โสดาบัน (อีกแล้วครับท่าน^^")

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สุรีบุตร, 9 สิงหาคม 2011.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. สุรีบุตร

    สุรีบุตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอถามความคิดเห็นครับ ไม่ได้หมายความว่าคนตอบต้องคิดว่าตนเองเป็นโสดาบันแล้วนะใครตอบก็ได้ ขอถามว่า
    1.ท่านคิดว่าคนที่ถึงภูมิโสดาบันแล้ว อยากเลื่อนไปเป็นสกิทาคามี และไปเป็นพระอนาคามีหรือไม่
    2.ท่านคิดว่า โสดาบันกลัวหรือไม่กับการไม่มีตัวตน หมายถึงโสดาบันกลัวหรือไม่ว่า หากไม่ได้อรหันต์ในชาตินี้ ไปได้ในชาติอื่นก็เหมือนตนเองๆไม่ได้อรหันต์

    คงไม่งงนะครับ
     
  2. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ขอโอกาสนะครับ...

    1 ท่านถึงโลกุตตรธรรมแล้ว ละสักกายทิฏฐิแล้ว ความต้องการเลื่อนไปสู่อริยะภูมิที่สูงขึ้นไป ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่ท่านจะให้ความสนใจ ท่านเพียงสนใจการพิจารณากิเลสที่ละแล้ว และกิเลสที่ยังไม่ได้ละ ดำเนินไปตามองค์แห่งอริยมรรคต่อไป ส่วนในแง่ของนิสัย แนวคิด หรือความต้องการต่างๆ เป็นวาสนาส่วนบุคคล ใช่ว่าพระอริยะจะต้องเหมือนกันทั้งหมด ก็หาไม่

    2 การปฏิบัติธรรมทั้งหมดทั้งมวล ก็เป็นไปเพื่อละอัตตา หรืออุปาทานในขันธ์ทั้งหลาย ยิ่งถ้าเข้าถึงความเป็นอนัตตาได้มากเท่าไหร่ ผลสำเร็จก็ใกล้เข้ามาเท่านั้น ดังนั้น ความกลัวที่จะไม่มีตัวตน เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องที่ว่ากลัวไม่ได้อรหันตผลในชาตินี้ ก็ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องด้วยท่านหลุดพ้นจากโลกียะไปแล้ว จะสนใจทำไมว่าจะนิพพานเมื่อไหร่ ในเมื่อชาติภพต่อไป ไม่มีทางไปทางอบายได้อีกแล้ว และที่สำึคัญ ท่านเที่ยงแล้วต่อพระินิิพพาน อย่างมากไม่เกิน 7 ชาติ ตามตำราว่าไว้

    เจริญในธรรมครับ...
     
  3. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    เราๆ ท่านๆ ต่างหาก ที่ควรมีความกลัว และตระหนักถึงความกลัวนั้น เนื่องด้วยยังต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏไร้ขอบเขต หากพ้นชาติภพนี้ไปแล้ว เมื่อไหร่กันเล่า ที่จะได้พบพุทธธรรมเฉกเช่นเดียวกันนี้ได้อีก แล้วอีกนานเท่าไหร่กันเล่า ที่จะเข้าถึงพุทธธรรม ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศเอาไว้แล้ว ดังนั้นจึงควรเร่งขวนขวาย ทำความเพียร สะสมบารมี บ่มเพาะอินทรีย์ เจริญสมถวิัปัสสนา กันให้มากๆเถิด ก่อนที่ของดีจะเลื่อนหาย หมดโอกาสไปอีกนานแสนนาน...
     
  4. เมตไตยะ

    เมตไตยะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    ความจริงที่เป็น อนัตตา

    ทุกสิ่งอย่าง จบลงที่ความจริงที่เป็น อนัตตา ขอ อนุโมทนา สาธุ
     
  5. สุรีบุตร

    สุรีบุตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +7
    ที่จริงที่ผมถามเพราะสงสัยในความเห็นของบางท่านที่คิดว่าตัวเองเป็นโสดาบันแล้วครับ เพราะผมก็มีเพื่อนที่คิดว่าตัวเองเป็นโสดาบันแล้วเหมือนกัน
    (เคยคุยกันเขาบอกว่าจำไว้เลยนะถ้าใครบอกว่าเป็นโสดาบันแล้ว ยังอยากเป็นสกิทาคา หรืออนาคาอยู่อีก รู้ไว้เลยว่านั่นยังไม่ใช่นะ) เพราะว่า
     
  6. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,077
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,669
    ไปคิดเอาเองนะ แต่ผมขอแนะนำว่าคุณหยุดเถอะ อย่ามาสร้างปัจจัยให้หยั่งรู้ธรรมยากเลย

