มีเรื่องสงสัยเกี่ยวกับพุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NuJulie, 14 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. NuJulie

    NuJulie Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +64
    สงสัยเกี่ยวกับพุทธภูมิค่ะ อยากถามผู้รู้ค่ะ ใครรู้ข้อใดหรือจะแสดงความคิดเห็นก็ได้น่ะค่ะ

    1 พุทธภูมิแบบวิริยาธิกะพิเศษ คืออะไร แตกต่างจากวิริยาธิกะปกติยังไงค่ะ

    2 ท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ ส่วนใหญ่ทำบุญอะไรกันค่ะเพื่อสร้างบารมี

    3 หากในอดีตเคยลาพุทธภูมิแล้วทั้งๆที่บำเพ็ญมา1อสงไขยแล้ว หากปัจจุบันปรารถนาพุทธภูมิต่อจะต้องบำเพ็ญใหม่เลยไหม

    4 หากปรารถนาบ้าง ลาพุทธภูมิบ้าง เป็นแบบนี้ทั้งชาติจะเป็นอะไรไหม

    5 ในปัจจุบันมีใครที่สามารถให้พยากรณ์(แม้ว่าไม่ SURE เหมือนพระพุทธเจ้า)เฉกเช่นอาจารย์ไก่ บ้างค่ะ
    6 การสร้างบารมีเพื่อพุทธภูมินั้นบ้างก็ว่าเป็น 4 8 16 อสงไขยกับแสนมหากัป บ้างก็ว่าเป็น 20 40 80 อสงไขยกับแสนมหากัป

    ตามลำดับของปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ วิริยาธิกะ อย่างไรกันแน่

    7 ตอนนี้ มีหมู่คณะใดบ้างที่ร่วมกันสร้างบารมีเพื่อพุทธภูมิ

    [​IMG]
    (ภาพนี้สวยมากเลย)



    ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2011
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ถามยากจังเลยครับตอยไม่ได้เลย ลองตอบดูบางข้อครับ
    3.การลาพุทธภูมิหมายถึงการเป็นอรหันต์สำหรับมนุษย์และการเป็นวิสุทธิเทพสำหรับเทวดาครับไม่น่าจะหมายถึงการหยุดบำเพ็ญบารมี
    4.หากปรารถนาบ้างลาบ้างในชาตินี้ก็ไม่น่าเป็นไร ถ้าเรายังคิดจะบำเพ็ญบารมีอยู่ แต่ถ้าเราคิดว่าอยากจะเป็นอรหันต์การคิดแบบนี้จะทำให้เป็นอุปสรรคมากได้
    5.ปัจจุบันคนที่สามาราถพยากรณ์ได้ไม่รู้มีหรือเปล่า แต่ในภพวิญญาณจะมีท่านที่สามารถบอกได้ แต่ไม่สามารถบอกได้แน่เหมือนกับพระพุทธเจ้า เพราะเคยอ่านเจอว่าหลวงพ่อฤาษีและพระเจ้าตากสินเคยไปถามท่านผู้นี้ก็ทำนายได้ว่าจะสำเร็จเป็นองค์ที่เราไหร่ แต่ก็ไม่แน่เพราะยังลาได้
    6.การสร้างบารมี 4 8 16 อสงไขยนั้นถูกแล้วครับ 20 40 80 นั้นรวมเวลาที่คิดในใจ และเปล่งวาจาอย่างเดียวด้วย
     
  3. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    ขอตอบแค่ตามความเข้าใจและความรู้งูๆ ปลาๆ แล้วกันนะครับ

    1 พุทธภูมิแบบวิริยาธิกะพิเศษ คืออะไร แตกต่างจากวิริยาธิกะปกติยังไงค่ะ

    ตอบ แบบพิเศษ เป็นแบบเฉพาะของพุทธภูมิแต่ละองค์จะอธิษฐานเพิ่มเติมกันเอาเองนะครับ ว่านอกเหนือจากที่บำเพ็ญเพื่อพระโพธิญานแล้วจะเอาอะไรเพิ่มอีก แต่โดยปกติแล้ว ถ้าแบบมีเพิ่มนี่มักจะต้องเป็นแบบวิริยะธิกะเสียส่วนมาก เหตุผลเพราะใช้เวลาในการแสวงหาส่วนเพิ่มเติมที่ตัวเองตั้งเงื่อนไขนี่แหละครับ ซึ่งไม่มีใครตอบได้ชัดเจนว่าจะสำเร็จไหม หรือแม้แต่การพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถจะบอกส่วนที่เพิ่มเติมว่าจะสำเร็จหรือไม่ แต่ถ้าไม่เกินกฎของความเป็นจริงก็มีความเป็นไปได้อยู่


