วันนี้อธิษฐาน ดับสนิท 90 นาที ถวายแด่ พ่อหลวง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แว๊ด, 5 ธันวาคม 2011.

  1. กูไม่กินPALA

    กูไม่กินPALA สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +12
    เหมือนอ่านรายงานเด็กมหาลัยเลยฮะ ตัดนู้นมาตัวเสริมความเห็นหน่อย
    ปฏิบัติแล้วเข้าเน็ทไม่ได้หรือคะ (กลับไปอ่านใหม่ครับ อ่านก็ได้ไม่อ่านก็ได้) ถ้าคนที่เคยเข้าสมาธิในระดับที่ลึกๆจะเข้าใจดี ว่าเป็นยังไง ระวังศีลข้อ4 หน่อยก็ดีครับ
     
  2. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758

    อนุโมทนากับที่คุณแว๊ดอธิบายครับ อธิบายได้ดีมากครับ เรียนถามคุณแว๊ด ว่าสภาวะจิตที่ละเอียดกว่าการดับนั้น มีหรือไม่เป็นอย่างไร ไม่ทราบว่า หลวงพ่อท่านได้กรุณาอธิบายไว้ไหมครับ แล้วคุณแว๊ดปฏิบัติถึงหรือยังครับ
     
  3. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ได้อธิบายไปตอนแรกแล้วว่าอาการเป็นอย่างไร ที่ยกมาเพิ่มเพราะอธิบายทางภาษาหลักการไม่เป็น จะได้ทำให้คนอ่านเข้าใจมากขึ้นว่าเป็นอย่างไร เพราะถ้าพูดผิดหลักการ จะผิดเพี้ยนไปอีก

    ปฏิบัติแล้วเข้าเน็ทไม่ได้หรือคะ ก็ยังคงเป็นคำถามเดิม เพราะไม่ว่าปฏิบัติขั้นไหน ถ้าคุณมีสติในสิ่งที่คุณทำอยู่ ก็ไม่แปลกที่คุณจะทำอะไร การเข้าฌาณ ถ้าคุณเข้าได้จริง ๆ ระดับลึก ๆ คุณก็ต้องทราบว่า ครูอาจารย์จะสอนให้กำหนดเวลาด้วย ว่าเข้าออกฌาณให้คล่อง

    เรื่องศีล ถ้าพร่องคงทำมาถึงตรงนี้ไม่ได้ อย่าตำหนิหรือเพ่งโทษคนอื่น ให้ดูตัวเองตำหนิตัวเองก่อนดีไหม ปกติ แว๊ดก็จะเข้ามาแป๊บ ๆ จะแค่ช่วงพอว่างวันนี้ถึงเข้ามาได้นานแค่นั้น
     
  4. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ละเอียดกว่านั้นมี แต่ยังทำไม่ถึงคะ

    คุณ ab-a ลองดูกระทู้เก่า ๆ เรื่องคุณแม่สุ่มศิษย์เองหลวงพ่อจรัญฯ ท่านจะเข้าลึก ๆ ได้ละเอียด เท่าได้เล่าละเอียดไว้ดีแล้วคะ


    หลวงพ่อท่านได้อธิบายไว้ละเอียดกว่านี้นิดหน่อยค่ะ รวมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ ที่เป็นด้านปฏิบัติทั้งหมด ท่านเขียนจากประสบการณ์การปฏิบัติของท่านเองคะ
     
  5. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ขอบคุณครับ เห็นใจคุณแว๊ด ที่มีพวกใจสัตว์นรกคอยหาเรื่องครับ
     
  6. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ขอบคุณสำหรับกำลังใจคะ พี่พี่ เขามาให้สร้างบารมีขันติเพิ่มนะคะ

    ต้องขอบคุณพี่ ๆ เขา :)
     
