ข้อความจากต่างมิติ – การวางอุเบกขา, การบรรลุธรรม และการเนรมิตให้สำเร็จดั่งใจ

ขอบคุณมากครับคุณ ชยุต

 

เหมือนพระนิพพานในพุทธศาสนาเราหรือไม่ค่ะ

 

ผมก็รู้สึกอย่างนั้นครับ ว่าข้อความชุดนี้
เหมือนหลักคำสอนของพุทธมากๆเลย

มันอาจจะเป็นเพราะว่า อะไรที่มันเป็นความจริง
หรืออะไรที่มันเป็นสัจธรรม ไม่ว่าใคร
จะเอาไปพูดที่ไหน เมื่อไหร่
มันก็ย่อมจะไม่หนีห่างกันมากนัก..อะไรแบบนั้น

และนี่ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญทางพุทธมาอ่าน
แล้วช่วยเทียบเคียงให้ได้ว่า ตรงไหน
ทางพุทธเขาเรียกว่าอะไร ใช้ศัพท์อะไร
ก้น่าจะดีไม่น้อยนะครับ..
จะได้ถูกใจคนหลากหลายจริตหนะครับ

............................................

 

อันนี้ต้องรอผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านพระนิพพานมาตอบให้นะครับ
ข้าพเจ้ามิอาจเอื้อมที่จะตอบหรอกครับ...

........................................

 

" ขอบคุณมากครับ สำหรับสิ่งดีๆที่คุณชยุตและทีมผู้แปลมอบให้ "
จริงดังที่คุณชยุตบอกไว้ว่าเหมือนโดนไม้หน้าสามตีแสกหน้าเลยครับ หากให้ผมเจอมหาเทพเมตาตรอนตัวต่อตัว ผมคงไม่กล้าหรอกครับบเพราะอายเหลือเกิน ท่านมองทะลุเข้าไปในจิตใจของมนุษย์ได้อย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋เลยคับ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ ขอบคุณที่แปลมาให้อ่านกัน อ่านรอบเดียวไม่ทะลุค่ะต้องอ่านอีก แต่ดูไปแล้วเหมือนคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจือด้วยคริสต์นิดหน่อย ไม่แปลกเลยที่ท่านไอน์สไตน์ เปรียบศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งจักรวาล

 

ให้เป็น TOP OF THE WOULD ไปเรยค๊ ^_^

 

ขอบคุณที่มาโพสแปลให้อ่านครับ สนุกดี

 

ขอบคุณ คุณชยุตเช่นกันจ้า

 

อืม...ได้คำตอบที่ชัดเจนอีกครั้ง

 

ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรนะครับ แต่อยากตอบเพราะเห็นคำถาม


ศาสนาแต่ละศาสนา เป็นทั้งศิลป์ เป็นทั้งปรัชญา และเป็นทั้งแนวทาง เป็นหลักที่

ศาสดาให้ไว้ใช้ในการดำเนินชีวิต โดยมุ่งหวังให้คนทุกคนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน นั่น

เป็นสาเหตุที่แต่ละศาสนามีแนวทางการสอนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่สุดท้ายก็

กลับ ไปบรรจบรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนเดิม ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าลึกๆแล้ว

จิตใจของมนุษย์ผู้ที่รู้ว่ารู้ นั้นแอบซ่อนความเป็นอนัตตา ยึดมั่นถือมั่นว่าตนเก่งอยู่

ไม่ยอมรับฟังความคิดผู้อื่นจริงๆ เพราะมีอนัตตาตัวตนมากั้นไว้บางๆ คอยคิดแต่

จะค้นหาเส้นชัยของคนอื่น แต่กลับไม่พยายามค้นหาเส้นชัยของตัวเอง จึงได้แต่

คอยพูด คอยบอกกับคนอื่นว่าเป็นผู้ที่หลงทางนะ ทำอย่างนี้เนี่ยผิด

ทำตามเราเนี่ยถูกอะไรประมาณนี้ ก็เรียกได้ว่าใช้ความพอใจส่วนตัวมาตัดสินคนอื่นคงไม่ผิดนัก

นั่นก็แปลว่าเป็นการบังคับขืนใจคนอื่นหรือไม่?