    1 ภูมิสูงขึ้น ก็เพราะกิเลสลดลง ทุกข์ย่อมน้อยลง พระอริยเจ้า ท่านแน่วแน่ในความดับทุกข์ครับ

    2 ตัวตนนี่กิเลสหยาบสุด ที่พระโสดาบันจะละได้เป็นลำดับแรกเลยนะครับ
    ฟังจากเขามา อ่านจากเขามา แล้วมามโนภาพเอา เป็นผม ผมไม่พูดหรอก เพราะท่านเรียกว่า เพ้อเจ้อ น่าขบขัน
     
  7. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    อีกมุมมองนะครับ
    โสดาบัน กิเลสตัณหา ยังมีอยู่ ความอยากและอัตตามีอยู่แต่น้อยลง และไม่ปรุงจนทุกข์ร้อนมากจนตนเองและคนอื่นเดือดร้อนเหมือนปุถุชนคนทั่วไป เมื่อเห็นว่าอัตตานี้เป็นทุกข์ย่อมหาทางทำให้ทุกข์เบาบางลงไป โดยเหตุจากการเรียนรู้แล้วเห็นโทษภัยของทุกข์และความไม่แน่นอนในวัฏะสงสาร
     
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,077
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,669
    กิเลสมีอยู่ใช่ สิ่งร้อยรัดมีอยู่ใช่ แต่ถ้ามาบอกว่ามีอัตตาอยู่ ผมว่าใช้อัตตาผิดประเภทไปนะครับ

    ถ้ามีอัตตา แล้วจะทำลายมิจฉาทิฐิ ตกกระแสนิพพาน เป็นพระอริยเจ้าเบื้องต่ำได้อย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2011
  9. สุรีบุตร

    สุรีบุตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +7
    เพ้อเจ้อน่าขัน ไม่เป็นไรครับพี่ขำได้ ไม่ถือครับ:cool:
    ยินดีครับ ที่ได้ทำให้พี่ๆขบขัน^^
     
  10. สุรีบุตร

    สุรีบุตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +7
    งั้นก็แปลว่าพี่เห็นว่า โสดาบันที่กลัวว่า หากตนเองไม่สำเร็จอรหันต์ในชาตินี้ก็จบ ก็ไม่ใช่พระอริยะเจ้าเบื้องต่ำใช่ใหมครับ
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    [​IMG]
     
  12. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +574
    -หากเขามีความเห็นว่า โสดา มีชื่อเรียกที่ไพเราะกว่า อรหันต์ เขาคงไม่อยากเปลียนเป็นชื่อ อรหันต์
     
  13. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    ไม่แน่ใจว่าอัตตาของพี่จินนี่มีความหมายอย่างไร อาจเข้าใจไม่ตรงกัน
    .....อัตตา ตามความเข้าใจของผมคือ การยึดถือในบางสิ่งบางอย่างแล้วนำมาปรุงจนเป็นทุกข์น่ะครับ
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ของอย่างนี้ ไปตัดสินที่คำพูดเพียงคำเดียว มันก็สุ่มเสี่ยง

    "ถ้าใครบอกว่า...อยาก...." แค่นี้มันไม่พอฟันธงหรอกว่า เขาปรารภ
    มาด้วยเหตุใด อย่างพระอรหันต์สมัยพุทธกาลท่านหนึ่ง ท่านเจอใคร ท่าน
    ก็ทักคนนั้นว่า "คนถ่อย" ซึ่งก็น่าจะมี บรรดาวลีเหล่านี้ "ว่าไงคนถ่อย"
    "คนถ่อยกินอะไรมาหรือยัง" "คนถ่อยวันนี้มีอะไรมาถาม" "คนถ่อยวันนี้มา
    คุยกับใครเพื่อลงพรหมทัณฑ์เพิ่มอีก" เป็นต้น

    พระอรหันต์สมัยนั้นท่านก็เกรงว่าจะเกิดข้อกังขาไปทั่ว เลยนำความไปกราบ
    ทูลให้พระพุทธองค์ตรัสชี้ธรรมให้บรรดา สาวก เสขะบุคคล จะพึงได้ทราบ
    ไม่ไปเผลอสงสัย หรือ บริพาทเพียงแค่ "คำๆเดียว" ที่ออกจากปาก

    ก็ปรากฏว่า ไม่มีอะไร มันเป็นความเคยชินที่พูดแบบนั้นมา 500 ชาติ เลย
    ทำให้มีอาสวะ วาสนาที่จะพูด คำนั้น

    ทีนี้ เราก็มาดูว่า คนที่พูด "อยาก...." "เอา..." นั้นเขามี ลักษณะการดำเนิน
    ชีวิต สิ่งแวดล้อมมาอย่างไร ซึ่งการจะเข้าใจได้ เราคงไปเล็งๆ เอา ดูแบบคาด
    เดาไม่สืบสาวราวเรื่อง นั่งอยู่ตรงนี้ก็นึกเอาว่าเขามีชีวิตแบบนั้น แบบนี้มั้ง มันก็
    เดาอยู่ดี จะให้ดี ต้องไป คลุกคลีด้วยสักช่วงเวลาหนึ่ง

