ทำปิรามิด ขายท่านใดจะเอามั่งครับ

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย ดูท่านอยู่นะครับ, 12 มกราคม 2011.

  1. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ผมกำลังทำปิรามิด ฐาน 12 นิ้ว ลาดเอียง 11.5 นิ้ว ตามรูปท่านใดสนใจ นำไปเพื่อใช้ในการฝึกสมาธิ รักษาร่างกาย เปิดจักระ ลงชื่อจองไว้นะครับ หรือ PM จองก็ไดเน้อครับ ผมทำมีห่วงหิ้วสำหรับพกพาไปที่ต่างๆ และสำหรับไว้แขวนก็ได้ครับ
    ราคา น่าจะไม่เกิน 500 บาทครับ กำลังคุยราคาทางร้านที่ทำอยู่ครับ ผมอยากทราบจำนวนประมาณๆ ครับ ส่วนท่านใดจะนำไปต่อขาให้ยาวขึ้นก็สะดวกดีนะครับ

    ส่วนท่านใดมีวิธีการฝึก ที่น่าสนใจก็เขียนลงแจ้งต่อสมาชิกท่านอื่นได้เลยนะครับผม

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00178.JPG
      DSC00178.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.3 MB
      เปิดดู:
      2,837
    • DSC00179.JPG
      DSC00179.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.3 MB
      เปิดดู:
      1,201
    • DSC00180.JPG
      DSC00180.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.2 MB
      เปิดดู:
      1,218
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2011
  2. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    อันนี้ก๊อปเขามาเพื่อประโยชน์ส่วนรวมครับผม

    การใช้พลังจิตร่วมกับพลังพีระมิด
    ที่มา: หนังสือ "ทางรอด" โดย คุณจีรพันธุ์ ประศาสน์วุฒิ


    [​IMG]



    การใช้พลังจิตร่วมกับพลังพีระมิด

    (ขณะนี้วิธีการบางอย่างมีการปรับเปลี่ยน กรุณาติดตามการเปลี่ยนแปลงจากหน้าข่าวความเคลื่อนไหว)
    ผู้ ฝึกที่สนใจ ผู้ป่วยที่มีอาการหนักทุกโรค เช่น ทางเดินหายใจ , ไมเกรน , ไต , อัมพฤกษ์ , อัมพาต , เอดส์ , มะเร็งทุกชนิด ฯลฯ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้หลักของการใช้พลังจิตเพื่อรักษาอาการของ โรคที่กำลังรุนแรงเกินกว่าจะหายได้ด้วยการใช้อุปกรณ์ประกอบพลังพีระมิดเพียง อย่างเดียว ผู้ป่วยยังต้องลงมือฝึกปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยใช้จุดบกพร่องที่กำลังเจ็บปวดมาทดลองฝึกปฏิบัติ


    กติกาที่ผู้ฝึก-ผู้ป่วยหนักควรจะปฏิบัติตาม มีด้วยกันหลายข้อ
    1. ผู้ ฝึก-ผู้ป่วยหนักต้องฝึกปฏิบัติทุกวันอย่างน้อยวันละ 3-4 ครั้ง เมื่ออาการดีขึ้นมากแล้ว จึงค่อยลดการฝึกปฏิบัติ แต่ไม่ควรจะน้อยกว่าวันละ 2 ครั้ง แต่ละครั้งควรฝึกปฏิบัติให้นานกว่า 30 นาที
    2. ผู้ฝึก-ผู้ป่วย จะฝึกปฏิบัติในท่านั่งกับพื้น นั่งบนเก้าอี้โซฟา หรือแม้แต่นอนฝึก ได้ทั้งทั้งสิ้น เพราะอุปกรณ์สำคัญที่นำมาใช้ฝึกปฏิบัติคือ "พลังจิต"
    3. ทำ จิตใจให้แข้มแข็ง มีความอดทนสูง อย่าสงสารตัวเองมากจนเกินไป เพราะเมื่อลงมือฝึกปฏิบัติแล้ว ผู้ฝึก-ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวดในจุดที่บกพร่องมากกว่าเดิม แล้วจึงจะรู้สึกเบาสบายขึ้นและยับยั้งการลุกลามได้ในภายหลัง
    4. ของ เสียเช่น เลือด น้ำเหลือง เสมหะ ปัสสาวะ อุจจาระ จะถูกขับออกมาได้ทุกทวาร ผู้ฝึก-ผู้ป่วยไม่ต้องตกใจกลัว หรือเกิดความลังเลสงสัย เพราะทั้งพลังจิต พลังพีระมิด พลังกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ มีอานุภาพช่วยให้เกิดกระบวนการขับของเสียที่ฝังลึกอยู่ในเซลล์อย่างต่อ เนื่อง
    5. ผู้ฝึก-ผู้ป่วยไม่ควรตั้งความหวังใดๆจาการฝึกปฏิบัติในแต่ ละครั้ง เช่น ฉันต้องทำได้ดีกว่าเมื่อวาน ฉันต้องนั่งฝึกได้นานกว่าเมื่อตอนเช้า ฉันต้องหายจากมะเร็ง ฯลฯ เพราะการตั้งความหวังคือตัวตัณหาที่ผูกยึดจิตผู้ฝึก-ผู้ป่วยเอาไว้ทำให้จิต ไม่เป็นอิสระ จึงขอแนะนำกติกาแต่เพียงกว้างๆว่า เป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อตนเอง คือต้องได้ฝึกปฏิบัติอย่างต่อเนื่องทุกวัน
    เทคนิค วิธีการการใช้พลังจิตร่วมกับพลังพีระมิดมีด้วยกันหลายวิธี และมีโอกาสปรับเปลี่ยนอยู่เสมอตามภาวะที่ไม่คงที่ของพลังงานในธรรมชาติ 3 อย่างคือ การหมุนของโลก พลังกระแสลมปราณ และพลังงานแม่เหล็กโลก ผู้เขียนจึงนำเสนอเฉพาะหลักของวิธีการฝึกปฏิบัติที่สำคัญ ใช้ได้ทั้งกับคนปกติและผู้ป่วย



    ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อการฝึกปฏิบัติดังนี้
    1. ผู้ฝึก-ผู้ป่วยต้องมีหลอดแกนพีระมิด 1 หลอด ติดให้แนบเนื้อใกล้กับหัวใจโดยไม่มีเสื้อผ้าเป็นฉนวนกั้น
    2. วาง แถบแกนพีระมิด (แถบพลังงาน) ซึ่งประกอบด้วยพีระมิดแถบละ 5 ก้อน 2 แถบ วางในแนวทิศตะวันออกและตะวันตก โดยหันด้านปลายแหลมไปทางทิศตะวันตก การวางแถบแกนพลังงานมีโอกาสปรับเปลี่ยนเป็นทิศอื่นๆได้
    3. ให้ผู้ ฝึก-ผู้ป่วยนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างแถบแกนพีระมิดทั้ง 2 แถบ โดยนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก หรือทิศอื่นๆ ตามความเป็นปัจจุบันจริงขององค์ความรู้
    4. ถ้ามีเครื่องยกอากาศ (กระป๋องยกอากาศ) ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยเปิดใช้เพื่อช่วยปรับสมดุลของอากาศภายในห้อง ช่วยให้ฝึกปฏิบัติได้เร็วและดียิ่งขึ้น
    การฝึกปฏิบัติมีด้วยกัน 2 วิธีคือ
    1. การ "ถู" เพื่อผ่าตัดและฟื้นฟูเซลล์
    2. การ "หมุน" เพื่อระบายของเสีย จัดเรียงโมเลกุลและสร้างสมดุลให้แก่ร่างกาย
    ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ใช้ได้ทั้งกับผู้ป่วยและคนปกติที่สนใจดูแลสุขภาพด้วยตนเอง


    1. การ "ถู" เพื่อผ่าตัดและฟื้นฟูเซลล์
    การ "ถู" หมายถึงอากัปกิริยาที่มีการเคลื่อนที่ไป-มา แต่ในที่นี้เป็นการเคลื่อนที่ขึ้น-ลงในแนวดิ่งตามแรงโน้มถ่วงที่ดึงวัตถุ เข้าสู่ศูนย์กลางแรงดึงของโลก
    ผู้ฝึก-ผู้ป่วยคงเคยเห็นการเลื่อยไม้ เลื่อยก้อนน้ำแข็ง ซึ่งคมของเลื่อยจะฝังตัวแทรกอยู่ในเนื้อไม้หรือก้อนน้ำแข็ง การเลื่อยเกิดขึ้นโดยอาศัยแรงของคนหรือไฟฟ้า ในระหว่างที่กำลังเลื่อยอยู่นั้น จะมีเศษเนื้อไม้(ขี้เลื่อย) หรือเศษน้ำแข็ง ออกมาให้เห็น ตามปกติการเลื่อยจะเลื่อยไปตามแนวนอนหรือแนวระนาบ แต่ในครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษ คือผู้ฝึก-ผู้ป่วยต้องเลื่อยในแนวดิ่งคือคมของเลื่อยจะถูกดึงขึ้น-ลง ขึ้น-ลง

    แรงคนหรือไฟฟ้า = พลังจิต

    คมเลื่อย = พลังงานที่นำมาใช้ "ถู" คือพลังจากแถบแกนพีระมิดทั้งสองแถบ และหลอดแกนพีระมิด
    เนื้อไม้ , ก้อนนำแข็ง = จุดบกพร่อง , เซลล์มะเร็ง ที่ถูกเราถู
    จังหวะ ของการเลื่อยไม้ , ก้อนน้ำแข็ง = จังหวะของการถูขึ้น-ลงของพลังงานในแนวดิ่ง มีการพยักหน้าขึ้น-ลงคล้อยตามการ "ถู" เศษขี้เลื่อย , เศษน้ำแข็ง = ของเสียที่ดันระบายออกมาจากเซลล์
    การนึก คือ จิต = ความรู้สึกที่ส่งไปถึงบุคคล , สถานที่ , การทำงาน ฯลฯ ได้ทันทีที่ต้องการแม้จะต้องผ่านภูเขา ทะเล ประตูบ้าน ฯลฯ

