ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    พระสีวลี แกะสลักจากหยกขาว ที่จะนำไปถวายวัดตาลเอน อ.บางปะหัน อยุธยา

    รายละเอียดคุณ Florence 125 จะได้นำมาเรียนให้ทราบกันอีกครั้งครับ


    ประวัติพระสีวลี โดยย่อ

    พระสีวลีเถระ เป็นพระมหาเถระที่มีประวัติค่อนข้างแปลกไปกว่าพระมหาเถระองค์อื่น ๆ ท่านต้องอยู่ในครรภ์พระมารดาอยู่ถึง ๗ ปี กับอีก ๗ วัน ด้วยอำนาจบุรพกรรมตามมาส่งผล และพระพุทธองค์ทรงยกย่องให้เป็นตำแหน่งเอตทัคคะในบรรดาภิกษุผู้เลิศด้วยลาภ และเลิศด้วยยศทั้งหลาย ในศาสนาของพระองค์
    พระสีวลี เป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ราชธิดาแห่งโกลิยนคร ตั้งแต่ท่านจุติลงถือ ปฏิสนธิในครรภ์ของพระมารดา ได้ทำให้ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระมารดาเป็นอันมาก ท่าน อาศัยอยู่ในครรภ์ของพระมารดา นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ครั้นเมื่อใกล้เวลาจะประสูติ พระมารดาได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า พระนางจึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพร จากพระบรมศาสดาและพระพุทธองค์ตรัสประทานพรแก่พระนางว่า:-
    “ขอพระนางสุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข
    ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด”

    ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ ทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานไปพระนาง ประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย ดุจน้ำไหลออกจากหม้อ พระประยูรญาติทั้งหลายได้ขนาน พระนามพระราชโอรสของพระนางสุปปวาสาว่า “สีวลีกุมาร” ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2011
  2. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466

    หลังจากที่ได้โหมโรงเรื่องงานบุญงานกุศลข้างต้นกันไปแล้วก็มีสิ่งดีๆทั้งที่เป็นเรื่องของบุญและกุศลทะยอยกันเข้ามาเป็นลำดับ ควรแก่การปิติชื่นชมและอนุโมทนายิ่งครับ

    เรื่องแรก มีผู้ร่วมบุญสร้างพระพุทธรูป ของคุณโมเย และสร้างพระสีวลี ของคุณFlorence 125 องค์ละ 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน) ผู้ร่วมบุญท่านนี้มาจาก Toronto CANADA ได้มอบเงินให้ไว้ที่ผมแล้ว

    เรื่องสุดท้าย หลายๆท่านอาจจะพอจำได้ คุณชานนคนไทย คนคุ้นเคยกันกับกระทู้นี้ ได้โทรศัพท์มาขอลาบวช กำหนดประมาณวันที่ 27 เดือนนี้ที่วัดบวรฯหลังจากนั้นจะออกไปถือศิลภาวนาที่วัดป่าฯต่างจังหวัด ผมก็ได้ขออนุโมทนาบุญกับท่านไปแล้ว ท่านใดประสงค์จะอโหสิกรรมและร่วมอนุโมทนาบุญด้วยก็ขอเชิญนะครับ
     
  3. ไก่เหลืองหางขาว

    ไก่เหลืองหางขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +493
    ขออนุโมทนากับคุณชานนคนไทย พี่โมเย และทุกๆท่านครับ

    ขอให้คุณชานนมีความสุขในร่มธรรมครับผม
     
  4. Fort_GORDON

    Fort_GORDON เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +488
    ฟอร์ท อโหสิกรรมและอนุโมทนาบุญกับพี่ชานน ด้วยขอรับ
     
  5. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434

    ขออนุโมทนาค่ะ คุณ Florence 125
     
  6. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ขออโหสิกรรมในทุกสิ่งทุกประการ
    และขออนุโมทนาบุญอย่างยิ่งกับคุณชานนในการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

    ป.ล. คำว่าร่มกาสาวพัสตร์นี้ได้เสริชเนตหาเอาเพราะเขียนไม่ค่อยได้ คิดว่าเขียนแบบนี้นะคะตามที่หาได้จากเนต เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ภาษาไทยค่ะ
     
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    บุเรงนอง กะยอดินนรธา

    ได้อ่านประวัติของพระเจ้าบุเรงนอง ทำให้เข้าใจการเมืองการปกครองในสมัยนั้นดีขึ้น เห็นสภาพการได้เมืองและการเสียเมืองในสมัยพระเจ้าบุเรงนองเป็นใหญ่ในช่วงนั้น เห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองต่างๆในดินแดนแถบนี้ค่ะ

    อ่านเจอประวัตินี้จากกระทู้หนึ่งในเวป ถือว่าอ่านสนุกๆดังเจตนาของผู้เขียนนะคะ ผู้เขียนใช้นามปากกาว่า พระยาสุเรนทร์



    พ.ศ. ๒๐๒๙ พระเจ้าสิริมหาชัยยะสุระ (เมงจีโย หรือ มังกะยินโย) ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ตองอู(พ.ศ. ๒๐๒๙ - ๒๒๙๕) ขึ้นเถลิงราชย์เมืองตองอูเกตุมะดี

    พ.ศ. ๒๐๕๘ กำเนิด “จะเด็ด” (*****เรื่องเป็นลูกไพร่หรือลูกเจ้ายังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่*****) ตามตำนานว่าเป็นบุตรของสิงคะสุคนปาดตาล เกิดที่งะสะยอก แขวงเมืองพุกาม (บ้างว่าเกิดที่บ้านHti-hlaing เมืองตองอู) เมื่อเกิดมีปลวกไต่เต็มตัวแต่ไม่ได้รับอันตรายจึงได้ชื่อว่า จะเต็ต เนื่องจากพุกามแห้งแล้งจึงอพยพไปตองจินจี วันหนึ่งบิดา มารดาทิ้งจะเด็ดไว้บนพื้นขณะไปทำงาน มีงูใหญ่มาพันรอบตัวแต่ไม่ได้รับอันตราย จึงได้พาจะเด็ดไปหาพระเถระซึ่งได้ทำนายว่าให้ย้ายไปอยู่ตองอู ทั้งครอบครัวจึงไปอาศัยอยู่ที่อารามของพระขัตติยาจารย์ของพระเจ้าเมงจีโย

