เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

-เท่าที่พูดมา ผมก็ปะติปะต่อเรื่องทั้งหมดได้แล้วครับ ...
jesdath โพสต์เมื่อ 14-8-2012 15:15 ​

สาธุสาธุสาธุอนุโมทามิ
คำอวยพรคือพลังใจจริงๆนะคะ เราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้
และดีใจมากๆกับพลังบารมีที่ท่านส่งมาให้ค่ะ
ปู่พิฆเนศท่านก็เมตตารุ้งจริงนะคะ เคยมาบอกให้รุ้งไปบอกลูกว่าอย่าไปยืมมอเตอร์ไซด์ใครมาขับ
ถ้าท่านไม่ไปช่วยไว้นะแย่แล้ว ก็เลยบอกลูกว่าห้ามไปยืมห้ามขับ
เขาตกใจแล้วถามว่าใครบอกแม่ แม่ฝันว่าปู่มาบอก
ลูกก็เลยเล่าให้ฟังว่า คืนก่อนไปยืมรถเพื่อนมาขับตอนนั้นสี่ทุ่มแล้ว
เจอด่านเขาตกใจ 1 ใบขับขี่ไม่มี 2 ไม่สวมหมวก 3 รถของคนอื่น
4 กลัวเขายัดยาเพราะแม่เคยเล่าไว้ แต่เขาจอดรถให้ตรวจ
เขามองตำรวจเอามือคว้าตัวเขาสองสามครั้งไม่ถูก
ตอนนั้นเขาบอกคิดอะไรไม่ออกนึกถึงแต่แม่ แม่เชื่อมั้ยรถมันกระชากไปข้างหน้า
เหมือนโดนดึงก็เลยขับต่อหันไปมองตำรวจก็ไม่สนใจเขาแล้ว
เช้าแม่มาบอกเลยนึกว่าตำรวจมาตามใจหายหมด
ที่แท้ปู่มาถีบรถแน่เลยนะ เราก็ได้ทีบอกเออทีนี้ทำอะไรไม่ดีจำไว้
ปู่รู้ปู่ต้องมาบอกแม่อีก ปู่มาอีกจริงๆบอกรุ้งว่า
เอ็งไม่ต้องไปซื้อรถนะเดี๋ยวก็มีรถให้ใช้แถมคนขับ
ปัจจุบันน้องให้ไว้ใช้แถมเราขับไม่เป็นต้องให้ลูกน้องขับให้
(ประสพการณ์เรื่องเทพมาช่วย-ของคุณรุ้งครับ)

สังคมไทย วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาไทย สะสมมาแต่โบราณกาล ด้วยอิทธิพลของพุทธศาสนามาช่วยจรรโลง หล่อหลอมให้คนไทยเป็นคนใจดี มีเมตตากรุณา มีคุณธรรมประจำจิตใจ อย่าให้อารยธรรม(อาระยำทำ)ของต่างชาติมาทำลายได้นะครับพี่น้องครับ

 

สวัสดีครับพี่เจษฎา และพี่ๆเพื่อนๆทุกท่าน มาติดตามอ่านข่าวสารสาระดีๆเช่นเคยครับ และอีกเรื่องที่ผมอยากถามพี่เจษฎาครับ คือว่าเรื่องเทวดาประจำตัว หรือเทพประจำตัวของเรานี้มันมีจริงหรือเปล่าครับ และถ้าหากมีจริงทำอย่างไรเราถึงจะสามารถสื่อสารกับท่านได้ครับช่วยแนะนำผมที

 

มารออ่านค่ะ ติดตามกระทู้คุณ chandayot อยู่เสมอนะคะ
เราเคยทำงานในบริษัทที่เต็มไปด้วยเรื่องชู้สาว โดยคนที่ทำ
ยิ้มรับอย่างหน้าชื่นตาบานแถมเต็มอกเต็มใจป่าวประกาศ
เสียด้วยว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจมากๆ

และแน่นอนว่าเรื่องศีล 5 นั้นเป็นอันไม่มี เมื่อหัวเป็นยังไง
หางก็มักจะเป็นอย่างนั้น คือเป็นกันทุกระดับชั้นเลยทีเดียว
ตั้งแต่เรื่องชู้สาว ยักยอกโกงกิน แบ่งพรรคแบ่งพวก
กินเหล้า เที่ยวกลางคืน (ทั้งหญิงทั้งชายก็พอๆกันเลยแหละ - -")
ไปยันการโกหกหลอกลวงลูกค้า...
พวกเขาพยายามชักจูงให้เราทำตัวเหมือนๆกับพวกเขา
ด้วยการอ้างว่ามันเป็น วัฒนธรรมองค์กร หากเราไม่ทำตาม
แปลว่าเราเป็นพวก อารยขัดขืน พร้อมๆกับข้อหาไม่ปรับตัว,ไม่พัฒนาฯลฯ

เราไม่ได้สนใจเพราะถือว่าหากท่านทั้งหลายเป็นกัลญาณมิตร
กัลญาณชนจริงๆแล้ว คงจะไม่พาข้าพเจ้าไปในทางshipหายเป็นแน่
เราก็ทำงานของเราไป คิดเสียว่ามาปฏิบัติธรรมท่ามกลางบททดสอบ
ในชีวิตประจำวัน

รู้สึกดีใจจริงๆที่ได้ยินบทสนทนาของคุณ chandayot
กับคุณ Prophecy ^^

 

คูณIsreal ครับ ผมอยากบอกว่า ดีใจและเสียใจพร้อมๆกัน
ดีใจที่คุณเป็นคนหนึ่ง ทีไม่ได้หลงไปกระแสสังคมที่ขอบอกว่า ต่ำทราม... จริงอยู่ การแสดงออกของความรัก ก็คือ ความรัก สิ่งประเสริฐ ส่วนเรื่องเพศ--ความใคร่ จะว่าเป็นเรื่องดี ก็ดี แต่.. แต่การมั่วเพศให้เปรอะไปหมด ไม่กลัวแม้แต่โรคร้ายที่ทำให้ตายอย่างทุเรศ หมดสิ้นสง่าราศีของความเป็นมนุษย์

---ถ้าจะคิดว่าการมั่วเพศนั้น เลวกว่าสุนัข เป็ด ไก่ ที่เสพได้แม้แต่ลูก หรือแม่ของมัน -ไม่เลือก ..แต่มนุษย์บางพวกเลวกว่านั้นครับ เนื่องจากมีกรณีอย่างนั้นก็ด้วย ก็ไม่พอครับ สุนัขยังเลือกเวลาที่เค้าเป็นสัดประมาณเดือนสิบสสอง หรือที่หมอสุนัขว่า"ช่วงมีประจำเดือน" แต่มนุษย์เสพสม อย่างตะกละตะกรามโดยไม่เลือกวันเวลา สถานที่ ขอให้ปลอดคนสักหน่อย หรือบางคนจะออกแนวโชว์ด้วยซ้ำไป เรืสรุปว่า 365 วัน และทั้งวันทั้งคืน ไม่ต้องนอนก็ได้ อย่างนี้ต้องเลวกว่าใช่ไหมครับ