    วิธีฝึกปฏิบัติ

    1.1 ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยนั่งขัดสมาธิ , นั่งพับเพียบ , นั่งบนโซฟาหรือเตียงนอน อยู่ระหว่างแถบแกนพีระมิดทั้งสองแถบ โดยนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และแถบพีระมิดหันปลายแหลมตามกันตามแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก โดยหันด้านปลายแหลมไปทางทิศตะวันตก ผู้ฝึก-ผู้ป่วยจะสังเกตุได้ว่าปลายแหลมของแถบพีระมิดจะพุ่งเข้าหาตนเอง และที่ตัวผู้ฝึก-ผู้ป่วยมีหลอดแกนพีระมิด 1 หลอดแนบติดอยู่ใกล้กับหัวใจ

    1.2 ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยนั่งหลับตาเบาๆ จินตนาการนึกสร้างเส้นตรงจากแถบแกนพีระมิดขึ้นมา 1 เส้น โดยเริ่มต้นจากแถบแกนพีระมิดที่อยู่ด้านหน้า นึกผ่านตัวผู้ฝึก-ผู้ป่วย ซึ่งมีหลอดแกนพีระมิดไปถึงด้านหลังที่มีแถบแกนพีระมิดวางอยู่เช่นเดียวกัน ถ้าหากยังจินตนาการให้เกิดเป็นเส้นตรงไม่ได้ ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยลองนึกกลับไปกลับมาหลายๆรอบ นึกสร้างเส้นตรงขึ้นจากแถบแกนพีระมิดทั้งสองแถบให้เป็น 1 เส้น หมาย ความว่าไม่ว่าจะหลับตาหรือลืมตา ผู้ฝึก-ผู้ป่วยสามารถนึก "เส้นตรง" ที่สร้างขึ้นได้เสมอ ซึ่งต่อไปจะเรียกเส้นตรงนี้ว่า "เส้นพลังงานพีระมิด" หรือ "เส้นพีระมิด"

    1.3 ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยจินตนาการนึกให้เส้นพีระมิดมีขนาดเล็กและแหลมคล้ายเข็ม เส้นลวด ไม้จิ้มฟัน ตะเกียบ ฯลฯ ยิ่งนึกให้เส้นพีระมิดมีขนาดเล็กแหลมได้มากเท่าไร เส้นพีระมิดจะยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นเท่านั้น ในครั้งแรกให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วย นึกโยกเส้นพีระมิดเคลื่อนที่ไป-มา หน้า-หลังก่อน โดยนึกให้เส้นพีระมิดเคลื่อนที่ผ่านลำตัวรวมทั้งส่วนบกพร่อง(ละส่วน) เมื่อผู้ฝึก-ผู้ป่วยโยกเส้นพีระมิดในแนวนอนได้คล่องดีแล้ว ให้ เริ่มตวัดเส้นพีระมิดขึ้น-ลง ขึ้น-ลง เป็นจังหวะๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นตามจังหวะการตวัดขึ้นเป็นการถูขึ้น และก้มหน้าลงเมื่อเส้นตวัดลงเป็นการถูลง

    1.4 ใช้พลังจิตนำเส้นพีระมิดไปให้ถึงจุดเจ็บปวดหรือเซลล์มะเร็งที่ต้องการผ่าตัด ฟื้นฟู (ถ้าผู้ฝึก-ผู้ป่วยปล่อยความรู้สึกเป็นความว่างได้ เส้นพีระมิดจะไปทำหน้าที่ถูยังส่วนที่มีความบกพร่องเจ็บปวดรุนแรงมากที่สุด เป็นลำดับแรก แต่ผู้ฝึก-ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะทำความรู้สึกให้ "ว่าง" ได้ยากเพราะมีความเจ็บปวดมากเกินไป) หากมีความเจ็บปวดหลายส่วนให้ถูในแต่ละส่วนให้นานมากกว่า 20 นาที จึงค่อยเลื่อนไปถูยังส่วนอื่นๆตามลำดับ จนครบทุกส่วนที่บกพร่องเจ็บปวด

    1.5 เส้นพีระมิดประกอบด้วยพลังงานกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ และธาตุว่าง จะแทรกตัวเข้าได้ลึกถึงนิวเคลียสศูนย์กลางเซลล์ด้วยการถูขึ้นถูลง ช่วยแต่งนิวเคลียสที่ถูกดึงบิดเบี้ยวจนเป็นเหลี่ยมให้คืนกลับมีสภาพกลมเป็น ปกติเหมือนเดิม หายจากมะเร็งหรือโรคอื่นๆแทบทุกชนิด

    1.6 ในระหว่างที่เส้นพีระมิดกำลังถูขึ้นถูลง ผู้ฝึก-ผู้ป่วยจะรู้สึกอุ่นหรือร้อนและมีความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น เลือด น้ำเหลืองที่เสีย สารพิษสารตกค้าง จะถูกดันออกมาจากเซลล์ เป็น น้ำลาย เสมหะ ปัสสาวะ อุจจาระ

