โครงการกระโจนด่วนฉับพลันหล่อพระปางประสูติสูงประมาณ10-12นิ้ว และพระปางถวายเนตร

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย มุ่งเต็มใจ, 1 มิถุนายน 2012.

  1. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    โครงการกระโจนด่วน ฉับพลันมีแผนจะหล่อพระปางประสูติสูงประมาณ10-12นิ้ว และพระปางถวายเนตรขนาดหน้าตักเทียบเท่ากับ9นิ้ว ในวาระโอกาสเทศกาลพุทธชยันตรีจึงบอกบุญมาให้ทราบทั่วกัน

    หากหล่อองค์ด้วยโลหะสัมฤทธิ์ทองแดงต้องใช้ปัจจัย4500บาทครับ หากเป็นทองเหลืองผสมใข้ปัจจัย1500บาทครับ จะหล่อแบบใดขึ้นอยู่กับปัจจัยของผู้ร่วมบุญกันครับ

    และถ้าปัจจัยร่วมบุญเพียงพอจะมีการหล่อพระพุทธรูปปางถวายเนตร ปางประจำวันอาทิตย์(เทียบเท่าพระนั่งหน้าตัก9นิ้ว) ซึ่งใช้ปัจจัยร่วมบุญ9พันบาท

    [​IMG]

    เมื่อพระนางสิริมหามายาทรงพระครรถ์ครบถ้วนทศมาส (10เดือน)[6] ในวันเพ็ญ เดือนวิสาขมาส (ตรงกับ วันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 80 ปี) พระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จพระราชดำเนินกลับไปประสูติพระราชบุตรยังเมืองเทวทหะอันเป็นเมืองบ้านเกิดของพระองค์ แต่ขณะเสด็จพระราชดำเนินได้เพียงกลางทางหรือภายในพระราชอุทยานลุมพินีวันซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะต่อกัน พระองค์เกิดประชวรพระครรภ์จะประสูติ อำมาตย์ผู้ตามเสด็จจึงจัดร่มไม้สาละถวาย พระนางจึงประสูติพระโอรส ณ ใต้ร่มไม้สาละนั้น โดยขณะประสูติพระนางประทับยืน พระหัตถ์ทรงจับกิ่งสาละไว้ เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติแล้ว (โดยอาการที่พระบาทออกจากพระครรภ์ก่อน) พระโพธิสัตว์ได้ทรงพระดำเนินไปได้ 7 ก้าว และได้ทรงเปล่งอาสภิวาจา (วาจาประกาศความเป็นผู้สูงสุด) ขึ้นว่า[7]

    อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส เชฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส เสฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส.
    อยมนฺติมา ชาติ. นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว.
    คำแปล : เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก, เราเป็นผู้เจริญที่สุดแห่งโลก, เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดแห่งโลก. ชาตินี้ เป็นชาติสุดท้าย. บัดนี้ ภพใหม่ย่อมไม่มี ดังนี้

    — สยามรฏฺฐเตปิฏกํ ปาลี. อจฺฉริยอพฺภูตธมฺมสุตฺต อุปริ. ม. ๑๔/๒๔๙-๒๕๑/๓๖๖-๗-๘-๙, ๓๗๑

    โดยการทรงเปล่งอาสภิวาจาเป็นอัศจรรย์นี้ นับเป็นบุรพนิมิตแห่งพระบรมโพธิญาณ ที่เจ้าชายน้อยผู้ทรงเป็นพระบรมโพธิสัตว์จักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกาลอีกไม่นาน

    ตั้งใจว่าจะนำพระไปถวายที่วัดนิคมผัง16 นครราชสีมา ท่านเจ้าอาวาสเคยบอกบุญไว้นานแล้วครับ ถ้าไม่เช่นนั้นอาจถวายในวัดสายหลวงปู่มั่นครับ



    บัญชีบริจาค ธนาคารกรุงไทย ออมทรัพย์ 0661012069 กุศลมงคล สุวรรณกูฏ บริจาคแล้วแจ้งให้ทราบด้วยครับ ผ่านช่องทางข้อความก็ได้นะครับ มิฉะนั้นจะไม่สามารถแยกแยะกับรายการอื่นได้ครับ เพราะเป็นบัญชีอเนกประสงค์ครับ ผิดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ
     
  2. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    เพื่อนๆเขาบอกว่าโอกาสรอบ100ปีเป็นโอกาสที่เทวดาจะร่วมฉลองพระพุทธศาสนาด้วย เป็นการยากที่จะทำบุญในเทศกาลวิสาขบูชาโดยเฉพาะรอบพุทธชยันตี2600ปีเช่นนี้ด้วย การฉลองหรือทำบุญกุศลใดๆในรอบสัปดาห์นี้จะมีผลมาก ผมมีศรัทธาทราบมาในระยะเวลากระชั้นเลยกระโจนเข้าตัดสินใจทำฉับพลันทันทีครับ

