"การเดิน" ของพระอริยเจ้า

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 16 เมษายน 2011.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877


    อภิญญา แปล ว่า ความรู้ยิ่ง (supernatural knowledge) คือความสามารถรู้สิ่งที่คนธรรมดารู้ไม่ได้ สามารถทำสิ่งที่คนธรรมดาทำไม่ได้ แต่เป็นของธรรมดาสำหรับท่านผู้ได้บรรลุแล้ว


    อภิญญามีหกประการ ได้แก่
    1. อิทธิวิธี การแสดงฤทธิ์ต่าง ๆ เช่น คนเดียวทำเป็นหลายคนได้ ทำที่มืดให้สว่างได้ เมื่อต้องการจะไป ณ ที่ใดไม่มีอะไรขวางได้ เดินบนน้ำได้เหมือนเดินบนดิน ไปในอากาศได้เหมือนนก ย่นระยะทางได้ ฯลฯ
    2. ทิพโสต ฟังได้ทั้งเสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งระยะใกล้และไกล
    3. เจโตปริยญาณ การล่วงรู้จิตใจผู้อื่นว่ามีจิตอย่างไร คิดอะไร
    4. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติแต่หนหลังได้
    5. จุตูปปาตญาณ สามารถมองเห็นสัตว์ทั้งหลายผู้จุติอยู่เป็นอันมาก ใครไปเกิดที่ไหนด้วยกรรมอะไร
    6. อาสวักขยญาณ ความรู้ที่ทำให้สิ้นอาสวะ คือญาณในอริยสัจสี่ หรือปฏิจจสมุปบาท

    [FONT=&quot]อภิญญาห้าประการแรกเป็นโลกียอภิญญา ปุถุชนก็มีได้ ส่วนประการสุดท้ายเป็นโลกุตรอภิญญา มีได้เฉพาะพระอรหันต์เท่านั้น[/FONT]

    <TABLE style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto" class=tr-caption-container cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tr-caption>พระราชพรหมยาน ( หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    </TD></TR></TBODY></TABLE>[FONT=&quot]พระราชพรหมยาน หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้เคยเล่าให้ลูกศิษย์ของท่านฟังว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2484 ท่านได้มีโอกาสเดินธุดงค์ไปถึงป่าแถบเมืองเชียงตุง ได้พบเจดีย์ยอดด้วนองค์หนึ่ง เป็นเจดีย์เก่า อยู่ใกล้ต้นยางใหญ่[FONT=&quot] ท่านและเพื่อนสหธรรมิกร่วมธุดงค์ด้วยกันอีกสองรูปตัดสินใจว่าจะอาศัยเขต เจดีย์เป็นที่จำวัด เนื่องด้วยรอบบริเวณนั้นมีต้นไม้ใหญ่เป็นที่ร่มรื่นและอยู่ใกล้ภูเขา เมื่อท่านเดินเข้าไปใกล้องค์เจดีย์ ก็ปรากฏพระภิกษุรูปหนึ่งออกมาต้อนรับท่านและคณะด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส[/FONT][/FONT]

    หล[FONT=&quot]วงพ่อฤาษีลิงดำได้ถามพระคุณเจ้ารูปนั้นว่าอยู่ที่นี่นานแล้วหรือ ท่านตอบว่าอยู่นานแล้ว ถามว่าแถบนี้มีบ้านเรือนผู้คนหรือไม่ ท่านตอบว่าไม่มี จึงถามว่าแล้วอาหารบริโภคของพระคุณเจ้าได้มาจากที่ใด ท่านตอบว่าได้มาจากบ้าน ท่านเดินจนชินแล้ว จะไกลเพียงใดท่านเดินสักพักหนึ่งก็ถึงแล้ว[/FONT]