----ย้อนกลับไปที่ผมพูดถึงแค่ บ.แห่งหนึ่ง และ บ.ของผม นั่นคือ 12ปีมาแล้วโดยประมาณ แต่นี่ เวลาผ่านไป ทุกสิ่งกลับแย่ลง องค์กรของคุณอิสรีล นับว่า เป็นบริษัทใหญ่ พนักงานดูดี มีชาติตระกูล มีการศึกษา คนสวย คนหล่อ กลับมั่วเพศกันมากขึ้น ยันระดับผู้บริหาร ซึ่งคนเหล่านี้ทั้งผู้บริหารด้วย ไปติดต่องานกับบริษัทอื่น ก็ไปปิ๊ง หรือส่งสายตา ตามด้วยคำพูดสองสามคำพอแก้เขิน ก็โดดใส่กันแล้ว เหมือสงครามจรยุทธที่ว่า "ปะ ฉะ ดะ" ไม่ทันจะถามชื่อเลยก็มี ต้องโทษน้ำเมา(หรือเปล่า)

ส่วนวัยรุ่น ถ้าปิ๊ง บางที่เจอที่ป้ายรถเมล์ หรือบังเอิญนั่งติดกันในรถ ปอ. รถไฟฟ้า--ขอเบอร์-- แชทในเน็ต แคมฟร็อก มากมายที่จะเจอกัน
--- และพนักงานหญิงคนนั้นบอกหน้าตายเฉยว่า "พี่นี่เชยจัง เดี๋ยวนี้ คบกันไม่ถึง 7 วัน ก็ "มีอะไรกัน" แล้ว" นั่นคือ 12ปีก่อนนะครับ

-----สมัยนี้คนที่เป็นแม่ พ่อพิมพ์ เครียดเรื่องหนี้ ไปพิมพ์ตราบาปให้เด็กก็มี เด็กข่มขืนครูก็มี ไม่นับเรื่องในครอบครัว ซึ่งหมอ--ตำรวจก็เตือน "อย่าไว้ใจคนใกล้ชิด" พี่ป้า น้า อา อย่าให้มีโอกาส" หรือ "จ้องหาโอกาส" ก็ว่ากันไป "เป็นยุคสมัยที่เป็นอยู่ยาก ทั้งเรื่องการหาเงินทองมากินมาอยู่ ใช้ --ความสัมพันธ์ระหว่างคน ทุกระดับ ทุกวัย ล้วนอันตราย(คนสร้างธุรกิจหากินแบบหลอกลวง หรืออนาจารทางเพศ) เหมือนเดินบนคนหอกคมดาบ ผมเป็นห่วงแฟนครับทุกท่านอย่าได้ประมาทเลย แม้ใจของตนเองก็ต้องหมั่นดูแลนะครับ"

--ซึ่งผู้รู้ หรือพระท่านบอกว่า "น้ำ คือตัวแทนของกิเลส-กามตัณหา(ตีความหมาย)" น้ำท่วม--ได้สร้างความเสียหาย เดือดร้อนกันถ้วนหน้า แทนที่ใครๆ จะนึกเอะใจ หรือเข้าใจ ละอายใจ หรือก็เปล่า

---- ก็เตรียมตัวไว้ก็แล้วกัน ขนาดว่าประเทศจีนมีระบบจัดการ-บริหารน้ำระดับสุดยอดของโลก มีหน่วยกู้ภัย กองทหาร ยังเจอแบบ 7 วัน พายุสามลูก มหาอำนาจอย่างจีนที่มีกองกำลังเร็วดังสายฟ้าฟาด ยังไปไม่เป็นเลย

-- และที่ผมบอกว่า เทพเริ่มเบื่อระอามนุษย์ จะยอมให้ภัยธรรมชาติล้างโลก ก็อาจจะเป็นจริง เพราะเราสร้างสรรพสิ่งมามัดตนเองง จนสุดท้ายมนุษย์ต้องถูกนำมามาปรับสร้างกันใหม่ เปลี่ยนโลกใบใหม่ ระบบใหม่ที่ต่างจากเดิม เหมือนคนที่เอาแผ่นพลาสติกใสๆมาพันตัวเล่น ไปๆมาๆ รัดเข้ามาที่จมูก จนขาดใจตาย ก็จะโทษใครได้

----ตอบคำถามที่ว่า เทพประจำตัว มีทุกคนไหม มีครับ เป็นพวกเทวดาครับ ถ้ามีเทพชั้นสูง หรือระดับสี่กร เขาเรียกว่า "มีองค์ใน"ครับ เทพไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลานัก แล้วแต่ระดับความรักที่มีต่อกันด้วย ส่วนใหญ่นิสัยจะเหมือนเรา สนใจสิ่งเดียวกัน บางครั้งจะดลใจให้เราตัดสินใจอย่างนีั้น ซึ่งบางครั้งไม่ใช่ ดลใจไม่ถูกทาง ท่านก็เสียใจมาก

--ผมและเพื่อนทั้ง5 คน ที่เรียนคณะวิทย์นะครับ ก็เหมือนได้รับการส่งมาจากพวกเทพ ส่วนใหญ่จะเป็นทหารกันครับ พออายุสัก5ขวบเทพก้เข้าจัดการชีวิต เปลี่ยนเอาเทวดาประจำตัวออกไปครับ ทดแทนด้วยองค์อวตารของเทพครับ ที่ทำเช่นนี้เพราะ1 มีความพัวพันในอดีตชาติ เป็นลูกหลาน ส่วนของพวกผมท่านให้เผยแพร่ธรรมมะ ซึ่งเป็๋นแนวกลางๆ สนุกสนานไม่น่าเบื่อ แบบนี้หละครับ

 

จงดูๆ สูเจ้าทั้งหลายจงดู ล่างขึ้นบน บนลงล่าง หลายงวดแล้ว อาเมน(แซว แฟนคลับเว็ปโน้น ดูๆด้วยเผื่อฟลคครับ)
-เทพทั้งหลาย ขอผมถูกก่อนสองคนนี้ครับ (ขอลุงก่อน ลุงแก่แล้ว จุ๊ๆ อิอิ)

--เนื่องด้วยเราได้พูดถึงลัทธิเต๋า --พุทธนิกายเซ็น ชำแหละกิเลสเรื่องกาม ต่อไปนี้เราจะพักสมอง ฉลองความสำเร็จ ดูหนังฟังเพลง แบบไม่ซีเรียส สักพักนะครับ
--มีคนฝันว่าพญานาคจะออกมา พบปลาประหลาด ออกมาว่ายที่หนองน้ำ ไม่มีใครเคยเห็นปลาชนิดนี้มาก่อน กำลังค้นข่าวอยู่นะครับ
--อ๋อ อิท อิส ปลาชะโดครับ
http://palungjit.org/threads/%E0%B8%95%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93-%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%8A%E0%B8%84.353905/page-2#post6545055

