Almine ผู้เป็นอมตะ และเป็น "Ascended Master" และ "คู่มือการเลื่อนระดับขึ้น" จากเธอ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 25 พฤศจิกายน 2011.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    กายทั้ง 7 ของเรา (The Seven Bodies)

    Ascended Masters: Ascension Manual

    [​IMG]

    1). กายเนื้อ (Physical Body)


    “กายเนื้อ” คือที่สิงสถิตย์ของ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self) ของคุณ
    เพื่อใช้สำหรับการสำรวจตรวจค้น หาความลึกลับและความมหัศจรรย์ทั้งหลาย
    ของความเป็นคุณ ที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นวัตถุธาตุแห่งนี้

    ร่างกายเนื้อนี้ จะมีความไวต่อโปรแกรมต่างๆที่ถูกถ่ายทอดผ่านการสัมผัสเป็นอย่างมาก
    ตั้งแต่ช่วงหลายนาทีหลังจากการเกิดแล้ว มันบรรจุความทรงจำต่างๆของชีวิต
    ทั้งในชาติภพนี้และในชาติภพอื่นๆเอาไว้ด้วย


    2). กายทิพย์ หรือ กายละเอียด (Etheric or Astral Body)

    “กรรม” ซึ่งก็คือ จุดที่เกิดการบีบอัดกัน หรือหดตัวของกระแสการไหลของพลังจักรวาล
    เพราะความตระหนักรู้/ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของเรา
    กรรมส่วนใหญ่ของพวกเราแต่ละคน จะไปสะสมอยู่ในส่วนของกายทิพย์หรือกายละเอียดนี้
    (มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะไปสะสมอยู่ในกายเนื้อ)

    กายทิพย์นี้ ประกอบไปด้วยเส้นแสงสีฟ้าจำนวนมากมาย ซึ่งจุดที่เส้นพลังงานเหล่านี้มาตัดกันนั้น
    จะก่อให้เกิด “จุดที่จะใช้ฝังเข็มเพื่อการบำบัดรักษาแบบจีน” ขึ้น และรวมถึง
    จะก่อให้เกิด “จักระหลัก” และ “จักระรอง” ทั้งหลายขึ้นด้วย

    โดยที่ ถ้าจุดไหนมีเส้นพลังงานมาตัดกันถึง 7 จุด จุดนั้นก็จะกลายเป็นจุดที่จะใช้ฝังเข็ม
    ส่วนถ้าจุดไหนมีเส้นพลังงานมาตัดกันถึง 13 จุด จุดนั้น ก็จะกลายเป็น “จักระรอง” ไป
    แต่ถ้าจุดไหนมีเส้นพลังงานมาตัดกันถึง 20 จุดแล้วหละก็ จุดนั้น ก็จะกลายเป็น “จักระหลัก” ไป

    กายทิพย์นี้ จะมีสนามพลังงานเป็นเส้นตรง (ปล.ตรงนี้แปลเอาตามเข้าใจของตัวเองนะครับ
    เพราะต้นฉบับเขาใช้คำว่า This body is linear เท่านั้นเองครับ – ผู้แปล)
    และอยู่รอบๆกายเนื้อของเราห่างออกมาประมาณ 1 นิ้ว


    3). กายแห่งอารมณ์ (Emotion Body)

    มันคือสนามพลังออร่า (Auric Field) ความเจ็บปวดจากอดีตทั้งหลาย
    จะถูกเก็บสะสมอยู่ใน 3 ชั้นแรกของกายของเรา (ได้แก่ กายเนื้อ, กายทิพย์, และกายแห่งอารมณ์)
    เพราะฉะนั้น เมื่อใดที่เราสามารถปลดปล่อยอดีตให้ผ่านไปได้แล้ว
    และสามารถทำให้นิสัยสันดานของเราเกิดความสมดุลได้แล้ว กายทั้ง 3 นี้ ก็จะใสสะอาดขึ้น

    มันคือสนามพลังงานที่กำลังไหลเวียน (flowing field)
    และแผ่ขยายออกมาจากร่างกายเนื้อของเราราวๆ 14 นิ้ว


    4). กายแห่งจิต (Mental Body)

    เมื่อเราสามารถทำให้กายทั้ง 3 ของเราอยู่ในความสมดุลได้แล้ว ซึ่งรวมถึง
    สามารถทำให้สมองซีกซ้ายและขวาของเราทำงานกันอย่างสมดุลได้แล้ว
    กายแห่งจิตนี้ ก็จะค่อยๆเลิกขัดขวางการเข้าถึงกายแห่งจิตวิญญาณชั้นสูงๆกว่าของเราไป

