เชิญร่วมเป็นประธาน,รองประธาน,กรรมการ,เมตตาช่วยแจกซองกฐินสร้างที่พักผู้ปฏิบัติธรรม

ขอร่วมเป็นประธาน รองประธาน กรรมการ หรือเมตตาช่วยแจกซองกฐินวัดป่าศิริสมบูรณ์ เพื่อสร้างห้องพักผู้ปฏิบัติธรรม

เนื่องจากทางวัดป่าศิริสมบูรณ์เป็นสถานอบรมจริยะธรรมและปฏิบัติธรรม ได้จัดกิจกรรมในการอบปฏิบัติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดได้มี
มีหน่วยงานของราชการ และเอกชนของได้ติดต่อ ขอใช้สถานที่อบรมจริยะธรรมและปฏิบัติธรรม ให้แก่ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา พนักงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนญาติโยมที่จิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ใช้การพักเพื่อปฏิบัติธรรม เนื่องสถานที่ พักปฏิบัติธรรมไม่เพียงพอ ที่จะรองรับคนจำนวนมากที่มาปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่องดังนั้น ให้จึงขออนุเคราะห์ ผู้จิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ร่วมแรงร่วมใจในการสร้าง ห้องพักปฏิบัติธรรม


รูปโครงสร้าง ที่กำลังก่อสร้าง





โดยทางวัดป่าศิริสมบูรณ์ได้จัดกฐินสามัคคี ในวันอาทิตย์ ที่ 31 ตุลาคม 2553 และผู้มีจิตศรัทธาสามารถแจ้งความจำนองว่าจะเป็นประธาน รองประธาน กรรมการ หรือจะช่วยแจกซองกฐิน สามารถติดได้ที่
watpasirisombon@gmail.com หรือ pMได้ที่ผมนะครับ
กรุณาแจ้งรายละเอียด ของท่าน ชื่อ นามสกุล ที่อยู่

โดยทางวัดจะติดต่อกลับ และส่งซองไปให้ หรือร่วมทำบุญได้ที่

ธนาคารกรุงไทย สาขานางรอง
ชื่อบัญชี พระพรมมา ปภสฺสโร
(ชื่อเก่าของท่านพระใบฎีกาวิศวาธาร ก่อนได้รับการแต่งตั้งสมณศักดิ์)
เลขที่บัญชี 373-0-11953-2


หรือ
ธนาคาร ทหารไทย สาขาบุรีรัมย์
หมายเลขบัญชี 426-2-20277-5
ชื่อบัญชี พระเมธชนัน อเนชากุล​

หรือ


ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นางรอง
ชื่อบัญชีพระ วิศวาธาร ปภัสสโร
หมายเลขบัญชี 773-217628-4



........................................................................



เบอร์โทร พระเมธชนัน อเนชากุล 0844118852​

ที่อยู่ วัดป่าศิริสมบูรณ์ บ้านไร่สมบูรณ์ ต. โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ 31110 โทร 0844118852
ฎีกากฐินประจำปี2553

 

รบกวนช่วยส่งซองกฐินมาให้สัก5ซองครับ จะช่วยบอกบุญเรี่ยไรเพื่อนๆให้ครับ
น.สพ.วรเศรษฐ์ คูวิจิตรสุวรรณ
111/9 ถนนเชื่อมสัมพันธ์ แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม.10530
0853539400

 

Sathu...ขอเป็นกรรมการด้วยคนครับ

ฎีกา ผมพริ๊นท์จากหน้าจอแล้วครับ

 

สาธุ ขออนุโมทนากับโยมปอมากๆเน้อ สาธุ

ร่วมบริจาคผ้าขาวและปัจจัยร่วมสร้างกองกฐิน สมทบทุนสร้างรัตนตรัยบูชากตัญญุตารมย์สถาน


​

http://palungjit.org/threads/ร่วมบริจาคผ้าขาวและปัจจัยร่วมสร้างกองกฐิน.247960/

ณ วัดป่าศิริสมบูรณ์ บ้านไร่สมบูรณ์ ตำบลโนนสุวรรณ อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ 31110​

 

สาธุ ขออนุโมทนาด้วยเน้อ คงเป็นหลังวันที่16สิงหาคมหนะจึงจะพร้อม สาธุ

 

นมัสการท่านอาจารย์ไตรภพเจ้าค่ะ...
ขอรับซองกฐิน 50 ซอง..เพื่อบอกบุญญาติธรรมทั้งหลายเจ้าค่ะ..

วิไล วิชากร
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 สระบุรี
ถนนพหลโยธิน อ.พระพุทธบาท สระบุรี 18120

 

สาธุ ขออนุโมทนาด้วยเน้อ อืมยังมีใครจะช่วยอีกมั้ยหนอ สาธุ

 

:z8ขอเชิญร่วมลงชื่อทริปทอดกฐินสร้างเพื่อสร้างห้องพักผู้ปฏิบัติธรรมในวันที่ 30-31ตุลาคม พ.ศ.2553 ไปฟรีครับ ครั้งที่2:VO:z8


