นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 31 ธันวาคม 2011.

  1. jernnrej_JJ

    jernnrej_JJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +1,175
    ว่าก็ว่า วันนี้ไม่มีนิทานเลยนะคะ T^T
    (เพ่งตัวหนังสือเล็กๆในมือถือมาทั้งวัน)
     
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]

    ขอนำภาพมาให้ชมและร่วมอนุโมทนาบุญกับคุณพี่นุชนะคะ
    วันนี้ ท่านบวชชีแล้วค่ะ
     
  3. Skysky1

    Skysky1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +896
    คุยกัน รู้เรื่อง 2 คน

    โม้กันไป แก้เหงา

    คิคิ
     
  4. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    (ต่อเรื่องกลัวตาย)

    จึงเห็นได้ว่า พระสงฆ์ในบวรพุทธศาสนาจะถูกจำกัดในเรื่องดังกล่าวนี้เป็นอย่างมาก

    การกิน พระสงฆ์จะฉันน้อย ฉันแต่เพียงไม่เกินเที่ยง ฉันเพียงสองมื้อ สงฆ์บางเหล่า
    เคร่งครัด ถือฉันเพียงมื้อเดียวก็มี ได้แก่ พระกรรมฐาน หรือพระธุดงค์ เป็นต้น

    การนอน พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้พร้อมกับได้ทรงเตือนภิกษุเรื่องการนอน
    เพราะการนอนมากเป็นการหลงสติ ชาคริยานุโยค หมายถึง การสำรวมในการนอน
    ไม่ให้นอนมาก คณาจารย์ในศาสนาพุทธได้กำหนดว่า พระภิกษุสงฆ์ควรจะจำวัด
    เพียงวันละหนึ่งยามคือสี่ชั่วโมง คือจำวัดในยามสอง คือระหว่างตีสองถึงตีสี่

    เวลานอกนั้น ต้องตื่นอยู่เสมอ เพราะพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าคือ สาวกผู้ตื่น
    ถ้าสงฆ์องค์ใดง่วเหงาซึมเซา หลงอยู่กับการนอน ก็หาใช่ศิษย์ตถาคตไม่

    ความกลัว พระสงฆ์ได้ถูกจำกัดเรื่องความกลัวนี้อย่างมาก จะเห็นได้ว่าสิ่งแรกที่
    สอนเป็นอนุศาสตร์ก็คือ ให้เข้าป่า อยู่ตามโคนไม้ เรือนร้าง ในป่าช้า ตามเงื้อมผา
    โดดเดี่ยวลำพัง ไม่ให้เกิดความหวาดกลัวต่อสัตว์ร้าย ต่อภูติผีปีศาจ แม้กระทั่ง
    ความตาย

    การสืบพันธุ์ พระสงฆ์ได้ตัดออกอย่างเด็ดขาดเพราะพระสงฆ์ต้องประพฤติพรหมจรรย์

    ฉะนั้น จึงเห็นได้ว่า สัญชาตญาณทั้งสี่ของสัตว์มนุษย์ที่เหมือนกันนั้น พระสงฆ์องค์สาวก
    ของพระพุทธเจ้าถูกจำกัดลงให้เหลือน้อยที่สุด ฉะนั้น พระสงฆ์จึงมีความเป็นมนุษย์ มี
    จิตใจสูงมากกว่ามนุษย์เดินดินโดยทั่วๆ ไปอย่างเห็นได้ชัด

    (แค่นี้ดีกว่าค่ะ)
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญบวชในครั้งนี้และผู้มีส่วนอำนวยความสะดวกจนงานสำเร็จลุล่วง
    ไปได้ด้วยดีทุกท่านนะคะ คุณครูติงติง สาธุ สาธุ สาธุ
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เรื่องต่อไปค่ะ ไม่เกี่ยวกับปยานาค

    กลัวตายเหมือนกลัวเสือ

    ทุกคนกลัวเสือ แต่ถ้าถามว่ากลัวเสือกลัวตรงไหน?
    เขาก็จะตอบได้แต่ว่า "กลัวมันทั้งตัว"

