หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทุเรียนทอด, 16 พฤษภาคม 2011.

  1. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    อ้าว... นึกว่าไม่เป็นไร แล้วมาเล่าทำไมเนี่ย... :boo:
    นี่ก็เป็นอีกตัวอย่าง แสดงให้เห็นว่า หากไม่ได้ใส่วัตถุมงคลแล้วจะเป็นอย่างนี้แหละครับท่านผู้อ่านทุกท่าน..
     
  2. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    เขื่อนภูมิพล

    ที่นี่ทิวทัศน์สวยงามครับ ยิ่งใหญ่ อลังการด้วยธรรมชาติ และสันเขื่อน ระดับน้ำในเขื่อนยังอยู่ในเกณฑ์สูงครับ แต่ก็ได้ระบายออกไปอย่างช้าๆครับ เพื่อให้น้ำที่ไหลผ่านไปยังพื้นที่ต่างๆนั้นสัมพันธ์กัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    วัดพระบรมธาตุบ้านตาก
    อ.บ้านตาก จ.ตาก

    วัดพระบรมธาตุบ้านตาก อยู่ที่ ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง เดิมวัดแห่งนี้เป็นเมืองตากเก่า
    ก่อนที่จะมีการย้ายตัวเมืองไปอยู่ที่ ต.ระแหง ตัวเมืองตากในปัจจุบัน ห่างไปทางทิศใต้ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร อันมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัย พระนางจามเทวี ล่องเรือเสด็จไปเมืองลำพูน หยุดพักบริเวณแห่งนี้ พบว่าเป็นเมืองร้าง จึงได้สั่งให้มีการฟื้นฟูบูรณะเมืองแห่งนี้ จนกลายเป็นชุมชนเมืองตาก

    ตามตำนานพระเจ้าเลียบโลก ซึ่งเขียนเป็นภาษาเหนือ กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดสัตว์ล่องมาตามลำน้ำปิง พระองค์ได้เสด็จมายัง ดอยมะหิยังกะ ในเขตตัวเมืองตาก ตรัสกับพระอานนท์ว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่สำราญ ร่มรื่น หากเราตถาคตปรินิพพานแล้วให้นำอัฐิและเกศากลับมายังดอยมะหิยังกะ

    ภายหลังจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน พระอรหันต์ทั้ง ๔ ได้นำพระบรมสาริกธาตุของพระองค์ พร้อมด้วยเกศาอีก ๔ องค์ มาประดิษฐานยังดอยมะหิยังกะ แล้วก่อเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมแล้ว นำพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในพระเจดีย์ เพื่อเป็นที่สักการบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย

    ต่อมา พระครูพิทักษ์พระบรมธาตุ (ทองอยู่) ได้ไปนมัสการพระธาตุชเวดากอง ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ท่านจึงได้จำมาก่อสร้างองค์พระเจดีย์แห่งนี้ จำลองได้เหมือนกับเจดีย์ชเวดากอง ครอบคลุมองค์เก่าไว้ ลงรักปิดทองอย่างสวยงาม..
    และเชื่อกันว่า พระบรมธาตุเจดีย์แห่งนี้ ยังจัดเป็นพระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์หนึ่งใน พระบรมธาตุเจดีย์ 12 นักษัตริย์ โดยจัดเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีมะเมีย ที่มีผู้นิยมมากราบไหว้บูชา
    วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ยังปรากฏในศิลาจารึของพ่อขุนรามคำแหง ที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ชนะศึกเจ้าเมืองฉอด บนเนินเขาใกล้กับพระบรมธาตุ ประมาณ ๕๐๐ เมตร..


