กรรมจากการด่าว่าพ่อแม่ การขาดสติ และการไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ประสบการณ์จริง กรรมจากการด่าว่าพ่อแม่ การขาดสติและการไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง ทุกวันนี้ชีวิตไม่มีความสุข ทุกข์ใจมากๆ และอยากเตือนสติทุกคน อยากให้คนอื่นได้มาอ่าน

(1.)ตอนเราวัยรุ่น พ่อแม่เคยสั่งเราให้เลิกคบกับผู้ชายคนหนึ่ง สาเหตุเพราะแฟนทำตัวไม่เอาไหน ไม่สนใจเรียน เคยโดนไล่ออกจากโรงเรียน พ่อแม่บอกว่าผู้ชายคนนี้คบไม่ได้เลย บอกให้เลิกคบเด็ดขาด พ่อแม่เคยเห็นกับตาว่าผู้ชายคนนี้คบผู้หญิงหลายคน ตอนนั้นเรารักผู้ชายคนนี้มาก หูหนวกตาบอด ยอมขัดคำสั่งพ่อแม่พยายามทุกทางที่จะคบผู้ชายคนนี้ต่อ แอบคบผู้ชายคนนี้อยู่ผู้ชายคนนั้นโกหก ปิดบังเรา บอกเราว่าเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้เราก็เชื่อเขา เลือกที่จะไม่เชื่อพ่อแม่ปัจจุบันนี้รู้มาว่าผู้ชายคนนี้เจ้าชู้มีเมียหลายคน เรียนไม่จบม.ปลายและทำผู้หญิงหลายคนท้องโดยไม่รับผิดชอบfficeffice" /><O></O>
<O></O>
พอเราเรียนจบม.ปลาย พ่อแม่ส่งเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ เลยไม่ได้เจอผู้ชายคนนี้อีกถือว่าเป็นโชคดีที่พ่อแม่เราตัดสินใจถูก ให้เราแยกออกจากผู้ชายคนนี้โดยการเปลี่ยนที่อยู่ใหม่<O></O>
<O></O>
เมื่อเราไม่เชื่อฟังพ่อแม่ พ่อแม่เลยต้องลงโทษเราบางครั้งเฝ้าตามติดเราทุกฝีก้าว กลัวว่าเราจะหนีตามผู้ชายคนนั้นไปบังคับไม่ให้เราไปไหนคนเดียวเรารู้สึกอึดอัด เราไม่พอใจพ่อแม่ มาสั่งเราทำไมเราโตพอที่จะสามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องมาสอนเรา เราไม่เชื่อคิดว่าตัวเองฉลาดแล้ว เขาสั่งสอนเราทีไร เราจะเถียงไว้ก่อน โวยวายเสียงดังผิดถูกไม่รู้ ทำตัวต่อต้านตลอดเวลาเคยลืมตัวถึงขนาดสาปแช่งพวกเขาด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่รู้เลยว่าบาปกรรมมันมีจริง..<O></O>
<O></O>