    ถ้าวิเคราะห์ถี่ถ้วนแล้วก็จะเห็นว่าเป็นความกลัวที่ไม่มีเหตุมีผลเท่าใดนัก
    เสือทั้งตัวใช่ว่าจะน่ากลัวไปหมด หางเสือก็ไม่น่ากลัว หนังเสือก็ไม่น่ากลัว
    หูเสือก็ไม่น่ากลัว ท้องเสือก็ไม่น่ากลัว ส่วนที่เรากลัวเสือนั้น เรากลัวที่ปาก
    เสือกับขาเสือต่างหาก

    แต่เมื่อพิจารณาดูที่ขาเสือกับที่ปากเสือ แล้วถามว่าเรากลัวมันตรงไหน?

    ปากเสือเราก็ไม่ได้กลัวที่เหงือก เราไม่ได้กลัวที่ลิ้น ที่น้ำลาย ที่เพดาน
    ที่ขาเสือหรืออุ้งตีน เราก็ไม่ได้กลัว กระดูกขาเสือ หนังหุ้มขาเสือก็ไม่กลัว
    แต่สิ่งที่เรากลัวปากเสือ คือ ตรงเขี้ยวของมัน กลัวที่เท้าเสือ ก็ที่เล็บของ
    มันเท่านั้นเอง

    เมื่อเอาปริมาณสิ่งที่เรากลัวจริงๆ มารวมกันดูแล้วก็มีเขี้ยวกับเล็บ แล้ว
    เทียบกับความกลัวที่เรากลัวมันทั้งตัว ก็เป็นเพียงหนึ่งในพันเท่านั้นเอง

    ถูกละ เมื่อประมวลเข้าเป็นตัวเสือก็กลัว แต่ถ้าแยกออกแล้วก็ไม่น่ากลัว

    ความตายก็เช่นเดียวกัน ที่เรากลัวความตาย กลัวกันจริงๆ และกลัวตั้งแต่
    เกิดจนตาย เมื่อคิดว่า จุดตาย อยู่ตรงไหนแล้วก็ไม่ควรกลัวให้มากมายนัก
    ถ้าเปรียบจุดตายเหมือนเขี้ยวเสือ เล็บเสือแล้วมันยิ่งไม่น่ากลัวเลยทีเดียว
     
  7. jernnrej_JJ

    jernnrej_JJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +1,175
    อ่านแล้วย้อนกลับมาดูตัวเอง ทำให้รู้ว่า ความเป็น"มนุษย์"ในตัวหนูนี้ มีน้อยถึงน้อยมากๆๆๆๆจริง
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จ้า..อ่านแล้วก็พิจารณากันไปนะคะ

    ไอ้ที่เค้าว่ามากไปไม่ดีก็ลดลงซะ

    ไอ้ที่เค้าบอกว่าน้อยไปไม่ดีก็เพิ่มกันไป

    ยังมีเวลาปรับปรุงตัวเองได้อีกเรื่อยๆ ค่ะ ถ้าคิดว่ามีเวลา

    บางครั้งอาจกล่าวได้ว่า "ความกลัวเป็นสัญชาตญาณของสัตว์
    หรือเป็นสภาวะจิตของเดรัจฉาน ก็คงไม่ผิด"
     
  9. jernnrej_JJ

    jernnrej_JJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +1,175
    เมื่อเช้าอ่านแว๊บๆ ว่าพี่นุ๊กกะคุณครูพี่ดาว จะไปปฎิบัติธรรมกันเดือนหน้าเหรอคะ
     
  10. ศรีสุจิตรา

    ศรีสุจิตรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +337
    เมื่อเวลามาถึง ก็ยินดีทำด้วยความเต็มใจค่ะ...พี่รั้ง ^^
     
  11. huten

    huten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,808
    ค่าพลัง:
    +15,229

    โมทนาสาธุ ค่ะ ครูติงติง เมื่อวาน น้องสองคนโทรมาขอขมากรรม และเล่าให้ฟัง

    พี่ก็รู้สึกปิติ กับน้องทั้งสองคนมากค่ะ..






