ฮือฮา เผยภาพปริศนา"ลำแสงจากปิรามิดเผ่ามายา"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย strom9, 8 มีนาคม 2012.

  1. เมตต

    เมตต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +240
    แสงทิพย์นิพพานกลไกของโลกกำลังทำงานปรับปรุงระบบ พร้อมกับเสียงที่ดังคลางมาจากใต้โลก จงอย่าประมาท
     
  2. Teddy_S

    Teddy_S สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +0
    แสงจากลำกล้องหักเหด้วยการถ่ายจากไอโฟนเนี่ยนะ???
     
  3. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---ดูให้ดีๆ แสงนี้จะพุ่งขึ้นไปหาเมฆลึกลับก้อนหนึ่ง และไม่ใช่เกิดแสงที่ปิรามิดนี้ที่เดียว เกิดเกือบทุกที่ที่มีปิรามิดนะครับ--(สำหรับปิรามิดกิซ่า มีผู้พบแห็นแสงนี้เหมือนงูลงมาจากท้องฟ้าเป็นประจำ)
    --- สิ่งที่เราเห็นเป็นแสง คือช่วงแคบๆ ของความถี่คลื่นแม่้หล็กไฟฟ้าทั้งหมด บางประเทศ นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า ปิรามิดทั้งโลกตื่นตัวและสะสมพลังงานไว้อย่างมหาศาล พร้อมกันกับเมฆลึกลับนี้ก็ออกดูดลำแสงไปทั่วโลก
    --ปิรามิดยักษ์ที่บอสเนีย ก็มีคนเห็นลำแสงแบบนี้ ปิรามิดของชาวแอทเซ็ค ก็มีแสงแบบนี้ และยังเกี่ยวพันกับเสียงลึกลับที่ดังออกมาใต้โลกด้วย
    -- ส่วนนาซ่า --ได้พบแถบแสงลึกลับบางอย่างกำลังล้อมจักรวาลของเรา โดยปิดเป็นความลับ แต่มีข่าวรั่วจากนักวิทยาศาสตร์ ทำนองว่า เพื่อนเล่าสู่เพื่อน--และก็รั่วมาอีกต่อนึง
    --ทุกอย่างนี้พัวพันกัน แสงประหลาดนี้กำลังกระตุ้นปิรามิดในทุกๆแห่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2012
  4. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เราเรียกพลังงานแสงว่า เม็ดแสง หรือโฟตอน แต่นี่คือ อนุภาตแอนตี้โฟตอน(anti-Photon) เมื่อมาพบกับคู่ปฎิสสารของมัน(Anti-Matter) ก็จะเกิดการสลายตัวเป็นพลังงานอื่น เช่นความร้อน
    และการทำปฏิกิริยานี้ก็จะทำให้โฟตอน และตัวมันหายไปด้วย จะเกิดสภาพความมืดมิด ไม่มีแสงใดๆปรากฏ
    โลกจะมืดอยู่ 111 วัน คนเราจะง่วง และหลับไป โดยไม่กินอาหาร เมื่อตื่นขึ้นมา จะพบว่า มีตาทิพย์ หรือมีกาย 2 กาย เริ่มออกเที่ยวไปภพต่างๆ ที่เป็นดินแดนสวรรค์ หรือเทพชั้นสูง---จิตจักรวาลครายออน ก็บอกว่าคนจะมีตาทิพย์ โดยที่จะเกิดขึ้นเอง
    (สิ่งเหลานี้ถึงเวลาที่เกิดเองเป็นเอง เด็กอนุบาลก็จะใช้กายทิพย์เป็น) ผมเคยพบ และเขียนบทความนี้ลงที่พันทิพย์ประมาณ 10 ปีก่อน และทายว่าอีก 11 ปีคนเราจะเข้าสู่แถบแสง "แอนตี้โฟตอน" โดยจะเป็นวัฐจักรที่ระบบสุริยะเคลื่อนผ่านวงแหวนแนวตั้งนี้ รอบละ 10,700 ปี

    --และมีข้อมูลบอกว่า มกราปี2014 โลกจะถูกย้ายไปสู่มิติอื่น ที่เรียกว่า ความหนาแน่นที่สี่ พร้อมๆกับดวงอาทิตย์ ตอนนี้ชาวต่างดาวผู้รับผิดชอบโครงการกำลังเคลียร์พื้นที่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2012
  5. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ต้องขออภัยที่ข้อความจะมีอีกเยอะทั้งรูปภาพ เพราะผมศึกษาเรื่องนี้เอาไว้ และการอัพข้อมูลอาจจะช้าหน่อย เนื่องจากมีรูปด้วย และ ทำงานอื่นไปด้วย อาจจะหลายวันครับ จึงจะเสร็จ ท่านที่ใจร้อน ควรเข้าเว็ปพันทิพ ค้นกระทู้เมื่อสองวันก่อน ห้องหว้ากอครับ

    ปิรามิด--ชิคเช่น อิทซ่า จัดไป -- อันเดียวมีหมดทั้งโฟตอน--เบ็ลท์, เสียงประหลาด ปิรามิดเปล่งแสง มาดูกันให้ไวๆเลยครับ
    http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=dEgiwYpvbBk

