ในเว็บนี้มีใครปรารถนาพุทธภูมิบ้าง

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย thanan, 23 ตุลาคม 2004.

  1. gotak

    gotak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +176
    ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ คุณheartsutra ผมจะตอบแทนในคำแนะนำสั่งสอนจากคุณheartsutra ด้วยการตั้งใจปฏิบัติ และใช้อิทธิบาท4ประ กอบครับ และถ้ามีความสำเร็จเกิด ผมจะนำไปแนะต่อบุคคลที่เหมาะสมต่อไปครับ
     
  2. Heartsutra

    Heartsutra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +98
    สาธุครับ นี้เป็นคำสอนตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว กระผมเพียงนำวิธีการปฏิบัติที่ครูบาอาจารย์ท่านเห็นว่าดี มีผลมาก และเป็นไปเพื่อความไม่ลำบากเดือดร้อนกาย วาจา ใจ มีแต่ส่วนดี ไม่มีส่วนที่เป็นโทษ มีแต่ความสงบ และเพิ่มพูนปัญญา ยังให้เกิดญาณทัสสนะ เกิดญาณจักษุ เอื้อประโยชน์ต่อภาควิปัสสนา ที่ประกอบด้วยรู้เห็น พิจารณา และเกิดปัญญาเข้าใจอย่างถ่องแท้... ภาวนามยปัญญานี้ จะติดไปข้ามภพข้ามชาติ นำไปสู่ทางเจริญอย่างเดียว ถ้าหากปรารถนามรรคผล ก็นำสู่มรรคผล หากปฏิบัติอย่่างจริงจัง และมีใจเด็ดเดี่ยว อย่างน้อยก็ถึงอนาคามิผลได้ และเป็นอัชฌาสัยเตวิชโชขึ้นไปด้วย... หากด่วนจากไป ยังปฏิบัติได้ไม่มาก ก็เป็นเชื้อแห่งปัญญา ติดข้ามภพชาติไป ก็ไปพัฒนาต่อในชาติถัดไป...

    ในส่วนของพุทธภูมิ ก็เพื่อให้เกิดปัญญาบารมี ถึงความเป็นโคตรภูบุคคล ก็ถือได้ว่าทำกิจของหน่อเนื้อพุทธางกูรแล้ว เมื่อเกิดผลเป็นที่ใช้ได้แล้ว ก็นำไปแนะนำสั่งสอนผู้อื่น เป็นการโปรดสหายธรรมอีกด้วย หรือยังไม่เกิดผล แต่เห็นว่าเหมาะควร เมื่อเห็นใครมีจริตเหมาะสม ก็แนะนำเขาได้ เกิดประโยชน์แน่นอนครับ...

    วิธีนี้เป็นจริตกลางๆ เหมาะสมกับทุกคน ทั้งยังมีสติรู้ลมหายใจอยู่เนืองๆ กำหนดความฟุ้งซ่านได้ กำหนดแสงสว่างกำจัดความเซื่องซึมได้ ก่อนจะภาวนาก็ทำอารมณ์เมตตา กำจัดความหงุดหงิด ขัดข้อง ไม่พอใจ หรืออารมณ์อาฆาตได้ มีการพิจารณาธรรมอยู่เนืองๆ กำจัดความลังเลสงสัยได้ เมื่อใจตั้งมั่นก็สงัดจากกาม... ก็กำจัดนิวรณ์ทุกตัวอย่างราบคาบ ทั้งยังรู้และละอารมณ์อยู่เนืองๆ จึงไม่มีความยินดียินร้ายในสิ่งที่เกิด มันเกิดสุข มันก็เป็นไปอย่างนั้น มันเกิดปีติ มันก็เป็นเช่นนั้น ไม่ได้ไปตื่นเต้นอะไรกับมัน... อันนี้จะทำให้พัฒนาได้เร็ว เพราะจะไม่ไปติดอะไรอยู่นานๆ