และปีนี้ได้ได้จัดเป็นรถทัวร์สองชั้น50ที่นั่ง โดยที่เจ้าภาพออกเงินไว้ให้หมดแล้ว


กำหนดการ

๐๖.๓๐น. พร้อมกัน ณ จุดนัดพบบริเวณหน้ามหาลัยวิทยารามคำแหง(ฝั่งประตูพ่อขุมราม)
๐๗.๐๐ น.เริ่มออกเดินทางจากหน้ามหาลัยวิทยารามคำแหง
บริการเปิดธรรมะตลอดทาง
๑๒.๐๐ น.หยุดแวะพักปั๊มน้ำมัน รับประทานอาหารตามอัธยาศัย (ดูแลตัวเองนะครับ )นมัสการสมเด็จพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) หรือวัดสรพงษ์ จัดสร้างโดย สรพงษ์ ชาตรี จังหวัด เที่ยวชมทำบุญตามอัธยาศัย ๑ชั่วโมง๓๐นาที​

๑๔.๐๐ น.เดินทางถึง สำนักปฏิบัติธรรมธุดงค์สถานวัดป่าศิริสมบูรณ์ รับประทานอาหารเย็น โดยทางวัดจัดตั้งโรงทานไว้เลี้ยงคนที่รวมทำบุญ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
หรือร่วมแจกอาหารโดยโรงทานคณะเว็ปพลังจิต.com.ให้กับชาวที่มาร่วมทำบุญแล้วปฏิบัติธรรมตลอดคืน หรือ อบสมุนไพรเพื่อรักษาโรคของทางวัด​

๑๙.๐๐ น. ร่วมสวดมนต์และทำวัตรเย็น ฟังธรรมเทศน์จนสว่าง หากเหนื่อยก็ไปพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันอาทิตย์ที่25 ตุลาคม 2552
๐๗.๐๐ น.ร่วมตัวกันเพื่อเริ่มพิธีทอดกฐิน
๐๙.๐๐ น. รับประทานอาหารเช้าที่โรงทาน

๑๑.๐๐ น. เดินทางกลับ
๑๗.๓๐ น. ถึง กทม. โดยสวัสดิภาพ​

ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

ค่าพาหนะเดินทางท่านละ ฟรี
เนื่องจากมีผู้ใจบุญได้ออกค่าเดินทางไว้ให้แล้ว

ท่านที่ประสงค์จะร่วมเดินทางไปกับกฐินแจ้งที่ pm teporrarit และ teporrarit@hotmail.comและมาโพสต์แจ้งชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ เพื่อให้ผมสามารถ จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ร่วมเดินทางและจัดที่นั่ง (ไม่ใช่สมาชิกเว็ปพลังจิตก็ไปได้น่ะครับ ) แจ้งได้ที่เมล​

ท่านที่ต่อมาประสงค์จะยกเลิกการเดินทาง ขอให้แจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน ก่อนวันที่เดินทาง การยกเลิกล่าช้าของท่านทำให้ตัดสิทธิของบุคคลอื่นและก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้จัดรถ และผู้ที่ต้องการไปร่วมบุญครั้งนี้ด้วย;aa42<!-- google_ad_section_end -->

 

ภาพเมื่อปีที่แล้ว
http://palungjit.org/threads/%E0%B...92.210908/<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=1003><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center><TBODY><TR><TD><CENTER>สาวเปรี้ยวพาเที่ยววัดสรพงษ์...ที่อำเภอสีคิ้ว โคราชค่ะ

</CENTER>

[FONT=courier new,courier,monospace]"หล่อนน่ะหรือเปรี้ยว ชั้นว่าหล่อนน่ะสุกงอมจนจะร่วงแล้วมากกว่านะยะ"[/FONT]​

[FONT=courier new,courier,monospace]เพื่อนรักแสนดีได้ย้อนคำนี้มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตอนที่เราชวนไปเที่ยวหลังจากพายุฝนเริ่มซาๆ ลงไปค่ะ [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]555+[/FONT][/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]อันที่จริงก่อนไปเที่ยว [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]โคราช[/FONT] ครั้งนี้ เราก็ไม่รู้จักที่นี่มาก่อนหรอกค่ะ เพราะไม่ได้ไปโคราชบ้านเองหลายปีแล้ว ตอนแรกเพื่อนเราก็เรียกชื่อวัดนี้ว่าอะไรสักอย่างหนึ่ง[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]จำไม่ได้ (ซึ่งก็เรียกผิดวัดน่ะ)เราก็นึกว่าเออดีเหมือนกัน ชื่อไม่คุ้น ลองไปวัดที่ไม่เคยไปมั่ง ก็เลยพากันไปเที่ยวที่นี่ ขับรถไปไม่นานเท่าไรพอเพลินๆ [/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]เพราะคนขับก็ขับไป คนนั่งอย่างเราก็หลับสบาย กรั๊กๆๆๆ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]อันที่จริง "[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]วัดสรพงษ์[/FONT]" นี่ไม่ใช่วัดนะคะ แต่เป็น [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]อุทยานมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) [/FONT]ซึ่งก่อตั้งโดยแรงศรัทธาของคุณ [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]สรพงษ์ ชาตรี[/FONT] มหาเถรคันฉ่องในภาพยนต์สมเด็จพระนเรศวรแห่งสยามประเทศ ดาราที่ใครๆ ก็รู้จักค่ะ ผู้คนเลยเรียกชื่อที่นี่ว่า [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]วัดสรพงษ์[/FONT] ซะเลย สะดวกปากดีค่ะ แห่ะแห่ะ [/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]สถานที่ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว ก่อนถึงโคราช [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]45 [/FONT]กิโลฯ ค่ะ[/FONT]
​

