ทำไมฆราวาสผู้บรรลุนิพพานถึงอยู่ได้ภายใน7วัน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย weirchai, 1 พฤศจิกายน 2006.

  1. ฐตธนวัฒฆ์

    ฐตธนวัฒฆ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +745
    ...ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้บรรลุธรรม ได้ดวงตาเห็นธรรม รู้แจ้งแทงตลอดในธรรม ตามที่ท่านปรารถนาครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    คิริมานนทสูตร

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=56466<!-- / message --><!-- edit note -->
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  2. Seel

    Seel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    260
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,604
    คนบางคน บ้าไม่มีที่จอด เอิ๊กๆๆๆ อย่างเช่นผม อะไรอย่างงี้เป็นต้น
    แต่ก็ยังมีที่บ้ากว่า เอิ๊กๆๆ เหนือฟ้า ยังมีฟ้า เหนือปลาร้า ยังมีหนอน
    ฉันใดก็แนนั้น ในเมื่อมีคนบ้า ก็ย่อมมีคนบ้ากว่า อยู่อีกเป็นธรรมดา
    ใช่ไหมครับ? ทุกท่าน
     
  3. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    เออ.....จริง พวกนี้บ้าไม่มีที่จอดจริงๆด้วย
    ไม่รู้เรื่องยังอุตส่าห์มาออกความเห็น ไปนรกแบบไม่รู้ตัวนะครับท่าน จะบอกให้เอาบุญ ออกทะเลไปไกลแล้ว เข้าฝั่งไม่เป็น

    เรื่อง 7 วัน หรือ 24 ช.ม. ไม่ต้องเถียงกัน ไปอ่านมิลินทปัญหาก็ฉลาดได้แล้ว

    เรื่องศาสนาอื่นมีพระอรหันต์ แต่ยังไม่มีใครเจอ
    งั้นพี่ต้องไปอ่านพระไตรปิฎกให้ดีก่อน เพราะพุทธฎีกามีว่า อริยบุคคล มีเพียงในพระศาสนาของสมณโคดมเท่านั้น
     
  4. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    ก็ว่ากันไปเด้อ
     
  5. ฐตธนวัฒฆ์

    ฐตธนวัฒฆ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +745
    ทำไมฆราวาสผู้บรรลุนิพพานถึงอยู่ได้ภายใน7วัน

    คำถามนี้เคยถามหลวงปู่ท่าน ท่านตอบว่าจะไม่ตายได้งัย อยู่ไปก็มีแต่ทุกข์ ทุกข์เพราะสังขารคือภาระ ถึงแม้ท่านจะหลุดพ้นด้วยจิต แต่กายคือสังขารยังต้องแบกรับอยู่ ท่านอยู่เหนือโลก ท่านจะอยู่ก็ได้จะไปก็ได้ ไม่ตายทุกคนหรอก
     
  6. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    เรื่องนี้หมดปัญญาครับ

    ... แต่คิดว่ามีคนจะตอบได้อยู่
     
  7. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    เป็นเรื่องที่ดีมาก..อยากให้ทุกคนได้อ่านกัน
    "อย่าสัญญากับใครถ้าคุณทำไม่ได้"
    เด็กสาวตาบอดคนหนึ่งเกลียดตัวเองที่มองอะไร ไม่เห็น
    เธอเกลียดทุกคนยกเว้นแฟนหนุ่มของเธอ
    วันหนึ่งเธอบอกกับเขาว่า
    ถ้าเธอมองเห็น เธอจะแต่งงานกับเขา
    แล้ววันหนึ่ง โชคก็เดินทางมาถึง มีคน บริจาคดวงตาให้เธอ!เธอจึงมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างรวม ทั้งแฟนของเธอ
    เขาจึงถามเธอว่า
    "ตอนนี้เธอมองเห็นแล้ว เธอจะแต่งงานกับฉันไหม"
    เด็กสาวตกใจมาก ที่เห็นว่าเขาตาบอด!
    เธอตอบเขาว่า "ขอโทษนะฉันแต่งงาน กับเธอไม่ได้หรอก เพราะเธอมันตาบอด"
    แฟน ของเธอเดินจากไปพร้อมน้ำตา
    เขาบอกกับเธอว่าว่า
    "งั้น ช่วยดูแลดวงตาของฉันให้ดีก็แล้วกัน นะ"
     