    สาธุ สาธุ สาธุ ตั้งใจปฏิบัตินะครับ ขอแค่ลงมือทำก็ประเสริฐแล้ว ^^
     
  3. gotak

    gotak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +176
    ครับผม หลังจากได้คำแนะนำจากคุณheartsutra ผมก็ปฏิบัติต่อเนื่องเรื่อยๆครับ ทั้งเช้า กลางวัน เย็น เดินไปไหนนึกได้ก็กำหนดครับ โดยปกติผมก็ใช้อานาก่อนจะนอนแล้วหลับไปครับ เลยเปลี่ยนมากำหนดจุดสว่างกลางท้องแทนแล้วครับ หลับไปเหมือนกันครับ ผมเคยศึกษาวิชาธรรมกายจากหนังสือหลวงปู่สดท่านนำมาสอนคร่าวๆ ลักษณะคล้ายกันไหมครับ
     
  4. gotak

    gotak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +176
    อีกเรื่องนะครับ ปกติผมส่งsmsธรรมะให้กับคนรู้จักหลายคนครับ ผมก็ได้แนะนำเรื่องอานาไปด้วยครับ ทีนี้ผมนึกขึ้นเองครับว่า ก่อนจะเริ่มนั่งสมาธินี่ ให้สมมุติว่าเราสามารถpauseโลกไว้ได้ คือ หยุดทุกอย่างรอบข้างเป็นการทำอารมณ์ก่อนเริ่มฝึกครับ ไม่ทราบว่าผิดทางไปหรือป่าวครับ
     
  5. กิดากร

    กิดากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,047
    ตามความเข้าใจของผม ผมก็สมมุติเอาเหมือนกันตอนปฏิบัติอ่ะว่า เราไม่สนใจอะไรทั้งหมด ในโลกมีแต่เราและโลกของกรรมฐานขอเราคนเดียวเท่านั้น และต่อมามันทำให้ผมเข้าใจว่านั่นคืออารมณ์ของการวางเฉยต่ออะไรทั้งหมด คือ อุเบกขานั่นเอง ดังนั้นหยุดโลกของท่านกับการวางเฉยต่ออะไรทั้งหมดของผมมันก็คงอารมณ์เดียวกันแหล่ะคือ อุเบกขา นั่นเป็นของดี

    หากผมเข้าใจผิดก็ให้ผู้รู้ท่านอื่นมาแก้แล้วกัน แต่ผมไม่ใช่ผู้รู้อ่ะนะ แค่ทำคล้ายๆกัน ผมคิดแต่เพียงว่าถ้าคุณและผมเคยเนื่องกันมาคงจะสงเคราะห์กันได้บ้างล่ะ

    อนุโมทนากับท่านด้วยครับ
     
  6. gotak

    gotak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +176
    ขอบคุณครับคุณกิดากร ยังไงก็รู้สึกดีครับ มีผู้เห็นด้วยคนนึงครับ แหะๆๆ
     
  7. Heartsutra

    Heartsutra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +98
    สาธุครับ ภูเขามีทางขึ้นหลายทาง แต่ถึงยอดเดียวกัน ไม่แตกต่าง ไม่แบ่งแยก... ครับทำให้คุ้น ให้ชิน ให้ใจมันสว่าง เป็นอาโลกสัญญา ถ้าลืมก็ลืม ไม่ต้องคิดมาก จำได้ก็ทำ เผลอก็ลืมไป รู้ตัวอีกทีก็รู้ว่าเผลอ กำหนดใหม่ เป็นการเจริญสติไปในตัวเดียวครับ... และไม่ต้องทิ้งลมหายใจนะครับ ควบคู่กับกำหนดแสงสว่างไป พอใจสงบมันจะลืมไปเอง หรือถ้าถนัดกำหนดเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ว่ากันครับ ดีแล้วครับ เอาที่ถนัด เอาที่ง่ายที่สุด แต่ได้ผลมากที่สุด...

