{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

ขอเสริมความเห็นของคุณAmuletism ต่อเลยนะครับ
พระองค์นี้เป็นเนื้อทองเหลืองธรรมดา ไม่ใช่เนื้อระฆัง
เก่าที่เขานำมาจัดสร้าง และอีกอย่างที่เห็นได้ชัดเจน
ในพระองค์นี้ ดูที่รูปสุดท้ายนะครับด้านหลัง พระแท้
ขอบเขาไม่ปลิ้นแบบนี้ครับ

 

ขอบคุณ

ขอบคุณครับน้า ที่แนะครับค้าใจพระองค์นี้อยู่นาน จะได้แยกออกครับ:boo::boo::boo:

 

ต้องขอบคุณน้าต๋อย ที่ให้เกียรติเข้ามาช่วยพิจารณาให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์แก่เพื่อนสมาชิกครับ
ประเด็นเรื่องขอบข้างในรูปสุดท้าย ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับอาจารย์น้าต๋อยครับ เพราะพระชุดนี้เป็นพระปั้ม และใช้เลื่อยๆรอบองค์ตามเส้นที่วัดเป็นรูปเตารีด หลายองค์มีการแต่งตะไบเก็บรายละเอียด แต่ไม่น่าจะปรากฏขอบที่มีลักษณะเช่นนี้

 

ขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ขุนแผนพรายกุมารหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
พระเครื่องขุนแผน เป็นที่นิยมเสาะหาในหมู่บรรดาเซียนพระเครื่องและผู้ที่ต้องการเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามและที่จัดว่าเป็นสุดยอดพระเมตตามหานิยม
สำหรับพระขุนแผนของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ แม้หลายคนจะถือว่าเป็นพระใหม่ แต่มีเอกลักษณ์ในการสร้างเฉพาะตัวจริงๆ ทั้งพิมพ์พระ และส่วนผสมในเนื้อพระที่นอกจากจะประกอบด้วยผงพุทธคุณต่างๆ แล้วยังมีผงพรายกุมารเป็นมวลสารหลักอีก พระผงพรายกุมารจึงเป็นพระชุดหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงของหลวงปู่ทิมให้โด่งดังไม่น้อยไปกว่าพระชุดชินบัญชรเลย เนื่องจากนอกจากจะมีประสบการณ์ในทางเมตตามหานิยมอย่างยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาด และมหาอุดอีกด้วย จนทำให้ปัจจุบันพระขุนแผนชุดนี้มีราคาแทบจะแพงกว่าพระกรุพระเก่าfficeffice" /><O></O>

