ผีมีจริง...ตอนสร้างเมรุเผาศพเสร็จเพราะมีเว็บพลังจิตใช้งบเกือบล้าน(ป่าช้าโบราณ)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย พระจิรวัฒน์ ญาณวโร, 7 กรกฎาคม 2011.

  1. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG]

    ภาพองค์ท่านหลวงปู่ดี แห่งวัดป่าบ้านหนองผักแว่น อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด.
    (ภาพถ่ายตอนไปนมัสการพระอรหันตธาตุหลวงปู่มั่น....วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร)<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. ผีกองกอย

    ผีกองกอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2011
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +214
    ผีกองกอยจะไปเยือนกุฏหลวงพี่นะครับเหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  3. ผีกองกอย

    ผีกองกอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2011
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +214
    ฝนตกมากทีนี้ผมแล้วทีวัดป่าหนองผักแว่นฝนตกมากไม น้ำท่วมวัดบ้างเปล่า ขอรับครับผม
    พระอาจารณ์พระจิรวัฒน์ ญาณวโร
     
  4. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    นมัสการพระคุณเจ้า ดิฉันได้ ส่งเงินผ่านธนาคารกรูงไทยให้แล้วนะค่ะ 1000 บาท ที่โทรหาหลวงพี่ช่วงบ่ายๆ ค่ะ จากคนอุบลฯ แต่ว่าดิฉันได้สมัคร สมาชิกใหม่เพราะลืมรหัสผ่าน แต่ก็มาใส่รหัสผ่านเก่าได้อีก ดิฉันลืมค่ะ สงสัยต้องไปเช็คสมองใหม่ เนี่ยละค่ะคนไม่ได้พักผ่อน ลืม เร็วมากเลย ไม่รู้จะทำไง
     
  5. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    สัพพีติโย วิวัชชันตุ ความจัญไรทั้งปวง จงบำราศไป
    สัพพะโรโค วินัสสะตุ โรคทั้งปวง (ของท่าน) จงหาย

    มา เต ภะวัตวันตะราโย อันตรายอย่ามีแก่ท่าน
    สุขี ทีฆายุโก ภะวะ ท่านจงเป็นผู้มีความสุข มีอายุยืน
    อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน
    จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ
    อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง
     
  6. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    <TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>บททดสอบที่สำคัญที่สุดของชีวิต (พระไพศาล วิสาโล)
    ความตาย เป็นสิ่งแน่นอนสำหรับทุกชีวิต แต่ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เพราะเราไม่อาจกำหนดหรือคาดทำนายได้ว่าจะตายเมื่อใด ที่ไหน และด้วยสาเหตุอะไร แม้แต่นักโทษประหารหรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายก็อาจจบชีวิตด้วยสาเหตุที่ไม่คาด ฝัน ทั้งความแน่นอนและไม่แน่นอนนี้เองมีส่วนทำให้ความตายเป็นเรื่องน่าสะพรึง กลัวมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้คนที่ปรารถนาจะควบคุมทุกอย่างไว้ในอำนาจ

    เป็น เพราะเห็นความตายเป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัว เราจึงไม่อยากนึกถึงความตายของตนเอง (แต่อาจสนใจอยากรู้ความตายของคนอื่น ทั้งโดยผ่านสื่อนานาชนิดและด้วยพฤติกรรม “ไทยมุง”) สุดท้ายก็เลยลืม (หรือแกล้งลืม)ว่าตนเองจะต้องตาย แต่ไม่ว่าจะปัดไปให้พ้นตัวเพียงใด ในที่สุดความตายก็ต้องมาถึงจนได้

    ความตายนั้นเป็นบททดสอบที่ สำคัญที่สุดของชีวิต บททดสอบอื่น ๆ นั้นเราสามารถสอบได้หลายครั้ง แม้สอบตกก็ยังสามารถสอบใหม่ได้อีก แต่บททดสอบที่ชื่อว่าความตายนั้น เรามีโอกาสสอบได้ครั้งเดียว และไม่สามารถสอบแก้ตัวได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นบททดสอบที่ยากมาก และสามารถเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เป็นบททดสอบที่เราแทบจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าเวลา สถานที่ หรือแม้กระทั่งร่างกายและจิตใจของตนเอง