    แถบโฟตอน ตามความเห็นของ วิกิพีเดีย บอกว่าแนวคิดนี้เป็นวิทยาศาสตร์เทียม เนื่องจากยังไม่ได้พิสูจน์ หรือเหตุการณ์มันยังไม่เกิดอะนะ
    http://en.wikipedia.org/wiki/Photon_belt

    ภาพ 2 ปิรามิดส่งแสงออกมา
    http://www.thezigzagger.com/2012/03/02/pyramids-2/
    ข้อมูลที่ว่าปิรามิดมีชีวิต นั้นมีมาตั้งแต่นานมาแล้ว มีนักวิทยาศาสตร์ทดลองรับรังสีคอสมิค ซึ่งมาจากอวกาศ รังสีนี้ร้ายแรงสามารถทะลุทะลวงก้อนหินได้อย่างง่ายดาย พวกเขาใช้ตัวตรวจจับรอบปิรามิด ซึ่งจะได้ข้อมูลของช่องทางลับต่างๆในปิรามิดด้วย เมื่อเช็คดู ก็พบข้อมูลมากมาย พวกเขาจึงใช้คอมพิวเตอร์ไอบีเอ็มมาบันทึกข้อมูล แล้วก็ทิ้งทุกอย่างไว้หนึ่งคืน พอตอนเช้ามาเช็คดู แต่ข้อมูลหายหมดเลยครับ ทดลองอีกหลายครั้งก็เป็นแบบนี้ สรุปได้ว่า "มีพลังลึกลับที่มีความรู้-ความฉลาดในตัว- มาก่อกวนระบบ มันได้ลบข้อมูลทุกอย่างของปิรามิดไปหมด"

    --------------------------------------------
    ข่าวด่วนที่สุด --ในเมืองไทยยังไม่มีใครรู้ -----ปิรามิดทุกแห่งบนโลก กำลังส่งพลังงานไปยังเมฆลึกลับ ซึ่งอาจมีจานบินอยู่ในนั้นก็ได้ เมฆเหล่านี้มีแสงในตัว ปิรามิดหลายแห่งเริ่มสะสมพลังงานอย่างเข้มข้น

    --และนาซ่ากำลังปกปิดข้อมูลเรื่องพลังงานแสงลึกลับที่เข้ามาห้อมล้อมระบบสุริยะของเรา (ทฤษฎีแถบแสงแอนตีโฟตอนของผมเริ่มเป็นจริง) พลังแสงเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการทำลายล้างสูง ในขณะที่พวกมันก่อกวนจนดวงอาทิตย์เหมือนจะเดือดปุดๆด้วยพลังงานไฟฟ้า โลกเองก็เริ่มส่งเสียงประหลาดๆ ฟังดูน่ากลัวมากๆ
    http://realneo.us/content/worlds-py...e-cloud-nasa-covered-strange-photon-cloud-now-
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2012
  6. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เนื่องจากก็อปที่ตัวเองเขียนไว้ที่เว็ปญาณทิพย์ครับ จึงอาจจะอ่านดูแปลกๆครับ
    --ปิรามิดที่บอสเนีย ใกล้เมืองซาราเจโว อายุ 12,000ปี น่าจะเก่าที่สุดในโลก เรียกว่า" ปิรามิดแห่งสุริยะ "ซึ่งนักวิทยาศาสตร์วัดได้ว่าส่งลำพลังงานกว้าง 4.5 เมตรเป็นลำขึ้นไปสู่อวกาศ ที่ความถี่ 26 กิโลเฮิทซ์ โดยกินเวลา2 ปี เริ่มปี 2009-2010 (เชื่อว่า พลังจากอนุภาค แอนตี้โฟตอน คือตัวกระตุ้นสำคัญ)

    --Earlier last week I was reading on an Italian website about this extraordinary discovery that a team of physicists made while studying the 12,000 year-old Bosnian ‘Pyramid of the Sun‘ situated near Sarajevo, the oldest known pyramid in the world.
    ---ต่อไปเป็นการวิเคราะห์ภาพที่มีแสงจากปิรามิด ทั้งในเม็กซิโก และผู้เชี่ยวชาญจากอิตาลี่--ความเห็นว่า เป็นของจริง เพราะเขายิงภาพติดๆกันเป็นจังหวะ ตั้งแต่แสงเริ่มก่อตัว มีสถานที่ และเวลา ที่ชัดเจน และไม่ได้ผ่านการทำโฟโต้ช็อป แต่งภาพ หรือมีลูกเล่นแต่อย่างใดเลย

    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (162.68 KB)
    3 วันก่อน 16:05



    พวกเขาถ่าย 3 ภาพ จากกล้องของไอโฟน ภาพแรกไม่มีอะไร ภาพที่สอง--ถ่ายรูปลูกสาว ภาพที่3 มีแสงเกิดขึ้น ห่างจากภาพแรก 19 วินาที ต่อมาเขาให้คนพื้นเมืองดู และคนต่อมา เป็นโฆษกทีวี ภาพนี้จึงดังไปทั่วโลก-

