บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ลุงคนเชียงใหม่, 21 ตุลาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    อุปสรรค
    ท่านเป็นผู้ที่ครูบาศรีวิชัยไว้ใจมากองค์หนึ่งเพราะเมื่อครูบาศรีวิชัยมีปัญหาเรื่องขาดกำลังคนครูบาศรีวิชัยก็จะมอบหน้าที่ให้ท่านไปนำกะเหรี่ยงอยู่บนดอยต่างๆมาช่วยสร้างทาง หลวงพ่อเล่าว่า การสร้างทางขึ้นดอยสุเทพและการสร้างบารมีของครูบาศรีวิชัยนั้นทุกข์ยากลำบากมากเพราะถูกกลั่นแกล้งจากบุคคลอื่นที่ไม่เข้าใจและอิจฉาริษยาอยู่เสมอทุกครั้งที่ครูบาศรีวิชัยให้ท่านไปนำกะเหรี่ยงมาช่วยสร้างทางระหว่างการเดินทางต้องคอยหลบเลี่ยงจากการตรวจจับของพวกตำรวจหลวงและคณะสงฆ์ที่ไม่เข้าใจ ครูบาศรีวิชัยท่านได้เล่าว่าในเวลากลางวันต้องหลบซ่อนกันในป่าหรือเดินทางให้ห่างไกลจากเส้นทางสัญจรเพื่อหลบให้ห่างจากผู้ขัดขวางส่วนในเวลากลางคืนต้องรีบเดินทางกันอย่างฉุกละหุกเพราะเส้นทางต่างๆมืดมากต้องอาศัยโคมไฟตามบ้านเป็นการดูทิศทางเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยบารมีและความตั้งมั่นในการทำความดีของครูบาศรีวิชัยที่มีต่อพระพุทธศาสนาทำให้พุทธบริษัททั้งชาวบ้านและชาวเขาจากในที่ต่างๆจำนวนมากมาช่วยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพได้สำเร็จดังความตั้งใจของครูบาศรีวิชัยโดยใช้เวลาสร้างเพียง ๗ เดือนเท่านั้น เมื่อครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพสำเร็จแล้วหลวงพ่อจึงได้ไปกราบลาครูบาศรีวิชัย กลับไปอยู่ที่เมืองตื๋น วัดจอมหมอก ตำบลแม่ตื๋นกิ่งอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
    ห่มขาว
    เมื่ออายุได้ ๒๓ ปีขณะที่ท่านอยู่ที่วัดจอมหมอกเจ้าคณะตำบลได้มาจับท่านสึกในข้อหาที่ท่านเป็นศิษย์และเป็นกำลังสำคัญที่ปฏิบัติเชื่อฟังครูบาศรีวิชัยอย่างเคร่งครัด ( ซึ่งในขณะนั้นครูบาศรีวิชัยได้ถูกจับมาสอบสวนอธิกรณ์ที่กรุงเทพฯ )แต่ตัวท่านเองไม่ปรารถนาที่จะสึกจะหนีไม่ได้เมื่อทางคณะสงฆ์จะจับท่านสึกและให้นุ่งห่มดำหรือแต่งแบบฆราวาสท่านไม่ยอมเพราะท่านไม่ได้ผิดข้อปฏิบัติของสงฆ์แต่เมื่อคณะสงฆ์ที่ไปจับท่านสึกไม่ให้ห่มเหลืองท่านจึงหาผ้าขาวมาห่มแบบสงฆ์เลียนเยี่ยงอย่างครูบาขาวปีวัดผาหนาม ( ซึ่งเคยถูกจับสึกไม่ให้ห่มเหลืองในข้อหาเดียวกันในคราวที่ครูบาศรีวิชัยถูกอธิกรณ์ก่อนที่จะมีการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ )และยึดถือข้อวัตรปฏิบัติเหมือนที่เป็นสงฆ์อย่างเดิม
    ในหมู่พระสงฆ์และฆราวาสที่เป็นศิษย์ของครูบาศรีวิชัยก็ยังนับถือหลวงพ่อเป็นพระสงฆ์เช่นเดิมเพราะการสึกในครั้งนั้นไม่สมบูรณ์ครูบาวงศ์ไม่ได้ทำผิดพระวินัยของสงฆ์และในขณะที่สึกนั้นจิตใจของท่านก็ไม่ยอมรับที่จะสึกยังยึดมั่นว่าตัวเองเป็นพระสงฆ์เหมือนเดิมดังจะเห็นได้จากการที่ท่านยังปฏิบัติข้อวัตรพระธรรมวินัยของสงฆ์ทุกประการ
    หลวงพ่อได้เล่าว่าในคราวนั้นลูกศิษย์ลูกหาของครูบาศรีวิชัยระส่ำระสายกันมากบางองค์ก็ถูกจับสึกเป็นฆราวาสบางองค์ก็หนีไปอยู่ที่อื่นบ้างในป่าในเขาบ้างเพื่อไม่ให้ถูกจับสึก
    รวมตัวที่บ้านปาง
    หลังจากที่ครูบาศรีวิชัยพ้นจากอธิกรณ์ครูบาศรีวิชัยได้เดินทางกลับไปจังหวัดลำพูนเพื่อไปบูรณะและสร้างวัดบ้างปางอันเป็นวัดบ้านเกิดของท่านหลวงพ่อและครูบาขาวปี (ซึ่งขณะนั้นนุ่งขาวห่มขาวทั้งคู่ ) ตลอดจนลูกศิษย์ทั้งที่ถูกจับสึกเป็นฆราวาสและที่หนีไปในที่ต่างๆต่างก็ได้เดินทางกลับมาช่วยกันสร้างและบูรณะวัดบ้านปางเพื่อให้เป็นที่อยู่ที่ถาวรของครูบาศรีวิชัยหลวงพ่อได้ช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างวิหารที่วัดบ้านปางได้ระยะหนึ่งท่านจึงลาไปบำเพ็ญภาวนาธุดงค์แสวงหาสัจธรรมต่อไปในป่าในเขาและเผยแพร่ธรรมะให้กับชาวบ้านและชาวเขาในที่ต่างๆต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2012
  2. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    เดินธุดงค์
    ในสมัยนั้นท่านได้ธุดงค์บำเพ็ญเพียรไปในที่ต่างๆองค์เดียวเสมอท่านชอบธุดงค์ไปอยู่ในป่าในถ้ำที่ห่างไกลผู้คนหลวงพ่อเล่าว่าในสมัยนั้นการเดินธุดงค์ไม่สะดวกสบายเช่นสมัยนี้เพราะเครื่องอัฏฐบริขารและกลดก็หาได้ยากมากตามป่าตามเขาก็มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายอาศัยกันอย่างมากมายในขณะถือธุดงค์ในป่าในเขาก็ต้องอาศัยถ้ำหรือใต้ต้นไม้เป็นที่พักที่ภาวนาเมื่อเจอพายุฝนก็ต้องนั่งแช่อยู่ในน้ำที่ไหลท่วมมาอย่างรวดเร็วเช่นนั้นจนกว่าฝนจะหยุดตกการภาวนาในถ้ำในสมัยก่อนนั้นก็มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมายเช่นเสือช้างงูเม่น ฯลฯ เป็นต้นแต่มันไม่เคยมารบกวนหรือสร้างความกังวลใจให้ท่านเลยต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
    ท่านเล่าว่าครั้งหนึ่งท่านได้ไปบำเพ็ญภาวนาในถ้ำแห่งหนึ่งที่ตำบลบ้านก้อสมัยนั้นยังเป็นป่าทึบต้นสักแต่ละต้นขนาด ๓ คนโอบไม่รอบในถ้ำนั้นมีเม่นและช้างอาศัยอยู่บางครั้งก็มีเสือเข้ามาหลบฝนบ่อยครั้งที่ท่านกำลังภาวนาทำสมาธิอยู่นั้นพวกมันจะมาจ้องมองท่านด้วยความแปลกใจทำให้ท่านรู้สึกถึงความบริสุทธิ์และความไร้เดียงสาของสัตว์ที่มองดูท่านด้วยท่าทางฉงนสนเท่ห์ทำให้ท่านนึกถึงคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า" ความไม่เบียดเบียนกันเป็นความสงบสุขอย่างยิ่ง "
    หลวงพ่อบอกว่าพระธุดงค์ในสมัยก่อนต้องผจญอุปสรรคและปัญหาต่างๆมากมายจึงต้องเคี่ยวจิตใจและกำลังใจให้เข้มแข็งและแกร่งอยู่เสมอดังนั้นพระธุดงค์รุ่นเก่าจึงเก่งและได้เปรียบกว่าพระสงฆ์ในปัจจุบันทั้งในด้านจิตใจและการปฏิบัติบำเพ็ญภาวนาแต่เสียเปรียบกว่าพระสงฆ์ในยุคนี้ในด้านการใฝ่หาความรู้ทางด้านปริยัติเพราะในสมัยนี้ความเจริญทำให้ไปไหนมาไหนได้สะดวกและเร็วขึ้นพระสงฆ์ในรุ่นเก่าที่อยู่ห่างไกลตัวเมืองจึงต้องบังคับจิตใจบำเพ็ญเพียรปฏิบัติภาวนาให้เกิดปัญญาและธรรมะขึ้นในจิตในใจเพื่อนำมาพิจารณาและปฏิบัติให้ถึงพระนิพพาน
    ธุดงค์น้ำแข็ง
    บ่อยครั้งท่านได้ธุดงค์จาริกผ่านไปที่กิ่งอำเภออมก๋อยในฤดูหนาวบริเวณภูเขาของกิ่งอำเภออมก๋อยจะมีเหมยค้างปกคลุมไปทั่ว ( เหมยค้างนี้ภาษาภาคเหนือหมายถึง น้ำค้างที่กลายเป็นน้ำแข็ง ) ในบริเวณนี้มีต้นสนขนาดต่างๆขึ้นเต็มไปหมดไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลยเวลาย่ำเดินไปบนพื้นน้ำแข็งขาจะจมลึกลงไปในน้ำแข็งนั้นทำให้เกิดความหนาวเย็นเป็นอันมากเพราะท่านมีแต่ผ้าที่ครองอยู่เพียงชั้นเดียวเท่านั้นโดยเฉพาะเมื่อมีลมพัดผ่านมาท่านต้องสั่นสะท้านทุกครั้ง<O:p></O:p>
    ท่านได้เล่าว่า ความแห้งแล้งของอากาศและความหนาวเย็นของน้ำแข็งทำให้ผิวหนังของท่านแตกปริเป็นแผลไปทั้งตัวต้องได้รับทุกขเวทนามากสมัยนั้นในภาคเหนือจะหากลดมาสักอันหนึ่งก็ยากมากการธุดงค์ของท่านก็มีแต่อัฏฐบริขารเท่านั้นที่ติดตัวไปทุกหนทุกแห่งช้อนก็ทำจากกะลามะพร้าวถ้วยน้ำก็ทำจากกระบอกไม้ไผ่ผ้าจีวรที่ครองอยู่ก็ต้องปะแล้วปะอีก ท่านได้เมตตาเล่าว่าแต่การปฏิบัติภาวนาบนภูเขาที่มีน้ำแข็งปกคลุมมากเช่นนี้ทำให้การปฏิบัติสมถะและวิปัสนากรรมฐานนั้นกลับแจ่มชัดและรวดเร็วดียิ่งกว่าในเวลาปกติธรรมดาเพราะทำให้ได้เห็นเรื่องของไตรลักษณ์ได้ชัดเจนดีและการพิจารณาขันธ์ ๕ อันเป็นทุกขัง อนิจจัง อนัตตาก็สามารถเห็นอย่างแจ่มชัดทำให้ในขณะภาวนาทำสมาธิอยู่นั้นจิตสงบดีมากไม่พะวงกับสิ่งภายนอกเลย
     
