สับสนตัวเองค่ะ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vilavan, 13 พฤษภาคม 2012.

  1. vilavan

    vilavan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +23
    ขออนุญาติปรึกษาน่ะค่ะ ดิฉันมีครอบครัวที่มีความสุข มีลูก มีสามี และมีแม่ญาติพี่น้อง (อยู่ต่างจังหวัด) มีเพื่อน ทุกคนรอบตัวดีหมด ให้ความรักความอบอุ่นดี ชีวิตดิฉันมีความสุขดี ไม่ค่อยจะมีความทุกข์ (มีบ้างนิดหน่อย) แต่ทำไมบางครั้งดิฉันรู้สึกเคว้งคว้างในชีวิต อยู่สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง เหงา เหมือนชีวิตไม่มีใคร อยากกลับไปในที่เราเคยอยู่ (ไม่รู้ที่ไหน) รู้สึกมีคนคอยมองการดำเนินชีวิตของดิฉันอยู่ รู้สึกมีคนคอยห่วงอยู่ไกลๆ เฝ้ามองดูดิฉันอยู่
    บางครั้งเหงาอ้างว้างเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกทั้งที่คนรอบข้างเต็มไปหมด
    มันคืออะไร เป็นจริงอย่างที่ดิฉันคิดรึว่าดิฉันฟุ้งซ่านไปเองค่ะ รบกวนผู้รู้ตอบทีเถอะค่ะ
     
  2. pgame

    pgame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +184
    "จิตดวงเดียวท่องเที่ยวไป"
    "สุขมาก ก็จิตดวงเดียว"
    "ทุกข์มาก ก็จิตดวงเดียว"

    คงจะเข้าสู่สภาวะ อิ่มตัวกระมัง
    "ไม่สุข ไม่ทุกข์ ก็จิตดวงเดียว"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2012
  3. manoflove

    manoflove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +146
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=swIygAKiwPk]พ่อ..มองเห็นเราเสมอ - YouTube[/ame]
     
  4. manoflove

    manoflove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +146
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=_-FuBzPVybw]จักรวาล - Sixty Miles - YouTube[/ame]
    บางครั้งยังมีอีก พระคุณหนึ่งซ้อนพระคุณ หนึ่งและซ้อนด้วยความรักบริสุทธิ์โดยไร้เงื่อนไข แม้เธอจะบาปเพียงใด เธอยังมีโอกาศเสมอที่จะอยู่บนโลกนี้เพราะเธอรอใครสักคนที่เธอไม่รู้ว่าจะมีจะมาหรือไม่ มันฝังอยู่ในดีเอ็นเอ หยั่งรากลึกลงจิตวิญญาณ คนที่จะมาสอนเธอออกจากร่างที่เธออยู่และมีอิสระ ไม่ตกอยู่ไต้อำนาจทุกใดๆ พระคุณซ้อนพระคุณ คำที่เธอไม่ควรลืม พ่อแม่ที่เหนือโลก ดูเธอเสมอ
     
  5. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    all light..all right..=^=111..
     
  6. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    All right..............................
     
  7. สุขและทุกข์

    สุขและทุกข์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +55
    ไหว้พระสวดมนต์ตั้งสตินั่งสมาธิขอพระบารมีของพระพุทธองค์ให้จิตใจมีความสงบร่มเย็น
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    คนจำนวนมาก ไม่ทราบว่า "ก็มีสุขดี" นั่นคือ สภาพทุกข์อย่างหนึ่ง

    พอไม่ทราบ เวลาที่ ก็มีความสุขดี แสดงอาการของ ทุกข์ ให้ทราบด้วยจิต
    ก็จะไม่เข้าใจว่า ก็มีสุขดี แต่ ทำไมยังรู้สึกได้ถึง ความทุกข์

