ใครมีประสบการณ์วัตถุมงคลหลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐีบ้างครับ

อยากได้เหรียญ ดร.ครับ สงสัยว่าไปอยู่ไหนหมด ผมเช็คเวบประมูลหลายเว็บดังไม่มีเลย
สงสัยคนมีจะเก็บกันเงียบ ขอถามนิดนึงนะครับผมอ่านกระทู้เจอผ่่านๆว่าหลวงพ่อจะทำเหรียญดร.อีกหรอครับ ไม่ทราบว่าจะออกเมื่อไรจะได้เตรียมตัวถูกพอดีไม่ได้อยู่ที่ไทยด้วยครับ

 

เข้าใจว่าเนื่องจากเหรียญที่ระลึกฉลองได้รับพร<WBR></WBR>ะราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิ<WBR></WBR>ตติมศักดิ์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเก<WBR></WBR>ล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นี้

สร้างจำนวนไม่มาก และค่าเช่าบูชาสูงพอสมควร
เนื้อทองแดง สร้าง 1,000 เหรียญ ให้เช่าบูชา 1,500 บาท
เนื้อนวะโลหะ สร้าง 200 เหรียญ ให้เช่าบูชา 2,000 บาท

ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะอยู่กับลูกศิษย์ที่ศรัทธา และไม่ออกกันง่าย ๆ แน่

ถ้าศรัทธาในหลวงพ่อ ก็ลองอธิษฐานดูซิครับ ขอให้โชดดีครับ ...

 

มีของหนักและใหญ่ปี 48 สังเกตุกันหรือเปล่าครับในตู้ เหรียญนี้ใหญ่ 5.5 เซ็น เป็นเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ครับ ราคาก็พอดี ๆ 1000 ทำกรอบตั้งบูชาได้เลยครับ สิ้นเดือนนี้จะไปบูชามาสัก 1 เหรียญ เป็นของขวัญให้ตัวเองครับ

 

ในเว๊บประมูลเค้ารอกระแสครับถ้ากระแสแรงคนต้องการมาก ๆ เค้าจะปั่นราคาดูอย่างพญาเขาคำสิครับเค้ารอพวกเราอยากได้เค้ามาเฝ้าดูความอยากของพวกเราแล้วเป็นไงครับ ราคาไปถึง 4000-5000 ก็ยังมีคนเอา ผมว่าของที่มีตอนนี้ก็ดีญู่แล้วครับ อย่างที่พี่ชายเราพี่ Lukkrok เคยบอกไว้ว่าที่มีอยู่ตอนนี้ใช้ให้เป็นก่อนเถอะ ผมว่านะพุทธคุณทุกอย่างทุกเหรียญ ไม่ต่างกันมากหรอกครับ

 

เมื่อวานไปที่วัด ตู้ที่อยู่ข้างนอกห้องวัตถุมงคล นี่เล่นเอาน้ำลายไหลย้อยเลยทีเดียว
แฟนอยากได้ หนุนดวงเนื้อสามกษัตริย์ ผมก็เห็น ตะกรุดสาริการ้อยรัก แล้วอีกหลายๆชิ้นแบบว่า น้ำไหลนี่หยดแหมะๆเลยทีเดียว อิอิ

 

วันนี้เอาความรู้เรื่องปรอท มาแบ่งปันกัน เห็นวัตถุมงคลของท่าน หลายชิ้นเป็นเนื้อปรอทครับ เลยขอแชร์ ความรู้เรื่องราวเกี่ยวกับปรอทสำเร็จ ให้เพื่อนสมาชิกทราบกัน

ปรอทวิเศษ (สำเร็จ)

การแปรธาตุหนึ่งไปสู่อีกธาตุหนึ่งที่มีคุณลักษณะทางกายภาพและเคมีให้ต่างไปจากเดิมนั้นชาวสยามในสุวรรณภูมิมีวิทยาการในเรื่องนี้มาช้านานจากตำนานพบว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวชมพูทวีปที่ได้รับความรู้นี้มาจากไอยคุปต์โบราณอีกทอดหนึ่ง เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนี้เป็นเรื่องจริงที่มิใช่เพียงตำนานที่เล่าขานนอกจากการแปรธาตุให้เป็นสิ่งที่มีค่ามากขึ้นยังพบว่ามีการใช้ในการสรรสร้างวัตถุที่ประจุพลังจิตอีก เรื่องราวเหล่านี้พบในเอกสารโบราณหลายฉบับทั้งยังมีกล่าวในพระไตรปิฏกตอนที่กล่าวถึงโลกจินไตยว่าอันคติเรื่องโลกนั้นแบ่งได้สองสาขา คือ