    อย่างไรก็ตาม ทั้ง ๆ ที่ความตายเป็นบททดสอบที่สำคัญอย่างยิ่งของชีวิต แต่น้อยคนนักที่ได้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับบททดสอบดังกล่าว ชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่หมดไปกับเรื่องอื่น ๆ โดยเฉพาะการทำมาหากินและการหาความสุขจากสิ่งเสพ เราพร้อมจะให้เวลาเป็นปี ๆ สำหรับการฝึกอาชีพ เข้าคอร์สฝึกร้องเพลงเต้นรำนานเป็นเดือน ๆ ไม่นับเวลานับพันนับหมื่นชั่วโมงกับการช็อปปิ้งและท่องอินเตอร์เน็ต แต่เรากลับไม่เคยสนใจที่จะตระเตรียมตนเองให้พร้อมเผชิญกับความตายหรือภาวะ ใกล้ตาย ส่วนใหญ่นึกราวกับว่าตนเองจะไม่มีวันตาย หาไม่ก็คิดง่าย ๆ ว่าขอ “ไปตายเอาดาบหน้า” ไม่มีความประมาทอะไรที่ร้ายแรงไปกว่าการทิ้งโอกาสที่จะฝึกฝนตนเองให้เผชิญ ความตายอย่างสงบในขณะที่ยังมีเวลาและพละกำลังอย่างพร้อมมูล

    เป็น เพราะไม่สนใจเตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน เมื่อล้มป่วยและเข้าสู่ระยะสุดท้ายของชีวิต ผู้คนเป็นอันมากจึงประสบกับความทุกข์ทรมานอย่างแรงกล้าทั้งกายและใจ ทรัพยากรที่มีอยู่ก็ไม่เพียงพอที่จะเอามาใช้ช่วยตัวเองในยามวิกฤต โดยเฉพาะ “ทุน” ที่สะสมไว้ในจิตใจ ซึ่งสำคัญกว่าทุนที่เป็นทรัพย์สมบัติ ผู้คนจำนวนไม่น้อยลงเอยด้วยการพยายามต่อสู้กับความตายอย่างถึงที่สุด ฝากความหวังไว้กับเทคโนโลยีทุกชนิด แต่การพยายามยืดชีวิตนั้นบ่อยครั้งกลับกลายเป็นการยืดการตายหรือภาวะใกล้ตาย ให้ยาวออกไปพร้อมกับความทุกข์ทรมาน โดยคุณภาพชีวิตและจิตใจหาได้ดีขึ้นหรือเท่าเดิมไม่มีแนวโน้มว่าผู้คนจะใช้ ชีวิตในช่วงสุดท้ายที่โรงพยาบาลกันมากขึ้น

    โดยเฉพาะคนในเมืองปัญหาก็ คือระบบการแพทย์ในปัจจุบันเน้นแต่การดูแลรักษาทางกาย โดยไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องจิตใจ เทคโนโลยียืดชีวิตกลายเป็นสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด แต่สิ่งที่ผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องการมากที่สุดนั้น มิใช่ความรู้หรือเทคโนโลยี หากได้แก่กำลังใจและความรัก ไม่เฉพาะจากญาติมิตรและครอบครัวเท่านั้น ขวัญและกำลังใจจากแพทย์และพยาบาลก็เป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งในยามที่ความรู้และเทคโนโลยีมาถึงขีดจำกัดในการรักษา สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นหรืออย่างน้อยก็ไม่เลวร้ายลงไปก็คือ ความเมตตาและความใส่ใจโดยบุคคลากรทางการแพทย์

    อย่างไรก็ตามผู้คน แวดล้อมหรือปัจจัยภายนอกไม่สำคัญเท่ากับจิตใจของผู้ป่วยเอง ผู้ป่วยที่ยอมรับความตายและได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่วงหน้า ย่อมมีโอกาสที่จะเผชิญกับความตายอย่างสงบ หรืออย่างน้อยก็สามารถประคองใจไม่ให้เป็นทุกข์ในภาวะใกล้ตาย หลายคนพบว่าศาสนาเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของจิตใจในวาระสุดท้าย โดยที่ญาติมิตรหรือคนรักก็ได้รับการเยียวยาทางจิตใจไปด้วยพร้อม ๆ กัน