​

[FONT=courier new,courier,monospace]พอพวกเราจอดรถที่ลานจอดอันกว้างขวางใหญ่โตแล้ว ก่อนจะเข้าไปทำบุญอันใด แทบทุกคนต้องแวะที่นี่ก่อนค่ะ [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]โรงทาน[/FONT] หรือ [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]โรงอาหาร[/FONT] ที่ลือลั่นสนั่นเมือง ที่แจก "[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าชาววัง[/FONT]" ที่แสนอร่อยบาดจิตให้แขกทุกคนที่มาเยือนได้กินกันให้อิ่มหนำสำราญกันก่อนค่ะ[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]โอวส์ ขอบอกว่าของเขาดีจริงๆ ค่ะ ไม่ใช่ของแจกที่สักแต่ว่าแจก หมูเป็นหมู น้ำราดหน้าเป็นน้ำ(ไม่เป็นน้ำแล้วจะเป็นอะไรยะ)คุณสรพงษ์ประกาศออกไมค์เจื้อยแจ้วว่าทานให้ได้คนละ [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]9 [/FONT]จาน ฮ่าๆๆ เรารับท้า กินไป [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]3 [/FONT]จานจุกแอ๊กเลยค่ะ เอิ๊กๆๆ ทานเสร็จมีตู้บริจาคเพื่อต่อยอดให้ผู้มาทำบุญวันต่อๆ ไปได้ทานกันอีกนะคะ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]กินราดหน้าแสนอร่อยไป ตาก็มองไปรอบๆ โรงอาหาร เห็นโต๊ะวางเครื่องปรุง ซึ่งเครื่องปรุงก็ไม่ได้ใส่ถ้วยอันใด เพราะใส่ถ้วยก็คงไม่พอกับจำนวนคน แต่เขา[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]ใส่อยู่ในโอ่งเคลือบใบย่อมๆ เลยทีเดียวล่ะค่ะ ใจก็แอบคำนวณไปว่าวันเสาร์-อาทิตย์แบบนี้ มีคนเยือนที่นี่วันละหลักหมื่น จะหมดค่าทำราดหน้านี่วันละเท่าไร[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]กันเนี่ย เหอๆ เค้าเลี้ยงกันตั้งแต่ [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]6 [/FONT]โมงเช้า ถึง [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]6 [/FONT]โมงเย็นเลยนะคะ[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]ตอนไปถ่ายรูปคุณพี่ที่ทำราดหน้านี้ เห็นคุณพี่มองเหล่ๆ ผ่านมาสก์ที่คาดปากกันเชื้อโรคอยู่นี่ นึกว่าคุณพี่แกจะด่าเราที่ไปเกะกะตอนทำงาน เพราะมีคนมารับ[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]จานราดหน้าตลอดเวลา ที่ไหนได้ คุณพี่แกพูดผ่านมาสก์ครอบปากออกมาว่า[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]"หนูๆ ก่อนจะถ่ายรูป บอกพี่ก่อนซิจ๊ะ คุณพี่จะได้ยิ้มให้ จะได้ออกมาสวยๆ"[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]เอ่อ[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]...[/FONT]คุณพี่คะ แล้วพอคุณพี่ยิ้ม หนูจะมองเห็นไหมคะเนี่ยว่าคุณพี่ยิ้มแล้วอ๊ะ คิกๆๆ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]จัดการเรื่องปากเรื่องท้องเสร็จสรรพ ก็ออกมาจากโรงอาหาร ได้ยินเสียงคุณสรพงษ์ประกาศออกไมค์แซวแฟนเขา คือคุณ [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ดวงเดือน จิไธสงค์[/FONT] คุณสรพงษ์แซวว่าคุณดวงเดือนอยู่ในซุ้มกาแฟในเกาะกลางน้ำนี่ แกชอบชงกาแฟกับทำโดนัท เราเลยแวะเข้าไปชิมกาแฟคุณดวงเดือนซักหน่อย อยากเห็นตัวจริงน่ะค่ะ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]คุณ [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ดวงเดือน จิไธสงค์[/FONT] นางงามรองอันดับ [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]1 [/FONT]มิสไทยแลนด์เวิลด์ พ.ศ.[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]2529[/FONT] ปีที่ [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]แสงระวี อัศวรักษ์[/FONT] ได้เป็นและมีการแย่งมงกุฏกันน่ะค่ะ มีคนแย่งเอามงกุฏ[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]ออกจากหัวคุณแสงระวี ซึ่งยืนยิ้มแป้นไม่รู้ไม่ชี้ถ่ายรูปอยู่ และเอามงกุฏมาครอบหัวคุณดวงเดือน ซึ่งเธอก็ร้องไห้และพยายามเอามงกุฏออกไป วันรุ่งขึ้นเป็น[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]ข่าวลงหนังสือพิมพ์ครึกโครม[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]คุณดวงเดือนในวันนี้ยังรูปร่างดีอยู่เลย ถึงจะผอมไปหน่อยแต่ก็ยังดูหุ่นเป็นนางงามอยู่เลยนะคะ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]เอาล่ะ ทีนี้เราจะเข้าไปบริเวณวิหารสมเด็จโตสักที จะมีศาลาหลังใหญ่ๆ อยู่ก่อนถึงวิหารใหญ่ค่ะ คุณสรพงษ์ใส่ชุดขาวนั่งต้อนรับอยู่ที่กลางอาคารนี้[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]ส่วนใหญ่คนที่มาทำบุญที่นี่ ก็จะบริจาคกันตรงนี้ เพราะจะได้วัตถุมงคลกลับไปด้วย ได้ถ่ายรูปกับคุณสรพงษ์ และได้ลายเซ็นด้วยค่ะ คุณสรพงษ์ก็ถ่ายรูปไป เซ็นไป