    พ.ศ. ๒๐๕๙ ตะเบงชเวตี้ ประสูติ (หลังจะเด็ด ๓ เดือน) ตามตำนานกล่าวว่าพระขัตติยาจารย์พามารดาของจะเด็ดเข้าวังไปเป็นแม่นม ทำให้จะเด็ดได้เป็นพี่ร่วมนมกับตะเบงชเวตี้ ภายหลังลอบรักกับตะเกงจี(พระพี่นางต่างชนนีของตะเบงชเวตี้)จนจะถูกลงโทษแต่พระขัตติยาจารย์มาช่วยจึงแค่ถูกขับออกไปเป็นพนักงานผู้น้อยในกรมวัง แต่ด้วยความขยันขันแข็งจึงได้เลื่อนยศเป็นทหารระดับสูง

    พ.ศ. ๒๐๗๐ กรุงอังวะเสียให้แก่โมนยินซึ่งเป็นไทยใหญ่ (ฉาน) ทำให้ชาวพม่าอพยพมาสู่ตองอู ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของพม่าแห่งใหม่

    พ.ศ. ๒๐๗๔ พระเจ้าสิริมหาชัยยะสุระสวรรคต พระเจ้าตะเบงชเวตี้ขึ้นครองราชย์ ทรงพระนาม เมงตยายะเวที (ไทยเรียก เมงตยา ว่า มังตรา) และเสด็จไปทำพิธีเจาะพระกรรณ เกล้ามวยพระเกศา (แสดงว่าเป็นผู้ใหญ่เหมือนโกนจุก) ที่ธาตุมุเตาชานกรุงหงสาวดีของข้าศึกมอญ พร้อมด้วย “เชงเยทุต” (จะเด็ด) และทหารเพียง ๕๐๐ คน ท่ามกลางวงล้อมของทหารมอญจำนวนมหาศาล และต้องฝ่าวงล้อมเพื่อกลับตองอู โดยได้ตั้งพระราชปณิธานต่อพระธาตุว่าจะตีกรุงหงสาวดี และขอพรพระธาตุให้ได้ครองหงสาวดี ๓ ชั่วคน

    พ.ศ. ๒๐๗๗ เชงเยทุตได้เป็นที่ “จอเดงนรธา” (กะยอดินนรธาหรือกฤษฎานุรุทธ์) ภายหลังจากที่ได้สมรสกับ ตะเกงจี
     
  8. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พ.ศ. ๒๐๗๕ เมืองแปรเสียให้อังวะ (ไทยใหญ่) ตองอูต้องเร่งขยายอำนาจเพื่อเตรียมต้านทานไทยใหญ่ โดยการตีหงสาวดีซึ่งเป็นเมืองท่าที่มั่งคั่ง

    พ.ศ. ๒๐๗๘ - ๘๑ สงครามตองอู - หงสาวดี จบลงด้วยชัยชนะของตะเบงชเวตี้ แล้วย้ายเมืองหลวงจากตองอู มาหงสาวดี

    พ.ศ. ๒๐๘๒ - ๘๓ วีรกรรมที่สมรภูมินองโยซึ่งเป็นวีรกรรม ทางทหารที่ยิ่งใหญ่ของบุเรงนองในยุคแรกถึงกับมีการแต่งวรรณกรรมสรรเสริญชัยชนะครั้งนี้ โดยตะเบงชเวตี้รับสั่งให้จอเดงนรธา เป็นแม่ทัพไล่ตามพระเจ้าสการะวุตพีกษัตริย์มอญที่หนีไปเมืองแปร บุเรงนองได้เผชิญหน้ากับข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่า (พม่า= แปร,มอญ= หงสา,ไทยใหญ่= ที่ยึดครองอังวะ และได้แปรเป็นเมืองขึ้น) โดยมีแม่น้ำขวางกั้นอยู่ บุเรงนองสั่งให้ทำแพสะพานข้าม เมื่อกองทัพข้ามหมดแล้วก็ให้ทำลายทิ้ง ประกาศให้ทหารทุกคนบุกไปข้างหน้าเพราะ ไม่มีที่ให้ถอยอีกแล้ว มีแต่ชนะหรือตายเท่านั้น ทำให้ทหารต้องสู้ตายจนได้รับชัยชนะ ก่อนการประจัญบาน บุเรงนองได้รับพระราชโองการให้รอทัพหลวงของตะเบงชเวตี้แต่บุเรงนองกลับสั่งให้ทหารเข้าตี เมื่อบุเรงนองตอบกลับมาว่าได้รับชัยชนะแล้วกลับทำให้ตะเบงชเวตี้ปลาบปลื้มมากและได้แต่งตั้งให้เป็น บาเยงนองดอ (พระเชษฐาธิราช) พร้อมทั้งได้เมืองลายเป็นบำเหน็จ คนทั่วไปจึงรู้จักกันในนาม บาเยงนอง จอเดงนรธา (บุเรงนอง กะยอดินนรธา คือ พระเชษฐาธิราช กฤษฎานุรุทธ์) ตำแหน่งเทียบเท่า มหาอุปราชา (รัชทายาท) แต่ศึกคราวนี้ไม่สามารถตีเมืองแปรได้ ต่อมาสการะวุตพีทิวงคตลงทำให้ขุนนางมอญยอมสวามิภักดิ์จำนวนมาก ตะเบงชเวตี้ได้พยายามสร้างความกลมเกลียวระหว่างมอญกับพม่า โดยรับธรรมเนียมมอญมาปฏิบัติ อาทิ การโพกผ้าและทำพิธีราชาภิเษกอย่างมอญที่หงสาวดี เป็นต้น อีกทั้งมีการแต่งตั้งเจ้านายฝ่ายมอญให้รับตำแหน่งและเครื่องยศอย่างเหมาะสม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2011
  9. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    เมื่อได้ครองหงสาวดีจึงตั้งสิงคะสุบิดาของบุเรงนองเป็นพระเจ้าตองอู (จากเหตุนี้จึงน่าเชื่อว่าพ่อบุเรงนองเป็นเชื้อพระวงศ์ โดยฝ่ายที่ว่าบุเรงนองเป็นลูกเจ้ากล่าวว่าบิดาบุเรงนองชื่อเมงเยสีหตู เป็นเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางระดับสูง-ราชครู)

