การฝึกสมาธิ เพื่อการรักษาโรคให้ตนเองและผู้อื่น (ได้อภิญญาเป็นของแถม)

อาจารย์สุวิ ตั้งกระทู้ได้เก๋มากเลย มี(ได้อภิญญาเป็นของแถม) อิอิอิ;ปรบมือ
ที่นี้เจ้าหน้าที่จะมาขอย้ายกระทู้ไม่ได้แล้วน่ะจ๊ะ บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้มีห้องเรียนแบบเต็มที่แล้ว...-Happy Smile_

 

ผมขอเลือกคนที่ผมจะสอนได้ไหมเนี่ย คนที่เอาของผมปนของอื่นๆก็มีเยอะเหลือเกิน

 

หมดสิทธ์ขอรับ
เขาจะค่อนขอดเอาว่า เลือกที่รักมักที่ชังนะ

ฮิอิ.....เป็นอาจารย์ ต้องรักศิษย์เท่ากันทุกคนจ้า

แต่เราเป็นจาน(ใส่ข้าว) ที่ถือไม้เรียวได้นิ มานไม่เชื่อก็ ตีก้นซะให้เข็ด
รักคนใหนมาก ก็ตีคนนั้นก่อนนิ มานจะได้รุดหน้าเร็วๆ

 

ขอแก้หน่อยจ้า
เรื่องของ ญาน กับ ฌาน ที่เน้นไว้ ได้ไปดูคำแปลจริงๆแล้ว
สลับที่กันจะ
ญาน คือพาหนะของจิตที่วิ่งไปตามที่ต่างๆ
ฌาน คือตัวรู้ คือ 2 อย่างต้องไปควบคู่กับ

ที่ถูกต้องคือ

ฌาน คือพาหนะของจิตที่วิ่งไปตามที่ต่างๆ
ญาน คือตัวรู้ คือ 2 อย่างต้องไปควบคู่กับ


ขอยกคำของท่านผู้รู้ทางภาษามาให้ดูนะจะ

ฌาน แปลว่า เพ่ง หมายถึงการเพ่งอารมณ์ตามกฎแห่งการเจริญกรรมฐาน
ถึง อันดับที่ ๑ เรียกว่า ปฐมฌาน คือ ฌาน ๑
ถึง อันดับที่ ๒ เรียกว่า ทุติยฌาน แปลว่า ฌาน ๒
ถึง อันดับที่ ๓ เรียกว่า ตติยฌาน แปลว่า ฌาน ๓
ถึง อันดับที่ ๔ เรียกว่า จตุตถฌาน แปลว่า ฌาน ๔
.................
ถึง อันดับที่แปด คือได้ อรูปฌาน ๘
ได้ครบทั้ง รูปฌาน ๔ อย่าง และ อรูปฌาน ๔ อย่าง เรียกว่า ได้ฌาน ๘

ญาณแปลว่า ความรู้ คือ ปรีชาหยั่งรู้ ปรีชากำหนดรู้ หรือ กำหนดรู้ได้ด้วยอำนาจการบำเพ็ญวิปัสสนา เรียกว่า วิชชา บ้าง
ญาณ เป็นไวพจน์คำหนึ่งของปัญญา แต่มักใช้ในความหมายที่จำเพาะกว่า คือเป็นปัญญาที่ทำงานออกผลมาเป็นเรื่องๆ กล่าวได้ว่า ญาณ คือ ความรู้บริสุทธิ์ที่ผุดโพลงสว่างแจ้งขึ้น มองเห็นตามสภาวะของสิ่งนั้นๆ หรือเรื่องนั้นๆ บางครั้งญาณเกิดขึ้นโดยอาศัยความคิดเหตุผล แต่ญาณนั้นเป็นอิสระจากความคิดเหตุผล คือไม่ต้องขึ้นต่อความคิดเหตุผล แต่ออกไปสัมพันธ์กับตัวสภาวะที่เป็นอยู่จริง

 

บรรดาศิษย์หายไปใหนหมดจ้า ส่งการบ้านเร็วๆจ้า
เดี๋ยว อ.บาสซ์ ลาป่่วยอีก
แล้วแก้ตัวว่า จิ้งเหลนบุกบ้าน

แฮ่ๆ....๕๕๕๕

 

เมื่อคืน นั่งบทที่ 3 ครับ
นั่งช่วงแรก ลืมภาวนา พุทธ โธ ไปคับ จำผิด นึกว่าไม่ต้องภาวนา

นั่งช่วงสอง ภาวนา เกศา โลมา นขา ทันตา ตโจ เร่งคำภาวนาให้มันสุดๆ เร่งจนมึนหัว
ไปเลยคับ เหมือนกรอเทปวนกลับไปมาเร็วๆ ช่วงท้ายๆ ไม่เป็นภาษาแล้ว ฮ่าๆๆ
แต่จิตรู้อยู่แค่ว่ามันเป็นกลุ่มคำ 5 ตัว ก็พยายามเร่งไปอีกจนมึน เริ่มเวียนหัว
พอไม่ไหวจริงๆ ก็เลยปล่อย จำไ่ม่ได้ว่าภาวนาไปเท่าไร