    ใช่ครับ ครูบาอาจารย์ที่ผมหมายถึง ก็คือหลวงปู่สด และพระสุปฏิปันโนสายนั้น
    คือจริงๆแล้ว อุบายสมถะมีเป็นร้อยเป็นพันและมากกว่านั้น แต่รวมไว้ ๔๐ กอง วิชชาธรรมกายได้ใช้อุบายอาโลกกสิณ อนาปานสติ และพุทธานุสสติ ในการเข้าถึงธรรม และญาณจักษุ... แต่ว่าจริงๆแล้ว จะกำหนดเป็นดวงแก้ว เป็นแสง หรือแม้แต่เป็นไม้กางเขน จะบริกรรมว่า สัมมาอรหัง ใช้ลมหายใจแทนคำบริกรรม หรือแม้แต่จะบริกรรมว่าเยซู ก็เข้าถึงกันมาแล้ว... เพียงใจหยุดถูกส่วนเป็นพอ หยุดนี่แหละถูกตัว"สมถะ" เมื่อสมาธิเกิดแล้ว ก็จะมีผลดังนี้...

    ภิกษุทั้งหลาย เธอจงยังสมาธิให้เกิด ชนผู้มีสมาธิแล้ว "ย่อมรู้ตามจริง" คือเกิดญาณทัสสนะขึ้น ก็จะถูกตัว"วิปัสสนา"...

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  8. gotak

    gotak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +176
    ขอบพระคุณมากๆครับ คุณHeartsutra ผมจะทำให้ได้ดีครับ (โดยไม่ตั้งใจมากนักเดี๋ยวจะไม่นิ่ง) คือผมเคยไปแนะพระธรรมคนรู้จักหลายต่อหลายคน บางคนก็รับฟังอย่างดี ผมดีใจมากครับ เพราะมันจะช่วยเค้าเองครับ เรื่องบุญก็มิได้หวังอะไรครับ ไม่ได้ไม่เป็นไร ส่วนบางคนเค้าหนักไปทางวิทยาศาสตร์มากกว่าไม่เห็นไม่เชื่อ ผมก็อยากได้ญาณทัสสนะเหมือนกันครับ แต่ก็เข้าใจครับว่าอยากได้จะไม่ได้ จะพยายามละครับ และถ้าเกิดภายในชาตินี้เกิดได้ขึ้นมา มิต้องห่วงนะครับผมจะไม่ทำให้เสื่อมโดยการนำไปใช้เพื่อเพิ่มกิเลสครับ แต่จะเอาไปรบกับกิเลสครับ และจะใช้เพื่อประโยชน์สุขต่อผู้อื่นครับ :)
     
  9. Heartsutra

    Heartsutra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +98
    ครับผม ดีแล้วครับ... สาธุ สาธุ ทำบุญไม่ต้องหวังผลอะไรครับ มีความสุขที่ได้ทำก็พอแล้วครับ ไม่มีอะไรมากเลย คิดซะว่าเป็นสุนทรียภาพในชีวิตแล้วกันครับ การภาวนานี้ก็เป็นกุศลมาก แต่ไม่ต้องไปหวังผลอะไร เอาเพียงใจสงบ ถือว่าเป็นสุนทรียภาพในชีวิต ซึ่งก็คือกายและใจ...

    อีกเรื่องนึง...สำคัญมากครับ ให้เอาปัญญานำ ไม่ใช่เอาความเชื่อนำครับ... ใช้รู้เองเห็นเอง ก็จะเข้าใจว่ามันเป็นเช่นนั้น ให้อยู่เหนือการยอมรับและการปฏิเสธ... จะไม่งมงายในวิทยาศาสตร์ ไม่งมงายในศาสนา และไม่งมงายในความเป็นไปของธรรม วงจรแห่งธรรม หรือปัจจยาการ(อิทัปปัจจยตา)... เมื่อเห็นธรรม อย่าหลงธรรม เพราะหลงธรรม เรียกว่า"ธัมมุทธัจจะ" หรือ"วิปัสสนูปกิเลส" คือความหลงติดไปนั่นเอง... สาธุครับ
     
  10. gotak

    gotak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +176
    อนุโมทนาครับ ผมขอน้อมรับไปปฏิบัติครับ มีอีกเรื่องที่ยังสงสัยมากที่สุดครับ คุณHeartsutraเคยบอกผมว่าปรารถนาพุทธภูมิแบบพิเศษธฺยานินั้นผมปรารถนาแบบนี้จริงๆมานานแล้วอย่างที่คุณHeartsutraบอกใช่ไหมครับ หรือถ้าจริงๆแล้วผมเพิ่งจะเริ่ม โปรดกรุณาแนะนำผมด้วยครับว่าควรปฏิบัติอย่างไรนอกเหนือจากสมถและวิปัสสนาแล้วครับ พอบอกได้ไหมครับว่าลักษณะนี้ต้องสะสมอีกนานแค่ไหน มีขีดจำกัดไหมครับ เพราะผมไม่เคยอ่านเจอหรือได้ฟังจากที่อื่นเลยครับ รู้แต่เพียงแค่พุทธภูมิมี3ลักษณะเท่านั้นครับ แต่ผมเคารพในเจ้าแม่กวนอิมมากครับ เคยได้ยินนิดๆหน่อยๆเกี่ยวกับพระกษัติครรภ์ครับก็นับถือท่านเช่นกันครับ เคยไปอธิฐานต่อพระพุทธรูปเจ้าแม่ครับปรารถนารับใช้เป็นผู้ช่วยเจ้าแม่จนท่านนิพพาน จากนั้นค่อยสะสมโพธิญาณต่อครับ แต่ไม่นานมานี้เพิ่งได้ฟังหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านบอกว่า เจ้าแม่ท่านละพุทธภูมิแล้ว ผมก็ยิ่งตั้งใจว่าจะสานต่อปณิธานของท่านครับ จากนั้นก็อยากเป็นผู้ช่วยในหลวงต่อครับ(แหะๆหาเจ้านายไปเรื่อยๆครับ) รักในพระโพธิสัตว์มากครับ ทราบว่าใครอยากช่วยเหลือใครก็เลยอยากช่วยคนๆนั้นมากขึ้นอีกครับ ตกลงนี่ผมคงไม่ได้ปรารถนาสาวกภูมิท่านใดใช่ไหมครับ เพราะผมไม่ได้คิดนิพพานพร้อมพระโพธิสัตว์ท่านใดครับ
     
  11. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    ลงชื่อด้วยคนครับ

    ^_________^
     
  12. Heartsutra

    Heartsutra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +98
    โอ... จริงๆแล้ว เจ้าแม่กวนอิมนั้นยังไม่เข้านิพพานครับ ที่เข้านิพพานไปอาจจะเป็นเจ้าหญิงเมี่ยวซานที่คนจีนถือคติว่าเป็น "เจ้าแม่กวนอิม" จริงๆแล้วโพธิสัตว์กวนอิม คือ"พระอวโลกิเตศวร" จีนเขาแปลมาตรงๆตัวเลย "กวนชืออิน" มีความหมายเดียวกับ "อวโลกิเตศวร" เลยครับ แปลว่า "ผู้สดับเสียงคร่ำครวญของสรรพสัตว์"... สมัยนั้น จีนถือว่าเป็นโพธิสัตว์ในอุดมคติเลยทีเดียว พอมีใครที่มีคุณธรรม คล้ายกับอุดมคตินี้ จึงอนุมานว่าคือองค์กวนอิม และเจ้าหญิงเมี่ยวซานเป็นผู้หญิง จึงเรียกว่า "พระแม่" หรือ "เจ้าแม่"... ซึ่งความจริงแ้ล้วองค์กวนอิมเป็นบุรุษ... ซึ่งครูบาอาจารย์สายพระ ทำวิชชาตรวจพบว่าเป็นเทวบุตร ที่มีบารมีมากเหลือหลาย มีบริวารมาก วรกายสีขาวผ่อง (อันนี้ต้องพิสูจน์เองครับ) ^^