    พ.ศ. ๒๐๘๔ - ๘๕ หลังจากเสริมกำลังกองทัพและได้ว่าจ้างทหาร โปรตุเกสและมุสลิม (ทำให้ใกล้ชิดกับพวกโปรตุเกสมาก) ตะเบงชเวตี้ก็ได้เคลื่อนทัพเข้าตีเมาะตะมะ สอพินยา(เจ้าพญา? น้องเขยสการะวุตพี) เจ้าเมืองขอเจรจา แต่การเจรจาไม่สำเร็จ เมืองถูกตีแตกและถูกปล้นสะดมภ์ สอพินยาถูกประหาร

    พ.ศ. ๒๐๘๕ - ๘๗ ยกไปล้อมเมืองแปรซึ่งในขณะนั้นพระเจ้ามังฆ้องได้ครองราชย์แทนพระเจ้านระบดีพระเชษฐา(พระเจ้านระบดีเป็นพี่เขยสการะวุตพี พระเจ้ามังฆ้องเป็นลูกเขยพระเจ้าอังวะ) เข้าตีครั้งแรกไม่สำเร็จ กองทัพไทยใหญ่จากอังวะยกมาช่วย(เพราะแปรเป็นประเทศราช และสกัดอิทธิพลของตะเบงชเวตี้) บุเรงนองยกออกไปรับและตีไทยใหญ่แตกพ่ายไป จนหน้าฝนตะเบงชเวตี้จึงสั่งให้ทหารทำนาและเกณฑ์ทหารเพิ่มจากเมืองมอญ เมื่อกองทัพยะไข่(อาระกัน)ยกมาช่วย บุเรงนองก็ออกไปดักซุ่มโจมตีจนต้องหนีไปเช่นกัน สุดท้ายเมืองแปรก็แตกและถูกลงโทษอย่างหนักเพราะเป็นเสี้ยนหนามมายาวนาน พระเจ้าแปร พระราชวงศ์ และขุนนางผู้ใหญ่ถูกประหารอย่างน่าอนาถ พระเจ้าตะเบงชเวตี้ตั้งน้องชายต่างมารดาของบุเรงนองเป็นพระเจ้าแปรนามสะโดธรรมราชา(ผู้ที่ชนช้างกับพระสุริโยทัย)
    เมื่อกลับถึงหงสาวดีก็ทรงสถาปนาพุทธาวาสและเจดียสถานเพื่อแสวงบุญกุศลล้างบาปจากการสงคราม

    พ.ศ. ๒๐๘๗ - ๘๘ โสหันพวา(เสือหาญฟ้า?)ซึ่งครองเมืองอังวะดุร้ายมากจึงเกิดกบฏ ขุนเมืองแงได้เป็นพระเจ้าอังวะ ได้ยกระดมหัวเมืองไทยใหญ่ยกมาตีแปรแต่ก็แตกพ่ายไป ตะเบงชเวตี้จึงยกทัพขึ้นเหนือตีดินแดนพม่าตอนบนคืนมาได้หมดแต่ยังมิได้อังวะ ได้ทำพิธีราชาภิเษก เป็น “ราชาธิราช” จักรพรรดิผู้รวมพุกามประเทศ ที่เมืองพุกาม อันเป็นเมืองหลวงพม่าโบราณสมัยจักรวรรดิพุกาม จึงนับเป็นการเริ่มยุคจักรวรรดิที่ ๒ ของพม่า (ที่ ๓ คือ สมัยราชวงศ์อลองพญา พ.ศ. ๒๒๙๕ - ๒๔๒๘)

    พ.ศ. ๒๐๘๙ - ๙๐ เจ้าเมืองทรางทวย หน้าด่านยะไข่ใต้ขอสวามิภักดิ์ แลจะนำกองทัพเข้าช่วยตียะไข่ โดยขอตำแหน่งเจ้าเมืองยะไข่เป็นรางวัล จึงเกิดสงครามกับยะไข่