    [​IMG]











     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2012
  12. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    สวัสดียามเช้า..ชาวเมืองคุรุวาโร ทุกท่าน
    ....ขออนุโมทนาสาธุกับแม่ชีนุช และน้อง...นะคะ
    ร่วมยินดี ชื่นชมกับคุณครูติงติงและลูกศิษย์ทุกคนนะคะ ที่ได้มีส่วนร่วมบุญในครั้งนี้
    บายศรีงดงามมากค่ะ และขอขอบคุณที่ได้นำรูปมาให้ได้ชื่นชมและอนุโมทนาบุญร่วมกัน...สาธุค่ะ
     
  13. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    จ๊ะเอ๋....สวัสดีตอนเช้าค่ะ ชาวปยานาค

    คำคมประจำวัน "เสียเงินนั้นยังเล็กน้อย แต่เสียเวลานั้นเหมือนเสียไปหมดทุกสิ่ง"

    ไม่มีเรื่องเล่าค่ะ เมื่อคืนไม่ได้กำหนดจิตก่อนนอน หลับไปเลยฝนตกเล็กน้อยอากาศกำลัง
    สบายๆ สลับกับอบอ้าว สูดกลิ่นอายของฝนและบรรยากาศรอบๆ แล้วก็หลับ

    มารออ่านหนอค่ะ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.1 KB
      เปิดดู:
      59
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สวัสดีค่ะคุณเต่าโบราณ3, น้องเจิ่นเจิ๊นและน้องรวัสสรร
    อีก 2 คนหายเข้าหลืบอีกแล้ว

    ตกลงเรามาจับไม้สั้นไม้ยาวกันดีมั้ย ว่าใครจะเป็นผู้เล่า
    และใครจะเป็นผู้อ่าน เพื่อความยุติธรรม......:cool:
     
  15. jernnrej_JJ

    jernnrej_JJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +1,175
    555+ ถึงจับได้ หนูก็ไม่มีเรื่องเล่าอยู่ดีค่ะพี่นุ๊ก

    พี่นุ๊กคะ จะถามค่ะว่า เวลาเรานอนภาวนา มันนอนหลับไม่สนิทค่ะ แล้วจะรู้สึกว่านอนไม่เต็มตื่น ตื่นมาก็งัวเงีย

    ถ้าเป็นอย่างนี้ควรทำต่อไปมั้ยค่ะ หรือว่าควรเปลี่ยนลักษณะการภาวนาดีคะ
     
  16. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ใจถึงกันมากเลยนะ หนีกันหมด งั้นอ่านเรื่องหนักๆ ตอนเช้าๆ
    รออ่านเรื่องเบาๆ ตอนบ่ายๆ แล้วกันนะจ๊ะ

    กรรมลิขิต

    "กรรม" หมายถึงการกระทำซึ่งรวมทั้งกรรมที่เจตนาและกรรมที่ไม่เจตนา
    กรรมที่มีเจตนาเท่านั้นที่จะให้ผล ส่วนกรรมที่ไม่มีเจตนา เรียกว่ากรรมกิริยา
    นั้นเป็นกรรมของผู้ซึ่งสิ้นกิเลสแล้ว ได้แก่ กรรมของพระอรหันต์ซึ่งไม่เกิด
    ผลแต่อย่างใด


    กรรมประเภทที่ 1 เป็นกรรมที่ให้ผลตามคราว แบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด คือ

    1.1 ทิฏฐกรรมเวทนียกรรม คือกรรมหนักที่จะให้ผลในชาตินี้ ผู้ใดประกอบกรรมนี้
    แล้วย่อมได้รับผลทันทีในชาตินี้ แต่เมื่อตายไปเสียก่อน ก่อนที่กรรมนี้จะให้ผล
    กรรมนี้ก็หมดอิทธิพล กลายเป็น "อโหสิกรรม" ไป

