หลวงพ่อวิชัย เขมิโย พูดถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำและมโนมยิทธิ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Natthakorn, 19 สิงหาคม 2012.

  1. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    a.jpg
    การแสดงพระธรรมเทศนา โดยหลวงพ่อวิชัย เขมิโย
    ช่วงตอบปัญหาธรรมะ ณ กลุ่มสมาธิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕


    หากมีข้อผิดพลาดประการใด กราบขอขมาต่อพระรัตนตรัย พระเดชพระคุณหลวงพ่อวิชัย เขมิโย และพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    หากแม้มีส่วนของความดีเกิดขึ้น ขอยกความดีนั้นถวายบูชาแด่ดวงแก้วทั้งสามและพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองครับ

    ข้อความในวงเล็บ เป็นการอธิบายเพิ่มเติม ของผู้ถอดเทป เพื่อความเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น


    " หลวงพ่อฯ(หลวงพ่อวิชัย)ชอบไปนั่งศาลาแก้วร้อยเมตร...(วิหารหารร้อยเมตร วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี )
    ครั้งสุดท้ายที่หลวงพ่อฤาษีฯจะมรณภาพ โยม คนเรานะโยมถ้าจะตายจริงๆ ภาษาเรานี่ หนึ่งถ้าเขาสลบไป ถ้าเยี่ยวออก แสดงว่าธาตุข้างในมันแตก ตายแน่นอน นี่ถ้าออกทั้งอาเจียนทั้งอุจจาระออกหมดนะ คุณอันนี้ก็เลยมาถามหลวงพ่อฯ(วิชัย)โทรมาถามหลวงพ่อว่า...

    'เห้ย คุณเข็ม ชื่อเล่นชื่อเข็ม หลวงพ่อไม่กล้าทำนายหรอกสำหรับหลวงพ่อ(ฤาษีลิงดำ) หลวงพ่อ(ฤาษีลิงดำ) ท่านเป็นอย่างนี้หลายครั้ง ท่านอยากไปก็ไปของท่าน ท่านจะกลับมาก็กลับมาของท่าน หลวงพ่อฯ(วิชัย)เป็นพระธรรมดาจะไปทำนายท่านได้ไง แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาคราวนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไปแน่นอน เพราะว่าถ้าธาตุมันแตกคุณโยม มันจะออกข้างบน ออกข้างล่าง แน่นอน ถ้าเป็นคนธรรดาไม่นาน แต่สำหรับหลวงพ่อฤาษีฯ ท่านมีอภินิหารของท่านเนาะ ท่านจะไปก็ไปท่านจะมาก็มาของท่าน อ่า เป็นอย่างนั้นนะ แต่ท่านก็ไปจริงๆโยม ไปตอนนั้น'

    พิธีกร : 'ไปนิพพานใช่ไหมครับ'
    ' ไปนิพพานของท่าน ไปไม่กลับ หลับ ไม่ตื่น ฟื้นไม่มี ไม่มาเลย หลวงพ่อฤาษีฯเป็นเรื่องอัศจรรย์หลายอย่าง ขออภัยนะ อย่าปรามาสท่านเด็ดขาด(ท่านขึ้นเสียงสูง พร้อมยกนิ้วชี้ขึ้น) หลวงพ่อฯ(วิชัย)เคยเห็นมากับตา กับตามาแล้วนะ เล่าเรื่องไม่ดีหลวงพ่อฤาษีฯนี่ หลวงพ่อนั่งรถไปพอดี หลวงพ่อ(วิชัย)ไปเทศน์
    ก้อนหินก้อนขนาดนี้โยม นั่งรถบัสไปนะ เขวี้ยงใสกระจกแตกตุ้บ พวกนั้นเลือดสาด คนหนึ่งเกือบตาย แอ้ก แอ้ก แอ้ก แอ้ก แอ้ก อยู่นั่น ใส่ตรงนี้ เขียว ห่อเลือด ลอดข้ามหลวงพ่อ(วิชัย)ไป… แต่ไม่เป็นไรนะ สุดท้ายได้ยินเสียง อืก อืก อืก ข้างหลัง เอ้าใคร มองไป ตาค้าง หลวงพ่อ(วิชัย)ใช้ตรงนี้แหละโยม(เส้นประสาท ใต้ข้อมือ) ถ้าลูกชักหรือใครชักก็แล้วแต่ เกิดอุบัติเหตุอะไร จับตรงนี้ (เส้นประสาท ใต้ข้อมือ) จากจิตสู่จิต พยายามให้หัวใจของเขาเต้นในระดับของเรา ฟื้นทันทีเลย อันนี้ก็เหมือนกัน พอหลวงพ่อจับตัวนี้ โห เตรียมอากาศไว้เป็นถัง โห ชื่อโยมรัก เอ้อ ผมไม่ตายแล้วหลวงพ่อ พูดเรื่องหลวงพ่อฤาษีฯ อย่านะ องค์นี้อย่าปรามาสนะโยม หลายเรื่องหลวงพ่อฤาษีฯ ไปปรามาสท่าน ขอเตือนไว้หน่อย เพราะท่านไม่ใช่ธรรมดา องค์อื่นเราไม่บอก เราไม่รู้ องค์นี้หลวงพ่อฯเห็นหลายครั้งที่คนปรามาสท่านนะ เรียบร้อยทั้งนั้นแหละ อ่า …….(ขอสงวนนาม)ใครเป็นพี่น้องขออภัยด้วยนะ เขียนหนังสือด่าท่าน สมัยก่อน หาว่าท่านโกหกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าพระอย่างนั้นอย่างนี้ เรียบร้อย ทุกรายแล้ว หลายราย หลวงพ่อเจอ เพราะฉะนั้น หลวงพ่อฤาษีฯนี่ เทิดทูน เทิดทูนจริงๆ ท่านสอนมโนมยิทธิ มันก็ไปได้จริงๆ ท่านจะมาโกหกให้เสียเวลาทำไม นี่ มีอีกองค์หนึ่งนะ (โยมคนหนึ่ง) อยู่ข้างหน้า หลวงพ่อ(วิชัย)ก็เปิดเทปหลวงพ่อฤาษีฯออกอากาศ (ที่วัดมีสถานีวิทยุ) ฟังได้ถึงประเทศพม่านะโยม (วัดหลวงพ่อวิชัย คือวัดถ้ำผาจมอ. แม่สาย จ.เชียงราย เป็นวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย ชายแดนไทย - พม่า ) ตกกลางคืนมาแกก็ฟังหลวงพ่อฤาษีฯเทศน์ กลางคืนมาก็เห็นหลวงพ่อ(หลวงพ่อฤาษีฯ)อยู่ฝั่งนี้ หลวงพ่อหนูอยากไปหาหลวงพ่อ(ฤาษีฯ) เห้ย มายังไม่ได้หรอกลูก เชือกผูกเอว ผูกแขน ผูกคอ เจ้าอยู่นั่น มายังไม่ได้ ผู้มาที่นี่มันต้องหมดห่วง ……ศรัทธาหลวงพ่อ(ฤาษีฯ)มาก นี่เรื่องจริงนะ มาเล่าให้โยมฟัง เรื่องจริงเลยทีนี้ … "


