หลวงพ่อสรเดช เตชวโร พระผู้สร้างตำนานเหรียญไก่แห่งเมืองลพบุรี

ขอน้อมกราบสักการะ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
หลวงปู่สาย วัดขี้เหล็ก
หลวงพ่อสรเดช เตชวโร วัดคีรีธรรมาราม​

สืบเนื่องจากผมได้ไปฎิบัติธรรมที่วัดคีรีธรรมารามเมื่อช่วงวันมาฆะบูชาที่ผ่านมาก็เลยทำให้ได้ทราบในเกียรติประวัติและปฎิปทาขององค์หลวงพ่อสรเดช เตชวโร ซึ่งยากที่จะหาได้เหมือนท่านในยุคนี้ จึงเป็นที่มาแห่งศัทธา และเชื่อฟังคำสอนของท่านรวมถึงอิทธิคุณในวัตถุมงคลที่ท่านได้อธิฐานจิตไว้แม้ท่านจะละสังขารไปตั้งแต่2547 แล้วก็ตาม ผมจึงขออนุญาตขึ้นหัวข้อใหม่ เผยแพร่ประวัติของท่าน ซึ่งได้รับมาจากวัดและเปิดโอกาสให้คณะศิษย์รุ่นเก่าและใหม่เข้ามาคุยกัน ณ.ที่นี่ครับ ส่วนเรื่องวัตถุมงคลของทางวัดผมจะทยอยลงให้ชมนะครับ​

 

ความเกี่ยวเนื่องระหว่างสามอาจารย์ คือ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค,หลวงปู่ใหญ่ วัดสุวรรณคีรี(ขี้เหล็ก)และหลวงพ่อสรเดช เท่าที่ทราบคร่าว ๆข้อมูลอาจไม่ถูกต้องนักผมต้องขออภัยด้วย ดังนี้นะครับ หลวงปู่ใหญ่(หลวงพ่อสาย )ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน แห่งวัดบางนมโคร่วมสมัยกับหลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง หลวงพ่อสายท่านก็สืบตำราและวิชาของหลวงพ่อปานมา ทั้งวิชาแพทย์แผนโบราณ,วิชาพุทธาคม และการปฎิบัติทางสมาธิจิต ถ้าหากดูรายชื่อพระคณาจารย์ที่ร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกในยุคหลัง2500 มาก็จะปรากฏชื่อของหลวงพ่อสาย วัดขี้เหล็ก แทบทุกงาน(สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย ปัจจุบันอยู่ในมลฑปเชิงเขาที่วัดคีรีธรรมาราม ไปกราบสักการะได้ทุกวันครับ) ส่วนหลวงพ่อสรเดชนั้นหลังจากที่บวช(สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ให้)แล้ว ก็ได้ไปเรียนวิชาต่างๆกับหลวงพ่อสายอีกทีหนึ่งครับ เท่าที่ทราบและเห็นจากรูปที่อยู่ในวัดก็จะทราบว่าหลวงพ่อสายท่านเมตตาหลวงพ่อสรเดชเป็นอย่างมาก ขั้นตอนการปฎิบัติสมาธิและพิธีกรรมต่าง ๆท่านสอนให้เหมือนกับที่ท่านได้เรียนมาจากหลวงพ่อปานครบทุกอย่างครับ
ส่วนหลวงพ่อปานกับหลวงพ่อสรเดชนั้น ท่านมาสอน,บอกหลวงพ่อสรเดชได้ในทางนิมิตครับ ก่อนที่หลวงพ่อสรเดชจะทำอะไรท่านก็จะถามพระอาจารย์ทั้งสองท่าน หลวงพ่อสรเดชท่านเคยพูดว่าเรื่องบางอย่างทำไม่ได้เดี๋ยวหลวงพ่อปานทำโทษเอา
เกร็ดประวัติของหลวงพ่อสรเดชและวัตถุมงคลนั้นผมจะมาเล่าให้ฟัง(ฟังมาจากลูกศิย์ที่ใกล้ชิด)ต่อไป ครับ

 

มารอรับฟังด้วยคน ผมคนโคกตูมครับ อิอิ

 