    เส้นพีระมิดไม่ทำลายเซลล์ดี มีแต่จะส่งเสริมให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยเมื่อมีอาการดีขึ้นมากแล้ว ควรจะนำเส้นพีระมิดไปถูขึ้นถูลงให้ทั่วทุกส่วนของร่างกายเป็นประจำทุกวัน แม้กระทั่งนัยน์ตา , ข่องปาก , ลำคอ , สมอง , หัวใจ , ปอด , ตับ , มดลูกและรังไข่ ฯลฯ เพื่อเป็นการป้องกันและฟื้นฟูอวัยวะสำคัญให้มีประสิทธิภาพใช้งานได้ดีตลอดไป

    การ "ถู" จัดว่าเป็นวิถีแห่งสุขภาพองค์รวมของคลื่นพลังงานบำบัดวิธีหนึ่งที่ดีเลิศ ถึงแม้พลังงานที่นำมา "ถู" ในอนาคตอาจจะเปลี่ยนจาก "เส้นพีระมิด" เป็นอย่างอื่น แต่วิธีถูยังคงมีวิธีการเหมือนเช่นเดิมคือ ถูขึ้นและถูลง

    2. การ "หมุน" เพื่อระบายของเสีย จัดเรียงโมเลกุลและสร้างสมดุลให้แก่ร่างกาย
    เมื่อผู้ฝึก-ผู้ป่วยได้ผ่าตัด แต่งและฟื้นฟูเซลล์ดวยการถูแล้ว สารพิษสารเคมี ความเจ็บปวดยังคงมีตกค้างอยู่ในเซลล์ จึงต้องมีการ "หมุน" กับแถบแกนพีระมิดเพื่อช่วยลดความหนาแน่นทำให้เกิดช่องว่างในร่างกายเพิ่มมาก ขึ้น

    วิธีฝึกปฏิบัติ

    2.1 ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยนั่งอยู่ระหว่างแถบแกนพีระมิดทั้งสองแถบ โดยนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และแถบพีระมิดหันปลายแหลมตามกันตามแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก โดยหันด้านปลายแหลมไปทางทิศตะวันตก ผู้ฝึก-ผู้ป่วยจะสังเกตุได้ว่าปลายแหลมของแถบพีระมิดจะพุ่งเข้าหาตนเอง
    2.2 ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยนั่งหลับตาเบาๆ หยุดนึกคิดถึงเรื่องอื่นๆ ให้นึกไปที่แถบแกนพีระมิดที่วางอยู่ด้านหน้า หลอดแกนพีระมิดที่แนบอยู่ใกล้หัวใจ และแถบแกนพีระมิดที่วางอยู่ด้านหลัง นึกย้ำกลับไปกลับมาสัก 2-3 ครั้ง ทำตัวอ่อนๆ ไม่สร้างความรู้สึกต้าน ผู้ฝึก-ผู้ป่วยจะสัมผัสความรู้สึก หมุนน้อยๆที่เกิดขึ้นในร่างกาย (คล้ายๆมีพลังงานเคลื่อนที่เอื่อยๆช้าๆ) ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยโยกร่างกาย หมุนเหวี่ยงคล้อยตามแรงหมุนที่เกิดขึ้น หากหมุนคล่องดีแล้ว ให้ผู้ฝึก-ผู้ป่วยส่งความรู้สึกนึกไปยังส่วนที่บกพร่อง มีปัญหา มีอาการอักเสบ เจ็บปวด แน่น ฯลฯ เลือกทีละส่วน ทีละจุด นึกความรู้สึกเหล่านั้นเหวี่ยงหมุนทิ้งไปหาแถบแกนพีระมิดที่วางอยู่ด้านหน้า ด้านหลัง (ลองจินตนาการนึกถึงการทอดแหว่าทอดอย่างไร)
    2.3 ผู้ฝึก-ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บส่วนบกพร่องที่กำลังหมุนกับแถบแกนพีระมิดเพิ่ม มากขึ้นๆ ให้หมุนแต่ละที่ให้นานมากกว่า 10 นาที หรือจนกว่าความเจ็บปวดได้คลายลงไปมากแล้ว จึงค่อยเปลี่ยนไปหมุนที่จุดอื่นๆตามลำดับ พลังพีระมิด พลังกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ และธาตุว่าง กำลังแทรกเข้าสู่เนื้อเซลล์และดันระบายของเสียทุกชนิดออกจากเซลล์ เป็นน้ำลาย เสมหะ ปัสสาวะ อุจจาระ พร้อมทั้งจัดเรียงโมเลกุลใหม่ อนุมูลอิสระจะลดน้อยลงตามจำนวนครั้งที่ได้ฝึกปฏิบัติ ความสมดุลของร่างกายจะกลับคืนมาในเร็ววัน
    ถ้าหากผู้ฝึก-ผู้ป่วยได้ดื่มน้ำพลังปราณ P1900 ประมาณ 1-3 อึกก่อนฝึกปฏิบัติ พลังของน้ำจะยิ่งช่วยประสานเนื้อเซลล์ได้เร็วยิ่งขึ้น ถ้า หากผู้ฝึก-ผู้ป่วยมีอาการทุเลาลงบ้างแล้ว ควรจะหมุนระบายความคิด (ความเป็นอดีต) ซึ่งมีฐานอยู่ในสมอง , ความนึก (ความเป็นอนาคต) ซึ่งจะกักเก็บไว้ที่ขอบนอกของ"ใจ" เท่ากับเป็นการล้างขจัดข้อมูลเก่าเก็บทิ้งไปเสียบ้าง เพื่อให้เหลือเนื้อที่ว่างในสมองและใจ รองรับข้อมูลใหม่ที่เป็นประโยชน์มากกว่าเดิม หากทำได้ ผู้ฝึก-ผู้ป่วยจะสัมผัสความ "เบา" อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การหมุนกับแถบแกนพีระมิดจึงใช้ได้ดีกับโรคทางอารมณ์ทุกชนิดอีกด้วย