นานมาแล้ว ผมได้แชทกับ นศ.สาวคนนึง สักพักหนึงแกบอกว่า เด็กร้อง ลูกใคร ลูกเธอเอง เธอบอก
ทำไมเป็นนศ.ปีสาม ถึงมีลูก แล้วพ่อเด็กเป็นมคร เธอบอกว่า ไปออกค่ายอาสา และเธอโดนมอมยานอนหลับ คาดว่า โดนเรียงคิวข่มขืน โดยนศ.ผู้ชาย พอเธอท้อง แม่ของเธอแจ้งทางการว่าเป็นลูก และเลี้ยงดูเด็กแทนตัวเธอ ฟังแล้ว ไม่ดีเลย การออกค่าย เป็นการทำประโยชน์ให้สังคม ไม่ใช่รวมหัวกันทำความเลว เห็นมีคลิป นศ.สมสู่กัน ช่วงออกค่าย เฮ้อ เซ้งเป็ดครับ เห็นว่ามีครับ ยังไม่เคยดูครับ
--ห่วงก็เรื่องเด็ก มอ.ต้น ดูจะมีดลิปมาก มากมาย ทั้งตบตีแจ่งผู้ชาย ไม่ผิดกับสัตว์บางชนิด ในฤดูแย่งหาคู่--- วงจรชีวิตเด็กบ้านนอก อายุ 13แต่งงาน อายุ15 อาจจะมาเรียนต่อ หรือเข้ากทม. อาศัยอยู่ตามโรงแรมจิ้งหรีด บริการ2แบบสามแบบ แล้วสุดท้ายก็คือเป็นหมอนวดครับ
--เห็นสาวชาวเขาลูกสาวหัวหน้าเผ่า ผมบอกหัวหน้าอาสาว่า "ดูเธอสวยดีนะ" "ครับ เข้ากทม."แล้ว ไม่รู้ว่าผ่านอะไรมาบ้าง " เฮ้อ เด็กอายุ 18 เนี่ยนะ นี่แค่เลี้ยงแบบคนไทย ที่พัทยา ฝรั่งเอาหนังโป๊ให้ลูกดู เด็กอายุ 13-15 มันก็...เกิด..อารมร์สเน่หาสิครบ เรียกว่าเห็นผู้ชายไม่ได้แล้ว เกิดคึกคะนองทางเพศทันที ทีอย่างที่ไหนเอาน้ำมันเบนซินไปดับไฟ บึ้ม
----การเป็นยามอยู่คอนโดพัทยา ได้เห็นอะไรแปลกๆ แม่มากับลูกสาว เพื่อขายบริการ เด็กอายุไม่ถึงนะครับ12-13 แค่นั้น เราก็ไม่รู้จะพูดยังไง เสื่อมครับ แล้วผู้ชายที่ออกเที่ยวกลางคืน หิ้วเด็กขายบริการมา แต่เป็นผู้ชายด้วยกันครับ--มีมากกว่าผู้ชายที่หิ้วผู้หญิงราว 60-40นะครับ -บางรายเขาว่าขอแต่งงานกัน ได้สินสอดเป็นสิบล้าน--โหมนุษย์นี่ไปไกลเกินจะกู่ให้กลับแล้ว มันผิดธรรมชาติ การผิดธรรมชาติแบบนี้ แม้แต่จักวรรดิโรมันที่ยิ่งใหญ่ กลับต้องล่มสลายอย่างรวดเร็ว
--เนื่องจากรรมการคอนโดเป็นชาวต่างชาติ คือรัสเซีย จึงไม่มีศาลพระภูมิ เมื่อไม่มีศาลพระภูมิ มีที่บังฝน บังแดด พวกผีก็มาอยู่ ดึกๆ มันจะเงียบ เดินตรวจ เหมือนเราเดินผ่านหลุมศพ และมีเรื่องยุง เช่นเจ็บป่วย และมีการตายด้วยครับ พลาดนั่งกินเหล้าตกตึก12 ชั้นลงมาตาย ผมเป็นคนเรียกรถพยาบาลด้วยซ้ำครับ และเดินเคาะห้องดูว่าตกมาจากชั้นไหน จะว่าไป เขาก็เหมือนผู้ที่กระชากใจผมมาสู่ธรรมมะให้เห็นความจริงของชีวิต เขาชื่อมัลค่อล์ม อดีตเคยเป็นผู้คุมที่ประเทศอังกฤษครับ ผมเหมือนทั้งดีใจ เสียใจ พอเล่าให้พี่สาวฟังทางโทรศัพท์ ก็ต้องร้องไห้ออกมาครับ พี่สาวบอกว่า เป็น"ธรรมมะปิติ" ความรู้นี้ยิ่งใหญ่ --เข้ามากระแทกจิตใจ ซึ่งไม่กล้ายอมรับความจริง แต่พบกับความจริงก็ตกใจ ดีใจ และเสียใจ สงสาร จึงร้องไห้ออกมาครับ เทียบกับตึกหนึ่ง(อาคาร เอ) มีศาลพระภูมิ อยู่กันสนุกสนานคึกคัก ไม่มีเหตุอะไร ตึกนี้เดือนเดียว รถพยาบาลวิ่งเข้า 4 ครั้ง คนนึงหัวใจหยุดเต้น ผมช่วยปั๊มหัวใจจนเค้าฟื้นขึ้นมาอีก

--เพื่อนผมบอกว่า อาจจะตั้งบริษัท มีพนักงานหญิง เป็น รปภ.อารักขาพวกคนสำคัญๆ ซึ่งไม่ต้องกลัวพวกเธอจะเสียตัว เพราะเป็นอดีตหมอนวดที่ปลดระวางแล้ว อืม..

 

