รบกวนด้วยนะครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย u n u n, 25 มีนาคม 2011.

  1. u n u n

    u n u n เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +163
    ต้องรบกวนท่านผู้รุ้ด้วยครับ คือผมรู้สึกเหมือน ตัวลอย(แบบว่าเหมือนมีตัวเองอีกร่างลอยหลุดจากร่างกายเนื้อ(ปกติไม่ได้ทำ สมาธิ แต่สวดมนต์ประจำ) (คือประมาณว่าผมนั้งเฉยๆแต่ผมรุ้สึกว่าศีรษะ ร่างกาย ลอยห่างจากโต๊ะหรือบางครั้งเวลานอนจะรุ้สึกเลยว่านอนไม่ติดที่นอนเหมือน ลอยๆ)(เป็นบ่อยๆ) และต้องบอกนะครับว่าเวลาที่รุ้สึก มีสติตลอดเวลา บางครั้งที่รุ้สึกถึงกับควบคุมได้ว่าจะให้ลอยหรือไม่ลอย ไม่ทราบว่าท่านไหนเข้าใจสภาวะที่เกิดขึ้นบ้างครับ ตอนนี้ผมก็เฉยๆไม่สนใจอะไร แต่บางครั้งมันหลุดลอย จนรุ้สึกปวดหัวเลย
    (ท่านใดพอให้ความกระจ่าง ต้องรบกวนด้วยนะครับ)ขอบคุณมากครับ
     
  2. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    ตอบ...เป็นอารมณ์พรหม(ฌาณ) คลายตัวออก แต่ตัวญาณ (ตัวรู้) ไม่พอรองรับ นัยว่าอดีตเคยฝึกเข้าฌาณมาเยอะ แบบนั่งหลับหูหลับตาอย่างเดียว ไม่มีครู(พุทโธ) ช่วยหนุนหลังอยู่

    ถ้าไม่มีแฟน ก็ไปนอนกับผู้หญิงขายบริการ เที่ยวผู้หญิง ให้ยางกามหน่วงจิตลงมา ก็จะหายได้จ้า...
     
  3. moshininja

    moshininja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +103
    "ถ้าไม่มีแฟน ก็ไปนอนกับผู้หญิงขายบริการ เที่ยวผู้หญิง ให้ยางกามหน่วงจิตลงมา ก็จะหายได้จ้า..."

    น่าจะมีวิธีง่ายกว่านั้นนะครับ.....
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    นี่ถ้าแนะนำไม่เป็นก็อย่าไปแนะนำเขาเลยครับ...เสียเปล่าๆ........คนเขาจะทรงความดีกัน....

    เห็นตอบหลายกระทู้แล้วนะ.....ตอบได้ไม่เหมือนกับคนที่เขาเคยปฏิบัติกันมาเลย.....

    ตอบอย่างคนเดาส่งไปอย่างนั้นหละ......คิดอะไรได้ก็เขียนไม่มีหลักอะไรกับเขาได้เลย....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2011
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อาการปิติเป็นอาการที่ถามกันมาก.....ซึ่งผู้ปฏิบัติมักจะข้องใจเมื่อเกิดอาการนี้....
    <O:p</O:p
    <TABLE style="WIDTH: 45%; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-yfti-tbllook: 1184" class=MsoNormalTable border=1 cellPadding=0 width="45%"><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #f0f0f0; BORDER-LEFT: #f0f0f0; PADDING-BOTTOM: 0.75pt; BACKGROUND-COLOR: transparent; PADDING-LEFT: 0.75pt; PADDING-RIGHT: 0.75pt; BORDER-TOP: #f0f0f0; BORDER-RIGHT: #f0f0f0; PADDING-TOP: 0.75pt">
    อาการและอารมณ์ของอุปจารสมาธิ<O:p</O:p