หลังจากนั้น เราเกือบเรียนมหาลัยไม่จบ ไม่ชอบเข้าเรียน แต่ก็จบมาได้อย่างทุลักทุเล จบปริญญาตรีเข้าทำงานได้ไม่เกิน 2 วันก็ออก หางานไปเรื่อยๆอายุก็มากขึ้น เจอผู้ชายแต่ละคนก็หวังเข้ามาปอกลอก หลอกเงินบ้าง หลอกฟันบ้าง ยังดีที่ไหวตัวได้ทัน เคยโดนหลอกว่าเป็นลูกหลานคนรวย เข้าตามตำราที่หมอดูทักไว้ก่อนหน้านี้เป๊ะ หลงเชื่อว่าคนนี้เป็นเนื้อคู่แน่นอน (โดนผู้ชายหลอกไม่พอ ยังโดนหมอดูหลอกอีก) และมารู้ความจริงทีหลังว่า เขาเป็นพ่อค้าขายของตามตลาดนัด แต่งงานมีลูกมีครอบครัวแล้ว (เชื่อหมอดู เชื่อผู้ชาย แต่ไม่เชื่อพ่อแม่)ก่อนจะจากผู้ชายคนนี้มาได้ เสียเงินทองไปเยอะ อ้างความจำเป็นต่างๆนานา ให้จ่ายเงินค่านู่นนี่ สุดท้ายเกือบโดนหลอกเสียตัว ให้ความรักใครก็ได้แต่ความเสียใจกลับมา<O></O>
<O></O>
ชีวิตไม่เคยทำอะไรสำเร็จตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าจะคิดลงมือทำอะไร ไม่เคยทำได้ จะต้องมีเรื่องมีเหตุให้ล้มเลิกมันไปอยู่เรื่อย รู้สึกท้อแท้หมดอาลัยตายยาก โดนญาติๆ เพื่อนๆ คนรอบข้างดูถูกว่าทำตัวไม่ดี เลยเจอแต่คนไม่ดี เรื่องไม่ดี บางคนมองด้วยสายตาเหยียดหยามทุกวันนี้ คิดได้ว่านี่คงเป็นกรรมที่เราทำกับพ่อแม่ ที่เคยทำให้ท่านเสียน้ำตาเลยต้องมาเสียน้ำตากับผู้ชาย<O></O>
<O></O>
<O></O>
(2.)เรื่องต่อมาคือ กรรมที่เกิดจากการใช้แต่อารมณ์โดยไม่มีเหตุผล<O></O>
<O></O>
หลังจากมีเรื่องไม่เข้าใจกับพ่อแม่ เราโดนกดดันหลายอย่าง พ่อแม่ไม่เชื่อใจเราอีกต่อไป ไม่ว่าจะทำอะไรท่านมักจะคิดลบกับเราไว้ก่อน เข้าใจว่าคงเพราะท่านเคยไว้ใจเรา แต่เรากลับทำให้ท่านเสียใจ ตั้งแต่นั้นมาเรากลายเป็นคนที่มีปัญหาบุคลิกภาพ กลายเป็นคนไม่มีเหตุผล ไม่ยอมรับความจริง ไม่มีความอดทน และไม่พอใจอะไรง่ายๆ บางครั้งโมโห ด่าคนนั้นในใจ เป็นคนปากเสีย โมโหร้าย เก็บอารมณ์ไม่อยู่ เวลาพ่อแม่ขัดใจ เราจะเถียงแบบไม่ฟังเหตุผล บางครั้งเราก็บ่น หาเรื่องเล็กเรื่องน้อยมาบ่น จนพ่อแม่เอือมระอา บ่นว่าเครียดที่ลูกไม่เชื่อฟัง บางทีขึ้นเสียงกับท่าน ท่านจะได้ไม่กล้าสั่งสอนเรา ท่านว่าอะไรเราไม่เชื่อไม่ฟัง สนใจแค่ความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น<O></O>
<O></O>
ท่านเคยจะพาเราไปหาจิตแพทย์ คิดว่าเราอาจเข้าข่ายโรคจิตเพราะอารมณ์แปรปรวน เราบอกว่าไม่ไป ท่านบอกท่านอดทนเอา จนเพิ่มความเครียดมากขึ้น กลับกลายเป็นท่านที่ต้องไปพบหาหมอเสียเอง จากสิ่งที่เราทำทั้งหมดเหล่านี้ ทำให้แม่เป็นโรคไมเกรน ความดันในเลือดสูง<O></O>
<O></O>