    พอ[FONT=&quot]เวลาเช้า พระคุณเจ้ารูปนั้นก็ห่มจีวร สะพายบาตรเดินออกไปหลังเขา หายไปสักสิบกว่านาที ก็กลับมาพร้อมกับอาหารหลายอย่าง มาอยู่กับท่าน 2-3 วัน ท่านก็ออกบิณฑบาตมาเลี้ยงทุกวัน[/FONT]

    เมื่อ[FONT=&quot]อาศัย อยู่กับท่าน ก็ได้คุยกันในฐานะนักปฏิบัติด้วยกัน รู้สึกว่าท่านมีความรู้ดีมาก มานั่งนึกในใจว่า นี่เราพบพระอรหันต์เข้าแล้วหรือนี่ พอนึกเพียงเท่านี้ ท่านก็ยิ้ม บอกว่านึกอย่างนั้นไม่ถูก เราไม่ควรนึกว่าคนอื่นเขาจะเป็นอะไร ใครเขาจะเป็นอะไรก็ช่างเขา ข้อสำคัญเราชำระจิตใจของเราให้สะอาดเป็นพอ[/FONT]

    วัน[FONT=&quot]ที่ลาท่านกลับ ท่านถามว่าจะไปไหน ก็ตอบไปว่าตั้งใจจะไปขึ้นรถไฟที่ลำปาง ท่านก็ชวนออกมานอกถ้ำที่ท่านอาศัยอยู่ แล้วชี้ให้ดูยอดเจดีย์ บอกว่าเจดีย์องค์นี้เป็นเจดีย์เก่ามาก ต่อ จากนี้ไป ถ้าจะมาเยี่ยมเยียนท่าน ก็ให้สังเกตยอดเจดีย์ให้ดี เจดีย์ตั้งอยู่ตรงนี้ เขาตั้งอยู่หลังเจดีย์ แล้วต้นยางต้นนี้ตั้งอยู่ด้านขวาของเจดีย์ หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ท่านชี้ให้ดูยอดเจดีย์จนเพลิน แล้วจู่ ๆ ท่านก็พูดว่า ถึงสถานีลำปางแล้ว[/FONT]

    พอ[FONT=&quot]ท่าน พูดขึ้นมาว่าถึงสถานีลำปางแล้วเท่านั้น ก็มองเห็นรถไฟวิ่งไปวิ่งมา กำลังสับเปลี่ยนราง ก็ตกใจ พูดคุยกันเบา ๆ กับเพื่อนสหธรรมิกว่า พระองค์นี้เป็นพระอรหันต์ทรงปฏิสัมภิทาญาณ เพียงพูดกันเบา ๆ เท่านั้น ท่านก็หันมายิ้ม เตือนอีกว่าอย่าสนใจกับคนอื่นสิขอรับ สนใจใจของท่านเองดีกว่า ชำระจิตให้สะอาดเป็นดี คนอื่นจะดีจะชั่วก็เรื่องของเขา[/FONT]

    เมื่อ[FONT=&quot]ถึง สถานีรถไฟลำปาง ท่านก็พาแวะเข้าไปในร้านขายอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อฉันเสร็จ เจ้าของร้านก็บอกว่ามีเจ้าภาพชำระค่าอาหารให้แล้ว เมื่อจะขึ้นรถไฟ ก็มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาถวายตั๋วรถไฟมาลงที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตรงตามที่พระคุณเจ้าท่านบอกไว้ล่วงหน้าทุกประการ เป็นเรื่องอัศจรรย์[/FONT]

    <TABLE style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto" class=tr-caption-container cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tr-caption>หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ขณะจำพรรษาอยู่ ณ วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
    พ.ศ. 2481
    </TD></TR></TBODY></TABLE>อีก[FONT=&quot]เรื่องหนึ่งที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้เล่าให้ฟัง เป็นเรื่องหลวงพ่อจงเดินจากวัดหน้าต่างนอกมาวัดบางนมโค [/FONT]เรื่อง[FONT=&quot]มีอยู่ว่า...[/FONT]