ผมได้ยินมาเยอะเหมือนกัน บางคนแถวบ้านผมก็บอกว่า ไก่หลวงพ่อสอ ดีกว่าไก่ หลวงปู่สรวง แต่ว่า เขาใช้อะไรวัดกันก็ไม่ทราบ แต่ไก่หลวงพ่อสอค่อนข้างหายาก และแพงด้วย

 

เรื่องดีกว่านั้นพูดยากครับ ผมคิดว่าผู้พูดอาจไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้นครับ แต่คงอาจเป็นคำพูดเปรียบเปรยเพราะความเคยชิน เพราะว่าหลวงพ่อสอสร้างเหรียญไก่ออกมาก่อนครับ( ผมจำปีพ.ศ.ไม่ได้แต่ช่วงนั้นผมเพิ่งอยู่ม.3เองครับ น่าจะช่วงปี39-41ครับ ) ในพื้นที่จึงมีใช้สอยกัน ส่วนไก่หลวงปู่สรวงผมเคยใช้ก็ทำมาหากินดีครับใส่แล้วเย็นสบายดี คงไม่ต่างกันมาก หลวงปู่สรวงสร้างเหรียญไก่รุ่นแรกผมไม่แน่ใจว่าใช่แซยิด77ไหม(รอผู้รู้อีกที อิอิ) ถ้าใช่ก็น่าจะสร้างประมาณปี2553นี้เองครับ สำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อสอนั้นท่านไม่ได้ให้เช่าบูชาครับ ท่านทำแจก ส่วนที่มีต้นทุนก็จะให้ลูกศิษย์จองกันแล้วก็จ่ายราคาต้นทุน ที่วัดท่านจะไม่มีตู้รับบริจาคเลยครับ
ความคิดส่วนตัวคำว่าดีกว่าอาจจะหมายถึงพ.ศ.ลึกกว่าก็ได้นะครับ ส่วนเรื่องพุทธคุณนั้นคิดว่วต้องดีทั้งนั้นแหละครับ อยู่ที่ศรัทธาด้วยครับ อิอิ รอผู้รู้มาช่วยกันออกความเห็นอีกทีครับเรื่องนี้

 

ว่าด้วยเรื่องวัตถุมงคล วัดคีรีธรรมาราม​

วัตถุมงคลที่ได้รับมาจากวัดนั้นแบ่งเป็น 2ยุคครับ ยุคแรกจะเป็นของหลวงพ่อใหญ่ นำมาแจกให้ญาติโยมที่ร่วมทำบุญสร้างวัดขึ้นมาครับ มีหลายพิมพ์ด้วยกัน ส่วนยุคสองก็เป็นพระที่หลวงพ่อสรเดช จัดสร้างขึ้นมาครับ มี ประมาณ 5 รุ่น​

ภาพวัตถุมงคลยุคแรก​

 

น่าจะมีสองรุ่นนะครับ เห็นมีปี 47 ด้วย ของหลวงพ่อสอ ส่วนผมก็มีไก่รุ่นสองหลวงพ่อสรวงเหมือนกัน ท่านเคยมาเข้าฝันผมตอนนั้นผมยังไม่รู้หลวงปู่สรวงเลย ก็เลยนั่งคิดว่าพญาไก่ อะไรหว่า............หลวงพ่อองค์นั้นเป็นใคร (หลายปีมาแล้ว) ทีนี้ก็ไปดูหนังสือพระของน้องเล่นๆ เจอหน้าหลวงปู่สรวง เปะเลย....พญาไก่ด้วย ก็เลยฝากพี่ในเวปจัดตะกรุดให้ผมมา 1 ดอกครับ

 

ภาพวัตถุมงคลยุคหลวงพ่อสรเดช​

ชุดแรกที่ออกในนามของวัดคีรีธรรมาราม คือพระชุดที่ระลึกงานฝังลูกนิมิต 7 มี.ค.2519 ครับ ในชุดนั้นมีด้วยกัน 4 องค์คือพระสมเด็จพิมพ์พระประธาน,พระสมเด็จพิมพ์วัดระฆัง 100 ปี,เหรียญหลวงปู่ปานและเหรียญเสมาหลวงพ่อสาย นอกจากนี้ยังแยกพระออกเป็นเดี่ยว ๆด้วย พระชุดนี้เป็นชุดที่หลวงพ่อสาย จัดสร้างให้ในนามวัดคีรีธรรมาราม ครับ​