หลังจากนั้นกรรมก็ตามทัน ผลลัพธ์คือเราทำอะไรไม่เคยสำเร็จในชีวิต ในทุกๆเรื่องๆ แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เราตั้งใจจะเรียนคอร์สระยะสั้นภาษาจีนให้ผ่าน ก็เรียนไม่ผ่าน เวลาไปทำงานก็ทำงานเสียหาย ทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่ได้ เจ้านายบอกว่าเราไม่มีความสามารถ เราทนอายตัวเองไม่ได้ เลยลาออกจากงาน และยังเชื่อคนง่าย ชอบโดนคนเอาเปรียบ คนอื่นเข้าหาเอาใจ แกล้งชม เราก็เชื่อใจเขาแล้ว เขาชวนให้ลงทุนขายตรง รายได้จะดีแบบนั้นแบบนี้ ก็เชื่อ และสุดท้ายก็เสียเงินฟรีอีก ถามตัวเองว่า คนอื่นทำไมเชื่อได้ แต่ทำไมไม่เชื่อพ่อแม่และเวลามีปัญหาก็ไม่มีใครช่วย ทุกข์ทรมานสุดท้ายก็ต้องพึ่งพ่อแม่<O></O>
<O></O>
(3.)เรื่องสุดท้าย กรรมที่เกิดจากการเข้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หวังพึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยว เพื่อให้ตนเองสบายใจ แต่ไม่เคยเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ดีของตนเองได้<O></O>
<O></O>
ตอนที่เราเครียดมากๆหันไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราเคยบนบานว่าขอให้เราได้งานทำ เราได้งานแล้วเราจะถวายอาหารเครื่องดื่ม แต่เมื่อเราได้งานแล้ว เราไม่ได้ทำตามที่บอกท่านไว้ หลายครั้งสัญญากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าจะว่านอนสอนง่ายกับพ่อแม่กว่านี้ เราก็ไม่เคยทำได้ สัญญาพร่ำเพรื่อที่ไม่รู้ว่าตนเองจะทำได้หรือไม่ได้ แต่ขอสัญญาไว้ก่อน เพราะอยากปลอบใจตัวเองว่า เราก็เป็นคนดีกับเขา เพราะอยากจะเปลี่ยนตัวเองให้ได้<O></O>
<O></O>
พยายามหลอกตัวเองว่าเราเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้วนะ เชื่อฟังพ่อแม่ สร้างภาพต่อเพื่อนๆ ใครต่อใคร ว่าเราเป็นคนดีมาก(แต่ความจริงไม่ใช่) และกรรมที่ได้รับจากการไม่ทำตามสัญญา ก็ส่งผลให้ชีวิตทำอะไรไม่ขึ้น เพราะสัจจะวาจาที่เราให้ไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เราทำไม่ได้ เมื่อเราทำไม่ได้ก็เท่ากับเราลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชีวิตจึงต้องเป็นแบบนี้ คือรับกรรมที่ตนทำไว้ ซึ่งไม่รู้จะหมดเมื่อไหร่และตอนนี้รู้สึกทรมานมาก<O></O>