    [FONT=&quot]ครั้งหนึ่ง สมัยที่หลวงพ่อปานยังมีชีวิตอยู่[FONT=&quot] วัดบางนมโคได้จัดงานฉลองศาลาและมีสวดมนต์เย็น พระอื่นมากันครบแล้ว ขาดแต่หลวงพ่อจง หลวงพ่อปานจึงให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำพาคนเรือ นำเรือเร็วไปรับหลวงพ่อจงมาจากวัดหน้าต่างนอก เมื่อไปถึง ปรากฏว่ามีแขกมารอพบหลวงพ่อจงเพื่อให้ท่านรดน้ำมนต์ ท่านจึงบอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำให้นำเรือกลับไปก่อน อีกสักพักหนึ่งหลังจากรดน้ำมนต์ให้ญาติโยมเสร็จ ท่านจะเดินไปวัดบางนมโคเอง[/FONT][/FONT]

    <TABLE style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto" class=tr-caption-container cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tr-caption>พระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน โสนันโท)
    วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>หลวง[FONT=&quot]พ่อ ฤาษีลิงดำเห็นว่าระยะทางจากวัดหน้าต่างนอกไปวัดบางนมโคก็ประมาณสี่กิโลเมตร เรือเร็ววิ่งประมาณสิบกว่านาที แต่ถ้าเดินก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง อีกทั้งใกล้จะถึงเวลาเริ่มพิธีแล้ว ท่านจึงจอดเรือรอ แต่หลวงพ่อจงบอกว่าไม่ต้องรอ ให้กลับไปก่อน แล้วหลวงพ่อจะรีบเดินตามไปให้ทันพิธี[/FONT]

    เมื่อ[FONT=&quot]หลวง พ่อฤาษีลิงดำกลับมาถึงวัดบางนมโค ก็ขึ้นไปกราบรายงานหลวงพ่อปานว่า หลวงพ่อจงกำลังรดน้ำมนต์อยู่ นิมนต์ให้ท่านมาเรือ ท่านก็ไม่มา ท่านจะเดินมา อีกสักครู่ท่านคงจะมาถึง หลวงพ่อปานได้ฟังก็ยิ้ม หัวเราะชอบใจ บอกว่า นี่เจ้าลิงดำ หลวงพ่อจงเล่นตลกกับแกเสียแล้ว แกไปดูบนศาลาสิ ก็เลยกราบท่านแล้วขึ้นไปดูบนศาลา ปรากฏว่าหลวงพ่อจงนั่งอยู่บนอาสนะ นั่งหน้าพระรูปอื่นทั้งหมด เพราะท่านมีอาวุโสมาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำจึงเข้าไปกราบ ท่านจึงถามว่ามานานแล้วรึ ก็กราบเรียนท่านไปว่าเพิ่งมาถึง ไปหาหลวงพ่อปานสักสองนาทีแล้วก็ขึ้นมาบนศาลานี่[/FONT]

    เลย[FONT=&quot]มา นั่งสงสัยว่าหลวงพ่อจงท่านเดินยังไง คนหนุ่ม ๆ ยังเดินตั้งเกือบชั่วโมง ก็เมื่อไปถึงวัดหน้าต่างนอกตอนนั้น หลวงพ่อจงกำลังจะรดน้ำมนต์ แต่ท่านมาถึงวัดบางนมโคก่อนเรือเร็วของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเสียอีก ขณะที่กำลังคิดสงสัยอยู่นั้น หลวงพ่อจงก็ถามว่าแปลกใจรึ ท่านบอกว่าไม่มีอะไรแปลก พระในพระพุทธศาสนาถ้าปฏิบัติถึงขั้นก็เดินเก่งกันทุกคน ถ้าปฏิบัติยังไม่ถึงก็ยังเดินไม่เก่ง[/FONT]