พระขุนแผนพรายกุมาร ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ สามารถแบ่งจากพิมพ์ และบล็อคที่ใช้กด คือ มี พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก ขุนแผนพรายกุมารพิมพ์ใหญ่และขุนแผนพรายกุมารพิมพ์เล็ก <O></O>
หลังจากนั้นก็จะแบ่งแยกย่อยตาม บล็อคที่ใช้กดอีกที คือ <O></O>
๑. ขุนแผน บล็อคลองพิมพ์ (ทดลองกดพิมพ์พระขุนแผน) บล็อกนี้จะเป็นเนื้อกระยาสารททั้งหมดไม่ว่าจะพิมพ์ใหญ่หรือพิมพ์เล็ก และจะไม่มีการฝังตะกรุด <O></O>
๒. ขุนแผน บล็อคแรก หรือ บล็อคนิยม มีเนื้อหลายสี ทั้งสีขาว ขาวทาบรอนด์ สีชมพู สีส้ม สีเขียว สีดำ สีแดง (ผสมว่านสบู่เลือด) สีเหลือง (ผสมว่านดอกทอง) และมีทั้งแบบฝังตะกรุดกับไม่ฝังตะกรุด<O></O>
๓. ขุนแผนบล็อคสองมีทั้งพิมพ์เล็ก และพิมพ์ใหญ่ พิจารณาไม่ยาก เพราะสายเส้นรายละเอียดจากตื้นกว่าบล็อกแรก บางท่านก็ว่าเกิดจากการเอาบล็อกแรกไปถอดพิมพ์ใหม่ แล้วก็ไปแต่งเส้นสายต่างๆใหม่ บางกระแสก็บอกว่าเป็นการเอาบล็อกแรกที่เริ่มชำรุดเพราะกดพิมพ์นิยมไปจนสึกแล้วมาใช้กดพระบล็อกสองในภายหลัง<O></O>
ขุนแผนพรายกุมารพิมพ์เล็กจะสร้างขึ้นก่อน สังเกตได้จากข้อความด้านหลังองค์พระ “หลวงพ่อทิม วัดไร่วารี” (ซึ่งเป็นชื่อเดิมของวัดละหารไร่) ในขณะที่ ขุนแผนพรายกุมารพิมพ์ใหญ่ ได้เปลี่ยนเป็น “หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่” แต่ยังคงใช้ยันต์ ๕ เหมือนกัน<O></O>
เนื้อพระขุนแผนผงพรายกุมาร จะเป็นสีจะออกนวลๆ ดูร่วนๆ ผงจะไม่จับตัวกันแน่นมากนัก กรณีที่เป็นพระทาบรอนด์ เมื่อใช้หรือสัมผัสกับเหงื่อ ผิวที่สัมผัสจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว<O></O>
ข้อมูลจากหลายแหล่งระบุค่อนข้างตรงกันว่า หากนักสะสมต้องการขุนแผนที่มีส่วนผสมของผงพรายกุมาร และได้รับการปลุกเสกซ้ำหลังจากที่มีการพิมพ์พระเสร็จแล้วอย่างแน่นอน ให้สะสมเฉพาะขุนแผนพรายกุมาร บล็อกแรก (บล็อกนิยม) ซึ่งหากจะค้นข้อมูลกันลึกๆ ลงไป ขุนแผน บล็อกลองพิมพ์ น่าจะเป็นขุนแผนในยุดต้นที่มีส่วนผสมของผงพรายกุมารที่เข้มข้นหรือมีปริมาณมากที่สุด (อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่กำลังศึกษาส่วนผสมในเนื้อพระหรือยุคลองผิดลองถูก ไม่มีข้อมูลสนับสนุนที่ชัดเจนว่าพระดังกล่าวได้รับการปลุกเสกโดยหลวงปู่ซ้ำอีกหรือไม่) ในขณะที่ ขุนแผนบล็อกสองนั้น ได้รับการยืนยันในหนังสือของ นายนิลนารถ วัฒนธรรม ว่าเป็นพระที่สร้างขึ้นในช่วงหลัง ไม่ทันหลวงปู่ทิมปลุกเสกอย่างแน่นอน (จากการที่ผู้เขียนลงไปพบกันครอบครัวของคนที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการกดพิมพ์พระขุนแผน ผงพรายกุมาร) ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าพระชุดดังกล่าวไม่ได้มีส่วนผสมของผงพรายกุมาร เนื่องจากมีคำยืนยันค่อนข้างชัดเจนจากบุคคลที่น่าเชื่อถือหลายท่านว่า ผงพรายกุมารที่หลวงปู่ทิมสร้างยังคงมีเหลืออยู่กับลูกศิษย์หลายๆท่าน เช่นหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ท่านยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าท่านได้รับผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมมาจำนวนไม่มาก ซึ่งท่านจะใช้เป็นหัวเชื้อในการสร้างพระผงพรายกุมารของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังได้ให้ข้อมูลว่า แม้ท่านจะได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำผงพรายกุมารมาด้วย แต่ตัวท่านองไม่เคยสร้างผงพรายกุมารเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะของที่เกี่ยวกับภูติพราย แม้จะแรงและได้ผลเร็ว แต่หากผู้สร้างไม่มีอำนาจจิตและวิทยาคมที่เข้มแข็งพอ ก็จะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ในอนาคตได้ ทั้งนี้ท่านยืนยันว่าขุนแผนพรายกุมารของหลวงปู่ทิม ที่อาจารย์ของท่านสร้างจะไม่มีวันเสื่อมหรือเป็นอันตรายต่อผู้ใช่อย่างแน่นอน <O></O>
ผมเองถือว่าข้อมูลที่หลวงพ่อสาครให้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในฐานะของนักสะสมพระที่ไม่ได้มุ่งเชิงพาณิชย์ แต่ชอบพุทธคุณ จริงๆแล้ว ผมก็สนใจหาข้อมูลพระประเภทนี้มามาระยะหนึ่งแล้ว ก็เห็นจะมีแต่พระขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และกุมารทองของหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ที่มีแต่ให้คุณแก่ผู้ใช้ ไม่เคยได้ยินปัญหาเรื่องผลร้ายจากภูติพรายเลย (แรกทีเดียวก็สนใจ พระปิดตาผงกระดูผีอยู่เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าหามาตรฐานในการพิจารณาได้ยาก และไม่มีคำบอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์และผลจากการใช้ที่ชัดเจน) <O></O>
แต่สิ่งสำคัญสำหรับนักสะสมที่ชอบทางนี้ ผมเชื่อว่าคำกล่าวของหลวงพ่อสาคร มีช่วงที่เป็นใจความสำคัญ คือ ผงพรายจะต้องถูกสร้างโดยผู้มีอำนาจจิตและวิทยาคมที่เข้มแข็งพอ เพราะหลายท่านอาจคือได้ยินว่าการใช้วัตถุมงคลสายภูติพรายต่างๆ ส่งผลในทางร้ายในเวลาต่อมาแก่ผู้ใช้ ที่เรียกกันว่า กินตัว ดังนั้น จึงควรระวังในการเลือกหามาใช้มาสะสม โดยส่วนตัว ผมคิดว่าหากยังไม่มีพระขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม พระขุนแผนผงพรายกุมารของหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งครับ <O></O>

