มีใครเคยเจอฤทธิ์ของจริงมั่ง

อนุโมทนาสาธุครับ การปฎิบัติธรรมภาวนานำมาซึ่งความหลุดพ้น

สาธุครับ

 

หากปฎิบัติจนจิตนิ่งดีแล้ว ให้ตรึกในสิ่งที่ผ่านมาของตนเอง

แล้วเพ่งสิ่งที่ตรึกขึ้นมา ด้วยความนิ่งที่มีอยู่นั้น จะทำให้เห็นในสิ่งที่ตนเอง

จะได้พบ ไม่ว่าในอดีต หรือ อนาคต ครับ แต่หากผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรา

จะไม่มีทางที่จะเห็นได้ครับ ฉนั้น ต้องมีความสัมพันธ์กันจึงจะเห็นได้ครับ

สาธุครับ

 

เคยเห็นครับ คือ เห็นการเกิด และ การดับ ตั้งสงบอยู่ภายใน

 

- ผมเคยประสบเกี่ยวกับเรื่องรู้จิตใจ พระท่านทราบว่าเราคิดกังวลเรื่องอะไรและแก้ไขให้ หรือการที่กระดูกพระอรหันต์เป็นพระธาตุ การเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุ
- ถ้าจขกท.อยากสัมผัสด้วยตัวเองก็ปฏิบัติภาวนาให้จิตเข้าถึงความสงบเป็นสมาธิ พิสูจน์ด้วยตัวเองไปเลย หรือหาโอกาสไปพบพระอรหันต์ดูครับ เชื่อว่าจะต้องมีเรื่องประทับใจ เมื่ออยู่ใกล้ก็รู้สึกใจสงบไปด้วย
สำหรับผม แค่วัตรปฏิบัติ ความสมถะ ความเมตตาของท่านก็อัศจรรย์แล้วครับ (ลองอ่านประวัติพระอรหันต์ดูก็ได้ครับถ้าชอบเรื่องพวกนี้จริง)
ปล. ศาสนาอื่นสอนให้เคารพเทพเทวดา แต่ศาสนาพุทธเทวดายังมาเคารพก็พิจารณาละกันว่าประเสริฐแค่ไหน

 

โหยไรอ่ะโพสไปตั้งเยอะไม่ขึ้นไรเลย

 

สมัยบวชไปย้ายพระศีวลีจากหน้าวัดไปไว้ในวัดพระทุกรูปช่วยกันเอาพระขึ้นรถแล้วเดินกลับไปรอยังที่จะนำพระลง เราเดินมาก่อนกับพระอีกสองรูปจำได้ว่าเดินมาก่อนใครแน่ๆพอมาถึง
เห็นหลวงพ่อนั่งรออยู่ทุกคนมองหน้ากัน ทั่นมายังไงหว่า เมื่อกี้ยังเห็นอยู่ข้างหลัง สักครู่รถกับพระทุกรูปก็มากันครบ เราถามกันใหญ่ว่าทั่นมายังไง ก็มีแต่คนยิ้มไม่พูด พอเอาพระลงรถเสร็จงานเสร็จเรียบร้อย มีหลวงพี่ทั่นนึงทั่นอมยิ้มแล้วกระซิบว่า เมื่อกี้รถผ่านมาเขาจอดรับหลวงพ่อเลยถึงก่อน ไม่ดูรึรถจอดอยู่นั้น ฮิฮิ เรื่องเล่าจากทองผาภูมิ

 

ขอเล่าเป็นวิทยาทานครับ

ขอเล่าย่อๆครับ...