    <TABLE style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto" class=tr-caption-container cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tr-caption>พระอธิการจง พุทฺธสโร
    วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา
    </TD></TR></TBODY></TABLE>หลวง[FONT=&quot]พ่อจง พุทฺธสโร แห่งวัดหน้าต่างนอกนี้ ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เชื่อกันว่าท่านเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทา ทรงอภิญญาสมาบัติ มีฤทธิ์มาก ท่านเป็นหนึ่งใน 21 ยอดพระอริยคณาจารย์ที่ได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกที่วัดราชบพิธ เมื่อปี พ.ศ. 2481 และ ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้านจากทั่วทุกสารทิศที่หลั่งไหลกันมาขอบารมีท่านช่วย ปกป้องคุ้มครองให้รอดพ้นจากภัยสงคราม[/FONT]

    มีเรื่องเล่าในทำนองเดียวกันเกี่ยวกับหลวง[FONT=&quot]ปู่สี ฉนฺทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ หลวง ตาแว่น พระหลานชายของท่านเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งได้ติดตามหลวงปู่สีไปอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี หลังจากฉันภัตตาหารเช้าเสร็จ ท่านก็ออกเดินทางกลับวัด โดยบอกให้หลวงตาแว่นเดินหน้า หลวงปู่สีเดินตามหลัง พอเดินมาถึงตำบลช่องแค จังหวัดนครสวรรค์ ปรากฏว่ายังไม่เที่ยง ทันเวลาฉันเพลพอดี[/FONT]

    จาก[FONT=&quot]อำเภอ พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ถึงตำบลช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ระยะทางเกือบสองร้อยกิโลเมตร ถ้านั่งรถยนต์ขับเร็ว ๆ ก็ใช้เวลาร่วมสามชั่วโมง แต่หลวงปู่สีท่าน "เดิน" ถึงช่องแคทันฉันเพลได้ เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่ง[/FONT]

    <TABLE style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto" class=tr-caption-container cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tr-caption>หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ
    วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
    </TD></TR></TBODY></TABLE>หลวง[FONT=&quot]ปู่ สีท่านเป็นชาวอำเภอรัตนะ จังหวัดสุรินทร์ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2392 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อท่านมรณภาพในปี พ.ศ. 2520 นั้น มีอายุได้ 128 ปี เป็นพระเถระที่มีพรรษากาลสูงมากรูปหนึ่ง วัตถุมงคลของท่านไม่เป็นสองรองใคร[/FONT]

    อีก[FONT=&quot]เรื่องหนึ่ง จากหนังสือ [FONT=&quot]ฐานสโมบูชา บันทึกโดยคุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต เกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม แห่งวัดป่าสัมมานุสรณ์ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย[/FONT][/FONT]

    <TABLE style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto" class=tr-caption-container cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tr-caption>หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>คุณ[FONT=&quot]หญิงสุรีพันธุ์ท่านเล่าว่า ในราวต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. [FONT=&quot]2537 หลวง ปู่ชอบตามคุณหญิงไปพบเพื่อให้ช่วยจัดพิมพ์หนังสือปาฏิโมกข์ เป็นหนังสือเกี่ยวกับพระวินัยที่พระภิกษุจะต้องสวดเวลาลงปาฏิโมกข์ในวันพระ จำนวน 84,000 เล่ม ให้เสร็จทันถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันฉัตรมงคล 5 พฤษภาคม[/FONT][/FONT]