  3. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    ในบางครั้งขณะที่นั่งสมาธิอยู่นั้นไฟที่ก่อไว้ได้ลุกไหม้จีวรของท่านไปตั้งครึ่งค่อนตัวท่านยังไม่รู้สึกตัวเลยเมื่อจิตออกจากสมาธิแล้วท่านต้องรีบดับไฟที่ลุกไหม้อยู่นั้นอย่างรีบด่วนทำให้ต้องครองผ้าจีวรขาดนั้นไปจนกว่าจะเดินทางไปพบหมู่บ้านท่านก็จะนำผ้าที่ชาวบ้านถวายให้มาต่อกับจีวรผืนเก่าที่เหลืออยู่นั้นในบางครั้งท่านจะนำผ้าบังสุกุลที่พบในระหว่างทางมาเย็บต่อจีวรที่ขาดอยู่นั้นตามแบบอย่างที่ครูบาอาจารย์ในยุคก่อนๆปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่ครั้งสมัยพุทธกาล หลวงพ่อเป็นพระสงฆ์ผู้ถ่อมตนและไม่เคยโออวดเป็นนิสัยเมื่อมีผู้สงสัยว่า ท่านคงเข้าสมาธิจนสูงถึงขึ้นจิตไม่จับกับ กาย เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ แล้วจึงไม่รู้ว่าไฟไหม้ตัวท่านมักตอบเลี่ยงไปด้วยใบหน้าเมตตาว่า" คงจะอากาศหนาวมากหลวงพ่อจึงไม่รู้ว่าไฟไหม้จีวร "
    ครูบาศรีวิชัยมรณภาพ
    เมื่อท่านได้ ๒๘ ปีขณะนั้นท่านได้จาริกธุดงค์สั่งสอนชาวป่าชาวเขาดอยต่างๆท่านได้ทราบข่าวการมรณภาพของครูบาศรีวิชัยจึงได้เดินทางลงจากเขาเพื่อไปนมัสการพระศพและช่วยจัดทำพิธีศพของครูบาศรีวิชัยร่วมกับครูบาขาวปีและคณะศิษย์ของครูบาศรีวิชัยที่วัดบ้านปางเมื่อเสร็จจากพิธีบรรจุศพครูบาศรีวิชัยแล้วกรมทางได้นิมนต์ให้ท่านไปช่วยสร้างเส้นทางบ้านห้วยกาน - บ้านห้วยหละซึ่งในตอนนั้นท่านก็ยังห่มผ้าสีขาวอยู่เมื่อการสร้างทางได้สำเร็จลงแล้วชาวบ้านห้วยหละจึงได้มานิมนต์ท่านไปจำพรรษาและอบรมสั่งสอนพุทธบริษัทที่สำนักสงฆ์ห้วยหละ อำเภอบ้านโฮ่งจังหวัดลำพูน
    ห่มเหลืองอีกครั้ง
    ขณะนั้นหลวงพ่ออายุได้ ๒๘ ปีได้รับนิมนต์ไปอยู่ช่วยบูรณะวัดป่าพลูและในปีนี้ท่านได้มีโอกาสห่มเหลืองเช่นพระสงฆ์ทั่วไปอีกครั้งหนึ่งโดยมีครูบาบุญมาวัดบ้านโฮ่งเป็นพระอุปัชฌาย์และได้รับฉายาใหม่ว่า" จันทวังโส "
    ในการห่มเหลืองในครั้งนี้คณะสงฆ์ได้ออกญัตติให้ท่านต้องจำพรรษาที่วัดป่าพลูเป็นเวลา ๕ พรรษาเมื่อออกพรรษาในแต่ละปีท่านจะเดินทางไปธุดงค์และจาริกสั่งสอนธรรมะให้กับชาวป่าชาวเขาในที่ต่างๆเสมอเหมือนที่ท่านเคยปฏิบัติมาในอดีตและบ่อยครั้งท่านจะไปช่วยครูบาขาวปีบูรณะวัดพระพุทธบาทตะเมาะ อำเภอฮอดจังหวัดเชียงใหม่
    ตรงตามคำทำนาย
    เมื่อท่านอยู่วัดป่าพลูครบ ๕ พรรษาตามบัญญัติของสงฆ์แล้วในขณะนั้นท่านมีอายุได้ ๓๔ ปีนายอำเภอลี้และคณะสงฆ์ในอำเภอลี้ได้ให้ศรัทธาญาติโยมวัดนาเลี่ยงมานิมนต์ครูบาขาวปีหรือท่านองค์ใดองค์หนึ่งเพื่อไปอยู่เมตตาบูรณะวัดพระพุทธบาทห้วยข้าวต้มแต่ครูบาขาวปีไม่ยอมไปและบอกว่า" ไม่ใช่หนึ่งที่ของกู "ครูบาศรีวิชัยเคยพูดไว้ว่า" วัดพระพุทธบาทห้วยข้าวต้มนั้นมันเป็นหน้าที่ของครูบาวงศ์องค์เดียว "
    ด้วยเหตุนี้ ครูบาขาวปีจึงขอให้ท่านไปอยู่โปรดเมตตาสร้างวัดพระพุทธบาทห้วยข้าวต้มซึ่งต่อมาในภายหลังจากที่ท่านได้ไปอยู่ที่วัดพระพุทธบาทห้วยข้าวต้มแล้วท่านได้เปลี่ยนชื่อให้สั้นลงเป็น" วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม "
    ในขณะที่ท่านอยู่ที่เมืองตื๋นนั้นชาวบ้านและชาวเขาต่างเรียกท่านว่า" น้อย "เมื่อท่านมาอยู่ที่วัดพระบาทห้วยต้มชาวบ้านทั้งหลายจึงเชื่อกันว่า ท่านคงเป็น" พระน้อยเมืองตื๋น "ตามคำโบราณที่ได้จารึกไว้ ณวัดพระพุทธบาทห้วย ( ข้าว ) ต้มเหตุการณ์นี้ก็ตรงตามคำพูดของครูบาชัยลังก๋าและครูบาศรีวิชัยดังที่กล่าวมาข้างต้นเมื่อท่านย้ายมาประจำที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้มท่านก็ยังออกจาริกไปสั่งสอนธรรมะแก่ชาวบ้านและชาวเขาในที่ต่างๆอยู่เสมอๆเหมือนที่ท่านเคยปฏิบัติมา
     