  8. den_siam2523

    den_siam2523 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +2,267
    รู้กับไม่รู้ต่างกันยังไงเอ้า!!!!! งง งง งง คริๆ
    โคลนตมที่แสนสกปรก ยังหล่อเลี้ยงให้ดอกบัวงอกงามสพรั่งไว้บูชา
    สรรพสิ่งล้วนมีคุณ ขอให้มองให้ถูก งง งง คริๆ
     
  9. rnuir

    rnuir เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +218
    อิทธิฤิทธิ์ เป็นอะไรสักอย่างที่ผมคิดว่ามันไม่ได้ทำให้ผมหลุดพ้น
    พระพุทธเจ้าได้ตตรัสไว้ จงนำพระธรรมเป็นตัวแทน เมื่อไม่มีพระพุทธเจ้า
    ผมว่าท่านคงไม่เห็นความสำคัญของอย่างอื่นนอกจากพระธรรม
    ฉะนั้นเราก็ไม่ควรเถียงกันเพราะเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
    เราเรียนรู้พระธรรมเพื่อตัดกิเลส และทำความดีต่อผู้อื่น
    ไม่ใช่เพื่อเถียงกันว่าคนโน้นเก่งกว่าคนนี้ หรือคนนั้นต้องเกิดเป็นอย่างนี้
    คนนั้นกำลังจะมา คนนั้นจะเกิดไปหยั่งนั้น คนนั้นมีฤทธิ์ คนนั้นทำอย่างงี้นได้
    หายตัวได้ มีจิตเข้มแข็ง เหาะได้
    ทำไปเพื่ออะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
    ฝึกจนเห็นนั่นเห็นนี่ แต่ใครพูดจาไม่เข้าหูหน่อยเดียว โกรธซะงั้น
    ท่องคาถา เงินทองไหลมาเทมา รอดปลอดภัย ไม่มีอะไรทำร้ายได้
    ผมก็ไม่เข้าใจในคาถาว่าแปลว่าอะไร เพราะผมไม่ได้มีความรู้เรืองภาษาบาลีเลยสักนิด
    แต่ผมเข้าใจของผมเองว่า เป็นคำพูดที่คนโบราณสอนกันมาว่าให้ทำความดี
    แล้วก็ท่องสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน เราก็มาท่องกันต่อโดยที่ไม่รู้ความหมาย
    จนกลายเป็นถ้าคนท่องแล้วจะรวย แล้ว ก็ปลอดภัย อาจจะเห็นจากคนโบราณเมื่อทำตามที่ท่องแล้ว
    เป็นคนดี มีความเจริญมีความสุขในชีวิต ไม่มีอันตราย มีแต่คนรัก ต่อมาคนภายหลังได้เห็นตัวอย่าง
    เห็นถึงข้อดีของการท่อง โดยขาดความเข้าใจจนกลาายเป็นความเชื่อ ว่าท่องแล้วดี จนเป็นค่านิยมสืบต่อกันมา
    อันนี้เป็นความเข้าใจส่วนตัวถ้าท่านใดมีความเห็นอย่างไรชี้แนะด้วยนะครับ
     