    บันทึกเทปโดย ไพรัชณ์ ตั้งจารุพงศ์สกุล ปี ๔ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ

    ถอดเทปโดย ณัฏฐกรณ์ นะวะสด ปี ๔ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

    (เป็นเป็นประจักษ์หลักฐาน ว่ามีตัวตนจริงยืนยันได้ )
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  2. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    [​IMG]

    ส่วนนี้ผมเพิ่มเติมให้ครับ

    รุ่งจดบันทึกไว้เมื่อครั้งไปอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อวิชัยที่วัดถ้ำผาจม ขอคัดเอาบางตอนที่พอจะเล่าแบ่งปันให้ทุกท่านฟังได้ และขออนุญาต ตัดบันทึกบางส่วนที่ลึก ไม่สมควรเผยแพร่ออกนะครับ



    " ... พระเจ้าพรหมท่านรบเก่ง รบเก่งมากนะ พระเจ้าพรหมท่านก็เกิดที่นี่นะ แม่สายเรานี่ ใกล้ๆนี่เอง (ใกล้วัดถ้ำผาจม) รบไปจนถึงกำแพงเพชร รู้ไหมทำถึงชื่อว่าเมืองกำแพงเพชร คือพระเจ้าพรหมท่านรบเก่ง เก่งมาก เทวดาเขากลัวพระเจ้าพรหมจะฆ่าคนมาก ฌาน จะเสื่อมเลยเนรมิตกำแพงเป็นเพชรขึ้นมากั้น พระเจ้าพรหมเลยกลับขึ้นมาโยนกเรานี่ กลับมาครองเมืองที่นี่ ... "

    " ... พอชาติสุดท้าย ท่านก็บวชเป็นพระแล้วก็ได้ไปนิพพานแล้ว คือหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง นะ ... "

    (รุ่งเลยถามหลวงพ่อ อีกครั้ง "ท่านไปนิพพานแล้วหรือครับ ")

    "ไปนิพพานแล้ว"

    "ท่าน(หลวงพ่อฤาษีฯ)เคยบอกหลวงพ่อนะ หลวงพ่อฤาษีฯท่านว่า'เราอย่ามีเวรมีกรรมต่อกันนะ'(เคยมาเก็บส่วย สมัยเกิดเป็นพระเจ้าพรหม )
    หลวงพ่อฯ(วิชัย)จะไปมีอะไร บารมีท่านเหมือนพระจันทร์ ของหลวงพ่อฯ(วิชัย)เหมือนหิ่งห้อย ทุกวันนี้ยังอาศัยบารมีท่านอยู่เลย หลวงพ่อสายรุ้งด้วย เทวดา นาคด้วย เขามาช่วยกันสร้างวัด......"

    วัน๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๔

    ณัฏฐกรณ์ ผู้บันทึก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  3. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078

    [​IMG]
    ที่ผมโพสต์เรื่องนี้ เพราะว่า หลายท่านที่ผมรู้จักเป็นจำนวนมาก มักจะปรามาสจาบจ้วงหลวงพ่อฤาษีฯ ซึ่งผมเองรู้สึกสงสาร เพราะเขาได้สร้างบาปกรรมให้กับตัวเขาเอง ทั้งๆที่เขายังไม่เคยศึกษาคำสอนว่าท่านสอนอะไรบ้าง ยังไม่เคยลองไปประพฤติ หรือศึกษาให้เกิดความเข้าใจ สักแต่ฟังคนอื่นเขาเล่าว่า เป็นอย่านั้นอย่างนี้ สอนผิด และมีอคติ ผมไม่ได้มีเจตนาว่า ท่านที่เข้ามาอ่าน ต้องศรัทธาหลวงพ่อฤาษีฯ เพียงแต่ว่าอยากจะท่านที่เคยปรามาสหลวงพ่อฤาษีฯนั้นได้พิจารณา ลองคิดวิเคราะห์ ถึงโทษบาปกรรมที่เคยล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ เมื่อเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ก็กราบขอขอมาต่อพระรัตนตรัย ต่อพระสุปฏิปันโนที่เราเคยล่วงเกิน ต่อหลวงพ่อฤาษีฯ เพราะการล่วงเกินต่อพระอริยเจ้านั้นมีโทษมาก