ภรรยาที่แสนทะลึ่งของผม ชอบพูดแบบว่า "อ๋อ คนเราแต่งงานกันเดี๋ยวนี้ ไม่ได้ต้องการผลผลิตหรอกนะ เค้าเน้นบันเทิงลูกเดียว" แล้วเธอก็ยักคิ้ว ตลกหน้าตาย ในมาดที่ผมคิดว่า "น่าตีสักเพียะ"
--เช้าขึ้นมา ด้วนความรัก สนิทสนม ซึ่งเธอตีความด้วยความซน แก่น เกเร ว่าเป็น "ความมันเขี้ยว" จึงมีรายการแขวะและขู่กันไปมา เทพท่านชอบมาว่า "มึงสองคนนี่ เช้ามา อะไรกันก็ไม่รู้ กัดกันยังกับ มะหมา.." แล้วต่อว่า "เค้าหัวเราะกันจะตาย" เค้า หมายถึง เทพสี่กรครับ และหลายองค์ด้วยครับ
--วันนี้ทำงานกันทั้งหมดบ้าน เจ้าตัวเล็กได้โอกาส "พ่อๆถ่ายรูปให้หน่อย จะเอาลงเฟซ แล้วเธอก็ทำทะลึ่งคือ ซบหน้าลงที่ก้นภรรยาผม ซึ่งยืนอยู่ในที่สูง ผมก็ถ่ายให้ครับ แล้วบอกว่า "ขอซบบ้างสิ" เธอไม่ยอมครับ ถือผูกขาดครับ ซึ่งบ่อยครั้งภรรยาผมบ่นว่า"ทำไมทุกคนต้องมายุ่งกับตูดก้นชั้นด้วย" เจ้าตัวเล็กก็บอกว่า "ตูดแม่หละงาม -น่ารักเป็นอมตะ" ซึ่งทำยังกับเป็นเรื่องจริงจังทางการระดับนานาชาติเชียวหละ เจ้าตัวภรรยาเองเป็นคนทะลึ่งบางครั้งก็ส่ายก้นยั่ว ทำยังกะเซ็กซี่นักหนา แต่ว่าดูแล้วคือเด็กน้อยชัดๆ ก็เลยขำครับ เทพยังมาบอกว่า "เค้าเงื้อมือกันตั้งหลายทีแล้ว แต่ทีนี้พลังของเทพมีเยอะ ตีทีนึงต้องหามเข้าโรงพยาบาล" นี่หละครับ ครอบครัวมหาสนุก กุมารลูกชายผม บางทีแค่มาบ่นๆด่าๆ กระเง้ากระงอดสักพัก เค้าก็อารมณ์ดีแล้ว บางที่เรานั่งดูทีวีกัน ได้คุยกันได้เร็วมาก เหมือนคนทั่วไป ไม่ต้องมานั่งสั่นๆ พวกเทพชอบใช้วิธี วิ่งเข้าชนครับ ปั๊บเดียวเข้าร่างเลย บางทีผมก็ไม่รู้ เรียกว่า มาร้อยครั้งไม่รู้ร้อยครั้งดีกว่า ---จะรู้ตอนท่านพูดออกมาเท่านั้น

--คุณอิสรีลครับ คำว่า "ฉิบหาย" ไม่เพราะก็ใช้ได้ครับ เป็นศัพท์ในพระไตรปิฏกด้วย ไม่เป็นไรหรอกนะครับ แต่เกริ่นๆหน่อยก็ดี "ขออภัยค่ะ" แบบนี้--ถ้าจู่โผล่คำนี้ออกมา จะทำให้ความสวยของคุณลดลง ฟันธงครับ อิอิ
--คุณมังกรน้อย101---- วิธีติดต่อกับเทพ ทำใจให้ว่างเปล่า และบริสุทะธิ์ "ยิ้มน้อยๆในใจ" นั่งสมาธิวันพระ แต่งชุดขาว สัก 10นาที หรือทุกวัน ก็จะดีครับ ไม่ต้องเกร็ง คิด หรือเครียด คิดว่าทำแล้วจชีวิตจะดี จะร่ำรวย แล้วชีวิตก็จะดีจริงๆ เสร็จแล้วอุทิศบุญให้พระพุทธองค์แล้วแผ่เมตตาครับ

 

ได้อ่านเรื่องราวที่คุณ chandayot โพสต์มา ยิ่งรู้สึกเลยว่าสังคมเสื่อมทรามลงมากจริงๆค่ะ
สังคมที่เจริญแต่ทางวัตถุนี่แหละที่ทำให้คนหลงใหลในทะเลแห่งกิเลสตัณหา
ยอมรับนับถือกันก็แต่เพียงเปลือกนอก ฐานะ หน้าตา ชื่อเสียง เกียรติยศหรือแม้แต่
ความรู้ที่เขานับถือกันมันก็เป็นแต่ในแง่มุมของ "ความรู้" แต่ไร้ซึ่ง "ปัญญาญาณ"
การแสวงหาทางจิตวิญญาณจึงกลายเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เพ้อฝันไปเสียนี่

 

อ่านแล้วอารมณ์ดีตามไปด้วยเลยค่ะ ครอบสุขสันต์หยิกแกมหยอก น่ารักจริงๆ 555+
และต้องขออภัยจริงๆค่ะ สำหรับคำว่า "ship หาย" มือมันไปตามความรู้สึกตอนที่พิมพ์นั้นแหละค่ะ
ไม่อยากเปลี่ยนคำ มันไม่ได้ฟีลค่ะ อิอิ ขออภัยอีกครั้งนะค๊า

 

ชอบครับ ขออนุโมทนาูผู้ที่เข้ามาให้ประโยชน์ในกระทู้นี้ทุกท่านเลยครับ และขออนุญาตแอบอ่าน แอบติดตามต่อเลยนะครับ อิอิ

 

จริงครับ วัดค่าของคนกันที่วัตถุ กับรูปกายสวยงาม ข้างในไม่ดูครับ ใครนั่งสมาธิเขาว่าบ้าครับ ใครได้เป็นดาราเขาว่าดีครับ สังคมเสื่อมจริงๆ ครับ ดูคนอย่าดูที่เปลือกนอกครับ เงินทองตายไปเอาไปได้ไหมครับ หรือเป้าหมายชีวิตมีอย่างเดียวคือใครจะรวยที่สุด?? ไม่แสวงหาเงินทองวัตถุเป็นบ้าเป็นหลัง คือคนไร้ค่า?? บาป บุญสิครับ ติดตัวไปแม้หลังความตาย

 

ไปวัดนะครับ แทนที่จะไปเอาธรรมครับ ไปเอาหวยครับ ดูซิครับ ของดีๆ สูงๆ เขาเอาลงต่ำครับ เพชรแท้ๆ ไม่เอา ครับ เอาขี้หมาครับ นี่แหละครับคนไร้ปัญญา พระเขาเทศเขาให้ธรรมไม่ฟัง จะคอยดูว่าพระทำอะไรจะได้ไปตีเป็นหวย คนแบบนี้ครับ เสียชาติเกิดครับ อย่าไปบอกใครเลยครับว่าเป็นชาวพุทธ

 

สาธุ กับคุณ Isreal และ จขกท ได้เข้ามาเว็บพลังจิตยังได้พบผู้ที่มีธรรมะ มีคุณธรรมในใจ ถือเป็นบุญอย่างหนึ่ง เจอดาราแล้วไงครับจะได้ไปลุ่มหลงเขาเพิ่มเหรอครับ เจอคนมีคุณธรรม คนเห็นธรรม เดี๋ยวนี้เกรงว่าจะหายากกว่า

 

แต่ต้องยอมรับครับ คนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ ยังหนุ่มๆ สาวๆ จะหันมาศึกษาธรรมกันมากครับ คงเพราะได้เห็นทุกข์ครับ สมัยนี้โลกเราแก่งแย่งชิงดี ความเครียดรอบด้าน เห็นคนหนุ่มสาวมาศึกษาธรรมเยอะครับ โลกเรามีแต่ทุกข์จริงๆ ครับ ผมเห็นคนเหล่านี้แล้วรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ธรรมะไม่โบราณหรอกครับ ธรรมะไร้เวลาครับ ทันสมัยทุกเมื่อ คนฉลาดมีปัญญาย่อมเห็นคุณค่าอันประมาณมิได้ของพระธรรมครับ