 

ภาพวัตถุมงคลที่ออกในนามวัดคีรีธรรมาราม ชุดที่2 คือหนังสือพุทธทำนาย ที่ระลึกเนื่องในงานสมโภชรูปเหมือน หลวงปู่แช่ม วัดฉลองและหลวงพ่อปานวัด บางนมโคและฉลองพระอุโบสถ เมื่อ 2-4 มี.ค.2522 ขนาดหนังสือเล็ก ๆภายในก็ประกอบด้วยภาพหลวงพ่อปาน,คำปรารภของหลวงพ่อสาย,พุทธทำนายและคำพยากรเกี่ยวกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในเมืองไทย,คาถาภาวนาคุ้มครอง,คาถาปัจเจกโพธิ์,วิธีอาราธนาใช้พระของหลวงพ่อปาน,คาถาตรวจน้ำและภาพยันต์ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ

 

มารอชมตอนต่อไปครับ

 

ภาพวัดถุมงคลที่หลวงพ่อสรเดช เป็นผู้ดำริจัดสร้าง​

รุ่น แรก คือพระโพธิ์และลูกอมครับ จัดสร้างในปี2535 เป็นพระเนื้อดินเผาโดยหลวงพ่อได้ใช้ดินสำหรับทำหลังคากระเบื้องโบสถ์เอามาจากโรงงานแถวป่าโมกข์ แล้วมาหมักแช่ในน้ำมนต์ ไว้ 1ปีกดออกมาเป็นพระโพธิ์ได้ ประมาณ 3500 องค์และลูกอม 500 ลูก พระชุดนี้ผู้ต้องการจะต้องมารับกับหลวงพ่อเองกับมือได้คนละ 1 องค์เท่านั้น และต้องลงชื่อที่อยู่ไว้ด้วยกันมารับซ้ำ แต่ก็ไม่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะมารับซ้ำอีก เพราะทุกคนรู้ว่าหลวงพ่อสามารถที่จะรู้ได้ทันทีที่ผู้นั้นเข้ามารับซ้ำ พระชุดนี้หาค่อนข้างยาก ผู้ที่ได้รับก็จะหวงแหนและมอบไว้ให้กับลูกหลานสืบต่อไป​

 

รุ่น 2 คือพระสมเด็จเนื้อข้าวก้นบาตร จัดสร้างเมื่อ 2538 มวลสารที่นำมาทำพระสมเด็จรุ่นนี้ก็คือข้าวก้นบาตรที่หลวงฉันเหลือจริง ๆ ละครับแล้วให้พระลูกศิษย์ช่วยกันตำในครกหิน ในหมู่ลูกศิษย์จะเรียกพระรุ่นนี้ว่ารุ่นครกแตก เพราะตำกันจนครกหินแตกเลยทีเดียว เนื้อหามาวสารในแต่ละองค์จึงไม่ค่อยเหมือนกันเท่าใดนัก แล้วแต่หลวงพ่อฉันอะไรเหลือมากน้อยต่างกันไป พระรุ่นนี้มีจำนวนประมาณ 420 องค์ผู้ที่ได้รับส่วนใหญ่จะเป็นศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น หาดูยากกว่ารุ่นแรกครับปัจจุบันยิ่งจะหายากขึ้นไปอีกเพราะบางท่านที่ได้รับพระไปแล้วไปเก็บไว้ในพาน ปรากฏว่าพระรุ่นนี้เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาหนูและแมงสาบเป็นอย่างมาก โดนแทะกันไปเยอะเลยครับ หาสมบูรณ์ยากเต็มที อย่างองค์ที่ลงให้ชมท่านเจ้าของเอาแล๊คเกอร์ชุบไว้เลยครับ พระรุ่นนี้มีประสพการณ์ที่รอดตายมากต้องถามคนท้องที่ดูครับถึงจะรู้

 

รุ่นที่ 3 เป็นพระพิมพ์สมเด็จสามชั้นหลังยันต์ มะ อะ อุและเฑาะว์ เนื้อเมฆพัตรคณะศิษย์จัดสร้างถวาย จำนวน 4000 องค์เมื่อ 2541ครับ

 