    จริงๆแล้ว หากพิจารณาลงไปตามความเป็นจริงว่า

    "ก็มีความสุขดี" นี้ก็แสดงอาการ ทุกข์ให้รู้ได้ อย่างนี้ อย่างนี้

    ก็จะผลิกมาสู่การภาวนาธรรมปฏิบัติ รู้เห็นตามความเป็นจริงได้ทันที

    ว่า "ก็มีความสุขดี ก็คือ ทุกข์อย่างหนึ่ง" มีชาติ(การครอง) มีชรา(การเสื่อม)
    มี มรณะ(การพลัดหาย) โศกา(อ้างว้าง อาดูร) ปริเวทะ(เดียวดาย)
    อุปปายาส(อึดอัดคับข้อง -- รู้สึกว่าไม่ได้อยู่ที่บ้าน ไม่ใช่บ้าน )

    แล้วก็ "อุปทานขันธ์เป็นตัวทุกข์" ตัวสุดท้ายนี่ไม่เห็น ยังเห็นไม่ได้ เพราะยัง
    สดับธรรม คือ พิจารณา "ก็มีสุขดี ที่แสดงตัวเป็นทุกข์อย่างหนึ่ง" ยังไม่พอ

    ถ้าพิจารณาพอ เห็นเนืองๆ ก็จะ พอทราบ หรือ ยกว่า อุปทานขันธ์เป็นตัวทุกข์ได้

    ไม่มากก็น้อย
     
  9. บันลือธรรม

    บันลือธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +2,369
    ขอแสดงความคิดเห็นครับ
    ผมเคยมีความรู้สึกแบบคล้ายคุณมาก่อนครับ บางครั้งคล้ายกับมีครบทุกอย่างแล้ว แต่ยังเหมือนโดดเดี่ยว อ้างว้าง (ความรู้สึกภายในเหมือนกลัวความสุขที่มีอยู่นี้จะขาดหายไป) ผมแนะนำอย่างใจจริงว่าคุณควรหมั่นทำบุญช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ สังคม สาธารณกุศลครับเช่น ช่วยเหลืองานวัด งานชุมชน เลี้ยงอาหารเด็กพิการ เด็กกำพร้า ผู้ด้อยโอกาส จัดหาทุนให้กับมูลนิธิการกุศลต่าง ๆ และ ควรไหว้พระสวดมนต์ให้ทุกวัน ตอนเช้าก็ทำบุญตักบาตรให้บ่อยครับ จะทำให้จิตใจเราดีขึ้น มีกำลังใจมากขึ้นครับ ผลบุญจะทำให้เราไม่ฟุ้งซ่าน จะพานพบแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิตครับ
     
  10. ttoorrhh

    ttoorrhh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +26
    ดีเจพี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา
    และดีเจพี่อ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล
    โทร. 02-665-8377
    รายการ Club Friday
    ออกอากาศสด ทุกวันศุกร์ เวลา 21.00 - 23.00 น.
    ทาง Green Wave 106.5 FM และ Green Channel
     
  11. ttoorrhh

    ttoorrhh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +26
  12. vilavan

    vilavan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +23
    ขอบคุณมากน่ะค่ะสำหรับทุกคำตอบ
    ดิฉันจะพยายามฝึกสติค่ะ
     
  13. ttoorrhh

    ttoorrhh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +26
    ระวังเป็นโรคซึมเศร้านะครับ... ออกกำลังกายบ้าง ร่างกายแข็งแรง จิตใจก็จะได้เข้มแข็งไปด้วย
    อย่าหาว่าผมยุ่งเลยนะครับ เพราะเคยเห็นคนที่เป็นโรคซึมเศร้าครับ อาการแรกๆ ก็คล้ายๆ คุณครับ จบชีวิตได้ไม่ดีเท่าไหร่ หาเวลาออกนอกสถานที่ ไปทำไร่ไถนาหรืออะไรก็ได้ อย่้าทำตัวให้ว่างได้มีเวลานั่งคิดน้อยคิดใหญ่ สู้ๆ ครับ คนรอบข้างที่เขาทั้งที่แสดงออกว่าสนใจคุณและไม่แสดงออกก็ตามที พวกเขาต่างก็รักและห่วงใยคุณเสมอนะครับ
    อันนี้ผมไม่ได้พยายามยัดเยียดให้คุณเป็นโรคอะไรนะครับ แต่ด้วยความเป็นห่วง จึงมาให้กำลังใจกันครับ
     