    อนึ่งวันนั้นเป็นวันจันทร์เพ็ญตรีฤกษ์ เป็นโอกาสสิริมงคลสำทับ และประกอบกับเป็นฤกษ์พรหมประสิทธิ์ตามปฎิทินฤกษ์ของหลวงปู่ปานวัดบางนมโค จึงเป็นวาระมงคลโอกาสซ้อนหลายชั้น เหมาะอย่างยิ่งที่จะบำเพ็ญบุญกุศลต่างๆ รวมทั้งการหล่อพระพุทธรูป อีกด้วยครับ
     
  3. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    โครงการกระโจนด่วน ฉับพลันมีแผนจะหล่อพระปางประสูติสูงประมาณ10-12นิ้ว และพระปางถวายเนตรขนาดหน้าตักเทียบเท่ากับ9นิ้ว ในวาระโอกาสเทศกาลพุทธชยันตรีจึงบอกบุญมาให้ทราบทั่วกัน

    หากหล่อองค์ด้วยโลหะสัมฤทธิ์ทองแดงต้องใช้ปัจจัย4500บาทครับ หากเป็นทองเหลืองผสมใข้ปัจจัย1500บาทครับ จะหล่อแบบใดขึ้นอยู่กับปัจจัยของผู้ร่วมบุญกันครับ

    และถ้าปัจจัยร่วมบุญเพียงพอจะมีการหล่อพระพุทธรูปปางถวายเนตร ปางประจำวันอาทิตย์(เทียบเท่าพระนั่งหน้าตัก9นิ้ว) ซึ่งใช้ปัจจัยร่วมบุญ9พันบาท

    [​IMG]

    เมื่อพระนางสิริมหามายาทรงพระครรถ์ครบถ้วนทศมาส (10เดือน)[6] ในวันเพ็ญ เดือนวิสาขมาส (ตรงกับ วันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 80 ปี) พระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จพระราชดำเนินกลับไปประสูติพระราชบุตรยังเมืองเทวทหะอันเป็นเมืองบ้านเกิดของพระองค์ แต่ขณะเสด็จพระราชดำเนินได้เพียงกลางทางหรือภายในพระราชอุทยานลุมพินีวันซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์และเมืองเทวทหะต่อกัน พระองค์เกิดประชวรพระครรภ์จะประสูติ อำมาตย์ผู้ตามเสด็จจึงจัดร่มไม้สาละถวาย พระนางจึงประสูติพระโอรส ณ ใต้ร่มไม้สาละนั้น โดยขณะประสูติพระนางประทับยืน พระหัตถ์ทรงจับกิ่งสาละไว้ เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติแล้ว (โดยอาการที่พระบาทออกจากพระครรภ์ก่อน) พระโพธิสัตว์ได้ทรงพระดำเนินไปได้ 7 ก้าว และได้ทรงเปล่งอาสภิวาจา (วาจาประกาศความเป็นผู้สูงสุด) ขึ้นว่า[7]

    อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส เชฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส เสฏฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส.
    อยมนฺติมา ชาติ. นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว.
    คำแปล : เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก, เราเป็นผู้เจริญที่สุดแห่งโลก, เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดแห่งโลก. ชาตินี้ เป็นชาติสุดท้าย. บัดนี้ ภพใหม่ย่อมไม่มี ดังนี้

    — สยามรฏฺฐเตปิฏกํ ปาลี. อจฺฉริยอพฺภูตธมฺมสุตฺต อุปริ. ม. ๑๔/๒๔๙-๒๕๑/๓๖๖-๗-๘-๙, ๓๗๑

    โดยการทรงเปล่งอาสภิวาจาเป็นอัศจรรย์นี้ นับเป็นบุรพนิมิตแห่งพระบรมโพธิญาณ ที่เจ้าชายน้อยผู้ทรงเป็นพระบรมโพธิสัตว์จักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกาลอีกไม่นาน

    ตั้งใจว่าจะนำพระไปถวายที่วัดนิคมผัง16 นครราชสีมา ท่านเจ้าอาวาสเคยบอกบุญไว้นานแล้วครับ ถ้าไม่เช่นนั้นอาจถวายในวัดสายหลวงปู่มั่นครับ



    บัญชีบริจาค ธนาคารกรุงไทย ออมทรัพย์ 0661012069 กุศลมงคล สุวรรณกูฏ บริจาคแล้วแจ้งให้ทราบด้วยครับ ผ่านช่องทางข้อความก็ได้นะครับ มิฉะนั้นจะไม่สามารถแยกแยะกับรายการอื่นได้ครับ เพราะเป็นบัญชีอเนกประสงค์ครับ ผิดพลั้งไปขออภัยขมาด้วยครับ
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ได้กล่าวถึงอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูปไว้ว่า เหมือนเป็นการสร้างธนาคารบุญ บุคคลทั้งหลายที่ได้สร้างรูปพระพุทธเจ้าจะได้เสวยสมบัติสิ้นกาลนานนัก จะได้อานิสงส์ 5 กัปป์ คือถ้าเกิดเป็นมนุษย์ก็จะได้พบพระพุทธเจ้าตลอด 5 กัปป์ หรือจะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในภายหน้าก็จะได้ และเมื่อใดที่มีคนมาไหว้พระพุทธรูปที่เราสร้างนั้นเราก็จะได้อานิสงส์นั้นทุกครั้งไป
     