    ---นักข่าวตามไปที่บ้านของพวกเขา ที่ลอสแองเจลิส ก็ได้รับคำยืนยันว่าเป็นภาพจริง พวกเขายังงงว่า แสงเกิดขึ้นมาได้อย่างไร (ชาวต่างดาวเคยบอกว่าปิรามิดสามารถรับพลังและสื่อสารกับพลังนอกโลก--ผู้เขียน)
    โฆษกได้สรุปว่า ชาวมายันโบราณ สามารถติดต่อสื่อสารกับพลังนอกโลก หรือชาวต่างดาวได้จริง...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2012
  7. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ที่ว่ามีแสงมาที่ปิรามิด มันเกิดเมื่อ วันที่24 July 2009 แสงมารวมที่กลางปิรามิด(ของกษัตริย์คูคุลคาน)แล้วพุ่งขึ้นสู่ฟ้า แถวปิรามิดนั้นเรียกว่า เมืองโบราณ ชิคเช่น อิทซ่า ประเทศเม็กซีโก มีคนใช้มือถือถ่ายรูปไว้ได้
    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (124.09 KB)
    3 วันก่อน 14:30
     
  8. 7starshido

    7starshido สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +7
    โดยทางจิตวิทยา คนเราจะทำอะไรที่ผิดไปจากชีวิตประจำวันต้องมีแรงจูงใจให้กระทำ และการสร้างสรรค์สิ่งใดก็ล้วนเกิดจากแรงบันดาลใจเช่นเดียวกัน

    คนที่สร้างปิรามิด คงไม่สร้างเพราะอยากสร้าง หากแต่จะต้องได้รู้หรือรับรู้ว่า สิ่งที่เรียกว่าปิรามิดนั้นมันให้อะไรเป็นพิเศษ

    อาจเป็นได้เช่นกันว่า ที่เห็นและถ่ายรูปได้ออกมาแบบนั้น เป็นเพราะว่าได้มีการถ่ายเท หรือยิงลำพลังงานในรูปแบบใดแบบหนึ่งขึ้นไปหรือลงมา และแถบคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทั้ง 7 สีของแสงสีขาวที่เราเห็นนั้นบางช่วงคลื่นถูกดูดกลืนไปกับลำพลังงานนั้นจึงทำให้เราเห็นเป็นสีขึ้น ซึงก็ต้องถ่ายรูปติดด้วยเช่นเดียวกัน

    ไม่แน่นะ ใต้โลกเราโดยเฉพาะใต้ปิรามิต อาจเป็นที่จอดยานของพวกนี้ก็ได้นะ

    yimm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ครับ เห็นชาวต่างดาวว่า ใต้รูปสลักสฟิงซ์มีจานบินเก็บอยู่--มาแจมอีกนะครับ--เจอคอเดียวกันคุยกันมันส์

    ---ปัจจุบันมีคนเชื่ออย่างมากว่า โลกเรานี้กลวง และมีทางออกที่ขั้วโลกเหนือและใต้ และทางสหรัฐห้ามเครื่องบินทุกลำบินผ่านขั้วโลกโดยตรง
    --คนที่เคยเข้าไปในฬต้โลก คือนายพลเบิร์ด เขาได้ถ่ายภาพยนต์ไว้ด้วย และได้พบกษัตริย์ของใต้โลก ท่านเตือนเรื่องสงครามนิวเคลียร์ซึ่งอาจทำลายโลกทั้งหมดได้ เพราะพวกเขาได้กลิ่นแก๊ส -ลมหมุนซึ่งเกิดจากระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิม่า จึงได้ส่งจานบินออกค้นหาที่มา และตัดสินใจว่า ต้องขอแทรกแซงเรื่องนี้ ขอสื่อสารกับชาวโลกนี้สักที
    --นายพลเรือเบิร์ดกลับออกมาโดยมีผู้ใช้พลังจิตประคองเครื่องกลับออกมา
    --เขาพยายามบอกเรื่องนี้กับทุกคน โดยเฉพาะกองทัพ แต่ในที่สุดกองทัพขอร้องให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ เขาก็รับคำ แต่ก่อนที่เขาจะตาย เขาก้แถลงเรื่องนี้ออกมาอีก ถ้าไม่จริงรัฐบาลควรจะนิ่งแฉย แต่รัฐบาลแก้ตัวพัลวัน ออกอาการดิ้นพราดๆ เหมือนตุ๊กแกกินปูนร้อนท้อง
    ---ลูกหลานนายพลคนนี้ก็สืบทอดเจตนารมร์ โดยหลานนายพลเบิร์ดกล่าวว่า
    "ใต้โลกก็มีฐานทัพชาวต่างดาว ล่าสุดทางกองทัพได้ไปเอาศพชาวต่างดาวมาศึกษา นับได้ 77 ศพพอดี"

    --ในสมัยนาซี พวกเขาพยายามตามหาคัมภีร์ฮวงจุ๊ยของทิเบต ที่เชื่อว่า จะบังคับลมฟ้าอากาศของโลกได้ และที่ทิเบตนี้ มีทางเข้าสูดินแดนใต้โลก ซึ่งมีกองกำลังของลามะหนุ่มเฝ้าไว้ตลอดเวลา พวกเขาเรียกดินแดนนนี้ว่า"ชัมบัลลา" ใต้โลกก็มีดวงอาทิตย์ดวงหนึ่งให้แสงสว่างได้ด้วย

