[คำถาม]ฝึก วิชชา 3 อย่างไร?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย sone1000, 19 พฤศจิกายน 2011.

  1. sone1000

    sone1000 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +0
    วิธี ฝึก วิชชา 3 ต้อง ฝึก อย่างไร ครับ? ว้อน ผู้ รู้ ช่วยแนะนำ ด้วย ครับ ^_^
     
  2. ลูกหลานปู่

    ลูกหลานปู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +74
    อย่าเรียกว่าฝึกเลยยครับบบ...เดี่ยวคนข้างๆจะหาว่าเพี้ยนไปได้ 5555+++
    ควรจะเรียกว่าใช้ชีวิตอย่างไร...ถึงจะได้วิชชาสามมา แบบนี้จะฟังดุเหมาะสมกับคนสมัยนี้มากกว่านะ......(แต่จริงๆมันก้คือการปฏิบัติ สมถะ +วิปัสนากรรมฐานนั่นแหละ)เพี่ยงแต่มันกลมกลืนกับชีวิตประจำวัน..และดูธรรมชาติมากจนไม่มีใครดูออกว่าเรากำลัง ดุจิต ดูลมหายใจ ฝึกปฎิบัติอยุ่....ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะนี้จัดว่าเป้นเคล็ดวิชาเลยนะ..เพราะ.ถ้าหากว่าเราใช้ชีวิตให้ชินกับการปฎิบัติได้เมื่อไหร่...ทีนี้...แนวทางก้จะเริ่มเข้าใจง่ายขึ้น ทันที
    ---------
    หมวดหมู่ของการศึกษา ..ทางธรรมะ...มันจะไม่เหมือนการทำงานที่มีกำหนดชั่วโมง เหมือนการเรียนที่เรียน ตามที่อาจารย์สอน หมดชั่วโมงแล้วปล่อย แต่มันคือการใช้ชีวิตอย่างไรให้ดุกลมกลืน และมีสติรับรู้กับสภาวะของธรรมชาติให้ได้มากที่สุด...ในทุกเวลาทุกและขณะจิต..(เรียกว่า จะไม่ปล่อยให้จิตใจ มันเดินลำพังอะนะ..เราต้องเป้นคนกำหนดทางเดินให้จิตใจ อย่าให้มันไปทำผิดศีล5 อย่าให้มันไปทำร้ายใคร ให้มันคิดดีๆ เป้นอันใช้ได้) จนสามารถรู้เท่าทัน กิเลสตัณหา และเรื่องราวต่างๆที่จะมายั่วโมโหเราได้....จากนั้น รักษาศีลให้มั่นคง..จะเดินจะนั่ง จะนอน ดูจิต ดูลมหายใจ..เห้นอะไร ก้จับมาพิจารณา จัดเป็นอนุสติ...(อนุสติ10 มีอะไรบ้าง ลองไปสึกษาดูนะครับ)

    ...เพียงแต่การปฎิบัติ..จะต้องไม่ฝืน ไม่เร่ง..และถ้าทำดูแล้วใจสบาย มีปิติ..คือความรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูกไม่หนักใจนั่นจัดว่ามาถูกทางแล้ว...แต่ถ้ายิ่งทำยิ่งเครียดแสดงว่าจับทางผิด...
    แนวทางการปฎิบัติ....
    ไม่จำเป็นจะต้อง นั่งนิ่งเอาท่าเดียว รีบสูบลมหายใจเข้าออกจนจับทางไม่ได้..แต่เริ่มแรกควรหัดนั่งสมาธิในท่าที่ง่ายและสบายที่สุด...จากนั้นให้
    ใช้แนวทางการนั่งบริกรรม...ตามที่ชอบ ไม่ว่าจะเป้น พุทธโธ ยุบพอง หรือสัมมาอะระหังก็ได้ ...นี่เขาเรียกวิปัสนากรรมฐาน
    ...... พอเวลาอื่นที่ท ำงาน จะยืนจะเดินจะนอน
    .....ให้มีสติระลึกถึง...ความตายเป็นเบื้องต้นเพื่อที่จะได้ไม่ประมาทรีบทำความดี
    พิจารณาดูซิว่า...วันนี้ เวลา นี้ ชั่วโมงนี้ศีลเราครบมั๊ย......
    ขาดเหลือเท่าไหร่...รีบรักษาศีลให้ได้เต็มครบทั้ง5 ข้อเร็วๆ เพราะเป้นพื้นฐานของกำลังใจในการปฎิบัติ........ทีนี้เวลาว่างก้อ พิจารณา อนุสติทั้งสิบ ดูลม หายใจ พิจารณาสติให้เป็น..จนเวลาที่เรานึกถึงเมื่อไหร่ ก้มีสติ ใจนิ่งได้เร้ว .....มีเวลาก้นั่งสมาธิ ทำไปเรื่อยๆ จนจิตสามารถเข้าถึง ปฐมณาณ จะเริ่มรู้สึกได้ ว่าตัวเองเริ่มเปลี่ยนไป ใจเย็นขึ้น...รักษาศีลได้ดีขึ้น อะไรที่หลงๆลืมๆก้จำได้ง่ายขึ้น....ก้อย่าไปสนใจอะไร ...ฝึกไปเรื่อยๆทำไปจนชำนาน พอดีขึ้น จิตจะดิ่งเข้าสุ่พวัง เป็นณาณ ตามลำดับ.... แล้ว พอรู้ตัวว่าได้ชาณแล้ว...ก้มาฝึกเรื่องกสิณ ยามว่างนะ...(แต่ห้ามทิ้ง ของเก่าที่ทำมาเป้นอันขาด ห้ามเปลี่ยนทางเปลี่ยนแนวปฎิบัติเด็ดขาด) ฝึกคือศึกษา ว่ากสิน มีอะไร ประเภทไหน ทำยังไงให้พอรู้......แล้วเร่งให้ถึงชาณ4 พอได้ถึงชาณ4 แล้วค่อยมาฝึกกสิณ 10 ให้เต้มกำลัง พอชำนานได้แล้ว....จะเกิด ญาณ วิเศษ หรือเครื่องรู้ได้เอง...ระลึกชาติได้...รู้วาระจิตคนอื่น...สามารถทำให้กิเลสหมดไปได้ ....เขาเรียกแบบนี้ว่าเป้นอภิญญา3 หรือที่เราคุ้นๆหู ว่าวิชชาสามนั่นเอง........
    -------------
    จะทำได้จริง
    1. ศีลต้องดีเยี่ยมมม
    2. ไม่มีความสงสัย ไร้ความกลัว คิดอย่างเดียวต้องไปใหเถึงพระพุทธ้จ้า และห้ามอยากได้ ปล่อยใจให้สบาย
    3. ส่วนใหญ่ คนที่จะได้อภิญญา ต้องเป้นพระโสดาบัน ขึ้นไป เพราะบางคนไม่รู้เรื่องกสิณเลยย แต่พอเป็นพระโสดาบันได้เลยทันที แบบนี้ก้มี แต่ความจริงถ้าชำนาญในชาญ4 และเรื่องกสิญ แค่กองใดกองหนึ่ง ก็จะรู้แนวทางได้เอง มีคนมาสอนเองในสมาธิ อาราธนาท่านได้เลยยย เพราะจิตระดับนี้จะคุยกับใครก็ได้.....ถเาบารมีถึง ศีลครบ รับรองทำได้แน่นอน.......---- สู้ๆนะครับบบ สำคัญ ต้องใช้ชีวิตให้กลมกลืนกับธรรมฃาติ รักษาศีลให้แน่น ดูลมหายใจ พิจาณาความตายเป้นนิจ และมีใจใฝ่ดี รับรองทำได้แน่ๆ
    .............
    ความจริงอภิญา...มีทั้ง อภิญญา3 อภิญญา 6 และก็มีอีกอย่างหนึ่ง คือ จตุสัมภิทาญาณ คือครอบครุมทั้งหมด.....แต่ส่วนใหญ่ที่ทำได้จริงๆก้มีแต่พระ อรหันต์เท่านั้น เพราะเมื่อหมดกิเลสแล้วตัวเบาใจเบา....มันไม่มีอะไรมาปิดบังความรู้ความคิดได้ นั่งพิจารณาแปปเดียวท่านก้ทำได้แล้ว....หรืออรหันต์อีกแบบที่ท่านไม่อยากได้อะไร คือหวังนิพพานอย่างเดียว....อันนี้ก็ไม่มี อภิญญาเพราะท่านคิดว่ามันไม่จำเป้น...แต่จิตถึงระดับนั้นแล้ว หากเกิดเหตุจำเป็นต้องใช้ ท่านก็แค่ย้อนมาเข้าปฐมชาญใหม่ แล้วพิจารณากสิณ เรียนเรื่งคาถาเล็กๆน้อยๆไม่เกินสามวัน ท่านก็ทำได้แล้ว......จะเห้นว่าทุกอย่างอยู่ที่จิตล้วนๆเลยย ถ้าจิตดี ปัญญาดี อะไรๆก็ง่ายไปหมด..................
     
  3. sone1000

    sone1000 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณสำหรับ คำ ตอบมากครับ ละเอียดมากๆ ^_^
     
  4. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    หาหนังสือวิสุทธิมรรค น่าจะช่วยคลายข้อสงสัยได้มากอยู่
    ...ตามกำลัง...
     
  5. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ...ทำทิพจักขุญาณให้เกิด

    ...ได้ญาณ8

    ...ใช้สิ่งที่ได้ช่วยตัดกิเลส

    ...(ท่านว่ามา..เชิญพืสูจน์)...
     
  6. nickylove

    nickylove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณมากครับ
     
  7. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844

    ต้องเป็นทำฌานให้ถึงฌาน9 จนสำเร็จพระอรหันต์ ก็จะได้เอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...