ผมอาศัยพระ(ภายใน)สงเคราะห์ให้ไปพบพระอริยสงฆ์ที่จะเป็นเนื้อนาบุญได้อยู่เนื่องๆ โดยเฉพาะทางจ.พระนครศรีอยุธยา ที่ยังคงไว้ซึ่งกรรมฐาน๔๐ครบถ้วน (และเรื่องเจโตปริยญาณหรือทิพยจักษุญาณนั้น ดูเหมือนว่าพระสายนี้ท่านมีเป็นปรกติ)

หลวงปู่องค์แรก (ท่านละสังขารไปเมื่อปี๒๕๕๒ โดยสรีระไม่เน่า และชานหมากท่านแปรเป็นพระธาตุ)...ท่านใช้เจโตปริยญาณสงเคราะห์ผมและญาติโยมหลายๆครั้ง

มีบางครั้งท่านต้องไปยืนที่กลางแม่น้ำในตอนกลางคืนเพื่อไม่ให้ชาวบ้านแอบไปจับปลาในเขตอภัยทาน

ฯลฯ


หลวงพ่อองค์ที่สอง (ท่านยังอยู่ อายุเก้าสิบเศษๆแล้ว) ท่านสงเคราะห์เพ่งกระแสจิตหยุดน้ำในหม้อน้ำรถของผมที่รั่วขนาดหนัก จนผมกลับมาถึงบ้านได้ พอถอยจอดรถปั๊บน้ำก็ไหลพรวดหมดหม้อน้ำทันที

อีกตอนนึงมีคนเคยมาขอฤกษ์ออกรถใหม่จากท่าน ท่านก็ให้ผมหยิบสมุดไดอะรีเปล่าๆมาอ่าน โดยหันหน้ากระดาษมาทางผม แล้วท่านก็อ่านไปเรื่อยๆ(ทั้งๆที่เป็นกระดาษเปล่าๆ)

เรื่องรู้วาระจิตนั้น ท่านสงเคราะห์บ่อยๆจนเป็นปรกติ (แต่ไม่ใช่ทำเพื่ออวด)

ฯลฯ

หลวงพ่อองค์ที่สาม (ท่านยังดำรงขันธ์อยู่ อายุเกือบเก้าสิบ) ท่านรู้วาระจิตเป็นปรกติ แต่ผมเป็นคนขี้สงสัยเรื่องฤทธิ์อภิญญา เพราะเคยเกิดขึ้นกับตัวเองอยู่บ้างเล็กๆน้อยๆจึงกราบเรียนถามท่าน ท่านก็สั่งห้ามว่าไม่ควรคุย เพราะเป็นเรื่องของเราเอง ควรใช้กำลังนั้นนำไปสงเคราะห์ให้เป็นวิปัสสนาญาณทำลายกิเลส

แต่..แต่มีอยู่วันหนึ่ง ผมเข้าไปกุฎิท่านในเวลาค่ำมากแล้ว ไม่มีใครอยู่ ท่านก็นั่งรถเข็น(Wheel Chair)หมุนล้อเข้ามาหาผม พอใกล้จะถึงผม ท่านก็ลอยขึ้นจากรถเข็นไปนั่งบนอาสนะ

ฯลฯ


ขอเล่าลัดๆมาถึงพระหลวงพี่องค์นี้อายุประมาณ๕๐ ผมเข้าไปกราบท่านและได้ทราบว่าท่านสามารถกำหนดจิตดูพลังของวัตถุมงคลได้ (ซึ่งท่านทราบละเอียดกว่าผมมากๆราวฟ้ากับดิน) พอสนทนากับท่านควรแก่เวลาผมก็กราบลาท่านกลับ แต่บังเอิญขณะกราบลาท่านไปแล้วมีโยมผู้หญิงสาวท่านหนึ่งถือพานดอกบัวเดินขึ้นบันไดมาบนกุฎิที่ท่านอยู่

ผมก็เดินสวนกับผู้หญิงท่านนั้นลงบันไดมา แต่อกุศลจิตแว่บหนึ่งของผมก็เกิดขึ้นมาว่า ผู้หญิงจะอยู่กับท่านสองต่อสองนั้นคงไม่งาม และเป็นอาบัติแน่ แต่..แต่.. ทันใดนั้นผมลงไปข้างล่างก็พบหลวงพี่ท่านนี้ยืนอยู่แล้ว!!!