    พ.ศ. ๒๐๙๑ หลังจากล้อมยะไข่เป็นเวลานาน อีกทั้งมีข่าวอยุธยาฉวยโอกาสที่หงสาติดพันศึกยะไข่ยกทัพมาตีเมืองทวาย เมื่อยะไข่ส่งพระสงฆ์มาเจรจาหย่าศึก ตะเบงชเวตี้จึงยอมรับและสั่งเจ้าเมืองเมาตะมะให้เกณฑ์ทหารมอญและตะนาวศรีเพื่อยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาในสงครามคราวเสียสมเด็จพระศรีสุริโยทัย หลังจากล้อมกรุงจนเสบียงหมดเนื่องจากไม่ได้ตรียมการมาดีนัก จึงถอยทัพขึ้นทางเหนือตีได้หัวเมืองเหนือหลายเมือง โดยให้บุเรงนองเป็นกองระวังหลัง เมื่อกองทัพอยุธยาตามมาถึง ตะเบงชเวตี้รับสั่งให้รอทัพหลวงก่อนแต่แม่ทัพรองคนอื่นๆ ไม่ได้รับแจ้งจึงเข้าตี บุเรงนองเห็นเช่นนั้นเกรงคนครหาว่าขี้ขลาดไม่กล้าเข้าตี จึงยอมตายเพราะขัดราชโองการดีกว่า คิดดังนั้นก็ขัดรับสั่งเข้าตี ได้ชนช้างกับเหล่าเจ้านายและขุนนางไทยหลายคน ได้รับชัยชนะจับเชื้อพระวงศ์และขุนนางไทยได้ เมื่อตะเบงชเวตี้มาถึงจึงกริ้วมาก รับสั่งว่าเหตุใดจึงขัดราชโองการ เมื่อบุเรงนองชี้แจงเหตุผล จึงมิได้ทรงลงโทษ และได้รางวัลแก่แม่ทัพนายกอง โดยเฉพาะ มังเอิน ลูกชายของบุเรงนอง (มีศักดิ์เป็นหลานน้าตะเบงชเวตี้) ซึ่งอายุเพียง ๑๓ แต่แสดงความกล้าหาญในการสงครามเข้าช่วยพ่อ (บุเรงนอง) รบกับข้าศึก จึงพระราชทานนามให้ว่า มังไชยสิงห์ (ต่อมาคือ พระเจ้านันทบุเรง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2011
  10. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พ.ศ. ๒๐๙๒ ตะเบงชเวตี้เจรจาหย่าศึกกับอยุธยาแล้วก็เสด็จกลับหงสาวดี แต่ศึกครั้งนี้เสียทหารพม่ารามัญมากมาย ตะเบงชเวตี้โทมนัสมากจนเปลี่ยนอัธยาศัยจากที่เคยแข็งขันในราชกิจ ไม่ลุ่มหลงในกามคุณ กลายเป็นคนขี้เมาหยำเปจนไม่สามารถว่าราชการได้ โดยมีหลานของเจมส์ ซอเรซนายทหารโปรตุเกสเป็นเพื่อนกินเหล้า บุเรงนองจึงขับไล่ฝรั่งหนุ่มออกไปและพยายามรักษาบ้านเมืองไว้ มีขุนนางพม่ารามัญเชิญให้บุเรงนองครองราชย์แทนเพื่อประโยชน์แก่บ้านเมือง แต่บุเรงนองไม่ยอมด้วยจงรักภักดีต่อตะเบงชเวตี้เป็นอย่างยิ่ง ฝ่ายพวกมอญที่ไม่พอใจที่ถูกพม่ากดขี่เกณฑ์คนไปทำสงครามไม่หยุดหย่อนจึงเห็นเป็นโอกาส โอรสพินยาราน(พญาราม)และเป็นน้องต่างมารดากับสการะวุตพีที่บวชอยู่ด้วยเกรงราชภัยจากพระเชษฐา ได้สึกออกมาเป็นหัวหน้ากบฏนามว่า สมิงทอราม(เตารามะ) ตะเบงชเวตี้รับสั่งให้บุเรงนองไปปราบกบฏ บุเรงนองไม่วางใจในความปลอดภัยของตะเบงชเวตี้จึงทูลให้เจ้าลครอินท์คอยรักษาพระองค์ แต่ตะเบงชะเวตี้ไม่เชื่อบุเรงนองจึงต้องยกทัพไปด้วยความไม่สบายใจ

    พ.ศ. ๒๐๙๓ สมิงสอตุดเจ้าเมืองจิตตอง(เป็นเชื้อวงศ์มอญ คนสนิทของตะเบงชะเวตี้ตำแหน่งว่ากรมวัง)ลอบเป็นมิตรกับสมิงทอราม และได้หลอกพระเจ้าตะเบงชเวตี้ว่ามีช้างเผือก ตะเบงชเวตี้จึงให้เจ้าลครอินท์ยกไปเตรียมการคล้องช้าง และพระองค์ก็ข้ามฟากไปตั้งค่ายที่บ้านกะสา สมิงสอตุดเห็นได้ทีจึงให้น้องชายที่รักษาพระองค์ฟันพระเศียรขาด เมื่อวันพุธ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ รวมพระชนม์ ๓๔ พรรษา

    สมิงสอตุดก็ได้ขึ้นครองหงสาวดี สีหะสุ(สีหะตู) น้องชายต่างมารดาของบุเรงนองที่ได้เป็นพระเจ้าตองอูแทนบิดา(เมงเยสีหะตู, *สีหะตู=สีหะสุ=สิงคะสุ )ที่ตายไปเมื่อ ๒ ปีก่อน ได้หนีออกจากหงสาวดีที่ตนรักษาอยู่ไปตองอูและตั้งตัวเองเป็นอิสระนามว่าพระเจ้ามังฆ้อง(เมงข้อง)

    ฝ่ายสะโดธรรมราชา(นามเดิม นันทโยธา)น้องต่างมารดาอีกคนของบุเรงนองที่ได้เป็นพระเจ้าแปรก็ตั้งตนเป็นอิสระเช่นกัน

    ฝ่ายบุเรงนองเมื่อได้รับชัยชนะ(แต่จับตัวสมิงทอรามไม่ได้) ก็ได้ทราบข่าวร้ายจึงรีบยกทัพกลับแต่ก็ไม่ทันการ ด้านกำลังทหารก็มีน้อยอีกทั้งชาวมอญก็รังเกียจจึงคิดจะยกไปตองอู บุเรงนองเดินทัพน้อยๆเลียบเมืองหงสาวดีแต่ไม่มีใครเข้าต่อตีด้วยเกรงฝีมือ เมื่อถึงตองอูน้องชายกลับไม่เปิดประตูให้ บุเรงนองจึงต้องถอยไปซ่องสุมผู้คนที่เชิงเขาแห่งหนึ่ง แต่ด้วยฝีมือและชื่อเสียงของบุเรงนองจึงมีผู้คนมาเข้าด้วยมากมาย บุเรงนองจึงยกทัพไปตองอูซึ่งน้องชายก็ยอมแพ้แต่โดยดี บุเรงนองก็ไม่ถือโทษให้ครองเมืองต่อไป จากนั้นยกไปเมืองแปรปรากฏว่าสะโดธรรมราชาหนีกบฏออกจากเมืองไป บุเรงนองจึงปราบกบฏและตามน้องชายมาครองเมืองตามเดิม จากนั้นบุเรงนองก็รวบรวมหัวเมืองในเวิ้งอิระวดีตอนบนได้หมดสิ้นจนถึงเมืองพุกาม ได้ปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์