    ให้คุกคลีเลยนะ ไม่ได้ให้ ถาม หรือ ท้ามาถาม ตอบ อย่างเดียว ไม่พอ
     
  15. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    พระโสดาบัน ตามตำรา พระอภิธัมมัตถสังคหะ​ ​ปริ​เฉทที่​ ๑
    ได้แบ่งประเภท ของพระโสดาบัน โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

    1.เอกพิชี​โสดาบัน
    2.โกลังโกลโสดาบัน
    3.​สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน

    นั่นเพราะแบ่งไว้ ตามความแก่กล้าของอินทรีย์ไม่เท่ากัน

    แต่ยังมีพระโสดาบันอีกประเภทหนึ่ง ที่เรียกว่า "วัฏฏาภิรตโสดาบัน​"
    รู้สึกจะมีอยู่ 7 ท่าน ได้แก่

    1.ท่านท้าวสักกเทวราช​
    2.ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี​ ​
    3.พระนางวิสาขามหาอุบาสิกา​
    4.ท่าน​จูฬรัตถเทพบุตร​ ​
    5.ท่านมหารัตถเทพบุตร​ ​
    6.ท่านอเนกวรรณเทพบุตร​ ​ ​
    7.ท่านนาคทัตตเทพบุตร

    แต่คงเคยได้ยินได้ฟ้ง หรือได้อ่านผ่านๆ ตา กับคำว่า "จูฬโสดาบัน" และ "มหาโสดาบัน"
    นั่นก็เทียบเคียงโดยให้ หลักของการผ่านลำดับญาณ ที่เรียกว่า "โสฬสญาณ หรือ ญาณ16"


    อันนี้ก็ลองศึกษาดูได้ครับ ไว้เป็นความรู้เป็นสุตมย

    แต่หากจะเข้าไปรู้ความจริง
    ต้องฝึกฝืนต่อกระแสกิเลส เอาสติจดจ่อให้เกิดความรู้ ฝืนด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา
    เนี่ยะ..! หลักปฏิบัติ ที่ครูบาอาจารย์ ท่านแทงตลอด ในมรรค ในผล
    ที่พระศาสดาชี้ทางบอกไว้ มีอยู่ในพระไตรปิฏก

    ตำราพิชัยสงครามอันยอดเยี่ยม คือ "พรหมชาลสูตร"
    เพื่อการทำศึก ประหัญประหาร ต่อกิเลสในใจตน

    รายละเอียดปลีกย่อย ยังมีอีกเยอะ ที่จะต้องเจอ สำหรับพวกเรา เป็นลำดับๆ ไป
    ที่จะต้องแก้ไขที่จิตใจเรา หากมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ ไม่แพ้ต่อกิเลสเสียก่อน

    ฉะนั้น ก็จะไม่งง กับการมาตั้งคำถาม อันเกินวิสัย เนอะ..!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2011
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    [​IMG]

    pity_pig ว้าว วันนี้ หล่อมากมาย สมาร์ทมั๊กๆ นะเอย นะเอย
     
  17. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  18. สุรีบุตร

    สุรีบุตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +7
    สังเกตุดูถ้าเป็นกระทู้ที่เกี่ยวกับโสดาบันแลดูเหมือนคนนิยมเข้าดีนะครับ
     
  19. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,077
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,669
    ลองพิจารณาธรรมรอบตัว ลองพิจารณาธรรมที่ดำรงเป็นตัว ลองดูสิว่าอัตตามันมีซะทีไหน มีอะไรที่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของได้บ้าง มีอะไรที่บังคับบัญชาได้ดั่งใจบ้าง

    กายใช่ไหม บังคับไม่ให้มันแก่ได้ไหม ใจใช่ไหม บังคับให้มันหยุดนิ่งถาวรได้ไหม

    อัตตาก็ส่วนหนึ่ง ความปรุงแต่งจากกิเลสทั้งหลายก็ส่วนหนึ่ง ถ้าเราจะไปใช้อัตตาเป็นกิเลส อนัตตาเป็นไม่มีกิเลส มันไม่ใช่นะครับ เพราะทั้งอัตตา อนัตตา มันเกิดจากิเลสทั้งสิ้น

    ดูที่ตัวทุกข์ หาสมุทัยให้เจอ อย่าไปหลงเงา เจริญธรรมครับ
     
  20. สุรีบุตร

    สุรีบุตร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +7
    พลังการให้คะแนน: 873
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    ให้คะแนนยังไงครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...