระทั่งเงินค่าขนมหลานไปโรงเรียน ปีถัดมา เก็บบ้านทำความสะอาด
พี่จะชอบรื้อบ้าน โยกย้ายเฟอร์นิเจอร์ค่ะ เวลาทำความสะอาด จะทำให้หมด
ทุกซอกทุกมุม เพราะฉะนั้น ข้าวของชิ้นใหญ่ๆ จะถูกเคลื่อนย้าย เพื่อเราจะ
ได้ทำความสะอาดบริเวณนั้นได้อย่างทุกซอกทุกมุม

เจอค่ะ...เจอเงินทุกที แบงก์พันเนี่ย เจอประจำ บางทีก็อยู่ปนกับกองเสื้อผ้า
บางทีก็อยู่ในหนังสือ พอเจอปุ๊บ ถึงได้รู้ว่า...เราซ่อนเอาไว้เอง ไม่ได้ซ่อน
ใครหรอกค่ะ ซ่อนตัวเองนี่แหละ เก่งมั้ย? ไม่ชอบใช้บัตรเอทีเอ็ม ไม่ใช้บัตรเครดิต
เวลาจะไปถอนเงินที ก็ต้องใช้ใบถอนเงิน คือเรียกว่าทำทุกอย่างให้มันยากไว้
เนื่องจากเป็นคนที่ติดนิสัยสะดวกสบาย ก็เลยต้องดัดนิสัยตัวเองโดยให้ทุกอย่าง
มันยากเข้าไว้ พอรู้สึกว่ายากก็จะไม่ทำค่ะ เช่น ไปธนาคารเพื่อถอนเงิน เป็นต้น

 

สวัสดีคะท่าน คุรุวาโ พีรั้ง น้องดา พี่มุ๊ก คุณฟ้ามุ๋ย คุณมิก คุณฝน ท่านหนอ คุณปทุมเกษร คุณมณีสีรุ้ง คุณจันทระ คุณhustin คุณAPPLE304 คุณjernnrej_11
พี่นิด คุณกิ่ง คุณฝ้าย และคุณฝ้าย10 พี่ๆ เพื่อนๆ ณ นคร แห่งนิทาน ทุกๆท่านคะ ทั้งแขกที่ทาเยื่อนแต่ไม่ได้เอ๋ยนาม หวังว่าทุกท่านสะบายดีกันนะคะ คนไหนไม่สะบายขอให้หายวัน หายคืนคะ คนไหนสะบายดี ขอยิ่งๆ สะบายคะ

บุญรักษานะคะทุกๆท่าน
พิมพัดดา