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <O:p</O:p

    อาการของอุปจารสมาธิคือปีติได้แก่อารมณ์ความอิ่มใจเมื่อทำมาถึงตอนนี้อารมณ์
    จะชุ่มชื่นมาก อารมณ์สะอาดเยือกเย็น มีความเป็นสุขอย่างยอดเยี่ยมไม่เคยพบความสุข
    อย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิตตอนนี้เวลาภาวนาลมหายใจจะเบากว่าปกติมาก อารมณ์เป็นสุข
    ร่างกายของนักปฏิบัติที่เข้าถึงระดับนี้ผิวหนังจะนวลขึ้นเพราะอารมณ์ที่มีความสุขแต่อาการ
    ทางร่างกายนี่สิที่ทำให้นักปฏิบัติตกใจกันมากนั่นก็คือ
    ๑.อาการขนลุกซู่ซ่าเมื่อเกิดอาการอย่างนี้หรืออย่างอื่นที่กล่าวถึงต่อไปจะมีอารมณ์
    ใจเป็นสุขขอให้ทุกท่านปล่อยอาการอย่างนั้นไปตามสภาพของร่างกาย จงอย่าสนใจเมื่อสมาธิ
    สูงขึ้นหรือลดตัวลงต่ำกว่านั้น อาการอย่างนั้นก็จะหมดไปเองอาการขนลุกพองถ้ามีขึ้นพึงควร
    ภูมิใจว่าเราเข้าถึงอาการของปีติระดับหนึ่งแล้ว อย่ากังวลอาการของร่างกาย
    ๒. อาการของปีติขั้นที่ ๒ได้แก่อาการน้ำตาไหล
    ๓.อาการของปีติขั้นที่ ๓คือร่างกายโยกโคลงโยกไปข้างหน้าบ้างข้างหลังบ้าง
    บางคราวโยกแรง จนศีรษะใกล้ถึงพื้น
    ๔.อาการของปีติขั้นที่ ๔ตามตำราท่านว่าตัวลอยขึ้นบนอากาศแต่ผลของการปฏิบัติ
    ไม่แน่นัก บางรายก็เต้นเหมือนปลุกตัว บางรายก็ตัวลอยขึ้นบนอากาศเมื่อลอยไปแล้ว ถ้าสมาธิ
    คลายตัวก็กลับมาที่เดิมเอง(อย่าตกใจ)
    ๕. อาการของปีติขั้นที่ ๕คือมีอาการแผ่ซ่านในร่างกายซู่ซ่าเหมือนมีลมไหลออก
    ในที่สุดเหมือนตัวใหญ่และสูงขึ้นหน้าใหญ่แล้วมีอาการเหมือนลมไหลออกจากกายในที่สุด
    ก็มีความรู้สึกว่าตัวหายไปเหลือแต่ท่อนหัว
    อาการทั้งหมดนี้ เมื่อเกิดขึ้นอารมณ์ใจจะมีความสุข ฉะนั้นนักปฏิบัติให้ถืออารมณ์ใจ
    เป็นสำคัญอย่าตกใจในอาการตามที่กล่าวมาแล้วนั้นพอสมาธิสูงถึงระดับฌานก็จะสลายตัว
    ไปเองปีตินี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วอารมณ์จะเป็นสุขคือถึงระดับที่สี่ ที่จะเข้าถึงปฐมฌาน ต่อไปก็
    เป็นปฐมฌานเพราะอยู่ชิดกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    **************************************************<O:p</O:p

    เข้าศึกษาได้ตั่งแต่เริ่มต้น...ทั้งหมด....ได้ที่นี่....หนังสือเล่มนี้เนื้อหาเพียงพอสำหรับผู้ที่จะปฏิบัติด้วยตนเอง....รวบรวมวิธี...และอาการทางสมาธิ...ทั้งหมด....ควรศึกษาให้เข้าใจสัก 1 รอบ(ไม่ยาวนัก)แล้วปฏิบัติได้เลย....คำถามทางสมาธิส่วนใหญ่ที่ถามในบอร์ดมักอยู่ที่นี่.......

    วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ....โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ( ฤาษีลิงดำ )...

    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=7 <O:p</O:p
     
  6. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    ขอบใจจ้า ผู้ซื้อกรรม ผู้รับสืบทอดมรดกกรรม ตัวเบาขึ้นเยอะเลยจ้า อ่ะๆ ๆ ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 มีนาคม 2011
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,007
    อนุโมทนากับคำตอบที่ได้รับด้วยนะครับ...
    ผมสัมพัสอะไรบางอย่างจากลักษณะการถามได้นิดหน่อย
    เอาเป็นว่าขอแวะมาอ่านก็พอครับ...
     
  8. u n u n

    u n u n เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +163
    ขอบคุณมากครับสำหรับ คำชี้แนะและคำอธิบายของทุกๆท่านครับ
     
  9. u n u n

    u n u n เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +163
    ต้องรบกวนขอคำชี้แนะด้วยครับ
     
  10. สวรรค์ค8

    สวรรค์ค8 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +8
    ผมก็เป็นเหมือนกัน คุณเป็นคนมีองค์นะ
     
  11. lightmagician

    lightmagician Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +38
    ท่ารู้สึกว่าลอยได้รือตัวเบาๆ เวลานอนเวลานั่งสมาทิ
    ท่ามีสติ ก้ไห้ดูว่า สงสัย{วิจิกิจฉา}เกิดหรือป่าว ฟุ้งซ่าน(อุทัจจะ กุกุททัจจะ)เกิดหรือป่าว ก้ลองดูว่า ยินดี(กามฉันทะ)หรือ ยินร้าย(พยาบาท) มีหรือป่าว และความท้อถอย(ถีนะมิทธะ)มีหรือป่าว ท่ามีก้ไห้กำหนดรู้ว่านิวรณ์เกิด