  5. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    เหล่าข้าพเจ้าสุรัตน์วดี งามทรง, สุทิน งามทรง, สุภาพร งามทรง และ Lim Su Wah ได้ถวายปัจจัยจำนวน 2,000.20 บาทเพื่อร่วมทำบุญหล่อพระปางประสูติสูงประมาณ10-12นิ้ว และพระปางถวายเนตรขนาดหน้าตักเทียบเท่ากับ9นิ้ว โดยโอนเข้าบัญชี KTB วันที่ 01/6/2555 เวลา 04.00 น.

    นะโมเมสัพพะพุทธานัง - ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าถ้วนทั่วทุกพระองค์
    นะโมเมสัพพะสัจจะธัมมานัง - ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระสัจธรรมทั่วทั้งไตรโลกธาตุ
    นะโมเมสัพพะสังฆานัง - ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระอริยสงฆ์เจ้าถ้วนทั่วทุกพระองค์

    ด้วยอานิสงค์ผลบุญกุศลใดๆ ที่เหล่าข้าพเจ้าได้กระทำแล้วโดยชอบในครั้งนี้ ขอคำอธิษฐานของเหล่าข้าพเจ้าจงบังเกิดผลสำเร็จดังนี้

    เพื่อเป็นการชำระหนี้สงฆ์ ที่เหล่าข้าพเจ้าได้เคยติดค้างสงฆ์ นับแต่อดีตชาติจวบจนปัจจุบันกาลนี้ เหล่าข้าพเจ้าขอชำระซึ่งหนี้สงฆ์เหล่านั้นทั้งหมดทั้งสิ้น

    เพื่อเป็นการขอขมาต่อพระรัตนตรัยตลอดจนผู้มีพระคุณทุกท่านที่เหล่าข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินจาบจ้วงด้วยกาย,วาจา,ใจ ทั้งต่อหน้าและหลับหลัง จะโดยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ระลึกได้ก็ดีระลึกไม่ได้ก็ดี จะเป็นชาติใดภพใดก็ตาม ขอจงเป็นอโหสิกรรม อย่าได้ขวางกั้นทางพระนิพพาน

    ขอจงเป็นนิสสัย เป็นปัจจัย เป็นพละ ผูกขาดจองขาดตรงต่อพระนิพพานอยู่ทุกกาลทุกเมื่อ

    ขึ้นชื่อว่าอุปสรรคความขัดข้องใดๆ อย่าได้พึงปรากฏบังเกิดมีแก่เหล่าข้าพเจ้าทั้งทางโลกและทางธรรม

    ขอความเจริญในอายุ วรรณะ สุขะ พละ เจริญด้วย ลาภ ทรัพย์ อำนาจ วาสนา จงมีแก่เหล่าข้าพเจ้าอย่างมั่นคง

    และด้วยอานิสงค์แห่งผลบุญนี้ จงสำเร็จถึง บิดา มารดา พี่น้อง ญาติ มิตร เพิ่อนพ้อง ตลอดทั้งผู้มีพระคุณทุกท่าน อีกทั้งเจ้ากรรมนายเวรภพใดชาติใดก็ตาม เหล่าเทพ พรหม ทุกชั้นฟ้าชั้นดิน เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ผู้ติดอยู่ข้องอยู่เวียนว่ายตายเกิดในภพทั้งสาม ทั้งที่กล่าวนามก็ดีไม่กล่าวนามก็ดี ระลึกได้ก็ดีระลึกไม่ได้ก็ดี ขอได้โปรดมาโมทนาในกุศลผลบุญครั้งนี้ที่เหล่าข้าพเจ้าได้กระทำแล้วโดยชอบ เพื่อประโยชน์และความสุข พ้นจากความทุกข์ทั้งปวง มีพระนิพพานเป็นที่สุดทุกท่านเทอญ

    พุทธังอนันตัง ด้วยพระพุทธานุภาพแห่งพระพุทธบารมีขององค์พระสัพพัญญูเจ้าทุกๆพระองค์ ทั่วทั้งแสนโกฏิจักรวาล อันเอนกอนันต์ไม่มีประมาณ
    ธัมมังจักวาลัง ด้วยพระธรรมานุภาพแห่งพระสัจธรรมทั่วทั้งไตรโลกธาตุสุดขอบจักรวาล
    สังฆังนิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ด้วยบารมีแห่งพระอริยเจ้า ทั่วทั้งแสนโกฏิจักรวาล จงเป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้ท่านทั้งหลายล่วงพ้นจากความทุกข์ถึงที่สุดแห่งพระนิพพานเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ (>/\<)
     