    เมื่อ[FONT=&quot]รับ คำครูบาอาจารย์แล้ว คุณหญิงจึงรีบเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งท่านเป็นองค์ประธานมหามกุฏราชวิทยาลัย เพื่อทูลขออนุญาตจัดพิมพ์หนังสือตามคำขอของหลวงปู่ สมเด็จฯ ท่านก็ทรงพระเมตตาและประธานคำ "ธรรมทานานุโมทนา" ให้ด้วย[/FONT]
    <TABLE style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN-LEFT: auto; MARGIN-RIGHT: auto" class=tr-caption-container cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center">[​IMG]</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tr-caption>สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
    </TD></TR></TBODY></TABLE>น่า[FONT=&quot]แปลก.. เป็นเพราะบารมีของหลวงปู่โดยแท้ ทั้ง ๆ ที่คุณหญิงและคณะฯ เพิ่งเสร็จจากงานบุญ ทั้งกฐินและผ้าป่าหลายงานติดกัน แต่พอบอกต่อเรื่องงานที่หลวงปู่จะให้จัดพิมพ์หนังสือ เพียงไม่กี่วันก็สามารถหาเงินได้ล้านกว่าบาท พอที่จะเป็นค่าพิมพ์หนังสือ อีกทั้งโรงพิมพ์ก็ช่วยจัดพิมพ์ให้ในราคาพิเศษ ใช้กระดาษอย่างดี หน้าปกทองแถมหุ้มพลาสติกด้วย ประมาณปลายเดือนเมษายน หนังสือก็เสร็จเรียบร้อย[/FONT]

    คุณ[FONT=&quot]หญิง ท่านได้แบ่งหนังสือจำนวนหนึ่งไว้ที่กรุงเทพฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเตรียมจะถวายสมเด็จพระสังฆราชและพระเถระชั้นผู้ใหญ่เพื่อทรงแจกจ่ายไป ทั่วประเทศ อีกส่วนนำไปถวายหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่วัดโคกมน พร้อมทั้งนำรายชื่อผู้ที่ร่วมกันจัดพิมพ์หนังสือเพื่อให้หลวงปู่แผ่เมตตาให้ กับผู้บริจาคทุกท่านด้วย[/FONT]

    คณะ[FONT=&quot]ของ คุณหญิงไปถึงวัดโคกมนก็เป็นเวลาเกือบมืดแล้ว พระที่วัดได้ให้ไปรอที่ศาลาซึ่งมีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ตั้งอยู่ แล้วชาวบ้านกับพระก็เอาเสื่อมาปูให้นั่ง เป็นเสื่อเก่าที่ผ่านการใช้งานมานานจนขาดและมีกลิ่นอับ คุณหญิงท่านก็นึกแปลกใจเพราะสภาพเสื่อไม่เหมาะที่จะนำมารับแขก แต่ก็คิดว่าคงจะดีที่สุดที่พอจะหาได้ในขณะนั้น[/FONT]

    รอ[FONT=&quot]ที่ ศาลาสักครู่ พระก็เข็นรถหลวงปู่มาที่ศาลา คุณหญิงและคณะก็ได้กราบรายงานเกี่ยวกับหนังสือที่จัดพิมพ์และขอให้หลวงปู่ แผ่เมตตาให้กับผู้บริจาค คุณหญิงท่านเล่าว่า ขณะนั้น ภายในศาลามืดมาก มืดจนเพื่อนคนหนึ่งในคณะต้องนำไฟฉายมาส่องขณะอ่านรายชื่อผู้ร่วมบริจาค ตั้งแต่หมื่นบาทขึ้นไปให้หลวงปู่ฟัง ก็แปลกใจที่พระท่านยังไม่เปิดไฟทั้ง ๆ ที่ภายนอกศาลาก็มืดแล้ว[/FONT]

    หลัง[FONT=&quot]จากพักค้างแรมที่วัดหนึ่งคืน คณะของคุณหญิงได้ถวายภัตตาหารเช้าหลวงปู่ และกราบลาท่านกลับกรุงเทพฯ รถของคุณหญิงแวะเติมน้ำมันจนเต็มถังแถวบ้านสีดาก่อนถึงนครราชสีมา และแวะซื้อผลไม้ที่ปากช่อง ก่อนออกรถ คุณหญิงก็พูดดัง ๆ ขึ้นว่า [FONT=&quot]"ดูซิว่าจากปากช่อง เราจะใช้เวลาเท่าไร นี่เวลานี้หกโมงครึ่งนะ"[/FONT][/FONT]

