หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

มีใครมาเยียมมั่งเอ่ย ...?

 

โห เยอะจัง

นึกว่าจะไม่มีคนเข้ามาเยี่ยมชม

ครั้งแรกผมกะว่าไม่น่าเกินยี่สิบคนน่ะครับ

 

<TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เครื่องเป่ามือทำป่วยหวัด อาหารเป็นพิษ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

หลายคนอาจเซ็งกับกระดาษทิชชูที่ติดมือติดไม้หลังการล้างมือ แต่รู้หรือไม่ว่า กระดาษเหล่านั้นยังมีดีกว่า เครื่องเป่ามือมากเป็นไหน ๆ


นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวสต์มินสเตอร์ ในประเทศอังกฤษ เผยว่า


95% ของลมที่ออกมาจากเครื่องเป่ามือคือเชื้อโรค ซึ่งอาจทำให้คุณเป็นหวัดและอาหารเป็นพิษ

นอกจากนี้ระหว่างที่เครื่องกำลังทำให้มือแห้งสนิท เชื้อโรคก็อาจพุ่งพรวดไปกว่า 600%



คราวหน้าให้ลองหันมาใช้กระดาษเช็ดมือแทน เพราะจะช่วยลดเชื้อโรคได้มากกว่า 50%





ที่มา ... สวยด้วยแพทย์

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขนาดแอบหลบมาคุยกันอยู่หลังกุฏิหลวงปู่แหวนท่านแล้วนา ...
ก็ขอขอบคุณครับที่กรุณาเยี่ยมชมนะครับ

องค์ความรู้ทั้งนอกและในที่ได้เผยแพร่ไว้ ณ บอร์ดแห่งนี้ ได้ผ่านการกลั่นกรองมาหลายชั้นแล้วครับ อย่างไรก็ดี พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ให้เชื่อตามหลักกาลามสูตร ยังไงก็รบกวนให้ไปต่อยอด พิสูจน์ ศึกษาเพิ่มเติมกันอีกต่อไป ทั้งทางฝ่ายวิทยาศาสตร์และทางพุทธศาสตร์

ในเรื่องของวัตถุอันเป็นมงคลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย หลวงปู่ทั้งหลายท่านสอนมิให้ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ เพราะเป็นเพียงของสมมุติ แต่ท่านก็มิได้ปฎิเสธว่าสิ่งเหล่านี้มีความศักดิ์สิทธิ์จริงนะครับ ซึ่งผมและเพื่อนๆน้อมรับคำสอนสั่งทุกๆประการ

สำหรับผมเอง สะสมท่านไว้เพื่อเป็นพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ เทวานุสติ ผมมีความปีติสุข มีความมั่นใจเมื่ออยู่ใกล้ท่านครับ ผมจะค่อยๆทยอยอัญเชิญพระพิมพ์ที่มีอยู่ออกไปตามกระบวนการหรือวิธีการที่เหมาะสม ตามวาระโอกาส ทั้งนี้...จะต้องเพื่อการกุศล เพื่อการสืบทอดพระพุทธศาสนาเป็นหัวใจสำคัญ

สุดท้าย...ก่อนชีวิตดับขันธ์จากโลกนี้ ของสำคัญๆที่เลือกไว้คู่บารมีไม่กี่ชิ้น ... แม้ท่านจะศักดิ์สิทธิ์-สูงส่งเพียงใด ผมก็จะสรรค์หาบุคคลที่เหมาะสมครอบครององค์ท่านต่อไป หากไม่มีใครที่เหมาะสม ก็จะอัญเชิญท่านสู่ร่มเงาแห่งบวรพุทธศาสนาดังเดิม ...

