จุดยืน และความต่าง ระหว่าง สุรยุทธ์ จุลานนท์ กับ สนธิ บุญยรัตกลิน

​

จุดยืน และความต่าง ระหว่าง สุรยุทธ์ จุลานนท์ กับ สนธิ บุญยรัตกลิน​

ลองเดินลึกลงไปในรายละเอียดของความเห็น "ต่าง" ระหว่าง "รัฐบาล" กับ "คมช." ในประเด็นว่าด้วยพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จะยิ่งตระหนักในรากและฐานที่มา เอาเฉพาะในประเด็นผลสะเทือนในทาง "เศรษฐกิจ" ก็จะเห็นแล้วว่ากึ๋นของแต่ละฝ่ายที่มีอยู่เป็นอย่างไร​

น่าสนใจก็ตรงที่ "คมช." มองอย่างหนึ่ง​

น่าสนใจก็ตรงที่ "รัฐบาล" มองอีกอย่างหนึ่ง​

นั่นก็คือ คมช.ประเมินว่า การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ คือ เหตุปัจจัยอันก่อให้เกิดความเสียหายในทางเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจ​

ตรงกันข้าม รัฐบาลกลับประเมินว่า การประกาศใช้พระราชกำหนดตามข้อเสนอของ คมช.นั่นแหละจะทำให้เกิดความเสียหายในทางเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจ ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจ นี่ย่อมเป็นการมองต่างมุมของ "รัฐบาล" และ "คมช." อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งทางความคิด ทั้ง "รัฐบาล" และ "คมช." ล้วนเปราะบางอย่างยิ่ง หากมองผ่านรูปทางความคิดและความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจ ยิ่งลงลึกเป็นตัวบุคคล ยิ่งมองเห็นจุดอ่อนในด้านนี้​

เพราะว่านายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นทหารและเป็นทหารเหล่าทหารราบผ่านส่วนกำลังรบมาอย่างเป็นด้านหลัก ไม่เคยอยู่กรมส่งกำลังบำรุง ไม่เคยอยู่กรมพลาธิการ ไม่เคยอยู่กรมยุทธโยธา เช่นเดียวกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็เดินตามรอยของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ราวกับเป็นพิมพ์ชีวิตเติบใหญ่ในหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ​

ภายใน คมช.อาจกล่าวได้ว่ามีเพียง พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เท่านั้นที่พอจะมีประสบการณ์ในเรื่องเศรษฐกิจและธุรกิจบ้าง เพราะรากฐานจากครอบครัวและเพราะเคยทำเรื่องนี้ในห้วงที่พ้นจากวงจรอำนาจไปพร้อมกับ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ระยะหนึ่ง​

กระนั้น มุมมองในเรื่องเศรษฐกิจระหว่าง พล.อ.สุรยุทธิ์ จุลานนท์ กับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อันเนื่องจากผลสะเทือนทางการเมืองก็มีความต่างอย่างมีนัยสำคัญ ความต่างอย่างมีนัยสำคัญอีกประการหนึ่งระหว่าง "รัฐบาล" กับ "คมช." คือรากฐานความคิดในเรื่องอำนาจ ในด้านของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ถือว่าลอยตัวได้​

ลอยตัวได้เพราะว่ารากฐานความคิดที่สำคัญแนบแน่นอยู่กับพุทธศาสนาสายอรัญวาสีเน้นด้านสมาธิภาวนาและการปฏิบัติ พระที่ท่านให้ความนับถือเป็นพระสายวัดป่าซึ่งชมชอบในการปลีกวิเวก ตรงกันข้าม กิจกรรมของสมาชิก "คมช." ที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก คือการทำบุญสืบชะตาและแก้กรรมตามแนวในทางไสยศาสตร์​

ไม่เว้นแม้กระทั่ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งเป็นมุสลิม แม้ในพิธีศักดิ์สิทธิ์เปิดศาล "หลวงพ่อปู่ฤๅษีเทวารัญ" ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2550 ประธาน คมช.จะไม่ได้เดินทางไปร่วม แต่หลายคนเห็นสมาชิกคนสำคัญ คมช.เข้าร่วมอย่างคึกคัก บางคนที่มิได้เดินทางไปด้วยตนเองก็มอบหมายให้ "ภรรยา" ไปเป็นตัวแทน​

ไม่มีใครรู้ว่าสมาชิก คมช.ได้ทำกรรมไว้หนักหนาอย่างไร ไม่มีใครรู้ว่า คมช.จะสืบทอดและต่อท่ออำนาจหรือไม่ แต่ที่เห็นก็คือการทำบุญสืบชะตาและแก้กรรม นี่คือจุดต่างที่ไม่ควรมองข้ามระหว่าง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ กับสมาชิก คมช. หากไม่โยงไปยังจุดที่ยืนอยู่ก็จะมองไม่เห็นทรรศนะที่ปรากฏ​

ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับจุดที่ยืนมองกับทรรศนะที่ปรากฏและกระบวนการของการบริหารจัดการ จึงเป็นความสัมพันธ์ที่มีลักษณะยึดโยงและเป็นผลสะเทือนต่อกัน นี่คือวิถีแห่งความต่อเนื่องระหว่าง จุดยืน ทรรศนะ วิธีการ ​

​

ข้อมูลและภาพประกอบจาก
​