ซึึ่งจริงๆแล้วความพอใจของแต่ละคน จะเอาอะไรมาวัดให้เท่ากัน เป็นไปไม่ได้แน่นอนจริงมั้ยครับ?

หากมีคนมาบอกว่าคุณหลงทางอยู่ และกำลังทำในสิ่งที่ผิด คุณจะเชื่อมั้ย ในเมื่อคุณคิดว่าคุณถูก? แล้วคุณจะทำอะไรต่อไป? ทำตามหมากที่เขาวาง หรือ ทำตามใจตัวเอง?

ผมแค่อยากบอกว่า จุดหมายของแต่ละคน อยู่คนละแห่ง ไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน คำว่า หลง จึงใช้มาวัดกันไม่ได้ ให้ลองบอกคนที่ว่าเราหลงทาง ช่วยเป็นผุ้นำทางแทน พอถึงที่หมายกลับไม่ใช่จุดที่เราต้องการเราก็ต้องบอกว่าเค้าหลงเช่นเดียวกัน ทั้งๆที่เค้าบอกว่านี่แหละเป็นจุดหมายของเค้า จะมาหาว่าเขาหลงได้ยังไงกัน......

อย่าไปสนเลย ใครเป็นอะไร สนว่าเราเป็นอะไร ตั้งสติตามดูจิต รู้ทันจิตไปให้หมดทุกเรื่อง ปัญญาจริง ที่เกิดจากการรู้แจ้งก็จะมาเอง หากไม่รู้ทันจะคบแต่บัณฑิต จะไม่คบคนพาลก็ไม่เป็นไร

ถามตนเองบ่อยๆ รู้มากพอที่จะตัดสินแยกประเภทหรือยัง รู้มาจริงตรงกับสัจจะธรรมชาติ รู้มาจากลมปากคนอื่นที่เลื่อมใส รู้มาจากการศึกษาค้นคว้าตำราเล่มใด ถูกต้องตามสัจจะหรือไม่ ใคร่ครวญไตร่ตรองดูตัวเองซ้ำๆ อันไหนทำแล้วมีคุณ ทำแล้วให้โทษ


เท่านี่และครับที่อยากตอบ อยากถาม อยากให้ อยากรับ อยากฝาก อยากคืน แด่สหายผู้เป็นที่รักและไม่รักทั้งหลาย โดยไม่เลือก ไม่ว่าจะดีหรือไม่ในเว็บพลังจิตแห่งนี้

ขอทุกท่านจงศรัทธาตัวเอง ก่อนศรัทธาผู้อื่น สวัสดีจ้าา

;aa23

 