    1.2 อุปปัชชเวทนียกรรม คือกรรมที่ให้ผลในชาติหน้า กรรมประเภทนี้เบากว่า
    ประเภทแรก จะให้ผลต่อเมื่อผู้กระทำได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว ไปเกิดภพใหม่
    แต่ถ้าผ่านพ้นจากชาติหน้าไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นอโหสิกรรมไปเหมือนกัน

    1.3 อปราปรเวทนียกรรม คือกรรมที่ให้ผลในชาติต่อๆ ไป หมายถึง ชาตินี้
    ชาติหน้า และชาติต่อไป ท่านเปรียบกรรมชนิดนี้เหมือนสุนัขไล่เนื้อ ถ้าสุนัขไล่
    เนื้อทันก็กิน ถ้าไล่ไม่ทันก็แล้วไป ย่อมหมดกรรมประเภทนี้ไปตามวาระ คือ
    ให้ผลไม่ทัน

    1.4 อโหสิกรรม คือกรรมที่ให้ผลสำเร็จแล้ว กรรมประเภทนี้หมายถึง กรรมที่ได้
    ให้ผลในชาตินี้บ้าง ให้ผลในชาติหน้าบ้างหรือตามให้ผลไม่ทันบ้าง ตลอดจนเป็น
    กรรมเล็ก กรรมน้อย ถูกผลบุญกุศลสลัดทิ้งไปบ้างซักฟอกแล้วบ้าง กรรมประเภท
    นี้ท่านเปรียบเหมือนพืชที่สิ้นยางแล้ว หรือเมล็ดพันธุ์ที่เก็บไว้นานเกินไป มันย่อม
    ไม่ให้ผลเพาะปลูกไม่ขึ้น


    กรรมประเภทที่ 2 เป็นกรรมให้ผลตามกิจ แบ่งออกเป็น 4 เหมือนกัน

    2.1 ชนกกรรม คือกรรมที่ให้ผลไปเกิด ใครก็ตามที่ทำกรรมประเภทนี้แล้ว กรรม
    นี้จะส่งผลให้ไปเกิด ตามที่เรียกว่า "กรรมโยนิ" มีกรรมเป็นกำเนิด เมื่อกรรมนี้ให้
    ผลเป็นการเกิดแล้วก็แล้วกันไป กรรมที่ให้ผลกำเนิดนี้จะเห็นได้ชัดว่ากุลบุตร-
    ธิดาบางคน เกิดมาฉลาด เกิดมาโง่ เกิดมาร่างกายสวยงาม เกิดมาร่างกายขี้ริ้วขี้เหร่
    เกิดมาเป็นนักดนตรี เกิดมาเป็นนักกีฬา เกิดมาเป็นโจร เกิดมาเป็นขอทาน เกิดมา
    รวย เกิดมาอัตคัดเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นกรรมที่เกิดจากประเภทนี้ทั้งสิ้น

    2.2 อุปถัมภกกรรม คือกรรมที่สนับสนุนในการเกิด กรรมนี้ไม่อาจให้ผลในการเกิด
    แต่เป็นกรรมที่จะส่งผลของกรรมที่เกิดนั้นให้แรงขึ้น ดีก็ให้ดีมากขึ้น เลวก็ให้เลวลง
    กล่าวคือ กรรมชนิดนี้จะเป็นกรรมที่สนับสนุนชนกกรรมนั่นเอง กรรมนี้เป็นกรรมซ้ำเติม
    ก็ว่าได้ ดังที่เราเรียกกันว่า "กรรมพันธุ์" คือมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์นั่นเอง
     