    หลวงพ่อทันใจ
    วัดพระบรมธาตุบ้านตาก

    " ตะกุตะกะ จายาริโย เอวัง วันตา อะหัง วันทามิ สัพพะทา "
    บทสวดนมัสการ หลวงพ่อทันใจ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก
    ที่สาธุชนผู้เลื่อมใสศรัทธา มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ขององค์หลวงพ่อทันใจ ว่าขอสิ่งใด ล้วนแต่ได้สมดังใจปรารถนาทุกประการ

    พระครูพิทักษ์บรมธาตุ (พาน) เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุบ้านตาก กล่าวถึงประวัติของหลวงพ่อทันใจ วัดพระบรมธาตุบ้านตาก ว่า ตั้งแต่สมัยที่ท่านเป็นพระลูกวัด พระครูบาตา อดีตเจ้าอาวาสองค์ก่อน ได้ปรึกษากับศรัทธาญาติโยมว่า มีความประสงค์จะสร้างพระพุทธรูปขึ้นสัก ๑ องค์ และศรัทธาญาติโยมได้พร้อมใจร่วมกันนุ่งขาว ห่มขาว เริ่มก่อพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ปางมารวิชัย หน้าตัก ๓๒ นิ้ว และลงรักปิดทองคำเปลว ก่อนประกอบพิธีพุทธาภิเษก ๑ วัน กับ ๑ คืน เสร็จพอดี

    โดยคณะศรัทธาได้ตั้งชื่อว่า " พระเจ้าทันใจ " เพราะทำเสร็จเร็วทันใจ ต่อมามีญาติโยมได้มาตั้งจิตอธิษฐาน ขออะไรก็ได้สมความปรารถนา ทุกสิ่งทุกประการ นับเวลาจนปัจจุบันประมาณ ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว

    โดยเครื่องบูชาหลวงพ่อทันใจ จะเป็นกล้วย ส้ม ผลไม้ตามฤดูกาล
    ส่วนของไหว้ประเภทเนื้อสัตว์ทุกชนิด ห้ามนำเข้ามาถวาย
    และห้ามนำเข้าเขตพัทธสีมาอย่างเด็ดขาด ยกเว้นไข่ต้มสุกอย่างเดียว

    ส่วนการเสี่ยงทายความสำเร็จ มีช้างเสี่ยงทาย ใช้นิ้วก้อยยกสำหรับผู้ชาย และนิ้วนางสำหรับผู้หญิง ทำนายดวงชะตา หากสำเร็จครั้งแรกขอให้ยกขึ้นทันที และอธิษฐานยกใหม่อีกครั้ง ขอให้ยกไม่ขึ้น หากคำทำนายดีสำเร็จดังหมาย ซึ่งก็สมปรารถนาดังใจทุกประการ..


    หนังสือไหว้พระประธาน ๗๖ จังหวัด
    กองบรรณาธิการข่าวสด สำนักพิมพ์มติชน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2011
  4. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง)
    คณะของเราได้ไปกราบนมัสการ ท่านครูบากฤษดา ท่านเมตตาต่อทุกคนมากๆ บางคนในคณะที่ไปด้วยกัน ไม่เคยเจอท่านครูบามาก่อนเลย พอได้กราบท่านแล้ว กลับออกมายังบอกเลยว่า ท่านครูบาเมตตามากๆ ดูท่านสงบมาก เป็นพระที่มีลักษณะดีมากน่านับถือ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2011
  5. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,805
    คุณ X เคยเห็นที่มาของชื่อวัดสันพระเจ้าแดงมั้ยครับ

    เดี๋ยวสายๆ เอาลงให้ชมครับ พอดีรูปอยู่อีกเครื่องครับ โชคดีได้เห็นเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2011
  6. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    พระธาตุ ลำปางหลวง