  10. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,410
    บัดนี้ผมขอมาเฉลยคำถามที่ผมตั้งเอาไว้นะครับ .. ผมอ่านของทุกคนหมดแล้ว เชื่อว่าทุกคนตอบได้ดีครับ อยากจะขอให้ใช้ความรู้ของตัวเองตอบออกมาจากจิตใจของพวกท่านทั้งหลาย ..
    เรื่องนี้ใครไม่รู้ก้อไม่แปลกหรอกครับ ผมได้ศึกษาค้นคว้าและถามพระอาจารย์ต่างๆมาหมดแล้ว คำตอบก็คือ ทำไหมฆราวาสนั้นเมื่อบรรลุนิพพานแล้ว จะอยู่ได้ไม่เกิด7วันนั้น เพราะว่าดวงจิตใสสะอาดหมดจากกิเลสทั้งปวง แต่ด้วยสภาพร่างกายนั้นไม่สามารถจะแบกรับเอาไว้ได้ซึ่งมาจากสาเหตุดังต่อไปนี้ ฆราวาสนั้นส่วนมากจะรักษาแค่ศีล5 และศีล8วันโกนวันพระ ดังนั้นร่างกายจึงไม่สามารถจะทนรับต่อสภาวะที่ใสสะอาดของดวงจิตได้จึงเกิดการสลายตัวของธุาติขันธ์ และจิตเข้าสู่พระนิพพานทันที แต่เนื่องด้วยพระนั้นมีศีลที่บริสุทธิ์
    227 ข้อนั้น จึงทำให้ร่างกายและดวงจิตใสสะอาด ศีลนั้นจะเป็นตัวช่วยแบกรับ
    และรองรับร่างกายของพระอรหัตน์ และพระอรหัตน์นี้แหละครับ ที่จะช่วยโปรด
    มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นทุกข์...
    แต่ว่าใช่ว่าฆราวาสจะบรรลุนิพพานได้ง่ายๆนะครับ ในพุทธกาลจนถึงปันจุบัน นี้มีไม่กี่คนหรอกครับ ปันจุบันนี้ก็คงไม่มีแล้วครับ ส่วนมากจะไปนิพพานบนสรวงสวรรค์กันหมดครับ ...

    โสดาบัน???
    การบรรลุโสดาบัน คือ เป็นพระอริยบุคคลระดับแรกสุด คือ การละสังโยชน์เบื้องต่ำ(โอรัมภาคิยสังโยชน์) 3 ประการ ได้แก่
    ๑. สักกายทิฏฐิ ความเห็นว่าเป็นตัวของตน
    ๒. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย
    ๓. สีลัพพตปรามาส ความถือมั่นศีล พรต

    พระ สกิทาคามี ละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ข้อ ข้างต้น และ ทำสังโยชน์ข้อ ๔ และ ๕ ให้เบาบางลงด้วย
    ๔. กามราคะ ความติดใจในกามคุณ
    ๕. ปฏิฆะ ความกระทบกระทั่งในใจ

    พระอนาคามี ละสังโยชน์ ๕ ข้อต้นได้หมด

    พระอรหันต์ละ สังโยชน์ทั้งต่ำและสูง(อุทธัมภาคิยสังโยชน์ ) รวม ๑๐ ข้อ
    ๖. รูปราคะ ความติดใจในรูปธรรมอันประณีต ๗. อรูปราคะ ความติดใจในอรูปธรรม
    ๘. มานะ ความถือ ว่าตัวเป็นนั่นเป็นนี่
    ๙. อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน
    ๑๐. อวิชชา ความไม่รู้จริง

    สังโยชน์เหล่านี้เราเรียกว่า กิเลส หรือ ธรรมที่ทำให้เกิดทุกข์

    โสดาบัน: ผู้ถึงกระแสที่จะนำไปสู่นิพพาน,พระอริยบุคคลผู้ได้บรรลุโสดาปัตติผล มี ๓ ประเภทคือ
    ๑. เอกพีชี เกิดอีกครั้งเดียว
    ๒. โกลังโกละ เกิดอีก ๒-๓ ครั้ง
    ๓. สัตตักขัตตุปรมะเกิดอีก ๗ ครั้ง เป็นอย่างมาก

    โสดาปัตติมรรค: ทางปฏิบัติเพื่อบรรลุผล คือความเป็นพระโสดาบัน, ญาณคือความรู้เป็นเหตุละสังโยชน์ได้๓ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส <!-- / message -->
     
  11. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ฆราวาส รักษาศีล 227 ได้ไหมครับ