พร้อมกับสลับพูดผ่านไมค์ลอยดังไปทั่ววัดค่ะ ใครถามอะไรใกล้ๆ แก แกก็ตอบผ่านออกไมค์ดังไปทั่วคุ้งน้ำเลยทีเดียวเชียว อิอิ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]แกเล่าผ่านไมค์ เมื่อเราไปถาม ว่าจุดเริ่มที่นี่ คือเมื่อปี [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]2541 [/FONT]ด้วยแรงศรัทธา และนับถือต่อสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสีที่แกมีอยู่เต็มเปี่ยมหัวใจ จากเงิน[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]เพียงศูนย์บาท และตั้งใจจะสร้างให้ใหญ่ที่สุดในโลก (ปัจจุบันถูกล้มแชมป์ไปแล้ว) [/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]แกตั้งใจจะสร้างให้เป็นมูลนิธิ ไม่มีวัด ไม่มีพระสงฆ์ สร้างขึ้นเพื่อให้คนที่เคารพบูชาสมเด็จโตเข้าไปกราบไว้ สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการบำเพ็ญประโยชน์ ช่วย[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]เหลือสังคม เป็นมูลนิธิที่ส่งเสริมการเรียนการสอนของเด็กด้อยโอกาสค่ะ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]จบการสนทนากับคุณสรพงษ์แล้ว(มีแซวออกไมค์ด้วยว่ากล้องเราใหญ่ดี มาจ่อๆ หน้าแก แกชอบ อิอิ เราใช้เลนส์ [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]10-20 [/FONT]มม.ต้องจ่อๆ อ่ะ)เราก็เดินผ่าความร้อน ซึ่งจริงๆ เขามีร่มให้หยิบกางไปถึงวิหารสมเด็จโตได้เลย [/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]วิหารใหญ่โต สวยงาม อลังการดีนะคะ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]นี่เป็นโมเดลของวิหารแบบสมบูรณ์ ก็งดงามสมราคาจากเงินบริจาคกว่า [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]300 [/FONT]ล้านบาทค่ะ เริ่มจากบนพื้นที่โล่งๆ [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]15 [/FONT]ไร่เมื่อสิบปีที่แล้ว จนมาถึงวันนี้ใกล้จะสมบูรณ์แล้วค่ะ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]องค์สมเด็จโตนี้ หล่อมาจากทองเหลืองหนัก [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]61 [/FONT]ตันนะคะ สูงเท่าตึก [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]2 [/FONT]ชั้น ตอนหล่อทองเหลือง หล่อเป็นชิ้นๆ ทั้งหมด [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]127 [/FONT]ชิ้น แล้วนำมาเชื่อมต่อกันภายหลังค่ะ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]คุณสรพงษ์เคยให้สัมภาษณ์ว่า [/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]"ผมผ่านทั้งความเหน็ดเหนื่อย ความท้อ ก็จุดธูปอธิษฐานขอพรว่าหลวงพ่อโต ถ้าดี ขอให้มีคนช่วย ถ้าไม่ดี ขอให้สร้างไม่สำเร็จ และสุดท้ายก็ผ่านเหตุการณ์[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]ต่างๆ มาได้ด้วยดี ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปนั้นคุ้มค่า เกิดมาชาติหนึ่งร่างกายเราสมบูรณ์ได้ ทำอะไรช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติได้ อุทิศตนได้ แค่นี้ก็มีความ[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]สุขแล้ว [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]10 [/FONT]ปีที่ผ่านมา ได้ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ เพื่อให้ได้เห็นหลวงปู่ได้เห็นความเจริญงอกงามของงานที่ตนทำ" [/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]ก่อนจะปิดท้ายว่า[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]"เราไม่จำเป็นต้องเป็นพระเอก ไม่ต้องมีเงินถึง [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]300 [/FONT]ล้าน แต่ก็สามารถช่วยเหลือ ทำประโยชน์ให้แก่สังคมได้ แค่เป็นคนดีก็เพียงพอ"[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]เจ้าของบล๊อกนี้ยังไม่แก่มากถึงขนาดต้องเข้าวัดทุกบ่อยๆ นะเค๊อะ อิอิ แต่ชอบไปเพื่อเปิดโลกกว้างในแนววัฒนธรรม จริงๆ ภาคดึกก็ยังตกอยู่ในวังน้ำวนสาย[/FONT][FONT=courier new,courier,monospace]ชลวนเชี่ยวเป็นเกลียวลึกลง[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]...[/FONT]ของกิเลสตัณหาอยู่ คิกๆๆ [/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]แต่บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป อยู่คนละกองกันค่ะ เอิ๊กๆๆ สวรรค์หรือนรก สองเท้ากับหนึ่งใจของตัวเราเท่านั้น ที่จะพาก้าว "[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ขึ้น[/FONT]" หรือ "[FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]ลง[/FONT]" เนอะ[/FONT]

