สุญญตา และ จิตว่าง ในพุทธศาสนา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สมถะ, 19 มิถุนายน 2006.

  1. สมถะ

    สมถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,091
    ค่าพลัง:
    +972
    สุญญตา และ จิตว่างในพุทธศาสนา

    เรื่อง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2006
  2. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    การปฏิบัติธรรมที่แท้คือการปฏิบัติเพื่อให้แจ้งสภาวะที่แท้จริงของจิต คือจิตที่พ้นจากการปรุงแต่งโดยรูปนาม จิตที่พ้นแล้ว มีสภาวะเป็นสุญญตา สภาวะไม่ใช่การสูญ และไม่ใช่การไม่สูญ เป็นสภาวะที่เป็นเช่นนั้นเอง(ตถตา) ไม่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง ไม่ถูกสร้าง ไม่ถูกทำลาย ไม่เกิดไม่ดับ ไม่ว่าวิชาธรรมกายหรือวิปัสนาญาณ16 หรือวิธีใดๆ ที่แจ้งสภาวะนี้ได้ ก็ล้วนแต่สัมมาทิฏฐิ
     
  3. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วว่าทำไม พระอริยะเจ้าถึงไม่ค่อยกล่าวถึงสภาวะ โลกุตตรภูมิ เพราะสภาวะนี้ความจริงไม่สามารถสร้งขึ้นหรือฝึกฝนเอาได้ด้วยวิธีใดๆ เมื่อฝึกเอาไม่ได้ถึงสอนก็ไม่มีประโยชน์ แต่ที่พระอริยะทั้งหลายนำมาสอนนั้นคือ ทำอย่างไรให้สิ่งที่ปรุงแต่งจิตดับลง เมื่อการปรุงแต่งดับลง สภาวะแห่งโลกุตตรภูมิจะเปิดทันที แสงสวางแห่งปัญญา ก็จะทำลายความมืดคืออวิชชาลงไปพร้อมกัน เปรียบเหมือนเมื่อเราอยู่ในห้องมืด คำสอนของพระอริยะคือ ท่านจะบอกเราว่าเราจะต้องเดินไปทางไหน และเดินอย่างไร เพื่อจะได้เจอสวิตซ์ และกดสวิตซ์ นั่นคือกิจที่เราต้องทำสิ้นสุดลง ความสว่างจะบังเกิดเองและทำลายความมืดในทันที แตเราไม่สามารถสร้างแสงสว่างขึ้นได้เอง ฉะนี้
    การปฏิบัติในแนว วิปัสสนญาณ16 เมื่อไปถึงระดับหนึ่ง จะเห็นการเกิดดับของรูปนาม (ถ้าไม่ฝึกจะไม่เห็น เหมือนอย่างไฟตามบ้านที่เราเห็น หรือภาพยนต์ ความจริงมันมีการเกิดดับของแสงหรือภาพ แต่เนื่องจากรวดเร็วมาก สายตาไม่สามารถแยกได้จะเห็นมันสว่างตลอดหรือเห็นภาพต่อเนื่อง) ขันธ์5 ก็เช่นกัน มีการเกิดดับตลอด(จิตจะถูกปรุงแต่งตามขันธ์) การฝึกก็คือให้ไปเห็นการเกิดดับนี้ เมื่อเห็นการเกิดดับนี้ สิ่งที่เกิดต่อจากนี้จะเป็นไปโดยอัตโนมัติคือ เกิด ดับ เกิด ดับ จะมีช่องว่างระหว่างการเกิดดับ สภาวะแห่งโลกุตตรภูมิจะเปิดเผยตรงช่องว่างระหว่างการเกิด ....ดับนี้เอง
     
  4. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    จิตเดิมแท้ครั้งอนันตกาล วิวัฒนามามีรูปนาม
    มายาเกิดตายก็ติดตามมา เพราะอวิชชาทำให้มืดมน
    ต้องมาทุกข์หลงว่าเป็นตัวตน มนุษย์ทุกคนหลงในรูปนาม
    ภพชาติติดตามเกิดแก่เจ็บตาย น้ำตาสัตว์โลกต้องหลั่งไหลริน
    เพราะมาหลงติดยึดมั่นในธาตุ อาศัยธาตุดินให้เกิดเป้นกาย
    อาศัยธาตุน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้ อาศัยธาตุลมที่ช่วยหายใจ
    อาศัยธาตุไฟให้ความอบอบอุ่น อาศัยอากาศแผ่ซ่านทั่วกาย
    จิตเดิมหลงไหลว่าเป็นตัวตน ปล่อยวางจากขันธ์ไม่เจ็บไม่ตาย
    สุขกว่าสิ่งใดคือพระนิพพาน
    (ธรรมคำกลอนจากพระอริยะพระองค์หนึ่ง)
     
  5. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +1,295
    ข้าพเจ้าได้อ่านข้อความของท่านบำรุง เห็นท่านพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
    โดยตลอด ที่สำคัญ ท่านพัฒนามาจากความเข้าใจจากภายในจิตของตนเอง
    มิได้มุ่งเน้นไปจำมา จริงอยู่สมมุติบัญญัตินี้จำต้องจำมาใช้อ้างอิงพูดถึง
    แต่ "แนวคิด" นี้ ข้าพเจ้าอ่านดูแล้ว ท่านมาจากการ "เห็นแจ้ง" เองโดยแท้


    สาธุ........................................................................
     
  6. cochiga

    cochiga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +228
    โมทนา สาธุกับคุณบำรุงค่ะ
    ตอนนี้กำลังเดินหาสวิทซ์ไฟอยู่ค่ะ .... เดินสะเปะสะปะอยู่นานแล้ว ยังไม่เจอเลย แต่จะเพียรเดินหาให้เจอจนได้ค่ะ
     
  7. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    เพื่อมิให้มีการเข้าใจผิด ขอบอกว่าผมยังไม่ได้บรรลุธรรมครับ
     
  8. phanit

    phanit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2006
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +984
    ..................
     

แชร์หน้านี้

Loading...