 

มีอยู่ 1 องค์ครับ เลยเข้ามาร่วมด้วยครับ

 

ประวัติการสร้างเนื้อผงพรายกุมาร

ประวัติการสร้างเนื้อผงพรายกุมาร fficeffice" /><O></O>
การนำส่วนผสมของผงพรายกุมารมาผสมเนื้อพระขุนแผนพรายกุมาร ข้อมูลแทบจะทุกแหล่งยืนยันตรงกันว่าเป็นความคิดของหลวงปู่ทิม ที่จะสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ให้มีความเข้มขลัง โดยท่านกล่าวว่าหากได้ผงพรายกุมารมาเป็นมวลสารอานุภาพแห่งพรายกุมารที่แฝงอยู่คอยช่วยเหลือผู้ใช้อีกทางหนึ่ง ซึ่งก็เป็นผลให้พระชุดนี้ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ค่อนข้างแรงและรวดเร็ว <O></O>
ผงพรายกุมาร สร้างจากอะไรนั้น มีข้อมูลอยู่ ๒ ทาง<O></O>
๑. นายกุหลาบ จ้อยเจริญ เป็นผู้ไปพลีกะโหลกเด็กที่ตายในครรภ์มารดา โดยต้องเป็นเด็กผู้ชาย ศพต้องตายวันเสาร์เผาวันอังคาร ซึ่งถือว่าแรงมากๆ ตามกรรมวิธีที่หลวงปู่ทิมถ่ายทอดให้ แล้วนำมาผ่านพิธีกรรมต่างๆโดยหลวงปู่ทิมที่วัดอีก ก่อนที่จะนำไปบดในครกหินจนได้ผงพรายกุมาร <O></O>
๒. ตาปูน (สัปเหร่อ) เป็นผู้ดำเนินการ โดยชิ้นส่วนที่พลีมา ไม่ใช่ส่วนที่เป็นกะโหลก แต่เป็นลิ้นและเส้นผม<O></O>
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าข้อมูลแรกดูเหมือนจะที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากกว่า และเป็นเวลายาวนานกว่าครับ<O></O>

 