  4. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    ผู้เฒ่าผู้รู้เหตุการณ์
    ในระยะแรกที่หลวงพ่อมาที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้มผู้เฒ่าคนหนึ่งในหมู่บ้านนาเลี่ยงได้พูดกับชาวบ้านในละแวกนั้นว่า
    " ต่อไปบริเวณเด่นยางมูล ( คือหมู่บ้านห้วยต้มในปัจจุบัน )จะมีชาวกะเหรี่ยงอพยพติดตามครูบาวงศ์มาอยู่ที่นี่จนเป็นหมู่บ้านใหญ่ในอนาคตในครั้งนี้จะใหญ่กว่าหมู่บ้านกะเหรี่ยง ๔ยุคที่เคยอพยพมาอยู่ที่นี่ในสมัยก่อนหน้านี้ "คำพูดอันนี้ในสมัยนั้นชาวบ้านนาเลี่ยงฟังแล้วไม่ค่อยเชื่อถือกันนักแต่ในเวลาต่อมาไม่นานคำพูดอันนี้ก็เป็นความจริงทุกประการ หลวงพ่อได้เล่าให้คณะศิษย์ฟังเพิ่มเติมว่าคนเฒ่าผู้นี้เป็นผู้รู้เหตุการณ์ในอนาคตและมักจะพูดได้ถูกต้องเสมอมีอยู่ครั้งหนึ่งหลังจากที่ท่านได้สร้างวิหารที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้มเป็นรูปร่างขึ้นแล้วผู้เฒ่าคนนี้ในสมัยก่อนเคยเห็นคำทำนายโบราณของวัดพระพุทธบาทห้วยต้มมาก่อนได้มาพูดกับท่านว่า
    " ท่านครูบาจะสร้างให้ใหญ่เท่าไหร่ก็สร้างได้แต่จะสร้างใหญ่จริงอย่างไรก็ไม่สำเร็จต่อไปจะมีคนๆหนึ่งมาช่วยถ้าคนนี้มาแล้วจะสำเร็จได้ "
    ชาวเขาอพยพตามมา
    เมื่อท่านอยู่ที่วัดห้วยต้มได้ไม่นานคำพูดของผู้เฒ่าคนนี้ก็เป็นความจริงเพราะชาวเขาจากที่ต่างๆที่ท่านได้อบรมสั่งสอนมาได้อพยพย้ายถิ่นฐานติดตามมาอยู่กับท่านเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันเพื่อมาขอพึ่งใบบุญและปฏิบัติธรรมะกับท่าน
    ในระยะแรกๆ นั้น ท่านได้ตั้งกฎให้กับพวกกะเหรี่ยงที่มาอยู่กับท่านว่าพวกเขาจะต้องนำมีดไม้ที่เคยฆ่าสัตว์มาถวายวัดและให้สาบานกับท่านว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตและจะกินมังสวิรัติตลอดไปท่านได้เมตตาให้เหตุผลว่าท่านต้องการให้เขาเป็นคนดีลดการเบียดเบียนมีศีลธรรมหมู่บ้านห้วยต้มจะได้มีแต่ความสงบสุขทั้งทางโลกและทางธรรมและจะได้ไม่เป็นปัญหาของประเทศชาติต่อไปดังที่เราจะเห็นได้จากการที่ชาวกะเหรี่ยงในหมู่บ้านห้วยต้มนี้มีความเป็นอยู่ที่เป็นระเบียบและมีความสงบสุขตามที่ท่านได้เมตตาอบรมสั่งสอนมาทั้งที่ในหมู่บ้านนี้มีกะเหรี่ยงอยู่หลายพันคน
    แต่ในสมัยนี้กฎและระเบียบที่ชาวกะเหรี่ยงที่จะย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านห้วยต้มที่จะต้องนำมีดไม้ที่เคยฆ่าสัตว์มาสาบานกับหลวงพ่อนั้นได้ยกเลิกไปโดยปริยายเพราะหลวงพ่อเห็นว่า ทางราชการได้ส่งหน่วยงานต่างๆเข้ามาจัดการดูแลช่วยเหลือและให้การศึกษาแก่พวกเขาคงจะช่วยพวกเขาให้มีการดำรงชีวิตที่ดีขึ้นและมีความสงบสุขเป็นระเบียบเหมือนที่ท่านเคยอบรมสั่งสอนมา
     