เอาแค่สี่รูปนี้ก่อนนะครับ เพราะหลายสิบปีที่ผมวนเวียนๆอยู่กับพระ มีประสบการณ์ที่ผมเขียนบันทึกไว้เป็นเล่ม แต่คิดว่าจะรวบรวมเอาไว้แจกในงานศพตัวเองครับ

 

ขอบคุณครับที่เล่าให้ฟัง อยากฟังอีก

 

ไม่เคยเจอครับ

 

การจะดูจะรู้ของใครก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องมีกรรมร่วมกันมาก่อน แต่มันเป็นปัจจัยอื่นที่จะทำให้เห็นผิดเพี้ยน หรือไม่ถูกต้องตามจริง (คงไม่ขอบอกละกัน)

การดูอดีต ปัจจุบัน ดูภพภูมิ หรือจะสื่อกับพวกกายทิพย์ต่างๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ถ้ามีของเก่ามาดีมาเยอะ

อ้อ!!...และไม่ใช่แต่พระก็มีฤทธิ์ได้ คนธรรมดาก็ทำได้ แต่บางคนเปิดเผยสถานะไม่ได้ เพราะมันอันตรายมากมาก

เฮ้อ......ยิ่งรู้เยอะยิ่งได้เยอะ ยิ่งอยากหลุดพ้น ไม่ว่าจะภพภูมิไหน ก็วุ่นวายจริงๆหนอ


ขอให้เจริญในธรรมทุกท่าน

 

เคยเจอที่ชัดๆ ก็ปัญญาฤทธิ์ครับ

หลวงพ่อท่านแนะนำให้เราลองทำตาม
พอลองทำตามเราก็สามารถแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้
ด้วยสติ ปัญญา
อยู่กับโลกได้อย่างไม่หวั่นแม้วันมามาก^^​

 

เคยเจอแต่ที่สามารถเปิดท้ิองฟ้าเป็นวงกลมครับ

 

ตอนบวชเป็นพระนั้น ท่านเจ้าอาวาส(ปัจจุบันท่านมรณะภาพไปแล้วครับ) ท่านแสดงฤทธิ์ทางใจให้ดูครับ

(มีผมกับท่านสองคนเท่านั้นครับ) ท่านนำเชือกกล้วยมาแล้วก็เหยียบด้วยเท้าข้างหนึ่ง แล้วว่าพระคาถาบทหนึ่ง

เชือกนั้นกลายเป็นงูเขียว เลื้อยหนีไปต่อหน้าต่อตาผมครับ

ท่านอบรมว่า การใช้พระคาถานั้นต้องเข้าฌานสามเท่านั้น แล้วตรึงฌานด้วย

กำลังของฌานสี่ คาถานั้นก็จะศักดิ์สิทธิ์เป็นดั่งที่เราอธิษฐานอยากให้เป็นครับ

 

ถ้าผมบอกว่า ผมเองก็สามารถเสกลูกแก้วไฟให้มาอยู่ที่มือได้ โดยที่ไม่ต้องใช้คาถาอะไรเลย
และตัวผมเองก็ไม่ถึงฌานด้วย

 

สุดยอดเลยครับ ผมเคยอ่านเรื่องสมัยก่อน พระทำกัน เสกของเป็นแมลง เป็นอะไรแบบนี้ สาธุครับ

ผมอ่านเรื่องเล่าของหลายๆ ท่าน รู้สึกประทับใจ อยากให้เล่ากันอีก

 

อยากได้ไม่ได้ ไม่อยากถึงได้

 

มีมากมายแต่ไม่รู้จะบอกยังไง ทุกคนต้องเจอเอง ถ้าบอกหรือเล่าไปเดี๋ยวกลายเป็นคนบ้าเพ้อเจ้อครับ