    วัดพระธาตุลำปางหลวง โบราณสถานสำคัญของจังหวัดลำปาง ตั้งอยู่ในเขตตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ ๑๘ กิโลเมตร ตัววัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผัง และส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บริเวณพุทธาวาสประกอบด้วย องค์พระธาตุลำปางหลวง เป็นประธาน มีบันไดนาคนำขึ้นไปสู่ซุ้มประตูโขง ถัดซุ้มประตูโขงขึ้นไปเป็น วิหารหลวง บริเวณทิศเหนือขององค์พระธาตุมีวิหารบริวารตั้งอยู่คือ วิหารน้ำแต้ม และ วิหารต้นแก้ว ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุประกอบด้วย วิหารละโว้ และ หอพระพุทธบาท ด้านใต้มี วิหารพระพุทธ และ อุโบสถ ทั้งหมดนี้จะแวดล้อมด้วยแนวกำแพงแก้วทั้งสี่ด้าน นอกกำแพงแก้วด้านใต้มีประตูที่จะนำไปสู่เขตสังฆาวาส ซึ่งประกอบด้วยอาคาร หอพระไตรปิฎก กุฏิประดิษฐาน พระแก้วดอนเต้า อาคารพิพิธภัณฑ์และกุฏิสงฆ์
    ประวัติพระธาตุลำปางหลวง ตามตำนานกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระเถระสามองค์ได้เสด็จจาริกไปตามบ้านเมืองต่าง ๆ จนถึงบ้านสัมภะการีวัน (บ้านลำปางหลวง) พระพุทธเจ้าได้ประทับเหนือดอยม่อนน้อย มีชาวลัวะคนหนึ่งชื่อ ลัวะอ้ายกอน เกิดความเลื่อมใส ได้นำน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้างมะพร้าว และมะตูมมาถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ฉันน้ำผึ้งแล้วทิ้งกระบอกไม้ป้างไปทางทิศเหนือ แล้วทรงพยากรณ์ว่า สถานที่แห่งนี้ต่อไปจะมีชื่อว่าลัมพกัปปะนคร แล้วได้ทรงลูบพระเศียรได้พระเกศามาหนึ่งเส้น มอบให้แก่ลัวะอ้ายกอน ลัวะอ้ายกอนได้นำพระเกศานั้น บรรจุในผอบทองคำ และใส่ลงในอุโมงค์พร้อมกับถวายแก้วแหวนเงินทองเป็นเครื่องบูชา แล้วแต่งยนต์ผัด (ยนต์หมุน) รักษาไว้ และถมดินให้เรียบเสมอกัน แล้วก่อเป็นพระเจดีย์สูงเจ็ดศอกเหนืออุโมงค์นั้น ในสมัยต่อมาก็ได้มีกษัตริย์อีกหลายพระองค์ มาก่อสร้างและบูรณซ่อมแซม จนกระทั่งเป็นวัดที่มีความงามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

    วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นโบราณสถานสำคัญ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณซากเมืองโบราณลัมพกัปปะนคร ตามประวัติพระนางจามเทวีเคยเสด็จมานมัสการ และทำการบูรณะซ่อมแซมอยู่เสมอ นับว่าเป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล มีความสวยงาม และมีความยอดเยี่ยมทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรม เป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วมรกต ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวลำปาง และชาวพุทธทั่วไป
    อีกทั้งพระบรมธาตุเจดีย์แห่งนี้ ยังจัดเป็นพระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์หนึ่งใน พระบรมธาตุเจดีย์ 12 นักษัตริย์ โดยจัดเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ประจำปีฉลู(วัว) ที่มีผู้นิยมมากราบไหว้บูชา


    องค์พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ล้านนาผสมเจดีย์ทรงลังกา ก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมด้วยบัวมาลัยสามชั้น เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่หุ้มด้วยแผ่นทองเหลือง ฉลุลายหรือที่เรียกว่าทองจังโก ตามตำนานกล่าวว่าเป็นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

    สถานที่แห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีบรรยากาศแห่งมนต์ขลังทำให้เราได้รู้สึก ถึงความเจริญรุ่งเรืองและความศรัทธาของผู้คนในสมัยก่อน ผมอยากให้ทุกท่านได้มาเยี่ยมชม และสัมผัสเอาเอง เพราะในวัดนี้มีสิ่ง สถาปัตยกรรมเก่าแก่ และพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุที่หาชมได้ยาก ให้ได้ศึกษากัน รวมถึงสิ่งอัศจรรย์ที่หอพระพุทธบาท..