    กายแห่งจิตนี้ มีสนามพลังงานเป็นเส้นตรง (linear) และจะอยู่ห่างออกมาจากกายเนื้อของเราราวๆ 14 นิ้ว



    5). กายแห่งอารมณ์ของจิตวิญาณ (Spiritual Emotional Body)

    เมื่อใดที่เราสามารถเข้าถึงกายนี้ได้แล้ว เราก็จะเริ่มมีชีวิตอยู่ในกาลเวลาที่เป็นนิรันดร์
    ซึ่งสอดคล้องกับพระประสงค์ของความไม่มีที่สิ้นสุด (The Infinite)
    กายนี้มีลักษณะเป็นสนามพลังงานที่ไหลเวียน (flowing field)
    ที่แผ่ขยายออกมาจากกายเนื้อของเราราวๆ 19 นิ้ว



    6). กายแห่งจิตของจิตวิญญาณ (Spiritual Mental Body)

    ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในกายนี้ จะประกอบไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยที่จำเพาะเจาะจงต่างๆ
    ของพิมพ์เขียวแห่งชีวิตของเราในภพชาตินี้ และเมื่อใดที่เราสามารถเข้าถึงกายนี้ได้แล้ว
    เราก็จะเริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆด้วยมุมมองของเอกภพได้

    เราจะเริ่มมองเห็นความไร้เดียงสาและคุณค่าของแต่ละชีวิตได้
    ว่ามันเป็นภาพสะท้อนของความไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะในแบบที่มันเป็นอยู่นั้น
    หรือในแบบที่มันไม่ได้เป็นอยู่นั้นก็ตาม

    เราจะมองเห็นว่า มันไม่มีเรื่องที่ต้องให้สำนึกผิดใดๆอยู่เลย
    ดังนั้น การตัดสิ้นชี้ถูกผิดใดๆจึงสูญสลายไปจนหมดสิ้น โดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆเลย

    กายนี้มีสนามพลังงานเป็นเส้นตรง และอยู่ห่างจากกายเนื้อของเราออกมาราวๆ 19 นิ้ว


    7). กายแห่งจิตวิญญาณ (Spirit Body)

    มันจะมีเส้นใยเล็กๆของแสงสว่างนับพันๆล้านเส้น ที่แผ่ออกมาทุกทิศทุกทางจาก
    “ศูนย์พลังชีวิต” (Life force Center) ของเรา

    ซึ่งศูนย์พลังชีวิตที่ว่านี้ มันก็คือลูกบอลแห่งแสงสว่างสีขาว ขนาดเท่าผลส้มนั่นเอง
    ซึ่งนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2007 เป็นต้นมา ศูนย์พลังชีวิตของมนุษย์ทุกๆคน
    ได้เคลื่อนจากจุดตันเถียน (ตรงท้องน้อย) ขึ้นมาอยู่ที่จักระหัวใจแล้ว

    ทุกสรรพชีวิตในเอกภพนี้ล้วนมีช่วงของความตระหนักรู้อยู่ในเส้นแสงสว่างเหล่านี้ช่วงใดช่วงหนึ่งทั้งสิ้น
    นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม พวกเราทุกคนถึงเป็น “จุลภาค” (microcosm) ของจักรวาล

    กายนี้ คือกายที่เหล่า Shaman ทั้งหลาย ใช้เพื่อแปลงร่างไปเป็นสัตว์ต่างๆ หรือเป็นสิ่งอื่นๆ
    นอกเหนือจากนี้ พวกเขายังใช้กายนี้เพื่อเข้าไปสู่จักรวาลคู่ขนานอื่นๆด้วย

    พวกเขาจะใช้วิธีการย้ายตำแหน่งของจุดแห่งการเรืองแสงจุดหนึ่ง
    ที่เรียกว่า “จุดเมลก” (Assemblage Point) ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังของหัวใจ
    เยื้องขึ้นไปทางขวามือเล็กน้อย ประมาณ 1 ช่วงแขน

    กายนี้จะมีลักษณะของสนามพลังงานเป็นแบบเส้นตรง ที่แผ่ออกมาจากจุดศูนย์พลังชีวิต
    ห่างออกมาราวๆ 1 ช่วงแขนของเรา