  7. popอาย

    popอาย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +2
    ฮ่าๆๆ คำว่า ดับ มันเป็นภาษาของพระทั่วไป ที่พูดกันแบบง่ายเข้าใจง่าย
    เราเองวันแรกเรียนทำสมาธิกับพระต่างจังหวัดท่านบอกว่า นั่งให้มัน-ดับ-ไปเลยนะ
    บางท่านก็ว่า นั่งให้มัน-หาย-ไปเลยนะ ทุกวันนี้เราเองก็เข้าใจเหมือน จขกท
     
  8. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    ไม่มีความสว่าง ไม่มีดวง ไม่มีนิมิต ไม่มีรูปพรรณสัณฐาน เครื่องหมายใด ๆ อันจะให้รู้ว่าเป็นอะไร อยู่ที่ไหน
     
  9. constantin4115

    constantin4115 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +22
    เห็นด้วยกับท่านหม้อหูงข้าวนะครับ คืออาจจะใช้คำผิดไปนิดนึง ระหว่าง ระงับ กับ ดับสนิท แต่ถ้าดับได้สนิทจริงๆ ก็ขอให้ท่านโปรดจงอโหสิให้แก่ข้าพเจ้าด้วย

    แต่ถึงอย่างไรก็ยังถือว่าทำได้ในขั้นเยี่ยม เพราะคนที่จะทำได้ในลักษณะอย่างนี้ ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มงวดกับตัวเองมาพอสมควร เป็นกำลังใจให้ สู้ต่อไปนะครับ:cool::cool::cool:
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    พึ่งซัด M150 มา มาต่อยอยักษ์กันต่อดีกว่า

    ถามว่า

    เวลาดับ ไม่มีความสว่าง ไม่มีดวง ไม่มีนิมิต ไม่มี รูปพรรณสัณฐาน
    เครื่องหมายใด ๆ อันจะให้รู้ว่าเป็นอะไร อยู่ที่ไหน

    แล้ว สภาพธรรมที่ประเสริฐดังกล่าว ทำให้ กิเลส3 สะเทือนอย่างไร

    ทำให้ อวิชชา อยู่ในสภาพใด ถูกชำระหายไป

    หรือว่า อวิชชา ตามนอน คือ ไม่รู้ว่ามีผลอย่างไรต่ออวิชชา แบะ แบะ
    แบะ แบะ

    ถ้า อวิชชาตามนอนเสียแล้ว การดับ อย่างว่า ถือว่า เป็นคุณ หรือ โทษ

    และ

    ใช่หรือไม่ เมื่อแบะๆ แบะๆ ไม่รู้ประโยชน์อะไรเกิด จึง ต้องหา การทำ
    ประโยชน์อะไรสักอย่างมาไขว้หลอก ตัวเองว่าได้ ทำคุณให้บังเกิด
     
  11. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    แว๊ดขอตอบในความรู้สึกที่ออกมาแล้ว เพราะในขณะที่ดับนั้นมันไม่รู้สึก เปรียบต้องบอกว่าเปรียบนะคะ เพราะจะพูดให้เหมือนเลยไม่ได้ จะเปรียบเหมือนคนหลับตาแล้วลืมตาเลย(ในความรู้สึกเพราะรู้สึกแป๊บเดียวจริง ถ้าพี่ถามว่าขณะนั้นอารมณ์ว่างเปล่าจะรู้สึกได้อย่างไร ตอนนั้นไม่รู้สึก แต่ออกมาแล้วมันมารู้สึกว่าแป๊บเดียว ) แต่ขณะที่หลับตาไปแล้วนั้นไม่ทราบว่าเวลาตรงนั้นมันหายไปนานแค่ไหน

    ส่วนด้านอารมณ์ความรู้สึก ในขณะที่ดับลงไปนั้นอารมณ์มีการว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง ไม่มีอะไรเกาะเกี่ยวแม้แต่น้อยในขณะนั้น โลภะ โมหะ โทสะ (ใช่กิเลส 3 ตัวของพี่อะป่าว) ดับสงบในขณะนั้น (ที่เปรียบตรงนี้เพราะอารมณ์มันว่างเปล่า ไม่ใช่วางเฉย มันคนละอารมณ์ ถ้าพี่ให้เปรียบเทียบกับอะไร แว๊ดคงเปรียบไม่ได้กับอารมณ์ตรงนั้นจริง ๆ )

