หมดแล้ว ร่วมทอดกฐินสามัคคี พุทธสถานพระพุทธบาทเขากะลา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย woottipon, 27 สิงหาคม 2010.

  1. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,815
    ค่าพลัง:
    +84,008
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  2. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,815
    ค่าพลัง:
    +84,008
    [​IMG]
     
  3. RainyWindy

    RainyWindy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,888
    วันนี้เวลา 18.24 น.ผมได้โอนเงินร่วมบุญกฐินสามัคคี พุทธสถานพระพุทธบาทเขากะลา ยอดเงิน 450.99 บาทครับ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
     
  4. sakmalai

    sakmalai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +1,344
    ลำดับที่ 3 โอนเงินร่วมบุญกฐินสามัคคี พุทธสถานพระพุทธบาทเขากะลา ยอดเงิน 454 บาทครับ ขออนุโมทนาในบุญทั้งหมดทั้งมวลด้วยครับ
     
  5. shinne

    shinne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2009
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +612
    วันที่ 27 กันยายน เวลาประมาณบ่ายสาม ผมได้โอนเงินจำนวน 250 บาทเข้าบัญชีแล้วครับ
     
  6. ป.คุณูปการ

    ป.คุณูปการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +1,838

    โอนแล้วครับ วันที่ 28/09/10 เวลา 15:37 น. จำนวน 250 บ.
    ที่อยู่แจ้งทาง pm ครับ โมทนาบุญครับ
     
  7. อัสดงส์

    อัสดงส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,319
    ค่าพลัง:
    +3,697
    วันนี้ 28/09/10 เวลา 14.12 น ได้โอนปัจจัยร่วมบุญ 250 บาท และขอรับหลวงปู่ทวด 1 องค์
     
  8. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,655
    ค่าพลัง:
    +55,543
    update ตารางล่าสุดครับ วันที่ 29/09/53 เวลา 21.18 น.

    [​IMG]

    [​IMG]
    พิธีแรกที่จะปลุกเสก จะฝากท่านเจ้าสัวจารุเข้าพิธีปลุกเสกโดย
    หลวงพ่อบัว จ.ตราด และพิธีที่วัดศาลพันท้ายฯ โดยพระอาจารย์เล็ก หลวงพ่อมนัส หลวงตาชลอ พร้อมพระกริ่งสมปรารถนาครับ

    หลังจากนั้นพระชุดนี้พร้อมพระกริ่งจตุรพิธฯ จะเดินทางสู่ จ.สกลนคร ซึ่งมีพระผู้ทรงคุณหลายท่าน
    1.หลวงปู่ขาว
    2.หลวงปู่บู่
    3.พระอาจารย์หนุน
    4.หลวงปู่น้อย

    หลวงปู่ต่างๆล้วนแล้วแต่ทรงอภิญญาใหญ่ทั้งนั้นครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    ธนาคารกรุงไทย สาขาคาร์ฟูร์หางดง
    เลขบัญชี 980-2-64578-8
    ชื่อบัญชี นายวุฒิพงษ์ เปรมสมบัติ
    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2010
  9. r_alongkorn

    r_alongkorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +3,465
    แจ้งการโอนเงินครับ
    โอนแล้วครับเมื่อวานนี้ เวลา 17.54 จากกสิกรไทย จำนวน 250.09 ครับ
    ขออนุโมทนาครับ
     
  10. ธรรมศิล

    ธรรมศิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +800
    ลำดับที่ 46 โอนเงินแล้ว 1,050.-บาท ส่ง
    นายพิพัฒน์ ธรรมาจารุศิล
    555 ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน
    เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
     
  11. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,815
    ค่าพลัง:
    +84,008
    พระทั้งหมดพร้อมพระกริ่งจตุรพิธ ถึงสกลนครแล้ว เตรียมขอครูบาอาจารย์อธิฐานจิต แล้วเดินสายเชียงใหม่ ลำพูน ต่อ อีกสัก 3-4 ที่ ก็จัดส่งได้ครับ
     
  12. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,815
    ค่าพลัง:
    +84,008
    ประวัติหลวงปู่บู่ กิตฺติญาโณ

    วัดสุมังคลาราม บ้านพังขว้างกลาง ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร

    ตามข้อมูลที่คนเฒ่าคนแก่ ได้เล่าให้ฟังในเรื่องประวัติของหลวงปู่บู่ได้บอกว่า เป็นคนชาติลาวมาแต่กำเนิดได้มาอาศัยในแผ่นดินไทยเมื่อไหร่นั้นไม่ปรากฏชัดเจน การอ่านเขียนหนังสือนั้นไม่ค่อยเก่ง เพราะท่านมุ่งปฏิบัติดูจิตอย่างเดียว มีแต่คนเฒ่าคนแก่มีอายุ 70-80 ปี ได้เล่าให้ฟังว่าเคยเห็นท่านเมื่อตอนหนุ่มๆ เป็นอยู่อย่างไรทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนี้ ไม่เห็นท่านแก่เลย ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง ทุกวันนี้หน้าตาท่านสดใส มีประกายรัศมีเปล่งปลั่ง เมื่อมองดูใบหน้าก็บงบอกของผู้มีคุณธรรมสูงในจิต ที่รักษากายไม่ให้แก่ การออกบวชของหลวงปู่นั้นทราบจากพระครูสุวรรณสิริชัย เจ้าคณะพังขว้างเล่าว่า ท่านออกบวช 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกไม่ทราบ ครั้งที่ 2 บวชเมื่อปี พ.ศ. 2524 ถ้าจะไปถามเอาข้อมูลประวัติจากท่านไม่ได้อะไรดอก มีคนไปถามอายุหลวงปู่ ว่าหลวงปู่อายุกี่ปีแล้ว บวช มากี่พรรษาแล้วท่านก็จะตอบเท่าไหร่ตามแต่ท่านจะตอบหรือไม่สนใจตอบไปเลยก็มี ก็เลยไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดเพราะหลวงปู่ท่านไม่ยึดติดกับอายุที่เป็นเพียง สมมุติตัวเลขท่านอยู่กับปัจจุบันดีกว่าดูๆไปท่านเหมือนหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน แห่งเมืองศรีสะเกษที่ไม่ทราบอายุเท่าไหร่กันแน่ ทุกวันนี้ท่านยังออกรับบิณฑบาตโยมทุกวันตามปกติ สุขภาพร่างกายแข็งแรงเดินจงกรมได้สะดวก และหลวงปู่ไม่คอยอาบน้ำ(สรง)เลย แต่แปลกที่ผิวพรรณของท่านยังเปล่งปลั่งอยู่เลย แสดงให้เห็นธรรมในจิตที่มีแต่ปิติสุข รักษากายไม่ให้แก่ ไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปชาวบ้านเหล่าว่าเวลาท่านจะอาบน้ำ(สรง) ก็ต่อเมื่อฝนตกลงมาเท่านั้น เมื่อ ใดฝนตกท่านจะเดินอาบน้ำจากธรรมชาติคนเดียวของท่านอย่างไม่สนใจใคร อีกอย่างหนึ่งโดยปกติหลวงปู่ท่านไม่ค่อยพูด อยู่เฉยๆ ที่กุฏิไม่ยุ่งวุ่นวายกับใครๆ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วฉะนั้นประวัติหรืออายุของหลวงปู่บู่ จึงไม่ทราบชัดได้ชาวบ้านบางคนก็ว่า 80 ปีบ้าง 90 ปีบ้าง 100 ปีบ้าง ก็เลยไม่รู้จะเชื่อใครดี แม้ไปถามหลวงปู่ท่านก็ไม่บอก



    อภิญญา ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่บู่

    เรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงปู่บู่นั้นมีมากมาย แต่จะนำมาเล่าสู่ฟังบางเรื่อง ซึ่งเป็นการเล่าจากชาวบ้านที่ได้สัมผัสกับหลวงปู่บู่ล้วนไม่ธรรมดา น่าอัศจรรย์ใจ เช่น มี โยมคนหนึ่งเล่าว่า ได้ไปนิมนต์หลวงปู่บู่ไปฉันเพลที่บ้านมีงานบุญพอหลวงปู่รีบนิมนต์ก็บอกให้ โยมเดินทางไปก่อนเดี๋ยวจะตามไปทีหลังโยมก็รีบเดินกลับบ้านมาเตรียมข้าวปลา อาหารพอโยมคนนั้นมาถึงบ้านก็ต้องตกตลึงสุดขีด เมื่อสายตามองไปเห็นหลวงปู่บู่นั่งอยู่บนอาสนะสงฆ์เรียบร้อยแล้ว นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ใจแกโยมเจ้าภาพอย่างมากทั้งที่ตัวเองก็รีบเดินไม่ได้แวะ ที่ไหนเลย แถมตอนนั้นหลวงปูยังไม่ได้ห่มจีวรเลยเกิดคำถามในใจตัวโยมว่า “แล้วหลวงปู่มาถึงก่อนเราได้อย่างไรหรือว่าหลวงปู่หายตัวได้กันแน่” เพราะถึงรีบเดินอย่างไรก็ไม่น่าถึงก่อนนับเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาด

    พระครูสุวรรณสิริชัย เจ้าคณะตำบลพังขว้างเล่าว่า ครั้ง หนึ่งท่านเคยชวนหลวงปู่บู่ไปกราบนมัสการพระธาตุพนมไปโดยนั่งรถไปแต่หลวงปู่ บอกให้นั่งรถไปก่อนถ้ารีบเดี๋ยวท่านจะเดินไปเองพอพระครูสุวรรณสิริชัยนั่งรถ ไปถึงพระธาตุนครพนนมต้องตลึง เมื่อเห็นหลวงปู่บู่รออยู่ที่ พระธาตุนครพนมก่อนแล้ว เกิดคำถามว่าหลวงปู่มาถึงก่อนได้อย่างไรทั้งที่เดินเท้าเปล่าแต่กลับมาถึง ก่อนนั่งรถ และอีกครั้งหนึ่งพระครูสุวรรณสิริชัยเล่าว่า ท่านหยอกล้อเล่นกับหลวงปู่บู่โดยการสาดน้ำใส่หลวงปู่บู่แต่พอหลวงปู่บู่เอา มือปัดน้ำเท่านั้น น้ำที่สาดใส่ไม่เปียกตัวหลวงปู่บู่สักหยดเดียวเลย นับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ซึ่งไม่ธรรมดา สร้าง ความอัศจรรย์ใจให้กับพระครูสุวรรณสิริชัยเจ้าคณะตำบลพังขว้างอย่างไม่น่า เชื่อท่านบอกว่าถ้าไม่เจอกับตัวเองจะไม่เจอใคร่ง่ายๆ แต่นี้เจอกับตัวเอง จึงว่าหลวงปู่บู่ไม่ธรรมดา เรื่องต่อมา ชาว บ้านเล่าว่ามีขโมยขึ้นกุฏิหลวงปู่บู่ เพื่อลักขโมยข้าวของในกุฏิ พอขโมยขึ้นมาบนกุฏิก็ค้นหาย่ามที่ใส่ปัจจัยที่หลวงปู่เก็บไว้ในย่ามเพื่อจะ ขโมยเอาเงินไป เมื่อขโมยล้วงมือลงไปในย่ามต้องตกใจสะดุ้งกลัวสุดขีดเมื่อในย่ามนั้นกลับ กลายเป็นงูทำธารตัวใหญ่นอนขดอยู่ในย่ามใบนั้น ทำให้ขโมยต้องทิ้งย่ามใบนั้นวิ่งหนีไปอย่างไม่ได้อะไรเลย แสดงให้เห็นว่าหลวงปู่ท่านไม่ธรรมดาเสกงูเฝ้าย่ามได้

    เรื่อง ต่อมาเกี่ยวกับไม้เท้าของหลวงปู่บู่ เวลาท่านจะออกไปนอกวัดหรือไปบิณฑบาตหลวงปู่จะเอาไม้เท้าซ่อนเอาไว้พุ่มไม้ ข้างทางเคยมีคนแอบจะไปขโมยเอาไม้เท้าหลวงปู่ที่ซ่อนเอาไว้แต่หาจนทั่วพุ่ม ไม้หาอย่างไรก็หาไม่เจอแต่พอหลวงปู่กลับมาแล้วเข้าไปหยิบเอาไม้เท้าออกมาจาก พุ่มไม้นั้นอย่างสะดวกสบาย สร้างความประหลาดใจให้กับคนที่คอยขโมยไม้เท้าหลวงปู่บู่ยิ่งนัก และ อีกหลายๆเรื่องเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ เช่น โยมที่จังหวัดอุดรธานี เห็นท่านไปบิณฑบาตที่อุดรธานี และได้ใส่บาตรหลวงปู่ ทั้งที่ตัวหลวงปู่เองก็อยู่ที่วัดไม่ได้ไปไหนเลย บางคนเห็น หลวงปู่ไปบิณฑบาตที่ประเทศลาวหรือว่าบางคนไปขอถ่ายภาพหลวงปู่ ถ่ายอย่างไรก็ไม่ติดหรือถ่ายติดเมื่อกลับไปล้างภาพไม่มีภาพอะไรว่างเปล่า บางครั้งกล้องไม่ทำงานเอาดื้อๆ ถ้าหลวงปู่ไม่อนุญาตนับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงปู่บู่ เป็นพระอีกรูปหนึ่งที่ไม่ธรรมดาหาได้ยากในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ชาวบ้านเล่าว่าวันหนึ่งๆ หลวงปู่ไม่ได้ไปไหนเลยตั้งแต่มาอยู่ที่วัดคลาราม ท่านไม่ไปไหนและหลวงปู่ท่านไม่ชอบแสดงตัวโอ้อวดว่าท่านดีอย่างนั้นอย่างนี้กับใครต่อใคร นอกจากจะได้สัมผัสกับหลวงปู่เอง และเรื่องเล่าทุกเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเล่าจากปากชาวบ้านที่ได้สัมผัสจากตัวเองทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องจากปากท่านเลย

