ท่องดินแดน

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย guawn, 27 มกราคม 2007.

  1. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    <TABLE id=Table9 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left height=118><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#2b3189><TD class=messageblack vAlign=top align=left bgColor=#ffffff height=32><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR bgColor=#2b3189><TD class=messageblack vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>ท่องดินแดน
     
  2. Varanasi

    Varanasi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +40
    อ่านข้อความขอนุโมทนาและขอเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่สนใจจะมาอินเดีย โดยรายละเอียดที่จะให้ต่อไปนี้ สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางมาด้วยตนเองในราคาที่คุณสามารถเลือกได้ คำแนะนำนี้ผมมอบให้แก่ผู้เข้าชมเว็ปไซต์พลังจิตเป็นธรรมทานเป็นบันไดให้ผู้จาริกแสวงบุญที่มีศรัทธาและพอมีเงินได้มีโอกาส ดังมีรายละเอียดดังนี้
    ฤดูกาลที่ควรจะมาเที่ยวอินเดีย นับตั้งแต่สิ้นพรรษาแล้วจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็นควรเตรียมชุดกันหนาว ถุงเท้า ถุงนอนแต่ไม่ต้องขนมาเยอะจะได้สะดวก

    เริ่มแรกไปสถานทูตอินเดียตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท แถวมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ขอวีซ่าแบบนักท่องเที่ยว ๓ เดือน ขอแบบประเภทเข้าออกได้ M (Multipal) ค่าธรรมเนียมประมาณ ๑,๗๐๐ บาท

    ที่สองไปจองตั๋วเครื่องบินสายการบินไทย หรืออินเดียก็ได้ ราคาไม่น่าเกิน ๑๔,๐๐๐ บาท จองตามบริษัททัวร์จะได้ราคาถูก เลือกสุวรรณภูมิ - คยา(Gaya) ไปกลับลองคำนวณดูว่าจะกลับวันไหนจากข้อแนะนำต่อไป

    ที่สามจัดเตรียมสัมภาระที่จำเป็นและให้คิดว่าเรามาไหว้พระ มาเดินตามรอยพระพุทธเจ้า เตรียมศรัทธามาให้เปี่ยม

    ที่สี่นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินคยา ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง หากไม่มีสิ่งผิดกฎหมายก็สบายๆ หากไม่มีของมาพะรุงพะรังยิ่งสบายเดินออกมาข้างนอกสนามบิน ก่อนออกมาหาหาที่แลกเงินข้างในก่อน ๑ เหรียญอเมริกา ประมาณ ๔๖ รูปี ห้ามต่ำกว่า ๔๕ รูปี แลกสัก ๕๐ เหรีญก่อน ไม่ต้องแลกเยอะ แล้วเดินออกมาข้างนอกหันซ้ายหันขวาหน่อย

    ที่ห้าจะเจอรถออโต้ริคชอว์ ลักษณะคล้ายๆกับ รถตุ๊กๆบ้านเรา บอกว่าไป Thai Temple หรือ Main Temple หรือ Buddha Gaya ทั้งหมดที่กล่าวมาคือบริเวณใกล้เคียงกัน โดยให้ถามราคาก่อนหากราคาไม่เกิน ๑๐๐ หรือ ๑๕๐ รูปีแต่ไม่น่าจะเกินนี้ จำไว้ว่าถามก่อนขึ้นให้แน่นอนกันก่อน หรือไม่ก็ไปที่ Pre-paid จ่ายก่อนนั่งทีหลังราคาคิดว่าไม่น่าเกิน ๑๐๐ รูปีหรือ ๑๕๐ รูปี

    ที่หกเส้นทางออกจากสนามบินรถทุกคันต้องเลี้ยวขวา ไม่มีเลี้ยวซ้าย แล้วจะขับตรงไปเรื่อยๆ ทางเข้าจะมีซุ้มประตูอยู่ให้สังเกตุทางขวามือไว้จะเป็นมหาวิทยาลัยมคธ จะมีโรงแรมหรูๆ ไปเรื่อยๆให้สังเกตุจะมีพระอุโบสถลักษณะคล้ายกับพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร นี่คือ วัดไทยพุทธคยา มีพระเดชพระคุณ พระเทพโพธิวิเทศ (ภูริปาลมหาเถร ป.ธ.๙,Ph.D) เจ้าอาวาสให้ลงแล้วจ่ายเงินพยายามให้เงินตามที่ตกลงไม่ต้องใจอ่อน

    ที่เจ็ดเข้าวัดขอโอกาสพระภิกษุเข้าพักโดยแจ้งให้ทราบว่าเดินทางมาแสวงบุญคนเดียว ขอพัก ๒ คืนคะ/ครับ หากหิวข้าวก็บอกพระท่าน พอได้รับประทานอาหารแล้ว ตอนบ่าย....