ขอบคุณ คุณ aumnakrub ที่ให้เกียรติเข้ามาแวะชม
นอกจากนั้นยังกรุณานำภาพพระหลวงพ่อพรหมมาร่วมแสดงกระทู้นี้ด้วย
he llo _car;38

ผมขออนุญาตให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่เพื่อนักสะสมที่สนใจในโอกาสนี้เลยนะครับ
รูปเหมือนชุดนี้ ถูกสร้างขึ้นเพียง ๒,๐๐๐ องค์ มีเนื้อทองแดงเท่านั้น ปลุกเสกในพิธีเสาร์ พ.ศ. ๒๕๑๒
วิธีการพิจารณา เนื่องจากเป็นพระปั้มผิวจะเรียบตึง และจะมีเส้นเล็กๆแหลมคม บนสังฆาฏิ วิ่งลงจากด้านบนเป็นแนวตั้งไปที่ยันต์ครับ

 

เอาข้อมลดีๆมาฝากให้ครับ

คงยังมีนักเล่นอีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังมีข้อกังขาระหว่างพระปิดตาพิชัย
กับพระกริ่งคลองตะเคียน อยุธยา ว่าทั้ง 2 อย่างนี้เป็นพระกรุเดียวกันจริง
หรือเปล่า วันนี้ผมจะมาเฉลยให้ครับ ดูกันให้เต็มๆตากันเลยจะได้หมด
ข้อกังขาหายข้องใจกันสะที




เห็นพระแล้วงงใช่มั้ยครับ........

พระทั้ง2พิมพ์นี้เป็นพระมาจากที่เดียวกันครับ เพียงแต่แยกกันกดพิมพ์
ระหว่าง กริ่งคลองตะเคียน กับ ปิดตาพิชัย ซึ่งก็เป็นคนละบล๊อคกัน
แต่องค์ที่ผมนำมาให้ชมกัน ช่างคงจะนึกสนุก เมื่อกดพิมพ์คลองตะเคียน
เสร็จแล้ว คงเห็นหลังเนื้อพระมีเยอะดี ก็จัดการนำบล๊อคปิดตาพิชัยพิมพ์หน้าเดียว มากดทับไป 2 ข้าง พระที่ได้ออกมาจึงเป็นอย่างที่ท่านเห็นแหละ
ครับ คือ ด้านหนึ่งเป็นกริ่งคลองตะเคียนพิมพ์เล็ก อีกด้านเป็นปิดตาพิชัย
2 องค์

** เป็นไงครับองค์นี้ 1 เดียวจริงๆ....<!-- google_ad_section_end -->

 

ผมนะเจอที่เก็บไฟล์ภาพเเล้วแต่ดันทะลึ่งเสียบเเรงหัวเสียบยุบลงไปเลยต้องเอาไปซ่อมก่อนแล้วจะมาขายขี้เท่อให้ฟังครับ

 

ผมยอมรับว่าน้าต๋อยเก่ง และเป็นของจริง
ถ้าใครได้มาให้น้าต๋อยวิจารณ์แล้ว สบายใจได้
ว่าของที่เรามีอยู่ จริง หรือแท้ ขอแสดงความยินดีกับของแท้
และขอแสดงความเสียใจกับของเก๊ ที่น้าต๋อยกรุณาวิจารณ์ให้

 

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับที่ให้ข้อมูลแล้วองค์นี้น่าจะดีไหมครับ ขอบคุณครับ

 

พระประเภทนี้ นอกจากพิจารณาธรรมชาติของเส้นที่วิ่งจากการปั้มแล้ว
ก็ต้องพิจารณารอยตัดด้านข้างประกอบครับ
แต่เนื่องจากพระเลื่อมอยู่ และเป็นภาพถ่าย
จึงยากแก่การพิจารณาธรรมชาติที่เกิดจากการปั้ม
และรอยตัดด้านข้างครับ

 

;34 ;36;aa40
ขอต้อนรับอาจารย์ Stoes และคุณ ธณต ที่ให้เกียรติแวะเข้ามาเยี่ยมในกระทู้ใหม่นี้ ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ที่น้าต๋อย กรุณานำมาแบ่งปันกับพวกเราเสมอครับ

thx1

 