    การเป็นผู้อยู่อย่างเหนือโลก

    หลวงปู่บู่เป็นพระที่สมควรได้คำว่า “ โลกอุดร” ถึงน่าจะเหมาะสมกับการเป็นอยู่ของหลวงปู่จริงๆ ซึ่งเหมือนกับปฏิปทาของหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน เหมือนแกะจากพิมพ์เดียวกัน การเป็นอยู่ของหลวงปู่บู่ อยู่อย่างเรียบง่ายทำตามได้ยาก เป็นพระที่มักน้อยจริงๆ สันโดษก็สันโดษจริงๆ กุฏิที่หลวงปู่อยู่จำวัดก็พังแหล่ไม่พังแหล่ เก่าสุดเก่า ถึงแม้จะมีศรัทธามาสร้างกุฏิถวายหลวงปู่หลังใหม่ก็ตาม หลวงปู่ไม่ได้ยินในลาภ ยังคงจำวัดในกุฏิเก่าๆ หลังเดิม เห็นแล้วทำตามหลวงปู่ได้ยากจริงๆ จีวรห่มก็เก่าๆ การเป็นอยู่หลับนอนก็เปลใต้ต้นมะม่วง บางครั้งก็ขึ้นไปนอนบนต้นมะม่วง การนอนของหลวงปู่จะนอนในท่าสีหะไสยาศตลอด บางวันอากาศร้อนๆหลวงปู่บู่ก็ลุกขึ้นมาก่อไฟผิง ไม่สนใจใคร ฝนตกก็เดินตากฝน หน้าหนาวหลวงปู่ก็เดินตากอากาศหนาว อย่างไม่กลัวความหนาว นับได้ว่าเป็นการอยู่ที่เป็นไปเพื่อการปล่อยวางในโลกกรรมอย่างแท้จริง โดยหลวงปู่ไม่ยินดียินร้ายในคำสรรเสริญ ยกย่อง คำนินทา ใครจะด่าว่าร้ายหลวงปู่ก็ช่าง จะมีลาภหรือไม่มีลาภ หลวงปู่ก็ไม่หวั่นไหว ใครจะมียศมีตำแหน่งหลวงปู่ก็นิ่งเฉย โลกใบนี้มันจะสุขหรือจะทุกข์มันก็เป็นมาอย่างนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร





    ให้โชคให้ลาภแม่น

    มีชาวบ้านเล่าว่าหลวงปู่ให้ปริศนาตัวเลขแม่นและมีครูบาอาจารย์รูปหนึ่งท่านบอกว่ามีโอกาส มาแถวนี้อย่าลืมไปกราบหลวงปู่บู่ วัดสุมังคลารามนะ เมื่อมีโอกาสเลยไปกราบหลวงปู่ และได้ถามหลวงปู่บู่เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2552 ที่ผ่านมาว่า “หลวงปู่อายุเท่าไหร่แล้ว” หลวงปู่ตอบว่า “ สิบหนึ่ง” พอได้ฟังก็งงๆ อยู่เหมือนกัน

    หลวงปู่ อายุปูนนี้แล้วจะมีอายุแค่สิบเอ็ดปีเป็นไปไม่ได้แน่ พอวันที่ 2 พ.ค. 52 หวยออก 2 ตัวล่าง 11 ตรงๆ และเมื่ออีกอาทิตย์หนึ่งถัดมาก็ได้ไปกราบหลวงปู่อีกครั้ง ก็เลยถามหลวงปู่อีกว่าหลวงปู่บวชมากี่พรรษาแล้ว หลวงปู่ตอบว่า “สิบหนึ่ง” เพราะดูตามความจริงหลวงปู่น่าจะเป็นพระมหาเถระแล้ว คงบวชมาไม่ต่ำกว่า 40 พรรษาอย่างแน่นอน พอมาวันที่ 16 พ.ค. 52 หวยออกเลขท้ายสามตัวบนออก 411 ทำให้หายสงสัยในหลวงปู่ทันที ใน ความมีเมตตาของหลวงปู่ ซึ่งการให้โชคให้ลาภนี้ หลวงปู่บู่จึงคล้ายกันกับหลวงปู่สรวง ที่ให้โชคให้ลาภแม่นมากแสดงว่าหลวงปู่บู่ไม่ธรรมดาจริงใครอยากไปสัมผัสกับ ตัวเองก็ขอเชิญเมื่อมีโอกาสแวะไปได้ที่วัดสุมังคลาราม ต. พังขวาง อ.เมือง จ. สกลนคร ของดีอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง

    ประวัติหลวงปู่บู่ กิตฺติญาโณ

    วัดสุมังคลาราม บ้านพังขว้างกลาง ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร

    ตามข้อมูลที่คนเฒ่าคนแก่ ได้เล่าให้ฟังในเรื่องประวัติของหลวงปู่บู่ได้บอกว่า เป็นคนชาติลาวมาแต่กำเนิดได้มาอาศัยในแผ่นดินไทยเมื่อไหร่นั้นไม่ปรากฏชัดเจน การอ่านเขียนหนังสือนั้นไม่ค่อยเก่ง เพราะท่านมุ่งปฏิบัติดูจิตอย่างเดียว มีแต่คนเฒ่าคนแก่มีอายุ 70-80 ปี ได้เล่าให้ฟังว่าเคยเห็นท่านเมื่อตอนหนุ่มๆ เป็นอยู่อย่างไรทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนี้ ไม่เห็นท่านแก่เลย ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง ทุกวันนี้หน้าตาท่านสดใส มีประกายรัศมีเปล่งปลั่ง เมื่อมองดูใบหน้าก็บงบอกของผู้มีคุณธรรมสูงในจิต ที่รักษากายไม่ให้แก่ การออกบวชของหลวงปู่นั้นทราบจากพระครูสุวรรณสิริชัย เจ้าคณะพังขว้างเล่าว่า ท่านออกบวช 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกไม่ทราบ ครั้งที่ 2 บวชเมื่อปี พ.ศ. 2524 ถ้าจะไปถามเอาข้อมูลประวัติจากท่านไม่ได้อะไรดอก มีคนไปถามอายุหลวงปู่ ว่าหลวงปู่อายุกี่ปีแล้ว บวช มากี่พรรษาแล้วท่านก็จะตอบเท่าไหร่ตามแต่ท่านจะตอบหรือไม่สนใจตอบไปเลยก็มี ก็เลยไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดเพราะหลวงปู่ท่านไม่ยึดติดกับอายุที่เป็นเพียง สมมุติตัวเลขท่านอยู่กับปัจจุบันดีกว่าดูๆไปท่านเหมือนหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน แห่งเมืองศรีสะเกษที่ไม่ทราบอายุเท่าไหร่กันแน่ ทุกวันนี้ท่านยังออกรับบิณฑบาตโยมทุกวันตามปกติ สุขภาพร่างกายแข็งแรงเดินจงกรมได้สะดวก และหลวงปู่ไม่คอยอาบน้ำ(สรง)เลย แต่แปลกที่ผิวพรรณของท่านยังเปล่งปลั่งอยู่เลย แสดงให้เห็นธรรมในจิตที่มีแต่ปิติสุข รักษากายไม่ให้แก่ ไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปชาวบ้านเหล่าว่าเวลาท่านจะอาบน้ำ(สรง) ก็ต่อเมื่อฝนตกลงมาเท่านั้น เมื่อ ใดฝนตกท่านจะเดินอาบน้ำจากธรรมชาติคนเดียวของท่านอย่างไม่สนใจใคร อีกอย่างหนึ่งโดยปกติหลวงปู่ท่านไม่ค่อยพูด อยู่เฉยๆ ที่กุฏิไม่ยุ่งวุ่นวายกับใครๆ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วฉะนั้นประวัติหรืออายุของหลวงปู่บู่ จึงไม่ทราบชัดได้ชาวบ้านบางคนก็ว่า 80 ปีบ้าง 90 ปีบ้าง 100 ปีบ้าง ก็เลยไม่รู้จะเชื่อใครดี แม้ไปถามหลวงปู่ท่านก็ไม่บอก



    อภิญญา ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่บู่

    เรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงปู่บู่นั้นมีมากมาย แต่จะนำมาเล่าสู่ฟังบางเรื่อง ซึ่งเป็นการเล่าจากชาวบ้านที่ได้สัมผัสกับหลวงปู่บู่ล้วนไม่ธรรมดา น่าอัศจรรย์ใจ เช่น มี โยมคนหนึ่งเล่าว่า ได้ไปนิมนต์หลวงปู่บู่ไปฉันเพลที่บ้านมีงานบุญพอหลวงปู่รีบนิมนต์ก็บอกให้ โยมเดินทางไปก่อนเดี๋ยวจะตามไปทีหลังโยมก็รีบเดินกลับบ้านมาเตรียมข้าวปลา อาหารพอโยมคนนั้นมาถึงบ้านก็ต้องตกตลึงสุดขีด เมื่อสายตามองไปเห็นหลวงปู่บู่นั่งอยู่บนอาสนะสงฆ์เรียบร้อยแล้ว นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ใจแกโยมเจ้าภาพอย่างมากทั้งที่ตัวเองก็รีบเดินไม่ได้แวะ ที่ไหนเลย แถมตอนนั้นหลวงปูยังไม่ได้ห่มจีวรเลยเกิดคำถามในใจตัวโยมว่า “แล้วหลวงปู่มาถึงก่อนเราได้อย่างไรหรือว่าหลวงปู่หายตัวได้กันแน่” เพราะถึงรีบเดินอย่างไรก็ไม่น่าถึงก่อนนับเป็นเรื่องน่าแปลกประหลาด