    แล้วพระปัจเจกพุทธเจ้าละเป็นกรณีไหน
     
  12. Pan&R

    Pan&R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +320
    แหม เสวนาธรรม กันเข้มข้นอีกละ
    พี่จะเล่าให้น้อง ๆ ฟังนะคะ สำหรับคนที่เป็นลูกศิษย์พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ วัดท่าซุง เท่านั้น ฟังแล้วก็จะได้เป็นความรู้ตามประสาคนครอบครัวเดียวกัน

    เรื่องนี้หลวงพ่อท่านเคยสอนตำราว่า การเจริญพระกรรมฐานนั้น ท่านผู้เจริญพระกรรมฐาน มีสิทธิเข้าถึงธรรม หรือสำเร็จมรรคผลได้เสมอกัน ไม่ใช่ว่า ต้องเป็นสมณเพศ เท่านั้น

    สมัยพุทธกาล เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงมีชีวิตอยู่ องค์สมเด็จพระบรมครูไปทรงเทศน์ที่ไหน ก็จะมีฆราวาสสำเร็จเป็นพระอริยิบุคคลระดับต่าง ๆ ทุกครั้งไป แต่เมื่อพระองค์ทรงอยู่ พระองค์จะพยากรณ์บอกให้รับรู้ว่า เธอผู้นั้น ฟังธรรมแล้ว ได้สำเร็จเป็นอะไร คนทีสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ก็มักจะขอบวชทันที ส่วนพระอริยะบุคคลระดับอื่น ๆ ท่านมักอยู่เป็นฆราวาสของท่านต่อไป แต่คนรับรู้

    เมื่อไม่มีพระพุทธเจ้า ก็ไม่มีใครพยากรณ์ เพราะการพยากรณ์ว่า ใครเป็นพระอริยเจ้านั้น เป็นเรื่องเฉพาะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น
    ทำให้พวกเราต้องระวังกันเอาเอง เราอย่าไปวิจารณ์ใครง่าย ๆ เพราะเราไม่รู้ว่า ใครเป็นพระอริยบุคคล บ้าง

    ส่วนฆราวาส ที่ปฏิบัติธรรมจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ยังจะต้องมีจนกว่า พระศาสนาจะครบ 5000 ปี ตามที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศไว้ คือ ตราบใดที่ยังมีพระพุทธศาสนา ตราบนั้นโลกยังต้องมีพระอรหันต์แน่นอน (หรือพระอริยบุคคล)

    ทีนี้ ถ้าฆราวาส บรรลุเป็นพระอรหันต์ ทำไมจะต้องตายภายใน 7 วัน ความจริงไม่ใช่ 7 วันนะคะ หลวงพ่อท่านบอกว่า 24 ชั่วโมง เท่านั้นค่ะ
    ทั้งนี้ เพราะว่า ท่านอยู่ในฐานะฆราวาส ไม่ใช่สมณเพศ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเห็นว่า อาจมีท่านทั้งหลายที่ไม่เข้าใจ ไปติฉินนินทา ท่าน ก็จะมีโทษมากในฐานะปรามาสพระรัตนตรัย เป็นโทษ กับมนุษย์ จึงให้อยู่ต่อไปได้แค่24 ชั่วโมง ไม่ใช่ 7 วันอย่างที่เข้าใจกัน ถ้าอยู่นานตั้ง 7 วัน ก็ให้โทษคนได้ไม่รู้เท่าใหร่ค่ะ

    ตัวอย่างนี้ มีท่านผู้ปฏิบัติธรรมท่านเล่าว่า พระองค์หญิงวิภาวดี รังสิต (ขออนุญาตเอ่ยพระนามท่าน) ท่านทรงงานโครงการพระราชดำริ ถวายองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของเรา โดยท่านรับภารกิจทางภาคใต้ ในขณะเดียวกัน ท่านก็เป็นนักปฏิบัติธรรม และรักการปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง แม้มีภารกิจต้องเดินทางตลอดเวลา ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ท่านก็ไม่ละเว้นการปฏิบัติธรรม ท่านไม่ถือพระยศ และวางพระองค์อย่างสามัญ