 

-การท่องกาลเวลา หมายถึงการเดินหน้า-- ถอยหลังไปในเวลาที่ต่างกับปจจุบัน
การล่องหน คือการย้ายตัวตน ไปในสถานที่ไกลมาก และแทบไม่เสียเวลาในการเดินทาง
--ชาวต่างดาวยอมรับว่ามีฤาษีโบราณ สามรถล่องหนได้(เดินทางด้วยพลังจิต)

ได้อ่านเรื่องราวที่คุณ chandayot โพสต์มา ยิ่งรู้สึกเลยว่าสังคมเสื่อมทรามลงมากจริงๆค่ะ
สังคมที่เจริญแต่ทางวัตถุนี่แหละที่ทำให้คนหลงใหลในทะเลแห่งกิเลสตัณหา
ยอมรับนับถือกันก็แต่เพียงเปลือกนอก ฐานะ หน้าตา ชื่อเสียง เกียรติยศหรือแม้แต่
ความรู้ที่เขานับถือกันมันก็เป็นแต่ในแง่มุมของ "ความรู้" แต่ไร้ซึ่ง "ปัญญาญาณ"
การแสวงหาทางจิตวิญญาณจึงกลายเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เพ้อฝันไปเสียนี่

สมมุติว่ามีเด็กกลุ่มหนึ่ง อาจจะรวมกลุ่มเพื่อสูบบุหรี่หรือพี้ยา ยุค "อันธพาลคือตัวอย่างที่น่าชื่นชมทางสังคม" (นายตำรวจตั้งร้านอาหารบังหน้าขายยาไอซ์ ค้นเจอแค่ กก.เดียว มีมูลค่า10ล้านบาทครับ มิน่าเสียงแห่งศีลธรรม ช่างอ่อนลงๆ)
--ชาวต่างดาวบอกว่า วิญญาณที่มาเกิดบนโลก เพื่อยกระดับจิตให้หลุดพ้นไป กลับถูกตรึงไว้ ไม่ไปไหนด้วย "วัตถุนิยม" และสิ่งนี้สามรถถ่านทอดไปชั่วลูกชั่วหลานไม่สิ้นสุด
--ต่อเรื่องเด็กกลุ่มหนึ่งครับ หากมีเด็กดีหลงมา ต้องทำตามเค้า เพราะไม่ตามเขาจะแกล้ง ต่างๆนานา ไม่คบหา ไม่พูดด้วย(กดดันเยอะ สำหรับเด็กนะ --รุ่นผมต้องบอกว่า "ขี้หมา" มากๆ) เรียกว่า บอยคอร์ท -Boy Court -บอยคือเด็กชาย คอร์ทคือศาล ในความหมายคล้ายศาลเตี้ย ตั้งกันเอง คือการกระทำ- การกดดันแบบเด็กๆครับ---แล้วใยคนที่เป็นผู้ใหญ่ ""อายุเกิน 20มีหน้าที่การงานดี ทำไมเพื่อนบอกว่า กินเหล้า สูบบุหรี่แล้วจะเท่ --ควงสาว จีบสาว ต้อง "ฟันแล้วทิ้ง"ทำไมต้องเชื่อมันด้วย ผู้หญิงก็คนนะครับ ไม่ใช่แมว ไม่เชื่อลองดักถามสักคนหนึ่ง--- รู้ไหมว่า ผู้หญิงก็มี "ฟันแล้วทิ้ง"เหมือนกัน หลอกให้หลงรักแล้วตีจาก ผู้ชายถึงขนาดฆ่าตัวตายก็ได้ หากมองจากที่สูง เห็นคนมากมาย ดิ้นรนในแนวทางแสนวุ่นวายสับสน ในสังคมที่แสนจะลึกลับซับซ้อน แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนควบคุมด้วยกฏที่เรียบง่ายครับ กฏแห่งกรรม

--ดารารุ่นใหม่ ได้รับการสั่งสอนจากผู้ใหญ่ และผู้เป็นผู้ใหญ่ในวงการ "เครียดมากก็พัก ล้านัก ผิดหวังเสียใจ ให้ไปหาพระธรรม"---มีดาราจีนคนหนึ่งครับ ผู้ชาย บวชเป็นพระครับ---ไม่แปลกเหรอ แปลกซีครับ เพราะพระจีนห้ามสึกครับ โบราณที่ใช้ธุป 9 ดอกจี้หน้าผากครับ เป็นเครื่องหมายว่าตัดคอถวายพระพุทธองค์ แต่เกิดการอักเสบตายก็มี ยุคนี้จึงใช้สวดแทน ปัจจุบันพระรูปนี้จาริกเข้าไปจีนแผ่นดินใหญ่ครับ
--ดาราทุกท่านที่เข้าแดนพระธรรมก็ได้สิ่งดีๆกลับมาครับ นานมาแล้วเห็นเด็กสาวคนหนึ่งคุยกับหนุ่มใต้ถุนแฟลต เดินผ่านไป เธอคุยเรื่องการไปฝึกมโนมยิทธิของหลวงปู่ฤาษีลิงดำครับ

--วิชาไสยศาสตร์ก็มีประโยชน์ในแง่ดึงคนเข้าวัดครับ แล้วก็อยากเก่ง หัดฝึกไปในทางจิตสมาธิ พลิกนิดเดียวจากสมาธิเป็นวิปัสสนาบรรลุได้เลยครับ ถ้าไม่ติดว่าเป็นวิชามาร มารส่งฤทธิ์ให้ "ผิดครู" ก็กระทืบจนกระอักเลือด ถ่ายเป็นเลือด แหะๆ พุทธศาสตร์ไม่มีแบบนี้ครับ

--หลวงพ่อเดิม แจกผ้าพิมพ์รอยเท้า 7 วัน คนแห่มามืดฟ้ามัวดิน ท่านเอาเท้าจุ่มหมึก ประทับลงบนกองผ้า ผ้าก็ติดหมึกทุกผืนด้วยอิทธิฤทธิ์ บางคนเอาซ่อนไว้ใในปกคอเสื้อ ดวลมีดกัน อีกคนกินว่านครับ จะคงกระพันชั่วเบา คือเมื่อปัสสาวะตกถึงดิน จะหมดฤทธิ์ เนื่องด้วยพระแม่ธรณี คนๆนั้นฉี่ใส่ตู้กระจกไว้ พวกอีกฝ่ายหนึ่งทุบกระจก แล้วนำฉี่เทลงดิน ฝ่ายนั้นก็โดนมีดแทงเสียขีวิตทันที ผู้คุมก็ทราบ แต่พวกเขาจะลงลายมือไว้ว่า "ข้าพเจ้าสมัครใจต่อสู้กัน ถ้าฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต ก็ไม่เอาผิด หรือผู้คุมก็แทงบัญชีว่า โดนมือมืดแทงตายในคุก" อะไรแบบนี้ครับ