    รู้สึกตัวแล้ว แม้จะจำได้อารมณ์ว่างเปล่าตรงนั้น จะแปลกใจสงสัยต่าง ๆ นานา เพราะตั้งแต่เกิดมาในชีวิตที่เต็มไปด้วย โลภะ โทสะ โมหะของตนนั้นไม่เคยคุ้นเคย ไม่เคยเจอ กับอารมณ์ว่างเปล่าเช่นนี้เลย

    พอออกมาแล้วตรงนั้นก็จะจำอารมณ์ตรงนั้นได้ อันนี้ความคิดแว๊ดนะ พอเราออกมาแล้ว จำอารมณ์ตรงนั้นได้ เหมือนเขาค่อย ๆ ฟอกเราให้เข้าถึงความดี เราก็ต้องดี เพราะไม่ดีก็เข้าไม่ได้ เหมือนชำระจิตใจนะคะ เปรียบยังงี้่ อธิบายไม่ถูกอะ

    ขอค่าจิ๊กด้วยนะพี่ อิอิ แว๊ดจะไม่ค่อยเข้า ถ้าบอกไม่เข้าจะโกหกอีก จะบอกว่าหาเวลาเข้าได้น้อยแล้ว เพราะงานมาแร๊น กับจะปลีกวิเวกเข้าวัดแล้วคะ ไปร่อนตะแกรง (กิเลส) ชุดใหญ่สักหน่อย อนุโมทนา และขอบคุณสำหรับคำสอนดี ๆ นะคะ และขออโหสิกรรมทั้งหมดด้วยคะ

    ด้วยความเคารพ
     
  12. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    มันมีอารมณ์วางเฉยก่อนจะเข้า แต่จะรู้ตัวทั้งหมด ทั้งหมดคือ ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า รู้ทั้งหมดทั้งอารมณ์ และเวทนา ทั้งหมดนี้พร้อมกัน รู้ แต่ ไม่แต่ง วางเฉยมาก ๆ ซึ่งอันนี้แว๊ดไม่ทราบว่าจะอธิบายอย่างไรดี

    เมื่ออารมณ์วางเฉย จะไม่สนใจว่ายังไงตรงไหน จะสนใจแต่จุดที่ปักจิต กับคำบริกรรม จากนั้นจะหายไปแล้ว หายไปแบบคว้าอะไรไม่ทัน เพราะเขาจะดับไปเลย ไม่มีอะไรให้เรายึดก่อน ส่วนอารมณ์นั้น แว๊ดตอบไปข้างบนแล้วคะ
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    เห้ย ยัง จิ๊ก ไม่สำเร็จเลย ถ้า จิ๊กสะเร็จนะ ไม่มีหรอก วิ่งไปเข้าวัด

    * * * * *

    สังเกตไหม กิเลส3 จะดูตอนไหน งง ไปหมดเลยนะ ดูก่อนเข้าหรือ
    เอ หรือว่าดูระหว่างมืดนอนเนื่อง เอ หรือว่า เขาดูกันตอนออก

    มันงงไปหมดเลยนะ ไม่รู้ว่าจะดูตอนไหน

    ทั้งๆที่ งานคือการ ชำระกิเลส3 แต่ ทว่า ดูตอนไหน ยังไม่รู้เรื่องเลย

    พระพุทธองค์ท่านว่า จิตมีโทษะ ก็รู้ว่ามีโทษะ จิตไม่มีโทษะ ก็รู้ว่าไม่มีโทษะ
    คำของตถาคตท่านว่า จิตมีโลภะ ก็รู้ว่ามีโลภะ จิตไม่มีโลภะ ก็รู้ว่าไม่มีโลภะ
    พระมหาศาสดาท่านว่า จิตมีโมหะ ก็รู้ว่ามีโมหะ จิตไม่มีโมหะ ก็รู้ว่าไม่มีโมหะ