 

ถ้ารู้ตัวว่าเคยทำผิด ก็ให้กลับไปขอขมากับพ่อแม่ครับ

แล้วค่อยๆตั้งต้นชีวิตใหม่ ทำดีกับพ่อแม่ให้มากขึ้น

ชีวิตก็จะค่อยๆดีขึ้นเองครับ

 

สู้ สู้คะ ชีวิตยังเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

 

ขอขมา......

....การล้างเท้าพ่อแม่...ถือเป็นบุญใหญ่ที่สุด....หากผู้ใดได้ทำ...จักส่งผลให้ชีวิต...พานพบแต่ความสุข..จักอยู่ที่ใดก็ตาม...ก็จะมีคนเมตตา...ค้ำจุน

 

โมทนา กับความคิดนี้ครับ เป็นสิ่งที่จริงจังและต้องทำก่อน

ต่อไป ก็ไปขอขมาพระรัตนตรัย

กลับตัววินาทีนี้ ทำสิ่งที่ดีพร้อมกับรับผลของกรรมไปด้วยนะครับ มีเวลามีโอกาส อย่าได้ปล่อยไป

โมทนาครับ

 

อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกเป็นอย่างมากเลยคะ คนเรามารู้ตัวตอนนี้ใช่ว่าจะสาย รู้ตัวและแก้ไขเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้เป็นคนใหม่ เมื่อรู้ไม่ดีก็อย่าไปทำ กรรมมันตามทันเราตลอดเวลาไม่ช้าก็เร็ว คนที่ทุกข์ทนมาณมากที่สุดคือตัวเราเช่นกัน ถ้าคุณอยากสบายใจ
คุณอึดอัดสิ่งไหนมากที่สุด ทำสิ่งนั้นก่อนเลยคะ อย่างน้อยแก้กรรมไม่ได้ แต่แก้ใจเราที่มันติดค้างได้อยู่บ้างนะคะ อย่างเช่นเรื่องพ่อแม่ คุณเองก็คิดได้ว่าคุณทำไมดีกับพ่อแม่ ตอนนี้เมื่อคุณคิดได้ คุณก็จงไปแก้ไขมัน อย่างที่ radeang ได้บอกคือการขอขมา พ่อกับแม่ ล้างเท้าให้ท่านและขอขมาท่านขอให้อโหสิกรรมสิ่งที่ลูกได้กระทำไปโดยทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ถ้านำพวงมาลัยไปไหว้ที่เท้าท่านได้ยิ่งดี อย่ากลัวที่จะอายนะคะ เพราะสิ่งที่ผ่านๆๆมาเรากระทำไปยังไม่อาย แค่เรื่องล้างเท้าเรายังอาย รีบทำเถอะนะคะ อย่างน้อยเราก็ได้แก้ กรรมในใจเราไปได้บ้างไม่มากก็น้อย ที่พอแนะนำได้บ้างก็เพราะว่ากิเอง ก็ทำกับพ่อแม่ไว้ เยอะคะ สมัยก่อนทำให้ท่านร้องไห้ เคยสู้กับพ่อแม่เวลาตี พูดจาหยาบคาย กระทำสิ่งที่ไม่ดี รักผู้ชายมากกว่าพ่อแม่ แต่สุดท้ายแล้ว คนที่เรารักเค้า เค้ากลับไม่ได้รักเราเหมือนที่ พ่อแม่รักเราหรอกคะ ลูกจะดีจะชั่วยังไง พ่อแม่ก็ยังรักเราเสมอเพราะเราคือลูกของท่าน ขอให้ท่านประสบความสำเร็จ สิ่งที่ทำนะคะ สู้ๆๆๆ

 

เคยเป็นเหมือนเจ้าของกระทู้ทุกอย่าง ดื้อกับพ่อแม่ เรียนจบช้า คบผู้ชายไม่ดี เปลี่ยนงานบ่อย เชื่อคนง่ายใครมาทำดีด้วยนิดหน่อยก็คิดว่าคนๆนั้นเป็นคนดี ชอบสร้างภาพตัวเองว่าเป็นคนเรียบร้อย แต่จริงๆโมโหร้าย เจ้าอารมณ์ เถียงพ่อแม่ตลอด บนบานสิ่งศักดิ์ก็ไม่เคยแก้บนพูดส่งๆไปอย่างนั้นเอง แทบไม่น่าเชื่อเจ้าของกระทู้เหมือนกับดิฉันในอดีตแทบจะทุกอย่างก็ว่าได้

วิธีแก้ อย่างแรกเลยคุณก็ต้องไปขอโทษพ่อกับแม่ของคุณก่อน จะวิธีไหนก็ได้ แต่คุณต้องรู้ตัวคุณเองนะคะ ว่าตอนนี้คุณได้สำนึกผิดแล้วจริงๆ

หลังจากนั้นก็ค่อยๆเปลี่ยนตัวคุณเองกับคนรอบข้าง มีความจริงใจให้กับทุกคนโดยการเป็นตัวของตัวเอง เลิกสร้างภาพเหมือนเมื่อก่อน อันไหนที่เราทำให้คนอื่นได้เราก็บอกว่าทำได้ อันไหนที่เราทำให้ไม่ได้เราก็บอกว่าทำไม่ได้

หางานที่คุณชอบและสนใจกับมันจริงๆคุณจะได้ประสบความสำเร็จกับงานนั้น และเมื่อได้รับเงินเดือนก็แบ่งเงินจำนวนนั้นให้พ่อกับแม่ของคุณด้วย

หัดเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น ถ้าทำไม่ได้ก็อย่ารับปาก ส่วนเรื่องผู้ชายก็ดูกันไปนานๆเพราะดิฉันเชื่อว่าผู้ชายที่ดีก็ยังมีอยู่มากมายแต่อาจจะเจอยาก แต่ถ้าไม่เจอก็ไม่เป็นไรเพราะผู้ชายไม่ใช่จุดสูงสุดในชีวิต

พยายามคิดดีทำดี และมีสติ มันอาจจะยากสักหน่อย แต่ถ้าเราทำได้ปัญหาต่างๆก็จะหมดไป ดิฉันใช้เวลาปรับตัวอยู่นานมากประมาณ5ปีได้ กว่าจะเคยชินกับการปรับตัวของตัวเอง ผลสะท้อนที่กลับมาชีวิตมีความสุขขึ้นมาก พ่อแม่ของดิฉันเองก็มีความสุข

ดิฉันเชื่อว่าเจ้าของกระทู้จะสามารถปรับตัวได้ เพราะจากที่อ่านๆมาเรามีหลายๆอย่างที่คล้ายกัน จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ สู้

 

ก็ว่าถ้าตนเองผิดจริงสาหตุแรกเลยที่สำคัยพ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูกที่ท่านว่ากล่าวตักเตือนบ่อยๆไม่ใช่ท่านไม่เชื่อใจเราแต่ท่านเป็นห่วงเรา ควรกลับไปขอขมาพ่อแม่นะแล้วทุกๆอย่างจะดีขึ้นตามลำดับนะครับ

 

บางรายมีญาติเป็นหญิงวัยเกษียร คนที่บ้านจะไหว้พระ หรือทำบุญ เขาจะคอยว่า ว่าพระไม่ทำอะไรเอาแต่กินแล้วก็นอน ไหว้พระทำไม ไม่เห็นทำให้รวยขึ้น พระหากินเองไม่เป็น ทำนองนี้ ญาติจะสร้างพระแจกเป็นทาน ก็ว่าญาติบ้าพระ คนในบ้านจะโดนแกดุด่าว่า ด้วยถ่อยคำที่สะเทือนใจ ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจมานานหลายปี แกจะได้รับผลกรรมบ้างไหม แต่ที่แน่ๆ เขาเล่าว่าญาติคนทีไม่มีคุณธรรม หัวล้านแล้ว ผมเหลือไม่กี่กระจุก ญาติแกอยู่บ้านตื่นเช้ามาก็บ่นว่าตลอดวัน เจอจิ้งจกก็จับมาบีบให้ตายคามือ เห็นอะไรบ่นไปหมดทุกเรื่อง

 

ผมอ่านแล้วเข้วใจเจ้าของกระทู้เลยครับ ผมเป็นผู้ชายนะครับอาจจะไม่เหมือนเจ้าของกระทู้ซะทีเดียวแต่ก็มีส่วนเหมือน ผมเคยทำให้แม่ผมน้ำตาไหลเหมือนกันครับ ตอนช่วงเข้ามหาลัยใหม่ๆ จากมัธยมที่มีคนคอยบังคับ พอขึ้นมหาลัยไม่มีคนมานั่งบังคับทำให้ตัวเองหลุดทะเลไปเลย แม่ผมก็เสียใจมากที่ทำไมการเรียนตกต่ำขนาดนี้ แต่ผมเข้าใจเจ้าของกระทู้นะครับว่า สังคมสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนที่จะหาคนที่จริงใจได้ง่าย สมัยนี้เป็นสังคมสวมหน้ากากทั้งนั้น ใครจะได้ดีต้องสวมหน้ากากเข้าไปเล่นละครอย่างที่คุนบอกว่า มีคนมาขายแอมเวย์แล้วโดนหลอก ผมก็เคยโดนมาชวนไปครับแต่พอรู้ว่าเป็นแอมเวย์ก็ปฏืเสธไปเพราะไม่ใช่คนที่ครอกแล้วไม่ใช่ตัวของตัวเอง สิ่งที่แก้ได้ดีที่สุดคือไปขอโทดพ่อแม่กับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปนะครับ