ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

มาไม่ทันค่ะ
แต่มาเล่าให้ฟังว่าได้ไปกราบหลวงปู่ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. นี้ค่ะ
กราบไป น้ำตาไหลไป ทำไมไม่รู้
ยิ่งได้ยินเสียงหลวงปู่ให้พร น้ำตาก็ยิ่งไหล
กราบเสร็จ คุณแซม ได้เมตตาแจกเหรียญของหลวงปู่ ครบรอบ 97 ปีให้

ศรัทธาหลวงปู่เต็มหัวใจ
ถ้ามีโอกาสจะไปกราบหลวงปู่บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
และอยากไปภาวนากับหลวงปู่มาก

 

เรื่องเล่าหลวงปู่ทวด

นานนาน ผมจะข้ามาที ผมเคยนำพระหลวงปู่ทวด ที่ ไม่มีใครอธิฐานจิต(ปลอม) ไป บ่นให้หลวงปู่ดู่ฟัง หลวงปู่บอกว่า พระหลวงพ่อทวด ไม่มีปลอม ครับ แม้กระทั่ง เซียนใหญ่พระหลวงพ่อทวด ในอดีตก็เคยบอกผมว่า เขามีประสพการณ์จาก พระหลวงพ่อทวด(ปลอม) ที่ เร่ขายกันที่สนามหลวง ในสมัยก่อน เป็นองค์แรกของเขา และล่าสุด ผมไปเจอเพื่อนอีกท่านหนึ่ง เคยไปเช่า พระบูชาหลวงพ่อทวด ที่วัดสะแก เขาก็ถามหลวงปู่ดู่ ว่า หลวงปู่ครับ ใครเสกพระบูชานี้ครับ หลวงปู่ดู่ ตอบง่ายๆ ว่า หลวงปู่ทวดท่านทำของท่านเอง คงตอบคำถาม ท่านนะครับ สบายใจ ได้ หากนับถือ พระหลวงพ่อทวด ที่ทันหลวงปู่ดู่ จริง PMที่อยู่ ให้ผมครับ ผมจะนิมนต์ไปให้ ถ้านับถือจริงๆ

 

ู
......สาธุครับ.....แต่ก่อนผมก็ได้แต่พระไม่ทันหลวงปู่เลยครับ....
.เห็นเป็นหลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่วิ่งชนแหลกครับ...แต่เดียวนี้ทำใจได้แล้วครับ...้

 

๙๙๙....บุญที่พึ่งได้จริง......๙๙๙

....เป็นเรื่องของการทำบุญที่พึ่งได้จริง.ๆ..ช่วงก่อนสมัยตอนผมยังเรียนอยู่....
ได้รับพระจากหลวงตาท่านหนึ่ง..ทางภาคเหนือนี่แหละครับ..ท่านบอกให้มาแจกให้เพื่อนๆ.....
เป็นพระผงครับผมก็คิดว่าจะเลี่ยม...แจกเพื่อนๆดีกว่า...แต่ติดที่งบประมาณนี่แหละครับมากโขอยู่...
คิดมาคิดไปไม่รู้จะพึ่งไครก็นึกถึงหลวงปู่นี่แหละครับขอให้ได้งบมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี่ยมพระแจกให้เพื่อนๆด้วยเถอะครับ.....
.พอตกเย็นตอนขี่รถกลับบ้านนีแหละครับเก็บเงินได้จำนวนหนึ่งซึ่งพอกับการดำเนินการเลี่ยมพระพอดี..
...ก็นึกถึงหลวงปู่ดู่ก่อนหน้านี้เราอธิฐานขอหลวงปู่ได้จริงๆ......(..เป็นบุญที่พึ่งได้จริงๆครับ..)...

 

ขอมากราบหลวงปู่ด้วยจิตคารวะครับ

 

ขอขอบพระคุณ...คุณ saysin...มากครับ ที่มีจิตเมตตามอบหลวงปู่ทวดของหลวงปู่ดู่ ถ้าจะกรุณาช่วยส่งให้ผมตามนี้ครับ
ธรงวิทย์ ดวงแก้ว 164 หมู่ 15 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม 48120 จะบูชาไว้กับตัวเพื่อเป็นสิริมงคลครับ...ขอเล่าประสบการณ์อีกเรื่อง นะครับ
ประมาณปี พ.ศ.2535 เป็นช่วงที่ยังทำงานในบริษัทเอกชนอยู่แถวบางกะปิ ขณะทำงานเกิดเป็นไข้สูงมากในช่วงบ่าย (เหมือนมีใครเอากองไฟมาสุมอยู่รอบตัว) ได้ไปนอนพักที่ห้องพยาบาลของบริษัทฯ กินยาลดไข้ไป 1 ชุด ก็ยังไม่ทุเลา ความจริงถ้าได้ยาลดไข้แล้ว(1-2 ชม.) อาการไข้จะต้องลดลง เมื่อยาพึ่งไม่ได้ก็ต้องหาสิ่งศักสิทธิ์ช่วย...เป็นธรรมดาเมื่อประสบภัยหรือร่างกายรับไม่ไหว..จึงนึกถึงพระที่แขวนอยู่มี 3 องค์ แต่ใจกลับอาราธนาบารมีหลวงปู่ทวด ให้ช่วยโดยท่องคาถาของหลวงปู่ทวด ไม่น่าเชื่ออาการไข้กลับลดลง ไม่ทรมานเหมือนตอนไข้สูง...ถ้าท่านใดมีเหตุอันตรายคับขัน...ขอบารมีหลวงปู่ทวด คุ้มครองครับ