​

[FONT=courier new,courier,monospace]เป็นอันว่าจบทริปครึ่งวันแรกที่วิหารสมเด็จโตนี่ก่อนนะคะ จริงๆ ภาคบ่ายได้ไปต่อกันที่ปราสาทหินอีก[FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif] 2-3 [/FONT]ที่(ปราสาทเล็กๆ)ที่โคราชนี้ ก็ขอยกยอดไปเป็นบล๊อกหน้าแล้วกันค่ะ[/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]ได้โพสต์เรื่องบุญๆ นี้ใน [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]สัปดาห์วิสาขบูชาโลก[/FONT] พอดี ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้เหตุการณ์ร้ายๆ ทางภาคใต้ของเราหมดสิ้นไปเสียที และขอให้ทุกท่านใน [FONT=tahoma,arial,helvetica,sans-serif]OKnation [/FONT]รวมทั้งเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่าน มีความสุข กินอิ่ม นอนหลับ และแวดล้อมไปด้วยคนดีที่รักของทุกท่านนะเจ้าคะ [/FONT]

[FONT=courier new,courier,monospace]สวัสดีค่ะ[/FONT]​

<HR>

เรื่อง/ภาพ : กำปงพิราเทวี
ขอบคุณ : พจน์,นงศักดิ์
กล้อง : [FONT=MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]Nikon D200 / เลนส์ Sigma 10-20 mm[/FONT]​

</TD></TR><TR><TD align=right>โดย กำปงพิราเทวี</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top background=images_print/dot.gif width=10 align=left></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=center align=right>กลับไปที่ www.oknation.net <IFRAME height=14 marginHeight=0 src="http://www.oknation.net/blog/truehits.php?pagename=print" frameBorder=0 width=14 allowTransparency marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->
__________________

 

ธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ เป็นวัดป่าสายปฏิบัติ ซึ่งพระใบฎีกา ปภสฺสโร ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับประพฤติปฏิบัติ ฝึกฝน อบรมพระภิกษุ-สามเณร ผู้มุ่งสู่ความพ้นทุกข์
ให้เป็นผู้มักน้อย สันโดษ เสียสละ พากเพียรเพื่อมรรคผลนิพพาน และนำพาไปสู่การเป็นสมณะที่งดงาม ด้วยการรักษาวัตรปฏิบัติตามธรรมวินัย อันจะเป็นเหตุให้เกิดความเลื่อมใสแก่ผู้พบเห็น
ร่วมประคองค้ำชูพระศาสนาให้มีอายุยืนยาว เจริญรุ่งเรือง เพื่อหวังให้ต่อไปจะได้เป็นศูยน์กลางการอบรมสั่งสอน ตามหลักแห่งพระพุทธศาสนา ให้กับนักปฎิบัติธรรมทั้งพระภิกษุ สามเณร
อุบาสก อุบาสิกา ที่สนใจทุกคนต่อไป
ธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ ตั้งอยู่บ้านไร่สมบูรณ์ หมู่ที่ 10 ตำบลโนนสุวรรณ อำเภอโนนสุวรรณ จังหวัดบุรีรัมย์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ 150 ไร่ อาณาเขต
ทิศเหนือ ประมาณ 1,000 เมตร จดที่ดิน-ที่สวนชาวบ้าน ทิศใต้ ประมาณ 1,000 เมตร จดที่ดินสาธารณประโยชน์-ถนนลูกรัง ทิศตะวันออก ประมาณ 400 เมตรจดที่ดินสาธารณะ ทิศตะวันตก
ประมาณ 400 เมตร จดที่สวนชาวบ้าน อาคารเสนาสนะประกอบด้วย ศาลาการเปรียญ กว้าง 16 เมตร ยาว 36 เมตร สร้าง พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ชั้นเดียว โปร่ง หอสวดมนต์
กว้าง 14 เมตร ยาว ๒๕ เมตร สร้าง พ.ศ. ๒๕๔๙ แต่ยังไม่เสร็จ เป็นอาคารตึก ๒ ชั้น กุฏิสงฆ์ จำนวน ๑๑ หลัง เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีห้องน้ำประจำกุฏิ โรงครัวสร้างด้วยปูนและอิฐ
ห้องน้ำญาติโยมเป็นเรือนแถว จำนวน ๒๐ ห้อง ปูชนียวัตถุ หลวงพ่อศิลาเขียว เป็นพระพุทธรูปหินทรายสีเขียวหน้าตัก 150 เซนติเมตร ปางชนะมาร ๑ องค์พลวงพ่อศิลาแดง เป็นพระพุทธรูป
หินทรายแดง หน้าตัก 120 เซนติเมตร ปาง คันธารราฏ ๑ องค์ ธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ ตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ ตั้งอยู่บริเวณด้านทิศเหนือของหมู่บ้านไร่สมบูรณ์ และ หมู่บ้านน้อยอุบล
โดย หลวงพ่อพระใบฎีกาวิศวาธาน ปภสฺสโร เป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์และมีพระปฏิบัติธรรม ร่วมจำพรรษาในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า ๑๐ รูป มีทั้งธรรมยุต และมหานิกาย เพราะทางวัดมุ่งใน
การปฏิบัติธรรมเจริญกรรมฐาน จึงไม่ได้แบ่งแยกนิกาย

เหตุของการก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรมธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ (วัดป่าไร่สมบูรณ์)