  5. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    สมณศักดิ์
    ๔ เมษายน ๒๕๑๔เป็นพระครูใบฎีกาชัยยะวงศาพัฒนา
    ๕ เมษายน ๒๕๓๐เป็นพระครูพัฒนากิจจานุรักษ์
    ๑๐ ธันวาคม ๒๕๓๓เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    ๕ ธันวาคม ๒๕๔๐เป็นพระครูพัฒนกิจจานุรักษ์เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท
    เกียรติคุณ
    ๑๕ มีนาคม ๒๕๑๐ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการพัฒนาท้องถิ่นในเขตอำเภอลี้โดยเจ้าคณะจังหวัดลำพูน
    ๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๖ ได้รับรางวัล" ครูบาศรีวิชัย "ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลที่มีผลงานการส่งเสริมพัฒนาพระพุทธศาสนากิจการสาธารณะมีความวิริยะเสียสละเพื่อสังคมและเป็นแบบอย่างที่ดีมีปฏิปทาเดินตามรอยเยี่ยงครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญนักพัฒนาแห่งล้านนาไทย
    ๓ เมษายน ๒๕๓๙ได้รับโล่เชิดชูเกียรติคุณในฐานะ" คนดีศรีทุ่งหัวช้าง "จาก อ.ทุ่งหัวช้างจังหวัดลำพูน
    ๔ พฤษภาคม ๒๕๔๒ได้รับโล่เชิดชูเกียรติในฐานะเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านศิลปินดีเด่น จังหวัดลำพูนสาขาศิลปะสถาปัตยกรรมจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
     