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยดลบันดาลให้บุญกุศลที่คณะของคุณSanDz บำเพ็ญไว้ในครั้งนี้และครั้งอื่นๆ เป็นสรรพพลวปัจจัยให้ ความปรารถนาใดที่ดีงามดังกล่าวมา สำเร็จสมประสงค์โดยดีงามด้วยเทอญ
     
  7. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    ขอให้เป็นสรรพพลวปัจจัยให้โครงการนี้สำเร็จเรียบร้อยโดยดีงามครับ
     
  8. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    เพื่อนๆเขาบอกว่า เป็นการยากที่จะทำบุญในเทศกาลวิสาขบูชาโดยเฉพาะรอบพุทธชยันตี2600ปีเช่นนี้ด้วย การฉลองหรือทำบุญกุศลใดๆในรอบสัปดาห์นี้จะมีผลมาก ผมมีศรัทธาทราบมาในระยะเวลากระชั้นเลยกระโจนเข้าตัดสินใจทำฉับพลันทันทีครับ

    อนึ่งวันนั้นเป็นวันจันทร์เพ็ญตรีฤกษ์ เป็นโอกาสสิริมงคลสำทับ และประกอบกับเป็นฤกษ์พรหมประสิทธิ์ตามปฎิทินฤกษ์ของหลวงปู่ปานวัดบางนมโค จึงเป็นวาระมงคลโอกาสซ้อนหลายชั้น เหมาะอย่างยิ่งที่จะบำเพ็ญบุญกุศลต่างๆ รวมทั้งการหล่อพระพุทธรูป อีกด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2012
  9. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    ร่วมทำบุญหล่อพระปางประสูติสูงประมาณ10-12นิ้ว และพระปางถวายเนตร

    25 บ
    โอนวันที่ 1 มิ.ย. 55 เวลา 10.53 น
     
  10. ปักธงชัย

    ปักธงชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    584
    ค่าพลัง:
    +3,721
    คุณ ณพล เลิศสุมิตรกุล และ ครอบครัว ขอร่วมหล่อพระปางประสูติ และ ปางถวายเนตรโอนเงิน 1/6/55 จำนวน 500 บาท และ ขอพระแม่ธรณี และ พระยายมราช ทรงเป็นสักขีพยานในการทำบุญของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อน้อมบูชาพระรัตนตรับ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรมทุกพระธรรมขันธ์ พระอริยสงฆ์ พระอริยเจ้าทุกๆพระะองค์ และ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกบุญกุศลที่ท่านทั้งหลายได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน และ ขอชำระหนี้กรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้ง 3 ภพ คือ โลก สวรรค์ นรก เจ้ากรรมนายเวรจะอยู่ภพใด ขอบารมีพระพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายโมทนาบุญครั้งนี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เมื่อท่านได้รับแล้ว โปรดอโหสิกรรม และตัดขาดจากข้าพเจ้า ณ บัดนี้ด้วยเทอญ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายที่ได้ทำแล้วแก่บิดามารดา ปุ่ ย่า ตา ยาย ญาติพี่น้องทุกภพทุกชาติ อุปัชฌาย์ครูบาอาจารย์ทุกภพทุกชาติ เทพเทวดา นางฟ้าทุกชั้นฟ้าที่ได้ปกปักรักษาข้าพเจ้าทั้งหลาย, ด้วยอนิสงฆ์แห่งบุญนี้ ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายเข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้ และ ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้พบ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ขอให้มีสมบัติเกิดในทุกที่ทุกสถาน ในทุกกาลทุกเมื่อ ทุกภพ ทุกชาติ ตราบเท้าเข้าสู่พระนิพพาน สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     
  11. suppysuppy

    suppysuppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +9,811
    ขอร่วมบุญด้วย 100 บาทค่ะ

    ผลการทำรายการ สำเร็จ
    เลขที่อ้างอิงการทำรายการ 2711737721201262
    วัน/เวลาการทำรายการ 02-06-2012 01:11:03
    บัญชีผู้รับโอน KTB*066-1-01206-9
    จำนวนเงิน 100.00 บาท

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ
     
  12. สุทัสสี

    สุทัสสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +439
    2/6/55 ผมและครอบครัวร่วมทำบุญ 30 บาท อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
     
  13. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    สาธุๆๆอนุโมทามิ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยดลบันดาลให้บุญกุศลและกิจกรรมสัมพันธ์ของทุกๆท่านที่ร่วมโครงการฯและคณะเป็นสรรพพลวปัจจัยให้คำอธิษฐานปรารถนาที่ตั้งไว้แล้วนานาสำเร็จโดยดีงามเทอญ สิทธมัตถุๆๆ สัมปติจฉามิๆๆ
     
  14. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    พนักงานทีโอทีและเหล่าสมาชิกชมรมพุทธทีโอที ร่วมบุญโครงการนี้ ประมาณ5พัน5ร้อยบาทมีท่านหนึ่งในนั้นร่วมบุญ2พันบาท และขอรับพระพุทธรูปปางประสูติไว้บูชา1องค์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2012
  15. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    พนักงานเพื่อนร้านชาร์คร่วมบุญโครงการนี้ ประมาณ2พันบาทครับ
     