  17. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    2.3 อุปปีพัทกรรม คือกรรมบีบคั้นเป็นกรรมที่มีผลต่อจากชนกกรรม คือให้ผล
    ในทางตรงข้ามกันอุปัถัมภกกรรม ถ้าเผื่อชนกกรรมส่งผลให้ดี กรรมประเภทนี้
    ก็จะตัดรอนความดีลงไป ทางตรงกันข้ามชนกกรรมส่งผลในทางชั่ว ก็จะช่วยให้
    ชั่วน้อยลง ถือเป็นกรรมที่บีบคั้นผลแห่งอุปถัมภกกรรมนั่นเอง

    2.4 อุปฆาตกรรม คือกรรมตัดรอน กรรมประเภทนี้ย่อมตัดรอนผลของกรรมอื่นๆ
    ไม่ให้ได้รับผลกรรมตามที่ได้กระทำมา

    กรรมประเภทที่ 3 คือกรรมที่ให้ผลตามลำดับ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ชนิดเหมือนกัน

    3.1 คุรุกรรม คือกรรมหนัก เป็นกรรมที่หนักกว่ากรรมอื่นๆ ถ้าเป็นฝ่ายอกุศลได้แก่
    อนัตริยกรรม ถ้าเป็นฝ่ายกุศลคือกรรมที่เกิดจากสมาบัติ 8 กรรมประเภทนี้ท่านเปรียบ
    เหมือนว่า เอาของโยนจากที่สูง เหล็กบ้าง กระเบื้องบ้าง ไม้บ้าง ขนไก่บ้าง ที่ตกถึง
    พื้นก่อนก็คือ ของหนัก ก็คือกรรมประเภทนี้นี่เอง

    3.2 พหุลกรรม คือกรรมที่เกิดขึ้นในเมื่อกรรมกิริยาต่างๆ ยังไม่ให้ผล เป็นกรรมที่ได้
    ประกอบไปแล้วอย่างชัดเจนและช่ำชอง ในบางครั้งก็อาจเรียกว่าอาจินนกรรม

    3.3 อสันนกรรม คือกรรมก่อนตาย กรรมก่อนตายนี้เป็นกรรมสำคัญยิ่งประเภทหนึ่ง
    เพราะมันเป็นส่วนที่จะทำให้ผู้ไปเกิดนั้นไปเกิดในภพในภูมิใด ท่านเปรียบอสันนกรรม
    นี้เหมือน ฝูงโคกระบือที่แน่นเอียดอัดอยู่ในคอก เมื่อโคบาลเปิดออก โค กระบือที่อยู่
    ริมประตูคอกเท่านั้นจะออกไปก่อน ก็เช่นเดียวกับอาสันนกรรม ฉะนั้นก่อนตาย พระ
    ท่านจึงแนะนำให้ผู้ตายระลึกถึงสิ่งที่ดีงาม นึกถึงบุญต่างๆ ที่ได้เคยทำมา นึกถึงทาน
    ต่างๆ ที่บริจาค และแม้ที่สุดก็ให้ปากภาวนาคำว่า "พุทโธ พุทโธ" หรือ สัมมา อะระหัง"
    เพราะจิตเมื่อภาวนาพุทโธหรืออรหังแล้ว จิตจะระงับอยู่ในสิ่งที่เป็นกุศล และเมื่อจิตดับ
    ไปแล้วก็ไปสู่สุขคติ

    3.4 กตัทตากรรม คือกรรมที่สักแต่ว่าทำกรรมเหล่านี้เป็นกรรมที่ทำด้วยความไม่จงใจ
    บางครั้งส่วนใหญ่มันจะไม่ให้ผล เพราะอาจเป็นกรรมเบาบ้าง เป็นกรรมที่มีเจตนาน้อย
    บ้าง หรือกรรมที่ทำไปแล้วเกิดนึกขึ้นมาภายหลังบ้าง กรรมเหล่านี้ท่านเปรียบเหมือน
    ลูกศรที่คนบ้ายิง คนบ้าก็ยิงไปสุ่มสี่สุ่มห้า โดยไม่รู้ว่าจะผิดหรือถูก จนเกือบจะไม่มี
    ความหมายอะไรในการยิงเลย
     