    แล้ว ทิ้งคำสอนของตถาคต ไปหมดเลย ไม่สมาทานไว้ด้วยดี ไม่จดจำคำ
    ของตถาคต ไม่สนใจคำของผู้ฉลาดในมรรค ไปจดจำคำของผู้เดินตามมรรค
    แล้ว.....กิเลส ดูตอนไหน

    ตอนก่อนเข้ามืดๆ ไม่รู้อิโหน่ อิเหน่ มันก็เป็น อดีตไปหมดแล้ว หาก
    ไปเอาเหตุว่า เมื่อวานไม่มี โลภะ โทษะ โมหะ วันนี้ จึงมืดดี ครบ
    แปดด้าน แปดทางครบหมด

    ตอนระหว่างมืด ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ มันก็มืดหมด ไม่รู้เรื่องอะไรเลย จะ
    ยกขึ้นพิจารณาว่ามี โลภะ มีโมหะ มีโทษะ มันก็ยกไม่ได้ หมดหน
    ทางครบทั้ง8ด้าน

    ตอนออกจากสมาธิ ก็ไม่รู้อีก ไม่รู้จะทำอะไร รู้แต่ว่า ต้องส่งจิตออก
    นอกไปยกให้สิ่งภายนอก เอาธรรมไปรองรับสิ่งภายนอก ไม่รู้จักประโยชน์
    อื่นนอกจากส่งจิตออกนอก แล้วมันมืดมามันก็ให้ความมืดไป ไม่มีหรอก
    สว่างมาสว่างไป เห็นตลอด สติสัมปชัญญะมีตลอดที่ได้ชื่อว่าผู้ไม่หลงลืมสติ
    ไม่มี ไม่ปรากฏ

    ก็แน่นอนหละ ลำพังกิเลส3 จะดูอย่างไรตอนไหน ก็ไม่รู้

    ประสาอะไรกับ อวิชชา มันก็ ตามนอนทั้งตอนมืดและสว่างนั้นแหละ

    "ใช่ไหม"

    เน้นนะว่า ถามว่า "ใช่ไหม" ตอนท้าย ดังนั้น มันเป็นคำถามจาก
    คนที่ไม่ได้ปฏิบัติอย่างผม คนที่ปฏิบัติดีแล้วถุกแล้ว ควรตอบได้ ไม่ใช่
    ตอบไม่ได้แล้วมาโทษว่า ผมขโมย ผลจิต ผมไม่เคยทำ

    ก็ไม่เคยทำอย่างแว็ดว่าไง เลย เข้ามาถาม ตอบได้ไหมหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2011
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    เออ บังเอิญ ได้ยินแว็ดพูดว่า ปล่อยให้จิตว่างๆ ไม่หยั่งลงสู่รูปนาม
    แล้วจะบริสุทธิไปเอง อันนี้ ผมก็เลยนึกขึ้นได้ แต่ ไม่ได้บอกว่าเรื่อง
    ที่นึกได้นี่ ไปเล่าอาการของแว็ดนะ เพียงนึกขึ้นได้

    ว่า นั่งให้จิตว่างๆไม่หยั่งลงสู่รูปนาม ทำอย่างนี้เรื่อยๆ 80อสงไขย
    ผู้นั้นจะเข้าถึงนิพพานได้เอง อันนี้ ถือว่าเป็น มิจฉาทิฏฐิ มีเขียน
    ระบุไว้ในตำรา(อีกนั่นแหละ)

    อาศัยอะไรกล่าว

    อาศัยความที่คนไม่รู้กาล ไม่รู้ว่าตนทำกรรมอะไรไว้บ้าง แต่ จิตกลับแล่น
    ไปในอนาคต จึงหมายเอาว่า หากจิตไม่หยั่งลงรูปนาม จะเกิดความเคยชิน
    ในการไม่หยั่งลงสู่รูปนาม ก็จะเข้านิพพานไปด้วยความเคยชินอันนั้นเอง

    ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิก็เพราะว่า ไปปฏิเสธกฏแห่งกรรมเข้าโดยไม่รู้ เพราะจิตหนึ่งๆ
    นั้นเวียนว่ายตายเกิดมานับไม่ถ้วน หาเบื้องต้นไม่ได้ ดังนั้น บาปกรรมย่อมมี
    เยอะมาก และ มันรอให้ผลเสมอ การที่กล่าวว่า หากสร้างความเคยชินให้
    กับจิตไม่ปักลงสู่รูปนาม เดี๋ยวจิตมันก็ไม่หยั่งลงสู่รูปนามเอง ก็เท่ากับมองแต่
    อนาคต ปฏิเสธกรรมในอดีต เห็นว่า กรรมไม่มีผล อย่างหนึ่ง

    เลยถือว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ

    ผมก็มานั่งๆ นึกดู เอ พวกที่ ปิดอยาตนะ ปฏิเสธอยาตนะ ไม่เอา
    หู เอาปาก เอามือ เอาเท้า เอากาย นี่ เขาจะไปเกิดอย่างไร และ
    ภพที่เขาไปเกิดก็ต้องมีฤทธิ์มากเสียด้วย มีอำนาจจิต ก็ เกิดภาพใน
    ใจว่า

    <img src='http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQ9NESc-Ljsh-VZGMYZGn4ka9uP2pLbqIqsd9x6iXJLe9a3NajPEw7ELZr9Cg' width=150>
     
  15. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    งานคือการ ชำระกิเลส3
    มันจี๊ดตรงนี้เลย
    ยักกะโดนเขกกะโหลก
    นึกถึงตอนหลวงพ่อคูณ ฟาดสองสามโป้ก ทั้งเย็นทั้งชุ่ม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 ธันวาคม 2011
  16. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +1,073
    เช่นนั้นแล "สุ จิ ปุ ลิ วินิมุตโต กถัง โส ปํณฑิโต ภเว"
     
  17. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    คุณแว๊ดครับ ปฏิบัติมากี่ปีครับ ถึงเข้าสภาวะดับแบบนี้ได้ครับ
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    คุณแว๊ดครับ จะปฏิบัติไปอีกกี่ปีครับ ถึงจะเห็นว่า มันมีความแปรปรวน
    พึ่งพิงไม่ได้

    เดี๋ยวก็กำหนดว่า 10 นาทีบ้าง 20 นาทีบ้าง 30 นาทีบ้าง 60 นาทีบ้าง
    1 วันบ้าง 2 วันบ้าง ส่วนใหญ่แล้ว กำหนดได้ไม่เกิน 7 วัน หากเกิน7 วัน
    แปลว่า มีโอกาสไม่ได้กลับมาโลกนี้อีกแล้วบ้าง ไม่รู้จะไปเกิดต้่อที่ไหนบ้าง
    เพราะ มันมืด ยังไม่สามารถรู้ได้ว่า จะไม่เกิดอีก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย
    เป็นการกำหนดเข้า ดับ หาย ครั้งสุดท้าย ไม่สามารถบอกได้ หากอบกได้
    ใจมันก็บอกอยู่ว่า เขลา และ ประมาท นัก

    ที่มองไม่ออกในความแปรปรวนของการตั้งนิมิต มองไม่ออกในความแปรปรวน
    ของการอธิษฐาน มองไม่ออกเพราะตัณหา นั่นแหละเป็นตัวกำหนดเวลาว่า
    เท่านั้นเท่านี้ มองไม่ออกว่านิมิตที่ลืมสังเกตก็คือตอนที่มันถอน จึงเผลอเพลิน
    คิดว่าไม่มีนิมิตให้สังเกต

