เปรียบเทียบ กรรม ระหว่างพระเจ้าอชาติศัตรู กับ กรรม ฆ่าคนหน่อยสิ

กรณีที่ 1. อย่างเช่นคนที่ฆ่าคนด้วยกันเองเพราะขโมยขึ้นบ้าน
เป็นตำรวจ เป็นทหาร เป็นสายลับ เป็นต้น

กรณีที่ 2. พระเจ้าอชาติศัตรูฆ่าบิดาตนเองรับกรรมบนโลกจนตายแต่ทำความดีมาตลอดโดยเฉพาะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา จนตายไปรับกรรมแค่ ยมโลก นั่นแหละ (ถ้าจำไม่ผิด ใครรู้แก้แย้งหน่อยนะครับ) และก็เกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต หลังจากนั้นจุติลงมาเป็น พระพุทธเจ้า <<< ที่ไม่เผยแพร่อ่ะครับ ผมจำชื่อไม่ได้ ขอโทษนะครับ

ถ้าคนที่อยู่กรณีที่ 1 ทำบุณเยอะๆมากๆล่ะ

กรรมก็จะลดลงไหม รับโทษน้อยลงไหม ?

 

โทษอาจจะไม่ได้รับเลยก็ได้ครับ เเต่ คนที่คุณ ฆ่า จะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของคุณ คอย อาฆาต คุณ นะครับ

 

หลวงพ่อ ฤาษี ท่าน เคยเล่าให้ฟังว่า คน อันธพาล นะ ถ้า ท่านเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ท่านก็ยิงทิ้ง ไม่ต่ำกว่า 30 คน เเล้วก็กลายเป็นเจ้ากรรมนายเวร ของท่าน ผมจำไม่ได้ว่าท่าน ทำยังไง เจ้ากรรมพวกนั้นถึงได้ยอมอโหสิ

 

จริงๆมันเปรียบกันได้ว่าต่างกันมาก
กรณีที่1
ฆ่ามนุษย์ด้วยกัน ถ้าไม่ได้ฆ่าเป็นอาจิณกรรมนะครับ อย่างมากก็ลงนรกขุม 1สัญชีวมหานรก มี 3ขุมย่อย คือ
1มหานรก 2อุสทนรก 3ยมโลก หนักเบาก็เรียงลำดับกันไปจากมากไปน้อย
แต่เมื่อฆ่าไปแล้ว ต่อมาภายหลังผู้กระทำตายไปมันยังบอกไม่ได้ว่าจะตกนรกทันทีหรือไม่ อยู่ที่บุญบาปจะช่วงชิงกันว่ากรรมใดให้ผลก่อนหลัง หากมีบุญอื่นมาแทรกอาจจะไปสวรรค์ก่อนก็ได้ นอกจากนี้ยังมีเหตุปัจจัยอื่นอีกมากจึงไม่แน่นอน แต่กรรมเป็นของแน่ ต้องได้รับแน่ๆไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
กรณีที่2
กรณีของพระเจ้าอชาติศัตรู ทำปิตุฆาต ฆ่าพ่อตนเอง จัดเป็นอนันตริยกรรม เมื่อทำกรรมแล้วจะปิดทางสวรรค์และนิพพานในชาตินั้นทันที กรรมดีใดๆที่มีอยู่จะยังไม่ให้ผลต้องลงอเวจีก่อน เมื่อทำกาละ หรือตายไปแล้ว จริงๆต้องลงมหานรกขุมที่ 8 ขุมมหานรกอเวจี
ต่างไปจากกรณีที่ 1 นะครับ แต่ว่าเขาทำบุญมาเยอะหลังจากตาย ก็เป็นบุญที่ทำในพระพุทธศาสนาเป็นหลักนั่นแหละ บุญเลยอุ้มไว้ไม่ให้ลงลึกไปกว่านี้ ก็เลยลง ขุมนรกขุมที่เบาที่สุดของนรกอเวจี คือยมโลกของมหานรกเอวจี คือ ยมโลกของขุม 8
ส่วนกรณีที่ 1 เป็นยมโลกของมหานรกขุมที่1 คือยมโลกของมหานรกสัญชีวมหานรกนะครับ คนละขุม คนละชั้นกันเลย