  16. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    คณะสำนักปฏิบัติธรรมเจโตวิมุตติร่วมบุญโครงการฯประมาณ 4พัน5ร้อย60บาท
    ขอรับพระพุทธรูปปางประสูติ 2องค์
     
  17. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    พระร่วงศักดิ์สิทธิ์มาก

    ตัวอย่างรายนามหลวงปู่ครูบาอาจารย์เมตตาอธิษฐานจิตโครงการและแผ่นทองชนวน
    หลวงปู่เจริญ
    หลวงปู่สมศักดิ์
    หลวงปู่เจริญ วัดถ้ำปากเปียง
    หลวงปู่แปลง วัดป่าอุดมสมพร
    หลวงปู่ไม อินทสิริ
    ฯลฯ

    หลวงปู่รูปหนึ่ง ขณะเมตตาอธิษฐานแผ่นชนวนทองแดง เกิดมีพระดินเผาในมือของผมหลุดร่วงหล่นลงพื้นมีน้องคนหนึ่งหยิบขึ้นมาคืน หลวงปู่ท่านนั้นกล่าวออกมาในทำนองว่า พระร่วงนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ฯ
    อนึ่งครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเมตตาจารยันตร์ให้ด้วยครับ
     
  18. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]
    หลวงปู่สมศักดิ์ ปัณฑิโต วัดบูรพาราม (วัดหลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
     
  19. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    อุทัย หมายถึงพระอาทิตย์ตอนเช้า

    พระร่วง ขอมดำดิน
    http://www.traphangthong.org/index.php?lay=show&ac=article&Id=538820931

    อีกสำนวนหนึ่งของตำนานวีรบุรุษในพงศาวดารเหนือ และในนิทานชาวบ้านแถบสุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก ตาก อุตรดิตถ์ ที่นิยมหยิบยกมาเล่าขานทั้งในฐานะผู้นำทางวัฒนธรรม วีรบุรุษผู้มีตัวตนจริงตามประวัติศาสตร์ สัญลักษณ์ของผู้รู้ และความเป็นปราชญ์

    ตอนที่หยิบยกมานี้ คัดลอกมาจากหนังสือ “๕๐ นิทานไทย” โดย ธนากิต


    อดีตกาลนานนับพันปีเศษล่วงมาแล้ว ณ กรุงอินทปัด อันมีพระเจ้าอุทัยราช เป็นผู้ปกครอง พระองค์มีพระมเหสี ซึ่งเป็นเชื้อสายของพวกนาค จึงมีนามเรียกกันว่า พระนางนาค วันหนึ่งเมื่อพระเจ้าอุทัยราชพาพระมเหสีซึ่งกำลังมีพระครรภ์แก่ใกล้คลอดเสด็จประพาส ณ หาดทราย เมืองอัมราพิรุณบูรณ์ พระมเหสีก็ประสูติโอรสออกมาเป็นฟองไข่ พระเจ้าอุทัยราชไม่ทราบชาติกำเนิดเดิมของพระมเหสี จึงเกรงว่าฟองไข่นี้อาจจะเป็นเสนียดจัญไรและเกิดความอัปมงคลแก่บ้านเมือง จึงให้ทิ้งไป ก่อนที่จะตามเสด็จพระสวามีกลับกรุงอินทปัด พระนางนาคสั่งให้คนสนิทนำฟองไข่ไปฝังทรายไว้
    กล่าวถึง กรุงละโว้ ซึ่งในเวลานั้นไม่มีเจ้าเมืองครอบครอง นายคงเครา ซึ่งเป็นนายกองส่งน้ำ ทำหน้าที่รักษาการแทนอยู่ ขณะนั้นเมืองละโว้ขึ้นอยู่ในอำนาจของพวกขอม ต้องส่งส่วยเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทะเลชุบศร เป็นประจำทุก ๓ ปี ขากลับที่คุมไพร่พลขนน้ำไปถวายพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์ (พระเจ้าพันธุมสุริยวงศ์ หรือ พระเจ้าสุริยวรมันที่ ๒) ณ เมืองขอม ขณะขบวนเกวียนของนายคงเคราผ่านเมืองอัมราพิรุณบูรณ์เห็นมีฟองไข่ขนาดใหญ่ผุดขึ้นบนหาดทราย นายคงเคราจึงเก็บเอาไปยังเมืองละโว้ด้วย แล้วหาแม่ไก่ให้มาช่วยฟักตัวละหนึ่งเดือน พอครบสิบเดือนไข่นั้นก็แตกออก ภายในมีเด็กผู้ชายน่าตาน่ารักน่าเอ็นดู นายคงเคราจึงให้ชื่อว่า ร่วงและเลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรม
    เมื่อโตขึ้นอายุได้ ๑๑ ปี ร่วงจึงรู้ว่าตนมีวาจาสิทธิ์ ด้วยเหตุที่วันหนึ่งได้พายเรือเล่นในทุ่งพรหมมาศ (บางตำราว่าพายเล่นในทะเลชุบศร) พายเรือตามน้ำไปได้สักพักก็คิดจะกลับแต่ต้องพายทวนน้ำ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจึงพูดเปรยๆ ออกมาว่า “ทำไมน้ำไม่ไหลกลับไปทางเรือนเราบ้าง” ทันใดนั้นน้ำในทุ่งพรหมมาศก็เปลี่ยนทิศไหลพาเรือกลับอย่างที่ตนพูด ร่วงได้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่ยอมบอกให้ใครทราบ
    อยู่ต่อมานายคงเคราถึงแก่กรรม บรรดาไพร่พลทั้งปวงจึงยกให้นายร่วงเป็นนายกองส่งน้ำแทน ครั้นครบกำหนด นักคุ้มข้าหลวงจากเมืองขอมได้คุมกองเกวียน ๕๐ เล่ม พร้อมไพร่พล ๑,๐๐๐ คน มาบรรทุกน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทะเลชุบศร เพื่อนำไปประกอบพิธี เมื่อมาถึงเมืองละโว้ได้ทราบข่าวนายคงเคราเสียชีวิตแล้ว จึงให้คนไปตามนายร่วงซึ่งทำหน้าที่แทนมาพบ นายร่วงจึงบอกกับนักคุ้มว่าท่านเอาโอ่งเอาไหที่ทำด้วยดินมาใส่น้ำอย่างนี้หนักเปล่าๆ จงช่วยกันสานชะลอมใส่น้ำไปเถิด เราจะสั่งน้ำมิให้ไหลออกมาเอง
    นักคุ้มเห็นนายร่วงรับรองแข็งขันว่าสามารถทำได้ ก็สั่งไพร่พลให้ช่วยกันสานชะลอมใส่เกวียนเล่มละ ๒๕ ใบ ซึ่งเมื่อนำชะลอมทุกใบไปตักน้ำตั้งบนเกวียน ปรากฏว่าไม่มีน้ำไหลรั่วออกมาเลยแม้แต่ใบเดียว นักคุ้มรู้สึกเกรงอำนาจวาจาสิทธิ์ของนายร่วงจึงรีบนำขบวนเกวียนเดินทางกลับเมืองขอม ระหว่างทางถึงด่านแห่งหนึ่งนักคุ้มเกิดแคลงใจว่าถูกนายร่วงหลอกให้ขนชะลอมเปล่าไปเมืองตนเอง พอนึกดังนั้นครั้นหันไปมองน้ำในชะลอมก็กลับไหลออกมาให้เห็น นักคุ้มจึงสรรเสริญนายร่วงว่าเก่งกล้าสามารถนัก และให้จารึกเรื่องราวไว้เป็นสำคัญ ณ ที่แห่งนั้นจึงได้ชื่อว่า ด่านพระจารึก
    ครั้นเดินทางต่อมาจนถึงเมืองตึกโช ชาวเมืองพอทราบข่าวก็เล่าลือเรื่องที่นักคุ้มนำชะลอมใส่น้ำบรรทุกมา เจ้าเมืองขอมทราบจึงเรียกไปสอบถาม นักคุ้มก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างละเอียด พร้อมทั้งยกชะลอมใบที่ยังมีน้ำขังอยู่เทลงในพะเนียงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่เจ้าเมืองและเหล่าข้าราชบริพารโดยทั่วหน้ากัน เจ้าเมืองขอมตกพระทัยตรัสว่า บัดนี้ผู้มีบุญมาเกิด ณ เมืองละโว้แล้วควรจะรีบยกกองทัพไปจับตัวมาสังหารเสียดีกว่า
    นายร่วงรู้ข่าวว่าทหารขอมยกกองทัพมาจับตัวก็หนีออกจากเมืองละโว้ขึ้นไปทางเหนือและได้หลบอยู่ริมวัดแห่งหนึ่ง ณ บ้านบางคลาน เขตเมืองพิจิตร ได้รับความอดอยากถึงกับต้องขออาหารชาวบ้านกิน ผู้ที่มีจิตเมตตาได้นำข้าวและปลาหมอตัวหนึ่งมาให้ นายร่วงกินเนื้อปลาทั้งสองข้างหมดแล้วก็โยนก้างลงไปในสระและสั่งว่า “เจ้าจงมีชีวิตขึ้นมาเถิด” พลันปลาซึ่งไม่มีเนื้อมีแต่ก้างนั้นก็กลับมีชีวิตขึ้นมาแหวกว่ายอยู่ในน้ำ ชาวบ้านเรียกว่า ปลาก้าง ต่อมาจึงเดินทางไปถึงเขตแขวงเมืองเชลียง นายร่วงจึงหยุดพักและรู้สึกปวดท้องถ่าย จึงนั่งถ่ายที่ข้างป่า เสร็จแล้วได้หักกิ่งไม้แห้งมาชำระและโยนทิ้ง พร้อมกับสั่งว่า “จงงอกขึ้นมาเถิด” พลันไม้นั้นก็งอกขึ้นมาเป็นต้น ซึ่งมีกลิ่นเหมือนอาจม ชาวบ้านเรียกว่า ไม้ชำระพระร่วง
    นายร่วงพเนจรหลบหนีพวกทหารขอมอยู่เป็นเวลาหลายปี จนเมื่ออายุครบบวชจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดในเมืองสุโขทัย ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า พระร่วง นับแต่นั้นมา วันหนึ่งนายทหารขอมซึ่งทราบข่าวได้ติดตามมา ครั้นถึงวัดที่พระร่วงจำพรรษาอยู่ได้ใช้ฤทธิ์ดำดินลอดกำแพงวัดเข้าไป เห็นพระร่วงกำลังกวาดลานวัดอยู่แต่ไม่รู้จักจึงถามว่า “พระร่วงที่มาจากเมืองละโว้อยู่ที่ไหน” พระร่วงจึงสอบถามจนรู้ว่าเป็นนายทหารขอมที่ตามมาจับตนจึงบอกว่า “เจ้าจงอยู่ที่นี่แหละอย่าไปไหนเลย จะไปตามพระร่วงให้” ด้วยฤทธิ์วาจาสิทธิ์ของพระร่วง ร่างของขอมดำดินผู้นั้นก็แข็งกลายเป็นหินติดคาแผ่นดินอยู่ตรงนั้น ต่อมาเมื่อเจ้าเมืองสุโขทัยสวรรคต และชาวเมืองรู้ว่าพระร่วงเป็นผู้มีบุญ จึงพร้อมใจกันขอให้พระร่วงลาสิกขาบท แล้วอัญเชิญขึ้นเป็นเจ้าเมือง นับตั้งแต่พระร่วงครองราชสมบัติปกครองเมืองสุโขทัยเจริญรุ่งเรืองนับแต่นั้นมา
    ตำนานเกี่ยวกับขอมดำดินหรือวาจาสิทธิ์พระร่วงนั้นมีแตกต่างกันไปหลายนัย บางตำนานบอกว่าขอมดำดินนั้นได้อาสาเจ้าเมืองขอมมาตามจับพระร่วงตามลำพังตั้งแต่แรก ไม่ใช่ทหารขอมยกมาเป็นกองทัพอย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้น และมีผู้สันนิษฐานว่านายร่วงคงจะใช้ชันสำหรับยาเรือยาหรือทาชะลอมน้ำจึงไม่ไหลออกมา แต่อีกตำนานหนึ่งบอกว่าพระร่วงเป็นลูกของเจ้าเมืองและมีน้องชายชื่อว่า ลือ ดังนี้
    ณ เมืองศรีสัตชนาลัย เจ้าเมืองมีลูกชายชื่อว่าร่วง เมื่อเห็นว่าลูกของตนไม่มีเพื่อนเล่น พ่อจึงไปขอเพื่อนเล่นให้ลูกที่ศาลเทพารักษ์แห่งหนึ่ง รุ่งเช้าปรากฏว่ามีไม้แกะเป็นรูปเด็กวางไว้ที่ศาล ตกกลางคืนพอเดือนตกแล้วพ่อของร่วงซึ่งกลับไปที่ศาลอีกครั้งได้ยินเสียงเด็กไม้พูดทักทาย จึงดีใจนำมาเป็นเพื่อนเล่นกับลูก โดยตั้งชื่อให้ว่า ลือ
    ต่อมาในวันมาฆบูชา พ่อได้ถามร่วงและลือว่าลูกทั้งสองต้องการจะสร้างอะไรในศาสนาบ้าง ร่วงและลือจึงบอกพ่อว่าจะสร้างเจดีย์ พ่อจึงให้ช่างสร้างเจดีย์ขึ้นสององค์ ซึ่งเจดีย์ของร่วงแต่แรกนั้นสวยกว่าของลือ ลือจึงให้สร้างเจดีย์ของตนสูงกว่าของร่วง ร่วงเห็นเข้าไม่พอใจจึงเตะยอดเจดีย์ของลือหักกระเด็นไปตกที่จังหวัดลพบุรี (กลายเป็นยอดเจดีย์หักในจังหวัดลพบุรี ส่วนเจดีย์ของร่วงกับลือยังอยู่ในจังหวัดสุโขทัย)
    วันหนึ่งร่วงเก็บมะขามเทศใส่ย่ามเดินกินทิ้งเมล็ดไปตลอดทางในระยะสี่กิโลเมตร ต่อมาเกิดเป็นต้นมะขามเทศงอกและโตขึ้น ณ สองฟากถนนและมีช่องว่างเป็นทางสำหรับเล่นว่าว พ่อจึงทำว่าวจุฬาให้ร่วงและทำว่าวปักเป้าให้ลือ ว่าวของร่วงมักจะตกอยู่เสมอ ร่วงพูดขึ้นว่าขอให้ว่าวของลือสายขาดซึ่งก็เป็นไปตามนั้น ร่วงจึงให้ลือมาเป็นคนคอยส่งว่าวให้ ต่อมาร่วงได้ท้าแข่งกับคนต่างอำเภอและต้องรอคู่แข่งอยู่จนเย็น ขณะทำการแข่งขัน ร่วงวิ่งสะดุดหินล้มลง เข่าทั้งสองข้างจึงกระแทกพื้นดินอย่างแรงเกิดเป็นรอยดินยุบลงไปเป็นรูปวงกลมสองบ่อ ร่วงจึงบอกว่าขอให้บ่อทั้งสองนี้จงมีน้ำซึมอยู่ตลอดปี แม้จะมีคนมาตักก็ไม่แห้ง ชาวสุโขทัยจึงถือกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
    หลังจากเลิกแข่งว่าว ร่วงกับลือก็เดินทางกลับบ้าน พอดีพบพ่อค้าปลา ร่วงหิวข้าวจึงขอปลามาปิ้งกิน พ่อค้าบอกว่าจะเอาปลาไปเลี้ยง ร่วงว่าขอแต่เนื้อเท่านั้น ส่วนตัวปลาจะเอาไปเลี้ยงก็ตามใจเถิด แล้วเอามีดเหลาโครงว่าวปาดแก้มปลาจนถึงหางทั้งสองข้าง ส่วนหัวกับก้างนั้นโยนลงไปในบ่อน้ำที่อยู่ใกล้ๆ นั้น พร้อมสั่งให้ปลามีชีวิตขึ้นมา กลายเป็นปลาก้างตามที่เล่ามาในตอนต้น พ่อค้าสอบถามรู้ว่าเป็นผู้มีบุญก็ยกปลาให้กินทั้งหมด ร่วงกินอิ่มแล้วจึงคืนให้พ่อค้าปลาไปหนึ่งกระป๋อง และสั่งว่าเมื่อกลับถึงบ้านค่อยเปิดออกดูจะได้ของดีเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ครั้นถึงบ้านเมื่อพ่อค้าปลาเปิดกระป๋องออกดูก็เห็นมีทองคำอยู่เต็มกระป๋อง จึงนำเรื่องนี้ไปบอกกับเพื่อนบ้าน ชาวบ้านจึงต่างออกตามหาร่วงแต่ก็ไม่พบ
    ต่อมาได้มีการประกาศค้นหาผู้มีบุญให้เป็นเจ้าเมืองครองกรุงสุโขทัย ร่วงจึงได้รับคัดเลือกเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ทรงพระนามว่า “พระร่วง” แต่บางตำนานเรียกพระนามว่า พระเจ้าศรีจันทราธิบดี
     