    สิ่งอัศจรรย์ที่หอพระพุทธบาท.. ภาพปริศนาที่คงอยู่คู่เมืองลำปางมาเนิ่นนานแต่ครั้งบรรพกาล ภูมิปัญญาของสล่าล้านนาซึ่งค้นหาความอลังการผ่านพบจากช่องประตูเพียงรูเท่านิ้วมือผ่านได้ มลังเมลืองอยู่ในความมืดทาบทาให้เห็นเป็นภาพเสมือนจริง ใครจะเชื่อว่า บนฉากผ้าขาวเพียงผืนเดียวจะมีภาพพระธาตุหัวกลับปรากฏให้เห็นได้ภายในวิหารอันมืดมิด แต่ไม่อนุญาติให้ผู้หญิงขึ้น
    ที่ไม่อนุญาติให้ผู้หญิงขึ้น เพราะว่ารอยพระพุทธบาทองค์จริงที่พระพุทธเจ้าทรงประทับไว้อยู่ข้างล่าง มีการนำแผนทองคำปิดทาบไว้ และได้สร้างหอพระพุทธบาทและพระพุทธบาทจำลองครอบไว้ ถ้าขึ้นไปบนหอเราก็จะยืนทับหรือคล่อมรอยพระพุทธบาทที่อยู่ข้างล่าง ซึ่งชาวเหนือหรือชาวล้านนาถือกันมาก (คนท้องถิ่นที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะผู้เถ้าผู้แก่ จ้างให้ขึ้นยังไม่ยอมขึ้นเลยครับ) แต่ก็ยังมีเงาพระธาตุในวิหารพระพุทธอีกที่หนึ่งที่ผู้หญิงก็ดูได้ครับสวยไม่แพ้กัน(เงาพระธาตุที่วัดนี้มี ๒ ที่)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2011
  7. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    พระพุทธบาทสี่รอย
    ต.แม่สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่


    ตำนานพระพุทธบาทสี่รอย
    เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ได้เสด็จจารึกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจัยตะประเทศ (ประเทศไทยในปัจจุบัน)จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศ ชื่อเขา เวภารบรรพต

    ซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์ และได้แวะฉันจังหันอยู่บนเขา เวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จ ขณะประทับอยู่ที่นั้น ก็ได้ทราบด้วยญาณสมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ ได้มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้ แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระพุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ , พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ , พระพุทธเจ้ากัสสปะ

    อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลาย มีพระสารีบุตรเป็นประธานเมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่า พระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด

    พระพุทธองค์จึงตรัสตอบว่า ดู ก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ทุกๆ พระองค์ และ แม้นว่าพระศรีอริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ และจักประทับรอยพระบาท 4 รอยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว ( คือประทับลบรอยทั้ง 4 ให้เหลือรอยเดียว )

    เมื่อพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลาย เสร็จแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ จึงเกิดเป็นพระพุทธบาท 4 รอย

    เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์นั้นแล้วก็ทรงอธิษฐานว่า

    ในเมื่อ (เรา) ตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็จักนำเอาพระธาตุของตถาคต มาบรรจุไว้ที่รอยพระพุทธบาทที่นี่ ในเมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว 2000 ปี พระพุทธบาท 4 รอยนี้ก็จักปรากฏแก่ปวงชนและเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มาไหว้และบูชา

    เมื่อทรงอธิษฐานและทำนายไว้ดังนี้แล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จไปเชตุวันอารามอัน มีในเมืองสาวัตถีนั้นแล เมื่อพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้วเทวดาทั้งหลายก็นำเอาพระธาตุของพระพุทธองค์มา บรรจุไว้ที่พระพุทธบาท 4 รอยเมื่อพระพุทธองค์นิพพานล่วงมาแล้วประมาณ 2000 วัสสา

    เทวดาทั้งหลายต้องการอยากให้พระพุทธบาท 4 รอย ปรากฏแก่คนทั้งหลายตามที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานไว้ ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้งตัวใหญ่ (เหยี่ยว) ก็บินลงจากภูเขาเวภารบรรพต อันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้เพื่อบินลงไปเอาลูกไก่ของ ชาวบ้าน ( คนป่า ) ที่อยู่ตีนเขาเวภารบรรพต แล้วก็บินกลับขึ้นไปสู่ยอดเขา มันก็โกรธมากจึงตามขึ้นไปคิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็คิดตามไปค้นหาดู แต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้น แต่เห็นรอยพระพุทธบาท 4 รอยอันอยู่พื้นต้นไม้และเถาวัลย์

