ใครได้ไปดู โพรมีทีอุส กันมาบ้างแล้วครับ เข้ามาคุยกันหน่อย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย punk_devil, 7 มิถุนายน 2012.

  1. punk_devil

    punk_devil สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +11
    ผมชอบมาก มีความรู้สึกข้อมูลที่ใช้สร้างหนัง มันเป็นเรื่องจริง 50% โดยเฉพาะเรื่องที่เราถูกสร้างโดยมนุษย์ต่างดาว แต่หวังว่ามนุษย์ต่างดาวที่สรา้งเราคงไม่โหดเหมือนในหนังนะครับ 555+

    ปล เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=sEhNzXqLXhQ"]Prometheus - Trailer 2 ซับไทย - YouTube[/ame]
     
  2. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ตามลิงค์ คำเตือน สปอยล์ โค-ตะ-ระ กันเลยทีเดียวนะเนี่ยนะ

    Bloggang.com :

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=KIgNinx_G_U&feature=player_embedded"]Paper Prometheus Trailer - YouTube[/ame]
     
  3. anubist

    anubist Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +73
    ไปดูมาเมื่อวาน ใครชอบเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าจากอวกาศ หรือ เป็นแฟนภาพยนตร์เรื่อง ALIEN น่าไปดูน๊ะ
     
  4. tar2199

    tar2199 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +565
    พรุ่งนี้ว่าจะไปดูคร๊าฟฟฟฟ
     
  5. Tonnana

    Tonnana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +153
    ชอบที่สุดครับ
     
  6. vissarut

    vissarut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +300
    ภาพยนต์มีปริศนาให้คิดตั้งแต่ต้นเรื่องเลยครับมีต่อภาค2แน่นอน
     
  7. TT_GOVERNMENT

    TT_GOVERNMENT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +711
    ดูมาแล้ว หนังแนวคิดดี

    เพราะผมก็เชื่อว่า มนุษย์ มีที่มาจาก ต่างดาว และ พระเจ้า ก็คือ มนุษย์ต่างดวง

    แต่ไม่คุ้มเงิน ผิดหวังเล็กน้อย
     
  8. John Lee

    John Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +424
    เอเลี่ยน ใน Promethues เป็นพวกที่มีหน้าตาคล้ายๆกันและเป็นเพศชาย คงจะโตมาจากการ clone

    ภายในยานอวกาศรูปวงรีโดนัท นั้นเรียบง่ายมาก คงอาจหมายถึงว่า องค์ประกอบของร่างกาย ส่วนใหญ่ ของเอเลี่ยน ถูกพัฒนารูปแบบมาเพื่อความสะดวกต่อการดำรงชีวิตต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่นมนุษย๋เรา ต้อง กิน ถ่ายเหลว ถ่ายก้อน ต้องนอนหลับพักผ่อน ก็จำเป็นต้องมีห้องชำระร่างกาย ห้องน้ำ ห้องส้วม ห้องอาหาร ฯลฯ

    แต่ว่าทำไม พวกเขาจะฆ่าเรา ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2012
  9. anubist

    anubist Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +73
    เหตุผลคืออะไรตัวหนังไม่ได้เอ่ยถึง คงอยากให้คิดเอาเองซึ่งน่าจะคิดได้ซัก 2-3 พันข้อได้

    ว่าแต่ว่ามนุษย์ต่างดาวหน้าตาเหมือนอุลตร้าแมนมากเลย
     
  10. leia17

    leia17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,368
    ตกลงว่า จะทำลายสิ่งที่สร้างขึ้นมาทำไมเหรอคะ งง
     
  11. thaimont

    thaimont Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +38
    เพราะสิ่งที่สร้างกำลังจะกลับมาทำลายผู้สร้าง
     
  12. rubian

    rubian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +483
    เอากันจริงๆแล้วมันก็พอจะมีพื้นฐานจากเรื่องจริงๆนะ เพราะตามหลายๆอารยธรรมที่มีมานานบนโลกก็มักจะบอกเสมอว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์ แต่ เดวก่อนพระเจ้าของเขานะ คือ คนที่มีผมยาวๆมีหนวดยาวๆมีปีก (แต่เป็นคน) เช่น มายันก็บอกว่า ANNUNAKI สร้างมนุษย์ขี้นมา

    คนสมัยก่อนไม่รู้จะเรียกพวกผู้สร้างนี้ว่าอะไรดี ก็เรียก พระเจ้าไว้ก่อน จริงไหม เหมือนกับเปรียบเทียบง่ายๆว่า ถ้าสมมุติผมย้อนอดีตไปสักเมื่อ 30 ปีที่แล้ว แล้วเอา IPHONE4s ไปสักอันนึง คุณๆจะเรียกมันว่าอะไร
     
  13. manfullza

    manfullza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +26
    แนวคิดจากหนังเรื่องนี้มาจากเค้าโครงเรื่องจริงนะครับเพราะเคยดูสารคดีเกี่ยวกับวิวัฒนาการของคนก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วเพราะมีการแทรกแพันธุ์กรรม ขออภัยภาษาไ่มแขงพิมในไอโฟนพิมยาก
     
  14. ทะเลลึก

    ทะเลลึก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +80
    พรหมลงมากินง้วนดินแล้ว กลายเป็นคน
    พระเจ้าปั้นมนุษย์มาจากดิน แล้วเป่าลมหายใจเข้าไป เกิดเป็นคน มีฉายาเหมือนพระองค์

