หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช กับพระบูชาหลวงปู่คำพันธ์ (แบบยืน)

 

ตามไปดูท่าน ดร. วิเคราะห์ยุคประวัติแห่งพระกริ่งปวเรศกันครับ

97. พระกริ่งปวเรศ แบ่งออกเป็น 4 ยุค

หากจะกล่าวถึง พระกริ่งปวเรศ อีกทั้งรวมไปถึงพระเครื่องต่างๆที่สร้างโดยกลุ่มคนของวังหน้า ประกอบด้วยยุคสมัยของผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ทั้งผู้สร้าง และผู้อธิฐานจิต จากการพบเห็นและสัมผัสองค์พระเครื่องมากมาย กล่าวโดยภาพรวมแบ่งออกเป็น 4 ยุคสมัยดังต่อไปนี้​

พระกริ่งปวเรศและพระเครื่องวังหน้า ยุคที่ 1
--- เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2394 ถึง พ.ศ.2408
ในสมัยของ
--- รัชกาลที่ 4
--- พระบาทสมเด็จฯพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระบาทสมเด็จฯปวเรศ), ตำแหน่ง วังหน้า
--- สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ​

พระกริ่งปวเรศและพระเครื่องวังหน้า ยุคที่ 2
--- เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2408 ถึง พ.ศ.2411​

ในสมัยของ
--- รัชกาลที่ 4
--- ตำแหน่ง วังหน้า ว่างเว้น​

--- สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ​

พระกริ่งปวเรศและพระเครื่องวังหน้า ยุคที่ 3
--- เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.24011 ถึง พ.ศ.2415​

ในสมัยของ
--- รัชกาลที่ 5
--- กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ตำแหน่ง วังหน้าองค์สุดท้าย​

--- สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ​

พระกริ่งปวเรศและพระเครื่องวังหน้า ยุคที่ 4
--- เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.24015 ถึง พ.ศ.2428​

ในสมัยของ
--- รัชกาลที่ 5
--- กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ตำแหน่ง วังหน้าองค์สุดท้าย​

หมายเหตุ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล หรือ พระมหาอุปราช แต่เรียกกันเป็นสามัญว่าวังหน้า เป็นตำแหน่งที่พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาขึ้น ซึ่งมีความสำคัญรองลงมาจากพระมหากษัตริย์ และมีฐานะเป็นองค์รัชทายาทผู้มีสิทธิ์ที่จะขึ้นครองราชสมบัติพระองค์ต่อไป ​

ข้อเท็จจริง​

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
--- ในปี พ.ศ. 2394 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.4) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฤกษ์ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ เสด็จสถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร​

--- เมื่อปี พ.ศ. 2416 พระองค์ทรงเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งในปีเดียวกันนี้ ทรงได้รับการโปรดเกล้า ฯ เลื่อนพระอิสริยยศขึ้นเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์​

ข้อสังเกต
--- พระนาม(ชื่อ)เดิมใช้ในปี พ.ศ. 2394 ถึง พ.ศ. 2416 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฤกษ์ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์
--- พระนาม(ชื่อ)เปลี่ยนใหม่ในปี พ.ศ. 2416 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ หากใครเคยศึกษาประวัติการสร้างพระกริ่งที่มีเซียนตำราเขียนไว้ในก่อนหน้านี้ มีตั้งแต่ พ.ศ.2404, 2409, 2411, 2416, 2426 และ 2434 ว่าเป็นพระกริ่งที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์สร้างย่อมผิดไปจากข้อเท็จจริง อันที่จริงแล้วพระกริ่งของวังหน้าที่เรียกตามชื่อย่อของ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งครองตำแหน่งวังหน้าตามพระนาม(ชื่อ)ย่อของพระองค์ท่าน "ปวเรศ" ซึ่งหมายถึง พระกริ่งวังหน้า เริ่มสร้างตั้งแต่ ปี พ.ศ.2394 สืบต่อกันมา 4 ยุคสมัยด้วยกัน
<SUP id=cite_ref-1 class=reference></SUP>
<SUP id=cite_ref-1 class=reference></SUP>
ความจริงที่แตกต่าง พระกริ่งปวเรศที่ผู้เขียนพบและสัมผัสจากผู้สืบทอดสายวังหน้าโดยตรง พบพระกริ่งปวเรศที่ได้จารึก "ปวเรศ" สร้างอธิฐานจิตในวาระปี พ.ศ. 2394 เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ขึ้นครองราชย์สมบัติคู่กับ รัชกาลที่ 4 ที่เรียกสั้นๆว่า "ปวเรศ" เป็นนามย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว​