  6. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    เมื่อท่านได้ทราบประวัติท่านครูบาวงศ์พอสังเขปแล้ว ผมจะพาทัวร์สถานที่กันครับ
    เริ่มด้วยทำเลที่ตั้งท่านเลือกสถานที่นี้เพื่อทำอะไรหลายๆอย่างไว้รอภัยพิบัติแบบเนียนมากๆ
    สถานที่ตั้งอยู่บนเขาลาดที่ซึ่งเวลาเกิดเหตูการก็น่าจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยรอบประมาณ180องศาจากทิศEไปทางใต้ถึงทิศW คิดเป็นรัศมีประมาณ10ถึง15กิโลรอบตัววัด นั่นหมายความว่า ได้ตัดขาดจากดินแดนทางใต้คือภาคกลางนั่นเอง และน่าจะเกิดร่องแยกทางทิศเหนือเป็นช่วงๆโดยรอบวัด ตัววัดและชุมชนกะเหรี่ยงกินอาณาบริเวณประมาณ5ถึง6กิโล วางอยู่บนแผ่นหินศิลาแลงหนาเป็นกิโลใต้พื้นที่ครับ ทางเข้าท่านต้องสังเกตให้ดีจะพบว่าถนนจากปากทางเส้น106เข้าวัดนั้นเป็นเส้นตรงดิ่งเหมือนกับไม้บรรทัดเลยครับแล้วท่านทำไว้นานมากแล้วตั้งแต่พท.เป็นป่าดิบทึบและรกร้างท่านวางแผนและลงมือกำกับเองกับมือโดยไม่มีเครื่องมือช่างสมัยใหม่เลยตอนทำทาง แรงงานกะเหรี่ยงล้วนๆแล้วถนนเส้นนี้เเหละที่พวกกระเหรี่ยงนอนเรียงกันตั้งแต่ปากทางจนถึงวัดยาว6กิโลเพื่อให้พระสังขาลท่านที่เดินทางมาจาก รพ.สวนดอกเพื่อนำมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ครับ ถนนเส้นนี้น้อยคนที่จะรู้ว่ามันจะออโตshut downที่ประมาณ2กิโลจากปากทางผมว่าท่านออกแบบไว้นั่นเองครับถ้าอยากรู้ชัดเจนให้ไปดูด้วยตาตนเองแล้วจะร้องว่าสุดยอดจริงๆครับ
     
  7. vissarut

    vissarut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +300
    o.k.เลยครับคุณหมอสำหรับข้อมูลใหม่นี้ที่ผมไม่ทราบมาก่อน เร็วๆนี้คงได้ไปสำรวจดูด้วยตาตนเองครับ
     
  8. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    ต่อไปเราจะเข้าหมู่บ้านกะเหรี่ยงกัน ท่านได้ออกแบบผังหมู่บ้านออกเป็นblockแบบผังเมืองสมัยใหม่โดยเอาหมู่บ้านไว้ตรงกลางพื้นที่ แล้วให้ตัววัดอยู่ที่ปีกด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือและองค์เจดีย์พระธาตุอยู่ปีกทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือถ้าดูภาพจากด้านบนหรือดาวเทียมจะพบว่าเป็นสามเหลี่ยมเกือบจะหน้าจั่วเลยครับเป็นการออกแบบที่กระชับพท.ดีมาก
    ต่อไปทางทิศEของหมู่บ้านท่านได้ขอให้ทางการมาตั้งสถานีตรวจวัดอากาศและแผ่นดินไหว หืมมม คิดต่อเอาเองครับ เราเข้าไปไหว้พระธาตุเจดีย์กัน ตรงบริเวณนี้ท่านออกแบบไว้ให้มีลานกว้างมากๆๆเข้าไว้ เอทำไม แล้วก็วางสายไฟฟ้าลอดท่ออย่างดีไปโผล่ที่วัดไว้ใช้แค่แสงสว่างบริเวณเจดีย์เล็กน้อยทำไม แล้วตรงบริเวณเจดีย์นี้เราจะพบว่าตลอดแทบทั้งวันเราจะไม่พบเงาทอดของตัวองค์เจดีย์เลยครับ นั่นถือว่าเป็นที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะวางแผงsolar cellยังไงครับ ที่ใต้ฐานองค์เจดีย์ท่านให้สร้างเรือสำเภาขนาดใหญ่เอาไว้ครับ คิดต่อเอาเองครับ แล้วท่านก็ได้สอนพวกกะเหรี่ยงให้ทำเรือสำเภาให้เป็นและได้สั่งทำแบบจำลองเรือสำเภาเอาไว้เป็นตัวอย่างเพื่อจะได้มีแบบไว้ดูเพื่อทำต่อไปแล้วเรือนั้นก็ยังวางไว้ให้ดูอยู่จนทุกวันนี้แล้วท่านสั่งไว้ว่าไม่ให้สิ่งของต่างๆทรุดโทรมเด็ดขาดให้ดูแลรักษาสภาพให้ใหม่เสมอ ต่อไปเรามาเข้าไปสำรวจภายในวัดกันครับ พอท่านเข้าประตูวัด ท่านจะพบกับ ร้านค้าสหกรณ์ชุมชนครับผมนี้งงเลยทำไมทำใหญ่นะครับสำหรับชุมชนเล็กๆ
    ท่านออกแบบไว้สตอกของไว้และสามารถเลี้ยงตนเองได้ไงครับแล้วของก็มีการหมุนเวียนตลอดผมดูสถานที่แล้วทำให้นึกถึงบรรยากาศของสหกรณ์นิสิตมช.เมื่อ18ปีที่แล้วเลยครับมีมันทุกอย่างหลากหลายมากๆครับแล้วทุกคนในหมู่บ้านเป็นสมาชิกหมดครับ เดินตรงเข้ามาจะเป็นที่เก็บน้ำดื่มครับ ถัดมาเป็นธนาคารข้าวครับมันคือโรงยุ้งฉางขนาดใหญ่2โรงที่ชาวบ้านจะนำข้าวของทุกคนมาเก็บรวมกันที่นี่ครับ ฟักแฟงของแห้งมาเก็บรวมกันที่เดียวกันหมดหมู่บ้าน เขาเรียกว่ามาฝากวัดไว้ จะเอาไปกินก็มาหยิบไปกินกันครับท่านออกแบบไว้วางระบบไว้สุดยอดครับ ต่อมาจะเจอรร.มัธยมเล็กๆแบบตึกเดียว2ชั้น ถัดมาจะเจอกับเสาส่งวิทยุแบบสถานีวิทยุปกติที่ยานเกราะฯเลยครับอันนี้ของเดิมเป็นของพระพี่นางฯทรงพระราชทานไว้ให้ครับ ตึกออกอากาศจะอยู่ติดกันเลย ที่วัดนี้มีบ่อน้ำโบราณ2บ่อด้วยกัน บ่อแรกเป็นบ่อเล็กแต่น้ำสะอาดมากๆเพราะกรองมาจากชั้นหินศิลาแลงนั่นเอง ห่างกันสัก300ม.จะเป็นบ่อใหญ่น่าจะไว้อุปโภคดีแล้วน้ำก็ใสเช่นกันแต่ไม่เท่าบ่อเล็กครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2012
  9. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    นอกจากนั้นท่านยังได้สร้างรพ.ลี้ที่บริเวณหน้าปากทางเข้าวัดแต่ไม่ไช่เส้นหลักครับแต่เดิม รพ.อำเภอลี้นั้นอยู่ที่บริเวณใกล้ๆกับ4แยกลี้ครับแล้วท่านให้ย้ายมาสร้างที่เป็นป่าช้าเก่าตรงเนินเขาใกล้กับวัดท่านครับซึ่งจะอยู่ห่างจากตัวอ.ลี้มาสัก6กิโลได้ ทำให้เดินทางลำบากขึ้นกว่าเดิมอีกและยังเป็นทางขึ้นเขาอีกด้วย ทำไมครับ คิดต่อเอาเองครับ
     