    ที่มา santati2007 - การใช้พลังจิตร่วมกับพลังพีระมิด - สันตติ 2007
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2011
  3. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    วิธีการใช้พีระมิด



    การวัดขนาดพีระมิด
    พีระมิดฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส วัดความยาวจากเส้นแทยงมุม
    พลังจิต

    มนุษย์ล้วนมีพลังจิตด้วยกันทุกคน เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น ผู้ที่ผ่านการฝึกจิตมามากย่อมมีพลังจิตมาก จนสามารถนำพลังจิตมาใช้งานต่างๆ ได้ เช่น การนำพลังจิตมารักษาร่างกายในยามเจ็บป่วย การบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เป็นต้น ซึ่งผู้ไม่เคยเรียนและฝึกจิตมาก่อน ก็ย่อมไม่สามารถนำพลังจิตมาใช้ประโยชน์แก่ร่างกายได้
    พลังพีระมิด
    คือ พลังที่สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มพลังจิตแก่มนุษย์ เพื่อช่วยผู้ที่ไม่เคยผ่านการฝึกจิตให้สามารถมีพลังจิตเพื่อรักษาโรคที่ตน เองป่วยอยู่ได้ และช่วยเพิ่มพลังจิตแก่ผู้ผ่านการฝึกจิตมาให้มีพลังจิตเพิ่มขึ้น
    พลังพีระมิดเกิดขึ้นได้อย่างไร
    1.เกิดจากวัตถุรูปทรงพีระมิดที่สร้างอย่างถูกสัดส่วน จนสามารถหักเหเส้นแรงแม่เหล็กโลกที่เคลื่อนที่ในแนวเหนือ - ใต้ ให้หักเหตั้งฉากกับแนวเส้นแรงแม่เหล็กเดิม เส้นแรงแม่เหล็กโลกหักเหขึ้นมา เราสามารถนำมาใช้จัดเรียงเส้นแรงแม่เหล็กในร่างกายของคนเราให้เป็นระเบียบ เป็นปกติได้ เพราะเมื่อเราเจ็บป่วยเส้นแรงแม่เหล็กในตัวเราจะจัดไม่เป็นระเบียบ ไม่เป็นปกติ
    2. เกิดขึ้นจากวัสดุที่นำมาทำพีระมิด มีคุณสมบัติสูงในการดูดซับ และปลดปล่อยเส้นแรงแม่เหล็กและคลื่นแสง
    การทดสอบพลังพีระมิด
    1. นำพีระมิดที่ได้จัดเตรียมไว้มาวางโดยให้ด้านหน้าตัดด้านใดด้านหนึ่งตั้งฉากกับทิศเหนือ
    2. นำฝ่ามือมาวางอยู่เหนือยอดแหลมของพีระมิดประมาณ 1 นิ้ว ให้กลางฝ่ามือตรงกับยอดแหลม จากนั้นสังเกตปฏิกิริยาและอาการที่เกิดขึ้นกับฝ่ามือของเรา
    การใช้พลังจิตร่วมกับพลังพีระมิดรักษาโรค วิธีใช้พีระมิด 1 ก้อน
    1. นั่งสมาธิในท่านั่งสมาธิ คือ เท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้ายวางบนตัก หรือท่าใดท่าหนึ่งที่เราเห็นว่าสะดวกแก่การนั่งสมาธิ
    2. นำพีระมิดที่เตรียมไว้มาวางบนฝ่ามือขวา วางให้ด้านหน้าตัดด้านใดด้านหนึ่งตั้งฉากกับทิศเหนือ
    3. หลับตาลงเบาๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ นึกถึงอากาศว่างๆ รอบตัวเรา พร้อมกับหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ สักครู่หนึ่ง
    4. ใช้นิ้วหัวแม่มือขวาแตะเบาๆ ที่ปลายแหลมของพีระมิด เพื่อกำหนดให้รู้ตำแหน่งของปลายพีระมิด เมื่อรู้ตำแหน่งแล้วก็คลายนิ้วออก
    วิธีที่ 1 การกระตุ้น
    นึกไปที่ปลายพีระมิด นำความรู้สึกเข้าไปชนที่ปลายแหลม เป็นจังหวะๆ ละ 1 นาที โดยนึกนับเลขกำกับไปด้วยเพื่อไม่ให้จิตส่ายไปคิดเรื่อยอื่นๆ จากนั้นจะเกิดแรงสืบต่อเป็นจังหวะขึ้นลงๆ ที่ปลายพีระมิดแรงนี้จะสั่นสะเทือนในร่างกายให้เป็นระเบียบ เราก็ทำตัวเบาๆ คล้อยตามแรงที่เกิดขึ้น
    วิธีที่ 2 การหมุน
    นึกไปที่ปลายพีระมิด สลับกับตำแหน่งของอวัยวะในร่างกายที่บกพร่อง หมุนวนกลับไปกลับมา จะเกิดแรงหมุนเหวี่ยงตัวไปมาระหว่างปลายพีระมิดกับตัวเราเพื่อเหวี่ยงเอา สิ่งเป็นพิษในร่างกายออกไป เราก็ทำตัวเบาๆ คล้อยตามแรงที่เกิดขึ้น
    วิธีที่ 3 การอยู่เหนือแรงโน้มถ่วง
    นึกไปที่ปลายพีระมิด รวมความรู้สึกให้นิ่งๆ อยู่ที่ปลายพีระมิด ให้ความรู้สึกนึกคิดอยู่ในแนวของเส้นแรงแม่เหล็กที่ถูกพีระมิดหักเหขึ้นมา เราจะรู้สึกเบาสบายไปทั่วตัว จิตสงบสบาย เส้นแรงแม่เหล็กในร่างกายจะถูกจัดเรียงเป็นระเบียบอย่างละเอียด
    วิธีที่ 4 การคลายเครียด แก้นอนไม่หลับ
    เมื่อเข้านอน ให้นำพีระมิดมาวางไว้บนหน้าผากปล่อยวางความรู้สึกนึกคิดให้เป็นอากาศที่ว่างเปล่า ไม่คาดหวังกับสิ่งใดๆ
    วิธีที่ 5 การนอนหลับลึก
    เมื่อเข้านอนให้นำพีระมิดมาวางไว้ที่ลิ้นปี่ ปล่อยวางและลืมเลือน ความมีร่างกายของตัวตน
    วิธีใช้พีระมิด 2 ก้อนวิธีที่ 1 การคลายอารมณ์ นั่งสมาธิในท่าเท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาวางบนเข่าขวา มือซ้ายวางบนขาซ้าย หรือท่าใดท่าหนึ่งที่เราเห็นว่าสะดวก แล้วนำพีระมิดที่เตรียมไว้มาวางบนฝ่ามือขวา และมือซ้ายวางให้ด้านตัดหน้าใดหน้าหนึ่ง ตั้งฉากกับทิศเหนือหลับตาเบาๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ปล่อยให้พีระมิดดูดซับเอาอารมณ์ ความเจ็บปวดความหนักตัวออกไปจากร่างกาย และจิตใจ
    วิธีที่ 2 การดึงพลังปราณ นั่งสมาธิในท่าเท้าขวาทับเท้า ซ้าย มือขวาวางบนเข่าขวา มือซ้ายวางบนขาซ้าย หรือท่าใดท่าหนึ่งที่เราเห็นว่าสะดวก แล้วนำพีระมิดที่เตรียมไว้มาวางบนฝ่ามือทั้งสองข้าง โดยคว่ำพีระมิดทั้งสองก้อนลง ให้ปลายพีระมิดทิ่มลงที่กลางฝ่ามือ แล้วรวบนิ้วมือทั้งสองข้างเข้ามากำพีระมิดทั้งคู่ไว้หลับตาลงเบาๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ปล่อยให้พีระมิด ดูดซับพลังปราณเข้ามาสู่ร่างกาย เราจะรู้สึกว่าตัวเราขยายใหญ่ขึ้น ตึงตามศีรษะ ใบหน้า รู้สึกมีกำลังแข็งแรงขึ้น
    วิธีที่ 3 การหมุน นั่งสมาธิในท่าเท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาวางบนเข่าขวา มือซ้ายวางบนขาซ้าย หรือท่าใดท่าหนึ่งที่เราเห็นว่าสะดวก แล้วนำพีระมิดที่เตรียมไว้มาวางบนฝ่ามือทั้งสองข้าง จากนั้นคว่ำพีระมิดที่วางบนฝ่ามือขวาลงให้ปลายพีระมิดทิ่มลงที่กลางฝ่ามือ เราจะรู้สึกถึงแรงเหวี่ยงของพลังพีระมิดทั้งสองก้อนที่ไหลถ่ายเทหมุนวนไปมา เราก็ทำตัวเบาๆ คล้อยตามแรงที่เกิดขึ้น
    วิธีที่ 4 การละลายความเจ็บปวด นั่งสมาธิในท่าเท้าขวา ทับเท้าซ้าย มือขวาและซ้ายวางบนตักหรือท่าใดท่าหนึ่งที่เราสะดวก จากนั้นจับพีระมิดตะแคงให้ฐานของพีระมิดทั้งสองก้อนวางอยู่ในแนวดิ่ง หันปลายพีระมิดออกจากกัน นำฐานพีระมิดทั้ง 2 ก้อนมาชิดกัน ให้ห่างกันประมาณ 3 นิ้ว นำความรู้สึกเจ็บปวดไว้ระหว่างฐานพีระมิดทั้งสอง ความเจ็บปวดจะถูกละลายออกไป การใช้พลังจิตร่วมกับพลังพีระมิด สามารถรักษาโรคได้หลายโรคด้วยกัน เช่น ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ภูมิแพ้ เป็นต้น
     