    จุดเมลก” (Assemblage Point) นี้ จะอยู่ที่ขอบนอกสุดของกายแห่งแสงสว่างชั้นที่ 7 ของเรา
    (กายแห่งจิตวิญญาณ) และจะมีลักษณะเป็นจุดสว่าง ที่จะเป็นตัวกำหนดว่า
    เราจะอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงโลกไหน

    ถ้าจุดนี้เคลื่อนตำแหน่งไป จักรวาลนี้ ที่ดูเหมือนว่าเป็นของแข็งนั้น ก็จะหายไป
    แล้วโลกแห่งความเป็นจริงโลกใหม่ ก็จะก่อตัวขึ้นมา

    มันจะคล้ายๆกับความรู้สึกที่เราเข้าไปอยู่ในภาพสามมิติอันอื่นอย่างนั้นแหละ
    การเคลื่อนที่ของจุด Assemblage point นี้แม้เพียงเล็กน้อย
    ก็จะทำให้เราเข้าไปอยู่ในสภาวะอีกสภาวะหนึ่ง ที่แตกต่างไปจากเดิมได้
    เช่น ในสภาวะที่จิตรวมเป็นสมาธิเป็นต้น ซึ่งด้วยการฝึกฝน
    เราจะสามารถเข้าไปอยู่ในสภาวะที่จิตรวมเป็นสมาธิได้ชั่วคราว
    ถ้าหากว่าเราแค่ไปที่จุดสิ้นสุดของสวนเพื่อไปรับจดหมายมาเท่านั้นเอง
    มันเป็นการหยุดการเชื่อมต่อกับเสียงตะโกนของสมองซีกซ้ายชั่วคราว
    จึงทำให้ข้อมูลข่าวสารที่บริสุทธิ์จากมิติที่สูงกว่าสามารถสาดส่องลงมาที่สถานการณ์นั้นๆได้
    และทำให้เราได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งที่ยังไม่รู้นั้นๆได้


    พลังงานของเราจำนวนมาก จะมาจากกายลำดับที่ 5, 6 และ 7 ของเรา
    เพราะเหตุนี้ ถ้ากายชั้นในทั้งหลายของเรา มีจุดที่เป็นปมขมวดของพลังงานเกิดขึ้น
    เราก็จะเหนื่อยง่าย เพราะว่ากระแสการไหลของพลังงาน จากกายชั้นที่อยู่สูงๆกว่าถูกบล็อกไว้

    ดังนั้น กายแห่งอารมณ์ (emotional body) จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
    ในอันที่จะทำให้กระแสการไหลของพลังงานเป็นไปอย่างราบรื่น


    นอกเหนือจากกายทั้ง 7 แล้ว พวกเรายังมีกายที่ใหญ่กว่าอยู่อีก 5 กายด้วยกัน
    ซึ่งกายลำดับที่ 12 ของเรานี้ เป็นกายที่มีความกว้างใหญ่ไพศาลมาก
    ใหญ่พอๆกับเอกภพเลยทีเดียว จนมันทับซ้อนอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด

    ในขณะที่เรากำลังเคลื่อนเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นอยู่นี้
    พวกเรากำลังกระตุ้นให้กายทั้ง 12 ของเรา ทำงานอย่างเต็มที่อยู่
    ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นแล้ว พวกเราก็จะมีจักระ 12 จักระ ไม่ใช่ 7 จักระเหมือนเดิมอีกแล้ว

    เมื่อใดที่เราสามารถเข้าถึงกายทั้ง 12 ของเราได้ในภพชาตินี้ เราก็จะรู้แจ้งในทุกสิ่งทุกอย่าง
    และในทุกๆภพชาติของเราเองด้วย เพราะว่าพวกมันทั้งหมดเชื่อมต่อกันอยู่

    และเมื่อนั้นทุกๆการกระทำและความคิดในอดีต ก็จะกลับกลายเป็นสมบูรณ์แบบทั้งหมด
    นี่คือสิ่งที่สำคัญ เพราะว่าถ้าหากว่าเราตายไปก่อนที่จะรู้แจ้ง
    เราอาจจะทิ้งระลอกคลื่นเล็กๆแห่งความบาดหมางเอาไว้มากมาย
    เพราะการที่ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ของสิ่งที่มีระดับความสั่นสะเทือนต่ำกว่าความรักเอาไว้เยอะก็เป็นได้