  10. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    สำหรับรูปถ่ายผมว่าจะไปถ่ายรูปวันพุธหน้าครับ แล้วนอกจากนี้ท่านยังทำสิ่งก่อสร้างต่างๆไว้รอรับเหตุการณ์อีกหลายสิ่งแต่ก็ไม่ใช่ประเด็นโดนๆเท่าที่ผมกล่าวถึงครับ
    และ ท่านยังสร้างโครงข่ายไว้รอบๆ ทั้งสถานีวิทยุและสถานีตรวจอากาศและแผ่นดินไหวตามวัดต่างๆในลี้
    และยังมีที่สุดยอดชั้นครูอีกที่หนึ่งในลี้ที่จะเป็นแผน3ของกระผมครับก็ท่านครูบาวงศ์นี่แหละได้สร้างไว้ อนึ่งเวลาท่านไปวัดนี้ไม่ต้องไปถามเกี่ยวกับภัยพิบัติหรอกครับชาวบ้านเขาไม่รู้เรื่องมากนัก พระเณรก็ไม่พูดครับ ครูบาท่านสั่งว่าบอกไปก็จะไม่ดีบาป คนส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อนัก ท่านก็สามารถเดินชมได้ทุกส่วนของวัดครับ และมีอีกหนึ่งสิ่งจะบอกคือถ้าท่านเดินไปทางไหนแล้วกระดิ่งระฆังดังตามท่านไปเรื่อยๆ แม้ลมสงบ นั่นหมายคือนิมิตรหมายอันดีแก่ตัวท่านและคณะครับ
     
  11. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ขอบคุณครับหมอพราน1414 ที่นำข้อมูลดีดีๆเหล่านี้มาให้อ่านกัน ชอบมากครับ

    หมอครับ ช่วงเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคมปีหน้า จะมีเหตุใหญ่ๆในไทยหรือเปล่าครับ หรือมีแค่ของต่างประเทศครับ ถ้ามีเหตุในไทยต้องมีการอพยพกันด้วยหรือเปล่าครับ

    เมื่อ 5 ปีที่แล้วผมเคยนั่งสมาธิแล้วนิมิตเห็นตะขาบใสเป็นแก้วสวยมาก ความหมายของนิมิตคือจะมีคนที่ดูภายนอกดูการกล่าวธรรมได้ดีมากแต่จริงๆไม่ใช่เพราะเขาเป็น.....แล้วเราจะป้องกันคนเหล่านี้อย่างไร ขอบคุณครับ
     
  12. เด็กผู้ชาย

    เด็กผู้ชาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +3,134
    ขอบคุณคุณหมอพรานมากครับ.. ที่ช่วยให้ขอมูลทุกอย่าง..

    ผมเองก็ได้หลายๆไอเดียไปปรับใช้ในการสร้างบ้านเพื่อเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้..

    ลำพังแค่เตรียมของไว้เพื่ออยู่ให้ได้ 1-2 ปีนั้น..ผมว่าเราพอจะเตรียมรับมือกันไหวอยู่หรอกครับ..

    แต่กับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น.. มันใหญ่ยิ่งกว่าหลาๆคนคาดการณ์เอาไว้
    การเตรียมที่สำรอง รวมทั้งการเตรียมชุมชนและการเตรียมการผลิตอาหารเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในชุมชนเป็นสิ่งที่น่าจะต้องนำมาคิดพิจารณาแบบที่คุณหมดว่าเอาไว้

    เพราะว่าทุกวันนี้.. ทางกลุ่มของผมที่เตรียมอยู่ที่ปากช่อง ก็ยังประเมินไม่ออกว่า ถ้าในกรณีเกิดการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ทางกลุ่มจะรับมือกับสภาพการปล้นสะดมได้แค่ไหน และเมื่อเกิดเหตุกรณ์ขึ้น การที่จะย้ายถิ่นอพยบไปไหน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย

    ปีหน้า.. ของคุณหมอก็คงได้ทดสอบ ว่ายางรถยนต์ที่ใส่ไว้รอบๆตู้คอนเทรนเนอร์จะรับมือได้ขนาดไหน???... แต่ผมว่าของคุณหมอเอาอยู่ๆแล้วล่ะครับ..
    เป็นห่วงแตไอ้บ้านของผมนี่แหละว่า.. มันจะมีสภาพหลังการไหวเป็นอย่างไร???... ก็คงต้องมาประเมินกันอีกครั้ง หลังจากที่เขาลงส่งทัพหน้ามาหยั่งเชิงพวกเราดู..