    ที่แปดให้ออกมาหน้าวัดจะมีรถสามล้อเขาเรียกันว่า ริคชอว์ ไปนั่งไปที่Main Temple ราคาไม่เกินห้ามเกินด้วย ๑๐ รูปีภาษาฮินดีเรียกว่า ทัสรูปี

    ที่เก้าระหว่างให้สังเกตุเส้นทางซึ่งจะเป็นเส้นทางตรงๆ ไม่นานนักจับเวลาได้เลยว่าห้ามเกิน ๕ นาทีก็จะถึง ถ้าจะเดินไม่เกิน ๑๐ นาทีหากเกินกว่านี้ขอบอกว่า "หลงทางแน่แล้ว"

    ที่สิบสังเกตุดูคนเข้าๆออกๆ นั่นละตามเขาเข้าไป แล้วเงยหน้าขึ้นไป ๔๕ องศา จะเห็นเจดีย์พุทธคยา ไชโยมาถึงแล้ว (อย่าแสดงออกหน้า เพราะมาแสวงบุญ)

    ที่สิบเอ็ดเดินเข้าไป พยายามแสดงว่าเคยมาแล้วกล้องถ่ายรูปเก็บใส่กระเป๋าไว้ก่อนเพราะจะโดนเก็บค่ากล้อง ถามว่าทำไมต้องเก็บจะโกงแขกหรือ ตอบว่าไม่ได้โกง พวกนี้ไม่ได้ค่าเข้าก็จะต้องเอาสักค่าและคิดว่าคุณคงจะต้องไปอีกหลายครั้งแน่นอน

    ที่สิบสองถอดรองเท้า หากมีราคาแพงก็ต้องถอดแล้วเดินเข้าไป คราวนี้....

    ที่สิบสามเดินลงไป จะเห็นสิ่งต่างๆมากมาย ก็เก็บอาการไว้ก่อนไม่ควรดื่มด่ำธรรมชาติมากนัก ให้มองขั้นบันไดเดินลงไปด้วย เดี่ยวจะตกหกล้มลงไป เมื่อเดินไปถึงเบื้องล่าง ก้จะพบประตูเล็กๆ ภายในประดิษฐานพระพุทธเมตตา แต่ไปที่..

    ข้อสิบสี่ ให้เดินไปทางซ้ายมือก็คือเวียนประทักษิณนั่นเอง โดยกำหนดจุดที่เห็นพระพุทธเมตตาชัดเจนหรือไม่ก็เดินตามคนเขาไป

    สิบห้าไม่เกิน ๓๐ วินาทีจะพบต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ หากมีวิทยากรเก่งๆ คุณจะซาบซึ้งแล้วอาจกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะว่า.... คิดเอาเองนะ (หากผมว่างจะอาสาเป็นวิทยากรให้ แต่ผมพูดไม่ร้องไห้นะ)

    สิบหก บริเวณรอบๆ จะเป็นสัตมหาสถาน คือสถานที่สำคัญ ๗ แห่งที่ทรงเสวยสมมติสุขมีรัตนจงกรม ยังไงเดินให้รอบแล้วกัน จะมีป้ายบอกว่า สัปดาห์ที่เท่านี้ เรียกว่าอะไร พยายามเดินให้ดื่มด่ำได้ สวดมนต์ไหว้พระบ้างก็จะดี ลืมบอกไปว่าหนังสือสวดมนต์หากไม่ได้นำมา ขอพระภิกษุวัดไทยได้ครับ ท่านเมตตามาก

    สิบเจ็ดคิดว่าไม่น่าเกิน ๒ ชั่วโมงก็จะดื่มด่ำ แล้ว ออกมาที่ฝากรองเท้าจ่ายไปสัก ๑ รูปีหากคนเก็บมองหน้าชี้ไปที่ป้ายที่เขาเขียนไว้ว่า ทำบุญตามศรัทธา เพราะโอกาสหน้าคุณต้องกลับมาอีกครั้ง

    สิบแปดไม่ต้องตื่นเต้นหรือตกใจหรือยินดี ที่เห็นบรรดาพ่อค้าใหญ่หรือพ่อค้าเล็กจะรู้จักคุณตั้งแต่ถึงบริเวณ Main Temple จะเรียกคุณว่า อาจารย์ หรือสวด อิติปิโส ภควโต จนจบเพราะนักท่องเที่ยวชาวไทยมาจนพ่อค้าเหล่านี้พูดไทยได้ชัดเจนกว่าคนไทยเสียอีก

    สิบเก้าเดินออกมาจะเห็นวัดนานาชาติเช่นวัดทิเบต ภูฏาน ก็เข้าไปดูได้แต่จำไว้ว่าให้เดินทางกลับทางเก่า ทางซ้ายมือจะมีร้านขายอาหารชื่อร้าน Om Resturang โอม ให้เข้าไปแลกเงิน ๑๐๐ เหรีญประมาณ ๔๖๕๐ รูปีเป็นร้านที่อัตราแลกเปลี่ยนน่าจะให้ราคาดี

    ยี่สิบก่อนถึงกำแพงวัดไทยจะมีซอยเข้าไปก็เดินเข้าไปเดินเข้าไปเรื่อยๆ จะพบวัดภูฏาน วัดญี่ปุ่น ก็ไปชมสักหน่อย

    ยี่สิบหนึ่งระหว่างทางกลับจะเจอรถบริการมากมายเราเรียกว่า ตาต้าซูโม่ หากไปคนเดียวก็จ่ายคนเดียวแต่หากมีเพื่อนคือจะได้ช่วยกันเฉลี่ยราคาคันละ ๑,๖๐๐ รูปี เช่าตั้งแต่หกโมงเช้า ไปจนถึงหกโมงเย็น ทั้งวัน ถามว่าไปไหนละก็โปรแกรมวันพรุ่งนี้ไงครับ ไปเมืองราชคฤห์ และมหาวิทยาลัยนาลันทา

    ยี่สิบสองก็กลับวัดไปพักผ่อนหรือจะมความสวยงาม หรือจะสอบถามข้อมูลจากบรรดาพระภิกษุ หรือแม่ชี ทุกท่านก้พร้อมให้ข้อมูลที่ดีกว่าผมแน่นอน

    ตามชมวันพรุ่งนี้นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...