    --ในจีนเรียกดินแดนนี้ว่า "เชียงกรีล่า"(สวรรค์บนดิน) ซึ่งบนโลกไม่มี แต่ทางการจีนอยากให้คนมาเที่ยวจึงตั้งชื่อบางพื้นที่ว่า "ชางกริล่า"

    ---ที่เชิงเขาหิมาลัยติดกับจีน รัฐบาลอินเดีย(หน่วยราชการลับ)ล้อมรั้วห้ามเข้า อ้างว่าเป็นเขตจีน แต่จีนห้ามเข้าด้วย บอกว่าเป็นเขตอินเดีย ที่แน่ๆ มีจานบินนินขึ้นมาบ่อยๆ เป็นลูกไฟสีต่างๆ เด็กๆแถวนั้นเห็นจนจำได้ติดตา

    ---ชาวอารยัน ที่เป็นต้นเผ่าของพระพุทธเจ้า และพระกฤษณะ ไม่รู้ว่ามาจากไหน รูปร่างงกำยำเป็นนักรบที่เก่งกาจ ตามคัมภีร์โบราณบอกว่ามาจากใต้โลก ปัจจุบันก็มีเชื้อสายอยู่เราเรียกว่า แขกขาว ผู้ชายหล่อ ผู้หญิงสวย รูปงาม เรือนกายใหญ่เท่าๆชาวยุโรปตะวันตก จนแม้แต่ฮิตเล่อร์ยังใฝ่ฝันอยากได้นักรบชาวอารยันมาเป็นทหาร--และเชื่อว่าฮิตเล่อร์ไม่ได้ถูกสังหาร สร้างจานบิน และบินไปหลบแดนใต้โลก---เออ ชาวยุโรปเรียกแดนนี้ว่า อะการ์ธา ซึ่งตามแผนภาพนั้น--เนื้อเปลือกโลกบางแค่200 ไมล์เท่านั้น เจาะไปก็จะถึงกลางแรงดึงดูด แล้วก็จะมีเปลือกอีกชั้น แล้วก็จะเจอหน้าดิน และทะเลของแดนใต้โลก บางคนว่ามีเปลือกถึง4 ชั้น แต่ละชั้นมีแดนต่างๆ คนใต้โลกตัวใหญ่ยักษ์ ใส่เสื้อคลุมยาวคล้ายชาวจีน--ได้มีคนพายเรือหลงเข้าไปใต้โลก สองคน--คนหนึ่งเป็นชาวนอร์เวย์ ได้พบทะเล แยกตัวเป็นแม่น้ำ ได้พบกับชาวใต้โลกรูปร่างใหญ่ยักษ์ ชามข้าวเขาเท่ากาละมังใบใหญ่ๆ ได้อยู่กับคนพวกนี้เกือบสองปีจึงได้กลับออกมาทางเดิม ผู้เขียนหนังสือได้พบกับชายคนนี้ซึ่งอายุ70 กว่าปีแล้ว-ย้ายมาอยู่อเมริกา
    --แสงประหลาดสวยๆที่เรียกว่าแสงเหนือ เกิดจากการบินเข้าออกของพวกจานบินจนอากาศเกิดสะสมพลังงาน(ไม่เชื่อก็ตามใจ ผู้รู้ว่ามา)
    มีหลายแห่งที่มีคนอยู่ใต้ดิน เช่นที่ภูเขาเอดน่า ไม่ต้องไปถึงใต้โลกหรอก อินเดียนแดงบางเผ่าก็บอกว่าบรรพบุรุษพวกเขาอยู่ใต้โลก เมืองไทยก้มี คนอยู่ในภูเขา เมืองลับแล ไงล่ะ ทุกวันนร้แถวลาดยาว นครสวรรค์ยังเล่าเรื่องคนหายไป20 ปี โผล่กลับมากลางกอไผ่ (ประตูมิติ) พระอาจารย์มั่นท่านก็ได้พบจริงๆ คนลับแลยังมาใส่บาตรให้ท่าน เป็นคนพวกหนึ่ง อยู่อีกมิติหนึ่งเพราะแรงกรรมและแรงอธิษฐาน

    --ผมมีหนังสือของฝรั่ง บทแรกเป็นเรื่องแดนใต้โลก บทต่อไป คือโครงการเลี้ยงชาวต่างดาวของอเมริกา บทอื่นก็ต่างดาวเผ่าต่างๆ อุมโม่ ไลร่า เวก้า อาร์คทอเรี่ยน พลีอิเดี้ยน --มากมาย
    --ท่านเชื่อไหมว่า เพื่อยืนยันข้อมูล ผู้เขียน คือ ดร.โจชัว ได้เดินทางไปถาม"ร่างทรง"ครับ เช่น
    ท่านดจ์วาล คุล หรือ เทพไววามัส ซึ่งรู้ทุกอย่างที่รัฐบาลปกปิดไว้อย่างละเอียด