    2 ท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ ส่วนใหญ่ทำบุญอะไรกันค่ะเพื่อสร้างบารมี
    ตอบ รายละเอียดพื้นฐานหาในกูเกิ้ลได้เยอะแยะครับ แต่ส่วนสำคัญมากที่สุดจริงๆ คือความตั้งใจตรงนี้ต่อให้ทำบุญเต็มทุกอย่างแต่ ตัวตั้งใจมันไม่แน่วแน่ในพระโพธิญาน ก็ล้มเลิกได้ทุกเวลาครับ ไม่ใช่ว่าเป็นความไม่ดีนะครับ แต่เป็นเรื่องของความปราถนา ณ กาลปัจจุบันที่ไม่มีใครมาบังคับความคิดความตั้งใจเราได้ การเป็นพุทธภูมิตัวที่จะบ่งบอกได้ชัดเจนที่สุดก็คือตัวความตั้งใจ ถ้ามีตัวนี้แน่วแน่ บารมีเกิดแน่ครับ เพราะมันตัวเดียวกัน

    3 หากในอดีตเคยลาพุทธภูมิแล้วทั้งๆที่บำเพ็ญมา1อสงไขยแล้ว หากปัจจุบันปรารถนาพุทธภูมิต่อจะต้องบำเพ็ญใหม่เลยไหม
    ตอบ ตามทฤษฎีคือต้องนับ 1 กันใหม่แต่ต้นเลย แต่ว่า ในความเป็นจริง การที่เราจะลาพุทธภูมิขาดจากใจจริงๆ เป็นของที่ทำได้ยาก เหมือนกับตอนเริ่มนั่นแหละครับ กว่าจะมาถึงขนาดนี้ได้ เกิดเท่าไหร่ เจออุปสรรคมาเท่าไหร่ ความทุกข์ ความรู้มาเท่าไหร่ มันนับไม่ถ้วน ดังนั้นสภาพจิตมันจำแน่นในระดับนึง การจะลาจริงๆ ก็หลายชาติ จนกว่าเราจะผ่านตัวสุดท้ายจริงๆ ที่ไม่เอาแล้วไปพระนิพพานจริงๆ ดีกว่า ถ้าตัดได้แบบนั้นลาขาดจริง คือลาพุทธภูมิแล้วมุ่งพระนิพพานอย่างเดียว ยากที่จะกลับมาคิดเดินเส้นทางพุทธภูมิซ้ำอีก ส่วนในกรณีที่ลาแล้วคิดว่าขาด แต่ก็กลับมาตั้งความปราถนาอีก อันนั้นตามธรรมไม่นับ เพราะถ้าลาจริงๆ มันต้องขาดจากใจ ดังนั้นก็หมายความว่าถ้าเรายังกลับมาปราถนาต่ออยู่ ก็คือเราอยากลามาในกาลก่อนแต่ลาไม่ขาดหรือเรายังอยู่ในระยะแรกของการปรารถนา จึงมีความลังเลได้เป็นปกติ ส่วนความเป็นพุทธภูมิมันก็ยังอยู่ ก็ต้องตัดสินใจให้แน่วแน่จริงๆ นั่นแหละครับ ว่าจะต่อหรือจะลา ส่วนของเราทำมาไม่หายไปไหนครับ ลาแล้วก็ต่อถึงนิพพานได้ ส่วนถ้าลาแล้วไม่ขาดก็ไม่ต้องนับ 1 ใหม่ เพราะกระแสใจมันไม่ได้ขาดจริง แค่ความคิดมันแปรปรวนไปตามสภาพของกรรม

    4 หากปรารถนาบ้าง ลาพุทธภูมิบ้าง เป็นแบบนี้ทั้งชาติจะเป็นอะไรไหม
    ตอบ ตามที่ได้ตอบไปข้อ 3 ครับ เราอาจจะอยู่ในระยะแรกที่ตั้งความปรารถนาหรือไม่ก็ลามาหลายชาติ แต่ไม่ขาดเสียที