    เหมือนการโคลนนิ่งด้วยเทคนิคพันธุวิศวกรรม ยังไงยังงั้น
     
  15. บัวบูชา

    บัวบูชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2005
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +313
    เหมือนจะให้คิดว่า 1.อย่าไปถามหาอดีต สิ่งที่คิดฝันสวยหรูอาจจะไม่ใช่ สุดท้ายต้องมาเสียใจ เพราะไม่ได้อะไรเลยจากการอุตส่าห์ทุ่มเท ค้นหา...
    2.ไม่มีอะไรที่จะเป็นอมตะได้ เกิดมาแล้วก็ต้องตาย ต่อให้ไปหาพระผู้สร้าง ก็ไม่สามารถช่วยได้ (แม้แต่จุดต้นกำเนิดเองก็ยังรักษาให้เป็นอมตะไว้ไม่ได้)
    3.ผู้สร้างได้ (เมื่อไม่ชอบ) ก็ทำลายได้ (อย่าไว้ใจ)
    4.ผู้ฉลาดที่สุด ถ้าจะเป็นเจ้าหุ่นนั่น วิวัฒนาการทางความคิดสูงกว่ามนุษย์จริงๆ หลอกล่อ ทดลอง เอาจนพระเอกตาย นางเอกเกือบตาย สุดท้าย (ขอเดา) ขับยานมากับนางเอก ถ้าจะมาป่วนในโลกมนุษย์แน่
     
  16. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    [​IMG]

    [​IMG]

    อ่านกระทู้สปอยล์ จากบอร์ดภาพยนตร์ต่างประเทศในพันทิปเกือบทุกกระทู้แล้ว เช่น กระทู้นี้

    http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12215473/A12215473.html

    ว่าจะกลับไปอ่านพระคัมภีร์ให้ละเอียดอีกทีนะ

    [​IMG]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=DOOJl5lWNfM"]http://www.youtube.com/watch?v=DOOJl5lWNfM[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2012
  17. โบ๊ต

    โบ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +847
    น้ำซุบเเห่งชีวิตที่เห็นในเรื่องเป็นต้นกำเหนิดของชีวิตทั้งหมด

    เเล้วการผสมพันธุ์ข้ามไปมาในเรื่องก็ได้เห็นตัวเเปลกๆหลายอย่าง

    คำถามคือ ใครเป็นคนสร้างต้นรหัสเเห่งชีวิตนั้น ใคร? เพื่ออะไร? เเล้วทำไมสร้างเเล้วต้องมีการทำลาย (หรือเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น)

    คำถามมีตรึมอ่ะ ต้องรอดูภาคสอง
     
  18. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    [​IMG]

    จริงๆ ตามพระคัมภีร์ ชาวโลกที่ชั่วร้าย ก็ถูกพระเจ้าทำลายนะ อย่าง คนบาปในเมืองโสโดม ที่เจอภูเขาไฟระเบิดใส่ตายหมู่ แต่พระเจ้าก็ให้ทูตสวรรค์มาเตือนคนดีๆ ในเมืองนั่นก่อน

    ส่วนในยุคแรกๆ ก็โนอาห์ ที่มีน้ำท่วมโลก แต่ทูตสวรรค์ก็มาบอกให้โนอาห์เตรียมตัวก่อน เพราะเป็นคนดีสุดแล้ว ในบรรดาคนอื่นๆ

    ส่วนเนื้อเรื่องในหนัง ทำไมพวกผู้สร้างถึงจะทำลายชาวโลก ก็อย่างที่ชาวโลกเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้แหละนะ ถ้าพูดแบบที่ชาวโลกไม่ต้องเข้าข้างตัวเอง จะเห็นว่า ชาวโลกที่ชั่วร้ายมีเต็มโลกเลยนะยุคนี้ แล้วก็ทำลายกันเอง ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำเรื่องแย่ๆ เยอะมาก

    ชาวโลกที่ดีๆ ก็มีนะ แต่น้อยกว่าที่ไม่ดี เทียบกันตามสัดส่วนแล้ว สีดำกำลังกลืนสีขาว
     
  19. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ถ้ารวมเรื่องทฤษฎีพระเจ้าจากอวกาศก็ต้องที่นี่นะ

    http://www.mythland.org/v3/forum-23-1.html

    เรื่องนักบินอวกาศยุคโบราณ หรือพระเจ้าในหลายๆ อารยธรรม แล้วก็อากาศยานยุคโบราณ

    บล็อกนี้ ข้อมูลเด็ดมาก

    http://earthunseen.blogspot.com/2010/09/ancient-astronaut-1.html

    [​IMG]

    Ancient Astronaut: บทที่ 1 อารัมภบท

    จากงานเขียนของ วิลเลียม เซเลอร์ และแรงบันดาลใจจากภาพอภิมหาคลาสสิคแห่งวงการพระเจ้าจากอวกาศ อันเป็นภาพของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ชาวมายาโบราณนาม ปากัล-Pakal มาเป็นบทความอภิมหายาว The Return of Ancient Astronauts ด้านล่างคือสารบัญสำหรับผู้ต้องการลัดไปอ่านบทที่สนใจโดยเฉพาะ


    # จิ๊กซอแห่งประวัติศาสตร์ # ชิ้น ส่วนเล็กๆที่จะนำมาประกอบกันเพื่อยืนยันทฤษฎี "พระเจ้าจากอวกาศ" ทั้งจากตำนานโบราณ วรรณคดี โบราณวัตถุต่างๆที่ขุดค้นพบกัน ที่บ่งชี้ว่าครั้งหนึ่งพระเจ้าจากห้วงเวหาได้เหินลงมาสร้างอาณานิคมอยู่บน โลกมนุษย์ของเรา หลายชิ้นได้รับการยอมรับแล้วจากวงการวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน ในขณะที่อีกหลายๆชิ้นยัง"หาคำตอบกันไม่ได้"