    การ แพทย์แผนใหม่นั้นเห็นความตายเป็นปฏิปักษ์ต่อวิชาชีพแพทย์ ความตายของผู้ป่วยหมายถึงความล้มเหลวของแพทย์ ดังนั้นจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาชนะความตายให้ได้ หรือหากทำไม่ได้ก็พยายามยืดชีวิตผู้ป่วยให้ได้นานที่สุด ดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะทำอย่างไรก็ได้กับร่างกายของผู้ป่วย แม้นั่นจะหมายถึงการสร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยและญาติมิตร จะเป็นการดีกว่าหากแพทย์และพยาบาลมองความสำเร็จและความล้มเหลวของตนในแง่มุม ใหม่ คือไม่ได้ถือว่าความสำเร็จอยู่ที่การช่วยหรือยืดชีวิตของผู้ป่วยให้ได้เท่า นั้น แต่ยังอยู่ที่การช่วยให้เขาเผชิญความตายอย่างสงบ มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนตาย มองในแง่นี้ความตายของผู้ป่วยจะไม่ได้หมายถึงความล้มเหลวของแพทย์และพยาบาล เสมอไป

    ไม่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปก็ยังถือว่าเป็นความ สำเร็จของแพทย์และพยาบาล ได้หากว่าจิตใจของเขาได้รับความใส่ใจไม่น้อยไปกว่าร่างกาย ในการรักษาพยาบาลนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีผู้ป่วยคนใดตายเลย แต่เป็นไปได้ที่เขาจะจากไปอย่างสงบ เพราะฉะนั้นความสำเร็จในนิยามใหม่นี้จึงสามารถเกิดขึ้นได้ในการรักษาผู้ป่วย ทุกกรณี

    นิมิตดีก็คือมีแพทย์และ พยาบาลจำนวนมากขึ้นที่ให้ความสำคัญกับจิตใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยระยะสุด ท้าย หลายคนแม้จะไม่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยมีชีวิตต่อไปได้ แต่ครอบครัวและญาติมิตรของผู้ตายก็ซาบซึ้งที่แพทย์และพยาบาลช่วยให้คนรักของ เขาจากไปอย่างสงบ ความสำเร็จของแพทย์และพยาบาลเหล่านั้นอยู่ตรงที่ไม่พยายามยื้อชีวิตของผู้ ป่วยให้นานที่สุด แต่พยายามประคับประคองให้เขาบรรลุวาระสุดท้ายของชีวิตอย่างเจ็บปวดน้อยที่ สุดและมีจิตเป็นกุศลหรือสงบมากที่สุด

    การแพทย์แบบประคับประคอง (palliative care) เป็นสิ่งที่ควรจะได้รับความสนใจมากขึ้นจากสถาบันการแพทย์สมัยใหม่ ขณะเดียวกันก็ควรผนวกเอาวิธีการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบบูรณาการเข้าไป ด้วย ดังที่ได้มีการริเริ่มบ้างแล้วจากหลายฝ่ายจนเกิดเป็น “เครือ ข่ายการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย” ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักบวช และนักปฏิบัติธรรมจำนวนหนึ่ง (ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เครือข่ายพุทธิกา : เพื่อพระพุทธศาสนาและสังคม )

    ถ้าเราหันมาใคร่ครวญเกี่ยวกับความ ตาย และพยายามฝึกใจให้พร้อมรับมือกับบททดสอบที่สำคัญที่สุดของชีวิต ความตายจะมิใช่วิกฤต หากเป็นโอกาสแห่งความสงบในทางจิตใจที่เงินและเทคโนโลยีไม่สามารถหาให้ได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    ความตายก็คือความสงบ คือความหลุดพ้นจากกิเลศ ตันหาต่าง ๆ ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องขวานขวาย ไม่ต้องมานั่งคิด นอนคิดกับเรื่องปัจจุบัน ไม่ต้องมาเสียใจ ทุกใจ ดีใจ มันคือการหลุดพ้น เพื่อโลกหน้า แต่ในตัวของคนแต่ละคนนั้นจะคิดได้มากน้อยแค่ใหน แต่สำหรับดิฉันแล้ว ความตายคือสิ่งที่ หนีไม่พ้น ทำใจยอมรับกับมัน ก็จะไม่ทุกข์
    อนุโมทนา
     