 

​

แกเป็นตรงไหน...ให้รดตรงนั้น ! ​

เรื่องราวต่อไปนี้ยังไม่เคยเล่าไว้ ณ ที่ใดมาก่อน
เป็นเรื่องราวแห่ง "ความเมตตาของหลวงปู่"
ที่มีต่อหญิงคนหนึ่งที่ต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะโรคปวดศีรษะ...ที่หมอสมัยนั้นก็ไม่รู้สาเหตุ​

เธอผู้นี้ต้องทนทุกข์ตั้งแต่เด็กกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ มีอาการปวดที่บริเวณกลางกั๊กศีรษะ
ยิ่งหากเผลอไปเพ่ง หรือไปอ่านหนังสือ อาการปวดศีรษะก็จะทวีความรุนแรง​

แม้เธอจะมี "วิบากกรรม" จากกรรมที่ทำไม่ดีมาในอดีต
จนทำให้เธอต้องทนทุกข์กับโรคปวดศีรษะ ถึงขนาดต้องหามส่งโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง
แต่ก็เป็นโชคดีของเธอที่มีผู้แนะนำให้ได้รู้จักหลวงปู่ (ราว พ.ศ. ๒๕๒๒)
โดยที่เธอได้เห็นหลวงปู่...ตั้งแต่ก่อนจะไปวัดเสียด้วยซ้ำ​

เธอเล่าว่า ก่อนที่จะเดินทางไปวัดสะแกตามคำชวนของคนรู้จัก
เธอได้ฝันไปว่า ได้เดินทางไปวัดแห่งหนึ่ง พอพ้นสะพานเล็ก ๆ เธอก็เลี้ยวซ้ายเข้าวัด
เห็นประตูวัด ข้างบนเขียนว่า ดาวดึงส์ (แต่พอมาเห็นจริง ๆ เป็นป้ายวัดสะแก)
เดินลึกเข้ามา ก็เลี้ยวซ้ายขึ้นบันไดเข้ากุฏิพระ
ด้านซ้ายก็มีที่ต้มน้ำ ถัดจากนั้นก็เห็นหลวงปู่ (รู้จักภายหลังว่า เป็นหลวงปู่ดู่) หน้าท่านเฉย ๆ
พื้นไม้กระดานสวยงาม สะอาดสะอ้าน​

เธอจดจำความฝันนั้นไว้
พอมีโอกาสตามเพื่อนไปวัดสะแก ก็ปรากฏว่าเป็นไปอย่างที่เห็นในฝันทุกอย่าง (ยกเว้นป้ายวัด) ​

จากนั้นมา เธอก็ได้มากราบและทำบุญกับหลวงปู่อีกหลายครั้ง
กระทั่งเย็นวันหนึ่ง เธอและสามีได้แวะมากราบหลวงปู่
ขณะนั้นลุงแกละกำลังหิ้วน้ำอุ่นไว้ถังหนึ่ง เพื่อจัดเตรียมให้หลวงปู่สรงน้ำ
ณ บริเวณข้างโอ่งน้ำที่หลวงปู่สรงเป็นประจำ​

เมื่อเห็นอย่างนั้น ทั้ง ๒ คน ก็ดีใจมาก
ฝ่ายสามีบอกว่า โชคดีจัง ขออนุญาตสรงน้ำหลวงปู่กันดีกว่า แล้วพากันเข้าไปขออนุญาตท่าน
ฝ่ายสามี ก็เอาน้ำมาเช็ดล้างที่บริเวณเท้าหลวงปู่​

ในขณะนั้นเอง หลวงปู่ก็บอกกับหญิงผู้นั้นว่า
"แกเป็นตรงไหน...ให้รดตรงนั้น ! "
ด้วยความดีใจ หญิงผู้นั้นก็รีบตักน้ำอุ่นในถัง แล้วค่อย ๆ รดไปที่ "ศีรษะหลวงปู่" ​

สามีเห็นเช่นนั้นก็ส่งเสียงดุว่า ทำไมทำอย่างนั้น
เธอจึงตกใจ วางขันน้ำ ก้มลงกราบขอขมาหลวงปู่
แล้วร้องไห้ด้วยความตกใจ กลัวบาปกรรม​

