ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

เอาล่ะครับได้เวลาประกาศชื่อท่านผู้โชคดีแล้วครับ จำนวน 10 ท่าน ขออภัยจริงๆมีแจกแค่นี้จริงๆครับ
ผมยังมีเก็บไว้เองเหรียญเดียวครับ

1.คุณ IEC
2.คุณ shinne
3.คุณ Livepat
4.คุณ jsp
5.คุณ Limited
6.คุณ tp_thai
7.คุณ นสิทธิ
8.คุณ pichitp
9.คุณ deden
10.คุณ KRITA

ทั้ง 10 ท่านผู้โชคดีให้ทำตามกติกาทั้งหมดนะครับ
ส่งซองเปล่า พร้อมสอดซองเปล่าอีกซอง + เงินค่าส่งลงทะเีบียน 20 บ. มาให้ผมที่

อนุพงศ์ อินต๊ะวงศ์
407/6 ถ.อิสรภาพ
ต.เวียง อ.เมือง
จ.เชียงราย 57000

แล้วผมจะจัดส่งไปให้ครับผม ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ

 

เคล็ด (ไม่ลับ) ในการปฎิบัติ



โดย พี่สิทธิ์

ในขณะที่ผู้ใฝ่ธรรมยุคใหม่จำนวนไม่น้อยพากันขวนขวายหาทาง ลัดหรือพากันปฏิบัติและสนทนากันแต่ในธรรมขั้นสูง ทำให้ระลึกถึงธรรมะอันเป็นพื้นฐานสำคัญ และไม่ใช่เป็นเพียงธรรมะพื้นฐาน หากแต่เป็นธรรมะที่จำเป็นยิ่งตลอดสายของการปฏิบัติธรรม นั่นก็คือ "สติ"


อุบายในการเจริญสติหรือความระลึกรู้ที่หลวงปู่ให้ไว้ก็คือ การบริกรรมภาวนาบ่อย ๆ ซึ่งปรกติหลวงปู่จะให้บริกรรมไตรสรณคมน์ คือ "พุทธัง สะระณังคัจฉามิ, ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ" เวียนอย่างนี้เรื่อยไป


ส่วนที่ว่าเป็นเคล็ด แต่ไม่ลับนั้นก็คือ หลวงปู่ให้บริกรรมภาวนาจนกว่าจิตจะคุ้นชินกระทั่งหลับไปพร้อมกับคำบริกรรม ภาวนา และตื่นพร้อมกับคำบริกรรมภาวนา


การเจริญสติต่อเนื่องด้วยอุบายการบริกรรมภาวนามิให้ใจฟุ้งไปทางอื่น หรือหลงอารมณ์โลก ๆ กระทั่งสามารถหลับไปกับคำบริกรรมภาวนาและตื่นมากับคำบริกรรมภาวนา (คือเมื่อตื่นนอนขึ้นมาแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองยังบริกรรมภาวนาต่อเนื่องมา จากเมื่อตอนที่จะหลับ) เช่นนี้ หลวงปู่จึงว่าใช้ได้


สมัยเรียนหนังสือหรือฟังธรรมครูบาอาจารย์ เราก็จะได้ยินคำว่าอิทธิบาท ๔ จนคุ้นหูว่าเป็นธรรมเพื่อความสำเร็จ ซึ่งประกอบด้วยฉันทะ (ความรักความยินดีพอใจที่จะทำ) วิริยะ (ความเพียรกระทำอย่างไม่ย่อท้อ) จิตตะ (ความจดจ่อต่อเนื่อง ทำชนิดไม่สนเวล่ำเวลา) และวิมังสา (การใช้ปัญญาตรวจสอบผลเป็นระยะ ๆ ว่ามาถูกทางไหม) ทีนี้การที่หลวงปู่ให้อุบายว่า หลับก็ให้หลับไปกับคำบริกรรมภาวนา ตื่นก็ตื่นมาพร้อมกับคำบริกรรมภาวนา นี้ก็เท่ากับเน้นในข้อ "จิตตะ" นี้เอง เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องดังที่ท่านอุปมาไว้บ่อยครั้งว่า เหมือนการเอาไม้แห้งมาสีให้เกิดไฟ ถ้าสีจนร้อนหน่อยหนึ่งแล้วหยุดพักเสีย ไฟไม่เกิดสักที จะให้เกิดไฟหรือเกิดผลการปฏิบัติให้ได้ชื่นชม มันต้องอาศัยการทำให้ต่อเนื่อง ดังที่ท่านกระหนาบเสมอ ๆ กับผู้ที่ไปกราบนมัสการท่านด้วยประโยคที่ว่า "หมั่นทำเข้าไว้ จะได้อาศัย (ธรรมะที่เกิดขึ้นกับเราไม่ว่าจะเป็นส่วนของสติ สมาธิ และปัญญา) เป็นที่พึ่งแก่เราได้"