  8. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    หลวงพี่ตอบได้ถูกต้องแล้วว่า "จริงๆ แล้วที่เรากลัวๆ กันอยู่นั้น เป็นเพราะเรากลัวตาย หากไม่กลัวตายซะอย่างเดียว เราก็ไม่กลัวอะไรแล้วในโลกนี้"
     
  9. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    สุขี ทีฆายุโก ภะวะ ท่านจงเป็นผู้มีความสุข มีอายุยืน
    อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน
    จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ
    อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  10. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG]
    [​IMG]
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    กับทุกท่านที่ได้ร่วมกันทำบุญทอดกฐิน
    และสร้างบุญกุศลทุกอย่างที่วัดป่าแห่งนี้
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  11. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    เมื่อคืนดิฉันฝันเห็นหลวงพี่ด้วยค่ะ ฝันว่าหลวงพี่ยืนอยู่กลางป่า แต่ตรงที่หลวงพี่ยืนจะเป้นเหมืนกับเขาไถกลบพรวนดินจะทำอะไรสักอย่าง แล้วหลวงพี่ก็มาบอกบุญ แต่รู้สึกว่าหลวงพี่ยืนอยู่ใกลกับดิฉันมากเลยค่ะ แต่ก็รู้สึกเป็นพลังค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะที่มาเข้าฝันบอกบุญ อนุโมทนาด้วยคนค่ะ
     
  12. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ที่วัดของหลวงพี่ น่าจะแก้เคล็ดน้ำท่วม ด้วยการสร้าง

    พระปางห้ามสมุทร สูง 3 เมตร

    ถ้าเป็นเทพก็ พระนารายณ์ทรงครุฑประทับราหู กับ พระแม่ธรณี

    ผมลองคิดเอาเล่นๆนะครับหลวงพี่
     
  13. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    อนุโมทนาสาธุ อาตมาดีใจเเละขอขอบคุณ คุณโยมมาก คำเเนะนำของควรโยมดีมาก เเต่ในสถานการจริง เงินที่จะมาซื้อดินปรับถมที่ยังขาดอีกมากเลยคุณโยม อาตมาจึงเลือกสิ่งที่จำเป็นก่อน คือเเก้ปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณวัด ยิ่งหลายวัน น้ำยิ่งเน่า เพราะว่ามีเเต่ต้นไม้ ใบหญ้า น้ำไม่ได้ไหลไปไหน..จึงเริ่มเน่า เเละมีปลิง บางครั้งมากัดกินเลือดพระซะอย่างนั้น...ขอบคุณคุณโยมเเจ๊ค69 สาธุๆ
     