  14. chandayot

    chandayot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,458
    ค่าพลัง:
    +2,234
    ---มีชีวิตที่สุขสมบูรณ์ จนวันหนึ่งเกิดวังเวง หรือเหงา ซึ่งบางที่จะนำไปสู่กรรมที่หาห้วงทุกข์ให้หนักกว่าเดิม
    ----ถ้าเป็นพระท่านว่า "คือโดนความสุขตีเอา ทำร้ายเอา จนกลับตาลปัตร เห็นทุกอย่างเป็นความทุกข์ไปหมด"
    ---ซึ่งถ้าเห็นเป็นความทุกข์ทั้งหมด ก้ไม่ดี อาจทำลายชีวิตตนเอง ฆ่าตัวตายได้
    ---ความเศร้า เหงา เบื่อหน่าย ก็ทำลายชีวิตตนเองได้
    --ไปปฎิบัติธรรม ก้เจอปัญหา ไม่สิ้นสุด เจ้าตัวเหงาเป็นกิเลสละเอียดตามไปทุกที่--ผมบวชเป็นพระเดินธุดงค์ มันยังเล่นผมหนัก
    --ขอเวลาวันละ5-10 นาที ให้อยู่กับความคิดตัวเอง พิจารณาทุกอย่างไม่เที่ยง--เดี๋ยวสุข เดียวทุกข์ และนึกถึงคาถาแห่งดาบอนัตตา--"ไร้ตัวตนโว้ย" ร่างกายก็ไม่ใช่ของคุณ ความรู้สึก ก้ไม่ใช่ ความคิดก้ไม่ใช่ จิตวิญญาณก็ไม่ใช่ ทุกอย่างมีเกิดมีดับ ที่สำคัญถ้าไม่ดูความคิด และควบคุมมัน ก็ไม่ถึงสัจจธรรมความหลุดพ้นอย่างแน่นอน
    ---ถ้าสุขอย่าไปหลงสุข ถ้าทุกข์อย่าไปหลงว่าทุกข์ ทุกอย่างคือคุณหลง คิดไปเองแท้ๆ ลองท่องคาถาทุกอย่างไม่เที่ยง เดี๋ยวความคิดมันก็จะเงียบไปเอง
    ---จะมีสุขอยู่พักนึง จากความสงบของกิเลส ต่อมาจิตก็จะพาความลวงมาอีก คิดว่าตัวเองมีจิตว่าง คิดว่าตัวเองบรรลุธรรมแล้ว ก้ต้องมาโพสถามกันอีก เพื่อหาคำตอบอีก สุขหรือทุกข์นั้นเป็นแค่ความคิด หรือ พฤติของจิต เวลาเศร้า -เหงาๆ ฟังเพลงเพลินดีออก ร้องไห้ไปด้วยก็ดี--- ลองแกล้งยิ้ม และแกล้งคิดว่า กำลังมีความสุข มันก็สุขได้ (คิดมั้ยว่าจิตเรามันตอแหล- ดราม่ากะเจ้าของเนี่ย)
    ---ความเบื่อมีมากๆ โลกสมัยใหม่ให้ไปหาหมอ รักษาโรคจิตซะ เพราะทุกคนดิ้นรนหาความสุขกัน --เอ็งนี่เพี้ยนแน่ๆแล้ว
    --แต่ทางพุทธ เบื่อมากๆ เจริญความนิพพิทามากๆ เข้าถึงนิพพานได้เฉยเลย โอ..ความเบื่อหน่ายมันดีอย่างนี้เอง
    (เขียนตามใจทึ่ผมจัด ขัดใจ(กิเลส)คนอ่าน นิพพานสวัสดีครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2012
  15. interpoo

    interpoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    2,970
    ค่าพลัง:
    +19,781
    แนะนำให้หา งานอดิเรกทำให้เป็นเรื่องเป็นราว เช่น เล่นกีฬา (ไม่ใช่นานๆทีเล่นนะ ต้องทำให้ทุกวันตรงเวลา) ปลูกต้นไม้ดูแลต้นไม้... หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขในมุมเล็กๆ ของเรา...