    ท่าทำสมาทิแล้วสงบ มีสติละลึกรู้ตัวเท่าทันรู้ว่า สุขเกิด มีปิเกิดอย่างใดอย่างหนึ่ง มีวิตกเกิด มีวิจารเกิด มีอารมเป็นหนึ่ง รู้อยู่อย่างนี้ ไม่ลังเลไม่สงสัย ไม่ยินดียินร้ายไม่ฟุ้งซ่านไม่ท้อถอยเบื่อหน่ายก้จัดว่ามี สมาทิ

    แต่พออาการเหล่านี้หรือธรรมดาของสิ่งเหล่านี้ที่เกิดเราไม่มีสติรู้ทันเราก้เท่ากัปล่อย ความคิด{} ความร้สึกการรับรุ้{} และอารมสัมผัส{} ควมจดจำ{} อาการทางกาย ยืน นั่ง นอน ไปตามสิ่งที่เกิดเหล่านั้นด้วยความไม่รู้เท่าทันเราก้หลง เมื่อเราพิจารนารุ้อยู่อย่างนี้ว่า

    สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้เกิดอย่างไร จบลงตอนไหน อยุ่นานแค่ไหน เกิดเป็นบางครั้ง เกิดทุกๆครั้ง เกิดครั้งละนานๆ เกิดครั้งละสั้นๆ เกิดอย่างบังคับได้ เกิดอย่างบังคับไม่ได้
    ท่าเราสังเกตุอาการเหล่นี้แล้วก้พิจารนาประโยชน์ พิจารนาโทษ พิจารนาการปติบัติ ดูความเที่ยงแท้ของมัน มันเป็นของเรา เราบังคับได้ตามต้องการหรือไม่ และมีในเราอยู่ตลอดเวลาหรือไม่

    ท่าพิจารนาตามนี้แล้วจะเห็นเอง ท่าสิ่งที่จริงถูกพิจารนาแล้วไม่เปลี่ยนแปลงไปก้ยึดถือไว้ ท่ามันไม่คงทนก้อย่าไปสนใจ และเปลี่ยนมาจับหลักที่เราต้องการ ทำสมาทิต้องการความรู้สึก หรือต้องการอะไรหาความหมายก่อน อย่าไห้อะไรมาทำไห้เสียเวลา สิ่งที่ขวางการการทำมาทิของเราก้คือ นิวรณ์ที่เกิดขึ้นกับใจ และหลงไปกับ รุป รส กลิ่น เสียง สัมผสที่มากระทบ หรือกามฉันทะ และอืนๆที่กล่ามาแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 เมษายน 2011
  12. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    มาจ่ายค่ามีมารยาทที่ดีหน่อยจ้า จากคำสอนในพระไตรปิฏก ท่านบอกว่า "ฌานไม่มีแก่ผู้ไม่มีปัญญา ปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่มีฌาน ฌานและปัญญามีอยู่ในผู้ใด ผู้นั้นแลอยู่ในที่ใกล้นิพพาน"

    ฌาณที่ได้มาแบบ ไม่มีตัวปัญญากำกับ ย่อมสร้างปัญหาตามมาได้หลายแบบ ในฐานะผู้ยังมีกิเลสอยู่ และมักเป็นฌาณนอกรีต มุ่งทำจิตให้แข็งกร้าว ไม่ทำสมาธิไปตามลำดับชั้นของสัมมาสมาธิอย่างถูกต้อง จิตจับเป้าหมายสูงสุด เพื่อให้ได้ฌาณมาใช้ประกอบฤทธิ์ หรือสิ่งที่ตนหวัง ผลคือ อาจสร้างเวรกรรมให้กับตน ให้ผลเวียนวนอยู่ในภพชาติ จึงเป็นฌาณที่ไม่น่าเสียดาย ในชั้นแรกควรทำลายทิ้งไปก่อน (จริงๆ ฌาณไม่ได้หายไปไหน ถ้าเคยได้มา กลับมาทำใหม่ก็จะได้ง่าย) แล้วหาตัวปัญญา(ญาณ) มาเติมในใจให้มากๆ ความสมดุลแห่งจิต(ทางสายกลาง) จะเกิดขึ้นได้จ้า...
     
  13. u n u n

    u n u n เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +163
    รับรุ้และปล่อยวาง (ผมเข้าใจถูกใช่มั้ยครับ) ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
     
  14. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ถูกครับ.......ไม่ยากนะ.....
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730

แชร์หน้านี้

Loading...