๑.มนิกาวิชชา คือความรู้เรื่องจิตศาสตร์อันได้แก่ ความรู้ทางจิต การบำเพ็ญจิตในลักษณะต่างๆทั้งก่อนพุทธกาลและในขณะนั้นเช่นการสะกดจิต การฝึกปราณยามะ การเพ่งกสิณ

๒.ตัชชารีวิชชา อันนี้คือความรู้เรื่องเครื่องลางของขลัง ๔ ประการ คือ

๒.๑. มูลตัชชารี ความรู้เรื่องต้นไม้ว่านยาที่มีอานุภาพต่างๆ
๒.๒. มันตาตัชชารีวิชชาได้แก่ความรู้เรื่องเวทมนต์ต่างๆที่หลายท่านคุ้นเคยกันดี
๒.๓. อังกตัชชารีวิชชา ได้แก่ความรู้เรื่องการทำเครื่องลางของขลังพวกพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุดพิสมรต่างๆ
๒.๔. ธาตุตัชชารีวิชชา คือความรู้เรื่องแร่ธาตุต่างที่มีอิทธิฤทธิ์รวมทั้งวิชาเคมียุคดึกดำบรรพ์เรียกว่ารสายนเวทที่เป็นความรู้เกี่ยวกับ เรื่องการเล่นแร่แปรธาตุต่างๆ เช่นการแปรธาตุตะกั่วเป็นทองคำ(สีสัน- ลักษณะโครงสร้างภายนอก) การแปรธาตุปรอทเป็นของแข็งที่เรียกกันว่าปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์ วิชาเรื่องการแปรธาตุนี้เกือบเหลือเป็นเพียงแค่ตำนานเพราะมีผู้รู้สืบทอดน้อยลงวิชาประการต่างๆก็พลอยสาบสูญไปกับผู้ที่รู้วิชาเหล่านั้น

การแปรธาตุนั้นถือเป็นการร่ำเรียนพระเวทขั้นสูงเพราะต้องใช้ทั้งความรู้และสติปัญญาในการไขปริศนาแห่งวิชาให้เข้าใจทั้งต้องมีพลังจิตในระดับอัปมัญญาสมาธิ(ฌานสมาบัติ) จึงจะสามารถทำสำเร็จ เท่าที่พบในประวัติศาสตร์ของชาวสยามนั้นมีวิชาการที่กล่าวถึงเรื่องนี้อยู่มากทั้งปรากฏหลักฐานในพระเครื่องรางของขลังที่ผู้มีความรู้พระเวทสายนี้สรรสร้างบรรจุไว้ตามกรุเจดีย์ต่างๆแสดงถึงความรุ่งเรืองของรสายนเวทในสมัยนั้น หากท่านเป็นนักนิยมพระเครื่องคงรู้จักเครื่องลางเช่นลูกปรอทกรอก็เป็นประดิษฐกรรมอย่างหนึ่งและพระเครื่องที่ทรงฤทธานุภาพสูงที่บรรจุในกรุโบราณมาแต่สมัยศรีอโยธยารามเทพนคร ที่สรรสร้างด้วยพระเวทสายเล่นแร่แปรธาตุก็คือ พระกรุวัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาทที่ปรากฏมีผู้เรืองวิทยาคมสูงส่งสืบทอดอย่างไม่ขาดสายจนปัจจุบันความเข้มขลังของพระกรุนี้นักนิยมพระรุ่นเก่าถึงขนาดดูแท้ปลอมด้วยการอาราธนากำพระเครื่องนี้แล้วนำเข็มฉีดยาแทงหากว่าเข็มทะลุผ่านชั้นเนื้อไปได้ก็ถือว่าพระเครื่องท้ายย่านองค์นั้นปลอม นี่คือกฤติยาคมที่ผ่านพ้นอดีตจนมาพิสูจน์ความจริงแท้ในโลกปัจจุบันนอกจากพระกรุวัดท้ายย่านจะมีอิทธิคุณเข้มขลังแล้วท่านทราบไหมว่าพระเครื่องชุดนี้สร้างจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ปรากฏในตำนานสยามคือวิชาปรอทสำเร็จธาตุกายสิทธิ์นั่นเองเมื่อผ่านกาลเวลานานนับร้อยปีประกอบกับความร้อนเย็นในกรุพระปรอทนั้นก็กินตัวกรอบไม่คงทนทำให้พระชุดนี้ตกแตก บรรดานักนิยมพระเครื่องที่ไม่เดียงสาก็คิดว่าพระท้ายย่านนั้นมีส่วนผสมสร้างจากแร่พลวง(วุลแฟรม) ชนิดหนึ่งเท่านั้น และท่านทราบอีกหรือไม่ว่าพระชุดนี้มิได้ใช้การหลอมเทด้วยความร้อน แต่เป็นการปั้นอัดพิมพ์โลหะกายสิทธิ์นั้นด้วยวิชาพระเวทขั้นสูงที่น่าตื่นตะหนก ที่หลอมโลหะด้วยพระเวทแล้วชุบให้แข็งตัวหลายท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจบอกว่าเหลือเชื่อไม่น่าเป็นไปได้แต่ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงครับ

ก่อนที่จะมาถึงการหลอมปรอทโดยไม่ใช้ไฟที่มีนักวิทยาคมหลายท่านสงสัยว่าจริงหรือ ?
บางท่านถึงกับกล่าวปรามาสไปก็มีว่าเป็นเรื่องเล่นกลหลอกลวงหรือบางรายกล่าวแบบขอไปทีว่าถึงทำได้แล้วไงจะขลังจริงหรือ ?
อันนี้เป็นเรื่องต่างความคิดต่างความเชื่อกันคงไปบังคับกะเกณฑ์กันไม่ได้แต่ที่นำมาเล่าให้ฟังนี่ก็เพื่อสืบตำนานเรื่องราวที่เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรมประการหนึ่งของไทยเราจะขอปูพื้นความรู้เรื่องปรอทวิเศษหรือปรอทสำเร็จที่เป็นของวิเศษในความเชื่อของผู้ศึกษาวิทยาคมว่าใครหากทำได้เเล้วก็นับว่าบรรลุจุดสูงสุดในวิชาวิทยาคมประการหนึ่งเเบบเดียวกับที่เราศึกษาวิชาความรู้ภาคสามัญแล้วได้ปริญญาอย่างไรอย่างนั้น จึงขอคัดตำราการหุงปรอทสำเร็จแบบหนึ่งซึ่งจริงในเมืองไทยมีตำราแบบที่ว่าด้วยการหุงปรอทนี่เท่าที่พบไม่น้อยกว่ายี่สิบตำราครับ การหุงปรอทตำรับนี้ที่ได้จากตำราเก่าอายุหลายร้อยปีเล่มหนึ่ง กล่าวถึงการหุงปรอทและสรรพคุณไว้จึงขอคัดมาเป็นพื้นความรู้เพื่อกล่าวถึงเนื้อความต่อๆไปดังนี้ครับ

ปรอทเป็นของเหลว และไหลกลอกกลิ้งได้เช่นเดียวกับน้ำ หลักวิทยาศาสตร์ปรอทนั้นจะมีอาการหดตัวเมื่อถูกความเย็นและพองตัวเมื่อถูกความร้อน ตามวิชาการแพทย์ก็ต้องใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดระดับความร้อนของคนไข้ หลักอุตุนิยมวิทยาก็ใช้ปรอทเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิเป็นต้น

เพราะความคุมตัวกันไม่ติดของปรอท และเป็นธาตุชนิดหนึ่งที่มีอาการประหลาดนี้เอง ในโบราณกาลจึงถือว่าปรอทนั้นหากผู้ใดมีวิชาสามารถทำคุมตัวกันได้ และประกอบพิธีโดยหลักไสยศาสตร์อันถูกต้องครบถ้วนแล้วฤทธิอันเกิดจากวิทยาคมซึ่งรวมอยู่ในปรอทนั้นอาจจะสามารถนำผู้ที่เป็นเจ้าของให้เกิดอิทธิฤทธิและกระทำปาฏิหาริย์ต่างๆได้ ดังอุปเท่ห์โบราณดังนี้