รุ่นที่ 4 เป็นพระพิมพ์สมเด็จสามชั้นเนื้อดินเผาเรียกว่าพระสมเด็จเก้าแสนและเหรียญพระพุทธปางห้ามญาติห้าเหลี่ยมจัดสร้างในปี2542 จำนวนอย่างละ 5000 องค์เนื่องในงานฉลองสมโภชพระประธาน ญสส.และวิหารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนม์มายุครบ 72 พรรษา ในการนี้สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์พระประธานฝ่ายสงฆ์และได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในพระประธานด้วย สำหรับผู้ที่มารับพระสมเด็จเก้าแสนนั้นจะต้องลงชื่อที่อยู่ไว้เป็นหลักฐานเหมือนกับพระโพธิ์รุ่นแรกครับ

 

รุ่นที่ 5 รุ่นสุดท้ายเป็นเหรียญรูปไก่ทรงรีไม่มีห่วงลงยาแบบเย็น 4 สีตามดำริของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่มาบอกให้หลวงพ่อจัดสร้างในทางนิมิต เมื่อ2546 ก่อนหลวงพ่อมรณะ 1 ปี มีด้วยกัน 5เนื้อคือ
ทองคำ 107 เหรียญ
เงิน 1904 เหรียญ
ทองดอกบวบ 14000 เหรียญแบ่งเป็นแบบไม่ลงยา 400เหรียญ
ทองแดง 10 เหรียญ
และตะกั่วลองพิมพ์ 3-4 เหรียญ
ซึ่งเหรียญไก่รุ่นนี้ได้รับความนิยมในบรรดาลูกศิษย์เป็นอย่างมาก เชื่อกันว่าผู้ใดมีเหรียญไก่ห้อยอยู่ที่คอละก็ทำมาหากินค้าขายคล่องครับ ภาพบางภาพผมขอยืมมาจากในเว็บและต้องขออนุญาตท่านเจ้าของเหรียญมาณ.ที่นี้ด้วยครับ

 

ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ ขอเชิญศิษย์ของหลวงพ่อทุกท่านเขียนบทความเล่าสู่กันฟังนะครับ และขอประชาสัมพันธ์ให้กับทางวัดหน่อยครับ งานไหว้ครูประจำปี ตำหรับหลวงพ่อปาน ของวัดคีรีธรรมาราม ปีนี้ ตรงกับวันที่ 26 เม.ย.นี้ ใครว่างก็ไปกันนะครับ ส่วนวัตถุมงคลยุคแรกของหลวงพ่อสายยังพอมีเหลือตกค้างที่วัด ใครจะไปทำบุญก็เชิญได้ที่กุฎิเจ้าอาวาสครับ

 

ขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูล สำหรับงานไหว้ครู วันที่ 26 เมษานี้ ครับ

พิธีเริ่มเวลา 09.00 น. โดยอาราธณาศีลก่อนทำการไหว้ครู ของที่นำไปไหว้ ได้แก่ผลไม้ 3 หรือ 5 หรือ 7 หรือ 9 อย่างก็ได้ (งดผลไม้ที่มีหนามนะครับ)
ดอกไม้ ธูป เทียน จัดใส่พานหรือตะกร้าก็ได้ จะมีโต๊ะปูผ้าขาวจัดเตรียมไว้ให้วางครับ
หลังจากเสร็จพิธี นำผลไม้กลับไปบ้าน รับประทานเป็นสิริมงคลหรืออธิษฐานขอเป็นยา ก็ได้ครับ

 

ขออนุญาตครับ ไม่ทราบว่าท่านใดจัดพิธี ครับผม

 

เป็นพิธีประจำปีของที่วัดครับ
สมัยหลวงพ่อยังอยู่ก็จัดมาตลอดทุกปี (ตอนท่านอยู่จะมีการเจิมหน้าผากให้ด้วย)
เป็นการไหว้ครู เพื่อระลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ทุกองค์ (หลวงปู่ปานเป็นประธาน)

หลังจากหลวงพ่อมรณภาพ ผู้ทำพิธี คือท่านพระครูเจ้าอาวาส ครับ

 

ของ ลพ.สรเดช มีอยู่ชิ้นนึง พี่อาเสี่ยท่านนึง รูปหล่อ ใจดี มอบให้