    "ฉันนับถือสายนี้สายเดียวสายอื่นไม่นับถือ ฉันศรัทธาต่อครูบาอาจารย์ของฉันเพียงรูปนี้รูปเดียวเท่านั้น แต่เราลืมไปว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้บรรลุเข้าถึงธรรมแล้ว ถือเป็น พระสงฆ์ เป็นสังรัตนะในพระพุทธศาสนา เรานับถือพระสงฆ์นับถือคุณงามความดีของท่าน ไม่ได้ยกเว้นว่าท่านอยู่สายใดนิกาย เรานับถือสายใดสายหนึ่งเป็นพิเศษนั้นไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การที่เราเที่ยวติเตียนท่านผู้ทรงความดีทั้งหลายนั้นก็ย่อมมีโทษ มีภัยแก่ตัวเราเอง ขัดขวางต่อการบรรลุมรรคผลนิพพาน แม้ผู้ปราถนาซึ่งพระพุทธภูมิโพธิญาณก็จักทำให้เนิ่นนาน เนิ่นช้ายิ่งๆขึ้นไปอีก "

    จึงขอแบ่งปันเรื่องราวให้ทุกท่านได้พิจารณาแลกเปลี่ยนกันตามสมควรครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  4. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    [​IMG]


    กรรมในการปรามาสหรือล่วงเกินพระอริยะเจ้า

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖
    อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
    พยสนสูตร
    [๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลายกล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย ๑๐ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส
    ความฉิบหาย ๑๐ อย่างเป็นไฉน คือ
    ภิกษุนั้นไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ ๑
    เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว ๑
    สัทธรรมของภิกษุนั้นย่อมไม่ผ่องแผ้ว ๑
    เป็นผู้เข้าใจว่าตนได้บรรลุในสัทธรรมทั้งหลาย ๑
    เป็นผู้ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ๑
    ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง ๑
    ย่อมถูกโรคอย่างหนัก ๑
    ถึงความเป็นบ้า มีจิตฟุ้งซ่าน ๑
    เป็นผู้หลงใหลกระทำกาละ ๑
    เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใดด่าบริภาษเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย กล่าวโทษพระอริยะ ภิกษุนั้นจะไม่พึงถึงความฉิบหาย ๑๐ อย่างนี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส ฯ
    จบสูตรที่ ๘

    ขอบพระคุณ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=23511
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 95.jpg
      95.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.3 KB
      เปิดดู:
      4,367
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  5. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078

    [​IMG]
    หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านมีเหตุผลหลายๆประการ ที่ให้เก็บสรีระสังขารขององค์ท่านไว้ เหตุผลหนึ่งที่ผมเข้าใจเอาเอง คือ เพื่อให้ผู้ที่เคยปรามาสองค์หลวงพ่อฯได้มีโอกาส มากราบขอขมาลาโทษ เพื่อจะได้พ้น หรือเบาบรรเทาเบาบาง กรรมอันเคยได้ปรามาสองค์หลวงพ่อฯ เพราะว่าการปรามาสพระอริยเจ้านั้น ปิดกั้นซึ่งคุณความดี และมีโทษหนัก ดังที่ได้แสดงไว้ในเบื้องต้นแล้ว องค์หลวงพ่อท่านก็คงทราบดี ว่าต่อไปจะในอนาคต จะมีคนปรามาสท่านมาก แม้กระทั่งชื่อเสียงเรียงนามของท่าน วึ่งเหล่านั้นเป็นโทษ เป็นกรรมต่อตนเอง แต่ภายหลังเมื่อได้ศึกษาและมีความเข้าใจ ก็จะเกิดเดือดร้อนใจว่าได้กระทำกรรมอันไม่งาม การที่ยังคงมีสรีระสังขารหลวงพ่อฯ เหตุผลส่วนหนึ่ง ก็คงจะได้ให้ท่านที่เคยล่วงเกินได้เดินทางไปที่วัดท่าซุง เพื่อขมาโทษบาปกรรมที่ได้ล่วงเกินไปแล้ว