  20. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    [​IMG]

    ๑. เกิดวันอาทิตย์ พระประจำวันเกิดคือ ปางถวายเนตร
    ลักษณะพระพุทธรูป
    พระพุทธรูปปางนี้อยู่ในพระอริยาบถยืน ลืมพระเนตรทั้งสองข้างเพ่งไปข้างหน้า ทอดพระเนตรดูต้นศรีโพธิ์พฤกษ์ พระหัตถ์ทั้งสองลงมาประสานกันอยู่ข้างหน้าระหว่างพระเพลา พระหัตถ์ขาวทับพระหัตถ์ซ้าย อยู่ในอาการสังวร

    ประวัติและความสำคัญ
    ครั้นพระบรมโพธิสัตว์เจ้า ได้ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระองค์ก็เสด็จประทับเสวยวิมุตติสุขอยู่ที่ต้นศรีมหาโพธิ์ ๗ วันแล้ว ก็เสด็จจากร่มพระศรีมหาโพธิ์ไปประทับยืนกลางแจ้ง ทางทิศอีสานของต้นศรีมหาโพธิ์นั้น ทรงทอดพระเนตรต้นศรีมหาโพธิ์โดยไม่กะพริบพระเนตร ด้วยพระอิริยาบถนั้น ๗ วัน สถานที่เสด็จประทับยืนทอดพระเนตรต้นศรีมหาโพธิ์นั้นเป็นนิมิตมหามงคล ปรากฏชื่อว่า อนิมิสสเจดีย์ พระพุทธจริยาที่ทรงเพิ่งจ้องพระเนตรดูต้นศรีมหาโพธิ์ โดยมิได้ทรงกะพริบ พระเนตรถึง ๗ วันนี้ เป็นเหตุแห่งการสร้างพระพุทธรูปปางนี้ เรียกว่า ปางถวายเนตร นิยมสร้างเป็นพระพุทธรูป เพื่อสักการะบูชาประจำของคนเกิดวันอาทิตย์ อนึ่งต้นไม้อสัตถโพธิ์พฤกษ์อันเป็นสถานที่กำเนิด พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและสัจธรรมอันบริสุทธิ์ สำหรับชำระกิเลสและปลดเปลี้องความทุกข์แก่ชาวโลก จึงได้มีนามตามการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์พฤกษ์ .

    คาถาสวดบูชา
    อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง เย พราหะมะณา เวทะคุ
    สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม
    วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสนา ฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...