    # ลายเส้นบนพื้นราบ # ลวดลายเรขาคณิตบนที่ราบนาซก้าและที่อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน เป็นลวดลายที่สร้างขึ้นมาโดยคนโบราณโดยมีความน่าประหลาดคือ มันสามารถมองเห็นได้จากทางอากาศเท่านั้น นี่คือไอเดียใหม่ๆที่จะชยายความให้ท่านฟังว่า คนโบราณสร้างลวดลายเหล่านี้ขึ้นมาได้อย่างไรและสร้างมันขึ้นมาเพื่ออะไร

    # โบราณสถานขนาดยักษ์ #ที่ กระจัดกระจายอยู่ทุกหนแห่งบนโลกบูดๆเบี้ยวๆใบนี้ หรือเป็นความจริงตามในพระคัมภีร์ที่ว่า "กาลครั้งหนึ่ง เคยมียักษ์อาศัยอยู่บนโลกใบนี้" คนโบราณสร้างอนุสรณ์สถานด้วยหินยักษ์หนัก 2,000,000 ปอนด์ได้อย่างไร ในเมื่อด้วยวิทยาการของโลกปัจจุบัน ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย มันก็ยังเป็นไปได้อย่างยากเย็น บางทีไอเดียบางอย่างในบทนี้ อาจเป็นคำตอบที่ถูกต้องในอนาคต

    # ปิระมิด-ปิระมิด-ปิระมิด # สูงน้อยหน่อยก็ 400 ฟิต ที่สูงมากหน่อยก็ 2,300 ฟิต แถมพบในชนชาติโบราณที่เจริญผิดยุคแทบทุกชาติ พวกเขาสร้างมันขึ้นมาทำไม? นี่คือหลักฐานที่บ่งบอกว่า ปิระมิดคือโบราณสถานที่เกิดขึ้นมาพร้อมอารยธรรมมนุษย์และทำหน้าที่อย่างหลากหลาย

    เป็นจุดสังเกตในการลงจอด เป็นลานบินฉุกเฉิน สถานีเติมเสบียง หลุมหลบภัย และศาสนสถานเพื่อประกอบพิธีบวงสรวง ข้อสรุปของบทนี้คือ ปิระมิดถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์มีโอกาสได้ติดต่อกับพระเจ้า - - The Contact

    # ปริศนาแห่งตำนานโบราณ # ความลับของนักบินอวกาศยุคโบราณ ที่ซุกซ่อนอยู่ในตำนานของชนชาติที่เจริญด้วยอารยธรรมอย่างผิดยุค พันธุวิศวกรรม ยานอวกาศในคัมภีร์ไบเบิล และไขข้อข้องใจที่ว่า ทำไมแนวคิดเกี่ยวกับพระเจ้าจากอวกาศจึงไม่เป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก

    # From Myth to Myth # จากตำนานสู่ตำนาน จากปริศนาสู่ปริศนาที่ซับซ้อนกว่า จะนำพาท่านไปพบกับเรื่องราวอันชวนพิศวงของ

    * ชนชาติสุเมเรียน ทายาทของทวยเทพจากดาวเคราะห์ดวงที่สิบ

    * เรื่องลึกลับในคัมภีร์ไบเบิล นักท่องอวกาศยุคโบราณผู้สมอ้างตนเป็นพระเจ้า

    * มหากาพย์กิลกาเมช วรรณกรรมเรื่องยิ่งใหญ่ที่ไม่ได้เป็นเพียงตำนานวีรบุรุษธรรมดาๆ

    * มหาภารตะ เพียงจินตนาการหรือสงครามนิวเคลียร์ยุคก่อนประวัติศาสตร์จริงๆ...

    [​IMG]

    # พาหนะของทวยเทพ # "มนุษย์อินทรีย์" ของสุเมเรียน, "นาวาแห่งสวรรค์" ของอียิปต์, "วิมานะ" ของอินเดีย, "มังกรบิน" ของตะวันออกไกล, "พญางูมีปีก" ในอเมริกากลาง และบัลลังก์ลอยฟ้าที่ถูกกล่าวถึงบ่อยๆในจารึกของชนชาติฮีบรู ฯ มันคืออะไร?

    # การบวงสรวงบูชายัญ # แกะ วัว แพะ หรือแม้กระทั่งมนุษย์ พระเจ้าที่ว่ากันว่าอมตะต้องการอาหารเหล่านี้ไปทำไม? ศาสนสถานหลายแห่งบ่งชี้ว่า มันคือสถานที่ที่พระเจ้าเสด็จลงมา"เติมเสบียง"

    ที่เรียกร้องเอาจากมนุษย์ ยะโฮวา เรียกร้องวัว 100 ตัวลูกแกะ 100 ตัว ลูกแพะร้อยตัว ยะโฮวาเอาไปทำไม เก็บไว้ในตู้เสบียงของยานขณะเดินทางหรือ?

    คิฮัวโคเทิล เทพโบราณของอเมริกากลางต้องการให้มีการสังเวยมนุษย์ทุกสัปดาห์ พระเจ้าองค์นี้ต้องการมนุษย์เพื่ออะไร เอาไปกินหรือแค่ต้องการชิ้นส่วน?