    เมื่อครั้งที่ พระองค์เสด็จทรงงานครั้งสุดท้ายที่ภาคใต้ ทรงเจริญพระกรรมฐานเป็นปกติ และ พระสุปฏิปัณโณหลายพระองค์ บอกตรงกันว่า พระองค์ทรงบรรลุธรรม และในกาลนั้น ทรงตัดสินพระทัยให้ ฮ.ที่ประทับ กลับไปสงเคราะห์ทหาร ผู้ก่อการร้ายยิงขึ้นมา พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ เพราะอยู่ได้นานไม่เกิน 24 ชั่วโมง

    นี่เล่าให้ลูกหลาน หลวงพ่อพระราชพรมหญาณ ฟังเท่านั้นนะคะ คนอื่นไม่เกี่ยว
     
  13. thejirayu

    thejirayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2006
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ......อจินไต....ปฎิบัติเองรู้เองเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2006
  14. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,410
    ดังที่คุณPan&R กล่าวถูกแล้วครับ ภายใน 24 ช.ม. แต่ผมบอกตามพระไตรปิดก ภายใน7วัน แต่จริงๆแล้วนั้น จะไม่เกินภายใน24ช.ม.ครับ
     
  15. cochiga

    cochiga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +228
    เพิ่งซื้อหนังสือเล่มนึงมาค่ะ(เล่นหนามากๆ)...อ่านบทนำแล้วผู้เขียน(เป็นฆราวาส)บอกว่าเมื่อก่อนเขาถึงนิพพานถึง2ครั้งแต่ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาเป็นคนแดนนิพพาน(หรือที่เข้าใจคือถึงสภาวะนิพพานแล้วนั่นเอง) งงค่ะ.... มีนิพพานได้หลายครั้งด้วยเหรอคะ นี่โคชิกะเพิ่งอ่านแค่บทนำก็งงแล้วค่ะ รู้สึกแปลกๆขัดๆยังไงชอบกล แต่ก็ตามรู้จิตรู้ใจของตัวเองไปเรื่อยๆ สงสัยคงต้องไปอ่านให้จบเล่มซะก่อน
     
  16. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    เคยมีผู้ตั้งปัญหา ถามหลวงพ่อว่า ทำไมฆราวาส สำเร็จอรหันต์จึงตาย แต่ทีพระทำไมอยู่ได้ หลวงพ่อตอบว่า เพราะ เพศฆราวาสบริสุทธิ์ ไม่พอ ครองความเป็นอรหันต์ไม่ได้ คำตอบนี้ ยังไม่เป็นที่พอใจ เพราะคล้ายๆกับจะแย้งได้โดยมีเหตุผลว่า ถ้าทำตัวอย่างพระแต่ไม่บวช ก็ควรจะได้อยู่ได้ซี

    นึกไปนึกมา แล้วยังมีอีกแง่หนึ่ง ที่น่าจะใช้อธิบายได้ คือ เมื่อบุคคล สำเร็จอรหันต์แล้ว ความจำเป็นที่จะทรงชีวิตอยู่ไม่มี ควรรีบไปอยู่นิพพานตามสภาพทันที หรือโดยเร็วที่สุด แต่ที่พระยังอยู่ได้นั้นก็เพราะ พระยังทำประโยชน์ แก่โลกได้ คือ อยู่เพื่อสอน กับอยู่เพื่อให้คนทำบุญ คนที่ทำบุญกับพระอรหันต์นั้น จะได้ผล ตอบแทนมากกว่าทำกับคนธรรมดานับล้านๆเท่า แต่ฆราวาสที่เป็นพระอรหันต์นั้นสอนใคร เขาก็ไม่ค่อย เชื่อแล้วก็ไม่มีใครเขาทำบุญด้วย เพราะเห็นเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่พระ ถ้าอยู่ไปกลับจะเป็นอันตรายแก่ชาวบ้าน เช่น ค่อนขอด ด่าว่า ล่วงเกิน ถ้าเป็น ญาติผู้ใหญ่ เป็นนายจ้าง เขาก็จะใช้งานท่าน แล้วเลยลงนรกไปเปล่าๆ เพราะฉะนั้น ฆราวาสที่เป็นอรหันต์จึงกล่าวได้ว่าไม่มีประโยชน์กับใครอีกแล้ว ไปนิพพานดีกว่า คำอธิบายนี้รู้สึกว่า พอจะไปได้ แต่จะถูกหรือไม่ถูกไม่ทราบ