ผู้ใดอมปรอทไว้
- ผู้นั้นจะมีรูปร่างดังพระมหาจักรพรรดิ (หมายถึง ความมีเดช ฤทธิ์ และความงามเป็นที่เสน่หากระมังอันนี้รวมถึงอานุภาพที่คล้ายกับเหล็กไหลในตำนานที่เด่นเรื่องคุ้มครองป้องกันด้วย)
- เสียงไพเราะ ดังท้าวมหาพรหม (หมายถึง พูดถูกใจบุคคล เป็นเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเชื่อถือกระมัง)
- ไปป่าหิมพานต์ยาม ๑ ก็ถึง (คงหมายถึงการปาฏิหาริย์ ล่องหน)
- ไป ๔ ทวีป ในนิ้วมือเดียว (เช่นเดียวกับข้อ ๓ หรืออาจหมายถึงกายทิพย์ก็ได้) คิดอะไรสำเร็จความปรารถนา

ประวัติและความเป็นมาของ"ปรอท"
ปรอท ตามคติของการสร้างวัตถุมงคล เป็นแร่ธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยในสมัยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า ให้นำแร่ปรอทมาใช้เป็นส่วนผสม ส่วนหนึ่งในการรักษาโรคต่างๆ ของยาแผนโบราณ และบางส่วนก้อใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ในอีกส่วนหนึ่งก็มีการทำให้แข็งตัวตามตำราที่สืบทอดกันมาจากโบราณ ที่เรียกขานกันว่าเป็นการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะวงการนักนิยมเครื่องรางของลัง เชื่อถือกันว่า ปรอท เป็นแร่ธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีอานุภาพ อยู่ในตัวเอง แม้นจะเก็บไว้นานก้อคงสภาพไม่แปรเปี่ยนเป็นสีอื่น ปรอทที่แท้จริงจะมีสีขาว ถ้าขัดถูจะดูสดใสขึ้นในทันที จะดูเป็นสีใหม่อยู่เสมอ พิสูจน์ได้โดยเอาถูกับตะกั่วซองบุหรี่ จะร้อนไหม้ขึ้นในทันที เอาหลังแตะกันจะเห็นเป็นยาง เอาถูอลุมิเนียมจะเป็นขุยขึ้นมา เอาถูที่มือ จะเป็นสีดำ จึงจะเป็นของแท้ถูกต้องตามตำรา สรรพคุณของปรอท ใช้ได้กว้างขวาง เหมาะแก่ท่านที่อยู่ตามชนบท ต่างๆ เช่น ตามไร่ นา ป่า เขา ควรมีพระปรอทติดตัวไว้บูชา ป้องกันอันตรายได้หลายอยาง บรรพบุรุษนับถือกันจริงๆ ยิ่งนำมาสร้างเป็นพิมพ์พระพุทธเจ้า ถือได้ว่าย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง พระเนื้อปรอทนำพกติดตัว เมื่ออันตรายใช้ได้ทันที อาทิ แช่น้ำเป็นน้ำพุทธมนต์ หรือ ดื่มกินเพื่อรักษาโรคต่างๆ

อานุภาพของพระเนื้อปรอทตามตำนานที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ
1. เมื่อถูกของมีคม ใช้ถูปากแผล ห้ามเลือด และแผลจะปิดทันที
2. กันไข้ป่า ไข้พิษ ต่างๆ
3. ดูดพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ใช้น้ำสุราล้างพระปรอท ปิดแผล
4. ดูดพิษงู
5. ป้องกันภูติ ผีปิศาจ และคุณไสย
6. เวลาเดินทางไกล อาราธนาติดตัว หรือแช่ทน้ำมนต์ ประพรหมยานพาหนะป้องกันภยันตรายต่างๆ
7. ปวดฟันให้อมพระปรอทไว้
8. ป้องกันยาพิษ ยาสั่ง
9. ทารักษาโรคผิวหลังกลากเกลื้อน
10. เป็นฝี ใช้พระเนื้อปรอท ล้างน้ำสุรา ปิดที่หัวฝี