  4. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665


    สนใจขอจองด้วยคน ว่าแต่ใช้วัสดุอะไรครับ มุมองศาความสูง สัดส่วนที่ย่อลงมาถูกต้องหรือเปล่า ครับ ขอเป็นความเข้าใจแทนทุกคนนะครับ เพราะดูจากภาพ น่าจะเป็น ท่อเอสล่อน ราคาก็น่าจะถูกได้กว่านี้ไม่น่าเกิน 250 บาท ได้นะครับ (ผมคนเบี้ยน้อยหอยน้อยนะครับ) แต่ยังไงก็สองอันนะครับ
     
  5. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ทำจากเหล็กเส้น ครับท่าน ทาสีน้ำมันสีขาวครับผม
     
  6. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    การสร้างปิรามิดด้วยตัวเอง

    ที่ผ่านมาได้มีการสร้างปิรามิดจำลองหลายแบบ หลายขนาด โดยหลักๆก็คือต้องมีโครงสร้างที่ถูกต้อง (สัดส่วนและมุมที่ถูกต้องก็คือ 52.606 องศา) จะมีผนังหรือไม่มีผน้งก็ได้ บางคนสร้างครอบเตียงนอน หรือ ทำปิรามิดเล็กๆด้วยกระดาษสีส้มหรือแดง วางเรียงใว้ใต้เตียงเป็นแถวๆแบบอนุกรม ก็ได้ ถ้ามีงบมากหน่อยก็สร้างเป็นบ้านเลยครับ..
    ลืมบอกไปครับ..ถ้าวัดมุมไม่ถูก ก็ใช้สัดส่วนสามเหลี่ยมนี้ครับ
    สมมุตว่าฐาน 12 นิ้ว ส่วนมุมลาดเอียงทั้งสองด้าน= 11.5 นิ้ว
    ถ้าต้องการฐาน 24 นิ้ว เส้นลาดเอียงสองด้าน=23 นิ้ว
     
  7. AFIKLIFI

    AFIKLIFI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    560
    ค่าพลัง:
    +53
    มีแบบที่ไม่มีหูหิ้วไหมครับ
     
  8. ninjabadboy

    ninjabadboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +517
    ของผมใช้เป็นกระดาษ เอาอะครับ
     
  9. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    เคยมีคนบอกว่า

    นำปิรามิดครอบไว้

    สามารถรักษาความสดของผัก ผลไม้ ฯลฯ

    ทดลองดูนะครับ

    ไม่ได้ผลก็ไม่เสียหาย
     
  10. ขุนพิฆาต

    ขุนพิฆาต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +1,704
    น่าจะทำให้ใหญ่สักหน่อยนะครับ ฐาน 24"น่าจะ O.k.กว่า คือสามารถเข้าไปนั่งสมาธิภายในปิรามิดได้ โดยทำเป็นสลักหรือน๊อตยึด สามารถถอดประกอบได้แบบที่ตั้ง TV. หรือราวตากผ้าอะไรทำนองนั้น เพื่อสะดวกในการขนย้ายหรือใส่ท้ายรถ เอาไว้ไปนั่งภาวนาภายในเต้นท์อีกทีอ่ะครับ ถ้าทำแบบนี้ได้ ขอร่วมจองหนึ่งอัน:cool:
     
  11. ฮุโต๋

    ฮุโต๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +44,568
    ถึงคุณ สมาชิก ดูท่านอยู่
    ทำไมไม่นำวิธีสร้างจิตให้เป็นจิตพุทธประภัสสรบ้าง
    มัวแต่สร้างปิรามิดอยู่ทำไม พระบรมศาสดาไม่เคยสั่งให้สร้างปิรามิด นำมาขายเพื่อนั่งสมาธินี่ ไปเรียนดูว่าพระบรมศาสดาท่านสั่งให้ทำอะไร พระองค์ท่านสอนอะไร ถ้ารู้แล้วบอกด้วยนะ
     
  12. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    เอาแบบไม่มีหู นะครับ เดี่ยวให้ช่างไม่ใส่ก็ได้ครับ
     
