ขอถามเกี่ยวกับผู้ปรารถนาในพุทธภูมิ

ผู้ที่ปรารถนาในพุทธภูมินั้นเป็นความจริงหรือไม่ที่จะต้องผ่านการเกิดในทุกภูมิที่มีทั้งนรก เดียรัจฉาน มนุษย์ เป็นต้น หรือว่าการที่ท่านเหล่านั้นจะได้เกิดในภพภูมิใดระหว่างที่บำเพ็ญเพียรนั้น ขึ้นอยู่กับกรรมที่ตนเองทำทั้งหมด ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ไม่มีกฎเกณฑ์ใดเป็นพิเศษ
ขอบคุณครับ

 

http://palungjit.org/threads/สวดป้องกันน้ำท่วม.308168/

 

การปราถนาพุทธภูมิ ประเด็นไม่ใช่การทำให้มีบุญมาก ๆ อันนี้เป็นส่วนประกอบ
ระยะเวลา ก็ไม่ใช่ตัวแปรหลัก
ตัวแปรหลักอยู่ที่ กระทำแล้ว ให้เกิดแล้ว ซึ่งคุณธรรมให้สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนสุดท้ายเกิดโพธิญาณ เกิดพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ
หากว่าไม่ได้กระทำการปรากฏคุณธรรมอันสูงที่สุดแล้ว การช่วยเหลือสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริงไม่มี

ขีดสูงสุดของปุถุชนที่เคยปรากฏแล้ว คือ ปัญญาธิกะโพธิสัตว์ ที่สามารถทำคุณธรรมต่าง ๆ อย่างที่สุดได้ จนเกิดพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ แก่สัตว์โลก

ส่วนเรื่องมหาโพธิสัตว์ อภิมาหาโพธิสัตว์ต่าง ๆ อะไรนั้น แต่งเติมทั้งนั้นครับ มันไม่มีอยู่จริงด้วยเหตุผลดังกล่าว

 

ครับผม
ตามประโยควรรคหลังสีแดงนะครับ และในชาดกพุทธประวัติก็เขียนไว้แบบนั้น

 

เกิดมาก็เพื่อเรียนรู้ เป็นพุทธภูมิ ก็ไอ้คนธรรมดานี่หละ ไม่ได้ต่างอะไรออกไป ค่อยๆเรียนรู้ ค่อยๆหาความจริง พบความจริงเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น

 

ในเส้นทางโพธิญาณ ส่วนมากไม่ได้เป็นอยู่สองอย่าง คือพระพุทธเจ้า กับพระอรหันต์ นอกนั้น ล้วนต้องผ่านมาหมดแล้ว

 

ถ้าคุณหมายถึง.......

ถ้าคุณหมายถึงว่า........ ต้องการจะเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคต นั้น ขอตอบตามปัญญาที่โง่เขลาว่า

- จะเกิดภพภูมิใดมาก่อนนั้น สุดแล้วแต่ กรรมที่กระทำ แต่.........หากในภพภูมิใด ก้อตามที่ท่านได้ อธิษฐานจิต ว่า.......... ขอเป็น พระพุทธเจ้า
ในอนาคตกาล จิตของท่านตั้งมั่นจริง ท่านก้อจะประพฤติ แต่กรรมดี และนั่นแหละครับ คือ คำตอบว่า จะเกิดใน นรกภูมิได้ไหม ไม่ได้ครับ หากท่านตั้งจิตแล้ว ทำแล้ว เพียรแล้ว อย่างต่อเนื่อง ท่านจะทำชั่วไหม ท่านจะตกนรกได้ไง

- เมื่อ ท่าน ตั้งจิตแล้ว อธิษฐานแล้ว ทำแล้ว เพียรแล้ว อย่างต่อเนื่อง ไม่ขาด ท่านย่อมเกิดในภพภูมิที่ดี แต่........

" ผู้ที่จะเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคตกาลได้นั้น ต้องได้รับการพยากรณ์จาก พระพุทธเจ้า พระองค์ใด พระองค์หนึ่งเสียก่อนครับ " นั่นก็เหมือนถึงว่า.....

ท่านจะต้องได้มีวาสนา ได้เกิดมาใน ยุคเดียวและเวลาเดียวกับที่ได้เกิดมี พระพุทธเจ้า ในกาลนั้น และได้พบพาน ได้รับการพยากรณ์ เฉพาะหน้าพระพักตร์ ครับ

- และที่สำคัญ คือ ไม่เคยมี พระพุทธเจ้า พระองค์ใดเลย.........ที่เกิดมาเป็น ผู้หญิงหรือเป็นเพศเมีย ครับ

 

31 ภพภูมิต้องรู้แจ้งแทงตลอด จึงจะนำมาสอนคนอื่นๆได้ครับ

 