การเล่นแร่แปรธาตุหุงหาปรอท ตามตำหรับโบราณนี้ เป็นเรื่องที่หาพระคณาจารย์ ผู้ที่มีวิชาทำได้ยากยิ่ง ดังนั้นพระปรอทจึงเป็นสิ่งสำคัญหายาก จึงควรเก็บรักษาไว้ให้ดี เพราะตำราที่ใช้หุงปรอทนั้นเป็นตำรับที่ตกทอดมาแต่โบราณ เป็นการรักษา ของเก่าที่มีมาแต่ครั้งบรรพบุรุษไม่ให้สูญหายไปกับกาลเวลา

นี้จึงเป็นที่มาที่ไป ที่วัตถุมงคลเนื้อเอก ของหลวงพ่อเณรท่าน ทำไมจึงเป็นเนื้อปรอท และยังผลอานุภาพที่แรงและเร้วเยี่ยงนี้

เอ้าช้าอยู่ไย รีบไปเก็บกันเร็ว ที่วัดONLYเท่านั้นนะครับ

 

จริงๆ พี่ห้องวัตถุมงคลใจดีทุกคน แต่ด้วยหน้าที่ที่ต้องควบคุมหลายอย่างในวัดรวมถึงเรื่องเงินๆทองๆด้วย ถ้าไม่รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี ในเบื้องต้นจะทำตัวนิ่งๆ ภาพที่ออกมาเลยดูเร่งครึ้มน่ากลัวไปหน่อย ถ้ามาดีก็ใจดีตอบครับ :d

 

เห็นด้วยกับคุณ Scoopynoi ครับ วัตถุมงคลก็คล้ายกัย บัตรATM ใช้เบิกบุญที่มีมาใช้ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นสำคุญที่สุดคือบุญที่เรามี ถ้าเรามีบุญไม่มากพอต่อให้ใช้วัตถุมงคลดีแค่ไหน ก็ไม่ถึงที่สุดของพุทธคุณหรอกครับ หมั่นทำบุญ สวดมนต์นั่งสมาธิกันเยอะๆ นะครับ :d

 

เหรียญพยัคฆ์ปราบเซียนยังมีเหลือเยอะไหมครับพี่ๆ
แล้วปีหน้าฟ้าใหม่หลวงพ่อมีโปรแกรมออกวัตถุมงคลอะไรบ้างครับ

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ dropkick
เมื่อวานเข้าไปที่วัดมาแร้ว ได้กลับมานิดๆ เกรงใจแฟนที่ไปด้วย เดี๋ยวเห็นเราหยิบๆๆๆๆ เกรงว่าวัตถุมงคลก็คงช่วยไม่ได้แน่ๆ เลยสอยมาน้อยๆก่อน
ได้ หนุมานมาสององค์ แก้วหนุนดวงสองเหรียญ จะสั่งเนื้อปรอท ดันไปเรียกเนื้อเงินซะงั้น แล้วก็ได้ของที่ต้องการมานาน น้ำมันว่านกับสีผึ้ง อิอิ
ในห้องเช่าวัตถุมงคลเมื่อวาน ยุ่งกันน่าดูแพคอะไรกันก็ไม่รู้ เห็นเป็นผ้ายันต์
ท้าวเวสสุวรรณแล้วมีสายสิญจ์แล้วก็เหรียญอะไรซักอย่าง ถามพี่ในห้องว่าเอาไว้ทำอะไร พี่เค้าบอกว่า เตรียมไว้งานสวดภาณยักษ์กลางปี
ปล.พี่ผู้ชายที่อยู่ห้องวัตถุมงคลเมื่อวาน พี่น่ากลัวจัง:'( ไม่ค่อยยิ้มเลยอ่ะ กลัวววว

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Isacandar P
จริงๆ พี่ห้องวัตถุมงคลใจดีทุกคน แต่ด้วยหน้าที่ที่ต้องควบคุมหลายอย่างในวัดรวมถึงเรื่องเงินๆทองๆด้วย ถ้าไม่รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี ในเบื้องต้นจะทำตัวนิ่งๆ ภาพที่ออกมาเลยดูเร่งครึ้มน่ากลัวไปหน่อย ถ้ามาดีก็ใจดีตอบครับ :d<!-- google_ad_section_end -->