    ข้างหงสาวดีสมิงสอตุดครองเมืองด้วยความโหดร้ายอยู่ได้สามเดือน สมิงทอรามซึ่งหนีไปซ่องสุมผู้คนที่เมาะตะมะได้ยกทัพมาตีหงสาวดีได้ และจับสมิงสอตุดประหารเสีย จากนั้นก็ขึ้นครองหงสาวดีเป็นองค์สุดท้ายของราชวงศ์พระเจ้าฟ้ารั่ว(วาเรรุ-มะกะโท)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2011
  11. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    พ.ศ. ๒๐๙๔ บุเรงนองยกทัพจากตองอูเข้าตีหงสาวดี สมิงทอรามองอาจไม่ยอมอั้นพระองค์อยู่ในกำแพงจึงยกทัพออกไปรบแต่ก็พ่ายแพ้หนีไปอยู่เมาะตะมะ หลบหนีอยู่สามเดือนก็ถูกจับส่งมาสำเร็จโทษ แล้วขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าหงสาวดี ตั้งอนุชาต่างมารดาชื่อไชยนันทเป็นมางแรจอถิงเจ้าเมืองเมาะตะมะ ตั้งมังไชยสิงห์ราชโอรสเป็นมหาอุปราชา(คือพระเจ้านันทบุเรง)

    พ.ศ. ๒๐๙๕ พระเจ้าอังวะองค์ใหม่โอรสขุนเมืองแงหนีมาพึ่งบุเรงนอง จึงยกไปตีอังวะครั้งแรกยังไม่ได้

    พ.ศ. ๒๐๙๗ ยกไปตีได้เมืองอังวะจับพระเจ้านระบดีไปหงสาวดี และตั้งสะโดเมงสอราชบุตรเขยเป็นพระเจ้าอังวะ บุเรงนองอยู่อังวะหลายเดือนเพื่อดูอาการเจ้าฉาน(เงี้ยว-ไทยใหญ่)ทั้งหลาย

    พ.ศ. ๒๑๐๐ ไทยใหญ่เกิดปัญหาแย่งชิงอำนาจ มีเจ้าตนหนึ่งร้องขอให้อังวะช่วย บุเรงนองจึงขึ้นไปประชุมพลที่อังวะและยกเข้าตีเมืองของเจ้าฟ้า(สอพวา)ไทยใหญ่ทั้งหลาย ทหารพม่ารามัญอยู่ที่ราบเขตร้อนไม่คุ้นเคยกับภูเขาเขตหนาวอันเป็นแหล่งหิมะ แต่ด้วยเห็นว่าบุเรงนองไม่ครั่นคร้ามเป็นตัวอย่างจึงเกิดกำลังใจรบพุ่งจนได้ชัยชนะ บุเรงนองให้แก้ไขพระศาสนาเพื่อให้ชาวไทยใหญ่ทั้งหลายนับถือพระรัตนตรัย และมีศาสนาแบบพม่ารวมทั้งยกเลิกการฆ่าสัตว์ฆ่าทาสบูชายัญ จนเลิกขาดในที่สุด

    พ.ศ. ๒๑๐๑ ยกไปตีได้หัวเมืองไทยใหญ่ทั้งหมด ยกเว้นแสนหวี จากนั้นยกไปตีเชียงใหม่เพราะเชียงใหม่ช่วยเหลือเมืองนาย พระเจ้าเชียงใหม่ยอมอ่อนน้อมขอเป็นเมืองออก บุเรงนองสั่งให้พญาทะละคุมทหารกองหนึ่งคอยดูแลเชียงใหม่ และส่งช่างฝีมือต่างๆ พระสงฆ์ และพระไตรปิฎกไปหงสาวดี ส่วนพระองค์เสด็จไปลงโทษเจ้าฟ้าเมืองนาย ยองห้วย และยอกสอกที่เป็นกบฏ

    เมื่อกลับถึงอังวะได้ทรงจัดระเบียบภาษีอากร เจ้าฟ้าไทยใหญ่ทั้งปวงก็เดินทางมาอ่อนน้อมจนหมดสิ้น ขณะนั้นมีข่าวพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งล้านช้าง ยกมาตีเชียงใหม่โดยมั พญาแพร่ น่าน ลำปาง เชียงราย และเชียงของร่วมด้วย จึงให้พระเจ้าอังวะไปปราบและได้รับชัยชนะ

    พ.ศ. ๒๑๐๒ บุเรงนองกลับหงสาวดี และทำการบำรุงพระศาสนาขนานใหญ่ ปลูกฝังให้ราษฎรนับถือพุทธศาสนา ห้ามการฆ่าบูชายัญ แต่ก็มิได้กีดกันเบียดเบียนศาสนาอื่น

    พ.ศ. ๒๑๐๕ เมืองน้อยตรงชายแดนจีนถูกจีนยุยง ยกทัพมาตีเมืองมีดเมืองออกของพม่า บุเรงนองจึงแต่งกองทัพไปปราบเป็นข้าขอบขัณฑสีมาและแก้ไขการศาสนาให้ในเมืองนั้นให้ดีขึ้น

    พ.ศ. ๒๑๐๖ -๒๑๐๗ เกิดสงครามช้างเผือกกับกรุงศรีอยุธยา อยุธยาขอหย่าศึกโดยยอมส่งส่วย ช้าง ๓๐ เชือก เงิน ๓๐๐ ชั่งรวมทั้งภาษีปากเรือท่าเมืองตะนาวศรี ทุกปี และยังได้ช้างเผือก ๔ เชือกจาก ๗ เชือก รวมทั้งพระราเมศวร พระยาจักรี และพระสุนทรสงคราม (พม่าว่าเอาพระมหาจักรพรรดิไปด้วย) รวมทั้งช่างฝีมือต่างๆ ของอยุธยา
     