ในระหว่างที่ลงมาบำเพ็ญบารมี ไม่ได้หมายความว่า ต้องเป็นผู้ชายเสมอไปนี่ค่ะ บางชาติอาจเกิดเป็นหญิง เกย์ ตุ๊ด กะเทย ฯลฯ สลับหมุนเวียนกันไป เป็นพระโพธิสัตว์อนิตยโพธิญาณ คือยังไม่ได้รับการพยากรณ์จากองค์สมเด็จพระสัมสัมพุทธเจ้าสักพระองค์แต่ถ้า ได้รับการพยากรณ์แล้ว การจะลาพุทธภูมิเป็นไปไม่ได้ค่ะ

 

ตอบได้ดีๆ แต่ยังไม่สมบูรณ์, ท่านจะเป็นบรมครูใหญ่จะต้องรู้ ละเอียด
ในเรื่อง กฎ แห่งกรรม และแจ้งในผลที่ตนกระทำ จึงใช้เวลาเรียนรู้ยาวนาน
เว้นนรก "โลกันตะ" กับ "อสัญญีพรหมโลก" นอกนั้นพระองค์ต้องเรียนรู้ครบหมด เป็น อจินไตยบุคคล อยู่ที่ เทคนิคในการศึกษา "วิชชาจรณะสัมปันโน"
เรียนเก่ง ก็รู้ได้เร็ว เป็นปัญญาธิกะ,รู้ปานกลางเป็นสัทธาธิกะ,รู้ช้ามาก
เป็นวิริยาธิกะ.

 

สาธุ นะโมโพธิญานะโต โหตุสัพพะทา
หน้าที่ของโพธิสัตว์คือ การโปรดสัตว์ อย่าเลือกว่าภพภูมิใด ต้องทำหน้าที่นี้ครับ

 

ผมอ่านมาอีกที ถ้า พระโพธิสัตว์ ได้รับพุทธทํานายแล้ว จะปลื้มปิติ แต่พระโพธิสัตว์ ได้รับคําพุทธทํานายแล้ว ก็ปลื้มปิติ ไปเสวยสุข ต่อ แต่สุดท้าย สุดท้าย บุญกุศล ที่ภาวนา ตอนที่ยังไม่ได้รับพุทธทํานาย คือภาวนา มาหลายชาติ หลาย ภพ แล้ว จะ ส่งพลัง ให้ พระโพธิสัตว์ ทําความเพียร สร้างบารมี ให้เต็มเปี่ยม อ่าครับ

 

กำลังใจเต็ม ชาติใด ชาตินั้น ก็มีคุณมากกว่า ชาติที่เสวยทุกข์ จะโปรดใครได้ละ ตัวเองยังไม่รอดนี้

 

พระพุทธเจ้าในอนาคต โตไทพรามหณ์ ยังอยู่ในนรกอยู่เลยเวลานี้ (หลวงพี่เล็กเทศน์)

ตามความเชื่อของผม พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องเคยลองมาหมดขุมไหน เป็นยังไง ถ้าลูกศิษย์ถามแล้วบอกว่าไม่รู้ ไม่แน่ใจนี่ เสียไหม ??? ไม่มีอะไรพิเศษทั้งนั้น มีแต่กำลังใจที่จะเอาให้ได้ (เป้นพระพุทธเจ้า) ผู้ที่ประสงค์จะเป็นพระพุทธเจ้าไม่ควรบำเพ็ญบารมีน้อยกว่า 16 อสงไขย เหมือนต้นไม้ยังไม่โตฉันใดก็ให้ดอกให้ผลไม่ได้ฉันนั้น (อ่านมาอีกที) ดังนั้นในระหว่าง 16 อสงไขย ต้องไปเที่ยวมาหมดรู้หมด

อีกประการหนึ่ง ยุคนี้ได้ยินผู้ปราถนาพุทธภูมิกันเยอะ หลงไปจนเข้าใจว่าตัวเองคือผู้บำเพ็ญ(พระโพธิสัตว์) เสียแล้ว อันนี้รู้สึกจะเกลื่อนไป ตามความเข้าใจผมปราถนาพุทธภูมินี่แค่ปราถนา ทำบ้างไม่ทำบ้าง กำลังใจยังไม่ทรงตัว (เหมือนผมอ่ะ วันไหนอารมณ์ดีก็ทำดี พรุ่งนี้อารมณ์ตกก็ไม่อยากทำละ) แต่พระโพธิสัตว์นี่เป็นผู้ลงมือทำแล้วในบารมี 10 และคุณธรรมข้ออื่นๆ ดังนั้นผู้ปราถนาพุทธภูมิแล้วเข้าใจว่าตัวเองเป้นพระโพธิสัตว์ด้วยอันนี้ขอค้าน เนื่องจากกำลังใจยังไม่ถึงขั้น (ยังไม่ทรงตัว)

 

เป็นไปตามกรรมที่ได้ทำมานะครับ

กรรมหมายถึงการกระทำ

ไม่ขึ้นอยู่กับว่าปราถนาพุทธภูมิ ปัจเจกภูมิ สาวกภูมิหรอกนะครับ ขึ้นอยู่กับว่ากรรมในชาตินั้นว่าสั่งสมกรรมดีหรือชั่วนะครับ

 

Very good สาธุด้วยนะครับ