ขอบพระคุณมากครับ อ.Amuletism เมื่อผมอยู่ท่ามกลางเซียนใหญ่
ผมขอแค่เป็น Stoes เฉย ๆ จะดีกว่าครับ ต่อไปเรียกผม คุณStoes ก็พอครับ
ผมกำลังอ่านเรื่องผงพรายอยู่ครับ ดีมากเลยสิ่งที่ไม่เคยรู้ผมก็รู้ ขอบพระคุณครับ

 

ขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์เล็ก บล็อคนิยม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์เล็ก บล็อคนิยม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
องค์พระเป็นรูปห้าเหลี่ยม มีขนาดกว้าง ๑ ซม. สูง ๒ ซม.
ด้านหน้า เป็นรูปพระพุทธปางสมาธินั่งอยู่ในซุ้ม ข้างองค์พระทั้งสองด้านมีพระโมคลานะและพระสารีบุตร (บางตำราบอกว่าเป็นนางกวัก) ใต้ฐานมีกุมารทองนอนอยู่
ด้านหลัง เป็นยันต์ห้า (ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ "นะโมพุทธายะ") หลวงพ่อทิมวัดไรวารี



พระขุนแผนองค์นี้ ผมได้มาไม่นานก่อนหน้านี้ ราคาจึงแพงเอาการอยู่ครับ ตอนนั้น พอตัดสินใจอยากได้ไว้บูชา ก็บุกขึ้นไปพันธุ์ทิพย์และเข้าเวปพระใหญ่เลย เป็นที่น่าแปลกใจที่ศูนย์ใหญ่อย่างพันธุ์ทิพย์ วันนี้มีพระขุนแผนพรายกุมารแบบนับองค์ได้เลยครับ นาทีนี้หาสภาพสวยๆก็ยากมาก โชคดีได้มาลงเอยที่องค์นี้ ที่ท่านเห็นกันอยู่นี่แหละครับ เป็นพระของหลวงปู่ทิมองค์แรกของผม


สำหรับกระทู้นี้ ผมมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันประสบการณ์และข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับพระและวัตถุมงคลที่สะสมอยู่ เพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนนักสะสม ให้เก็บไว้ประกอบการตัดสินใจในการเช่าบูชาพระที่ตนเองชื่นชอบศรัทธา โดยทุกอย่างที่นำมาลง ผมค่อนข้างมั่นใจมากว่าเป็นของแท้ พระขุนแผนองค์นี้ก็เช่นกัน เคยประกวดติดที่ ๒ งานพันธุ์ทิพย์มาแล้ว และได้รับการออกใบรับรองจากแหล่งอื่นอีกแห่งหนึ่งด้วย จึงอยากนำมาให้เพื่อนๆ ได้พิจารณาเนื้อผงพรายกุมาร ที่ว่า "เนื้อร่วน" ไม่เกาะตัวกันแน่นนั้น มีลักษณะเป็นอย่างไร พระประเภทนี้บรอนด์หลุดง่ายมากครับ


ปล. ๑ สำหรับท่านที่นำภาพวัตถุมงคลที่ไม่แท้มาลงให้เป็นตัวอย่างในการศึกษา ทั้งยังได้กรุณาบอกว่าเป็นของไม่แท้อีก ผมก็ต้องขอบพระคุณอย่างยิ่ง เพราะก็จะเป็นประโยชน์ในการศึกษาและเช่าหาอย่างถูกต้องต่อไป (สังเกตุสิครับ ผู้ที่สะสมพระรุ่นเก่าๆ จะบอกว่าของเก๊ ก็ต้องดูไว้บ้าง จะได้รู้ว่ามันมีพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้ว เป็นวิธีป้องกันการโดนกับตนเองในอนาคตได้เป็นอย่างดี