    ข้อมูลเพิ่มเติม

    สองบทว่า อริยานํ อุปวาทกา ความว่า สัตว์ทั้งหลายผู้มีความเห็นผิด เป็นผู้ใคร่ซึ่งความฉิบหายมิใช่ประโยชน์ กล่าวใส่ร้าย. มีคำอธิบายว่า ด่าทอ ติเตียนพระอริยเจ้าทั้งหลาย คือพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสาวกของพระพุทธเจ้า โดยที่สุด แม้คฤหัสถ์ผู้เป็นพระโสดาบัน ด้วยอันติมวัตถุ หรือด้วยการกำจัดเสียซึ่งคุณ.
    ในการกล่าวใส่ร้าย ๒ อย่างนั้น บุคคลผู้กล่าวอยู่ว่า สมณธรรมของท่านเหล่านั้น ไม่มี, ท่านเหล่านั้น ไม่ใช่สมณะ ดังนี้ พึงทราบว่า ชื่อว่ากล่าวใส่ร้ายด้วยอนติมวัตถุ. บุคคลผู้กล่าวอยู่ว่า ฌานก็ดี วิโมกข์ก็ดี มรรคก็ดี ผลก็ดี ของท่านเหล่านั้น ไม่มี ดังนี้ พึงทราบว่า ชื่อว่ากล่าวใส่ร้าย ด้วยการกำจัดเสียซึ่งคุณ. ก็ผู้นั้นพึงกล่าวใส่ร้ายทั้งที่รู้ตัวอยู่ หรือไม่รู้ก็ตาม ย่อมชื่อว่า เป็นผู้กล่าวใส่ร้ายพระอริยเจ้าแท้ แม้โดยประการทั้งสอง. กรรม (คือการกล่าวใส่ร้ายพระอริยเจ้า) เป็นกรรมหนัก เป็นทั้งสัคคาวรณ์ (ห้ามสวรรค์) ทั้งมัคคาวรณ์ (ห้ามมรรค)

    เพราะฉะนั้น ผู้ใดแม้อื่น กล่าวใส่ร้ายพระอริยเจ้า ผู้นั้นไปแล้ว ถ้าท่านแก่กว่าตนไซร้, ก็พึงให้ท่านอดโทษให้ ด้วยเรียนท่านว่า กระผมได้กล่าวคำนี้และคำนี้กะพระคุณเจ้าแล้ว ขอพระคุณเจ้าได้อดโทษนั้นให้กระผมด้วยเถิด.
    ถ้าท่านอ่อนกว่าตนไซร้ ไหว้ท่านแล้วนั่งกระโหย่งประคองอัญชลี พึงขอให้ท่านอดโทษให้ ด้วยเรียนท่านว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ! กระผมได้กล่าวคำนี้และคำนี้กะท่านแล้ว ขอท่านจงอดโทษนั้นให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด.
    ถ้าท่านไม่ยอมอดโทษให้ หรือท่านหลีกไปยังทิศ (อื่น) เสีย พึงไปยังสำนักของภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ในวิหารนั้น, ถ้าท่านแก่กว่าตนไซร้ พึงยืนขอขมาโทษทีเดียว ถ้าท่านอ่อนกว่าตนไซร้ ก็พึงนั่งกระโหย่งประคองอัญชลี ให้ท่านช่วยอดโทษให้ พึงกราบเรียนให้ท่านอดโทษอย่างนี้ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ! กระผมได้กล่าวคำนี้ และคำนี้กะท่านผู้มีอายุชื่อโน้นแล้ว ขอท่านผู้มีอายุรูปนั้นจงอดโทษให้แก่กระผมด้วยเถิด
    ถ้าพระอริยเจ้ารูปนั้นปรินิพพานแล้วไซร้, ควรไปยังสถานที่ตั้งเตียงที่ท่านปรินิพพาน แม้ไปจนถึงป่าช้าแล้ว พึงให้อดโทษให้เมื่อตนได้กระทำแล้วอย่างนี้ กรรมคือการใส่ร้ายนั้น ก็ไม่เป็นทั้งสัคคาวรณ์ มัคคาวรณ์ (ไม่ห้ามทั้งสวรรค์ทั้งมรรค) ย่อมกลับเป็นปกติเดิมทีเดียว.



    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=1&i=1&p=12#การด่าพระอริยเจ้าห้ามสวรรค์และห้ามมรรค
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • tasung2.jpg
      tasung2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      371.3 KB
      เปิดดู:
      4,655
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  6. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    [​IMG]
    [​IMG]


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=uDeBW4irlyE"]http://www.youtube.com/watch?v=uDeBW4irlyE[/ame]


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (ว่า 3 จบ)
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
    อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
    อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ (ถ้าหลายคนว่า … ขะมะตุโน ภันเต ฯลฯ)

    หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดีด้วยทางกายก็ดี หรือวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี และมีเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมรสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ


    http://www.en.rmutt.ac.th/prd/indexoo22.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  7. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    เราก็ช่วยแนะเขาเท่าที่ได้ ส่วนพวกถือดี มีมานะ แน่ว่าข้าเก่ง เราก็คงได้แต่อุเบกขา รอเวลาที่เขาจะตื่นจากหลับไหลในอวิชชา
    สิ่งที่พระคุณหลวงพ่อท่านสอน ท่านให้ตั้งแต่เริ่มต้น กระทั่งสุดท้าย อ่านเข้าใจง่าย ทำได้ทันที แต่ต้องวางความคิด เรียนแบบโง่ ๆ เชื่อไป ทำไป ถ้าไม่ได้ ก็ค่อยไม่เชื่อ แต่ส่วนมากมักจะไม่เชื่อ หรืิอไม่ก็ทำยังไม่ถึงที่ท่านบอกก็จะเอาผลแล้ว พอไม่ได้พาลไม่เชื่อไปเสียอีก
    ธรรมดาของโลก คนจะเข้านิพพานใช่ว่าจะมากมายทั้งโลก (สมัยนี้) ยังมีอีกเยอะ ขึ้นกับบุญที่อกุศลกรรมที่ก่อ

    ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้นะครับ
     
  8. Scorpius

    Scorpius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +647
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญครับ

    โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการปรามาสพระและอ้างอิงพระไตรปิฏกนั้น สุดยอดจริงๆ ครับ
     
  9. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    โควตข้อความจากด้านบนนะครับ


    "บุคคลผู้กล่าวอยู่ว่า ฌานก็ดี วิโมกข์ก็ดี มรรคก็ดี ผลก็ดี ของท่านเหล่านั้น ไม่มี ดังนี้ พึงทราบว่า ชื่อว่ากล่าวใส่ร้าย ด้วยการกำจัดเสียซึ่งคุณ. ก็ผู้นั้นพึงกล่าวใส่ร้ายทั้งที่รู้ตัวอยู่ หรือไม่รู้ก็ตาม ย่อมชื่อว่า เป็นผู้กล่าวใส่ร้ายพระอริยเจ้าแท้"
     
  10. Allymcbe222

    Allymcbe222 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +1,445
    อิอิ คนปรามาสหลวงพ่อวัดท่าซุง หาได้โดยทั่วไปเลยครับ เพราะมีมาก
    ส่วนใหญ่ก็โจมตี "มโนมยิทธิ" เป็นหลัก
    โดยเข้าใจเอาเองว่าหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านสอนธรรมะแค่ระดับ นะมะพะธะ อย่างเดียว
    แล้วก็พาไปดูแต่วิมานที่นิพพานอะไรก็ไม่รู้ สอนให้ไปหลงในนิมิต เป็นแค่สมถะ
    วิปัสสนาต้องไม่ใช่แบบนี้หนอ แต่ต้องเป็นแบบไหนกันหนอ

    หนักหน่อยก็ว่าเห็นน่ะจริง แต่สิ่งที่เห็นไม่จริง มโนมยิทธิเป็นของเทียม กสิณเป็นของเทียม!!

    หึหึ น่าสงสารครับ แต่ถ้าไปทะเลาะกับเขา เราก็น่าสงสารยิ่งกว่า
    ปัจจุบัน ผมพยายามบอกกล่าวผู้คนเหล่านั้นเสมอ
    ว่าหลวงพ่อท่านสอนอะไรบ้าง นอกจากมโนมยิทธิ
    แม้แต่มโนมยิทธิก็ตาม หลวงพ่อท่านบอกวิธีพิสูจน์เอาไว้อย่างไร ว่าเห็นจริงหรือภาพหลอน

    แต่ถ้าบอกกล่าวกันไม่ได้ ก็อุเบกขาเป็นหลักครับ อิอิ
     
  11. Gearknight

    Gearknight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +234
    ผมก็ฝึกตามที่ท่านสอน และก็เป็นไปตามที่ท่านได้สอนทุกอย่าง ก็แค่นั้น ท่านไม่ได้โกหกเลยนะจ๊ะ ไม่เชื่อลองต้องพิสูจน์ ก่อน
     
  12. Kanita

    Kanita เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +381
    ขอโมทนาในความดีของคุณ ณัฐกร ด้วยครับสาธุ การปรามาสต่อพระรัตนตรัย และ ปรามาสต่อ พระอริยเจ้า นั้นเป็นโทษมหันต์ ตัดมรรคผลนิพพาน ครับ
     
  13. topnank

    topnank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,899
    ค่าพลัง:
    +874
    หลวงพ่อนิยม เรปาจารย์ เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อวิชัย

    ท่านได้มีความเพียรในการปฏิบัติ มาก ท่านจะทำวันละ 14 ชั่วโมง ทุก วัน เพื่อจะเอาชนะกิเลสให้ได้ และแล้วท่านก็สำเร็จดังที่ท่านตั้งใจไว้ ไม่ต้องแบกโลกอีกต่อไป เบาสบายอย่างยิ่งยวด
    นั่งจนก้นแตกเป็นแผล แต่ก็คุ้ม เมื่อหยุดการเกิดได้แล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. topnank

    topnank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,899
    ค่าพลัง:
    +874
    หลวงพ่อนิยม ท่านเล่าเรื่องต่าง ๆให้ฟัง ว่า เมื่อก่อนไปเป็นตำรวจยศ พันตำรวจเอก เหลืออีกไม่กี่ปีก็ขึ้นเป็นนายพลแล้ว แต่ด้วยความเบื่อทางโลกอย่างมาก จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ แล้วหาครูบาอาจารย์ให้ช่วยสอนกรรมฐาน เช่น ท่านไปหา หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านได้ถามหลวงพ่อเกษมสั้น ๆ ว่า สิ่งที่ท่านตั้งใจไว้จะสำเร็จมั้ย หลวงพ่อเกษมท่านตอบทันทีว่า สำเร็จ ท่านถามหลวงพ่อเกษมอีก 1 ข้อ คือรถจีปที่ท่านกำลังอยากจะขายอยู่จะขายได้มั้ย หลวงพ่อเกษม หงายหลังพิงข้างฝาเลย แต่การไปคราวนั้น หลวงพ่อเกษม ท่านก็ไม่ได้สอนอะไรเลย

    ไปหา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ โดยให้เพื่อนท่านพาไปเพราะเขาเข้าถึงหลวงพ่อได้ง่าย พอไปถึงวัดท่าซุง ก็เดินไปที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำอยู่ พอมาถึงนั่งสักพักท่านก็บอกกับเพื่อนว่าไม่เขาไปหาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แล้ว แต่ไม่รู้ทำไม เกิดไม่อยากเข้าไปหาอย่างนั่น