ท่านพระใบฎีกาวิศวาธาร หลังจากที่ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ได้อยู่ถือนิสัยกับครูบาอาจารย์ เพียง 3 พรรษาก็กราบลา ท่านพระอาจารย์เพื่อออกุดงค์เพียงลำพัง ในตอนนั้นท่านถือนิสัยอยู่กับท่านพระอาจารย์เผ่า จิตฺตคุโณ วัดเขาถ้ำสหกรนิคม
ท่านพระ อาจารย์เผ่าเห็นว่าท่านพระใบฎีกาวิศวาธาน นี้เป็นผู้สามารถที่จะรักษาตัวเองรอดจากภัยร้ายต่างๆได้แล้ว เพราะเป็นผู้ได้ฝึกหัดทางด้านการเจริญสมาธิภาวนามาหลายปี และความรู้ในทางปริยัติธรรมก็จบนักธรรมเอกแล้ว จึงอนุญาตให้ออกธุดงค์เพียงรำพังได้
เส้นทางที่ท่านได้เที่ยวจาริกไปนั้นเป็นเส้นทางตะเข็บชายแดน โดยตัดป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มุ่งตรงขึ้นสู่ภาคเหนือของประเทศไทย ผ่านทั้งป่าดงดิบ ภูเขา อดบ้างอิ่มบ้างไปจนถึง ถ้ำผาผึ่ง บ้าน เปลิ่งเคลิ่ง จึงหยุดพักทำความเพียรที่นั่น 1 พรรษา เมื่อปี พ.ศ. 2534 ร่วมกับคณะสงฆ์ธรรมยุตที่ท่านพักภาวนาอยู่ก่อนแล้ว
พอออกพรรษา ท่านก็ออกจาริกต่อไปทางเหนือมุ่งไปอย่างไม่ลดละไม่พักที่ใดเกินหนึ่งคืน และไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจของความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า รวมทั้งความกลัวต่างๆทั้งสัตว์ร้าย คนร้าย ผีร้าย จนบรรลุถึง อำเภอ ปางมะพร่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้หยุดพัก บำเพ็ญเพียรภาวนาในถ้ำแห่งหนึ่งอาศัยการบิณฑบาตจากชาวเขาเลี้ยงชีพ
พอพักอยู่เป็นเวลานาพอสมควรแล้วจึงได้ออกจาริกต่อไปมุ่งตรงไป ทางตอนเหนือสุดของไทยคือจังหวัดเชียงราย แล้ววกกลับลงมา ทางเชียงใหม่ ได้ผ่าน อำเภอเชียงดาวจึงได้แวะไปพักภาวนาอยู่กับท่าน หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาป่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และได้อุบายธรรมจากท่านหลวงปู่เป็นที่น่าพอใจแล้ว
จึงได้เดินตอลงมาจนบรรลุถึงเขตของภาคอีสาน ในตอนนั้นมีอยู่คืนหนึ่งในระหว่างที่ท่านพักภาวนาอยู่นั้นจิตได้รวมลงสู่ ความสงบดังเช่นเคยเพราะท่านได้เคยฝึกสมาธิจนจิตสงบมาแล้วจนชำนาญ ท่านได้เกิดภาพนิมิตขึ้นเห็น อุบาสกท่านหนึ่งมากราบแล้วอาราธนานิมนต์ให้ท่านให้รีบกลับวัดหนองป่าพง พอท่านออกจากสมาธิจึงใคร่ควรดุถึงนิมิตนั้น
วันรุ่งขึ้นท่านจึงหลังจากทำภัตรกิจแล้วจึงได้จาริกมุ่งตรงสู่ วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี กว่าที่ท่านจะไปถึงนั้นก็จวนจะเข้าพรรษาแล้ว ท่านจึงได้อยู่จำพรรษาที่วัดหนองป่าพง
ซึ่งใน ตอนนั้นทางวัดหนองป่าพงได้ทำการเตรียมสถานที่เพื่อประกอบพีธีพระราชทานเพลิง ศพ พระเดชพระคุณพระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภสฺสโท )ท่านพระใบฎีกาวิศาวาธานจึงได้อยู่ช่วยงานสงฆ์จนเสร็จกิจทั้งปวง เป็นเวลาเกือบ 8 เดือน
หลังจากนั้นท่านจึงได้กราบลาพระราชภาวนาวิกรม เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง เพื่อจาริกแสวงหาวิโมกข์ธรรมต่อไป ทั่วราชอานาจักรไทย และได้พักบำเพ็ญภาวนา ตาม ในระยะนั้นท่านมีท่านพระอาจารย์รูปหนึ่งได้ขอติดตามท่านพระใบฎีกาวิสวาธาน จาริกธุดงค์ด้วย ท่านมีนามว่า ท่านพระมหาเมธชนัน โกวิโท ท่านสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุตนิกาย (แม้ในปัจจุบันนี้ท่านพระอาจารย์รูปนี้ก็ยังอยู่เพื่อช่วยงานท่านตลอดมา และเป็นผู้ที่เปนสักขีพยานในเรื่องการบำเพ็ญภาวนาของท่านพระใบฎีกาวิศวาธาน รวมทั้งเรืองปาฏิหารต่างๆอันเกิดขึ้น ) สถานที่ต่างๆ และได้วกกลับขึ้นไปทางเหนืออีก ได้ไปพักอยู่ที่ถ้ำ พระ บ้านเมืองแพรม อำเภอปางมพร่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ในเช้าวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2542 ในขนะที่ท่านได้นั่งทำสมาธิอยู่นั้นได้เกิดนิมิต เห็นอุบาสิกาผู้หนึ่งนุ่งห่มผ้าขาวร่างกายสะอาด ได้มากราบท่านแล้วกร่าวอาราธนานิมนต์ให้กลับไปยังภูมิลำเนาเดิม