    เพราะฉะนั้น หากเราเปลี่ยนอดีตไปเสีย ปัจจุบันก็จะเปลี่ยนไปด้วย
    และในทางกลับกัน หากปัจจุบันของเราเปลี่ยนไป อดีตก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน

    ………………………..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2011
  2. White Fox

    White Fox เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    783
    ค่าพลัง:
    +12,384
    ขออนุญาติอ้างอิงข้ามห้องหน่อยจ้า

    เห็นว่า มีภาพตัวอย่างแบบที่คุณ ชยุต พูดถึง

    http://palungjit.org/threads/อนาคตังสญาณ-เพื่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศไทย.288061/page-182
     
  3. tangOAH

    tangOAH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,183
    ค่าพลัง:
    +5,528
    ขอบคุณค่ะ พี่ชยุต
    อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็พยายามเก็บความรู้ให้มากที่สุดค่ะ
    รอฟังผลการทดลอง จากพี่อยู่นะคะ อิอิอิ
    มีรัยเปลี่ยนแปลงมาเล่าให้น้องๆฟังบ้างเน้อ

    :cool::cool::cool:
     
  4. Uaychai

    Uaychai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +231
    ขอบคุณครับ สำหรับบทความที่แปล มีเนื้อหาที่ให้ความรู้และเป็นประโยชน์มากครับ
     
  5. nunnapath

    nunnapath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +256
    เรียนคุณชยุต เมื่อวันที่ 11/12/11 ดิฉันเกิดอาการหัวใจเต้นเร็วผิดปรกติ คือมากกว่า 190 ครั้งต่อนาที ซึ่งก่อนหน้านี้ร่างกายดิฉันก็มีพลังงงานไฟฟ้าสถิตค่อนข้างมากคือ ถ้าจับรถเข็นก็เกิดไฟซ๊อตได้ แม้เปิดประตูรถก็สามารถเกิดไฟดูดได้ เดินผ่านคนที่มีไฟฟ้าก็สามารถเกิดไฟซ๊อตดังได้ แต่อาการเต้นผิดของหัวใจนั้นได้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 ปี มีสติทุกอย่างไปโรงพยาบาล อยู่ห้องไอซียู หมอรักษาจนปกติ ตรวจหัวใจก็ปกติ แต่มีบางอย่างที่ระหว่างการนอนอยู่ในห้องไอซียูคือ ความสว่างที่่เกิดขึ้นในขณะหลับตาซึ่งมีความสว่างข้างใน มีอะไรที่เห็นอยู่ภายในซึ่งไม่สามารถบอกเล่าให้ฟังได้ เพราะอาจคิดว่าเป็นอุปทาน แ่ต่ตัวเราเองไม่เคยคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือการเจ็บป่วยแต่อย่างไร ซึ่งตอนนี้ก็หายเป็นปกติดีทุกอย่างออกจากโรงพยาบาลก็แข็งแรงเหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องระบบไฟฟ้าในร่างกายอยู่ดี ว่าทำไมถึงมีมาก ความเห็นของหมอ คือสภาวะ SVT หรือไฟฟ้ารัดวงจร อยากถามผู้รู้เช่นกัน มีใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง
     
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขอแนะนำให้เข้าไปอ่านข้อความในกระทู้นี้ครับ
    เพราะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างมากอยู่ครับ


    "ข้อความจากต่างมิติ-–-การกระตุ้น-light-body-ทั้ง-12-ระดับ-เพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่-5"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...-เพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่-5-a.302490/

    ..................................................