กุญแจทุกดอกอยู่ที่นี่แล้ว
ขอบคุณ ท่าน wacaholic ผู้วางสมมติลงได้ อนุโมทนา ครับ
ข้อความชุดนี้ ได้อธิบายหลักการเข้าถึงได้ชัดเจนที่สุด
ท่านผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาแล้ว คือกุญแจ เป็นเจตนาของท่าน Archangel Metatron
ที่มีมติให้ออกมาแจ้งข่าวนี้
และจะมีผู้อื่นออกมากล่าวเพื่อสนับสนุนให้ข้อความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีกก้าว
โดยที่ผู้อ่านนำแต่ละตอนไปเปิดกระทู้ใหม่ ให้ผู้อ่านเข้ามารับรู้เรียนรู้
ซึ่งจะเป็นการดีที่ผู้อ่านนับถือพุทธ
จะได้รู้สึกตนเองว่า เดินทางเป็นเส้นตรงกับเดินผิดทาง
พอพูดว่า ท่านเดินผิดทาง เพียงผมเอ่ยว่า พุทธ
ท่านมีสิ่งหนึ่งเป็นคือพลังงานสองด้าน ผมจะพูดด้านหนึ่งพึ่งแปลความหมายเอง ความร้อนเกิดขึ้นในขณะที่อ่านข้อความนี้ กลางหลัง ตรงหน้าอก จนเป็นการร้อนที่ใจขึ้น
ยังอ่านไม่จบ เจตสิก เกิดแล้ว (การจับผิด) ด้วยใจ เอาความรู้สึกนั้น ปิดกั้นซึ่งปัญญาตนเอง เพียงนี้ก็เดินผิดแล้ว
สติ ตามที่ท่าน wacaholic กล่าว จะช่วยท่านให้ได้ความรู้มากมาย
มาย้อนถึงการเปิดกระทู้ ตามหัวข้อแต่ละตอน ซึ่งแทรกหลักคำสอนพุทธไว้ เช่น พรหมวิหารธรรม เป็นต้น และข้ออื่นๆ ธรรมอื่นๆ
เมื่อกระทู้ถูกเปิด ข้อความนี้จะสมบูรณ์ ผู้ที่ยังไม่ตื่นจะตื่นขึ้น
ผู้ที่ตื่นแล้ว เป็นผู้นำ อาจารย์ เป็นผู้นำแห่งแสงสว่างทั้งหลายจะก้าวพ้น ตัวตนของตน พร้อมรับข้อความที่สูงขึ้นไปในไม่ช้านี้
คุรุตราจารย์ ท่านใด มีความพร้อมในการแจกแจงเนื้อหาตรงจริตและปัญญาแห่งตนแล้ว
ผมขอน้อมเชิญท่านดำเนินการเถิด ท่านจะได้เอง ผู้อื่นจะได้เอง และได้จากทุกข้อความที่จะมาถอดรหัสนี้
มหิศวระ

 

ขอขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมา และดับลงไปอยู่เช่นนั้น ตลอดจนท่านคุรุ และที่ไม่ใช่คุรุทั้งหลาย ทั้งหมดทั้งมวล ทั่วทุกมิติ ทุกภพทุกชาติ ทั้งที่อยู่ในโลก ทั้งที่อยู่นอกโลก เช่นกันครับ

;43;43;43;43

 

เคยอ่านข้อความนี้จากอีกกระทู้หนึ่ง(ท่านครูเทพฯ)

*สิ่งหนึ่งสิ่งหนึ่งอิง นิ่งซึ้งอยู่กับความเคลื่อนไหว
ใครรู้ใครรู้ได้ ใจโปร่งใสได้รู้เห็น*<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​

<o> </o>

*ทั้งเคลื่อนทั้งเคลื่อนไหว นิ่งอยู่ในรู้หยุดเย็น
ใครถึงใครถึงเป็น ที่พึ่งพักจักสบาย*<o></o>​

<o> </o>

*ใครถึงใครถึงเป็น สรณะจะนิพพาน
ใครถึงใครถึงเป็น ที่พึ่งพักจักสบาย*​

............................................​

​

ชอบ...เหมือนเข้าใจแต่ไม่กระจ่าง​

​

มา ณ วันนี้...ข้อความที่ได้

จงทำให้ “ผู้บรรยายจากภายใน” เงียบเสียงลง
เหมือนตอนที่พวกคุณเข้าสมาธิ แล้วปล่อยให้
“ผู้สังเกตการณ์ที่วางเฉย” เข้ามาทำหน้าที่แทน<o></o>
นี่คือสิ่งสำคัญ จงพัฒนาพลังงานชนิดนี้
จงพัฒนาความเป็นอันนี้ ความเป็นสภาวะๆนี้