    พระครูสุวรรณสิริชัย เจ้าคณะตำบลพังขว้างเล่าว่า ครั้ง หนึ่งท่านเคยชวนหลวงปู่บู่ไปกราบนมัสการพระธาตุพนมไปโดยนั่งรถไปแต่หลวงปู่ บอกให้นั่งรถไปก่อนถ้ารีบเดี๋ยวท่านจะเดินไปเองพอพระครูสุวรรณสิริชัยนั่งรถ ไปถึงพระธาตุนครพนนมต้องตลึง เมื่อเห็นหลวงปู่บู่รออยู่ที่ พระธาตุนครพนมก่อนแล้ว เกิดคำถามว่าหลวงปู่มาถึงก่อนได้อย่างไรทั้งที่เดินเท้าเปล่าแต่กลับมาถึง ก่อนนั่งรถ และอีกครั้งหนึ่งพระครูสุวรรณสิริชัยเล่าว่า ท่านหยอกล้อเล่นกับหลวงปู่บู่โดยการสาดน้ำใส่หลวงปู่บู่แต่พอหลวงปู่บู่เอา มือปัดน้ำเท่านั้น น้ำที่สาดใส่ไม่เปียกตัวหลวงปู่บู่สักหยดเดียวเลย นับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ซึ่งไม่ธรรมดา สร้าง ความอัศจรรย์ใจให้กับพระครูสุวรรณสิริชัยเจ้าคณะตำบลพังขว้างอย่างไม่น่า เชื่อท่านบอกว่าถ้าไม่เจอกับตัวเองจะไม่เจอใคร่ง่ายๆ แต่นี้เจอกับตัวเอง จึงว่าหลวงปู่บู่ไม่ธรรมดา เรื่องต่อมา ชาว บ้านเล่าว่ามีขโมยขึ้นกุฏิหลวงปู่บู่ เพื่อลักขโมยข้าวของในกุฏิ พอขโมยขึ้นมาบนกุฏิก็ค้นหาย่ามที่ใส่ปัจจัยที่หลวงปู่เก็บไว้ในย่ามเพื่อจะ ขโมยเอาเงินไป เมื่อขโมยล้วงมือลงไปในย่ามต้องตกใจสะดุ้งกลัวสุดขีดเมื่อในย่ามนั้นกลับ กลายเป็นงูทำธารตัวใหญ่นอนขดอยู่ในย่ามใบนั้น ทำให้ขโมยต้องทิ้งย่ามใบนั้นวิ่งหนีไปอย่างไม่ได้อะไรเลย แสดงให้เห็นว่าหลวงปู่ท่านไม่ธรรมดาเสกงูเฝ้าย่ามได้

    เรื่อง ต่อมาเกี่ยวกับไม้เท้าของหลวงปู่บู่ เวลาท่านจะออกไปนอกวัดหรือไปบิณฑบาตหลวงปู่จะเอาไม้เท้าซ่อนเอาไว้พุ่มไม้ ข้างทางเคยมีคนแอบจะไปขโมยเอาไม้เท้าหลวงปู่ที่ซ่อนเอาไว้แต่หาจนทั่วพุ่ม ไม้หาอย่างไรก็หาไม่เจอแต่พอหลวงปู่กลับมาแล้วเข้าไปหยิบเอาไม้เท้าออกมาจาก พุ่มไม้นั้นอย่างสะดวกสบาย สร้างความประหลาดใจให้กับคนที่คอยขโมยไม้เท้าหลวงปู่บู่ยิ่งนัก และ อีกหลายๆเรื่องเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ เช่น โยมที่จังหวัดอุดรธานี เห็นท่านไปบิณฑบาตที่อุดรธานี และได้ใส่บาตรหลวงปู่ ทั้งที่ตัวหลวงปู่เองก็อยู่ที่วัดไม่ได้ไปไหนเลย บางคนเห็น หลวงปู่ไปบิณฑบาตที่ประเทศลาวหรือว่าบางคนไปขอถ่ายภาพหลวงปู่ ถ่ายอย่างไรก็ไม่ติดหรือถ่ายติดเมื่อกลับไปล้างภาพไม่มีภาพอะไรว่างเปล่า บางครั้งกล้องไม่ทำงานเอาดื้อๆ ถ้าหลวงปู่ไม่อนุญาตนับได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงปู่บู่ เป็นพระอีกรูปหนึ่งที่ไม่ธรรมดาหาได้ยากในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ชาวบ้านเล่าว่าวันหนึ่งๆ หลวงปู่ไม่ได้ไปไหนเลยตั้งแต่มาอยู่ที่วัดคลาราม ท่านไม่ไปไหนและหลวงปู่ท่านไม่ชอบแสดงตัวโอ้อวดว่าท่านดีอย่างนั้นอย่างนี้กับใครต่อใคร นอกจากจะได้สัมผัสกับหลวงปู่เอง และเรื่องเล่าทุกเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเล่าจากปากชาวบ้านที่ได้สัมผัสจากตัวเองทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องจากปากท่านเลย