    ส่วนปู ทำชิงโชคเป็นงานอดิเรกเพราะนอกจากทำให้เราเกิดสมาธิ (ทำซ้ำๆ) แล้วยังเกิดเงินทอง หรือได้ท่องเที่ยวประเทศต่างๆ อีกด้วย... ^.^ โชคดีค่ะ
     
  16. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    มีหมด ดีหมด จบหมด ...ถ้าเราปีนป่ายจนถึงปลายเขา บนยอดสุด ก็จะไม่มีท่ีให้ปีนป่ายข้ึนไปได้อีก เหมือนเดินมาสุดปลายถนน และไม่รู้จะไปไหนต่อ... จบการเดินทาง แค่การได้อยู่ไปวันๆ ไม่ต้องขวานขวายอะไร ไม่โลภไปกว่าน้ี อ่ิม พอ .... หลายคนยังต้องเจอถนนหรือภูเขาท่ียังไม่เห็นปลายทาง ความสำเร็จ จุดสูงสุด จึงทุกข์มากมาย. ............และก็มีอีกส่วนหน่ึงท่ีคล้ายๆกันท่ีเดินมาสุดทางแล้วเคว้งไม่รู้จะไปไหนต่อดีท้ังๆท่ียังสามารถจะเดินต่ออีกได้ จึงทุกข์มากมาย คล้ายกัน. จะเอาอะไรในชีวิตน้ี ในโลกใบน้ี ก่อนจะเคว้งคว้างมากไปกว่าน้ี ก็หาถนนหรือภูเขาลูกใหม่ ก้าวเดินปีนป่ายไป แต่ไม่ใช่เพ่ือตัวเอง หันไปมองคนรอบข้าง คนท่ีไม่มีความสุข คนท่ีเขาขาด การแบ่งปันและช่วยเหลือสังคม ส่ิงท่ีคุณได้ทำในโลกใบน้ีในชีวิตน้ีมันจะมีคุณค่ามากมายกว่าการอยู่ไปวันๆ และจะไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป แค่เดินออกไปหน้าบ้านเห็นหมาแมวท่ีหิวโหยก็จะรู้ได้ว่ามันอาจต้องการเศษอาหารจากบางคน แล้วคุณจะเดินเอาไปให้มันบ่อยๆเพ่ือปลดปล่อยความ ว่าง ในใจหรือเปล่า.......
     
  17. interpoo

    interpoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    2,970
    ค่าพลัง:
    +19,781
    คนเราอยู่ด้วยความหวัง... ถึงมันสูงหรือยากแค่ไหน ก็ยังมีความหวังให้สู้ แต่ถ้าขาดความหวัง ชีวิตมันก็จะเหมือนไร้ค่า


     
  18. illanzer

    illanzer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +840
    เริ่มเข้าใจมากขึ้นแล้วครับ ^0^ ขอบคุณจริงๆ ครับ คุณ chandayot
     
  19. Andromeda Galaxy

    Andromeda Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +314

    อยากบอกว่าอ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกของ จขกท.ดี(มากก)
    เพราะเราเองก็มีความรู้สึกคล้ายๆแบบนี้ ประมาณนี้เหมือนกันนะ
    (อาจจะไม่เหมือนกัน 100%เปี๊ยบ)

    เพราะไอ้ความรู้สึกที่ว่า....
    อยากกลับไปยังที่ที่จากมา
    ของตัวเราที่เป็นอยู่มันชัดและแรงพอสมควร


    แต่อย่างว่านะ...
    เรื่องแบบนี้แนวนี้ไปเล่าให้ใครฟัง
    คนอื่นเขาก็คงจะหาว่าเราบ้า มากกว่าที่จะเชื่อว่า เราพูดออกมาจากใจจริง
    ไม่ได้พูดแบบละเมอเพ้อพกประสาคนบ้า..อะไรยังงั้น

    แต่เราอาจจะโชคดีกว่า จขกท.นี๊ดนึง
    ตรงที่ได้ไปอยู่ในดินแดนที่(คืดเอาเองว่า)
    ตัวเองได้จากที่แห่งนั้นมา...ผ่านความฝัน
    เลยเหมือนว่าเราใช้ชีวิตอยู่สองแห่งแบบไปๆมาๆ
    .....ประมาณนี้....