ม่ายช่ายอย่างนั้นครับท่าน Isacandar P พี่ที่ห้องวัตถุมงคล ต้องสงวนรอยยิ้มไว้ให้เฉพาะสาวๆเท่านั้นต่างหากครับ 555

 

ขอบคุณคร้าบ พี่ MOMO-TARO เมื่อวานเข้าวัดไปนั่งสมาธิหน้าพระธาตุมาใช่เป่า

 

อันนี้หมายถึงท่านเจ้ากรมขาแต๊...ท่านเดียวหรือเป่าเอ่ย 55++ (แซวเล่นน้า ไม่ต้องโทรศัพท์มาอีกน้า >_<")

 

ถูกต้องครับ
คนที่มีวัตถุมงคลแล้วมีศีลธรรม มีคุณธรรม คนนั้นก็จะมีความสุขกายสบายใจ
ในทางกลับกัน ถ้าคนที่มีวัตถุมงคลที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ประพฤติตนผิดศีลธรรม เช่น แขวนพระ ไปตกปลา, ล่าสัตว์ เป็นประจำ กรรมส่งผลให้ตัวเองก็มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนอยู่เรื่อยๆ แล้วถ้าไม่หยุดตกปลา, ล่าสัตว์ วัตถุมงคลจะช่วยให้เวรกรรมหมดไปได้หรือไม่ พิจารณาดูเอาเอง
แต่ถ้าคนที่ไม่มีวัตถุมงคล แต่มีศีลธรรม คุณธรรม ปฏิบัติธรรมอยู่บ่อยๆ กรรมที่ไม่ดีต่างๆ ที่จะมาส่งผลทำให้เราเดือดเนื้อร้อนใจก็จะบรรเทาลงไป กรรมใดที่หนักก็จะเบาบางลงหรือไม่ส่งผลก็เป็นไปได้ครับ

 

ยกนิ้วให้ ท่านด้านข้อมูล แถวบ้านบอกสวดดดยอดดด

 

แก้ข่าวให้พี่เค้าหน่อยปกติพี่เค้าใจดีมากครับชอบอำสนุกน้องๆออกบ่อย
ส่งสัยเมื่อวานงายยุ่งและไม่ได้นอนติดต่อหลายวันครับ
ปกติพี่เค้าเหมือนอัปดูลย์เลยถามอะไรตอบได้อิอิ

 

ขอถามหน่อยครับ ถ้าน้ำมันในขวด หมด เอาน้ำมันมาเติมได้ป่าว

ถ้าได้ใช้น้ำมันอะไรหรอครับ

 

หมายถึงน้ำมันว่านเมตตารึปล่าวครับ

ถ้าใช่

เติมแล้วเสื่อมนะครับ ผมเคยถามมาแล้วครับ^^

 

:VO เห็นด้วยอีกเสียงนะ

 

ขอเสริมด้วย ชุดญาณวินโย 48 บูชาไป เหมือนได้ไปเที่ยวรอบโลกเลยที่เดียว

แล้วคุณจะไม่อยากจะหาอะไรมาเพิ่มเติมอีกเลย

 

วันนี้โชคดีได้มีโอกาส สนทนากับหลวงพ่อเณรครับ หลวงพ่อเป็นกันเองมากถามไถ่ว่ามาจากไหนทำอะไร แล้วมีคู่ครองแล้วยัง ผมบอกยังครับ อยู่คนเดียวสบายใจกว่า หลวงพ่อ(หัวเราะ)แล้วก็เรียกเข้าไปข้างในพรมน้ำมนต์ให้ แล้วผมก็ถามว่าเมื่ออดีตหลวงพ่อเคยเป็นนักรบมาก่อนหรอครับ(คือในใจผมสังเกตุครับว่าเข้ามาก็เจอสำนักดาบ+สถานที่ต่างๆ)หลวงพ่อก็บอกสนใจอดีตทำไม ให้ดูปัจจุบันดีกว่า แล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรผมอะพูดไม่ออกตื้นตันไงไม่รู้ เลยขอกราบลาหลวงพ่อเลย