    # สงครามนิวเคลียร์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ # "ยาวราวเจ็ดชั่วตัวคน ขับเคลื่อนด้วยเปลวไฟในตัวเอง สามารถทำลายเมืองได้ทั้งเมือง"

    "เคลื่อนที่เป็นวิถีโค้ง ร้ายแรงราวกับรวมพลังจากทั่วสากลโลกเอาไว้ อานุภาพการทำลายเต็มไปด้วยไฟ ควัน และคลื่นความร้อนราวกับดวงอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันทีละสิบดวง อาวุธนี้สามารถแปรสภาพพื้นที่รอบบริเวณได้ในพริบตา มันเผาผลาญธัญญาหารจนเกรียมวายวอดไปทั้งท้องทุ่ง

    ผู้คนจะผมเผ้าขาวโพลนและหลุดร่วง นกบนท้องฟ้าจะเปื้อนฝุ่นละอองสีขี้เถ้า ตกลงมาตายนับพันตัว มิช้ามินาน อาหารและเสบียงที่มีจะเป็นพิษจนหมดสิ้น

    วิธีการหนีรอดจากไฟบรรลัยกัลป์นี้ของทหารภารตะโบราณคือ ถอดเสื้อผ้าและชุดเกราะออก ลงไปชำระกายในน้ำครับ เพื่อมิให้ฝุ่นละอองนี้ติดตัว" - - จาก มหาภารตะ

    # วิทยาการแห่งชีวิต # - - Biotechnology of the God พระเจ้าทรงปั้นแต่งมนุษย์ขึ้นจากฝุ่นผงแห่งพสุธา เป่าลมหายใจให้มีชีวิต ประทานสติปัญญา เรื่องราวจากพระคัมภีร์เหล่านี้แฝงไว้ด้วยฉากหลังที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ของกระบวนการพันธุวิศวกรรม ทูตสวรรค์ที่อยู่กินกับหญิงสาวชาวมนุษย์ การผสมข้ามสายพันธุ์ของมนุษย์และพระเจ้า เข้าแทรกแซงวิวัฒนาการตามธรรมชาติของมนุษย์

    เรื่องราวเหล่านี้ยังคงสร้างความกังขาและถกเถียงกันอย่างไม่จบสิ้น บัดนี้เทคนิคทางพันธุวิศกรรมที่เรียกว่า "cross-species cell transfer" และ "recombinant DNA" กำลังจะให้คำตอบเราและยืนยันกับเราว่า อย่างช้าๆ...มนุษย์กำลังเจริญรอยตามพระผู้สร้างในอดีต...

    # อมตะ # ไม่ใช่หนังสือรางวัลซีไรท์ แต่เป็นความลับแห่งอายุขัยของพระเจ้า

    # Orion: Home of the God? # พระเจ้าโบราณของพวกเราไปอยู่เสียที่ไหน? บางทีร่องรอยขนาดยักษ์ที่พระเจ้าทิ้งเอาไว้บนโลก ดวงจันทร์ ดาวอังคาร คือ step เล็กๆที่พระเจ้าต้องการให้เราก้าวตามไป เมื่อผนวกเข้ากับปริศนาแห่ง Orion แล้ว พระเจ้าของเราน่าจะอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่งบริเวณกลุ่มดาว Orion - - มุมมองใหม่ที่ไม่ใช่ Nibiru...

    # พลิกฟ้าคว่ำดิน # ไม่ใช่วิทยายุทธในหนังจีน... แต่เป็นเรื่องราวของทฤษฎี Pole Shift, Pole Round ซึ่งได้ให้ข้อสังเกตกับเราว่า การที่แกนโลกเปลี่ยนแนวนั้น สัมพันธ์กับการตั้งถิ่นฐานของอายธรรมโบราณอย่างไร แกนโลกกำลังจะพลิกในเร็ววันนี้จริงหรือไม่ ถ้าจริง มันจะพลิกเมื่อใด?

    # Akkadian Seal #- จารึกดินเหนียวชิ้นเล็กๆในพิพิธภัณฑ์เบอร์ลิน ที่ Zecharia Sitchin บอกว่า มันคือข่าวสารจากโลกโบราณที่บอกกับเราว่า บรรพชนของเรารู้จักระบบสุริยะจักรวาลเป็นอย่างดี จารึกดินเหนียวชิ้นนี้แสดงให้เห็นถึง ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ทั้งเก้า (รวมไปถึง... Nibiru)

    Titan ดวงจันทร์ของดาวเสาร์ ดวงจันทร์ของโลกเรา แต่ไม่ยักกะมีพลูโต นักวิชาการหลายคนค้าน Sitchin ว่าด้วยเรื่องของจำนวนดาวเคราะห์และ scale ที่ผิดสัดส่วน Akkadian Seal คือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนงั้นรึ? ไม่มั้ง... ไปฟังเค้าเถียงกันหน่อยเป็นไร

    # บทสรุป # ปัจจุบัน พระเจ้าจากอวกาศเหล่านี้อยู่ที่ไหน ปรากฏในรูปแบบใด พระเจ้าเคยสัญญาว่าจะหวนกลับมาสู่โลกมนุษย์ คำสัญญานี้จะเป็นจริงเหมือน "I'll Back!" กับภาคต่อของคนเหล็ก Terminator หรือไม่ และถ้ากลับมาจริง พระเจ้าจะกลับมาเพื่ออะไร?

    [​IMG]

    Ancient Astronaut(s) ได้ลงมาที่โลกของเราเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมาแล้ว วิทยาการด้านไบโอเทคโนโลยีของพวกเขาคล้ายคลึงกับมนุษย์ในปัจจุบันมาก พวกเขาได้สร้างชาติพันธุ์มนุษย์ด้วยวิธีการทางพันธุวิศวกรรม

    โดยผสานยีนของพวกเขาเข้ากับสิ่งมีชีวิตคล้ายมุนษย์บนโลก ปรับปรุงสั่งสอนศิลปวิทยาการให้เพื่อใช้มนุษย์ในการทำงานบางประการ เช่น เป็นหน่วยผลิตอาหาร ทำเหมืองแร่และแรงงานในการก่อสร้าง

    พระเจ้าจากอวกาศ

    (จริงๆแล้วผมควรใช้คำว่า Gods from Space มากกว่า หากอิงตามบริบทของคนโบราณ แต่ยังไงก็ตามนะครับ ผมขอใช้คำๆนี้ในความหมายเดียวกันกับ Ancinet Astronauts คงไม่ว่ากัน เพื่อความคล่องปากของผมเองนั่นแหละ)