ตอนนี้ จงใช้เวลาสัปดาห์ละสองครั้ง ก่อนนอน เพื่อยอมให้
“ผู้สังเกตการณ์ที่วางเฉย” ได้มองเห็นการกระทำ
ของความเป็นอัตตาตัวตนของพวกคุณเอง
ในระยะสอง หรือ สามวันที่ผ่านมานั้น
เพราะว่าในความเป็นทวิภาวะนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็น
ครูบาอาจารย์หรือนักเรียนก็ตาม (ซึ่งพวกคุณทุกคนก็เป็นทั้งคู่!)
ไม่มีใครหนีมันพ้นเลย และนั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไม
จึงจำเป็นต้องมีการปรับตั้ง โดยใช้กระจกเงาแห่งสัจธรรม
อันไม่มีที่สิ้นสุดใหม่อยู่เสมอๆ

โดยการทบทวนตัวเอง โดยใช้ “ผู้สังเกตการณ์ที่วางเฉย”
ที่มีอยู่แล้วในตัวเอง
จงทำดีกับผู้อื่น จงวัดสองครั้ง แต่จงตัดเพียงครั้งเดียว
เมื่อใดที่พวกคุณกระทำความผิด จงยอมรับมัน
จงรู้จักการให้อภัย และจงยอมรับการให้อภัยด้วย

และจงทำทั้งหมดนั้น ด้วยใจที่เป็นอุเบกขา
ถ้าคุณกำลังทำให้ผู้อื่นเจ็บปวดอยู่
ถ้าคุณกำลังติดกับดักของ ego อยู่
หรือกำลังมีพฤติกรรมโกหกหลอกลวงอยู่,
หรือควบคุมคนอื่นอยู่,
หรือกำลังตกอยู่ในความหดหู่ซึมเซาอยู่,
หรือกำลังกระหายอำนาจอยู่

จงหยุดมันเสีย!
จงเปลี่ยนแปลงซะเดี๋ยวนี้!

ไม่เช่นนั้นแล้ว พวกคุณจะพบกับความหายนะ
และทำให้วัฏจักรของมันวนเวียนมาซ้ำแล้วซ้ำอีก
จงค้นหาแสงสว่าง
จงมีความซื่อสัตย์-ยุติธรรม
จงทบทวนชีวิตของตนเอง และปรับตั้งมันใหม่เสีย
จงพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างสุดความสามารถ
จงมีความเชื่อมั่น และจงทำตามความเชื่อมั่นของตัวเอง
จงกำจัดความกลัวและความลังเลสงสัยให้หมดไป
จงกำจัดความโกรธ และความต้องการควบคุมผู้อื่นให้หมดไป
จงรักตัวเอง
จงรักทุกสรรพชีวิต
จงเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น
จงปล่อยวาง
จงสร้างโลกของตัวคุณเอง<o></o>
คือคำตอบ...ที่เฝ้ารอ...ขอบคุณแสงสว่างทุกดวง ด้วยหัวใจ...ขอให้บรรลุซึ่งภาระกิจตามตั้งใจ

 

พูดจาอย่างผู้วางสมมติแล้วจริงๆ ชื่นชมและศรัทธาท่านนะ(บางคำอ่านแล้วขำค่ะ นึกถึงเพื่อนดิฉัน
พูดจาคล้ายๆกัน)

 

แด่เธอผู้เป็นที่รัก และ "STAR SEED" ทุกๆท่านครับ.. เป็นกำลังใจให้ทีมงานเสมอ

(kiss) (kiss) (kiss) (kiss)

 

คุณชยุต ผู้แปล คงเหนื่อยน่าดู ขอบคุณมากๆๆ

 

คุณชยุตคงเหนื่อยน่าดู แปลแต่ละงาน ไม่ใช่เรื่องง่าย ขอบคุณด้วยความจริงใจค่ะ

 

ขอบคุณคุณชยุตที่ช่วยแปลและถ่ายทอดค่ะ

 

โหหห คุณชยุตคะ นี่คือสิ่งที่กำลังมองหาอยู่จริงๆ
แบบว่า นี่คือสิ่งที่มาเติมจิตวิญญาณให้เต็ม
แล้วตะลึกเล็กน้อยที่ว่า มาในเวลาที่เรามองหาพอดี

ขอบคุณมากๆนะคะ นี่แหละสิ่งที่หามานาน