    5 ในปัจจุบันมีใครที่สามารถให้พยากรณ์(แม้ว่าไม่ SURE เหมือนพระพุทธเจ้า)เฉกเช่นอาจารย์ไก่ บ้างค่ะ
    ตอบ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ตามความเห็นส่วนตัวคิดว่า ต่อให้เป็นพระอริยะเจ้าทรงอภิญญา ท่านก็ไม่พยากรณ์ให้ เพราะต่างก็ทราบถึงมารยาทในธรรมความเป็นจริงอยู่ ส่วนใหญ่คนที่วิ่งหาคำทำนาย การพยากรณ์ ก็เพราะตัวเองยังเกิดความลังเลสงสัย หรือตั้งกำลังใจในการบำเพ็ญบารมีผิดพลาดไป ก็ต้องเรียนรู้กันเองนะครับตรงนี้ว่าเราจะตั้งกำลังใจแบบไหนให้อยู่ได้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งใครเลย

    6 การสร้างบารมีเพื่อพุทธภูมินั้นบ้างก็ว่าเป็น 4 8 16 อสงไขยกับแสนมหากัป บ้างก็ว่าเป็น 20 40 80 อสงไขยกับแสนมหากัป

    ตามลำดับของปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ วิริยาธิกะ อย่างไรกันแน่
    ตอบ ค้นดูในกูเกิ้ลดีๆ ก็จะเข้าใจครับ แต่สรุปสั้นๆ คือ 20 40 80 เป็นเกณฑ์ที่พุทธภูมิทุกคนที่เดินเส้นทางนี้จะต้องใช้ระยะเวลาเต็มทั้งหมดเท่านี้นับแต่เริ่มปรารถนา(น้อยกว่านี้ไม่ได้ แต่เกินได้) ส่วน 4 8 16 เป็นระยะเวลาบำเพ็ญบารมีในขั้นปรมัตถ์บารมีคือมีความแน่วแน่เป็นพระโพธิสัตว์แล้ว ไม่มีถอย ไม่มีหนี ไม่มีลา ก็เป็นส่วนที่รวมอยู่ในระยะเวลาเต็มทั้งหมดของแต่ละแบบครับ

    7 ตอนนี้ มีหมู่คณะใดบ้างที่ร่วมกันสร้างบารมีเพื่อพุทธภูมิ
    ตอบ ข้อนี้ผมขอผ่าน ที่ผ่านมาไม่เคยแสวงหากลุ่มใคร เลยนอกคอก ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยว่ามีหมู่คณะไหนกันบ้าง แต่ถ้าจะร่วมสร้างบารมี ถ้าไม่รู้ว่าจะไปยังไง ก็อธิษฐานขอพระพุทธเจ้าให้ได้พบเลยครับ ไม่ถือว่าผิดกติกาแต่อย่างใด ถ้าขอเพื่อสร้างความดี พระท่านมีแต่อยากจะให้ขอครับ
     
  4. jakrapat

    jakrapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +127
    1 พุทธภูมิแบบวิริยาธิกะพิเศษ คืออะไร แตกต่างจากวิริยาธิกะปกติยังไงค่ะ
    คือปราถนามาแบบวิริยะธิกะ แต่ต้องการให้พระศาสนาของตัวเองมีอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก อย่างเช่นปรานาให้ มหาชนทั้งหลายไม่ต้องทำมาหากินด้วยความลำบาก จึงอธิษฐานจิตบำเพ็ญบารมีต่อเพื่อสิ่งที่ตนหวังนี้เรียกว่า วิริยาธิกะพิเศษ

    2 ท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ ส่วนใหญ่ทำบุญอะไรกันค่ะเพื่อสร้างบารมี
    ตอนนี้ถ้ามีอะไรที่ตัวเองทำได้ และมีโอกาสก็จะขวนขวายทำไปก่อนไม่ว่าจะเป็นบารมีเล็กน้อย หรือ ตอนนี้ก็ทำให้มารดารักษาศีลได้ และ บริจาคเลือดได้ ที่คิดว่าตัวผมเองนั้นทำได้ถึงที่สุดในชาตินี้

    3 หากในอดีตเคยลาพุทธภูมิแล้วทั้งๆที่บำเพ็ญมา1อสงไขยแล้ว หากปัจจุบันปรารถนาพุทธภูมิต่อจะต้องบำเพ็ญใหม่เลยไหม
    ขอแนะนำนะครับว่าทำจิตให้เข้มไปเลยว่าจะเลือกสิ่งใหนแน่ แล้วตั้งใจทำสิ่งนั้นไปเลย
    จะมาเหลอะแหละอยู่ไม่ได้แล้วจะไม่ได้อะไรเลย

    4 หากปรารถนาบ้าง ลาพุทธภูมิบ้าง เป็นแบบนี้ทั้งชาติจะเป็นอะไรไหม
    ก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับแต่มันจะส่งผลให้เราเป็นคนที่ใจไม่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว
    ทำอะไรจะมีความลังเล มันจะทำให้เราไม่มีกำลังใจที่เข้มพอ หากปราถนาจะบำเพ็ญบารมีอย่างไรก็เลือกทำสิ่งนั้นไปเลยครับแล้วตั้งใจทำอย่างเต็มที่