    ขึ้นเหนืออีกครั้ง ไปวัดถ้ำผมจม ไปหาหลวงพ่อวิชัย แล้วนำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบท่านแล้วขอเป็นลูกศิษย์ของท่าน หลวงพ่อวิชัย ท่านยิ้ม แล้วก็รับดอกไม้ไว้ แล้วแนะแนวการทำสมาธิให้ แต่ไม่ได้บอกละเอียด บอกแต่ ทำให้ได้ ฌาน 1 แล้วทำไว้ 15 วัน พอวันที่ 16 ให้ขึ้น ฌาน 2 แล้วให้ไปอีก 15 วัน แล้วให้ขึ้น ฌาน 3 แล้วให้ขึ้นไป 15 วันให้ทำ ฌาน 4 บอกท่านแค่นี้

    หลวงพ่อนิยมตอนนั่นท่านเป็นผ้าขาวอยู่ ก็กลับมาทำสมาธิที่บ้าน ทำแบบที่หลวงพ่อวิชัย ท่านบอก แต่ต้องคิดเอง และหาวิธีเข้าให้ได้ (เป็นเรื่องยาก ที่คนไม่เคยมีความรู้เรืองนี้จะทำได้) แต่หลวงพ่อนิยมท่านก็สามารถทำได้ ตามที่หลวงพ่อวิชัย บอก

    หลวงพ่อวิชัย ท่านเดินทางมาที่ กทม. ผ้าขาวนิยม ก็ไปหาท่าน ยังไม่ทันเดินเข้าประตู หลวงพ่อวิชัยก็บอก ผ้าขาวนิยมว่า 1 ขึ้น 4 4 ลง 1 ผ้าขาวนิยม ถามกลับไปว่า ผมทำได้หรือครับ หลวงพ่อวิชัยบอกว่า โยมมีของเก่ามาเยอะ ทำได้

    ผ้าขาวนิยม ก็กลับมาทำที่บ้าน ฝึก แบบ 1 2 3 4 แล้ว 4 3 2 1 แล้วฝึก 1 ขึ้น 4 แล้ว 4 ลง 1 ทำจนเป็น วสี

    เมื่อทำแบบนี้ได้แล้ว ท่านก็ขึ้นเหนืออีก เพื่อไปหาหลวงพ่อวิชัย ช่วงนี้ท่านเริ่มสักเกตว่ามีความผิดปกติกับท่าน คือ ตาท่านเริ่มมองอะไรไม่ชัดเจนเหมือนมีอะไรมาติดที่ตา แล้วเริ่มมองเห็นคนทั่งไปเป็นโครงกระดูก ในหัวของท่านเหมือนมีมดจำนวนมาเดินเต็มไปหมด ท่านมารู้ภายหลังว่า ญาน เริ่มเดินแล้ว

    หลวงพ่อวิชัยท่าน ให้ผ้าขาวนิยมทำกรรมฐาน อยู่คนเดียวนานประมาณ 2 ปี กว่า ก็ออกจากห้องกรรมฐาน แล้วกลับมาที่ บ้านซึ่งอยู่ ที่กรุงเทพ เพื่อปฏิบัติธรรมต่อ เพราะยังไม่สำเร็จ

    จนมาถึงวันที่ท่านไม่มีวันลืมไปจนวันตาย คือวันที่ท่านเอาชนะกิเสลได้ (ชนะได้โดยไม่รู้ตัว)
    พระธรรมกายสีเทาได้ขึ้นตรงหน้าท่าน แล้วค่อยขาวใสเป็นแก้วสวยงามมาก เมื่อท่านออกจากสมาธิ ท่านก็รู้สึกว่าเบาสบายมาก ๆ แต่ก็ปวดหัวอย่างมากเหมือนกัน อาการปวดแทบทนจะไม่ไหว ท่านจึงโทรจิตไปหาอาจารย์วิชัย ว่าทำไมถึงปวดหัวมาก

    อาจารย์วิชัย ท่านบอก ผ้าขาวนิยมให้ขึ้นมาที่วัดในวันนั้นทันที ให้เตรียมผ้าไตร จีวรให้พร้อม วันรุ่งขึ้นท่านจะบวชให้ทันที

    และแล้วท่านก็ได้ออกบวช แต่หลวงพ่อนิยมบอกว่าอาการปวดหัวนั่นก็ยังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน จึงจะหาย ท่านบอกว่า จิตที่บริสุทธินั่นต้องเอาผ้าเหลืองมาห่อหุ้มไว้ ไม่อย่างนั้น ตาย สถานเดียว

    พลังจิต อาจารย์วิชัย หลวงพ่อนิยมท่านเล่าให้ฟัง 2 เรื่อง

    1. มีอยุ่วันหนึ่งพระลูกวัด ได้เกิดคุ้มคลั่งไฟเอามึดฟันคนทั้งวัด คนหนีกระเจิดไปหมด แล้วก็วิ่งมาข้างหลังอาจารย์วิชัย เพื่อจะเอามีดฟันท่าน ยังไม่ทันได้เข้าไปใกล้เลยพระรูปนั่นก็กระเด็นไปไกลมาก แล้ววิ่งหนีออกจากวัดไปเลย