หลวงปู่ท่านพูดพลางยิ้มว่า
"ไม่เป็นไร ข้าอนุญาต"​

และแล้วเรื่องอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นกับเธอ
เพราะนับจากวันนั้น อาการปวดศีรษะของเธอก็ทุเลาลงเรื่อย ๆ กระทั่งหายสนิท​

นี้แหละ "ความเมตตา...ของครูบาอาจารย์"
ที่หากไม่เหลือวิสัย และกฎแห่งกรรมแล้ว
ท่านย่อมสงเคราะห์ให้ด้วยเมตตาที่หาประมาณมิได้....ดังที่ได้เล่ามาให้ฟังนี้​

*** จากบทความของ คุณสิทธิ์
ที่มา http://www.luangpordu.com/​

 

​

นั่งตรงไหน...จึงจะสงบ ! ​

สมัยเมื่อครั้งที่หลวงปู่ยังแข็งแรง ก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งซึ่งเข้าวัดได้ไม่นาน
วันหนึ่ง เธอได้รับการเชิญชวนจากเพื่อนคนหนึ่งว่า
หากต้องการจะนั่งปฏิบัติภาวนาให้จิตเป็นสมาธิ เข้าถึงความสงบ
ก็ต้องไปนั่งที่สำนักทรงแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
เธอจึงเกิดความลังเล เพราะนั่งภาวนาที่วัดสะแกเอง ก็ยังไม่เคยนั่งจริงจังนัก
หลวงปู่ก็ไม่เคยสอนเธอจริงจัง​

ในระหว่างที่เธอเกิดความลังเลว่า จะหาโอกาสตามเพื่อนของเธอเพื่อไปปฏิบัติที่สำนักทรงแห่งนั้น
อยู่ ๆ หลวงปู่ก็ทักเธอ ในเช้าวันที่เธอนำภัตตาหารไปถวายท่าน
เมื่อเธอประเคนถวายภัตตาหารแด่หลวงปู่แล้ว
หลวงปู่ได้ชี้ให้เธอไป "นั่งภาวนาที่ข้างโอ่ง" (ที่ท่านสรงน้ำ)​

เธอเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ท่านจ้องมาที่เธอ
จากนั้นเมื่อเธอหลับตา "ภาวนาไตรสรณคมน์"
ไม่ทันไร...เธอก็รู้สึกว่าตัวเธอลีบเล็กลง ๆ จนเหลือตัวน้อยหนึ่ง
ในขณะที่เสียงภายนอก เช่น เสียงดังจากปิ่นโตที่คนเขาถ่ายอาหารลงภาชนะเพื่อถวายหลวงปู่ ฯลฯ
ก็เป็นเสียงที่คล้ายจะดังมาจากที่ไกล ๆ และแผ่วเบามาก​

เธอนั่งสมาธิเพลิน จนกระทั่งเริ่มได้ยินเสียงหลวงปู่ให้พรญาติโยม
เธอประหลาดใจมาก...ที่จิตเธอเป็น "สมาธิ" อยู่ได้ตั้งนาน
ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสว่า จิตเป็นสมาธิ...เป็นเช่นนั้นเอง ! ​

ที่สำคัญ เธอเรียนรู้ว่า เธอไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงไหน ๆ เพียงเพื่อจะแสวงหาที่นั่งปฏิบัติภาวนา
เพราะที่วัดสะแกซึ่งเธอมากราบหลวงปู่อยู่นี้ ก็เป็นที่สัปปายะที่เอื้อต่อการปฏิบัติจิตตภาวนา
ขอเพียงมีความตั้งอกตั้งใจ (ประกอบกับได้บารมีหลวงปู่มาช่วยสนับสนุน)​

นอกจากนี้ ยังลดความเสี่ยงจากการไปเยือนสำนักทรง
เพราะหลวงปู่พูดเตือนเสมอ ๆ ว่า สำนักทรงโดยมาก...ก็มีแต่ผีทั้งนั้น !​

*** จากบทความของ คุณสิทธิ์
ที่มา http://www.luangpordu.com/​

 

ถ้าคนที่ 10 สละสิทธิ์
ขอเป็นคนที่ 10 ได้มั้ยคะ (y)

 

ช่วงนี้เว็บล่มบ่อย...เข้ามาก็อ่านไม่ค่อยครบทุกกระทู้ที่เคยเข้ามาอ่านบ่อย...เข้ามาแล้ว ก็อนุโมทนาบุญกับคุณบอยด้วยนะครับ...และก็ยินดีกับผู้ที่ได้รับพระทุกท่าน

 

ได้รับเหรียญแล้วครับ ขอบคุณคร้าบ

 

เอ เห็นมีแจกซอง ทำบุญอะไรกันหรือเปล่าครับ อยากร่วมทำบ้างอะครับ สาธุๆๆครับ

 

พระผงกัมฐาน หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ






.