--นักโทษประหาร เสือปล้น พวกฆ่าคนตาย ให้มานั่งสมาธิกรรมฐาน กลับได้สำเร็จเกือบทุกคนเทศน์ผ่านญาณได้หลายชั้น(คือพระท่านจะเทศน์ลำดับญาณให้" ผู้ไม่ได้ฝึก หรือไม่สำเร็จให้ออกไป) พวกผู้คุมฝึกไม่ได้อะไรเลย พวกเดนตาย ไม่มีอะไรจะให้คิด และจิตหนักแน่น พุดจริงทำจริง ทำอย่างเอาเป็นเอาตาย สำเร็จไวครับ เทพก็ชอบครับ คนกล้าบ้าบิ่น นึกจะเชือดตนเองก็เชือด เทพชอบครับ เนื่องจากเป็นร่างถ้าเทพจะแสดงปาฏิหารย์แต่ร่างดันขี้ขลาด ก็จะโชว์ของไม่ได้ครับ ต้องอาศัยจิตร่างครึ่งหนึ่งครับ--และถ้าร่างขี้โกง บางครั้งเทพต้องยอมตามครับ ง้อมันครับ(ไม่ขอสนับสนุน)

--คนตัวอ้วนๆ เดินเหมือนตุ๊กตา หรือลูกช้าง ตุ้มต๊ะตุ้มตุ้ยน่าเอ็นดู เนื้อตัวก็นิ่มเหมือนไร้กระดูก แค่อย่าให้เธอแผลงฤทธิ์ ผู้ชาย6 คนก็ฉุดเธอไม่อยู่ มีความกล้ามากกว่าผม 10 คนรวมกัน เข้าใจว่าเล่าไปแล้ว ตอนภรรยาผมเธอท้าดวลมีดกับนักเลง--- ตีกับผู้ชาย 5-6 คน และตีกับแม่ค้า สารพัด จนเทพท่านว่า "เมียมึงเป็นผู้ชาย ....แหะๆ ใครมั่งไม่กลัวตายล่ะท่านพ่อก้อ"

 

---อยากถามๆๆๆ ผู้อ่านครับ เรื่องหนึ่ง รู้สึกว่าถามเทพท่าน ท่านก็เหมือนว่า ไม่รู้ครับ
--ในช่วงหนึ่งที่ผมถูกเสี่ยปอ ทำไสยศาสสตร์ใส่ ภรรยาก็รู้ครับ ตามพี่สาว คือพี่สมคิดร่างทรงใหญ่มา พี่เค้ามีประจำเดือน สกปรก เทพไม่ยอมลงแน่นนอน และเขามากับสามีใหม่ ซึ่งไม่ค่อยถูกกันกับผม มีเรื่องตีกันครับ เป็นครั้งแรกที่ผมตีกับคน สักพักเขาเอามีดมาขู่อีก ผมก็แย่งมีดกัน เสร็จแล้วผู้ที่มาคิดว่าคือพีะพรพม ท่านโกรธที่ว่ามาตีกัน และไม่ฟังท่าน และพี่สมคิดเชื่อว่า ผมมีความเก็บกดทที่พ่อเคยโยนผมจากบ้านสองชั้นลงกองทราย จึงบอกว่าให้แก้เรื่องโรคจิตนี้เอาเอง ภรรยาก็ไปหายืมเงิืนแล้วพาผมไปโรงพยาบาลครับ หมอก็ฉีดยาให้เข็มนึง แล้วให้กลับ
--มันมีพลังอย่างหนึ่งมาเกาะขาผมเรียกว่าชาไปทั้งตัว เหมือนปู หรืออะไร ลูบๆมันก็หายไป แล้วมาใหม่
--เดินไปที่สี่แยก เทพท่านด่าและผลักผม ไล่ให้ไป แต่ผมจะไป กลับเรียกให้กลับมา ท่านผลักแรงมากจนผมเจ็บ ผมก็นั่งยกมือไหว้ คนทั่วไปและบนรถเมล์เห็นผมก็ขำ และทุเรศ ตามประสาคนทั่วไป ขณะนั้นผมมองพวกเขาเป็นสีขาวดำ และที่ดวงตาของทุกคน เป็นตาสีเทา
ตาในมีรอยคดเคี้ยว มีเสียงจิตบอกว่า "นี่แหละตาของมาร มันมีอยู่ั่ทั่วไป" มองดุตำรวจ(ขอโทษนะครับ) ตำรวจกำลังซ่ินตัว จ้องหาเหยื่อ เขาก็มีดวงตาของมาร
--โทรศัพท์โดนตัด เราไปที่ชุมสาย องค์การนะครับ เช้ามาก มีพนักงานหญิงคนเดียว เธอลุกขึ้นยืนชี้หน้า"อย่าปลอมลายเซ็นนะ" ลายเซ็นพี่สาวปลอมยาก ก็เลยต้องรบกวนเธอมาเซ็นมอบอำนาจ---แต่ขณะที่เธอทำอย่างนั้น ผมและภรรยาจ้องหน้ากันด้วยความงุนงง
"แค่นี้ ทำไมต้องชี้หน้ากันด้วย" พออกมาจากที่นั้นเธอก็บ่น ผมเองก็ไม่พอใจ แต่แปลกใจด้วย มันยิ่งกว่าละคร ซึ่งผมแน่ใจว่าเธอก็งงตัวเองเหมือนกัน
----ผมรู้สึกนะครับว่า "ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นแน่นอนที่บังคับให้ตัวเธอลุกขึ้นทำอย่างนั้น" แต่ มัน หรือท่านนั้น คือใคร คืออะไร เป็นเทพ หรือมาร ผมมั่นใจว่า เป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ แบบเดียวกับพระเจ้า และตอนนี้ข้าพเจ้าและเขา อยู่ในฐานะของ"ศัตรูที่จ้องทำลาย"ต่อกันครับ
--เพราะว่ามันไม่แค่นี้ครับ--บางครั้งเดินไปตามทางระเบียงแฟลต ผู้หญิงสาวๆ จะหยุด และให้เราเดินสวน หรือเดินผ่านไป แต่ตาเธอจะจ้องผมเขม็ง-อย่างอาฆาต เหมือนว่า ผมเป็นพวกนักข่มขืน หรือมีกลิ่นตัวแรง อะไรแบบนั้น
--และก้มีสิ่งแปลก วิทยุเทปติดขัด ผมก็กลั้นใจเป่าไป มันก็ดีครับ ใช้ได้ทั้งเทปที่บ้านและในรถแท็กซี่--เพราะผมถือว่า "ของทุกอย่างมีชีวิต" ตามที่ท่านไสบาบาบอก มัันมีดีใจเสียใจได้ แปลกดีครับ---สิ่งพววกนี้ผมไม่เคยลืมเลย เพราะมันเกิดขึ้นกลางวัน และเป็นเรื่องจริงซึ่งพอผมพูด ภรรยาก็ยังจำได้อยู่-(ตอนนั้นสะเทือนใจกันมาก---มืดมน วังเวง-- เพราะเราไม่มีรายได้ ไร้อนาคต แถมผมซึ่งเป็นผู้นำครอบครัวก็กลายเป็นเหมือนคนบ้านหรือผีสิง วิ่งไปวิ่งมาบังคับตัวเองไม่ได้ แถมแลบลิ้นหลอกคน)-ใครจะตอบได้ไหมว่าเบื้องหลังคืออะไร และมีใครทีเจอของแปลกอย่างนี้ไหม หากผมเจอตอนนี้นี้ผมจะบอกพวกเขาว่า "ขอคุยกับผู้กำกับของพวกเธอ กระจอกๆไม่ขอคุย " 555