เพื่อได้โปรดญาติโยมผู้ที่เคยได้สร้างกรรมร่วมกันมาในอดีตชาติ และได้เกิดภาพเห็นผืนป่าแห่งหนึ่งเขียวขจีสวยงามมาก พอออกจากสมาธิท่านได้พิจารณาถึงการจาริกธุดงค์ของท่านและการบำเพ็ญบารมี ต่างๆก็พอที่จะรักษาตัวเองให้อยู่รอดจากเหล่ามารร้ายได้แล้ว ท่านจึงตัดสินใจกลับสู่ถิ่นกำเนิดของตน โดยได้อธิฐานจิตไว้ว่าหากจะเป็นจริงดั่งนิมิตนั้นแล้วก็ให้เดินทางให้ถึง สถานที่นั่นก่อนเข้าพรรษาเถิดเราจะขอถอนการสมาทานการเดินเท้าหากมีใครขับรถ มา แล้วมีผู้จอดรับ ก็จะขึ้นรถนั้นไปด้วย ( ท่านไม่รับปัจจัย การเดินทางเดินเท้า )
พอท่านเดินออกมาถึงถนนลาดยางสายเชียงใหม่แม่ฮ่องสอนก็มีรถจอดรับ ไปจนถึงเชียงใหม่และยังได้ซื้อตั๋วรถเชียงใหม่บุรีรัมย์ถวายอีก เป็นอันว่าท่านได้ใช้เวลาใน การเดินทางสู่บุรีรัมย์ เพียง 1 วัน กับอีก 1 คืน เท่านั้น พอถึงบุรีรัมย์ท่านจึงไป พักอยู่กับเพื่อนสหธรรมมิก ของท่านรูปหนึ่งซึ่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่ป่าช้าแห่งหนึ่งใกล้ๆกับอำเภอเมือง บุรีรัมย์ และได้ไปแวะพักกับเพื่อนสหธรรมิกอีกหลายท่าน บางท่านเห็นหน้า ท่านพระใบฏีกาวิศาวาธาน แล้วจำไม่ได้นึกว่าหลวงตาที่ไหนมาเพราะท่านผอมมากจนแก้มตอบลงไปลึกทีเดียว แต่พอถามไถ่กันแล้วจึงจำได้ต่างก็เอ่ยขึ้นทันทีว่านึกว่าตายแล้ว แล้วก็หัวเราะกันไป
จนกระทั่งถึงเดือนมิถุนายน ปี เดียวกันนั้นท่านพร้อมกับพระมหาเมธชนัน โกวิโท จึงได้เดินเท้ามุ่งมาทางอำเภอ โนนสุวรรณ จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2542 จึงถึงป่าแห่งหนึ่ง มีเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่ เป็นป่าไม่รุ่น 2 แต่มีความสมบูรณืพอสมควร จึงได้หยุดพักปลักกลด ณ ที่ป่าแห่งนั้น ตกดึกมาใน
ขณะ ที่ท่านพระใบฎีกาวิศวาธานได้นั่งสมาธิท่านได้เห็นนิมิตเป็นร่างชายกับหญิง แก่ นุ่งห่มผ้าขาว ถือจานใส่เครื่องบูชามาถวายท่านแล้วกราบลงกับพื้นดิน แล้วยิ้มและหายไป ท่านจึงออกจากสมาธิ เวลาประมาณ 00.36 น. ในทางทิศตะวันออกได้มีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นมา เป็นสิงอัศจรรย์ อย่างหนึ่งนั่นก็คือ มีดวงไฟดวงใหญ่ขนาดเท่ากับ โอ่งมังกรขนาดใหญ่ ลอยอยู่เหนือพื้นดินประมาณ 3 เมตร ซึ่งก้องไฟนี้ท่านพระมหาเมธชนัน ก็ เห็นเช่นเดียวกัน ลอยอยู่อย่างนั้นประมาณ 20 นาทีก็ได้แตกออก เป็น 7 สีเหมือนกับ พุที่เขาจุด แต่ไม่มีเสียงใดๆเลย
พอรุ่งเช้ามาท่านพระใบฎีกาวิศวาทานจึงได้ออกไปโปรดสัตว์พร้อมกับ ท่านพระมหาเมธชนัน ญาติโยมพอได้เห็นพระไปรับบิณฑบาตก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาบางคนกล่าวว่าได้ ฝันเห็นพระ 2 รูปมาโปรด หน้าตาเหมือนกับท่านทั้ง 2 รูปและได้บอกหวยอีก งวดนั้นเลยถูกกันทั้งหมู่บ้าน
ใน เช้านั้นชาวบ้านได้พร้อมใจกันอาราธนานิมนต์ให้พระใบฎีกาวิศวาธานอยู่ในป่า แห่งนั้น เพื่อเป็นผู้นำทางด้านจิตใจของชาวบ้านต่อไปจึงได้เกิดเป็น ธุดงค์สถานป่าศิริสมบูรณ์ขึ้นมา ในระยะแรกของการก่อตั้งวัดได้มีปัญหาเกิดขึ้น อยู่บ้างเช่นการไม่เข้าใจกันเกี่ยวกับประเพณีบางอย่าง ซึ่งท่านพระใบฎีกาวิศวาธาน ท่านไม่ยอมให้กระทำ เช่น การกินเหล่าในวัด การมีมหรสพเวลามีงานวัด การฆ่าสัตว์เพื่อทำบุญ อย่างนี้ ท่านจะไม่อนุญาตให้ทำเป็นเด็จขาด คนที่จะมาเป็นทายกวัด หรือเป็นผู้นำทางด้านศาสนา ท่านจะให้เลิกอบายมุขเสียก่อนถ้าเลิกไม่ได้ก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับการดูแล กิจกรรมต่างๆของวัดเด็จขาด เพราะจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ผู้อื่น ท่านพยายามคัดสรรค์บุคลากรที่มีคุณภาพทั้งทางความรู้และ คุณธรรม เข้ามาทำงานในส่วนที่ไม่ เหมาะสมกับ สมณะสารูป เช่นการดุ แลปัจจัยเงินทอง เป็นต้น สอนให้ชาวบ้าน ลด ละ เลิกอบายมุขทุกชนิด และมีเรื่องน่าอัศจรรย์อีกมากมายที่เกิดข้น จึงทำให้มีผู้เคารพ นับถือ