แต่ระหว่างนี้ ... งานหลักคือการเผยแพร่ข้อมูลพระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก 2434 ,พระพิม์ของวังหน้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) และคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ... จะทำสิ่งที่เป็นจริงให้เป็นประจักษ์ในสายตาของพุทธศาสนิกชน และชูท่านให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ

psombat
ชมรมพระวังหน้า
14 ม.ค. 2554<!-- google_ad_section_end -->
__________________

 

โมทนาสาธุ

เห็นด้วยอย่างแรงครับแม้จะใช้วิธีการคนละอย่างกัน

แต่เป้าหมายใหญ่ที่สุดของเรา คือ การเผยแพร่ข้อมูลพระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก 2434 ,พระพิม์ของวังหน้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) และคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ... จะทำสิ่งที่เป็นจริงให้เป็นประจักษ์ในสายตาของพุทธศาสนิกชน และชูท่านให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ

 

เมื่อก่อนกริ่งปวเรศ รุ่นแรก พ.ศ. 2434 เข้ามาวงการใหม่ๆ

คนที่ใช้คำนำหน้าตัวเองว่าเซียน จะไม่มองเลยแม้แต่หางตา

แต่ปัจจุบัน กลับตรงกันข้ามนะครับ

จะเห็นได้จากเวปซื้อขายพระมาตรฐานทั่วไป ต่างลงประกาศเช่าหาบูชา

หรือโชว์กริ่งปวเรศ รุ่นแรก พ.ศ. 2434 กันทั้งนั้นเลย

ยืนยันครับ เพชร แม้จะอยู่ที่ไหนก็คือเพชร

 

<TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>10 รายการฮอตฮิตที่ไม่ควรพลาดในเชียงใหม่ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
อันดับที่ 10 พักโรงแรมปิงนครา

อาคารสไตล์โคโลเนียลประดับด้วยไม้ฉลุมือลายขนมปังขิงสีขาวสะอาดตาที่ผสมผสานการตกแต่งสไตล์ล้านนา พร้อมสปาที่ดูแลสุขภาพครบวงจร มีร้านอาหาร ห้องสมุด รวมหนังสือเกี่ยวกับจังหวัดเชียงใหม่

อันดับที่ 9 ซื้อของฝากที่ตลาดวโรรส

ตลาดแหล่งรวมสิ่งของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าส่งและปลีกที่มีการขายอย่างยาวนาน เป็นส่วนหนึ่งที่ครองความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อซื้อของติดไม้ติดมือเป็นของฝาก เช่น ร้านดำรง เจ้หงษ์ บุญศรี เป็นต้น

อันดับที่ 8 ช้อปปิ้งถนนคนเดินท่าเเพ

เป็นถนนแหล่งช๊อปปิ้งหลากหลายแนวให้เลือกซื้อกันอย่างจุใจเลย ไม่ว่าจะของกิน ของใช้ สินค้าทำมือไอเดียสุดยอด และอาจยังพบการแสดงตามรายทาง การเล่นดนตรีสดๆ การแสดงพื้นบ้าน

อันดับที่ 7 นวด สปาผ่อนคลายที่ระรินจินดา เวลล์เนสสปา

บริการสปาที่ผสมผสานเทคโนโลยีกับศาสตร์การนวดแผนไทยคู่กับการใช้สมุนไพร และมีบริการทรีทเมนท์ เพื่อความงามหลายรูปแบบหลายราคา

อันดับที่ 6 ดื่มกาแฟแกล้มเบเกอรี่ที่เบอเกอริสต้า

จิบกาแฟหอมๆทานคู่กับเบเกอรี่ที่ร้านเบอริสต้าที่เป็นศูนย์รวมของนักทำเบเกอรี่ที่เป็นฝีมือดี ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ

อันดับที่ 5 จิบชาที่เวียงจุมออน

ร้านชาหวานแหววสีชมพูที่ตั้งอยู่แถววัดเกต ชุมชนที่ยังคงรักษาชีวิตแบบดั้งเดิม มีเมนูที่น่าลิ้มลองมากมาย ไม่ว่าจะเป้น ชาเขียว ชาขาว ชาแดง ชาดอกไม้ พร้อมเสริฟกับขนมหวานอร่อยๆให้ชิมอย่างจุใจ