 

**ความเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณของท่านในการอ่านนะคะ**

คุณ chandayot
เราไม่แน่ใจนะคะว่าสิ่งที่คุณพบเจอนั้นคืออะไรแน่ แต่เราเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ
เราเองก็มักเจอเหตุการณ์แปลกๆกับตัวเองบ่อยๆแต่คงจะไม่แปลกเท่าคุณหรอก
นานมาแล้ว มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของเรา เสียงนั้นกล่าวว่า
--อย่าปลูกเมล็ดพญามารในใจของเธอ--
แล้วเราก็เห็นภาพใบหน้าของคนซึ่งไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชายหลับตาอยู่
เป็นใบหน้าที่งามเหนือมนุษย์จริงๆ แต่ที่ตาสามกลับมีต้นไม้งอกออกมา
ท่านว่านั่นแหละเมล็ดพญามาร มันเกิดจากภายในไม่ใช่ภายนอก
ใช่แล้ว มันเกิดจากอัตตาตัวตนของเรานี่เอง อัตตาเกิดขึ้นเมื่อไร
พญามารก็เติบโตขึ้นเมื่อนั้นและจะหยั่งรากลึกลงไปจนยากที่จะถอนรากถอนโคน

เราเชื่อว่าคุณมีจิตที่ละเอียดอ่อนมากพอที่จะสัมผัสกายในของคนอื่นได้
บางครั้งก็เหมือนกับอยู่ๆก็รู้ขึ้นได้เองว่าคนนั้นคนนี้หรือสิ่งนั้นสิ่งนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
จิตที่ละเอียดอ่อนมากย่อมสัมผัสสิ่งแปลกปลอมอันไม่เป็นธรรมชาติได้ไวกว่าจิตที่หยาบ
ลักษณะที่คุณเจอมันเหมือนกับพลังหรือรูปแบบของอะไรบางอย่างมาแสดงออกผ่านคนเหล่านั้น
ผู้ซึ่งมีลักษณะจิตเฉกเช่นเดียวกับพลังงานนั้น หรือเรียกว่าจูนกันติดก็ว่าได้
หรืออาจจะเป็นภาวะภายในของคนเหล่านั้นที่สะท้อนออกมาให้เห็นซึ่งไม่สามารถเห็นด้วยตาเนื้อ

 

จิตคุณอิสรีลก็ละเอียดครับที่เห็นสิ่งนั้นได้ เป็นคำสอนธรรมที่มาแบบเป็นภาพ เป็นพลังเหนือโลกจริงๆ
--ดูจากคำพูดของคุณนั้น ไม่ธรรมดาครับ สำหรับคนวัยนี้ ที่มีความคิดอย่างนี้ และระดับจิตยังสามารถสัมผัสสิ่งเหนือโลกเข้าให้แล้ว

--ส่วนคุณ Phrophechy เป็นผู้ที่มีความเห็นแน่นอน ชัดเจน เกิดจากการเห็ยชีวิต จนสรุปชีวิตได้เอง ผสมผสานหลักธรรมมะ ก่อเกิดเป็นความคิดในแนวของคนเอง มองสังคมได้เฉียบขาด เจาะทะลุทะลวงเปลือกนอก หรือหน้ากากมายาจอมปลอม จนเห็นเนื้อใน แถมยังมีความเห็นเหมือนผมในทุกเรื่องราว ถ้าเจอตัวจริงคงคุยกันแบบไม่ยอมนอนหลับกัน เรียกว่าเจอคนรู้ใจว่างั้นเถอะ

---สิ่งที่สุดจะแปลก สุดยอดพลัง อยู่ในร่างกายคนนี่เอง

 

เกริ่นนำ ให้อยากรู้ซะงั้น

--รู้ไหมว่า อะตอมที่ว่าเราเล็ก(ไม่)ที่สุด เล็กขนาดไหน ถ้าเราร้อยรูเข็มด้วยอะตอมหนึ่งอะตอมทุกหนึ่งวินาที ใช้เวลาตั้งแต่โลกเริ่มก่อตัว ยันมีมนุษย์ มาจนถึงปัจจุบัน ความยาวนั้นจะได้...ไม่ถึงหนึ่งมิล ครับผม

--เทคนิคการเดินทางข้ามเวลา คือการปรับความถี่ ซึ่งเราไม่อาจจะคิดได้ เพราะเราอยู่แค่มิติ3 ในโลกและจักรวาลภพหลายมิติมาก เปรียบเสมินเรามีชีวิตอยู่ในตู้เย็น ซึ่ง ไม่สามรถค้นพบโทรทัศน์ได้ เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เข้าไปในตู้เย็นไม่ได้ มันก็เป็นอย่างนี้แล

--มีบางคนหายไปเฉยๆ มีการค้นคว้าเดรื่องเครื่องข้ามเวลา พวกเขาติดตั้งเครื่องบนเรือรบฟิลาเดลเฟัย สร้างสนามแม่เหล็กที่แรงมากและมีความถี่สูง โดยเทียบกับความถี่อะตอมไฮโดรเจน--จนอากาศกลายเห)็นเหมือนน้ำที่นำไฟฟ้าได้ มีแสงสีม่วง และเรือหายไปประมาณห้านาที มันหายไปไหน มันลอยตามกระแสธารกาลเวลา ไปยังอู่ต่อเรือที่สร้างมันขึ้น และมันกลับมา หลายคนเสียชีวิต เนื่องจากร่างถูกฝังอยู่ในกระดูกงูเรือ ชาวต่างดาสวบอกว่า "เครื่องส่งคนไประยะไกล(ล่องหน) หรือการเดินทางผ่านกาลเวลา จะทำได้ เฉพาะผู้มีจิตบริสุทธิ์เท่านั้น"(จากกระทู้คุณชยุต มีเพิ่มเติมโดยผมเอง)
--มีผู้ที่รอดชีวิตกลับมา แต่เสีย"ล็อคเวลา)--ไทม์ ล็อค คือ 1 เดือนจะแก้่้น 1ปี และจะตายอย่างรวดเร็ว หลายคนเป็นบ้า หรือหายตัวได้เป็นพักๆ โครงการรวมของมัน ใหญ่โตเท่าเมืองเล็กๆ เมืองนึง เรียกว่า มอนต๊อค โปรเจค ปัจจุบันเป็นที่ที่รกร้าง