    ----------------------------------------------------------

    ถ้าเดาไม่ผิด รู้สึกว่า เจ้ากรมเสริมจะเป็นคนตอบฮับ
     
  17. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    สาเหตุที่คุณเทวดาใกล้ตายตอนปี 48 คงจะเป็นเพราะกรรมที่บิดเบือน พระพุทธพจน์นั่นเองแล จึ่งทำให้ท่านนั้นถึงสภาวะใกล้ตาย เฉียดตาย แต่รอดเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงจะมาให้แก้ตัวแก้ทิฐิใหม่ แต่ ไอ้กิเลสบรรลัย ยังติด นิสัยอันถาวร แก้มิหาย วิปลาส ยิ่งกว่าเดิม ผมว่า ปี 50 มีสิทธิ์ตายอีกรอบ ทีนี้ก็ไม่รู้ว่า จะฟื้นรึปล่าว
     
  18. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,982
    กระทู้นี้มีประโยชน์มากครับ ผมเคยบวชที่วัดบวรฯ พระท่านหนึ่งท่านก็ได้กล่าวไว้เหมือนกันครับ ตามพระไตรปิฎก 7 วัน แต่เอาเข้าจริงๆ คงเร็วกว่านั้น (เหมือนทีหลายๆ ท่านได้โพสไว้ครับ) เพราะฉะนั้น ถ้าท่านใดถึงความเป็นอรหันต์แล้ว ก็คงต้องรีบบวชทันทีครับ
     
  19. KeLBeRoS

    KeLBeRoS Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,409
    ค่าพลัง:
    +6,358
    อืม....ก็มีเหตุผลนะ
     
  20. Pan&R

    Pan&R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +320
    พระไตรปิฎก นี่ รวบรวมโดยพระอรหันต์ที่ทรงปฏิสัมภิทาญาณ ขนาดเป็นพระอรหันต์ แต่ไม่ได้ทรงปฏิสัมภิทาญาณ นี่ เข้าร่วมรวบรวมไม่ได้นะคะ
    แต่ในระยะหลัง มีท่านผู้มาชำระพระไตรปิฎก กันหลายหน
    บางท่านเป็นปราชญ์หนังสือ ไม่เคยปฏิบัติก็มี ทำให้การแปลความถูกเปลี่ยนแปลงไป

    สมัยที่หลวงพ่อท่านเรียนนักธรรม และสอบนักธรรม ท่านก็แปลคำบาลีหลาย ๆ คำเป็นอย่างหนึ่ง ในภายหลัง ท่านบอกว่า พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าไม่ถูก เหมือนกัน เช่น นักปราชญ์แปลว่า "นิพพาน แปลว่าสูญ"
    ทำให้คนเข้าใจเรื่อง "นิพพาน" ผิดไปหมด

    สมัยพุทธกาล ก็มีนักปราชญ์ประเภทนี้ พี่จำไม่ได้ว่า ท่านมีนามว่าอะไร หลวงพ่อท่านเคยเทศน์ เรื่องนี้ ท่านเรียนรู้แต่ด้านปริยัตร แต่ไม่เคยปฏิบัติ องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิ์ทรงเรียกว่า "เถรใบลานเปล่า"

    ดังนั้น การอ่านหนังสือ หรือตำรา แม้แต่พระไตรปิฎก ก็ต้องระมัดระวังว่า เราอ่านตำราของนักปราชญ์ที่เป็น "เถรใบลานเปล่า" หรือ อ่านพระไตรปิฎก ท่อนที่นักปราชญ์มาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณท่านทำไว้ หรือไม่
    อันนี้ ก็ขึ้นอยู่กับอธิษฐานบารมีของแต่ละท่านนะคะ

    ถ้ามีอธิษฐานมาดี ก็สามารถมีปัญญา เอาตัวรอดจากพวกชอบบิดเบือนให้เราหลงทางได้ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...