แต่ว่ามีข้อมูลบางแหล่งบอกว่าพระเจ้าอชาตศัตรู อยู่ยมโลกขุม 1
แต่ผมดูแล้วน่าจะเป็นยมโลกขุม 8 นะครับ ยังไงก็ยังลงอเวจีอยู่ดี เพียงแต่เบาลงเท่านั้น

และพระเจ้าอชาตศัตรู ต่อไปจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคตกาลครับ ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เคยมีกรณีตัวอย่าง
ในสมัยพุทธกาล มีเศรษฐีคนหนึ่ง ในอดีตชาติทำกรรมเอาไว้โดยไปฆ่าลูกของพี่ชายตนเอง เพื่อที่ว่าถ้าเด็กตายไปสมบัติของพี่ชายตนเองก็จะตกอยู่กับตัว
แต่ว่าเขามีกรรมดีเพราะได้ทำบุญกับพระปัจเจกพุทธเจ้า 1 ครั้ง แต่ก็ทำแบบไม่เต็มใจ
ผลก็คือเขาเวียนเกิดเวียนตายไปในโลกและสวรรค์ถึง 7 ครั้ง ตอนเกิดก็เป็นมนุษย์และเป็นเศรษฐีทุกครั้ง เนื่องจากผลบุญส่งผล ในชาติล่าสุดอยู่ในสมัยพุทธกาลองค์ปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้ทำบุญเลย ทั้งๆที่อยู่ใกล้พระศาสนา สุดท้ายลงนรกเพราะกรรมที่ไปฆ่าเด็กเมื่อสมัย 7 ชาติที่แล้วตามมาทัน กรรมดีชั่วยังอยู่แม้จะผ่านไปแล้วหลายชาติ
ฉนั้นถ้าหากใครคิดว่าทำบุญเพื่อล้างกรรมก็อย่าเผลอแล้วกัน กรรมดีชั่วอยู่ได้เป็นอสงไขย

จำได้แล้ว เรื่อง อปุตตกเศรษฐีนั่นเอง มี link และรายละเอียดอีกมาก
http://kaskaew.com/index.asp?contentID=10000004&title=%BA%D8%BE%A1%C3%C3%C1%A2%CD%A7%CD%BB%D8%B5%B5%A1%E0%C8%C3%C9%B0%D5+(%E0%C8%C3%C9%B0%D5%BC%D9%E9%E4%C1%E8%C1%D5%BA%D8%B5%C3)&getarticle=109&keyword=&catid=3

ยังมีเรื่องที่กรรมยังไม่ให้ผลในทันทีหลังจากตายอีกหลายเรื่อง ต้องไปดูทศชาติ ที่เป็น เรื่อง พระนารทฤาษี

 

ทุก คห. มีประโยชน์และความรู้มากเลยครับ

อนุโมทนาและขอขอบคุณนะครับ

 

กรรมดี กรรมชั่ว มันแยกกัน

ส่วนที่ว่า พระเจ้าอชาติศัตรู จะได้เป็นพระพุทธเจ้า ก็ไม่ใช่นะครับ
ในคัมภีร์สุมังคลวิลาสินี กล่าวว่าในอนาคต
อชาตศัตรู จะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระนามว่า ชีวิตวิเสส

แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะได้เป็น้เมื่อไร ก็ต้องไปชดใช้กรรมก่อน
เหมือนพระเทวทัต ก็ได้ พยากรว่าเป็น ปัจเจกพุทธเจ้า

แต่ทีแน่ๆ ถ้าไปอคติ ไป พยาบาท ทั้งสองคน ทั้งๆที่ตัวเองไม่เกี่ยวอะไรเลย
สังเกตุไหม จิตใจมีความอึดอัด เพราะโทสะแทรก
โทสะเป็นเหตุให้ไปเกิด เป็นสัตว์นรก
ถามได้ แต่ต้องวางจิตที่เป็นกลาง ไม่งั้นได้ลงนรกไปหา สองท่านนั้นแน่