เล่าไว้เพื่อว่าจะได้เป็นอุบายการปฏิบัติแก่ผู้สนใจ เพราะว่าเป็นเคล็ด (แต่ไม่ลับ) ในการปฏิบัติธรรมที่หลวงปู่ได้มอบไว้ให้แก่พวกเราเจดีย์ ที่สูงสง่างาม หากขาดฐานที่มั่นคงแข็งแรงก็พร้อมพังครืนลงมาได้ฉันใด ผลการปฏิบัติธรรมที่ขาดฐานที่ดี ก็ย่อมเป็นผลที่ฉาบฉวยและพร้อมจะให้กิเลสกลับมากำเริบได้อีกร่ำไปฉันนั้น

 

ตอนนี้เริ่มได้รับซองแล้วครับ
รีบๆส่งมากันให้ครบๆเด้อออจะได้ส่งพระให้ทีเดียวครับ

 

จุดกำเนิดวัดถ้ำเมืองนะ



โดย พี่สิทธิ์

เรื่องที่จะเขียนนี้ ข้าพเจ้าทบทวนอยู่นานว่าควรจะเผยแพร่หรือไม่ แต่เมื่อได้หารือหมู่คณะแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นเครื่องเจริญศรัทธาบ้างไม่มากก็น้อย จึงขอบันทึกไว้ก่อนที่ความจำจะไม่เที่ยง

ก่อนหลวงปู่จะมรณภาพสัก ๒-๓ ปี ศิษย์หลวงปู่ผู้เป็นหนุ่มใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งปรกติมักจะมากราบนมัสการและสนทนาธรรมกับหลวงปู่อยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ปลอดคน และแล้ววันสำคัญอันเป็นจุดหักเหชีวิตของเขาก็มาถึงเมื่อค่ำวันหนึ่ง ขณะที่เขากราบลาหลวงปู่และกำลังเดินไปที่รถยานยนต์คู่ใจ จู่ ๆ หลวงปู่ก็เรียกให้เขากลับเข้ามาหาท่าน

ปรากฏว่าหลวงปู่เรียกเขาเข้ามาเพื่อจะรดน้ำมนต์ให้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปรกติ เพราะแทบไม่เคยเห็นหลวงปู่ทำเช่นนี้ หลวงปู่ท่านคงจะมองเห็นเคราะห์กรรมอะไรบางอย่างที่จะเกิดขึ้นกับศิษย์ของท่านคนนี้

ชายหนุ่มผู้นี้ ขี่จักรยานยนต์ออกจากวัดไปได้สักพักหนึ่ง ก็โดนรถซิ่งชนท้ายเข้าอย่างจัง ต้องถูกหามเข้าห้องไอซียู แต่เดชะบุญ ปรากฏว่าภายหลังเอกซ์เรย์ ก็ไม่พบสัญญาณอันตรายทั้งในส่วนสมองหรือกระดูก

ชายผู้นี้ ใช้เวลาที่นอนพักรักษาตัวเพื่อทบทวนชีวิตทั้งที่ผ่านมา และที่จะดำเนินต่อไป ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะเตรียมความพร้อมทุกอย่างโดยเฉพาะเรื่องทางบ้าน เพื่อที่จะอุปสมบทอุทิศชีวิตถวายต่อองค์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ผู้ที่ให้ชีวิตใหม่กับเขา

หลวงปู่ได้เมตตาให้เขาเตรียมผ้าไตรจีวรมาหาท่านก่อนพิธีอุปสมบท จากนั้นหลวงปู่ก็ขอให้ชายผู้นี้ขอบารมีหลวงปู่ทวด อธิษฐานจิตขึ้นไปขอบวชต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ทุกอย่างเริ่มเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนการประพฤติธรรมของพระนวกะผู้บวชใหม่ท่านนี้ เริ่มตั้งแต่มีศิษย์ ตชด. ที่มีสมญานามว่า "ผู้พันผี" มาให้ข้อมูลถึงสถานที่สัปปายะแก่การบำเพ็ญสมณธรรม ชื่อ ถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งท่านไปเยือนแล้วก็พอใจ กระทั่งขอลา หลวงพ่อหวล ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์เพื่อไปจำพรรษาที่นั่น โดยอธิษฐานจิตแน่วแน่ว่าภายใน ๕ พรรษาแรก ท่านจะไม่ออกนอกถ้ำ

กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คนจริง พระนวกะผู้นี้อยู่จำพรรษาครบ ๕ พรรษาตามที่ได้อธิษฐานไว้ โดยที่ปัญหาความขาดแคลนของขบฉันหรือที่อยู่ที่อาศัยไม่ได้เป็นอุปสรรคขวางการภาวนาของท่านแต่อย่างใด

พระภิกษุรูปนี้ ได้พยายามใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับที่หลวงปู่ดู่ได้ประทานให้แก่ท่าน ด้วยดวงใจที่อาจหาญในธรรม รวมทั้งได้ใช้โอกาสอันดีที่ได้แลกเปลี่ยนสนทนาธรรมกับพระกรรมฐานที่แวะเวียนมาร่วมบำเพ็ญสมณธรรม ณ ถ้ำเมืองนะแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย

ภายหลังที่หลวงปู่ได้มรณภาพไปแล้ว พระภิกษุผู้นี้ก็เป็นผู้มีส่วนอย่างสำคัญในการประกาศคุณธรรมของหลวงปู่ให้ผู้คนจำนวนมากได้ประจักษ์และเกิดศรัทธาที่จะดำเนินชีวิตตามคำสั่งสอนของหลวงปู่

มาถึงตรงนี้แล้ว ข้าพเจ้าคงไม่จำเป็นต้องเอ่ยว่าท่านนี้คือใคร
เพราะพระภิกษุท่านนี้ คือ คนที่ชาว Web ถ้ำเมืองนะให้การเคารพอย่างสูง

ข้าพเจ้าขอบันทึกไว้โดยสรุปเพียงเท่านี้ เพื่อให้เห็นว่าความเมตตาของหลวงปู่ที่ช่วยชีวิตคน ๆ หนึ่ง ไว้ มาบัดนี้ เขาได้สนองคุณหลวงปู่แล้ว ทั้งด้วยการปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของหลวงปู่ และด้วยการประกาศคุณงามความดีของหลวงปู่ให้กว้างไกลออกไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

 

03/03/11



ตอนนี้ได้รับซอง จม.จากเพื่อนๆที่ส่งมาขอรับ เหรียญ ลป.บุญฤทธิ์ แล้วจำนวน 7 ซอง ดังรายชื่อต่อไปนี้ครับ

1.คุณ จตุพงษ์
2.คุณ พิิชิต
3.คุณ งามพิศ
4.คุณ พงษ์พันธุ์
5.คุณ จิระศักดิ์
6.คุณ พิพัฒน์
7.คุณ ธีรภัทร์