    การเป็นผู้อยู่อย่างเหนือโลก

    หลวงปู่บู่เป็นพระที่สมควรได้คำว่า “ โลกอุดร” ถึงน่าจะเหมาะสมกับการเป็นอยู่ของหลวงปู่จริงๆ ซึ่งเหมือนกับปฏิปทาของหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน เหมือนแกะจากพิมพ์เดียวกัน การเป็นอยู่ของหลวงปู่บู่ อยู่อย่างเรียบง่ายทำตามได้ยาก เป็นพระที่มักน้อยจริงๆ สันโดษก็สันโดษจริงๆ กุฏิที่หลวงปู่อยู่จำวัดก็พังแหล่ไม่พังแหล่ เก่าสุดเก่า ถึงแม้จะมีศรัทธามาสร้างกุฏิถวายหลวงปู่หลังใหม่ก็ตาม หลวงปู่ไม่ได้ยินในลาภ ยังคงจำวัดในกุฏิเก่าๆ หลังเดิม เห็นแล้วทำตามหลวงปู่ได้ยากจริงๆ จีวรห่มก็เก่าๆ การเป็นอยู่หลับนอนก็เปลใต้ต้นมะม่วง บางครั้งก็ขึ้นไปนอนบนต้นมะม่วง การนอนของหลวงปู่จะนอนในท่าสีหะไสยาศตลอด บางวันอากาศร้อนๆหลวงปู่บู่ก็ลุกขึ้นมาก่อไฟผิง ไม่สนใจใคร ฝนตกก็เดินตากฝน หน้าหนาวหลวงปู่ก็เดินตากอากาศหนาว อย่างไม่กลัวความหนาว นับได้ว่าเป็นการอยู่ที่เป็นไปเพื่อการปล่อยวางในโลกกรรมอย่างแท้จริง โดยหลวงปู่ไม่ยินดียินร้ายในคำสรรเสริญ ยกย่อง คำนินทา ใครจะด่าว่าร้ายหลวงปู่ก็ช่าง จะมีลาภหรือไม่มีลาภ หลวงปู่ก็ไม่หวั่นไหว ใครจะมียศมีตำแหน่งหลวงปู่ก็นิ่งเฉย โลกใบนี้มันจะสุขหรือจะทุกข์มันก็เป็นมาอย่างนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร





    ให้โชคให้ลาภแม่น

    มีชาวบ้านเล่าว่าหลวงปู่ให้ปริศนาตัวเลขแม่นและมีครูบาอาจารย์รูปหนึ่งท่านบอกว่ามีโอกาส มาแถวนี้อย่าลืมไปกราบหลวงปู่บู่ วัดสุมังคลารามนะ เมื่อมีโอกาสเลยไปกราบหลวงปู่ และได้ถามหลวงปู่บู่เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2552 ที่ผ่านมาว่า “หลวงปู่อายุเท่าไหร่แล้ว” หลวงปู่ตอบว่า “ สิบหนึ่ง” พอได้ฟังก็งงๆ อยู่เหมือนกัน

    หลวงปู่ อายุปูนนี้แล้วจะมีอายุแค่สิบเอ็ดปีเป็นไปไม่ได้แน่ พอวันที่ 2 พ.ค. 52 หวยออก 2 ตัวล่าง 11 ตรงๆ และเมื่ออีกอาทิตย์หนึ่งถัดมาก็ได้ไปกราบหลวงปู่อีกครั้ง ก็เลยถามหลวงปู่อีกว่าหลวงปู่บวชมากี่พรรษาแล้ว หลวงปู่ตอบว่า “สิบหนึ่ง” เพราะดูตามความจริงหลวงปู่น่าจะเป็นพระมหาเถระแล้ว คงบวชมาไม่ต่ำกว่า 40 พรรษาอย่างแน่นอน พอมาวันที่ 16 พ.ค. 52 หวยออกเลขท้ายสามตัวบนออก 411 ทำให้หายสงสัยในหลวงปู่ทันที ใน ความมีเมตตาของหลวงปู่ ซึ่งการให้โชคให้ลาภนี้ หลวงปู่บู่จึงคล้ายกันกับหลวงปู่สรวง ที่ให้โชคให้ลาภแม่นมากแสดงว่าหลวงปู่บู่ไม่ธรรมดาจริงใครอยากไปสัมผัสกับ ตัวเองก็ขอเชิญเมื่อมีโอกาสแวะไปได้ที่วัดสุมังคลาราม ต. พังขวาง อ.เมือง จ. สกลนคร ของดีอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง
    [​IMG]
    [​IMG] con_20090914120046_i.jpg (82.85 KB, 347x374 - ดู 5911 ครั้ง.)
    [​IMG]
    http://www.udon108.com/board/index.php?topic=15229.0]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2010
  13. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,815
    ค่าพลัง:
    +84,008
    ................ดัน...................
     