    แต่ลึกๆในใจมันมักจะรู้สึกเสมอว่า
    การมาอยู่บนโลกแห่งนี้เป็นแบบแวะมา(เที่ยว)ชั่วคราว
    เพราะความรู้สึกในใจ(ซึ่งมันไม่เคยโกหกตัวเรา-จริงมั้ย)
    มันบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่า...
    ยังมีอีกครอบครัวที่เขารอเรากลับไปอยู่
    พวกเขาจดจ่อรอเรากลับไปหาพวกเขา
    นี่แหละความรู้สึกที่อยู่ในใจเรามันเป็นแบบนี้

    บอกตรงๆแหละว่า...ตั้งใจว่าจะไม่เล่าให้ใครฟังอีกแล้ว
    เพราะไม่แคล้วจะโดนหาว่า..บ้า
    เราเลือกที่จะเก็บความรู้สึกอันนี้ไว้ในใจคนเดียว
    .....ดีกว่าเยอะเลย...

    เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรา
    มันไม่ได้เกิดขึ้นกับคนอื่นนี่นา
    ดังนั้น คนอื่นเขาก็ไม่มีวันเข้าใจเราอย่างที่เราเป็นหรอก



    สรุปสุดท้ายว่า...
    เราก็เข้าใจความรู้สึกของ จขกท.ดีนะ
    แต่ไม่มีคำแนะนำอะไรหรอก
    เพราะเราเองก็เลือกที่จะรับมือกับความรู้สึกแบบนี้
    ด้วยการทำเฉยๆไป(เอ..หรือชาวบ้านเขาเรียกว่าปล่อยวาง)
    ให้มองว่า...มันก็เป็นเช่นนั้นแล...
    อย่าไปอิน อย่าไปเครียดกับความรู้สึกนี้
    ทำเฉยๆกับมัน
    แล้วจง(พยายาม)มีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันขณะ
    แค่นั้นแหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2012
  20. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    สุขคือทุกข์น้อย หรือทุกข์ที่ลดปริมาณลง
    แท้ที่จริง ทุกอย่างมีช่วงเวลาของมัน มีขอบเขต
    โลกธรรม 8 คืออะไร
    เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเป็นคนไม่ประมาท

    นิทานจริงเรืองหนึ่ง
    ดิฉันมองไปตรงข้ามบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามบ้านตน เห็นครอบครัวใหม่
    มีสามีหนุ่มหล่อภรรยาสาวสวย เพิ่งแต่งงาน ได้ลูกสองคน น่ารักทั้งคู่ ช่างพูดเจรจา
    มีแม่และคนรับใช้คอบดูแลลูก
    วันหนึ่งสองคนต้องย้ายไปต่างจว. ไปปลูกบ้านบนที่ดินของพญานาค
    สามีขับรถ เห็นคนวิ่งผ่านหน้ารถ หักหลบ รถเสียหักคว่ำ
    สามีขาหักแหลก ภรรยากระดูกหลังหัก ลูกชายไม่มีแผลเลยแต่นอนนิ่ง ๆ ไม่พูดอะไร
    ลูกสาวไม่เป็นอะไรเลย หลังจากรักษาตัวจนหายดี
    ครอบครัวเดิมของภรรยาหาว่าอยู่กับผู้ชายคนนี้แล้วซวย
    ทั้งสองหย่ากัน ดิฉันไม่เห็นครอบครัวที่น่ารักนั้นอีกเลย

    ขอให้เรื่องนี้เป็นข้อคิดพิจารณาธรรม
    ขอให้ท่านเจริญในธรรม

    สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...