นั่งช่วงสาม ต่อจากภาวนา เกศา ฯลฯ พอพ้นจากแรงเหวี่ยงมา ค่อยสบายตัว
สบายหัวหน่อยคับ มันโล่งไปหมด นิ่ง และสงบดีคับ

 

มาแล้ว มาแล้ว เพิ่งจะออกจากปฏิบัติ สดๆร้อนๆครับ
สงสัยศิษย์อีกหลายคนยังนอน คร๊อกฟี้ๆกันอยู่ เช้าวันอาทิตย์มั้งตื่นสายกันหมด อิอิ
ขอขอบพระคุณ อาจารย์ suwi และอาจารย์ บาส อย่างสูงครับ ที่มาเปิดห้องใหม่ให้พวกเราได้มีโอกาสมาศึกษาต่อครับ ขออาจารย์ บาสอย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะครับ พวกเราบางคนมีของเก่ามาด้วยเวลาปฏิบัติตามที่อาจารย์ บาส สอนแต่รู้เท่าไม่ถึงกาลเอามาปนกับที่อาจารย์สอนโดยไม่ทราบเลย อาจารย์ บาส ก็ช่วยชี้แนะด้วย พวกเราก็พยายามตัดออกไปนะครับ อย่างผมตอนนี้ก็ตัดออกหมดแล้วครับ อาจมีบางคนยังทำไม่ได้
และก็มีบางคนพยายามปนของอาจารย์ บาสกับของๆเขา จำพวกหลังนี้ถ้าเขาไม่ยอมเปลี่ยน อาจารย์ บาส ก็เห็นทีต้องทำอย่าง อ. suwi บอกครับเอาไม้เรืยวมาจัดการให้เข็ดเลยครับ หรือให้ยืนขาเดียวหน้าห้องแล้วท่องบทละห้าร้อยครับจะได้จำ อิอิ
ส่งการบ้านครับ
ตอนบ่ายนั่งบท ๑-๓ ก็สงบดี มีอาการซ่าเหมือนเดิมครับ
ตอนกลางคืน นั่งบทสาม ผ่านหนึ่ง ช.ม มีปวดขาขวานิดหน่อย พิจจราณาลมหายใจ เกิดแก่เจ็บตาย ทำอาการซ่าให้วิ่งตามตัว ตอนขึ้นหลังมีเสียงบิดหนึ่งครั้ง ปัจเวทณ์แผ่เมตตาอุทิศบุญสองครั้งแล้วออกครับ
คือแผ่แล้วนั่งต่อแล้วแผ่อีกครั้งครับ
ต่อครับตอนเช้าวันอาทิตย์
ตื่นมาปวดขมับด้านขวานิดหน่อย ตอนปฏิบัติก็ยังรู้สึกปวดอยู่ แต่เบาลงครับ
บทสาม สงบพอสมควร อาการซ่าๆก็เหมือนเดิม มีคิดไปโน่นมานี่บ้างนิดหน่อยครับ ยังแยกจิตไม่ได้ครับ พิจจราณา เกิดแก่เจ็บตาย ลมหายใจเกิดดับ ปัจเวทณ์แผ่เมตตาอุทิศบุญ ต่อด้วยบท๑-๒ แต่ไม่ได้นับ พุทโธหลังเกสาหน้าผากตึงๆหน่อย เตโชก็ซ่าส่วนล่าง วาโยก็ซ่าด้านแผ่นหลัง อาโยรู้สึกซ่าด้านหน้าหน่อย ปฐวิก็ซ่าน้อยหน่อย
ขอบพระคุณ อาจารย์ บาส ครับ

 

เมื่อคืนนั่งบทที่ 2 เร่งเกษาให้เร็วๆ แรงให้สุดๆ
หลังพุทโธจนจบกระบวนการ ทำให้นิ่งและหายใจช้าได้ยาวนานดียิ่งนัก

 

เมื่อวานไปที่ บูท
เจอ อาจารย์ พี่ๆ หลายๆ ท่าน เก่งๆ ทั้งนั้นเลย
แต่เจอ อ.บาส แป็บเดียวเอง

ที่ อ.บาส บอกไม่ต้องไปใส่ใจสิ่งรอบข้างให้รู้ตัวเราเอง
มาคิดได้ก็เลยมีกำลังใจในการปฏิบัติขึ้น
จะพยายามต่อไปคะ

ท่องบทที่ 1 + 2 มีหลุดบ้างประปราย
ยิ่งเร่งคำภาวนา เหมือนจะหลุดจากการนับคะ
พยายามมีสติควบคุมแล้วก็นั่งต่อ
อาการนอกเหนือก็ไม่มีอะไรมาก
ทั้งๆที่เปิดแอร์ แต่กลับรู้สึกร้อน
รู้สึกคอแห้ง มีอาการไอบ้างนิดหน่อย

อ.บาส มีข้อแนะนำอะไรบ้างหรือเปล่าคะ

 