  12. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    หลังศึกครั้งนี้ยังได้นำพระนเรศวรไปหงสาวดี และได้เลี้ยงดูพระองค์อย่างดีรวมทั้งได้สอนศิลปศาสตร์และพิชัยสงครามต่างๆ

    เมื่อกลับถึงหงสาวดีโปรดให้สร้างเมืองใหม่เพราะระหว่างติดพันศึกอยุธยาเกิดกบฏ(แต่ปราบปรามได้)เผาเมืองเสียสิ้น เมืองใหม่นี้กว้างขวางใหญ่โตมากฝรั่งที่ได้มาหงสาวดีได้ยกย่องว่าเป็นเมืองที่ใหญ่โตมาก

    พ.ศ. ๒๑๐๗-๘ ปราบกบฏล้านนา และกลับมาปราบกบฏเชลยไทยใหญ่ที่หงสาวดี

    พ.ศ. ๒๑๐๘ รบชนะล้านช้างที่ช่วยล้านนากบฏ และทำการทำนุบำรุงศาสนาสมเป็นธรรมราชา

    พ.ศ. ๒๑๑๑ พิษณุโลกยอมเป็นประเทศราชหงสาวดี เพราะถูกไทยกับลาวตีเนื่องจากโกรธที่พระมหาธรรมราชาไปทูลให้บุเรงนองทาชิงพระเทพกษัตรี

    พ.ศ. ๒๑๑๑-๑๒ ตีได้กรุงศรีอยุธยา(พม่าบอกว่าพระมหาจักรพรรดิที่ถูกพาไปหงสาขอบวช แล้วลอบกลับมาที่กรุงศรีอยุธยาเพื่อก่อกบฏ) ตั้งพระมหาธรรมราชาเป็นกษัตริย์

    ขณะที่บุเรงนองอยู่ที่อยุธยาเพื่อจัดการบ้านเมืองนั้น เขมรได้นำเครื่องราชบรรณาการมาขออ่อนน้อม

    พ.ศ. ๒๑๑๒-๑๓ ยกไปตีล้านช้างโดยมีพระสุพรรณกัลยา(ที่พระมหาธรรมราชาถวายหลังครองกรุงศรีอยุธยา)โดยเสด็จด้วย ครั้งรี้ตีไม่สำเร็จ แต่ได้ตัวพระอุปราชและพระราชวงศ์ล้านช้างมาไว้หงสาวดี

    พ.ศ. ๒๑๑๔ ปราบกบฏหัวเมืองไทยใหญ่ ปีนี้พระนเรศวรไปครองพิษณุโลก

    พ.ศ. ๒๑๑๗ พระเจ้าไชยเชษฐาแห่งล้านช้างสวรรคตขณะไปตีเขมร บุเรงนองจึงยกไปตีล้านช้างเพื่อจะให้พระอุปราชลาวที่ทรงเลี้ยงได้ไว้เป็นกษัตริย์ ครั้งนี้ตีลาวได้สำเร็จ(พระนเรศวรโดยเสด็จในการสงครามด้วยแต่ประชวรทรพิษ บุเรงนองจึงให้กลับ) ได้เจ้าหญิงลังกาเป็นมเหสี (โปรตุเกสว่าเป็นแค่บุตรีขุนวัง)

    พ.ศ. ๒๑๑๙ ปราบกบฏหัวเมืองไทยใหญ่ พระเจ้ากรุงโคลัมโบในลังกาขอให้บุเรงนองส่งทหารไปช่วยและได้ถวายพระเขี้ยวแก้วเป็นของตอบแทน(พระเขี้ยวแก้วถูกโปรตุเกสทำลายแต่ทำปาฏิหาริย์มาที่กรุงโคลัมโบ แต่พระเจ้ากรุงแคนดี้บอกว่าของจริงทำปาฏิหาริย์ไปที่กรุงแคนดี้ โดยพระเจ้ากรุงแคนดี้ก็ขอถวายพระเขี้ยวแก้วกับพระธิดาแต่บุเรงนองไม่รับ) บุเรงนองโสมนัสมากให้ทำพิธีอย่างยิ่งใหญ่

    ในการนี้บุเรงนองและพระมเหสี(ตะเกงจี พระพี่นางต่างพระมารดาของตะเบงชเวตี้และเป็นพระมารดาของนันทบุเรง) ได้ตัดพระเกศาทำเป็นแส้ถวายพระเขี้ยวแก้ว

    พ.ศ. ๒๑๒๒ ตั้งนรธาเมงสอ(มังนรธาช่อ)ราชโอรส เป็นพระเจ้าเชียงใหม่ (นรธาเมงสอเป็นพระบิดาของพระเมงทุลอง พระนางโยธยามี๊พะยา พระไชยธิป

    พ.ศ. ๒๑๒๓ ให้ยกทัพเรือไปตียะข่าย(ระแข่ง หรือ อาระกัน) ระหว่างทางเจอกองเรือกำปั่นโปรตุเกสได้รบกัน(โปรตุเกสไม่พอใจที่พม่าไปยุ่งในลังกา) กองเรือพม่าได้รับชัยชนะและยกพลขึ้นบกเข้าตีเมืองทรางทวย(สันโทเว)และยั้งทัพรอทัพบกที่บุเรงนองจะยกไปเอง

    พ.ศ. ๒๑๒๔ ขณะเตรียมยกทัพหลวงไปตียะข่าย บุเรงนองก็สวรรคตเสียก่อนจึงต้องยกทัพกลับ มหาอุปราชานันทบุเรงขึ้นครองราชย์แทน


    บุเรงนองทรงมีพระโอรส ๓๘ องค์ พระธิดา ๕๙ องค์ จากพระมเหสีและพระสนมมากมายหลายพระองค์ โดยได้รับพระธิดาจากหลายนครเป็นมเหสี เช่น มอญ พม่า อยุธยา เชียงใหม่ ล้านช้าง ลังกา และหัวเมืองไทยใหญ่ เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2011
  13. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [MUSIC]http://similan95.googlepages.com/111.wma[/MUSIC]​