    2. ท่านมีลูกศิษย์อยู่สอง คน เป็นคนธรรมดา สองคนนี้เป็นเพื่อนรักกันมาก และก็ได้ของดีกับหลวงพ่อวิชัยไปห้อยคนละชิ้น ได้ห้อยขึ้นคอ ต่อมาทั้งสองคนได้เกิดเกลียดกันขึ้นมาแล้วได้ตามล้างแค้นกันประเภทว่าต้องตายกันไปข้าง คนชื่อหาญเป็นคนบ้าบิ่นใจร้อนมีปืนประจำตัว

    คนชื่อเก่ง เป็นคนใจเย็น พกมีดประจำตัวเพื่อป้องกันตัว เพราะกลัว นายหาญจะกลับมาแก้แค้น
    และแล้ว ทั้งสองคนนั่นก็มาเจอกันเพื่อจะคิดบัญชีที่ค้างคากันอยู่

    คนชื่อหาญไม่ฟังเสียงชักปืนยิ่งใส่ เก่งไปหลายนัด เก่งวิ่งหนีเพราะคิดว่ายังไงก็สู้ปืนไม่ได้แน่
    พอเสียงปืนสงบลง นายเก่ง ได้นอนตายริ่มแม่น้ำ อาจารย์วิชัยเดิมมาดู นายหาญก็เดินมาหาหลวงพ่อวิชัย แล้ว บอกกับหลวงพ่อว่า ของดีของหลวงพ่อที่ให้นายเก่ง เสื่อมแล้ว

    อาจารย์วิชัยท่านหงายศพขึ้นให้ดู แล้วชี้นิ้วไปที่สร้อยคอมันขาด กระสุนมันถึงเข้า ท่านบอกว่าเก่งมันถึงที่ตายของเข้าตรงนี้ เข้าตามมาแล้วตรงนี้หลายชาติแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2012
  15. topnank

    topnank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,899
    ค่าพลัง:
    +874
    อดีตชาติ มีกรรมต่อกัน

    หลวงพ่อนิยม ท่านเล่าให้ฟังว่า เหตุ ที่ไปหาครูบาอาจารย์หลายองค์แต่ท่านไม่เคยสอนอะไรเลย จนมาหาหลวงพ่อวิชัย ท่านจึงสอนให้ เพราะ ในอดีตชาติ หลวงพ่อวิชัยท่านเป็นแม่ทัพใหญ่ ในสมัยอยุธยา และหลวงพ่อนิยม ก็เป็นรองแม่ทัพ การรบส่วนใหญ่จะขึ้นไปทางเหนือ

    เหตุที่เกิดมาในชาติปัจจุบัน หลังจากสงบศึก ท่านทั้งสองก็ออกบวช เพราะได้สร้างกรรมไว้มากมาย ต้องฆ่าคนเหมือนผักปลา ถ้าเกิดสงสัย นิดเดียว ให้เอาไปฆ่าทิ้งทันที

    หลังออกบวช ท่านก็ได้ตั้งใจทำกรรมฐาน จนสำเร็จในขั้นแรก และก็ได้มรณภาพลงในถ้ำ กรรมดีจึงส่งผลให้ท่านกลับมาเกิดเป็นคนเร็ว และมาถึงชาตินี้ ท่านก็ได้มาสร้างกรรมดีต่อ จนสามารถหยุดการเกิดได้ พ้นทุกข์ ชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกต่อไป(หลวงพ่อนิยม)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2012
  16. topnank

    topnank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,899
    ค่าพลัง:
    +874
    กรรมที่เกิดจากการทำตามหน้าที่
    หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนที่ท่านออกไปปราบพวกพม่า ต้องเด็ดขาด สั่งให้ฆ่าต้องฆ่า สั่งให้เผ่าบ้านเมืองของเขาต้องทำ การทำสงคราม ท่านบอกว่าจริง ๆ ลึก ๆ แล้วมันไม่ใช่สงครามอย่างที่เราเขาใจกัน มันคือการปล้น ระหว่างประเทศ ปล้นเอาเงิน เอาทอง เอาทรัพย์สินมีค่า ทำไปตามกิเลส สนองความอย่าง

    กรรมที่ทำลายบ้านเมืองเขาก็มาสนอง หลวงพ่อในชาติปัจจุบัน คือ ตอนนั่นท่านได้ออกบวช อยู่ที่ถ้ำวัดผาจม ท่านทำสมาธิอยู่ แต่ปรากฏ มีนิมิต ขึ้นมาเห็นเป็น บ้านของท่านที่อยู่ที่ กทม.
    กำลังโดนลื้อถอน (บ้านไม้อย่างดี ราคาแพง) ท่านออกจากสมาธิแล้วไตร่ตรองดูว่าเพราะอะไร
    ญานหยั่นรู้จึงตอบว่ากรรมเก่าในอดีตชาติ มาเอาคือ ท่านเลยปล่อยให้เขาทำต่อไป