    --จานบินลำแรกสร้างในโรงนา ที่เยอรมัน ใช้เทคโนโลยี่ที่ไม่มีคนรู้ เช่นจานหมุน จะสร้างสภาพ "หลุมขาว"ขึ้นมา ตรงข้ามกับ "หลุมดำ" และได้เพิ่ม"ร่างทรงอีก2คน เพื่อแปล"ภาษาภาพ" ที่ส่งมาจากชาว"อัลเดอบารัน"ที่ห่างจากโลกหลายล้านปีแสง (เรียกว่าในสารบบชาวต่างดาว ไม่มีชื่อนี้ครับ) ในที่สุดก็ได้จานบินที่บินทะลุมิติได้(ย่นระยะทางด้วยการหารูหนอน หรือสภาพ"ไฮเปอร์สเปซ" หรือทะลุเวลานะแหละ--ม้วนพับอวกาศ ซึ่งมีสภาพ การต่อเนื่องเวลาของและอวกาศ และในที่สุด นาซีก็ยึดเอาองต์ความรู้ทั้งหมดไป โดยทหารนักบินชาวอังกฤษก็หวาดผวาต่อลูกไฟที่บินได้กันทั้งนั้น เรื่องนี้ยังมีการเก็บแบบแปลนของจานบินไว้อยู่ มีอักษรภาษาเยอรมันด้วย เรียกว่า โครงการ "วริล" ชาวต่างดาว แอชต้าร์ คอมแมนด์ ก็บอกว่า พวกตนชื่อ "วริล" ช่นกัน

    --เอ๊ะ ความจริงจะพูดเรื่องปิรามิด ข้อความพวกนี้น่าจะอยู่ในกระทู้ชาวต่างดาวของผมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2012
  10. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    มีบางสิ่งที่อยากจะบอก มันมีอันตรายอยู่ในนั้นด้วย ด้วยความแปลกของแอนตี้โฟตอน
    1. มันจะบีบคั้นอนุภาคไฮโดรเจน จุดให้มันลุกใหม้ เราอาจจะอยู่ในวงล้อมของเมฆ หรือ "บรรยากาศที่ลุกเป็นไฟ"
    2. หัวรบนิวเคลียร์ที่เก็บอยู่ใต้ดิน มันจะจุดระเบิดด้วยตัวเอง เรื่องนี้ ชาวต่างดาวจะมาช่วยเคลียร์ให้ในตอนที่เกือบจะสาย
    (เรื่องนี้นะ พวกเขาอุตส่าห์มาให้เห็นมากๆ ในปี2011 เผื่อว่ามีเหตุให้ลงจอด "พร้อมๆกันทั่วโลก" พวกยูจะได้ชินๆกัน
    --ชาวพลีอิเดี้ยนผู้บอกข่าว บอกว่า ทุกวันนี้เราใช้พลังจากอิเลคตรอน (ประจุลบ) มันไม่ดีต่อร่างกายเราเท่าไหร่ แต่พลังใหม่นี้เป้นประจุบวก(โพสิตรอนมั้ง) จะเสริมสุขภาพเรามากกว่า เราจะคุ้นกับมัน และใช้เป็นพลังงานแทนไฟฟ้า น้ำมัน
    --ซึ่งทุกวันนี้ชาวพลีอิเดี้ยนก็ใช้สิ่งนี้เป็นพลังงาน
    (น่าแปลกที่แถบโฟตอนนี้ก็อยู่ใกล้กับดวงดาวสาวพี่น้องทั้งเจ็ด ของกลุ่มดาวพลีแอด หรือที่อยู่ของพลีอิเดี้ยน--ใกล้ๆนั้นมีกลุ่มดาวที่มีมิติลับ เรียกว่า "เอกภพ ดาล" คนพวกนี้ชื่อพวก "พลีจารัน" มีอายุขัยเท่าไหร่ จำไม่ได้ครับ
    แต่ก็พอกับพลีอิเดี้ยน โดย นีร่าและแอสเก็ต สาาวจากพลีจารัน อายุเท่า"เซ็มเจส" คือ400 กว่าปี กำลังเป้นสาวสะพรั่งในโลกของเค้า พวกนี้ได้มาอยู่เชิงเขาแอลป์ พบกับนายบิลลี่ ไมเออร์ชาวเยอรมัน
    ที่บันทึกเรื่องพวกนี้ มีรายละเอียดมาก จนบิลลี่กลายเป็น "ศาสดาของผู้สนใจจานบิน"
    (บังเอิญผมชอบอ่านฟิสิกส์ทฤษฎี --ควอนตั้มแมคคานิกส์ ถ้าสงสัยตรงไหนบอกได้ จะอธิบายให้ครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2012
  11. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    เจ้าหญิงคาโอรุ พูดเรื่องชาวใต้โลก เหมือนของผมเป๊ะเลย แถมยังมีช่วงมืดมิดเหมือนกัน