--อ้าว...โม้จนลืม เห็นมะ มนุษย์ก็ไม่เชิงกว่าเป็นกองดิน น้ำ ลม ไฟ อวัยวะ เส้นเลือด ลม
--แต่มีบางส่วนที่ทำหน้าที่เหมือนเสาอากาศ เครื่องรับ-ส่งพลังจิต เครื่องผลิตพลังปราณ
ต่อมไพเนียลทำหน้าที่เหมือนตาที่สาม ร่างกายยังสามรถประจุ และใช้ลมละเอียดชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ลมปราณ ทางจีนเรียก พลังชี่ ญี่ปุ่นเรียกว่า"คิ" เป็นที่รู้จักว่าตือ "กำลังภายใน"

 

----มีนักวิทย์รัสเซีย สะกดคนที่อยู่อีกห้องให้หลับก็ได้
--เขาบอกว่า มีจุดของสนามพลังที่เปิดอยู่ ที่เขาใช้รับพลังมาจากอวกาศ ทำให้มีพลังจิต ซึ่งแน่นอนว่า นั่นคือฐาน-จักระทั้ง7 เป็นไปตามหลักของศาสนาฮินดู--หลักการราชโยคะ-โยคะชั้นสูง
--ผมจะบอกว่า ...มีพลังชนิดหนึ่ง ที่เราไม่รู้จักมาก่อน และ..มากมายมหาศาล
--จะบอกละนะ เออ... ตีเป็นเงินได้สักเท่าไหร่ดี
--เชื่อกันว่า พลังนี้อยู่ที่.. เอ่อๆ แถวๆนั้นแหละ บางครั้งตั้งจิตผิดจุด ไปจี้ลงตรงอวัยวะเพศ ก็เกิดความกำหนัดมากๆขึ้นมาทันที เป็นอันตรายของโยคี และพระสงฆ์

--ซึ่งหลายคนเชื่อว่า ที่พระพุทธองค์พูดถึงธิดาพญามารทั้งสาม ก็คือการตั้งจิตไว้ผิดจุดนั่นเอง
--ค้นหาไปเรื่อยๆ จากจุดจักราที่แรงดั่งแสงอาทิตย์ตรงสะดือ บางครั้งก็กำหนดให้มันเด้งไประหว่างกระดูกสะโพกทั้งสองด้าน ภาพนั้นมันดูชัดเจนคล้ายหนังสามมิติ โดยจะเห็นจิตเหมือนลูกแก้ว
---ลองมองดูกระดูกสันหลัง ซึ่งนอกจากจะรวมระบบประสาท มันเหมือนท่อเร่งอนุภาค--ท่อส่งพลังงานลึกลับ
--พลังงานนี้ ชื่อว่า "กุณฑาลินี ศักติ" บางครั้งเป็นพลังทางเพศ บางครั้งเป็นพลังลึกลับในร่างกาย(บางครั้งมีความกำหนัดกล้า โยคีสามารถดีงพลังทางเพศให้ไปอยู่ที่สมอง โดยกำหนดให้เป็นสายสีเงินเหมือนน้ำไหล)
--มันอยู่ที่ ส่วนปลายกระดูกก้นกบครับ--ในสมัยก่อน ยังไม่มีใครวัด หรือกำหนดพลังงานนี้ได้ แต่ท่านไสบาบา บอกว่า มีพลังมากเท่าระเบิดปรมาณู
--เมืื่อใช้จิตจี้ไปที่ตรงนั้นมันจะแตกตัวแล้ววิ่งขึ้นมาตามกระดูกสันหลัง พอถึงจุดจักราที่สมอง -หน้าผากก็จะเกิดของดี คือ หูทิพย์--ตาทิพย์ หรือทำให้สมองกลายเป็นคอมพิวเตอร์ชั้นเลิศ การรับส่งพลังจิตถึงขั้นสุดยอดของมนุษย์
--ข้าพเจ้าเคยเห็น -มันเคยเกิด ตั้งแต่เป็นครูอยู่ต่างอำเภอ แถวนี้ผีดุ เพราะเป็นเมืองเก่า ยังมีวิญญาณทหารพม่า และญี่ปุ่น-ไทย
ทำให้จิตวิญญาณของข้าพเจ้ามีความตื่นตัวตลอดเวลา(ร้อนรนตรงกระดูกสันหลัง) และก็เริ่มรู้สึก เริ่ม"เห็น" ซึ่งแปลกมากจนต้องขอบันทึกไว้ "การตื่นขึ้นของพลังกุณฑาลินี" คำว่า"พลัง"แขกเรียกว่า ศักติ ดังนั้นเราเรียกว่า "กุณฑาลินีศักติ"ก็ได้ ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเกิดความโกรธ พลังนี้ก็ตื่นขึ้นและทำงานทันที มันเหมือนก้อนถ่านไฟฉาย 2-3 ก้อน เป็นแสงสีส้ม วิ่งขึ้นมาในแนวท่อกระดูกสันหลัง พอถึงศรีษะ มันกลายเป็นแสงสีขาว กระจายออกไปรอบทิศ เห็นอย่างไรไม่รู้แต่รู้สึกตลอด และจิต"เห็น"มันวิ่งขึ้นมา
--ดร.อาจองเป็นผู้บอก และบรรยายสิ่งนี้พร้อมเอกสาร และเป็นคัมภีร์ของฮินดูอีกด้วย--หรือเป็นสิ่งหนึ่งที่พระพุทธองค์ไม่ได้สอน--หรือบางคนบอกไม่ใช่ทางหลุดพ้น หรือมันอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เกิดเองเป็นเอง ร่วมกับวิชชาวิปัสนา ซึ่งสามารถตัดวัฏฏะสงสารได้ และเทพก็เคยบอกว่า พระพุทธองค์ยังติดขัดที่ธาตุไฟ ซึ่งไม่มีกำลังพอที่จะผ่านด่านบรรลุธรรม--พลังธาตุ ดิน น้ำลมไฟในตัวประจุรวมกับพลังจิต ปราณ และอื่นๆ ซึ่งเทพองค์ใหญ่หลายองค์ที่ท่านคุ้มครองพระพุทธองค์อยู่ ได้นำพลังจิตเทพ(ธาตุไฟ) หรือส่วนธาตุไฟ เข้าเสริมอย่างแรง ทำให้พระองค์ทะลุด่านเข้าสู่แดนนิพพานได้ อันนี้ท่านว่ามานะครับ และผมคิดว่า ถ้าเป็นคนธรรมดา รับธาตุไฟขนาดนี้ อาจเผาใหม้ตนเองเป็นจุล หรือ อาจจะเสียชีวิตเพราะคุมธาตุไม่ได้ (ไฟธาตุแตก) แต่พระพุทธองค์ท่านมีบารมี มีพลังคุ้มตนมากพอนะครับ

--จบเรื่องลึกลับ เคยผ่านตามั้ยครับ ไม่ได้อยากโม้หรือเว่อร์อะไร แต่กลัวจะลืมเขียน จึงรีบบันทึกไว้ครับ --เขียนตามความเป็นจริงไม่ได้ใส่ไข่เพราะกลัวไขมันอุดตันเส้นเลือดครับ

 

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา.266549/