    พรานป่าผู้นั้นก็ทำการสักการะบูชาเสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา พอมาถึงหมู่บ้านก้เล่าบอกแก่ชาวบ้านทั้งหลายฟัง ข้อความอันนั้นก็ปรากฏสืบๆ กันไปแรกแต่นั้น คนทั้งหลายที่ทราบก็พากันไปสักการะบูชามาก แต่นั้นมาจึงได้ชื่อว่าพระบาทรังรุ้ง (รังเหยี่ยว)

    ในสมัยนั้นมีพระยาคนหนึ่งชื่อว่า พระยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจึงมีพระราชศรัทธาอยากเสด็จขึ้นไปกราบบูชาพระพุทธบาท 4 รอย ก็นำเอาราชเทวีและเสนาพร้อมกับบริวารทั้งหลาย เมื่อพระยาเม็งรายกราบนมัสการเสร็จแล้ว ก็นำเอาบริวารของตนกลับสู่งเมืองเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่เสวยราชสมบัติตราบเมี้ยนอายุขัย แล้วลูกหลายที่สืบราชสมบัติก็เจริญรอยตามและได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาท 4 รอย ทุกๆ พระองค์

    หลังจากนั้นมาพระบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวนี้ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น พระพุทธบาทสี่รอย เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึง4 รอย มาในสมัยยุคหลังคนทั้งหลายจึงเรียกขานกันว่าพระพุทธบาทสี่รอย คือมี

    รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในภัทรกัลป์นี้ คือ

    1 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรก เป็นรอยใหญ่ยาว 12 ศอก

    2 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ 2 ยาว 9 ศอก

    3 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะ เป็นรอยที่ 3 ยาว 9 ศอก

    4 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ (ศาสนาปัจจุบันนี้) เป็นรอยที่ 4 รอยเล็กสุดยาว 4 ศอก


    พระพุทธบาทสี่รอยนี้ ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ที่ได้มากราบนมัสการแล้ว กล่าวกันว่าที่นี่เป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล มีพลังสถิตอย่างมากมายมหาศาลกว่าที่ใดๆในโลก เพราะมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ประทับไว้อยู่ หากผู้ใดได้เกิดมาในชาตินี้ สมควรมากราบนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตน เสมือนการมารับพลังแห่งพุทธะบารมี เพื่อเป็นปัจจัยแก่มรรคผลนิพพานต่อไป..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    วัดร่องขุ่น
    ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย

    วัดร่องขุ่น เป็นวัดที่มีความสวยงามโดดเด่นต่างจากวัดอื่นๆ ด้วยฝีมือการออกแบบ และก่อสร้างของ อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดังรัดับโลก เพื่อเป็นวัดประจำบ้านเกิด สร้างโดยจินตนาการของอาจารย์ จัดเป็นงานพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ และงดงามน่าแวะชมมากแห่งหนึ่ง
    อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มีแรงบันดาลใจในการสร้างวัดแห่งนี้อยู่ 3 ประการ คือ เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งอาจารย์บอกว่า
    จึงตั้งความปรารถนาที่จะถวายชีวิต ใช้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตนเอง สร้างงานพุทธศิลป์ เพื่อเป็นงานประจำรัชกาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ได้ และจะถวายชีวิตไปจนตายคาวัด" (จากเอกสารของวัดร่องขุ่น) ความงดงามของวัดแห่งนี้อยู่ที่ "โบสถ์" เพราะอาจารย์อยากจะเนรมิตวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ เป็นวิมานบนดินที่มนุษย์สามารถสัมผัสได้ โบสถ์ เปรียบเหมือนบ้านของพระพุทธเจ้า สีขาว แทนพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า กระจกขาว หมายถึง พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์ และจักรวาล
    สะพาน หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ก่อนขึ้นสะพานครึ่งวงกลมเล็ก หมายถึง โลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู หมายถึง กิเลสในใจแทนขุมนรกคือทุกข์ ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านขึ้นไปพบกับพระราหูอยู่เบื้องซ้าย และพญามัจจุราชอยู่เบื้องขวา บนสันของสะพานจะประกอบไปด้วยอสูรกลืนกัน 16 ตน ข้างละ 8 ตน หมายถึง อุปกิเลส 16 จากนั้นก็จะถึงกึ่งกลางสะพานหมายถึง เขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นที่อยู่ของเทวดา ด้านล่างเป็นสระน้ำหมายถึง สีทันดรมหาสมุทร มีสวรรค์ตั้งอยู่ด้วยกัน 6 ชั้นด้วยกัน ผ่านสวรรค์ 6 เดินลงไปสู่พรหม 16 ชั้น แทนด้วยดอกบัวทิพย์ 16 ดอกรอบพระอุโบสถ ดอกที่ใหญ่สุด 4 ดอก ตรงทางขึ้นด้านข้างโบสถ์หมายถึง ซุ้มพระอริยเจ้า 4 พระองค์ ประกอบด้วยพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ เป็นสงฆ์สาวกที่ควรกราบไหว้บูชา
    ก่อนขึ้นบันได ครึ่งวงกลมหมายถึง โลกุตตรปัญญา บันไดทางขึ้น 3 ขั้นแทน อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา ผ่านแล้วจึ้งขึ้นไปสู่อรูปพรหม 4 แทนด้วยดอกบัวทิพย์ 4 ดอกและบานประตู 4 บาน บานสุดท้ายเป็นกระจกสามเหลี่ยมแทนความว่าง ซึ่งหมายถึงความหลุดพ้น แล้วจึงก้าวข้ามธรณีประตูเข้าสู่พุทธภูมิ
    ภายในประกอบด้วยภาพเขียนโทนสีทองทั้งหมด ผนัง 4 ด้าน เพดานและพื้นล้วนเป็นภาพเขียนที่แสดงถึงการหลุดพ้นจากกิเลสมาร มุ่งเข้าสู่โลกุตตรธรรม ส่วนบนของหลังคาโบสถ์ ได้นำหลักการของการปฏิบัติจิต 3 ข้อ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นำไปสู่ความว่างคือความหลุดพ้นนั่นเอง
    นี่เป็นเพียงรายละเอียดคร่าวๆ ของโบสถ์ของวัดร่องขุ่น ส่วนรายละเอียดจริงๆ นั้น อาจารย์บอกว่าจะสร้างทั้งหมด 9 หลัง แต่ละหลังมีความหมายเป็นคติธรรมทุกหลัง ผมหวังจะสร้างงานพุทธศิลป์ของแผ่นดินให้ยิ่งใหญ่อลังการ เพื่อให้คนทั้งโลกยอมรับ และปรารถนาจะมาชื่นชมให้ได้ จะถวายชีวิตสร้างจนลมหายใจสุดท้าย และได้สร้างลูกศิษย์รอรับช่วงต่ออีก 2 รุ่น หลังผมตาย คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ทั้ง 9 หลัง คงใช้เวลาทั้งหมด 60-70 ปีครับ"
    นอกจากจะชมความงดงามของพระอุโบสถแล้ว ยังสามารถเข้าชมผลงานของอาจารย์ และเลือกซื้อของที่ระลึกจากวัดร่องขุ่นได้อีกด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981

    ยังไม่เคยเห็นครับ รู้แต่ว่า วัดนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองอยู่องค์หนึ่ง ชื่อว่า พระเจ้าแดง ครับ

    รบกวนท่านเอท ลงรูปให้ชมด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  10. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,805
    [​IMG]