    รบกวบคุณหมอ.. ขอความรู้เกี่ยวกับเรื่องการออกแบบระบบระบายอากาศที่คุณหมอใช้อยู่หน่อยสิครับ..

    ขอบคุณมากๆเลยครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2012
  13. เด็กผู้ชาย

    เด็กผู้ชาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +3,134
    ได้ทราบจากทางพระอาจารย์รัตน์ ท่านก็เตรียมการรับมือไว้ที่แม่ฮ่องสอนเช่นกัน
    และท่านก็บอกว่า.. คงรับมือเหตุการณ์ได้เพียง 2-3 เดือนเท่านั้น อาหารก็คงหมดจากวัดแล้ว เพราะคนหนีมากันมาก..

    หลังจากนั้นท่านวางแผนที่อพยบขึ้นดอย เพื่อไปหาแหล่งอาหารอีกทีครับ เพราะว่าท่านได้วางแผนเอาไว้ร่วมกับชาวเขาไว้ราวๆ 7-8 ดอยในการปลูกข้าวและพืชอาหาร..
     
  14. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ขอบคุณมากเลยครับคุณหมอพราน4141 มีข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย เรื่องเรือสำเภานี่ช่วยขยายความอีกหน่อยได้ไหมครับว่า เตรียมไว้เผื่อกรณีแบบน้ำท่วมโลกชั่วคราวแบบยุคโนอาร์หรือเปล่า หรือเผื่อไว้เป็นแบบอย่างที่ต่อไปแผ่นดินภาคกลางอาจจะจมลงถาวรเป็นทะเล จะได้มีความรู้เรื่องการต่อเรือเอาไว้ใช้เมื่อถึงยุคนั้น ผมเองก็ทราบดีว่าที่วัดแห่งนี้จะอยู่รอดปลอดภัยจนถึงยุคปลายพระพุทธศาสนาทีเดียว แต่ผมคงไม่ได้ไปอพยพหลบภัยที่นี่ครับ

    จุดที่ผมคาดว่าจะอพยพไปจะอยู่ที่บริเวณไม่ไกลจากวัดป่าน้ำตกเขมโก อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี แต่ยังไม่ได้ไปหาซื้อที่เลย ดูแล้วคงต้องเตรียมการกันอีกเยอะทีเดียว จึงต้องมาอาศัยข้อมูลการเตรียมการของท่านผู้รู้ทั้งหลายไปปรับใช้ในอนาคตเหมือนกันครับ
    ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลดีๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2012
  15. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    ระบบกรองอากาศ จริงๆดูว่าจะยากและแพง แต่ถ้ารู้หลักพื้นฐานก็จะไม่ยากนัก ดังนี้
    1. ต้องรู้และกะจำนวนคนที่อยู่ภายในก่อนว่ากี่คนแน่ๆครับ
    2. ต้องทำเป็นระบบปิดก่อน seal มันทุกรูด้วยsilicone แนะนำยี่ห้อ neobond เท่านั้นครับ
    3.เมื่อท่านแน่ใจว่าเป็นระบบปิดแล้ว ทดสอบโดยเข้าไปอยู่ข้างในแล้วไม่นานก็จะขาดอากาศตายแน่ๆ นั่นละครับของจริง
    4.ให้เจาะรูนำอากาศเข้าแนะนำแบบรูเล็กๆแต่ถี่ๆเข้าไว้ air flow จะดีกว่าครับ
    5.ส่วนรูระบายอากาศออกแนะนำแบบรูเล็กๆเช่นกันครับ อัตราส่วน รู 1ต่อ1 ครับ
    6.ที่รูเข้าให้ติดพัดลมดูดอากาศ ผมใช้12vครับอย่างดีตัวละไม่เกิน250บาทติดประกบรูแล้วอัดsiliconeไว้โดยรอบ และนำแผ่นกรองอากาศ3mมาแปะติดที่ด้านหน้าพัดลมครับ
    7.ที่รูออก แปะ3mไว้เช่นกัน
    8.ต้องมีช่องระบายอากาศฉุกเฉินไว้เสมอครับ ของผมโชคดีที่ตู้เย็นคอนฯมีช่องนี้ขนาด50ซม. 2ช่องไว้แล้วครับ
    พอได้หลักการแล้วก็มาคำนวนกัน ปกติแล้วรูขนาด4นิ้วจะพอกับ1คน ถ้า8นิ้วก็2คนครับสำหรับ พท.ไม่เกิน3คูณ6คูณ2ม.ครับ จะทำใหญ่แค่ไหนก็เทียบบัญญัตไตรยางค์เอาครับ ที่มาก็เพื่อนวิศวะผมอีกแล้วครับ และภายในตู้ให้ติดตั้งเครื่องกรองอากาศ sharp plasma cluster 1ถึง2ตัวครับ แล้วถ้ามีโรคระบาดหนักจริงๆเกิดขึ้นก็ใส่หน้ากาก N95ช่วยอีกชั้นหนึ่งครับ แต่ถ้าเป็นรังสีให้ใช้หน้ากากแบบที่ทหารใช้กันในสงครามเคมีชีวภาพ ที่ผมโชว์ไว้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2012
  16. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    เรือสำเภาที่ว่าเป็นเรือจริงๆครับอยู่ใต้องค์เจดีย์ครับที่มาคาดว่าไว้สำหรับนำพระธาตุลอยขึ้นกรณีที่มีน้ำท่วมใหญ่ครับ
    แล้วท่านทราบหรือไม่ว่าตัวองค์พระธาตุนั้นบรรจุอยู่ที่ตัวฐานองค์เจดีย์ที่ตรงระดับสายตาครับ
     
  17. เด็กผู้ชาย

    เด็กผู้ชาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +3,134
    ขอบคุณครับคุณหมอ... สำหรับข้อมูลดีๆมีประโยชน์

    - สงสัยน่ะครับ.. silicone แนะนำยี่ห้อ neobond มันดีกว่ายี่ห้ออย่างไรหรือครับ???