  14. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    อนุโมทนาสาธุ คุณโยมปริมนทร์ คนที่มีจิตสัมผัส หรือจิตบริสุทธิ์ จริงๆสัมผัสอาตมาได้ในจิต เพราะเหตุว่าหลังทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็นเสร็จ อาตมาจะมีรายชื่อผู้ร่วมบริจาคทำบุญ อยู่ในมือ ก่อนจะสวดเเผร่เมตตา อาตมาจะอ่าน1รอบ ขอเเผร่บุญกุศลไปถึงคุณโยมๆทุกท่าน ที่ร่วมบุญกับทางวัดป่า คุณโยมไม่ไช่คนเเรกที่ฝันเห็นอาตมา เเม้เเต่โยมที่อาตมาไปรับบาตรทุกวันก็เป็นบ่อย บางคนกำลังฝันเรื่องร้ายๆ กำหนีสุดชิวิต ในฝันอาตมาก็มาช่วยเขาทันพอดี บางคนกำลังจะโทรศัพท์ มาหาอาตมาเพื่อขอคำปรึกษาบางเรื่อง อาตมากลับโทรไปหาเขาก่อน ในเซี่ยววินาที ทั้งหมดนั้น ไม่ได้เป็นการโอ้อวดเเต่อย่างไร เพียงเเต่เล่าให้คุณโยมฟังเฉยๆ อาตมาไม่ไช่พระที่วิเศษอะไร ...ส่วนบริเวณที่จะไถกลบคือพื้นที่ อีก14ไร่ที่อาตมาตั้งใจจะซื้อขยายพื้นที่วัด ประมาณช่วงเดือนมีนาคม2555 ก็คงต้องปรับพื้นที่ใหม่ทั้งหมดอย่างที่คุณโยมว่านั้นเเหละ...
    เเค่พระธรรมดาพระบ้านนอกรูปหนึ่งเท่านั้น...ส่วนความฝันของคุณโยมยืนอยู่ไกลกันด้วยเหตุที่คุณโยมยังต้องมีภระทางโลกอีกมากมาย ทั้งเรื่องการงาน เเละลูกที่ยังเล็กๆ(จริงหรือไม่) ส่วนอาตมาตั้งใจอุทิศชิวิตที่เหลือมอบให้ พระพุทธศาสนา อาตมาตั้งใจอย่างนี้จริงๆ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ อาตมาเพียงมาเล่าให้คุณโยมฟังเฉยๆ เชื่อไม่เชื่อก็ได้ ...สงบ เบา เย็น ว่าง ทุกสิ่งในโลกล้วน อนิจจัง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป..เป็นอนัตตา เป็นเเต่เพียงสมมุติ อนุโมทนาสาธุ ไม่นาน คุณโยมจะได้มากราบหลวงปู่ดีกับอาตมา ...ปี2555 คงได้มาเเน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2011
  15. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    ขอบพระคุณหลวงพี่ที่กรุณาตอบบนกระดานค่ะ ได้ยินสิ่งที่หลวงพี่พูดมา ดิฉัน ขนลุก ดีใจ ปราบปลื้มบอกไม่ถูกค่ะน้ำตามันจะไหล ยิ่งหลวงพี่พูดว่า ต้องได้มากราบหลวงปู่กับหลวงพี่แน่นอน ขนลุกเลยค่ะ แม้ตอนนี้ขณะที่พิมพ์ยังขนลุกเเลขค่ะ ยังไงไม่รู้ ดิฉันเลื่อมใสศัทธาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มาตลอด แต่ดิฉันไม่เคยรู้สึกถึงพลังและจิตใจได้เท่าหลวงพี่ อาจจะเป็นเพราะดิฉันยังไม่ได้เริมต้นที่จะปฏิบัติให้สำเร็จ เพราะยังเป็นวัยรุ่น แต่ก็คิดที่จะปฏิบัติ พอมีครอบครัว ได้พบกับการสูญเสีย ได้พบกับอะไรหลายๆอย่างในชีวิต ดิฉันก็ตั้งมั่น เลยว่าจะต้องพยายามทำให้ได้เพื่อนพ้นทุกข์ ไม่รู้สิ่งที่ดิฉันจะเล่าไปจะตลกกับใครหลายคนมั๊ย หรืออาจจะไม่ดีก็ได้ เพราะดิฉันเป็นผู้หญิง ในสมัยยังเป็นนักเรียนนักศึกษาอยู่ อาจารย์ให้นักศึกษา เขียนเรียงความ ความไผ่ฝันของข้าพเจ้า ดิฉันเขียนไปว่า อยากเป็นผู้ชาย อันดับแรกที่ทำ คือ รับใช้ชาติ เป็นทหาร เมือจบจากการเป็นทหาร ดิฉันจะบวชอยู่ในร่มกาสาวพัตร จนตลอดชั่วชีวิต เพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ อาจารย์อ่านแล้วหัวเราะ เพื่อนๆได้ฟังก็หัวเราะดิฉันว่าบ้าไปแล้ว ก็มันเป็นความฝันของคนเราจะบ้าไปได้อย่างไร แต่ดิฉันก็ทำไม่ได้หรอกค่ะเพราะเป็นผู้หญิงหากต้องการทำจริงๆก็ต้องบวชเป็นชี แต่ก็คงไม่ได้ แต่ก็จะปฏิบัติตามคำสอนของพระศาสนาเอา เมื่อดิฉันหลุดพ้นจากพันธะตามที่หลวงพี่ว่า ดิฉันคงมีโอกาศทำกุศลมากกว่านี้ ได้ถือศิล ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ นี่คือสิ่งที่ดิฉันอยากปฏิบัติ ดิฉันตอบได้เลยดิฉันเคยทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ไม่น่าให้อภัยเลยในชีวิต จึงทำให้เห็นตัวเองมากขึ้นว่า เราหนีห่างจากคำสอนไม่ได้ ไม่งั้นเราจะไม่มีจิตที่มีสติ ทำให้เราขาดสติ แล้วทำอะไรที่ผิดพลาดไป โดยที่เราไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขปัญหาสิ่งที่เราทำลงไปได้ ทั้งๆที่ดิฉันเองเป็นคนที่มีเมตตา ไม่ได้เข้าข้างตังเองค่ะ ขี้สงสาร และเห็นใจผู้อื่น ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำอะไรที่ไม่ดีลงไปได้ เมื่อมานั่งคิดและไตร่ตรองดูแล้ว ก็คงเป็นเพราะกิเลศ ตันหา ราคะ ต่างๆ ของทางโลกที่ทำให้เราหลงผิดไป เพียงวูบเดียวเท่านั่น ที่ทำให้คนดีๆกลายเป็นคน เลวได้ ดิฉันไม่เคยให้อภัยตัวเอง ไม่เคยโทษใคร และในเมื่อสิ่งที่มันเกิดขึ้นไปแล้วไม่สามารถกลับไปแกไขได้ ดิฉันก็จะอยู่กับความจริงบนโลกใบนี้ และตั้งหน้าทำความดีอุทิศชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ไม่คิดให้ตัวเอง ฟุ้งซ่าน ไม่ทำให้ใครต้องมาเดือนร้อนเป็นทุกข์กับตัวเอง และ จะต้องตั้งมั่นในศิลในธรรมให้ได้ จนกว่าจะตาย นี่คือสัจจะที่ดิฉันตั้งมั่นไว้ ขอให้หลวงพี่นำทางดิฉันไปเจอแสงสว่างด้วยคนนะค่ะ สาธุ
    ความตั้งมั่นเกิดขึ้นที่ใจ หากแม้นมีใครมานำทางไป แต่ถ้าคนๆนั้นยังไกลศาสนาก็ยังหาทางออกไม่ได้ แม้จะมีคนนำทางก็ตา
    อนุโมทนา
    ไม่รู้มีอะไรมาดลใจให้ดิฉันมาค้นพบเวบพลังจิตนี้นะค่ะ และมาทำให้ดิฉันได้มาเจอหลวงพี่ จนทำให้ดิฉันมีความเลื่อมใส ศัทธา อย่างแรงกล้า อย่างที่หลวงพี่ว่าแหล่ะค่ะ สักวันดิฉันคงมีโอกาสได้ไปกราบ ขอพร
     