    ...ฉันชื่อ เจ้าหญิง Kaoru Nakamaru จากประเทศญี่ปุ่น

    ในปี 1976 ฉันเคยมีประสบการณ์ทางจิตที่น่าประหลาดใจมากอันหนึ่ง และนับตั้งแต่นั้นมา
    ตาที่สามของฉันก็เปิดออก ดังนั้น ฉันจึงสามารถติดต่อสื่อสารกับ UFO, ผู้คน
    และรวมถึงผู้ที่อยู่ใต้พื้นโลกได้ ซึ่งพวกเขาเป็นอารยธรรม ที่มีพัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณสูงมากๆ
    โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าห้องสมุด ของโลกใต้พิภพคนนั้น ฉันก็ได้ติดต่อสื่อสารกับเขาด้วย

    และจากข้อมูลการติดต่อสื่อสารทั้งหมดเหล่านี้ที่ฉันมี ทำให้ฉันเชื่อว่า ในปี 2012
    วันที่ 22 ธันวาคม 2012 เป็นต้นไป มันจะมี 3 วันที่โลกใบนี้ จะเข้าไปสู่มิติที่ 5
    เมื่อโลกผ่านเข้าไปสู่สถานที่แห่งนั้นแล้ว มันจะมี 3 วัน 3 คืนที่เราจะไม่มีไฟฟ้าใช้
    มันจะเป็นคืนวันที่มืดมิดสนิทจริงๆ จะไม่มีดวงอาทิตย์ จะไม่มีดวงดาว ไม่มีแสงสว่างใดๆทั้งสิ้น
    พวกเราจะอยู่ในความมืดมิดอย่างแท้จริงเป็นเวลา 3 วัน

    แต่ยังไม่มีสื่อสารมวลชนใด หรือข้อมูลข่าวสารใด ออกมาประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้เลย
    แต่รัฐบาลลับทั้งหลายรู้เรื่องนี้กันดี และพวกเขาก็เตรียมความปลอดภัยไว้ให้ตัวเองแล้ว
    พวกเขาพยายามที่จะหนีออกไปจากโลกใบนี้ หรือไม่ก็กำลังขุดอุโมงค์สร้างเมืองใต้ดินกันอยู่
    อยู่ใต้ประเทศ? นอร์เวย์ ฮอลแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ หรือออสเตรเลีย
    ซึ่งในนั้นจะจุคนได้ประมาณ 1 หมื่นคน และปลอดภัยอยู่ในนั้น

    แต่ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะปลอดภัยหรอกนะ เพราะว่าพวกเราจำเป็นจะต้อง
    ชำระสะสางสภาวะจิตของตัวเราเองให้บริสุทธิ์
    ทั้งทางด้านกายภาพ-และทางด้านจิตวิญญาณ

    ฉันจะบอกพวกคุณว่าเราจะสามารถทำได้อย่างไร เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

    พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพลานุภาพสูงสุด และพระผู้สร้าง คือพลังงาน และความรัก และแสงสว่าง
    ซึ่งส่วนหนึ่งของพลังงานความรักที่ว่านี้ ก็มีอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกๆคน
    เราสามารถโกหกคนอื่นๆได้ แต่เราไม่สามารถที่จะโกหกตัวเราเองได้
    นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันเรียกว่าจิตสำนึกหละ

    มนุษย์โลกแต่ละคน มีส่วนที่สวยงามนั้นของพระผู้สร้าง อยู่ในวิญญาณของเราทุกๆคน
    ซึ่งวิญญาณนี้เองที่เป็นผู้ที่จะไปเวียนว่ายตายเกิด และเป็นส่วนที่จะอยู่ชั่วนิรันดร์ และอยู่ในตัวพวกเราทุกๆคน
    ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าจะชำระสะสางวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์หละก็
    เราต้องมองดูชีวิตของตัวเราเองด้วยจิตสำนึกอันนั้น เพื่อดูว่า ทุกๆ 5 ปีหรือราวๆนั้น
    นับตั้งแต่ตอนที่เราเกิด เราประพฤติตัวอย่างไร เราค้นหาอย่างไร เราพูดอย่างไร
    ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถที่จะชำระสะสางได้ ด้วยการมองดูชีวิตของตัวเราเองทุกๆ 5 ปี จนถึงบัดนี้

    ซึ่งด้วยวิธีการนี้ ทุกๆครั้งที่เราพบว่า เราได้ทำอะไรบางอย่างที่เป็นการทำร้ายคนอื่นหละก็
    แล้วเราก็จะสามารถชำระสะสางมัน และทำให้มันบริสุทธิ์ได้ ซึ่งทุกๆครั้งที่เราค้นพบมัน
    หัวใจของเราจะขยายตัวใหญ่ขึ้น แล้วเราจะสามารถหายใจได้ลึกมากขึ้น
    และทุกๆครั้งที่เรามีประสบการณ์นี้ความมืดมิดอันนี้ทั้งหมด ก็จะถูกปลดปล่อยออกมาจากหัวใจของเรา
    แล้วแสงสว่างสีทอง ก็จะเข้ามาสู่หัวใจของเราแทน ด้วยวิธีการนี้
    เราจะสามารถมองเห็นได้ดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ

    ตอนนี้พวกเรายังพอมีเวลาอยู่ จนกว่าจะถึงปี 2012 วันที่ 22 ธันวาคม 2012
    ในทางกายภาพแล้ว พวกเรายังสามารถชำระสะสางร่างกายเนื้อของเราได้ด้วย
    โดยวิธีการแรกที่สุด พวกเราไม่ควรจะดื่ม "น้ำผลไม้กระป๋อง" หรือ "เบียร์กระป๋อง"
    เพราะว่าอลูมิเนียม เป็นสิ่งที่มีอันตรายต่อร่างกายของเรามากๆ และโดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
    เราจึงรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้

    ดังนั้น พวกเราแต่ละคนจึงสามารถที่จะดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองด้วยวิธีการทำนองนี้
    และการออกกำลังกายบางประเภท ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นด้วย และทุกๆวันเราก็สามารถที่จะ
    สะท้อน (ไม่ชัวร์นะครับ ฟังไม่ค่อยออก - ผู้แปล) จิตวิญญาณของเราได้ด้วยอย่างที่มันเป็น

    ในแก่นแท้ของพวกเราทุกๆคน พวกเราก็คือแสงสว่าง และ ความรัก
    เพราะว่าพวกเราทุกคน มีส่วนหนึ่งของพระผู้สร้างอยู่ในหัวใจของพวกเรา
    ซึ่งก็คือสิ่งที่ลงมาเวียนว่ายตายเกิดนี้ โดยการมามีชีวิตภพชาติแล้ว ภพชาติเล่า
    อยู่ในร่างกายเนื้อของเรา ที่อยู่บนโลกใบนี้ แต่จิตวิญญาณของเรา
    จะเทียวเข้าเทียวออก ร่างกายโน้น ไปร่างกายนี้อยู่ตลอดเวลา
    http://palungjit.org/threads/เจ้าหญ...ิที่-5-ของโลก-and-3-วันแห่งความมืดมิด.335713/
     
  12. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    http://beforeitsnews.com/story/1 ... us_Space_Cloud.html

    ปิรามิดที่บอสเนีย ปิรามิดแห่งดวงจันทร์ ปิรามิดเม็กซิโก หลายๆที่เริ่มส่งแสงแล้วครับ

    [​IMG]Advertisement&lta href='http://ops.beforeitsnews.com/delivery/ck.php?n=a921491b&ampcb=INSERT_RANDOM_NUMBER_HERE' target='_blank'&gt&ltimg src='http://ops.beforeitsnews.com/delivery/avw.php?zoneid=13&ampcb=INSERT_RANDOM_NUMBER_HERE&ampn=a921491b' border='0' alt='' /&gt&lt/a&gtPrivacy | Remove Ads



    Although NASA covered up the strange photon cloud that's now enveloped the solar system, the word has leaked out from some scientists.
    And now, as the ominous cloud approaches it's affecting the sun and planets in measurable ways.
    Amazingly, as the bizarre energy invades our space, some of the world's most famous pyramids are generating intense energy.
    Several incredible incidents of visible power beams shooting skywards into space towards the region of the alien photonic cloud are well-documented.
    At the same time, people around the world began hearing and recording frightening soundsnoises that seem as if the Earth itself is moaning and wailing.
    All the phenomenaincluding measurements of the never-before-seen gigantic electrification of the turbulent sunseem to be centered on the deadly photonic cloud that some have called a 'potential Doomsday space event.'
    Join my Twitter feed | Like my Facebook page
    [​IMG]
    Pyramids beam energy to approaching space cloud
    Join my Twitter feed | Like my Facebook page
    Ancient pyramids awake after centuries, millennia of slumber
    Tourists screamed, others shot hasty videos with their camera phones as the Mayan pyramid rumbled. But no earthquake followed, instead a brilliant beam of light shot skyward into space as awed onlookers gasped, wondering what it meant.
    [​IMG]
    Mayan energy beam. Processed image on right shows hidden lightning bolt
    But the Mayan pyramid of Kukulkan transmitting a raw column of incredible energy into space was just the latest pyramid to do so.
    [​IMG]
    Artist's re-creation of what witnesses saw at Bosnian pyramid
    In 2009 and 2010 the Bosnian pyramid of the sun beamed a pencil thin ray of pure energy towards space.
    [​IMG]
    Recently, the Chinese government began closely monitoring the Xianyang pyramid for signs of activity. Last year a team of scientists investigated the pyramid and believe it may have extraterrestrial origins. [Alien Base Found At Chinese Pyramid]
    [​IMG]
    Aztec Pyramid of the Moon blasts energy vortex from apex
    That amazing incident was followed by the vortex blast—witnessed and captured on film—shooting from the apex of the famous Aztec Pyramid of the Moon in Teotihuacan, Mexico.
    [​IMG]
    Energy beams, vortexes, whirlwinds of intense force…what does it mean? Where is that energy being directed and why? What activated the mysterious power of these silent sentinels of stone quietly marking the passage of centuries…until something disturbed their slumber?
    What brought them to life may be something more incredible than the actions of the pyramids: the arrival of an unknown force from the galactic void that's now surrounded much of the solar system.
    [​IMG]
    The deadly photon belt
    NASA and the European Space Agency have been warning the world for two years about the approaching catastrophes that may unfold during 2012 to 2013. Few listened.
    [​IMG]
    Astrophysicist Dr. Alexey Dmitriev
    Now the eminent astrophysicist, Alexey Demetriev ["PLANETOPHYSICAL STATE OF THE EARTH AND LIFE"] claims what is happening is worse—much worse—than NASA and the ESA's warnings. [Claim: NASA Hiding Approaching Doomsday Space Event]
    Our entire solar system has entered an immense, potentially deadly, interstellar energy cloud.
    [​IMG]
    Pyramids reacting to unknown, alien cloud
    Dr. Demetriev has revealed that both Voyager 1 and Voyager 2 probes reported the entire solar system is at risk. Worse, Merav Opher, a NASA Heliophysics Guest Investigator from George Mason University claims this interstellar energy cloud is unstable and turbulent.​