    ดังนั้น ทำอย่างไร

    ก็เข้าต่อไป อธิษฐานต่อไป ดูสิว่า จริงไหมที่มันแปรปรวน เดี๋ยว 10 20 30
    50 60 1440 10080 เอาแน่เอานอนไม่ได้

    เกิดขึ้นได้เพราะการปรุงแต่ง เป็นของปรุงแต่ง เป็นชาติภพซ้อน จึงมี ชรา มี
    มรณะ มีเข้า มีออก เกิดขึ้นเพราะ ตัณหาปักในอุเบกขาเวทนา(อวิชานอนเนื่อง)
    ตามจำนวน 10 20 30 .... 10080 ( เวทนาภาวนา ซึ่ง ไม่มีในเขตอริยวินัยนี้
    ในอริยะวินัยนี้มีแต่ กายภาวนา จิตภาวนา และ ปัญญาภาวนา ไม่มี เวทนาภาวนา
    เด็ดขาด )

    แล้วทำไม จึงดูไม่ออก เพราะ พอใจวิหาร ไม่พอใจใครมาบอกว่าไม่ใช่วิหาร
    ( วิปัสสนานุสติปัฏฐาน )

    สองตัวนี้ผลักดันให้เพียรกำหนด หลงใน 10 20 30 ....10080 หรือ สิ้นภพ
    มนุษย์ไปเลยไม่รู้ไปเกิดที่ไหน มืดสนิท

    เมื่อปฏิบัติเนืองๆ จนใจยอมรับ ถึงความแปรปรวนของนิมิต มันจะเข้าอีกก็เพราะ
    กรรมเคยสะสมไว้ เมื่อนั้นก็จะรู้ว่า ไม่ต้อง ไม่ตั้ง ก็พาไปได้ พาไปเกิดที่ไหน
    ก็ไม่รู้ได้ พ้นสภาพบังคับบัญชา เริ่มเดินไตรลักษณ์ญาณ แยกรูปแยกนาม กูไม่
    เอาแล้วโว้ยย แต่ กำหนดได้ไหม ไม่ได้หรอก

    ก็จะค่อยๆขึ้นวิปัสสนาญาณอุทัพยญาณ ....พึ่งเริ่ม และ ยังต้องดูกันอีกไกล

    เพราะเชื่อได้เลยว่า ตอนนี้ "ไม่ยอมรับ"

    ใครหละไม่ยอมรับ คน หรือ จิต !?

    ยังมี คน หัวโด่อยู่เลย ไหนหละ จิต ที่เป็น ธาตุรู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2011
  19. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ดับ มันเป็นธรรมชาติปกติใน จิต เจตสิก รูป อยู่แล้ว ปัญญาแค่รู้ทันความดับเป็นอารมณ์

    หากพิจาณาดีแล้ว ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป

    ปัญญาในขั้นนี้ น่าจะรู้เลาๆแล้วว่า สิ่งนี้มีสิ่งจึงมี สิ่งนี้ดับสิ่งนี้จึงดับ

    ไม่มีอะไรในความเป็นเรา ของเรา จนเป็นอารมณ์เพื่อพัฒนาปัญญาไถ่ถอนความเห็นเห็นผิดไปอีกระดับ

    แต่ถ้านั่งหลับตารอ นิ่ง ดิ่ง ตัด ดับ แล้วเข้าใจว่าเป็นสติปัฏฐาน วิปัสนา สมาบัติ ฯลฯ

    ก็จะถามคำถามเดิม

    " นั่งหลับตา เป็นปัญญาอะไร "

    " เห็นแสง เห็นนิมิต เป็นปัญญาอะไร "

    " เงียบสนิท ไม่รู้โลกภายนอก เป็นปัญญาอะไร "

    " ภาวะเลยปัญญา สู่ความแนบสนิท จนดิ่ง ตัด ดับ เป็นปัญญาอะไร "
     
  20. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    อนุโมทนาครับ...

    ทำความดีไม่ต้องหวั่นไหว มีเจตนาดียิ่งน่าชื่นชม...
     

แชร์หน้านี้

Loading...