ปล. ๒ เวลาจะเช็คพระ ผมแนะนำให้เอาพระพันธุ์ทิพย์ ไปเช็คที่ท่าพระจันทร์ หรือ ตั้งฮวดเส็ง เพื่อป้องกันการจำพระกันได้ครับ เวลาประกวดผมก็แนะนำให้ลองประกวดทั้งงานของสมาคมฯที่พันธุ์ทิพย์ และงานของชมรมพระที่ตั้งฮวดเส็ง (ปกติจัดที่กรมราชองค์รักษ์หรือแถวสุขุมวิท) ทั้งสองกลุ่มนี้ กรรมการตัดสิจะเป็นคนละกลุ่มกัน แต่เล่นพระแท้ทั้งคู่ ส่วนงานเล็กๆ ที่จัดโดยนิตยสารบางเล่ม ผมยังไม่เคยนำพระไปประกวด แต่เคยได้ยินจากเพื่อนๆ ว่าปัญหาเยอะมาก ส่วนตัวจึงไม่ขอแนะนำครับ

 

งาแกะอาจารย์เฮง ไพรวัลย์

ประวัติ "อาจารย์เฮง ไพรยวัล" จากจารึกที่เก็บกระดูกอาจารย์เฮง ณ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา เขียนไว้ว่า "เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๘ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ ตายเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒ สิริอายุ ๗๕ ปี"


พื้นเพท่านเป็นคนบ้านหันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา บิดาท่านเป็น นายตำรวจ หรือผู้ตรวจการณ์คุก โดยบิดาส่งไปเรียนที่ปีนัง สิงคโปร์ แต่เรียนไม่สำเร็จ ท่านเป็นคนชอบเรียนวิชาไสยศาสตร์ ได้ท่องเที่ยวเล่าเรียนมาแต่ทางภาคใต้ ท่านอาจารย์เฮงเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับ พระยาเพชรปรีชา มีเพื่อนฝูงเป็นเจ้าพระยาหลายคน

เมื่อท่านเดินทางกลับมายังภูมิลำเนา คือ จ.พระนครศรีอยุธยา คราวเมื่อท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ท่านให้ความสนใจศึกษาตำรับตำราทางไสยศาสตร์ อันว่าด้วยเวทมนตร์คาถา อักขระเลขยันต์ จากจารึกวัดประดู่โรงธรรมอย่างแตกฉาน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสมัย สมเด็จพระพันรัต วัดป่าแก้ว หรือใน รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ. ๒๑๓๓-๒๑๔๘) นั้น รวบรวมสรรพวิทยาไสยศาสตร์ โดยจารึกไว้ที่ วัดประดู่โรงธรรม นี้อย่างพร้อมสรรพ

ตำรับวัดประดู่โรงธรรม เป็นแม่บทของตำราที่ว่าด้วย เวทมนตร์คาถาและอักขระเลขยันต์ ที่มีปรากฏและเล่าเรียนสืบต่อมาตราบเท่าทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านอาจารย์เฮงนั้น ท่านเรียนรู้ตาม คำภีร์รัตนมาลา อย่างแตกฉาน และเจนจบมาก

หลังจากที่ ท่านอาจารย์เฮง สึกจากการอุปสมบทแล้ว ท่านกลับมาครองเพศฆราวาส เริ่มปรากฏชื่อเสียงเกียรติคุณกระเดื่องดัง ทางเป็นพระอาจารย์ของท่าน เริ่มต้นด้วยการเป็น อาจารย์สัก ก่อน

หลวงปู่สี เล่าว่า ครั้งกบฏบวรเดช ในสมัยรัชกาลที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๗๖) มีนายทหารและข้าราชการมาให้ท่านสักเป็นจำนวนมาก และจากการที่ท่านอาจารย์เฮง ตั้งพิธีสักที่วัดหันตรานั่นเอง