 

พระพิมพ์สมเด็จ ข้างหลังจารึกอักษร และประจุเม็ดกริ่งเหมือนเหล็กไหล
สวยงามมากๆครับ ยอมรับว่ามึนๆนิดหน่อย (น่าจะมีพระธาตุ)

Link ที่มา

 

คิดว่าจะโทรไปคุยครับ ผมจะสอบถามจากครูชาติก่อนว่า ช่วงไหน เวลาไหนที่แม่ชมพอมีเวลาว่างได้พูดคุยกันครับ.....เผื่อจะได้ข้อแนะนำดีๆ...

 

งามครับ ภาพชัดมากเห็นรายละเอียดชัดเจน พิมพ์ทรงคล้ายกับองค์เปียกทองที่ผมโพสไว้(องค์ของผมน่าจะเป็นกรุเจดีย์ทอง)

ขอบคุณครับ...สวยงามทุกองค์ครับ

 

ไม่ต้องซีเรียสนะครับท่านนนต์.....ถ้าไม่จำเป็นผมว่าเก็บไว้ใช้งานใหญ่เถิดนะครับ...

 

สงสัยจะแรงจริงๆครับ พระกลุ่มนี้
ใช่มั๊ยท่านสมาชิกธรรม

 

ช่ายครับ ใจเย็นๆ ยังไงพระท่านก็อยู่ในกลุ่มนักรบธรรม

 

ขอบคุณครับผม ก็ให้ไว้เป็นวิทยาทาน
องค์นี้ไม่ทราบเสด็จมาจากจุดใด เพราะมีหลายจุด
แต่ต้องล้างให้ดีก่อน ไม่รู้พ่อค้าพระอัญเชิญท่านไปแอบไว้ที่ไหนมาบ้าง
บางคนซุกพระพิมพ์สำคัญๆไว้ใต้เตียงนอน เฮ๊อ...!

 

คุณแม่อยากคุยด้วยอยู่นะ แต่ไม่มีเบอร์ท่าน ผมก็ไม่ได้ให้ หุหุ
เดี๋ยวก็คงมีวิธีสื่อสารกันเอง ฮา..

 

98. พระสมเด็จ พิมพ์ พิเศษ ของสมเด็จโต...2

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) เนื้อผง ด้านหลังฝังพระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2411​

พระพิมพ์พิเศษองค์ที่ 1 พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2411 ฝังหลังพระผงเนื้อสมเด็จฯโต​

​

พระพิมพ์พิเศษองค์ที่ 2 พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2411 ฝังหลังพระผงเนื้อสมเด็จฯโต ​

​

พระกริ่งปวเรศ พิมพ์สมบูรณ์พูนสุข พ.ศ.2411 ฝังด้านหลังเนื้อผงสมเด็จพิมพ์พิเศษ​

​

รูปด้าน พระผงรูปเหมือนสมเด็จพุฒจารย์โต ด้านใต้ระบุจารึก พ.ศ.2411

​

ด้านหลัง พระผงรูปเหมือนสมเด็จพุฒจารย์โต ฝั่งพระกริ่งปวเรศ พิมพ์นี้ผู้เขียนไม่เคยพบเห็น นับได้ว่าเป็นพระกริ่งปวเรศ อีกพิมพ์หนึ่งที่สร้างในวาระ พ.ศ.2411​

​

--- พระแท้ จะบอกว่าเป็นพระเก๊ พระปลอมเรียนแบบย่อมเป็นไปไม่ได้
--- พระเก๊ พระปลอม จะนำข้อมูลร้อยแปดพันเก้ามากล่าวอ้างว่า "เป็นพระแท้" ยังไงก็คือ พระเก๊ ปลอมเรียนแบบ
--- พระแท้ ต้องมีคู่แฝด หากพระกริ่งปวเรศองค์ใด ไม่มีคู่แฝด ผู้เขียนกล่าวเพียงสั้นๆว่า...เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนเซียนตำรา​

พูดไม่ทันขาดคำมาแล้วครับ แรงจริงๆ

 

คำคมสุดยอดเลยครับพี่ชาย

 

น่านซี...โจทย์ใหม่นะเนี่ย หุหุ


ผงมวลสารน่าจะหัวกะทิล้วนๆ
น่าจะใช้หลักการเดียวกันกับค่าแปรผันพระธาตุกับมวลสารเลยนิ

 