    ภาพปิรามิดใหญ่ที่บอสเนียนั้น แต่งภาพเอา เพราะมีคนเห็น แต่ไม่ได้ถ่ายภาพ ส่วนภาพที่มีพลังรูปก้นหอย หรือน้ำวนจากยอดปิรามิด--เป้นภาพถ่ายด้วยสนามไฟฟ้า ที่เรียกว่า"ภาพถ่ายเคอร์เลี่ยน" และก็มีปิรามิดอยู่ที่กลางประเทศจีนด้วยครับ มีการค้นพบแผ่นจานหินจารึกรูปภาพ-อักขระที่เรียกว่า "ดรอปา และท่อคล้ายๆท่อน้ำที่ปลายปิรามิดด้วยครับ

    --ปิรามิดรูปเดิมที่เม็กซิโก จะเห็นสายฟ้าที่ซ่อนอยู่ --ซึ่งจากภาพดั้งเดิม มองไม่เห็น-ถ่ายรูปก้ไม่ติด หรือเป็นเส้นพลังงานของต่างดาวอ่ะนะ-มันส่งเสียงครืนๆ ก่อนจะเปล่งแสงออกมาแต่ไม่เกิดแผ่นดินไหวแต่อย่างไร...

    --ความจริงปิรามิดมีพลังที่ทำให้อาหารไม่เน่า แห้งๆไป แต่รสชาติดี บ่มยาสูบให้มีรสดี ทำใบมีดโกนให้คมอยู่เสมอ โดยจะเพิ่มผลึกที่คมมีด เชื่อกันว่า มันคือ "เครื่องขยายไมโครเวฟที่ไม่มีโลหะ"
    -ดร.อาจองบอกว่า เราสามรถใช้ผลึกคริสตัล รับพลังจากปิรามิดได้ และเก็บไว้โดยการห่อฟอยล์อีกที
    --เรื่องปิรามิดน่าจะจบได้แค่นี้ ท่านอาจจะลองทำมันจากกระดาษแข็งดูก็ได้ ลองเอาลูกตุ้ม หรือหินมัดเชื้อก ไปแหล่อย เหนือปลายปิรามิด จะมีพลังทำให้ขนลุกซู่ ถ้ามีวัตถุปลายแหลม มันก็จะผลักลูกตุ้มออก แบบเดียวกับที่ปลายปิรามิด ถ้าลองแกว่งมัน และดึงขึ้นๆลงๆ มันจะทำตัวผิดธรรมชาติตอนยกขึ้นลง แสดงว่า มันไม่ใช่การทำงานของประจุไฟฟ้า มันคือสนามพลัง หรือ ฟอร์ซ ฟีลด์(ผู้เขียน)
    เออ แล้วจ่ายค่าลิขสิทธิ์มาด้วยนะเพราะเป็นไอเดียใหม่ คิดได้ตะกี้นี้เอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2012
  13. lionants02

    lionants02 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ความเห็นส่วนตัวนะ
    ผมว่านักวิทยาศาสตร์ของประเทศที่พัฒนาแล้ว น่าจะรู้ว่ามันคืออะไร แต่เค้าคงไม่เปิดเผย แก่สาธารณะชน คงเป็นไปไม่ได้ ที่ไม่มีทีมนักวิทยาศาสตร์ไปตรวจสอบ ดาวเทียมก็ตังเยอะแยะ ที่สามารถตรวจจับ พลังงานแปลก ๆ ได้ ถ้ามีค่าพลังงานบางค่าเพี้ยนไป ตองมีคนรู้แน่

    แต่เรื่องพวกนี้คงเป็นเทคโนโลยี หรือ เรื่องบางอย่างที่ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องเปิดเผยในตอนนี้ เทคโนโลยีขั้นสูงอาจจำเป็นต้องใช้ วิทยาศาสตร์ และ สายศาสตร์ และ ศาสตร์อื่น ๆ จูนเข้าหากัน Technology ของโลกโบราณ กำลังจะรวมกับ Technology ของโลกปัจจุบัน แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา คิดไปซะไกล 555+
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2012
  14. neo1982

    neo1982 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +17
    โอ้โฮ เตลิดไปไกลเลย จินตนาการล้ำลึกมาก
    อ่านแล้วก็ตื่นเต้นดีครับ แต่ต้องตั้งสติ กลับมาที่ลมหายใจดีกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...