    โดยปกติแล้วไม่ต้องการให้มนุษย์เข้าใกล้หรือเห็นพวกเขา เพียงอนุญาตให้มนุษย์รับรู้การคงอยู่ของพระเจ้าโดยให้เห็นในรูปของสัญลักษณ์ หรือปรากฏกายแก่สายตามนุษย์ในลักษณะที่น่าเกรงขามและพรั่นพรึง อย่างไรก็ตาม มนุษย์บางส่วนก็ยังสามารถ contact กับบริวารของพระเจ้าได้

    เช่น ทูตสวรรค์ หรือเทพกึ่งสัตว์ (หุ่นยนต์?) พระเจ้าไม่ต้องการให้มนุษย์เข้าใกล้แหล่งพำนักของพระเจ้านัก ยกเว้นเฉพาะนักบวชชั้นสูง มีข้อสังเกตว่า สาเหตุอาจจะมาจากการป้องกันการติดเชื้อบางชนิด ซึ่งมีเฉพาะบนโลกของเราก็เป็นได้

    พระเจ้าจะไปไหนมาไหนด้วยพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงเคมี ในคัมภีร์โบราณหลายเล่มกล่าวตรงกันว่า ช่วงแรกพระเจ้ามักเสด็จลงมาบนยอดเขาสูง ในซอกเขา หรือปล่องถ้ำ ทั้งนี้อาจจะเพื่อป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย

    และการทำอันตรายแก่เหล่าทาสรับใช้คือมนุษย์ ที่อาจโดนลูกหลงเมื่อตอนยานลงจอด และพัฒนามาเป็นตามเทวสถานใหญ่ๆ เช่น ปิระมิด หรือ ซิกกูรัตในภายหลังเมื่อเวลาผ่านไปได้ช่วงใหญ่ และมนุษย์เริ่มพัฒนาอารยธรรมขึ้นมาแล้ว

    (นึกภาพปิระมิดแบบตะวันออกกลางหรือมายาที่มียอดตัดเรียบสิครับ เหมาะสำหรับนำ ฮ.ลงจอดหรือไม่?)

    ในกรณีที่ไม่มีที่จอดที่เหมาะสม พระเจ้าอาจสั่งให้คนงานชาวโลก ทำสัญลักษณ์ชี้พิกัดที่ใกล้เคียงกับการลงจอดและสามารถมองเห็นได้จากอากาศ เช่น เลย์ไลน์ในยุโรป หรือนาซก้าไลน์ในอเมริกากลาง

    พระเจ้าจากอวกาศยังต้องการอาหาร เราไม่แน่ใจว่าพระเจ้ากินอาหารด้วยวิธีไหน หรือกินอย่างไร แต่ที่แน่ๆ พวกเขามีการป้องกันหรือฆ่าเชื้ออย่างง่ายๆ โดยการให้มนุษย์ย่างหรือเผาเครื่องสังเวยที่มนุษย์นำมาถวายเสียก่อน

    (อาจเป็นที่มาของธรรมเนียมการบวงสรวงพระเจ้าในการบูชายัญด้วยไฟ ของหลายๆชนชาติในภายหลัง)

    จากหลักฐานที่มี พระเจ้าจะสั่งเครื่องสังเวยที่ต้องการมาเป็นล็อทๆ และมนุษย์ต้องหาและนำไปให้ที่เทวสถานหรือในถ้ำในตามเวลาที่พระเจ้าสั่ง ส่วนใหญ่คือเนื้อสัตว์ และในบางครั้งสิ่งที่พระเจ้าต้องการคือมนุษย์

    พระเจ้าได้ทรงสอนศิลปวิทยาการแขนงสำคัญแก่มนุษ์หลายๆสาขา เช่น กสิกรรม วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ ประทานกฏหมายฉบับแรกแก่มนุษย์ สุดท้ายสงครามชิงความเป็นใหญ่ระหว่างพระเจ้าโดยใช้โลกเป็นสมรภูมิก็เกิดขึ้น

    (นึกถึงสงครามชิงอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตกนะครับ พระเจ้ากับมนุษยืนี่จริงๆแล้วก็ไม่ต่างกันเลย)

    และสุดท้ายเมื่อโลกประสบภัยพิบัติจากดาวหางที่พุ่งเข้ามาชน พระเจ้าก็ได้ถอนตัวจากไป คงเหลือไว้แต่ซากอารยธรรมและตำนานที่สืบขานกันมารุ่นต่อรุ่น ยังผลให้พวกเราคนรุ่นใหม่ฉงนฉงายกันจนถึงทุกวันนี้

    ครับ... นี่คือสรุปเนื้อหาโดยรวมที่กล่าวถึง Ancient Astronauts ยืนพื้นบนงานเขียนของ Zecharia Sitchin, Eric Von Daniken, William Saylors และ Alan F. Alford ผู้เขียน The Gods of new Millenium หนังสือดีที่ออกมาตั้งนานแต่นายโซนิคเพิ่งได้มาจับ

    เนื้อหาอาจจะซ้ำกับที่เคยเขียนเอาไว้แล้วบ้าง ตัดทอนเนื้อหาจนสั้นห้วนและ บางคนตามไม่ทันบ้าง ก็ต้องขอให้ทำความเข้าใจนะครับว่า หนังสือหรือเอกสารหลายสิบเล่ม หนาเป็นพันๆหน้านั้น ผมทำได้ดีที่สุดแค่วิธีตัดมาปะติดปะต่อกันเป็นเรื่องเป็นราว หรือหยิบมาแต่ประเด็นสำคัญๆ

    แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพื่อตอบคำถามสี่ประเด็นหลัก ที่ผมตั้งใจจะเก็บมานำเสนออันประกอบด้วย

    1. ลักษณะตามธรรมชาติของพระเจ้าจากอวกาศ

    2. อธิบาย "อภินิหาร" ของพระเจ้าด้วยวิทยาศาสตร์ของมนุษย์ในปัจจุบัน

    3. พระเจ้ามาจากไหน?