    เป็นรูปที่ถ่ายเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาครับ เห็นชาวบ้านกำลังสรงน้ำอยู่แล้วกำลังจะเก็บองค์พระ เพราะ 1 ปีจะเอาออกมาแค่ 1 ครั้ง ญาติของแฟน ก็เลยขออนุญาตให้พวกผมสรงน้ำท่านก่อน ก็เลยมีบุญได้เห็นและได้ทันสรงน้ำท่านครับ แล้วเอาน้ำที่สรงมาลูบหน้าปะหัวผมและครอบครัวครับ เห็นญาติและทางกรรมการวัดบอกว่าจะไดเห็นเป็นปีสุดท้ายแล้ว เพราะปีหน้าจะนำไปบรรจุในพระนอนที่ ทางวัดสร้างครับ
    ส่วนชื่อวัด "สันพระเจ้าแดง" ขออนุญาตเล่าตามที่พอมีข้อมูลนะครับ เดิมทีชื่อวัดป่ายาง แล้วมีการขุดพบองค์พระเจ้าแดง บริเวณเนิน (ไม่แน่ใจว่าจุดไหนในหมู่บ้านครับ) ก็เลยตั้งชื่อ ว่า สันพระเจ้าแดง ครับ ชาวบ้านนับถือมากเพราะท่านศักดิ์สิทธิ์ ส่วนจะเรื่องไหนนั้น ต้องขอไปหาข้อมูลจากญาติๆ ของแฟนที่อยู่ในหมู่บ้านก่อนครับ ได้ยังไงจะมาเล่าให้ฟัง

    [​IMG]

    รูปนี้เป็นรูปตอนที่เอาเหล็กน้ำพี้ไปให้ท่านครูบาอธิฐานจิตให้ครับ รวมถึงขอเมตตาจารแผ่นโลหะเพื่อร่วมสร้างเหรียญพระศรีอริยเมตไตร-หลวงปู่ทวด ร่วมกับพี่ Noo norway
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ
     
  12. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,566
    ค่าพลัง:
    +30,871
    หวัดดีท่านเจ้าบ้านและสมาชิกทุกท่านครับ
     
  13. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981


    ขอบคุณท่านเอท ที่ให้ข้อมูลครับ สาธุ :cool:


    [​IMG] แต่รู้สึกว่าองค์นี้น่าจะเป็นพระปัจเจกโพธิ์มากกว่านะครับท่าน รู้สึกว่าจะขุดได้พร้อมๆกับพระเจ้าแดงหรือไงนี่แหละครับ.. ยังไงข้อมูลผมยังไม่แน่นพอ ผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยครับ.. แหะๆ



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2011
  14. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981
    พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก

    พระรุ่นนี้ ตามประวัติ องค์หลวงปู่ได้ดำหริสร้างเอง โดยมีลูกศิษย์ฆราวาสผู้ปฏิบัติธรรม และลูกศิษยุคนั้นย์เป็นผู้แกะบล็อคมาถวาย มีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ ฯลฯ ฝีมือการแกะเรียบง่ายแบบช่างชาวบ้าน
    สร้างจากผงที่องค์หลวงปู่ปรุงผสมขึ้นเอง โดยการกดพิมพ์กับมือ.. พระที่สร้างขึ้นนี้มีหลายเนื้อ ทั้งเนื้อผง ดินผสมผง ดินเผา ฯลฯ ระยะเวลาการสร้างไล่เลี่ยกัน ประมาณ พ.ศ.2520 ขึ้นไป จำนวนการสร้างประมาณหลักพัน พระทั้งหมดอธิษฐานจิตเดี่ยวนานหลายปีมาก

    ส่วนองค์ที่นำรูปมาให้ชมนี้เป็นพิมพ์รูปเหมือนพิมพ์สามเหลี่ยม(แบบมีเม็ดประคำ) องค์นี้พิเศษ สร้างจากผงมวลสารต่างๆผสมผงดิน เนื้อหาออกหยาบ ร่วนๆ เห็นมวลสารต่างๆ และเกศาชัดเจนมาก

    พอดีผมเพิ่งได้มาสมดังใจปรารถนาโดยบังเอิญ จึงลงเอาไว้เป็นวิทยาทานเพื่อให้ศึกษากันครับ..