    เรื่อง[FONT=&quot]แปลกเกิดขึ้นคือ ทั้ง ๆ ที่รถของคุณหญิงใช้ความเร็วเฉลี่ย [FONT=&quot]90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขณะนั้น ย่านรังสิตก็มีการก่อสร้างทาง ทำให้การจราจรติดขัด แต่รถก็วิ่งเข้ากรุงเทพฯ อย่างราบรื่นโดยไม่ติดสัญญาณไฟแดงที่ใดเลย และมาถึงบ้านลาดพร้าวของคุณหญิง เป็นเวลาทุ่มครึ่ง เท่ากับว่าใช้เวลาเดินทางจากปากช่องถึงลาดพร้าวเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น[/FONT][/FONT]

    น้ำ[FONT=&quot]มันรถที่เติมไว้เต็มถังที่บ้านสีดา ซึ่งห่างจากกรุงเทพฯ ราว [FONT=&quot]300 กิโลเมตร ก็ไม่ได้พร่องลงเลย ภายหลังนำรถส่งคืนเจ้าของ เจ้าของรถบอกว่าน้ำมันที่เหลืออยู่ในรถนั้น สามารถใช้ต่อในกรุงเทพฯ ได้อีกเจ็ดวัน[/FONT][/FONT]

    เรื่องนี้ยังมีต่ออีกว่า [FONT=&quot]น้อง คนหนึ่งที่ร่วมเดินทางไปด้วย ชื่อคุณศรีเพ็ญ เป็นคนถ่ายรูป ได้ส่งข่าวมาว่า รูปที่ถ่ายวันที่ไปกราบหลวงปู่นั้น ภายในศาลาดูสว่างเหมือนเวลาบ่าย และมีแสงจากดวงไฟบนเพดาน เป็นลำแสงสีฟ้า ซึ่งความจริงแล้วในเวลานั้น บนศาลามืดมาก และพระท่านยังไม่ได้เปิดไฟ กระทั่งจะอ่านหนังสือยังต้องใช้ไฟฉายช่วยส่อง ที่น่าแปลกคือ ในภาพนั้น คณะของคุณหญิงนั่งบนเสื่อขาดเก่า ๆ ผืนเล็ก ๆ แต่อีกรูปหนึ่งที่ถ่ายมา กลับเป็นภาพที่คณะของคุณหญิงกำลังนั่งบนเสื่อจันทบูรผืนยาว สีแดง ใหม่เอี่ยม ทำให้คิดไปว่า คง เป็นผลแห่งบุญที่ได้กระทำ แม้ในโลกแห่งความเป็นจริง จะนั่งอยู่บนเสื่อผืนเก่า แต่ในโลกทิพย์ กำลังนั่งอยู่บนเสื่อจันทบูรสีแดงผืนใหม่เอี่ยม[/FONT]

    ความ[FONT=&quot]แปลก อีกประการหนึ่งคือ ในรูปนั้นปรากฏใครไม่ทราบนั่งซ้อนทับคณะของคุณหญิงอยู่ กำลังกราบรูปปั้นหลวงปู่ในศาลา ในท่านั่งกระหย่ง เห็นแต่เท้าขนาดใหญ่สามเท้า ซึ่งไม่ใช่ขนาดเท้าของมนุษย์เรา หลายรูปปรากฏภาพแปลก ๆ อย่างเช่น ในความเป็นจริง พระที่ปรนนิบัติหลวงปู่มีอยู่เพียงสองท่าน แต่ในรูปจะมีพระรางเลือนอีกหลายท่าน คงจะเป็นเทพยดา ที่เคยบวชเป็นพระมาก่อน มาเฝ้าปรนนิบัติหลวงปู่อยู่ด้วย ทำให้เริ่มเข้าใจว่า ทำไมหลวงปู่ท่านจึงอยู่ในบริเวณที่มืด ๆ ได้อย่างสบาย เพราะในขณะที่เราเห็นเป็นที่มืดนั้น แต่สำหรับหลวงปู่ กลับเป็นโลกที่สว่างด้วยแสงเทพตลอดเวลา[/FONT]