    4. พระเจ้ากำลังจะไปที่ไหน

    [​IMG]

    Ancient Astronaut: บทที่ 5 จากตำนานสู่ตำนาน
    Ancient Astronaut: บทที่ 4 ปริศนาจากเทพตำนาน
    Ancient Astronaut: บทที่ 3 เทคโนโลยีชีวภาพแห่งเทพ
    Ancient Astronaut: บทที่ 2 นักบินหรือพระเจ้า
     
  20. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    http://www.mythland.org/v3/thread-74-1-1.html

    อากาศยานแห่งภารตะยุค

    ::::: By Sonic :::::

    หลังจากห่างหายไปพักใหญ่ๆ ตอนนี้ก็กลับมาพร้อมข้อมูลใหม่ๆที่เพิ่งแกะมาได้ล่าสุดเกี่ยวกับร่องรอยของ อารยธรรมต่างดาว ที่ปรากฏอยู่ในยุคบรรพชนของมนุษยชาติ แต่คราวนี้มาแปลกหน่อยเพราะไม่ได้กล่าวถึงอเมริกาใต้ อียิปต์ อย่างที่เคยเป็น

    ท่านที่เห็นจั่วหัวเรื่องคงพอจะนึกออกแล้วล่ะครับ ว่านายโซนิคจะพาท่านไปเที่ยวที่ไหนกัน ใช่แล้วครับ เราจะย้อนยุคกันไปสู่สมัยแห่งมหากาพย์ของอินเดีย เพราะมีนักคิดนักเขียนฝรั่งไม่น้อยเหมือนกัน ที่บังเอิญไปค้นเจอ"อะไร"บางอย่างที่น่าสนใจในมหากาพย์โบร่ำโบราณของอินเดีย เข้า อดใจรอซักครู่ครับ ผมจะค่อยๆเล่าให้ฟัง

    ก็เรียนกันมาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้นกันเกือบทุกคนนะครับ สำหรับมหากาพย์ของอินเดียเรื่องมหาภารตะ และรามายณะ หรือรามเกียรติ ผมจะไม่เล่าประวัติ หรือเนื้อเรื่องของมหากาพย์ทั้งสองนี้ล่ะนะครับ คิดว่าคงรู้กันดีอยู่

    ปัญหามันมีอยู่ว่า ไอ้ที่เราเรียนๆหรืออ่านกันนี้ มันเป็นฉบับดัดแปลงครับ หมายถึงสำนวน เนื้อเรื่อง ต่างๆเพี้ยนจากต้นฉบับไปเยอะมาก (ทำนองเดียวกับไบเบิล) ส่วนหนึ่งอาจมาจากกาลเวลาที่ยาวนาน รวมถึงการเล่าสืบต่อมาหลายชั่วอายุคน มีการดัดนั่น เสริมนี่เข้าไปจนเพี้ยนจากต้นฉบับเดิมมาก

    ส่วนหนึ่งก็มาจากการแปลครับ การแปลจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่งเป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะต้องคำนึงถึงภาษา ตลอดจนปัจจัยอื่นๆประกอบกันเพราะฉะนั้น ขอให้ทำความเข้าใจกันนิดว่า เอกสารทั้งหลายที่ผมอ้างอิงถึง เป็นเอกสาร Original ซึ่งขุดค้นพบโดยนักโบราณคดี และนักวิชาการเท่านั้น ถ้าคุณไปซื้อฉบับที่เป็นวรรณกรรมมาอ่านแล้วเนื้อหาไม่เหมือนกันจะมาโวยวายผม ไม่ได้นา

    เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันเสียที นักวิชาการผู้สนใจเรื่องอารยธรรมโบราณทั้งหลายแหล่ มีอยู่ส่วนหนึ่งครับ ที่ปักใจเชื่อมั่นว่า ในอดีตโลกของเรา เคยถูกครอบครองโดยสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากนอกโลกมาก่อน สำหรับท่านที่เข้ามาดูเว็บไซต์นี้บ่อยๆก็คงพอจะเข้าใจแนวคิดนี้ดี

    อินเดียเป็นหนึ่งในแหล่งอารยธรรมใหญ่ของโลก เคยรุ่งเรืองทั้งศาสตร์และศิลป์มาตั้งแต่อดีตกาล เรารู้จักกันในนามของอารยธรรมลุ่มน้ำ คงคา-สินธุ ครับ กลุ่มชนที่อาสัยในแถบนั้นสืบเชื้อสายมาจากชาวอินโด-อารยัน อันเป็นหนึ่งในเชื้อสายใหญ่ๆของโลก ชาวอินโดอารยันในแถบนี้มีความรู้ทางภาษามากครับ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ปรัชญา วรรณกรรม จึงมีให้เห็นเกลื่อนไปหมด

    ทว่า มีวรรณกรรมอยู่หลายเรื่องที่เก่าแก่จนหาที่มาที่ไปไม่ได้ว่าเริ่มต้นมาจาก ไหน บางเรื่องเก่ากว่าต้นกำเนิดของผู้คนในแถบหิมาลายันเสียอีก มหาภารตะ คือหนึ่งในเรื่องราวเหล่านี้ครับ

    จากต้นฉบับภาษาสันสกฤตโบราณที่ถูกค้นพบในอินเดียและปากีสถาน ทำให้นักโบราณคดีถึงกับอึ้งครับเมื่อพวกเขาแปลพบจารึกเหล่านี้ ร้อนถึงสภามหาวิทยาลัย และ สถาบันวิจัยของกองทัพอินเดียต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการแปลข้อความ เหล่านี้

    ต้นฉบับสันสกฤตของมหาภารตะถูกค้นพบนานมากแล้วครับ เพียงแต่แรกเริ่มเดิมที ต้นฉบับเหล่านี้ถูกมองเป็นเพียงนิทานเท่านั้น แปลไปแปลมามันไม่ยักกะใช่น่ะซีครับ เพราะเนื้อหาที่กล่าวถึงมันช่างล้ำยุคล้ำสมัยเป็นที่สุด

    ร้อนถึงหลายๆสถาบันที่เกี่ยวข้องในยุโรปและอเมริกาต้องมาประชุมเครียดกัน เพื่อถกเถียงปัญหาเกี่ยวกับต้นฉบับดังกล่าว ผลสรุปได้ ออกมาดังนี้ครับ กลุ่มแรกเห็นว่ามันเป็นเพียง"ตำนาน"เท่านั้น ก็แค่นิทานและจินตนาการของกวี ไม่เห็นมีอะไรซักหน่อย

    แต่อีกกลุ่มเค้าไม่คิดแบบนั้นน่ะซีครับ เค้าบอกว่านี่แหละคือหลักฐานแบบจะๆที่สามารถอ้างอิงได้ว่า ในอดีตมนุษย์เคยมีการติดต่อกับสิ่งทรงภูมิปัญญาจากนอกโลก รวมถึงทำสงครามกันด้วยอากาศยานและเทคโนโลยีทางนิวเคลียร์มาแล้ว

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD id=postmessage_167 class=t_msgfont>เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง นักโบราณคดีชาวจีนได้ค้นพบจารึกภาษาสันสกฤตในมณฑลลาซาของทิเบต ภาษาที่ใช้โบราณจนแปลลำบากมาก กลุ่มนักโบราณคดีได้ส่งจารึกชิ้นนี้ไปที่มหาวิทยาลัย Chandrigarh เพื่อขอความช่วยเหลือในการแปล ดร.Ruth Reyna หัวหน้าทีมแปลจารึกชิ้นนี้กล่าว่า เอกสารพวกนี้กล่าว ถึงวิธีการสร้างยานอวกาศครับ!

    เป็นยานที่ใช้โดยสารระหว่างดวงดาว มีการกล่าวถึงหลักการขับเคลื่อนของวิมานะ ด้วยกรรมวิธีที่เรียกว่า "laghima" (ลักษิมะ) ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไรกันแน่ ดร. Reyna กล่าวต่อไปว่า กลไกการขับเคลื่อนของตัวยานนั้น ตามจารึกเรียกว่า แอสตรา (Astras) สามารถที่จะนำมนุษย์ไปยังดาวดวงใดก็ได้ที่ต้องการ เหลือเชื่อดีมั๊ยล่ะครับ เอกสารโบราณของชาวภารตะเมื่อหลายพันปีก่อนเนี่ย


    [​IMG]

    นอกจากนี้ เนื้อหาในจารึกยังกล่าวถึง "อันติมะ" ยานยนตร์ที่ล่องหนได้ และ "การิมะ" อากาศยานขนาดใหญ่เท่าภูเขาขนาดย่อม เหมือนนิทานดีนะครับจารึกพวกนี้ แน่นอนว่าทีแรกทีมงานแปลไม่ได้ใส่ใจจารึกพวกนี้มากนัก จนกระทั่ง กองทัพสาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศว่า จะมีการนำเอาเนื้อหาส่วนหนึ่งของจารึกนี้มาวิจัยในโครงการอวกาศของจีนด้วย นั่นแหละ ทั่วโลกจึงหันมาจับตา "นิทานโบราณ" พวกนี้อย่างจริงจัง

    เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งว่า จารึกเหล่านี้ขาดหายตกหล่นไปเป็นจำนวนมาก ถึงกระนั้น นักวิชาการรวมไปถึงนักโบราณคดีก็ได้อะไรไม่น้อยจากจารึกนี้ เชื่อไหมครับว่ามีการกล่าวถึงการเดินทางสู่ดวงจันทร์ในมหากาพย์ รามายณะ อากาศยานที่พวกเขาใช้โดยสารเรียกว่า วิมานะ หรือ แอสตรา ที่เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่านั้นก็คือมีการกล่าวถึง การทำสงครามอวกาศด้วยวิมานะด้วยครับ ระหว่างชาวอินเดียโบราณกับชาว Asvin ด้วย ถ้าเรื่องในจารึกเป็นแค่นิทานหรือนิยาย ก็นับว่าเป็นนิยายวิทยศาสตร์เรื่องแรกของโลกที่กล่าวถึงการทำสงครามอวกาศ ก่อนหน้า Star Wars ของ จอร์จ ลูกัส เกือบหมื่นปีเชียวแหละคุณเอ๊ย

    เพื่อเจาะลึกเรื่องวิมานะนี้ให้มากขึ้นอีก ผมขออนุญาตพาท่านย้อนยุคไปยังอาณาจักรโบราณ ซึ่งตามจารึกกล่าว่าเจริญรุ่งเรืองมาเมื่อ 15,000 ปีก่อนหน้านี้ อาณาจักรนี้ชื่อ Rama Empire ครับ ตั้งอยู่ทางเหนือของอินเดียและปากีสถาน นักโบราณคดียืนยันว่า นครเก๋ากึ๊กแห่งนี้ไม่ใช่มีแต่ในนิทานเท่านั้น หากแต่มีอยู่จริงทำนองเดียวกับทรอยและไมซีนี่ เพราะมีการขุดพบโบราณสถาน โบราณวัตถุ ตลอดไปจนจารึกอีกจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่ในบริเวณที่ตั้งของนคร ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นทะเลทรายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ร่องรอยของอาณาจักร Rama ยังหลงเหลืออยู่ในตำนานปัจจุบัน