เหลืออีก 3 ท่านนะครับ ที่ยังไม่ได้ส่งซองมา ท่านใดรู้ตัว รีบๆส่งเข้ามานะครับ เพื่อนสมาชิกเขารออยู่ครับ ผมก็อยากแจกแล้วเน้อ

 

ผมไม่ชอบครับองค์นี้ ถ้าศรัทธาหลวงปู่ทวด ลองหาของวัดไหนก็ได้ครับที่ผ่านพิธีแล้ว (มีผลด้านกำลังใจ) เพราะถ้าเป็นพระที่เราไม่มั่นใจว่าแท้ไหม ผ่านพิธีไหม ทำให้กำลังใจเราไม่เต็มที่ครับ ขอให้กำลังใจเราดี ดีหมดเพราะหลวงปู่ดู่ท่านยังบอกว่า บารมีของหลวงปู่ทวดเต็มท้องฟ้า ท่านคอยจะช่วยเหลือเราอยู่แล้วครับ

 

วันนี้วันพระมาสวดมนต์ปฎิบัติธรรมกันนะครับ

 

สวัสดีครับพี่ สบายดีนะครับ

ผมพึ่งได้รับซองจาก คุณ นสิทธิ วันนี้เองครับ
ไว้ครบจะได้จัดส่งพร้อมกันเลยนะครับ

ลป.ทวด ยุคปัจจุบันที่ไม่แพง มวลสารดี ศักดิ์สิทธิ์ ผมแนะนำของ วัดห้วยมงคล จ.ประจวบฯ ครับ ไม่แพง มวลสารสุดยอด รูปแบบสวยงาม ประสบการณ์มากมายครับ หามาบูชาดูนะครับดีเยี่ยม

 

04/03/11

วันนี้ได้รับซองมาเพิ่มอีก 2 ซอง ดังนี้

1.คุณ นสิทธิ
2.คุณ ทินวุฒิ

รวมกับของเดิมตอนนี้ได้รับซองทั้งหมด 9 ท่านแล้วนะครับ

เหลืออีกแค่ท่านเดียวที่ยังไม่ได้ส่งซองมา ไม่ทราบว่าเป็นท่านใด
ถ้าสัปดาห์หน้ายังไม่ได้รับซองจะไปส่งให้ก่อนนะครับสำหรับ 9 ท่านผู้โชคดีครับ

 

เล่าเรื่องพระธรรมธาตุ



โดย พี่สิทธิ์

คำว่า "พระธรรมธาตุ" นี้ ยากที่จะชี้ชัดถึงความหมายที่แท้จริง
อาจเนื่องจากมิใช่ศัพท์บัญญัติที่มีมาแต่เดิม ประกอบกับการนำไปใช้ในความหมายที่ต่าง ๆ กันไป

บางสำนักให้ความหมายว่า ธรรมธาตุ คือ สภาวะที่จิตว่าง (ไม่มีการปรุงแต่ง) ในขณะที่บางสำนักบอกว่า ธรรมธาตุ คือ กฎของธรรมชาติ ซึ่งเป็นของคงตัว คือ อาการที่ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป บางสำนักเรียนอาจหมายถึงธรรมารมณ์ (อารมณ์หรือสิ่งที่เป็นเครื่องรู้ของจิต) ความแตกต่างในความหมายข้างต้นนี้ ไม่ถือเป็นเรื่องสำคัญใหญ่โตอะไร เพราะมิใช่เป็นเรื่องข้อปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ สำหรับเรื่องที่จะเล่านี้ ก็เป็นอีกความหมายของคำว่า "พระธรรมธาตุ" ที่ได้จากประสบการณ์ของลูกศิษย์หลวงปู่ท่านหนึ่ง

คืนวันหนึ่ง ลูกศิษย์หลวงปู่ที่เป็นนักศึกษาชมรมพุทธฯ มธ. ไปค้างคืนที่วัดสะแก พอถึงราว ๔ ทุ่ม เมื่อหลวงปู่เข้าพักในกุฏิแล้ว พวกเขาก็พากันนั่งภาวนาต่อที่หอสวดมนต์ หนึ่งในผู้ปฏิบัติได้มีประสบการณ์ประหลาดอย่างหนึ่ง กล่าวคือ