นั่นสิไม่รู้เก็บกันยังไงบ้าง.....แต่เมื่อท่านมาโปรดแล้วก็เป็นบุญของเราไป ท่านคงจะเมตตาปกป้องคุ้มครองตามที่เราศรัทธาบูชาท่านนะครับ

เรื่องแม่ชม.....อยากคุยด้วยกะผม แสดงว่าท่านสมบัติได้สนทนากับท่านบ่อยๆผมได้คุยกับครูชาติแล้วว่าจะหาเวลาช่วงว่างๆจะโทรไปสนทนาธรรมกับท่าน รู้สึกผูกพันยังไงไม่รู้ แปลกนะ

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nontayan
ผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นของใคร...แต่เหลือจัดได้แค่ 1 ชุดครับ (องค์รอง 4 องค์ที่คัดไว้เสียด้วยซิ ต้องคุยกันรอบนอกครับ)

</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ IT Man
คือ...ท่าน ดร.นนต์ท่าทางท่านจะซีเรียสแล้วอ่ะครับ
ถึงกับต้องขอนอกรอบและเหลืออยู่ชุดเดียวเอง หุหุ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

มีบางคนบอกเป็นนัยว่า...บุรุษผู้หนึ่งสามารถอธิษฐานขอพระเสด็จมาได้ และเมื่อให้ใครแล้วยังสามารถเรียก(อัญเชิญ)ท่านเสด็จกลับมาได้หากคนนั้นกลายเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ (ประมาณนั้น) แต่เชื่อได้ว่าเขาจะไม่กระทำเช่นนั้น... แค่เล่าให้ฟังจะได้ไม่ซีเรียสนะครับ...(???)

ปล. ชุดนี้แรงพอไหมครับสำหรับท่านสมาชิกธรรม... ถ่ายไม่ชัด รอดูองค์จริง ถ้าไม่มีพลังจะได้อัญเชิญท่านเข้ากรุเจดีย์สืบศาสนาต่อไปอีกพันปี ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองตามหลักกาลามสูตรครับ

 

พระชุดไตรภาคี ที่ผมแขวนประจำครับ 1. องค์พระพุทธเจ้าองค์ปฐม(พระคำข้าว) 2.องค์พระพุทธเจ้าที่4(สมณโคดม) 3. องค์พระพุทธที่ 5 (หลวงปู่ทวดปี 2497)

 

ยิ่งใกล้ปี 2555 ภัยพิบัตินานาจะบังเกิดขึ้น วัตถุศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเริ่มปรากฏขึ้นตามอนาคตญาณของเหล่าอริยเจ้าที่ได้เสกสรรค์สร้างขึ้นมา และอาจกำกับเวลาให้ปรากฏขึ้นไว้เสร็จสรรพ ปัจจุบัน เราเริ่มเห็นสิ่งเหล่านั้นผุดขึ้นมาจากใต้ดิน เสด็จมาทางอากาศ หรือเสด็จมาตามแผงพระ เพื่อหลั่งไหลไปอยู่กับเหล่าพุทธวงศ์เพื่อการบางอย่าง ผู้มีบุญทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายสัมมาทิฏฐิ จะเห็นท่านเป็นของล้ำค่า ฝ่ายมิจฉาทิฏฐิจะเห็นเป็นของตลกเป็นอิฐหินดินปูนไปเสียทั้งหมด เมื่อกาลเวลาอันควร ท่านจึงได้ปรากฏขึ้นมาดั่งที่เรากำลังเห็นกันอยู่นี้กระมัง...ผู้มีบุญก็เริ่มเปิดเผยตัวมากขึ้น... จงเกาะกระแสธรรมไว้ทุกคนนะครับ...

 

ยิ่งล้วงยิ่งลึก.....จนสุดของสุดแขนแล้วนะนี่ ยังมีมาให้ค้นหาศึกษาต่อไปอีก จะพยายามดูนะครับถ้ามีมากหน่อยโอกาสพบเจอก็มีมากตามไปด้วย

กลุ่มเดิมของท่านสมบัติ.....มีความเห็นยังไงครับ

 

พระพิมพ์เนื้อชินกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เสกด้วยอำนาจแห่งเตโชกสิณ ของเหล่าพระฤาษี
อภินิหารและฤทธาจึงค่อนข้างเยอะหน่อย
น่าจะเหมาะกับผู้ปราถนาเช่นนั้น และเคยอยู่ในกลุ่มนั้น เนอะ

เห็นด้วยมั๊ยครับท่านสมาชิกธรรม