    หลายเรื่องเช่นนครทั้งเจ็ดอันกอปรขึ้นเป็นอาณาจักร Rama นี้เรารู้กันกันตามตำนานในชื่อของ "The Seven Rishi Cities." หรือ นครของกษัตริย์ลิจฉวีนั่นเอง

    นครนี้มีคงความเจริญทางเทคโนโลยีไม่แพ้ปัจจุบันทีเดียว เพราะตามจารึกกล่าวถึงความเป็นอยู่ของพลเมืองไว้อย่างพิสดารมาก พวกเขาไปไหนมาไหนกันด้วยพาหนะที่เรียกว่า Vimanas หรือ วิมานครับ ลักษณะของมันประกอบด้วยดาดฟ้าสองชั้น ตัวยานมีลักษณะกลมเหมือนโดม มีรูระบายอากาศโดยรอบ โอ.. ศิวะเทพ! ทุกท่านคิดเหมือนผมไหมครับว่า ลักษระของเจ้าวิมานะเนี่ยช่างละม้ายคล้ายคลึงกับ UFOs เสียจริงๆ

    ยังมีอีกนะครับ วิมานะสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วยิ่งกว่าสายลม แถมยังมีเสียงเหมือนบรรเลงเครื่องดนตรีสี่ประเภทพร้อมกันอีก วิมานะมีอยู่หลายรุ่นหลายรูปแบบครับ ในจารึกยังมีคู่มือการขับวิมานะประเภทต่างๆ รวมถึงการหลักการสร้างและทำลายวิมานะของข้าศึก เดี๋ยวผมจะเอารายละเอียดให้ดูครับ
    ข้อมูลเกี่ยวกับ -วิมานะ ที่มีอยู่ในจารึก

    * ความลับในการสร้างวิมานะให้แข็งแกร่ง ไม่ไหม้ไฟ และไม่ให้โดนทำลายโดยง่ายจากข้าศึก

    * กรรมวิธีขับเคลื่อนวิมานะ การหยุดกลางอากาศ การชะลอความเร็ว

    * วิธีการทำให้วิมานะ สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากฝ่ายศัตรู

    * การดักฟังคำสนทนาและเสียงอื่นๆในวิมานะฝ่ายตรงข้าม

    * การตรวจจับและอ่านทิศทางการเคลื่อนไหวของวิมานะฝ่ายศัตรู

    * กรรมวิธีทำให้ผู้ขับวิมานะของศัตรูหมดสติหรือสับสน

    * การทำลายวิมานะข้าศึกด้วยวิธีต่างๆ
    อ่านๆดูแล้วงงเป็นไก่ตาแตกเลยครับผม ท่านจะเชื่อหรือครับว่านี่คือจารึกโบราณเมื่อหลายพันปีก่อน ถ้ามันเป็นแค่นิทาน ก็นับเป็นนิทานที่เขียนได้เป็นตุเป็นตะดีมาก เพราะมีทั้งการจารกรรม การวินาศกรรม และการขับอากาศยานแบบครบถ้วนกระบวนการเหลือเกิน สำหรับใครที่สนใจเรื่องราวแบบเต็มๆของเรื่องนี้ รายละเอียดมีอยู่ในงานแปลจารึกที่ถ่ายทอดออกมาจากต้นฉบับสันสกฤตเป็นภาษาอัง กฤตครับ รู้สึกจะเป็น MAANIDASHAASTRA AERONAUTICS by Maharishi Bharadwaaja, translated into English and edited, printed and published by Mr. G. R.Josyer, Mysore, India, 1979 นี่แหละ หาอ่านกันตามสะดวกคร๊าบ

    ดร.Josyer สถาบันศึกษาภาษาสันสฤษนานาชาติกล่าวว่า จากลักษณะที่ปรากฏในจารึกโบราณหลายๆชิ้น เจ้าวิมานะนี้คงจะไม่ได้เป็นเพียงตำนานเสียแล้ว เขาให้ข้อสังเกตต่อไปว่า วิมานะสามารถขึ้นลงในแนวดิ่งและแล่นไปบนท้องฟ้าได้ด้วยความเร็วสูง หากเจ้าวิมานะไม่มีกลไกบางอย่างที่สามารถต้านทานแรงดึงดูดโลกแล้วล่ะก็ มันคงใช้หลักการขับเคลื่อนแบบเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ในปัจจุบัน คือสามารถขึ้นลงตรงๆได้โดยไม่ต้องอาศัยสนามบิน

    " วิมานะไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยกฤษฎาอภินิหาร แต่มันอาศัยเชื้อเพลิงเป็นตัวขับเคลื่อนครับ เชื้อเพลิงที่ว่าเป็นของเหลวสีเหลืองออกไปทางขาว บางที่ก็ใช้ปรอทเหลวเป็นเชื้อเพลิง รู้สึกว่าผู้จารึกจะสับสนในรายละเอียดของเชื้อเพลิงอยู่มาก มันเหมือนกับว่าเขาเขียนเอาจากการสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ หรือไม่ก้อ้างอิงเอามาจากตำราสมัยก่อนเสียมากกว่า" ดร. Josyer ทิ้งท้ายไว้แบบนี้ครับ

    เป็นไปได้ไหมครับว่า นั่นอาจเป็นเพราะวิมานะมีหลายรุ่น มีทั้งแบบใช้เชื้อเพลิงเจ็ทและใช้ปีกหมุนแบบเอลิคอปเตอร์
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...