อันดับที่ 4 ชิมอาหารพื้นเมืองเคล้าเสียงดนตรีโฟลค์ซองที่เฮือนสุนทรี

ชิมอาหารพื้นเมืองเคล้าเสียงดนตรี พร้อมสัมผัสทิวทัศน์แม่น้ำปิงอย่างใกล้ชิด ในบรรยากาศร้านอาหารสไตล์ล้านนา และฟังเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปิน คุณ สุนทรี เวชานนท์

อันดับที่ 3 ชมสถาปัตยกรรมล้านนา

จังหวัดเชียงใหม่มีอารยธรรมที่เป็นเอกลักษณ์มากมาย ทั้งยังมีโบราณวัตถุสิ่งก่อสร้างและภูมิปัญญาที่น่าอนุรักษ์ไว้ สิ่งก่อสร้างที่มีความงดงามอย่างเช่น วัดพระสิงห์ วัดเจดีย์หลวง เป็นต้น

อันดับที่ 2 ดอยสุเทพ-ปุย

สักการะครูบาสรีวิชัย แล้วไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพเพื่อเป็นสิริมงคล ชมพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ต่อด้วยชมดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งสีชมพูตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้า แล้วแวะไปหาแพนด้าขวัญใจมหาชน

อันดับที่ 1 ดอยอินทนนท์

เป็นที่ยอดนิยมสำหรับนักดูนกเลยเชียวค่ะ ทั้งยังเป็นดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย ทำให้สามารถชมวิวสวยๆผ่านสายหมอก พร้อมน้ำตกที่สวยงามอย่างน้ำตกแม่ยะ ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ขอคุณข้อมูลจาก : toptenthailand​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ ยิ่งกว่าความมหัศจรรย์ทั้งหลายทั้งปวงเลยทีเดียวครับ นับตั้งแต่วันที่ 23/09/53 เป็นต้นมา...ที่พวกเราได้ผสานกำลังบุญญาบารมีร่วมกันมา ทั้งการสืบแสวงหาท่านผู้รู้ ความลับแห่งสวรรค์ต่างๆอันซ่อนไว้ภายใน ... จวบจนถึงบัดนี้ ... เรียกได้ว่าหนังคนละม้วน คนละภาคอีกต่างหาก ไม่เหนื่อยเปล่าเลยครับท่าน หุหุ ...

 

http://www.amuletsale4u.com/149575/239245/พระกริ่งปวเรศ-รุ่นแรก-หมุดทองคำ.html

อีกองค์ที่เปิดราคาแสนถูกครับ แค่ 15,000,000 บาทเอง

 

ต่อไปกริ่งปวเรศรุ่นแรก พ.ศ. 2434

จะเป็นพิมพ์มาตรฐานที่มีประวัติการสร้างที่ชัดเจน มีที่มา ที่ไป

และสิ่งนี้แหละครับที่สำคัญ ที่เป็นมรดกให้กับลูกหลานสืบต่อไป

ไม่เหมือนบางรุ่นที่ต้องใช้เซียนชี้ขาดหรือต้องอ้างคนนั้น คนนี้ ต้องลำดับเรียงคนที่เป็นเจ้าของ

และก็มีการเขียนนวนิยายซะจนท่านเศรษฐีต้องเช่าไปไม่ต่ำกว่า 20-30 ล้าน

ต่อไปทุกคนที่มีครอบครองสามารถเปรียบเทียบ กับพิมพ์มาตรฐานที่ตอนนี้

หาดูได้ทั่วไป ผมคิดว่าอีกไม่นานคงมีคนจัดทำหนังสือ

สำหรับกริ่งปวเรศรุ่นแรก พ.ศ. 2434 โดยเฉพาะ เพื่อใช้เป็นมาตรฐานสากลต่อไป

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, IT Man </TD></TR></TBODY></TABLE>