เขาเห็นนิมิตพระพุทธองค์ก้าวเดินออกมาจากพระประธานองค์ในสุด ก้าวมาได้สัก ๓ ก้าว ก็หยุดยืน ขณะนั้น เขาเห็นตัวเองอีกร่างหนึ่ง ไปก้มลงกราบพระพุทธองค์ แล้วแบบมือทั้งสองขึ้นเหมือนจะรอรับอะไรบางอย่าง จากนั้น เขาก็เห็นพระพุทธองค์ประทานอะไรก็ไม่รู้มีลักษณะเป็นเกล็ดระยิบระยับโปรย ปรายลงมาที่ฝ่ามือของเขา พอเกล็ดเหล่านั้นมาสัมผัสมือของเขา เขาก็เกิดอาการปีติทั่วสรรพางค์ร่างกาย เกิดความเอิบอิ่มอย่างมาก เมื่อเลิกปฏิบัติภาวนาแล้ว เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาประสบนั้นคืออะไร?

เช้าวันรุ่งขึ้น เขาจึงเข้าไปกราบหลวงปู่ แล้วเล่าถวายท่าน หลวงปู่พูดว่า



"ข้าโมทนากับแก นั่นเป็นของดี ของวิเศษ"

เขาถามต่อว่าสิ่งนั้นเรียกว่าอไรครับ หลวงปู่พูดว่า "พระธรรมธาตุ" พอหลวงปู่เห็นใบหน้าที่งง ๆ ของเขา จึงขยายความอีกนิดหนึ่งว่า

"เป็นทั้งพระธรรมด้วย เป็นทั้งพระธาตุด้วย"

เขารู้ว่าสติปัญญาของเขาขณะนั้นยังไม่พร้อมรับ ถึงหลวงปู่จะขยายความให้ลึกซึ้งกว่านั้น เขาก็คงไม่เข้าใจ จึงจบเรื่องความหมายของคำว่า "ธรรมธาตุ" แต่เพียงเท่านั้น ด้วยความเข้าใจเบื้องต้นว่า พระธรรมธาตุ เป็นทั้งพระธรรมด้วย เป็นทั้งพระธาตุด้วย

ดูเหมือนโลกนี้จะมีสิ่ง ที่เป็นรูปธรรมแลนามธรรมซึ่งมีความหยาบละเอียดหลายชั้นเหลือเกิน ที่เป็นรูปธรรมหย่างหนึ่งที่ใกล้ตัวลูกศิษย์หลวงปู่ ก็คือ พระธาตุที่ปรากฏบนพระเครื่องของหลวงปู่ (ดังตัวอย่างในรูปพระสมเด็จที่ทูลเกล้าถวายในหลวงที่นำมา post ไว้ด้านบน)

ในโลกนี้ยังมีอีกหลายสิ่งเหลือคณานับที่มนุษย์ทั่วไปมิอาจเข้าใจ
เพราะความจำกัดแห่งอินทรีย์ (ตา หู ฯลฯ) เว้นแต่จิตของผู้ฝึกมาดีแล้ว ประกอบวาสนาบารมีที่จะเข้าไปรู้ไปเข้าใจ

แต่ถึงแม้จะไม่เข้าใจลึกซึ้งหรืออย่างถ่องแท้ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะหลาย ๆ อย่างหลวงปู่ท่านสรุปลงว่า "พระท่านทำให้เชื่อ" เพื่อว่าจะเป็นปัจจัยก่อให้เกิดพลังใจ พลังศรัทธา ในการปฏิบัติธรรมให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

นิมิต ที่เป็นมงคลจะก่อเกิดประโยชน์สูงสุดก็ต่อเมื่อถูกต่อยอดด้วยการปฏิบัติที่เป็นมงคล นั่นก็คือ การขัดเกลาตัวเองให้กิเลสโลภ โกรธ หลง ลดลง ๆ นั่นเอง