    ขอเปิดเพลงเก่าที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าบุเรงนองสักเพลงนะคะ ร้องโดยคุณชรินทร์ นันทนาคร ชื่อเพลงผู้ชนะสิบทิศ

    • รอคุณ Florence125 มาเล่าเรื่องพระสีวลี
    • รอน้องโมเย บอกกำหนดการสร้างพระหทัยนเรศวร์ค่ะ
    • อยากช่วยพระอาจารย์มหาฤทธิชัยสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ไม่รู้ท่านได้กี่ทุนแล้ว
    • อยากร่วมถวายปัจจัยบวชกับคุณชานน ด้วยอนุโมทนาจิตจะร่วมปัจจัยไว้ที่พี่จงรักภักดีได้ไหมคะ
    • ขออนุโมทนากับคุณพี่จากแคนาดาด้วยค่ะ
    • พระครูสมุท์ จิรยุทธ์ ท่านออกจากการเข้ากรรมฐานหนึ่งเดือนในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ใครไปกราบท่านมาแล้วบ้างคะ เล่าให้ฟังบ้าง
    • พี่ดอกไม้เมืองบนคะ การสร้างพระราชานุสาวรีย์พระแม่จามเทวีเรียบร้อยหรือยังคะ เล่าสู่กันฟังบ้าง
    • คุณเวฬุวันจะถวายพระไตรปิฏกอีกชุดหนึ่งที่วัดไหนคะ
    • คุณหรูหรา(luxury) ไปวัดวรเชษฐ์บ่อยไหมคะ
    • ทางวัดชุมพลฯกำลังเดินหน้าบูรณะช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และซุ้มหน้าต่าง คิดว่าคงไม่ติดปัญหาอะไรแล้ว คงเดินหน้าเต็มกำลัง งานซ่อมคงจะเสร็จก่อนหน้าฝนปีนี้ค่ะ พระประธานในโบสถ์ทั้งเจ็ดจะได้ปลอดภัยจากฟ้าฝนและแสงแดด ประดิษฐานอย่างสง่างามต่อไปในโบสถ์หลังนี้อีกหลายร้อยปี
    • พี่จงรักภักดีจะไปร่วมงานเททองหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในวันที่ 17 มีนาคมนี้หรือไม่คะ ขอร่วมส่งจิตไปอนุโมทนาบุญกับมูลนิธิพิทักษ์ภูมิไทยด้วยค่ะ
     
  14. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    อดยิ้มไม่ได้ที่ได้เห็นพระพักตร์อันแจ่มใสของพระองค์ท่านในหนังสือพิมพ์ กลับจาก 7-11 ปุ๊บก็หาดูข่าวนี้ในอินเตอร์เนต ได้เห็นพระองค์ยิ้มแล้วหัวใจประชาชนช่างแช่มชื่นนักค่ะ ได้เห็นพระองค์ท่านเกษมสำราญ ทรงแจ่มใส แข็งแรง ทางสายธาตุรู้สึกดีใจมากบอกไม่ถูก รู้แต่ว่าดีใจยิ่ง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

    [​IMG]

    [​IMG]
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เสด็จพระราชดำเนินลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยฉลองพระองค์แขนสั้นสีเขียว ลายดอกไม้สีเหลือง พระสนับเพลาสีกากี ฉลองพระบาทผ้าใบสีขาว เสด็จฯพร้อมด้วย ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม พระธิดา ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระที่นั่งรถเข็น เสด็จผ่านตึกกายวิภาคศาสตร์ ไปยังบริเวณลานสระว่ายน้ำ สมาคมศิษย์เก่า คณะแพทยศาสตร์ศิริราช เพื่อทอดพระเนตร ทัศนียภาพ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมี รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน หัวหน้าสำนักงานศูนย์หัวใจสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นผู้เข็นรถพระที่นั่งถวาย

    ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ

     
  15. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
  16. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    อยากร่วมถวายปัจจัยบวชกับคุณชานน ด้วยอนุโมทนาจิตจะร่วมปัจจัยไว้ที่พี่จงรักภักดีได้ไหมคะ

    ขออนุญาตเพิ่มเติมในรายละเอียดเท่าที่พอจะจำได้ การบวชครั้งนี้จะบวชรวมกัน 5 รูปท่านอื่นๆทราบว่ามีนายแพทย์อยู่ด้วย จะบวชนานประมาณหนึ่งเดือนส่วนของคุณชานนนั้นไม่ได้กำหนดแน่นอน คงขึ้นอยู่กับวาสนา สำหรับปัจจัยที่มีผู้ร่วมทำบุญจะนำมารวมเป็นกองกลางเพื่อใช้ในการบวชพระทั้ง 5 รูป เท่ากับทำบุญครั้งเดียวได้อานิสงค์เท่ากับบวชพระถึง 5 รูป ครับ

    ท่านที่ประสงค์จะร่วมทำบุญบวชพระ สามารถโอนเงินได้ที่...
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอิมพีเรียลลาดพร้าว บัญชีเลขที่ 2242314495

    ชื่อบัญชี ชานน นิ่มนคร

    "ขอให้บุญร่วมบวชพระของท่านถึงพร้อมบารมี ด้วยเทอญ สาธุ ๐๐๐"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2011
  17. Florence125

    Florence125 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +6
    ต้องขอโทษพี่ๆเพื่อนๆและญาติธรรมทุกท่านที่เข้ามาให้รายละอียดการสร้างพระสิวลีอัญมณีหยกขาว ถวายวัดตาลเอน ล่าช้าไปหน่อย Florence 125 ต้องกราบขออภัยจริงๆค่ะ.....

    ....................

    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระสิวลีอัญมณีหยกขาว (พระสิวลี บารมี ๓ พระองค์)เพื่อเป็นพุทธบูชา และเพื่อเป็นบารมีแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระสุพรรณกัลยา
    พร้อมทั้งทอดผ้าป่าสามัคคีบารมีแห่งชีวิต ถวายวัดตาลเอน อำเภอปางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


    วันเสาร์ ที่ ๑๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ ( ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถาะ )

    ...............................