  14. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,655
    ค่าพลัง:
    +55,543
    update ตารางล่าสุดครับ วันที่ 01/10/53 เวลา 20.42 น.

    [​IMG]
    [​IMG]

    พิธีแรกที่จะปลุกเสก จะฝากท่านเจ้าสัวจารุเข้าพิธีปลุกเสกโดย
    หลวงพ่อบัว จ.ตราด และพิธีที่วัดศาลพันท้ายฯ โดยพระอาจารย์เล็ก หลวงพ่อมนัส หลวงตาชลอ พร้อมพระกริ่งสมปรารถนาครับ

    หลังจากนั้นพระชุดนี้พร้อมพระกริ่งจตุรพิธฯ จะเดินทางสู่ จ.สกลนคร ซึ่งมีพระผู้ทรงคุณหลายท่าน
    1.หลวงปู่ขาว
    2.หลวงปู่บู่
    3.พระอาจารย์หนุน
    4.หลวงปู่น้อย

    หลวงปู่ต่างๆล้วนแล้วแต่ทรงอภิญญาใหญ่ทั้งนั้นครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    ธนาคารกรุงไทย สาขาคาร์ฟูร์หางดง
    เลขบัญชี 980-2-64578-8
    ชื่อบัญชี นายวุฒิพงษ์ เปรมสมบัติ
    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2010
  15. supatach

    supatach เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,638
    ค่าพลัง:
    +6,666
    ลำดับการบูชาที่ 10 และ 47
    user : supatach & user : รดาอร
    ได้โอนเงินเข้าบัญชี ธนาคาร กรุงไทย
    ชื่อบัญชี คุณวุฒิพงษ์ เปรมสมบัติ เลขที่บัญชี # 980 2 64578 8
    จำนวนเงินที่โอน 500.10 บาท
    กรุณาส่งพระหลวงปู่ทวดทั้งสององค์ มาตามที่อยู่ด้านล่างนี้
    คุณศุภธัช กิจวรชัย
    บริษัท R.T.S Inter Transport Co.,Ltd
    เลขที่ 356 ถนนสุโขทัย แขวงสวนจิตรลดา
    เขตดุสิต กรุงเทพ 10300
    โทร. 02 668 6270

    ป.ล. ผมไม่สามารถโชว์ใบ Pay In slip ได้ เนื่องจากไม่มีเครื่องสแกน
    กรุณาตรวจสอบบัญชีธนาคารด้วยนะครับ

     
  16. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,815
    ค่าพลัง:
    +84,008
    [​IMG]
     
  17. เด็กไทรน้อย

    เด็กไทรน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,259
    ค่าพลัง:
    +4,327
    โอนเงินให้แล้วครับ วันนี้ช่วงสิบโมงกว่า...

    ทำบุญ200
    ค่าส่ง50

    ขออภัยด้วยครับรูปไม่ชัด...

    ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในงานบุญนี้ครับ...:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG1055A.jpg
      IMG1055A.jpg
      ขนาดไฟล์:
      131.2 KB
      เปิดดู:
      48
    • IMG1056A.jpg
      IMG1056A.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.7 KB
      เปิดดู:
      45
  18. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,655
    ค่าพลัง:
    +55,543
    ผมแบ่ง ให้ 1 องค์ครับ
     
  19. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,655
    ค่าพลัง:
    +55,543
    update ตารางล่าสุดครับ วันที่ 06/10/53 เวลา 21.54 น.

    [​IMG]

    [​IMG]
    พิธีแรกที่จะปลุกเสก จะฝากท่านเจ้าสัวจารุเข้าพิธีปลุกเสกโดย
    หลวงพ่อบัว จ.ตราด และพิธีที่วัดศาลพันท้ายฯ โดยพระอาจารย์เล็ก หลวงพ่อมนัส หลวงตาชลอ พร้อมพระกริ่งสมปรารถนาครับ

    หลังจากนั้นพระชุดนี้พร้อมพระกริ่งจตุรพิธฯ จะเดินทางสู่ จ.สกลนคร ซึ่งมีพระผู้ทรงคุณหลายท่าน
    1.หลวงปู่ขาว
    2.หลวงปู่บู่
    3.พระอาจารย์หนุน
    4.หลวงปู่น้อย

    หลวงปู่ต่างๆล้วนแล้วแต่ทรงอภิญญาใหญ่ทั้งนั้นครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    ธนาคารกรุงไทย สาขาคาร์ฟูร์หางดง
    เลขบัญชี 980-2-64578-8
    ชื่อบัญชี นายวุฒิพงษ์ เปรมสมบัติ
    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 50 บาทครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. woottipon

    woottipon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2005
    โพสต์:
    11,815
    ค่าพลัง:
    +84,008
    อนุโมทนาสาธุครับ.....พระอยู่สกลนคร รอเหรียญหลวงปู่ทวดไปถึงก็จะเดินสายปลุกเสกพร้อมกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...