จากกรุงเทพฯ เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ถึงสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวง หมายเลข 2 (มิตรภาพ)
จากนั้นแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 24 (โชค ชัย-เดชอุดม) ผ่านอำเภอ หนองกี่ ก่อนถึง อำเภอนางรอง ประมาณ 15 กิโลเมตร ถึงบ้านหัวถนน แล้วเลี้ยวขวา มุ่งตรงไปสู่ตัวอำเภอโนนสุวรรณ





<SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>

แผนผังสิ่งก่อสร้าง










สัญลักษณ์





<TABLE style="WIDTH: 335px; HEIGHT: 109px" border=0><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86 width=43></TD><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86 width=253>1.กุฎิสงฆ์</TD><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86 width=207>2.ศาลาการเปรียญ</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86></TD><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86>3.ศาลาการเปรียญ</TD><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86>4.ศาลาโรงทาน</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86></TD><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86>5.ห้องน้ำ</TD><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86>6.ถังเก็บน้ำฝน</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86></TD><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86>7.โรงสูบน้ำพร้อมถังกรอง</TD><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86>8.โรงครัว</TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86></TD><TD style="TEXT-ALIGN: left" class=style86>9.โรงย้อมจีวร</TD></TR></TBODY></TABLE>



บรรยากาศ



ธุดงค์สถานแห่งนี้เป็นพุทธสถาน ที่รักษาธรรมชาติเอาไว้ อยู่อย่างเลียบง่ายไม่ได้ปรุ่งแต่งอะไรมากมาย หากใครใครจะมาปฏิบัติธรรมแล้วต้องรักธรรมชาติ รักความกินง่าย นอนง่าย อยู่ง่ายไม่ฟุ้งเฟ้อและต้องเตรียมมุ้ง มาด้วยเพราะยุงจะเยอะในช่วงฤดุฝน



หลวงพ่อพระสิวลี





หลวงพ่อเมตตา


แดนมรณะสติ ที่อยู่ของท่านครูบาเมธชนัน โกวิโท











เจ้าแม่กวนอิม


เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้มาด้วยแรงอธิฐาน ของท่านครูบาเมธชนัน โกวิโท


ท่านผู้สร้างเล่าว่าได้ยินเสียงสวดมนต์ติดต่อกัน 3 วัน

และเห็นแต่รุปองค์พระแม่ลอยวนเวียนในเวลาทำสมาธิ














ลานคูณ
จะเป็นที่ก่อสร้างพระอุโบสถ ต่อไป







บ่อน้ำคู่


เป็นบ่อน้ำที่แรงศรัทธาจากกรุงเทพมาช่วยขุดเอาไว้ปล่อยชีวิตสัตว์น้ำนานาตามแรงอธิฐาน


ของท่านครูบาเมธชนัน โกวิโท














ทางเดินจงกลมของท่านผู้ปฏิบัติธรรม


อันเลียบง่ายทอดยาวไปตามป่าไม้อันเขียวขจี











กฏิกรรมฐานที่
คณะศรัทธาจากเมืองกรุงสร้าถวายและยังขากแคลนอยู่มาก
หากผู้ใดต้องการบริจาคเพื่อก่อสร้างกุฏิกรรมฐาน






ธรรมศาลาที่เลียบง่ายไม่หรูหลาตามธรรมชาติของวัดป่า




ที่มา..http://www.watpasirisombon.com/index...=50&Itemid=157​

<!-- google_ad_section_end --><!-- / message --><!-- sig -->

 

โมทนาด้วยค่ะ จะร่วมเป็นกรรมการด้วยค่ะและจะช่วยแจกซองด้วยค่ะ

 

สาธุ ขออนุโมทนาด้วยเน้อ หากเป็นดังนั้นทางวัดขอรายละเอียดชื่อนามสกุลที่อยู่ด้วยเน้อ สาธุ หากไม่สะดวกก็ส่งทางPM เน้อ สาธุ

 

ไว้ที่บ้านหารายชื่อครบแล้วแล้วจะส่งให้น่ะครับ

 

สาธุ ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยเน้อ ตอนนี้มีผู้ร่วมแจกซองแล้ว 5 ท่าน รวม 215 ซอง

 

ขอร่วมกุศลด้วยครับๆๆ ขอรับ 5 ซองครับๆๆพระคุณเจ้า
ชื่อที่อยู่ที่รบกวนพระคุณเจ้าจัดส่งซองให้กระผมจะจัดให้ทาง pm
ขอกราบอนูโมทนาสาธุการในกุศลจิต กุศลกรรมของท่านจขกท และทุกๆๆท่านที่ร่วมกุศล
ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

เงียบมากมาย อิอิ

 

ขอรับสัก 2 ซอง กรุณาส่งมาที่

ศตายุ วศิษฐสิริศรี
48/26 ม.3 ถนนท่าน้ำนนทบุรี-บางศรีเมือง อ.บางศรีเมือง ต.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี
11000

 

กราบนมัสการพระคุณเจ้า
กระผมได้โอนไปแล้ว 1600 บาท เมื่อวันที่ 25/10/53
เข้าบช ธ.ไทยพาณิชย์ครับ รายละเอียดตามที่ได้กราบเรียนใน Pm ครับ