    เดิมทีมีความตั้งใจจะสร้างถวายโดยลำพัง ไม่ประสงค์จะรบกวน แต่ก็ได้รับคำแนะนำและท้วงติงจากผู้ที่เคารพนับถือหลายท่านว่าเป็นเรื่องของงานบุญงานกุศลสมควรที่จะบอกบุญเพื่อเป็นการแบ่งบุญให้แผ่กระจายและขยายออกไป บุญกุศลก็จะยิ่งเพิ่มพูนเป็นทวี และข้อสำคัญทั้งสามพระองค์ ล้วนมีผู้ที่เคารพนับถืออยู่เป็นจำนวนมาก หากมาทราบเรื่องทีหลังก็จะเป็นการพลาดโอกาสที่น่าเสียดาย
    ขอขอบพระคุณในคำเตือนที่มีคุณค่ายิ่งนี้ค่ะ​

    Florence125 ขออนุโมทนาบุญกับคุณชานนคนไทยด้วยค่ะ ขอให้พบความสุขใต้ร่มกาสาวพัตรนะคะ


    พระสิวลีอัญมณีหยกขาว (พระสิวลี บารมี ๓ พระองค์) ค่ะ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2011
  18. พระราชมนู

    พระราชมนู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +78
    เรือกิ่งแก้ว

    [​IMG]
    </SPAN>
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    กำเนิดเรือ<O:p></O:p>
    ในริ้วกระบวนจัดเป็นเรือที่เป็นเครื่องประดับยศ เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยอยุธยา ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง บ้างก็ว่าในรัชกาลพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ.๒๑๖๓-๒๑๗๑) กล่าวว่าพระองค์มีรับสั่งให้เอากิ่งดอกเลาประดับเรือ ต่อมาภายหลังพนักงานจึงเขียนลายกิ่งไม้ประดับไว้ที่หัวเรือ เรียกว่า เรือพระที่นั่งกิ่ง เป็นเรือชั้นสูงสุด มิได้โปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นใดประทับ เว้นแต่บางครั้งโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเรือผ้าไตร หรือผ้าทรงสะพักพระพุทธรูป หรือพานพุ่มดอกไม้และเป็นเรือทรงพระไชย ในกระบวนพยุหยาตราชลมารค ถวายผ้าพระกฐิน<O:p></O:p>
     
  19. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    มีความสุขสิ่งที่ทำ นำดวงจิต
    บาทบพิตรสื่อวงศ์ องค์นเรศ
    ประวัติศาสตร์ขจรไกล ในภูเบศร์
    สยามเขตมั่นคง จงนิรันดร์

    แฮปปี้ทูเดย์

    กลอนโดย พระอาจารย์มหาฤทธิชัย กัลยาโณ

    ------------------------------------------------------

    ขออนุโมทนากับคุณFlorence125 ค่ะ
    มีจุดเริ่มต้นมาอย่างไรจึงมีโครงการสร้างพระสิวลีค่ะ มีแรงบันดาลใจอะไรหรือไม่คะ เล่าสู่กันฟัง

    คุณพระราชมนูได้รับพระพิมพ์แล้วใช่ไหมคะ

    เรือกิ่งแก้ว พี่เพิ่งเคยได้อ่านประวัติการสร้าง เพราะคุณพระราชมนูนำมาให้อ่านกันนี่เอง ขอบคุณค่ะ
     
  20. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,897
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ได้รับจดหมายยารักษาโรคไต ชนิดไม่เรื้อรัง ที่ทางสายธาตุเคยเล่าให้ฟังว่า เจอพี่เขาที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบรมราชชนก ในโรงพยาบาลศิริราช ลูกชายคนโตของพี่เขาเป็นโรคธาลัสซีเมีย โรคนี้ทำให้เกิดอาการไตพิการด้วย แล้วมีพระธุดงค์องค์หนึ่งท่านเดินผ่านมา เมตตาต่อเด็กน้อย ให้สูตรยาไว้และให้เผยแพร่ได้ ค่ายาทั้งชุดไม่เกิน 70 บาท พี่เขาบอกว่าค่าหม้อดินต้มยายังแพงกว่าตัวยาเสียอีก พี่เขาต้มให้ลูกชายกินแล้ว เขาว่าได้ผลดี อันนี้แล้วแต่ความศรัทธานะคะ เพราะไม่มีผลวิจัยทางการแพทย์มายืนยันว่ายาให้ผลอย่างไรบ้าง อาศัยความศรัทธาเป็นที่ตั้งค่ะ ถ้าได้ผลก็ขอให้อุทิศกุศลผลบุญให้กับเจ้าของสูตรยา(เป็นใครก็ไม่มีใครทราบ) พระธุดงค์ที่เผยแพร่สูตรยา แม่และลูกผู้บอกสูตรยานี้

    ผู้บอกสูตรยา คุณยุพิน โสดา อยู่ที่กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

    แก้ไตพิการ

    ๑. ใบมะกำ ๑ กำมือ
    ๒. หญ้าไทร ๑ กำมือ
    ๓. ใบส้มเสี้ยว ๑ กำมือ
    ๔. ตาไม้ไผ่สีสุก ๑ กำมือ
    ๕. ใบมะดัน ๑ กำมือ
    ๖. จุกกระเทียม ๓ กำมือ
    ๗. จุกหอม ๓ กำมือ
    ๘. ใบมะขาม ๑ กำมือ
    ๙. ดินประสิว ๑ บาท
    ๑๐. คำฝอย ๒ บาท
    ๑๑. ผักคูณ ๓ ฝัก
    ๑๒. แก่ฟาง ๑ บาท
    ๑๓. สารส้ม ๑ บาท
    ๑๔. ยาดำ ๑ บาท

    ต้มอย่างไรไม่ได้บอกมา เดี๋ยวจะส่งจดหมายไปหาพี่ยุพินเพื่อถามเกี่ยวกับวิธีต้มค่ะ



     

แชร์หน้านี้

Loading...