  18. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    การนอนภาวนาที่ถูกต้อง เมื่อภาวนาแล้วจิตจะสงบระงับ เบา สบาย มีสติขณะที่หลับ
    มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเหมือนไม่ได้หลับ แต่ตื่นขึ้นมาจะสดชื่นกระปรี้ประเปร่า เพราะ
    ได้ชาร์ตพลังจากสมาธิ

    ปัจจุบัน พี่นอนภาวนาพุทโธพอจิตมีความสว่าง ว่างและนิ่งดีแล้ว พี่ก็หลับไปเลยค่ะ ฝันค่ะแต่ไม่จำ
    เพราะยึดตัวว่างอย่างเดียว นอนดึกแค่ไหนก็ตื่นแต่เช้า แถมสดชื่นอีกต่างหาก

    นั่นแสดงว่าน้องทำผิดหลักนะจ๊ะ เพราะจิตมีความกังวล ก็เลยตื่นมาแล้วงัวเงียไม่สดชื่น
    คำภาวนาใช้กำกับลมหายใจเข้า-ออก จิตจดจ่อกับลมและคำภาวนา เมื่อจิตละวางอารมณ์แล้ว
    จิตจะเข้าสู่ภวังค์ก็หลับไปเลยค่ะ หรือข้ามภวังค์ไป จิตจะขึ้นสมาธิระดับที่สูงขึ้นไป กายหลับ
    แต่จิตไม่หลับ ตื่นตลอดเวลา แต่ว่าสงบค่ะ
     
  19. fahmui

    fahmui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,933
    ค่าพลัง:
    +5,440
    โอ้โห... พวงมาลัยสวยงาม มีหอยสังข์ด้วย ดูสะอาดตา :cool:

    เห็นแล้วปลื้มใจ อยากร้อยมาลัยให้สวยได้แบบนั้นมั่งจังเลยค่ะ

    ทุกวันนี้ซื้อพวงมาลัยถวายพระ ไม่ค่อยเจอที่สวยถูกใจเลย พวงมะลิบางวันก็ออกแนวช้ำๆ แต่ไม่มีทางเลือก :'( .....

    ***********************************

    สวัสดีทุกท่าน ทุกนามค่ะ เมื่อคืนฝัน แถมยังท่องจำฝันตัวเองตอนฝันอีกรอบ ว่าพรุ่งนี้จะต้องมาเล่าให้ได้ แต่ไหงมันลืมไปหมดล่ะเนี่ย

    เฮ้ออออ เลยต้องมานั่งรอฟังฝันท่านอื่นๆค่ะ
     
  20. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    บัณฑิตชนทั้งหลาย ย่อมเชื่ออย่างไม่สงสัยลังเลว่า ความเป็นไปในแต่ละชีวิต
    ของตนๆ นั้น "กรรม" เท่านั้นที่จะเป็นผู้ "ลิขิต" การที่จะตายจะเกิด กรรมเท่านั้น
    เป็นผู้ให้ผล

    "จิต" ย่อมเก็บรักษาผลกรรมไว้ ไม่ต่างอะไรกับเมล็ดพันธุ์พืช ที่เก็บรักษาราก
    ต้น ใบ เปลือก กระพี้ แก่น รวมตลอดถึงความโอชะแห่งรสนั้นๆ ไว้ในตัวเมล็ด
    ของมัน และให้ผลตามกาลอย่างน่าอัศจรรย์ แม้ใครจะไปผ่าออกตรวจดูก็ย่อม
    เห็น ถ้าไม่ถึงคราวให้ผล

    "จิต" ที่จะไปเกิดยังภพใหม่นั้น จะประทับรอยกรรมเหมือนกับกระดาษซับและ
    เก็บรักษาไว้เป็นระเบียบเหมือนคอมพิวเตอร์

    ท่านอาจจะเคยติดสินบนกับใครๆ ก็ได้ แต่ท่านจะทำกับ "กรรม" ไม่ได้อย่างเด็ดขาด
     

แชร์หน้านี้

Loading...