  16. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    อนุโมทนาสาธุ คุณโยมพระปริมนทร์29 พระอยู่ในใจของคุณโยมเอง บวชที่ใจก่อนลำดับเเรก จำไว้ ตั้งมั่น ในศิล5ก่อน (ต้องทำให้ได้ ) มีโอกาสลูกๆนอนๆหลับเเล้ว มีเวลาค่อยนั่งสมาธิ สัก30นาทีก็ยังดี คนเราเวียนว่ายตายเกิด อดีตคุณโยมอาจจะเคยบวชในพระพุทธศาสนาก็เป็นได้ ขอให้ตั้งมั่นในคุณงามความดีต่อไป หลีกไกลอบายมุขทั้งหมด ตั้งเเต่นาทีนี้ องค์คุลิมาลท่านยังเคยฆ่าคนตายมานับไม่ถ้วน สุดท้ายท่านก็กลับใจเป็นคนดีได้
    อนุโมทนาสาธุ
    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร
    โทร0872365287
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2014
  17. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    ขอบพระคุณหลวงพี่ที่ให้กำลังใจ ดิฉันจะตั้งใจปฏิบัติ และพยามทำให้ได้ขอบคุณค่ะ
    ดิฉันฝันเห็นคุณตา ที่เพิ่งเสียไปไม่นานนี้ ฝันเห็นท่าน 4 วันซ้อนเลยค่ะ ในฝันท่านก็เหมือนคนปกติ แต่ท่านอยู่แต่ที่บ้านที่ท่านเสีย ที่ท่านเคยอยู่ไม่ได้ไปไหน ฝันคร้งครั้งที่ 3 เห็นกระดูกของแก แบบว่าไปเก็บเสื้อผ้าแก มันมีกระดูกติดมาด้วย ชิ้นแรกไม่รู้ว่า เป็นส่วนใหน ส่วนชิ้นที่สองเป็นกระดูกตรงบริเวณหัวเข่า ส่วนชิ้นสุดท้ายอยู่บริเวณใบหน้า แต่แปลกที่กระดูกชิ้นที่ 2 เป็นสีชมพูอ่อนๆ เรืองแสง ในฝันเหมือนดิฉันกลัวแต่ไม่กลัว ฝันว่าตามานอนด้วยทุกครั้ง และครั้งสุดท้ายครั่งที่ 4 ตาเอาข้าวให้กิน เป็นข้าวเหนียวกับอะไรสักอย่างจำไม่ได้ ก็เลยคิดว่าตาคงหิวข้าว วันรุ่งขึ้นออกพรรษา ดิฉันเลยซื้อของไปฝากป้าข้างบ้านไปใส่บาตร เพราะดิฉันไม่ได้หยุดงาน ก็เลยฝากเอา ในคืนเดียวกันไม่ฝันเห็นตาอีกเลย จนถึงวันนี้แหล่ะค่ะ ไม่รู้หมายความว่ายังไง คงเป็นจิตใต้สำนึก มั๊ยค่ะ หรือตามาหาจริงๆ ขอให้ตาไปสบาย มีความสุข ไม่ทุกข์ร้อน และยายก็ฝันว่าตามาขอเงินกับยายด้วยละค่ะ ไม่รู้ยังไงนะค่ะ เกี่ยวกับโลกของวิญญาณเนี่ย ต้องตายเองถึงจะรู้มั้งค่ะหลวงพี่ อนุโมทนา
     