    5 ในปัจจุบันมีใครที่สามารถให้พยากรณ์(แม้ว่าไม่ SURE เหมือนพระพุทธเจ้า)เฉกเช่นอาจารย์ไก่ บ้างค่ะ
    ผมว่าเราอย่าไปหวังให้ไครพยากรณ์เลยครับ สร้างบารมีของเราให้ดีเถิดครับแล้วไครจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นพระศาสดาจักเป็นผู้กล่าวพุทธพยากรณ์เอง
    6 การสร้างบารมีเพื่อพุทธภูมินั้นบ้างก็ว่าเป็น 4 8 16 อสงไขยกับแสนมหากัป บ้างก็ว่าเป็น 20 40 80 อสงไขยกับแสนมหากัป
    20 40 80 เหล่านี้รวมช่วงเวลาการบำเพ็ญบารมีทั้งหมด การปราถนาในใจ การปราถนาด้วยคำพูด ด้วย

    ตามลำดับของปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ วิริยาธิกะ อย่างไรกันแน่

    ข้อ 7 นี้ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ
     
  5. jakrapat

    jakrapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +127
    1 พุทธภูมิแบบวิริยาธิกะพิเศษ คืออะไร แตกต่างจากวิริยาธิกะปกติยังไงค่ะ
    คือปราถนามาแบบวิริยะธิกะ แต่ต้องการให้พระศาสนาของตัวเองมีอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก อย่างเช่นปรานาให้ มหาชนทั้งหลายไม่ต้องทำมาหากินด้วยความลำบาก จึงอธิษฐานจิตบำเพ็ญบารมีต่อเพื่อสิ่งที่ตนหวังนี้เรียกว่า วิริยาธิกะพิเศษ

    2 ท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ ส่วนใหญ่ทำบุญอะไรกันค่ะเพื่อสร้างบารมี
    ตอนนี้ถ้ามีอะไรที่ตัวเองทำได้ และมีโอกาสก็จะขวนขวายทำไปก่อนไม่ว่าจะเป็นบารมีเล็กน้อย หรือ ตอนนี้ก็ทำให้มารดารักษาศีลได้ และ บริจาคเลือดได้ ที่คิดว่าตัวผมเองนั้นทำได้ถึงที่สุดในชาตินี้

    3 หากในอดีตเคยลาพุทธภูมิแล้วทั้งๆที่บำเพ็ญมา1อสงไขยแล้ว หากปัจจุบันปรารถนาพุทธภูมิต่อจะต้องบำเพ็ญใหม่เลยไหม
    ขอแนะนำนะครับว่าทำจิตให้เข้มไปเลยว่าจะเลือกสิ่งใหนแน่ แล้วตั้งใจทำสิ่งนั้นไปเลย
    จะมาเหลอะแหละอยู่ไม่ได้แล้วจะไม่ได้อะไรเลย

    4 หากปรารถนาบ้าง ลาพุทธภูมิบ้าง เป็นแบบนี้ทั้งชาติจะเป็นอะไรไหม
    ก็ไม่เป็นอะไรหรอกครับแต่มันจะส่งผลให้เราเป็นคนที่ใจไม่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว
    ทำอะไรจะมีความลังเล มันจะทำให้เราไม่มีกำลังใจที่เข้มพอ หากปราถนาจะบำเพ็ญบารมีอย่างไรก็เลือกทำสิ่งนั้นไปเลยครับแล้วตั้งใจทำอย่างเต็มที่

    5 ในปัจจุบันมีใครที่สามารถให้พยากรณ์(แม้ว่าไม่ SURE เหมือนพระพุทธเจ้า)เฉกเช่นอาจารย์ไก่ บ้างค่ะ
    ผมว่าเราอย่าไปหวังให้ไครพยากรณ์เลยครับ สร้างบารมีของเราให้ดีเถิดครับแล้วไครจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นพระศาสดาจักเป็นผู้กล่าวพุทธพยากรณ์เอง
    6 การสร้างบารมีเพื่อพุทธภูมินั้นบ้างก็ว่าเป็น 4 8 16 อสงไขยกับแสนมหากัป บ้างก็ว่าเป็น 20 40 80 อสงไขยกับแสนมหากัป
    20 40 80 เหล่านี้รวมช่วงเวลาการบำเพ็ญบารมีทั้งหมด การปราถนาในใจ การปราถนาด้วยคำพูด ด้วย

    ตามลำดับของปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ วิริยาธิกะ อย่างไรกันแน่

    ข้อ 7 นี้ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ
     
  6. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 4376483" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>NuJulie</TD><TD class=alt1>สงสัยเกี่ยวกับพุทธภูมิค่ะ อยากถามผู้รู้ค่ะ ใครรู้ข้อใดหรือจะแสดงความคิดเห็นก็ได้น่ะค่ะ

    1 พุทธภูมิแบบวิริยาธิกะพิเศษ คืออะไร แตกต่างจากวิริยาธิกะปกติยังไงค่ะ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ในฐานะที่ผมประกาศปราถนาวิริยาธิกะพิเศษแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะ ช่วงนี้งานยุ่งมาก แวะเข้ามาดูเห็นมีคนสงสัยก็เลยจะเล่าให้ฟัง
     
  7. วงบุญพิเศษ

    วงบุญพิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +649
    อนุโมทนาสำหรับคำถามและความรู้ที่ท่านทั้งหลายได้ตอบ สาธุ
     
  8. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    ข้างบนตอนกันดีๆไปแล้ว งั้นผมขอยกตัวอย่างสัก 2 ข้อละกันนะครับ
    ข้ออื่นนึกกรณีตัวอย่างไม่ได้

    1.ในพุทธันดรหน้า สมัยของพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า จะมีพระเจ้าจักรพรรดิอุบัติขึ้นด้วยเนื่องด้วยเป็นคำอธิฐานหนึ่งของพระศรีอริยเมตไตรยโพธิสัตว์ แต่ข้อนี้ไม่อาจยืนยันได้ว่าท่านอธิฐานจริงหรือไม่ แต่แบบพิเศษก็น่าจะประมาณนี้ล่ะครับ

    3.ข้อนี้ไม่ต้องมองไกลเลย พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระโคดมพุทธเจ้านั้น ย้อนกลับไป 21 อสงไขยเศษแสนมหากัป ครั้งอุบัติเป็นบุตรช่างทองที่ได้พามารดาว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร ครั้งนั้นก็อธิฐานพุทธภูมิ แต่เพราะได้ประพฤติิผิดในกาม จึงตกลงนรกนานแสนนาน จิตที่อธิฐานพุทธภูมิเลยหายไปได้ กว่าจะอธิฐานพุทธภูมิอีกครั้งก็ผ่านไปถึง 1 อสงไขยกัปครั้งอุับัติเป็นเจ้าหญิงสุมิตตาเทวี

    การบำเพ็ญพุทธภูมิก็ต้องใช้อิทธิบาท 4 นั่นล่ะครับ
    โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าตัวผมเองใช้ฉันทะ(ความรัก ความพอใจ)เป็นตัวช่วยบ่อยสุดล่ะครับ ฮะๆ

    หากข้าพเจ้าได้กระทำการล่วงเกินใดๆต่อพระพุทธเ้จ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระโพธิสัตว์ รวมถึงสรรพสัตว์ใดๆในสากลโลก ทั้งทางกาย วาจา ใจ
    ก็ขอให้ท่านทั้งหลาย ได้โปรดอดโทษแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2011
  9. passakorner

    passakorner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +1,034

    อนุโมทนา บุญสาธุ ในธรรมทานของท่านนี้ด้วย ครับ
     
  10. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    หากใจเรามั่นคงแล้ว เราจะไม่หวั่นไหวอะไรง่ายๆ
     
  11. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ข้อคิดเรื่องหนึ่งที่อยากฝากรุ่นน้องๆคือ เรามักจะได้เจอ สิ่งที่จะบั่นทอนกำลังใจอยู่มาก ดังนั้น หากเรามั่นใจในความดีของเราแล้ว เราเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า เป็นลูกของพระพุทธเจ้าแล้ว และเป็นลูกเป็นพุทธวงศ์ที่ดี คือ มีศีล สมาธิ ปัญญา ทาน ศีล ภาวนา ก็คือ ณ ปัจจุบัน เราเป็นพระ อย่างน้อยๆจิตเราเป็นพระ เป็นพุทธ มีความเมตตา อยู่ในเรา สิ่งที่เรากระทำทั้งกาย วาจา ใจ เป็นไปเพื่อความปรารถนาพระสัมมาสัมโพธิญาณอันมั่นคงแล้ว ชาตินี้ จงตั้งใจอธิฐาน ขอความเป็นนิตยโพธิสัตว์ บังเกิดในชาตินี้ปัจจุบันนี้เถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...