    "การเดิน" ของพระอริยเจ้า


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 เมษายน 2011
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    *
    [​IMG]

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่าน

    <IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 600px; HEIGHT: 300px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=http%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpages%2FBuddhaSattha%2F158726110822792&width=600&connections=20&stream=true&header=false&height=300" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>
    *<!-- google_ad_section_end -->
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p

    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
  3. ผู้เลื่อมใสศรัทธา

    ผู้เลื่อมใสศรัทธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +2,082
    อนุโมทนา สาธุครับ

    ขอกราบสักการะองค์พระอริยสงฆ์ พระสุปฏิปันโน ทุกองค์ด้วยครับ
     
  4. กรวุฒิ

    กรวุฒิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +17
    ขอกราบอนุโมทนาสาธุ พระอริยสงฆ์ พระสุปฏิปันโน ทุกองค์ด้วยครับ มีความสุขมากครับเมื่อได้เห็น
     
  5. belt

    belt สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +23
    อนุโมทนาครับ อ่านแล้วศรัทธาและอยากปฏิบัติตามมากมากครับ
     
  6. เบองซูร์

    เบองซูร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +664
    อนุโมทนาสาธุครับ
    น้อมถวายเป็นพุทธบูชา
    น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง​
     
  7. ศักยิ์กมล

    ศักยิ์กมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    824
    ค่าพลัง:
    +1,316
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ขอข้าพเจ้าและครอบครัว จงเกิดมาพบพระพุทธศาสนา ในทุกภพทุกชาติด้วยเทอญ
     
  8. “*อหิงสกะ*”

    “*อหิงสกะ*” Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +52
    มี อภิญญา คงน่าสนุกดี :cool:
     
  9. kukkikkaks

    kukkikkaks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +363
    ขอกราบหลวงปู่ทุก ๆ องค์ ด้วยความเคารพยิ่งชีวิต
    ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
     
  10. ผู้ตามหา

    ผู้ตามหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +818
    อนุโมทนาสาธุ...ยิ่งได้อ่านยิ่งมีกำลังปฏิบัติ ขอบารมีของหลวงปู่ทุก ๆ องค์ ช่วยเสริมการปฏิบัติของข้าพเจ้าเพื่อเข้าสู่ธรรมที่องค์หลวงปู่ได้เห็นแล้วนั้นโดยเร็วด้วยเทอญ
     
  11. มนต์ชัยIM

    มนต์ชัยIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +473
    ข้าพเจ้าขอนอบสักการะบูชา ครูบาอาจารย์ผู้ทรงธรรมทุกๆท่าน
     
  12. คมศักดิ์

    คมศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +886
    ขออนุโมทนา สาธุ กับเรื่องดี ๆ ที่นำมาเสนอ และขอให้ข้าพเจ้าได้นับถือพระพุทธศาสนาทุกชาติภพ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ ๆ ๆ
     
  13. ศรัญญู

    ศรัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +748
    ขอกราบอนุโมทนา สาธุ กับพระอริยสงฆ์ ทุกองค์นะครับ
    และอนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับที่นำสาระดีๆมาแบ่งปันกันครับ
     
  14. saranyanurak

    saranyanurak สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2011
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +3
    พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติดีแล้ว
    พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติตรงแล้ว
    พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว
    พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า หมู่ใด, ปฏิบัติสมควรแล้ว
    นั่นแหละพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
    ท่านเป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา
    เป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ
    เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี
    เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
    กราบ กราบ กราบ

    ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
     
  15. ito-

    ito- Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2009
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +61
    อนุโมทนาด้วยครับ อยากจะมีโอกาสทำบุญกับพระอริยสงฆ์เยอะๆ
     
  16. รัก_D

    รัก_D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,096
    อ่านแล้ว เกิดปิติ มากครับ มีกำลังใจขึ้นมาก ขออนุโมทนาบุญกับความดีของท่านทั้งหลายด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...