ครั้งนั้น ท่านอาจารย์เฮง จำเป็นต้องอาราธนาพระสงฆ์มาสวดพุทธมนต์ในพิธีสักนั้นด้วย ในสมัยนั้น (พ.ศ. ๒๔๗๖) ในท้องที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หาพระที่สวดพุทธมนต์และพุทธาภิเษกพิธียากมาก ยกเว้น ท่านอาจารย์สี วัดสะแกเท่านั้น เพราะท่านอาจารย์สีเคยลงมาศึกษาอยู่ที่สำนักวัดเลียบ จ.พระนครศรีอยุธยา และมีความเจนจบในเรื่องนี้อยู่

สืบต่อมาเมื่อท่านอาจารย์เฮง จะประกอบพิธีกรรมครั้งใด จำต้องมาอาราธนาท่านอาจารย์สีไปร่วมพิธีทางฝ่ายสงฆ์อยู่เสมอ

โดยพื้นฐานและฐานะของท่านอาจารย์เฮงนั้น จัดว่าเป็นผู้มั่งคั่งคนหนึ่ง ท่านมีบ้านเป็นหลักแหล่งอยู่ที่ทุ่งหันตรา มีไร่นา และมีบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่ที่วังน้อย เมื่อท่านมีลูกศิษย์ลูกหาทางกรุงเทพฯ มากขึ้น เพื่อความสะดวกในการประสิทธิ์ประสาทความรู้แก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหา จึงเชิญท่านมาเช่าบ้านอยู่ที่สวนมะลิ และย้ายมาอยู่ที่ห้องแถวหน้าสมาคม วาย.เอ็ม.ซี.เอ วรจักร จนกระทั่งสงครามมหาเอเชียระเบิด ท่านจึงอพยพขึ้นไปอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ดังเดิม

 

ขุนแผนพรายกุมาร พิมพ์เล็ก บล็อคนิยม ภาพหน้า-หลังครับ



ขออนุญาตลงให้ชมอีกครั้งหนึ่ง
เป็นภาพหน้า-หลัง เลยครับ
ส่วนตัว ผมยังรู้สึกว่าหลังพระองค์นี้ไม่สวยเท่าไหร่
แต่เมื่อถึงเวลาต้องเลือก นาทีนี้แล้ว พระที่มีอยู่ในสนามที่แท้และสวยสมบูรณ์ทุกอย่างหายากมากๆเลยครับ บางองค์หน้าสวยหลังพอใช่แต่ทองกลายเป็นสีเขียวเพราะโดนสัมผัส บางองค์ยันต์รอบองค์พระด้านหน้าชัดแต่นางกวักก็ไม่ชัดอีก บรอนด์เต็มแต่พระไม่สวยก็มี อีกองค์ที่เจอในช่วงเวลาเดียวกันจะบอกว่าเห็นด้านหลังแล้วตะลึงครับเพราะยันต์หลังชัดมากๆ แต่พอดูด้านหน้าแทบจะไม่รู้ว่าที่ใต้ฐานเป็นกุมารเพราะไม่มีหัว เหมือนกองอะไรสักอย่าง องค์นั้นเขาบอกผมเกือบสี่แสนบาท แต่ก็อย่างว่ายันต์หลังเขาสวยจริงๆครับ
ท้ายที่สุดก็เลือกองค์นี้แหละครับ

เคยประกวดติดรางวัลที่ 2 งานใหญ่ พันธ์ทิพย์มาแล้วครับ

 

ร่วมด้วยครับ พระปิดตาแกะไม่รู้ของที่ไหนครับมีจารณ์ด้วยครับ

 

ขอบพระคุณในความจริงใจและกรุณาต่อเพื่อนร่วมทางเดียวกัน

ขอบพระคุณอาจารย์Amuletism ในความจริงใจและกรุณาเช่นนี้
แผ่นดินนี้นับวันแล้วจะหาคนที่มีใจเมตตาอย่างเช่นอาจารย์
ผมว่าหาได้น้อยมาก ถึงมาก ๆ อีกทั้งมีความรู้รอบด้าน
ผมไม่ได้แก้ชมนะครับ แต่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกและสิ่งที่อาจารย์ได้แสดงออก ขออนุโมทนาบุญกับ สิ่งที่อาจารย์ทำคือ พรหมวิหารสี่ ครับ