  13. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    การจะทำจิตเข้าสู่จิตพุทธะ นั้นไม่ยากเลยครับผม ถ้าทุกคนเข้าสู่จิตพุทธะได้หมดแล้ว แล้วใครละจะมาทำสิ่งเหล่านี้ให้คงอยู่กะโลกต่อไปอีกนานเท่านานละครับ
    การจะเข้าสู่จิตพุทธะได้ที่แท้จริง ก็ฝึกตั้งแต่ละและวางออกไปเรื่อยๆ เห็นสักแต่ว่าเห็น ไม่นำมาปรุงแต่ง ไม่มีตัวเราของเรา ไม่มีตัวเขาของเขา คือดีที่สุดก็ไปบวชนั่นแหล่ะครับ ถึงจะมีเวลา
    แต่ยุคสมัยนี้ คนที่ทำงานก็เยอะสนใจนั่งสมาธิก็มาก ผมจึงพยายามมองหา สิ่งที่มันรวดเร็ว ทำให้ได้เร็วๆ ไม่ต้องมานั่งเป็นสิบๆปี อายุจะปาไป 70- 80 ปีถึงจะเข้าได้ อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรแล้วละครับ
    บางคนยังอยากมีฤทธิ์ อยากได้กันอยู่ ตามที่จริงการอยากพวกนี้ก็ไม่ผิดนะครับเพราะถ้าจิตมันอยากเมื่อมันรู้มันเห็นแล้วว่าการมีฤทธิ์มันก็อย่างนี้ ทีนี้มันก็จะวางของมันโดยที่ไม่ต้องบังคับ นอกจากว่าจิตมันยังติดยังหลงอยู่ ก็เลยไม่ไปไหน

    การจะเอาจิตสู่จิตพุทธะที่ง่ายที่สุด คือ การตื่นขึ้นของพลังงูไฟ หรือการทำให้ธาตุไฟแตกแล้วรวมธาตุกลับคืนมาเหมือนเดิม เท่านี้ก็เข้าสู่สภาวะนั้นได้แล้วครับ จิตมันจะไม่เอาอะไรเลย ไม่กินก็ได้ ไม่นอนก็ได้ ไม่สนใจอะไรเลย รู้สักแต่ว่ารู้ เห็นสักแต่ว่าเห็น มองสักแต่ว่ามอง จิตจะบริสุทธิ์หาใดมาเคียงได้เลยครับ
    แล้วจะมีใครเอากะผมไหมละครับ .............
     
  14. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ง่ายๆ คือ ยอมตายถวายชีวิตต่อพระพุทธเจ้า อย่างที่ถ่องกันไหมละครับ ผมไปที่วัดไหน ผมจะบอกพระว่า ถ้าท่านจะผ่านจุดนี้ไปให้ได้ ก็ต้องยอมตายถวายชีวิตต่อพระพุทธเจ้าเลยทีเดียว ถึงจะเข้าสู่จิตพุทธะ
     
  15. ฮุโต๋

    ฮุโต๋ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +44,568
    แทนที่คุณจะนำภาพพระมาให้เพ่ง ให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิต ของผู้ฝึกสมาธิ กรรมฐาน ทำไมคุณนำปิรามิดมาแทนภาพพระ การนำภาพพระพุทธเจ้า ขอพระบารมีของพระองค์นำทางโดยตรงไม่ดีกว่าหรือ เร็วกว่าด้วย ได้บุญบารมีของพระพุทธเจ้านำทาง เป็นพุทธานุสติ ประเสริฐมิอาจประมาณได้ ทำไมไม่ทำวิธีนี้
    และผู้ที่จะมานั่งสมาธิ กรรมฐาน ไม่อธิษฐานจิตยอมมอบกายถวายชีวิตกับพระก่อนหรือ
    หรือว่าคุณนำมอบกายถวายชีวิตกับใคร พิจารณาให้ดีด้วย อย่าพากันหลงทาง
     
  16. จ๋าเอง

    จ๋าเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +333
    สนใจสั่งด้วยค่ะ แบบไม่มีหูค่ะ ขอบคุณค่ะ jah@nhkspg.co.th
    (ฝากพิจารณา dimension ของ absolute pyramid ที่อ้างว่าเป็น dimension เดียวกัน มหาปิรามิดคีออฟ แห่งอียิปต์ค่ะ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. palor

    palor สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +8
    เชิญชมสิงสวยๆงามครับ
     
  18. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    เวลานั่งสมาธิผม ก็ พุทโธๆๆ ละครับท่าน
     
  19. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ครับผม แบบไม่มีหู 2 ท่านแล้วครับผม
     
  20. ดูท่านอยู่นะครับ

    ดูท่านอยู่นะครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,666
    ค่าพลัง:
    +2,480
    ไม่ได้กำหนดว่า เวลาเพ่ง ให้เพ่งภาพปิรามิดนะครับ เพราะเวลานั่งอยู่ในปิรามิด ผมก็เพ่งลูกแก้วใส มีพระพุทธเจ้าอยู่ข้างใน แล้วมันจะเร็วมากๆครับ
    ตาที่สามเปิดเร็วจริงๆครับแต่ต้องทนปวดหน่อยช่วงแรกๆ

    ต่อให้เราเพ่งภาพใดๆ แต่ไม่คิดให้เกิดปัญญา ก็ยังไม่ได้ปัญญาญาณ หรอกครับ จิตปัญญาไม่เกืดได้แต่นิมิตครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...