ดีตอนเช้า อีกครั้งครับ

วันนี้อากาศดีไหมครับ

 

ปัญหาอยู่ที่องค์ความรู้ครับ ถ้าคนที่ปล่อยทราบรายละเอียดอันลึกซึ้ง ข้อแตกต่างระหว่างองค์ทองคำ(หลักสิบ ของแท้)กับองค์ธรรมดา(หลักร้อย) ทั้งจำนวนสร้าง ความสำคัญ มวลสาร องค์ใน เขาจะไม่กล้าปล่อยท่านไปเลย หรือปปล่อยก็คงต้องมากกว่านี้คือระดับ 35 -100 จึงจะเหมาะสม เพราะขนาดพิมพ์ที่คยเป็นมาตรฐานท่านก็ปาเข้า 25 up แล้ว ที่สำคัญหาคนรับรองทางในหรือรู้จริงๆยาก จะรับรองก็บรรดาเซียนใหญ่ทั้งหลายกระพริบตาหากันเอง รวมทั้งสื่อบางคนที่เป็นจอมลวงโลกด้วยเช่นกัน

ผมเชื่อและเห็นด้วยว่าพิมพ์นี้แหละครับ ที่จะเป็นพิมพ์มาตรฐาน เข้าใจง่ายมากที่สุดแล้วครับ เพราะข้อมูลสอดคล้องกันหมดทั้งการพิสูจน์ทางนอกและทางใน ทั้งพระภิกษุที่ท่านจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้วหลายองค์ท่านรับรองไว้อีกด้วยครับผม ...

 

วันนี้อากาศดี อาราธนาพระกริ่งครับ
ญาติๆมาเยี่ยมตั้งแต่เมื่อวาน เช้านี้ลำบากผมต้องประพรมน้ำมนต์ทั้งคน-รถ
ทำให้เข้างานสายไปนิดนึง ...

 

โมทนาสาธุครับ

ตั้งแต่เราและหลายๆท่านช่วยกันเผยแพร่ความจริงเรื่องกริ่งปวเรศ รุ่นแรก พ.ศ. 2434 ทั้งวงการต่างให้ความสำคัญ
ต้องยอมรับว่าข้อมูลเป็นรูปธรรมมากที่สุดตั้งแต่มีมาในอดีต ในเรื่องพระเครื่อง
ทุกวันนี้เรื่องการสื่อสารสำคัญมาก เมื่อเราช่วยกันเผยแพร่ความจริงที่พิสูจน์ได้
เพราะฉะนั้น ความจริงเหล่านี้อนาคตลูกหลานก็จะได้รับข้อมูลข่าวสารที่แท้จริง
และเลือกสิ่งที่ดี ที่แท้จริงครับให้กับตัวเองครับ

 

เหมือนกันครับ

ผมก็พระกริ่งครับ

อุ่นใจสุดๆๆๆๆๆๆ

 

ผู้มีสิทธิ์อาราธนาพระองค์ท่าน ต้องมี 15 ล้าน !! ก็ยังไม่สูงเกินเอื้อมครับ...เพราะ 30 ล้าน น่าจะเป็นมาตรฐานสากลในอีกไม่ช้า ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ... อย่าพึ่งเชื่อนะครับ ...

กราบ กราบ กราบ
กราบ กราบ

 

วงการผู้นิยมพระเครื่องทุกวันนี้เริ่มตื่นตัวและฉลาดขึ้น อันเนื่องมาจากมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยตรวจสอบองค์พระ รังสี มวลสาร อายุ ตลอดทั้งการเผยแพร่ข้อมูล รูปภาพ การเปิดศูนย์พระฯผ่าน internet ก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นหาจึงไม่ได้ติดกระแสเซียนที่หากินโดยวิธีการฮั้วแบบเดิมๆกันอีกต่อไป