    - แล้วแผ่นกรอง 3M เป็นแบบรุ่นไหนหรือครับ และก็หาซื้อในบ้านเราได้ใช่มั๊ยครับ หรือว่าจะต้องสั่งจาก USA น่ะครับ???

    รบกวนคุณหมออีกหน่อยนึงครับ.. อยากจะขอความรู้เกี่ยวกับเรื่องการป้องกันประจุแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานสูง จากการระเบิดของดวงอาทิตย์ ที่จะกระทบกับพวยกอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคที่เราเตรียมเก็บเอาไว้ครับ...

    พูดถึงเรื่องการซีลพวกประตูและหน้าต่าง..
    ของผมจะใช้วิธี.. เจาะฝังพุกเกลียว M12 เอาไว้ที่มุมทั้ง 4 ของหน้าต่างหรือประตูนั้นๆ
    เวลาจะซีล.. ผมเตรียมเอาแผ่นอะคีลิคใสซึ่งเจาะรูและเสริมความแข็งแรงบริเวณรูเจาะกันอะคีลิคแตกเวลาโดนกระแทก

    พอยกเอาแผ่นอะคีลิคมาประกบปิดหน้าต่าง พร้อมใส่สลักเกลียว M12 ล็อคให้แผ่นอะคีลิคยึดติดปิดหน้าต่าง แล้วก็เอาซิลิโคนที่คุณหมอแนะนำมาซีลปิดขอบอะคีลิคอีกที ก็จะได้หน้าต่าง 2 ชั้น ที่มีอากาศเป็นฉนวนความร้อน ก็คงจะกันความเย็นได้สักระยะหนึ่งน่ะครับ..

    เรื่องหน้ากากกันแก๊สแบบเต็มหน้า ( Full Face ).. ผมเคยขอซื้อจากบริษัทื่ขายพวกอุปกรณ์ Safety
    คนขายบอกว่าขายให้ไม่ได้.. เพราะว่าถือเป็นยุทธภัณฑ์
    ขายได้แต่ที่เป็นแบบครึ่งหน้าลงมาเท่านั้น.. ซึ่งผมก็เลยซื้อแบบครึ่งหน้าที่ทำมาจากซิลิโคนอย่างดีกับฟิลเตอร์ของ 3M แบบที่กรองทั้งสารอินทรีย์และอนินทรีย์ได้
    เลยเอาไปทดลองกับแก๊สน้ำตา.. มันกรองสุดยอดจริงๆครับ..

    ว่าแล้วไม่ทราบว่าชุดกันติดเชื้อที่คุณหมอเตรียมเอาไว้รับมือกับพวกเชื้อโรค
    พอจะแนะนำแหล่งซื้อให้ได้มั๊ยครับ.. หรือว่าต้องสั่งจาก eBay เป็นหลักน่ะครับ??

    มีมุมไหน.. ที่คุณหมอเห็นว่าผมตกหล่นไป
    รบกวนแนะนำมาได้เลยน่ะครับ.. ขอบคุณมากๆเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2012
  18. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    ผมลองsiliconeมันทุกยี่ห้อแล้ว พบว่าตัวนี้คุณภาพสมราคาที่สุดครับเนื้อมันแน่นดี ระยะแข็งตัวกำลังดี และไม่มีกลิ่นฉุนมาก เวลาแห้งแล้วสุดแสนจะเหนียวอย่าบอกใครเลยครับ
    ที่ท่านแปะยึดหน้าต่างด้วยแผ่น polycarbonate ผมทำเช่นกันครับ ตรงกันพอดีเลย แต่แนะนำให้ทำทั้ง2ด้านนะครับจะperfect ที่สุดครับ
    แหล่งซื้อชุดไข้หวัดนกผมไปได้ที่ร้านที่อยู่ตรงข้าม คณะทันตแพทย์ที่ มช.ครับเขามีเวปไซ และบริการส่งทางไปรษณีย์ด้วยครับ แต่ผมดันเก็บที่อยู่และชื่อร้านไว้ที่บ้านที่เชียงใหม่ครับ ขอติดไว้ก่อนนะครับ ได้แล้วครับ รัานชื่อ union science www.unionsci.com
    3mผมซื้อแผ่นกรองหน้ากากแอร์บ้านๆธรรมดาเลยครับ ตัดได้ตามต้องการมีขายที่homepro homework ทั่วๆไปเลยครับ ให้เปลี่ยนมันบ่อยๆเข้าไว้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2012
  19. แม่น้องปุย

    แม่น้องปุย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +708
    คุณหมอพราน4141ค่ะ ไม่ทราบว่าที่อยู่อาศัย ถ้าเป็นบ้านโฟมสร้างบนเนินแล้วเอาดินกลบทับบ้านหนาประมาณ 1 เมตร จะพอใช้ได้กับภัยพิบัติที่จะเกิดบ้างไหมค่ะ กำลังวางแผนงานอยู่ค่ะ ขอบคุณค่ะ.....(^;^) _/\_

    **************************************
    :cool::cool::cool:
     
  20. พราน4141

    พราน4141 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    492
    ค่าพลัง:
    +6,167
    นับเป็นไอเดียที่ดีครับ บนเนิน ถ้าเลือกทำเลดีๆจะworkมากครับ ผมเสริมไอเดียให้ครับ คุณลองเอาดินกลบมันแค่ครึ่งหนึ่งของความสูงพอ ส่วนอีกครึ่งหลัง ทำเทปูนเป็นหลังคาเหมือนโบส หรือเป็นครึ่งวงกลมอย่างหมู่บ้านท่อของคุณต้นที่สามดูซิครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...