    ขอฝากคำหลวงปู่ชา สุภัทโท ไว้นะครับ... "ขยันก็ปฏิบัิติ ขี้เกียจก็ปฏิบัติ" เอาสิครับงานนี้

    ส่วนเรื่องจะปฏิบัติอย่างไรนอกเหนือจากนี้ อย่างแรก"ปราบมารในใจตน"ก่อน แล้วค่อยทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้... คุณทำดีแล้วครับ ทำต่อไปนะ...สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2010
  13. gotak

    gotak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +176
    ขอบคุณครับ คุณHeartsutra กระจ่างแล้วครับ แต่ต้องทำใจยอมรัีบทีละนิดๆครับ และจะพยายามต่อครับ
     
  14. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆที่ท่านยังอยู่ ขอบคุณแทนเพื่อนๆสัตว์โลกด้วย
     
  15. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    ผมก็ปราถนา พุทธภูมิ ครับ

    มาลงชื่อ^^; ด้วยคนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กุมภาพันธ์ 2011
  16. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903
    ขออนุโมทนาด้วยคับ กับการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ทุกๆท่านนะครับ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ด้วยอานิสงส์นี้ขอให้ทุกข์ของปวงสัตว์จงเบาบางลงด้วยเทอน สาธุๆๆ
     
  17. ิิbetarird

    ิิbetarird เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +161
    ผมไม่ได้ปราถนาอะครับ เรียกแบบนั้นดูมันหวังมากไป ผมแค่แอบคิดเบาๆ
     
  18. Jhakhawarho

    Jhakhawarho สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    ขออนุโมทนาแด่ความปรารถนาอันเป็นกุศลของท่านทั้งหลายครับ

    พระศาสดาตรัสว่า
    1. ดูกรอานนท์ เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลายอย่าได้เป็นผู้ชอบประมาณในบุคคล
    และอย่าได้ถือประมาณในบุคคล เพราะผู้ถือประมาณในบุคคลย่อมทำลายคุณวิเศษ
    ของตน เราหรือผู้ที่เหมือนเราพึงถือประมาณในบุคคลได้ ฯ

    2. ตนนั้นแลเป็นพยานแห่งตน ถ้าอยากทราบว่าเราเป็นปุถุชนหรืออริยบุคคลขั้นใด
    พระศาสดาก็ได้ตรัสคุณสมบัติของแต่ละกลุ่มไว้ให้เราทั้งหลายสามารถพยากรณ์ตนเองได้อย่างง่ายดาย

    สาธุครับ
     
  19. วิหกขาว

    วิหกขาว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +12
    เหตุใดคือ พุทธภูมิ