ประกอบกับทุกวันนี้ ... ครูบาอาจารย์ทั้งบรรพชิต ฆราวาส ไทย-เทศ ต่างสามารถปฏิบัติให้เข้าถึงฌาณในระดับที่ลึกๆได้มากมายจนสามารถตรวจสอบพลังองค์พระ สอบถามองค์พระได้ เป็นต้น

ดังนั้น ความเข้าใจในองค์พระพิมพ์ พระเครื่อง ณ ปัจจุบันยุคสารสนเทศไม่มีพรมแดน จึงพลิกวงการฯให้ระส่ำระสาย เป็นไปในทางที่ฉลาดตามที่ควรจะเป็น(จริง)มากยิ่งขึ้นครับ

 

ที่สำคัญคือ "โลก" ได้เข้าสู่ยุควิกฤติ (ตามพุทธทำนาย หรือ การพยากรณ์ทั้งฝ่ายโหราศาสตร์ ไทย-เทศ-พระอภิญญาจารย์) ทั้งทางธรรมชาติ ทั้งทางมนุษย์ด้วยกันเอง ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ เป็นต้น

ของสำคัญๆต่างๆ จึงเสด็จออกมาโปรดมนุษย์ในยามยากนี้ ซึ่งแน่นอน จักต้องทรงโปรดผู้มีบุพกรรมร่วมกันมาก่อน ตามด้วยผู้มีบุญญาบารมี-ผู้บำเพ็ญบารมีด้านต่างๆเพื่อเข้าสู่แดนสันติสุขอันสมควรจักได้พบเจอของสำคัญๆต่างๆที่กล่าวมาหลายหน้าข้างต้น ไว้คุ้มกายและเพื่อบำเพ็ญบารมีกันต่อเนื่องต่อไป ...

 

โมทนาสาธุครับ เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

ดูตัวอย่างพระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก เป็นต้น
เมื่อก่อนไม่มีการบันทึกที่ชัดเจน ไม่มีการตรวจสอบ ไม่มีอะไรอีกหลายๆๆอย่าง
แค่คนคนหนึ่งที่อ้างตัวเองว่าเป็นเซียน แต่งนิยายอย่างหรู ก็มั่นใจว่าใช่แล้ว
ลองคิดดูซิครับ ขนาดกรุงสุโขทัย อยุธยา อายุนานกว่ากริ่งปวเรศ รุ่นแรกเป็นไหนๆ ยังมีการบันทึกที่ชัดเจนเลย และสามารถพิสูจน์ได้ด้วย แต่ทางกลับกันกริ่งปวเรศ รุ่นแรกสร้างอยู่ประมาณ 110 ปีกว่าๆ เอง บอกไม่มีการบันทึกที่ชัดเจน ผมว่ากลัวอะไรกันหรือเปล่า เพราะว่าของแท้ ของจริงต้องพิสูจน์ได้ครับ

เอ่ ? หรือว่าแกล้งลืมกันเอ่ยๆๆๆๆ

ผมว่านะครับสร้างกี่วาระ มีประวัติชัดเจนที่เขียนไว้แล้ว
แต่ละวาระต้องมีตัวอย่างต้นแบบ และสามารถพิสูจน์ได้ว่าจริง
อย่างนี้ซิครับ มีประโยชน์ เพื่อให้วงการได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจน
ไม่ใช่แค่อ้างว่าองค์นี้เป็นของคนชื่อ.....ก็แท้ซะแล้ว ซื้อขายกันตั้ง 30 ล้าน
แล้วเมื่อไหร่ท่านเหล่านี้จะได้กริ่งปวเรศ รุ่นแรกที่แท้จริง ซักองค์ไว้ให้ลูกหลานเก็บไว้เป็นมรดกกับลูกหลานต่อไปล่ะครับ

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, IT Man </TD></TR></TBODY></TABLE>

กลับบ้านก่อนนะท่าน
วันนี้ประชุมทั้งวันเลย
พรุ่งนี้คุยกันต่อครับ