    กรรมจากชาติปัจจุบัน
    ตอนที่ท่านรับราชการเป็นดำรวจ เป็นตำรวจ ปราบปราม ท่านเป็นคนเด็ดเดียวมาก ให้ลูกน้องอยู่ข้างหลังตลอด ท่านออกหน้าลุยเอง ถ้ามีการยิงกันท่านก็ต้องโดดก่อน(แต่ไม่เคยโดนสักครั้ง) แต่ท่านเคยยิงคนร้ายตายมา 1 คน และก็ชกต่อย ผู้ต้องหามากมาย จับขังคุกก็มาก
    หลังจากออกบวช อยู่ที่ถ้ำผาจม อยู่ในถ้ำ ท่านได้บอกกับหลวงพ่อวิชัย ว่าท่านต้องขังตัวเองในถ้ำนี้ ประมาณ ปี กว่า ๆ เพราะเขามาเอาคืนแล้ว หลวงพ่อวิชัยท่านพิจารณาว่าเห็นสมควร จึงสั่งแม่ชีให้ ส่งอาหารให้หลวงพ่อนิยม ทุกวัน(วันละมื้อ) กรรมที่เกิดจากจับผู้ต้องหาเข้าคุก ต่อมาก็กรรมที่เกิดจากการยิงผู้ต้องหาตาย ยิงไป 3 นัด เขามาเอาคือ โดยวิธีตอนทำสมาธิ แล้วให้ลูกกระสุนวิ่งไปตามทำแหน่งที่คนร้ายถูกยิง ท่านบอกว่า มันทรมานมากเลย ขนาด ทำฌานอยู่ ก็เจ็บปวดมาก ๆ กว่ากระสุนแต่ละนัดวิ่งผ่านไปต้องใช่เวลาเป็นชั่วโมง ตอนนั่งท่านบอกว่าความเจ็บนั่นทำให้ใจแทบขาด หัวใจเต้นลงช้า ลง ๆ ลง เกือบหยุดหายใจ (เขาไม่เอาถึงตาย) ท่านบอกว่า ถ้าจะขอ อโหสิกรรม ก็ได้แต่ท่านไม่ขอหรอก เพราะทำแล้วต้องรับผิดชอบต่อกรรมนั่น (พระโสดาบัน พระกสิธาคามี พระอนาคามี ไม่สามารถ ขออโหสิกรรมได้)
    ญานหยั่นรู้มาเตือน
    ญานหยั่นรู้มาเตือนว่าอีกไม่เกิน 15 วัน จะโดนรถชน ท่านออกเดินบิณบาตทุกวัน องค์เดียว อายุก็ปาเข้าไป 83-84 แล้ว เดินแทบไม่ไหวแล้ว ช่วงนั่นท่านเดินระวังตัวมาก ๆ 14 วันผ่านไป ไม่เกิดอะไรขึ้น มาเช้าวันที่ 15 ตอนเดินกลับ จู่ ๆ ก็มีรถจักรยานยนต์ วิ่งข้ามฝั่งเขามาชนท่านอย่างแรง ท่านบอกว่าปวดที่ขามาก และก็หายใจไม่ออก ท่านทนไม่ไหว จึงขอออกมาดูกายท่านประมาณ 1 นาที ท่านพิจารณว่าถึงเวลาไปหรือยัง ตรวจดูแล้วยังไม่ถึง จึงกลับเขาไปใหม่ ผลปรากฏคือหน้าแข้งเป็นรู เอานิ้วแหย่เขาไปได้เลย กรรมเก่าเขามารีบมาเอาคืนเพราะเวลาหลวงพ่อใกล้หมดลงทุกที ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2012
  17. พงษ์ศัลย์

    พงษ์ศัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +365
    เริ่ดทุกข้อความ
     
  18. แพรแพร

    แพรแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +638
    โดยส่วนตัวรักและศรัทธาหลวงพ่อฤๅษี เชื่อฟังปฏิบัติตามคำสอนของท่านมาตลอด

    ได้อ่านแบบนี้แล้วชื่นใจคะ ^_^ ขอโมทนากับคุณ ณัฐกรด้วยนะคะ
     
  19. topnank

    topnank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,899
    ค่าพลัง:
    +874
    กรรมที่ผูกกันไว้ พระพุทธองค์ ครั้งในอตีตที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ ในชาติที่ได้เกิดเป็นพญาเหี้ย และท้าวเทวะทัต ได้บำเพ็ญตะบะเป็นฤาษี
    ฤาษี(ท้าวเทวะทัต) มีความคิดอยากกินเนื้อพญาเหี้ย ขึ้นมา จึงวางแผนที่หาทางกินเนื้อพญาเหี้ยให้ได้ แต่ไม่เป็นเช่นนั่นเพราะ พญาเหี้ย มีความฉลาดมาก(พระโพธิสัตว์) รู้ว่าฤาษีคิดไม่ดีกับท่าน ในชาตินี้คิดไม่ดีกับพระโพธิสัตว์
    มาในชาติของพระเวชสันดร ท้าวเทวะทัต ก็มาเกิดเป็น ชูชก มาค่อยคิดไม่ดีกับพระโพธิ์สัตว์
    พอมาเกิดในชาติสุดท้ายของพระพุทธองค์ ท้าวเทวะทัต ก็มาเกิดเป็นพี่เขย นี้เป็นกรรมที่ผูกมัดกันมานาน
     
  20. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    เรื่องขอยืนยันได้ว่าหลวงพ่อท่านพูดจริง ตอนผมบวชเป็นสามเณร ได้มีโอกาสดูแลอุปัฏฐากท่าน ท่านได้เล่าความอัศจรรย์ขององค์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำให้ฟังจนเกิดความปลื้มปีติ ท่านกล่าวไว้ว่า อย่าได้คิดปรามาสท่านเป็นอันขาด เพราะท่านเขาอยู่เหตุการณ์เดียวกับคนที่เพิ่งพูดปรามาสท่าน แล้วเห็นผลที่เกิดขึ้นโดยทันที

    :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...