    ตั้งแต่เมื่อใดที่ทุกท่านรู้ว่า เป็น ผมรู้ใด้ตั้งแต่๗ขวบเห็นจะใด้ เมื่อมองเห็นภาพพระโพธิสัตว์ ๑๐ ชาติ และมีสิ่งหนึ่งที่ติตตัวมาแต่เกิด คือ การเห็นจิตใจของผู้คน สิ่งนี้ทำให้ผมโดดเดี่ยวและแสวงหาเพียงว่า ผมเกิดมาทำไม ผมทำทุกสิ่งศึกษาพระไตรปิกฏ และปฏิบัติทุกๆอย่าง การปฏิบัติสาหัสเอาชีวิตเป็นเดิมพัน สิ่งใดที่พุทธภูมิทั้งอดีดและปัจจุบันทำได้ ผมก็แสวงหาและทดสอบตัวเอง การเปลี่ยนรูปกายคืออธิฐานแสดงตนหากมีผู้รู้และขอให้แสดงให้ดู เหมือนพยามารโพธิสัตว์ปะระนิมิตตะสะวัตตีที่มาทวงบัลลังของพุทธองค์ และประลองกำลังมาทั่ว เขาเรียกผมว่า พุทธบุตรโพธิสัตว์ และวันหนึ่งพบอาจารย์คือพระบรมศาสดา ผมถามคำถามเดียวกับ หลวงปู่ฤาษี แต่คำตอบกลับแตกต่าง ปรมัติคืออะไร ทำไมตั้งแต่เกิดผมจึงมีอยุ่ในหัวและก็ได้คำตอบ ผมไม่ได้อยากเป็นอะไรผมไม่อยากเกิดอีกเท่านั้น ในวันที่จะตามไปกลับถูกห้าม โปลิโพธินี้ตัตยากนัก และสุดท้ายผมได้เสี่ยงทายว่า หากเราคือโพธิสัตว์ผู้จะสำเร็จสัมมาสัมโพธิณาณแน่นอนแล้วขอให้ฟ้าดินยืนยันหากฟ้าดินยืนยันไม่ได้เราจะไปนิพพานเราจะไม่เกิดอีก สัจจะบารมีเราก็บำเพ็ญมาเอ่ยเรื่องใดไม่คืนคำ และฟ้าดินยืนยันตามสัจจะ หากไม่ไช่จะลาพุทธภูมิ เหมือนหลวงปู่มั่นและหลวงปู่ฤาษี แต่ไม่เคยคิดจะเอ่ยกับใครเพราะรู้เหตุว่าบารมีเต็มแล้วและเป็นอันตรายกับมนุยษ์มาก หากผู้ใดหมิ่นจะมีโทษมาก ผมอยู่ตามป่าเขาอย่างสงบรอเพียงกลับเท่านั้น เทศโปรด๓ภพอยู่ แต่มีผู้ขอให้ออกมาประกาศสิ่งที่รู้มามีพวกท่านอยู่แล้วมากมาย แล้วเรียกผมมาทำไม ผมมีหลายชื่อ แตกต่างไปตามแดนเกิด ผมอยากถามเพียงว่าองค์ปฐมที่ท่านทั้งหลายเรียกคือใคร และนี่คือเรา พุทธบุตรโพธิสัตว์ สาธุ
     
  20. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,163
    ถ้าจะปรารถนาเป็นองค์สุดท้ายของทั้งหมด คงต้องแข่งกับผมหน่อยนะครับ เพราะผมก็ปรารถนาเหมือนกัน สมเด็จองค์ปฐมพระองค์เป็นใครจริงๆ ถ้าบารมีเต็มแล้วอย่างที่ว่าจริงๆ ก็ไม่สมควรจะกล่าวถึงพระองค์ในลักษณะนี้นะครับ ปรามาสเห็นๆ ปกติแล้วถ้าบารมีเต็มแล้วเขาไม่ค่อยจะพูดถึงความดีของตัวเองกันหรอกนะครับ พระโพธิสัตว์จริงๆ เขาไม่มาอาลัยกับความดีของตัวเอง แต่เขามุ่งแต่สิ่งที่จะทำให้สำเร็จคือพระโพธิญาน อีกอย่างนะครับถ้าคิดว่าจะเป็นโทษแก่คนอื่น แต่ตัวเองบารมีเต็มแล้วแบบนี้มันขัดกันเองนะครับ ระดับพระโพธิสัตว์บารมีเต็ม เขามีปัญญามากพอที่จะเกิดโดยหลีกเลี่ยงไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่ไม่รู้ เว้นแต่ก็เฉพาะคนที่มีวาระกรรมกับท่านเท่านั้น ก็ไม่อยากให้หลงเข้าใจว่าตัวเองทำได้ถึงโน่นนี่ บารมีเต็มแล้ว ของแบบนี้ที่เต็มแล้วเขาไม่พูด ไม่ประกาศกันหรอกครับ เขาไว้ที่เดียวตอนชาติสุดท้ายเลย ขนาดผมว่าเจอมาเยอะแล้ว ก็แค่ครึ่งเดียวเอง แต่ครึ่งเดียวก็เพียงพอที่จะบอกกล่าวเหล่าผู้ปรารถนาพุทธภูมิให้เข้าใจให้ตรงทางนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...