  18. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    ขออนุโมทนาสาธุครับ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
    ...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
     
  19. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    เจริญพรคุณโยมผู้ใจบุญทุกคน ขณะที่นั่งอยู่วัดป่าบ้านหนองผักเเว่น(วันเสาร์)ที่15ตุลาคม2554 เวลา15.33นาที อาตมานั่งมองสายฝนที่กำลังตกลงมาอย่างหนัก ออกพรรษาเเล้วฝนยังตกหนักอยู่เลย เมื่อเช้าก็เดินรับบาตรลุยฝนเปียกหมดกว่าจะกลับมาถึงวัด ความทุกข์เป็นบทบทสอบชีวิต ได้ดีที่สุด พูดถึงความทุกข์กายเเล้วอาตมาเชื่อว่าทุกคนทนได้ เเต่ความทุกข์ใจหากว่าเกิดกับใครเเล้ว หากปล่อยไว้นานๆ ไม่ดีเเน่ หากคุณโยมท่านใด ดึกๆตื่นขึ้นมาเเล้วยังเก็บเรื่องโน้น เรื่องนี้มาคิดเเล้วยังนอนไม่หลับ โทรมาปรึกาาอาตมาด่วน อาตมามียาวิเศษชื่อว่าสมาธิพุทโธ ไม่ขายเเจกฟรี เพียงเเต่เราต้องทำให้ถูกต้องตามหลักเท่านั้น...ได้ผลเเน่นอนคุณโยม
    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2011
  20. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    หลวงพี่ค่ะ การทอดกฐินเป็นยังไงค่ะ ในความหมายของบุญ และความหมายของกฐิน เป้นการทำบุญที่ใหญ่ที่สุดหรือเปล่าค่ะ ดิฉันยังไม่ค่อยเข้าใจ เอ่อ รวมถึงเรื่องการทำสังฆทานด้วยค่ะ แล้วการใส่บาตรด้วยค่ะ หากเราใส่บาตร โดยที่ไม่ได้หยาดน้ำ ผุ้ที่เราอุทิศบุญให้จะได้รับมั๊ยค่ะ แล้วการที่เราตั้งใจจะทำบุญนี้เราก็จะได้บุญเลยใช่มั๊ยค่ะ รบกวนหลวงพี่ตอบให้ด้วย ขอบคุณหลวงพี่คะ สาธุ อนุโมทนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...