     
  7. Kingkong1

    Kingkong1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    776
    ค่าพลัง:
    +2,262
    อ่านจบแล้วครับ ตั้งแต่ 23 ธันวาคม 2554 ยังไม่มีใครเข้ามาโพสต์เลยนะครับ เป็นบทความที่น่าอ่านน่าศึกษา มันทำให้ไขความลี้ลับบางอย่างได้ เพราะพวกเราชาวพุทธก็ได้ศึกษาความรู้เกี่ยวกับจิตเป็นส่วนมาก ซึ่งเมื่ออ่านความรู้เหล่านี้แล้วทำให้เกิดความรู้สึกว่าหลาย ๆ เรื่องมันเป็นเรื่องเดียวกัน แต่เรียกชื่อต่างกัน และสิ่งที่สำคัญยิ่งก็คือความเหมือนกันแต่เรียกต่างกันนี้เอง เมื่อแปลจากภาษาหนึ่งสู่ภาษาหนึ่งก็ก่อเกิดความผิดเพี้ยนและเข้าใจผิดกันไป คือเข้าไม่ถึงความรู้ที่ต้องการสื่อ จะอ้างอิงถ้อยคำก็อ้างไม่ได้เพราะอยู่คนละหน้า การแปลภาษาเป็นสิ่งที่ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาจิตใจ ภาษาธรรม การอธบายความรู้สึกภายในจิตใจ แม้คนภาษาเดียวกันก็ยังเข้าใจได้ยากยิ่ง ก็น่าเห็นใจท่านผู้แปล ที่แปลเรื่องเหล่านี้ที่มีอุตสาหะวิริยะเป็นอย่างยิ่ง การจะทำอย่างนี้ได้ต้องประกอบด้วยเมตตาจิตอย่างสูงส่ง มีความต้องการที่จะมอบสิ่งที่ดี ๆ ให้ผู้อื่นตลอดเวลา

    แต่การที่มีผู้เข้ามาโพสต์ต่อต้านก็มิใช่เรื่องเสียหายเสียทีเดียว เพราะมันก็ทำให้ จขกท.ใช้ศึกษาตัวเองด้วยเช่นกัน มันทำให้ จขกท.สามารถยกจิตของตัวเองให้สูงขึ้นเพราะถ้อยคำของผู้คนเหล่านั้น การเรียนรู้อารมณ์ของตนเวลาถูกกระทบเป็นการสร้างพละกำลังจิตได้อย่างดีเลิศ

    มีอยู่ช่วงหนึ่งของชีวิต ผมไปฝึกสมาธิภาวนาที่สวนโมกข์ แต่ผมชอบเก็บตัวอยู่ด้านหลังสุดของวัด ติดเชิงเขานางเอ หลาย ๆ วันก็โผล่ออกมากราบท่านอาจารย์พุทธทาสเสียครั้งหนึ่ง ท่านให้โอวาทผมว่า "อย่าเก็บตัวคนเดียวจนเกินไป เราเรียนวิปัสสนาก็คือเรียนรู้ตนเอง เรียนรู้อารมณ์ของตนเอง การเรียนรู้อารมณ์ต้องมีผัสสะเข้ามากระทบให้เกิดอารมณ์ เราต้องเรียนรู้ที่จะต่อสู้กับมันด้วยปัญญา และสามารถผ่านมันไปได้ด้วยปัญญาของเราเอง "

    ถ้อยคำต่อต้านทั้งหลายน่าจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นได้


    ด้วยความรัก (kiss)(kiss)(kiss)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2012
  8. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,016
    ค่าพลัง:
    +10,241
    ขอบคุณท่านผู้ถ่ายทอดความรู้ และท่านผู้แปลทุกท่านครับ
    ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลโลก
    โปรดช่วยคุ้มครองทุกท่าน ให้รอดพ้นจากภัยพาลและภัยพิบัติทั้งปวงเทอญ
     
  9. Andromeda Galaxy

    Andromeda Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +314
    ขอบคุณจขกท.และเข้ามาติดตามอ่านเช่นเคยค่ะ
     
  10. Thesaurus

    Thesaurus สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2011
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +11
    Thankss ka ทั้ง almine และคนแปล
     
  11. Issara

    Issara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +433
    เออ ตอนนี้ให้มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอายุขัยมนุษย์ไหมครับ สนใจอยู่ เหมือนข้อความล่าสุดของ Kryon ก็กล่าวถึงอีก ({)

    However, what this means is that you can stay here longer, no matter what you've been told. Longer life is in your grasp - a lot longer. I'm talking to somebody who needed to hear that.

    จาก
    The Recalibration of Dark and Light > Kryon


    ใครมีเพิ่มเติมมา Post หน่อยนะครับ (k)
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขออนุญาตดันกระทู้นี้ขึ้นมาหน่อยนะครับ
    เผื่อว่ามีใครกำลังค้นหามันอยู่

    .......................................
     
  13. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368
    chearrchearrchearrตามมาดุนๆๆchearrchearrchearr
     
  14. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    ขอนำกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อบางท่านที่กำลังหาข้อมูลในเรื่องนี้อยู่
     
  15. กะเหรี่ยง

    กะเหรี่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +111
    ดีมากเลยครับ..ขอบคุณผู้แปล
     

แชร์หน้านี้

Loading...