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2013
  15. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +1,174
    ยินดีกับคุณทุเรียนทอดด้วยครับ
    หลวงปู่มาโปรดอีกแล้ว
    พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก เนื้อผงและมวลสาร น่าสนใจน่าศึกษามากๆ ครับ
    ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันครับ
     
  16. ทุเรียนทอด

    ทุเรียนทอด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,329
    ค่าพลัง:
    +57,981



    พระชุดนี้เป็นยอดปรารถนาของลูกศิษย์ทุกคนครับ เพราะเป็นสิ่งที่องค์หลวงปู่ท่านสร้างด้วยมือของท่านเองอย่างแท้จริง (บางองค์มีจารอักขระด้านหลังด้วย) จึงเป็นของที่มีคุณค่าทางใจมาก ถึงจะไม่สวย จะแตกจะบิ่นอย่างไรก็ยังน่าใช้เหมือนกัน น่าเก็บเหมือนกัน หายากสุดๆครับ :cool:


    [​IMG][​IMG] [​IMG][​IMG] [​IMG][​IMG]
     
  17. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ยินดีกับคุณทุเรียนทอดด้วยนะครับ กับพระของหลวงปู่ที่หายากแบบนี้:cool:
     
  18. oun19

    oun19 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +30
    พระเจ้าแดง(พระปัจเจกโพธิ)คือองค์ต้นแบบพระผงปัจเจกสีเขียวของหลวงปู่พิสดูครับ

    เพิ่มเติมข้อมูลสักนิดน่ะครับ เกี่ยวพระผงสีเขียวปัจเจกโพธิของหลวงปู่พิสดู ต้นแบบ คือ พระเจ้าแดง ของ วัดครูบากฤษดา ครับ พระทำออกมาสองชุด ถวายวัดสันพระเจ้าแดงชุดหนึ่ง แต่ของครูบาท่านมีชื่อและยันต์ติดอยู่ มีหลายสี ส่วนที่นำมาถวายหลวงปู่หลังเรียบมีสีเขียวสีเดียวครับ รุ่นนี้ เป็นรุ่นดังอีกรุ่นหนึ่งครับของหลวงปู่พิสดู มีประสบการณ์มากๆเลยทีเดียวครับ ส่วนทางวัดสันพระเจ้าแดงนั้นแจกไปเกือบหมดแล้วครับ เห็นว่าที่วัดสันพระเจ้าแดงเหลือแต่สีดำใบลานสวยงามมากๆครับ ครูบาท่านเก็บไว้อยู่ถ้าใครมีโอกาสขึ้นไปก็ขอท่านได้ครับ ส่วนสีอื่นๆแจกหมดแล้ว เรื่องประสบการณ์ต่างๆนั้น เป็นที่ยอมรับครับ มากมายทีเดียว พระเจ้าแดงองค์นี้ถือเป็นพระเก่าแก่คู่วัดมานานเลยทีเดียวครับ จริงๆ พระเจ้าแดงคือองค์นี้ครับ น้อยๆคนมากๆที่จะรู้ ส่วนมากทุกๆคนเข้าในผิดว่าองค์ใหญ่ ครับ ดูแล้วน่าจะเป็นอุบายของคนโบราณน่ะครับ ไว้ให้โจรทั้งหลายเข้าในผิดน่ะครับ
     
  19. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,805

    ตอนที่ได้คุยกับกรรมการวัด ก็ได้รู้วิธีเก็บรักษาองค์พระเจ้าแดงครับ ว่ามีการเวียนกันเก็บของกรรมการวัด เวียนกันไปแต่ไม่รู้ว่ากี่คน และต่อคนนานเท่าไร ผมก็ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่ครับ แหะๆๆ....... ไม่ได้เก็บไว้ที่วัด แต่กรรมการวัดเก็บรักษาตามที่บอกอ่ะครับ......

    ท่าน X ครับชุดที่มอบให้กับวัดสันพระเจ้าแดง หลวงปู่ได้อธิฐานจิตแล้วใช่มั้ยครับ....... ถ้าที่วัดยังพอมี สงสัยต้องโทรบอกคุณพ่อตา ให้เข้าไปลองถามดูแล้วล่ะครับ อิอิอิ......
     
  20. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,566
    ค่าพลัง:
    +30,871
    หวัดดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ ไม่เจอเลยครับพระเนื้อผงรุ่นแรกของหลวงปู่ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...