ส่งการบ้านบทที่3ค่ะ
นั่งเมื่อเช้า ก็ไปเรื่อยๆไม่มีอะไรแปลกใหม่ค่ะ จิตเบา ลมหายใจละเอียดขึ้น
ตอนแผ่เมตตาก็พยายามนั่งให้นานขึ้น ก็รู้สึกเบาสบายดีค่ะ แต่สงสัยว่าแผ่เสร็จแล้วให้นั่งต่อไปนี่ ให้ทำจิตยังไงคะ นั่งแผ่ไปเรื่อยๆ หรือนั่งเฉยๆ แล้วให้จิตจับที่ไหนคะ ขอบคุณค่ะ

 

ยอดเยี่ยมเลยครับ ท่าน อ. สุวิ

 

มาส่งการบ้านครับ
เมื่อเช้านั่งตอนตีห้าครึ่ง
เริ่มสวดมนต์ ครับ
แล้วนั่งบทที่ 1 จุดเทียน
นับ 1-100 หายใจเข้าออกยาวๆ นิ่งดีครับ
พุทโธ 1-100 นิ่งดีครับ
เกศา โลมา 1-100 เร่งคำภาวนา จนไม่เป็นคำพูด รู้สึกสั่นภายในเล็กน้อย
พุทโธ 1-100 หายใจเข้าออกช้าๆ ดีครับ นิ่งดี
แผ่เมตตา รู้สึกแผ่ไปได้ไกล ไปได้สุดๆครับ
แล้วก็นั่งนิ่งๆสักพัก สงบ ว่างๆ โล่งๆ
แล้วมาต่อบทที่ 2
พุทโธ 1-100 นิ่งสงบดีครับ
เตโช 1-100 มองเห็นเปลวเทียนในจิต ย่อขยายได้ รู้สึกอุ่นๆ
วาโย 1-100 เห็นลมในจิต ภาวนาไปเรื่อยๆครับไม่มีอะไร
อาโป 1-100 ไม่เห็นอะไรละครับ ภาวนาไปเรื่อย
ปฐวี 1-100 ภาวนาไปเรื่อยๆคับ ไม่มีอะไร
พุทโธ 1-100 สงบดีครับ ไปเรื่อยๆ
เกศา โลมา 1-100 เร่งคำภาวนา สั่นภายในเล็กน้อยครับ
พุทโธ สักพัก คำภาวนาหาย เลยนั่งนิ่งๆไปเรื่อยๆ
สักพัก แผ่เมตตา แล้วก็ นั่งนิ่งๆสักพัก
ต่อด้วย พิจารณาความแก่ เจ็บ ตาย กฏแห่งกรรม คับ
แล้วก็ออกจากสมาธิ
รวมแล้วนั่งเกือบ 2 ชั่วโมงครับ
วันนี้ไปวัดสัมพันธวงศ์ ไปกราบพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุพระอรหันต์มาครับ
ได้พระธาตุส่วนสมอง กับที่เป็นสัณฐานข้าวสารหักมาบูชาด้วยครับ
ร่วมทอดกฐินสร้างมหาเจดีย์ ที่จะสร้างที่อุดร
ไว้เก็บพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุด้วยครับ
แล้วก็บริจาคค่าน้ำ ค่าไฟของทางวัด
เพื่อนๆมาร่วมยินดีในบุญด้วยนะครับ

 

รายงานบ้างละกันครับ ฮ่ะๆ

เมื่อวานไม่ได้เข้าบท 3 แค่ 1 กับ 2

เอาเน้นๆ แบบดูจิตเต็มที่

บท 1 มีการเปลี่ยนแปลง ทุกองค์ภาวนา ทุกการภาวนา

เปรียบคงเหมือนที่เคยเปรียบครับ แต่ครั้งนี้ชัดเจนกว่าเดิม แม้จะนั่งแค่อย่างละ30

เหมือนเหยียบคันเร่ง เป็นเกียร์ๆไป ถึงจุดเปลี่ยนเกียร์ถ้าเราไม่เปลี่ยนมันก็สุดแค่นั้น

พอเปลี่ยน ก็จะถอยออกมาเล็กน้อยก่อนจะดิ่งลงไปมากขึ้น

บท 2 มีการเปลี่ยนแปลง มีความแตกต่าง แต่จำไม่ได้ครับว่าเป็นเช่นไร สติไม่พอครับ เริ่มเลอะๆเลือนๆ

 

ยินดีในบุญด้วยครับ
วันนี้ตื่นสาย มาก = =

ทำการบ้าน บทที่ 2 แล้วเจ็บแปล๊บๆ บริเวณ อกด้านซ้าย ครับ

ส่วนบทที่สาม เคว้งๆ ครับ เหมือนกับไม่รู้จะไปทางไหนต่อ ก็พิจารณา
เกิด แก่ เจ็บ ตาย ครับ

ผมควรเน้น บทไหนเป็น พิเศษไหมครับ เหมือนจะ ฝ่อๆ ไปครับ อาจารย์
สุขภาพ ก็เริ่มแย่ลงอีกละ

*อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพกันด้วยครับ

 

อืมมม !!... ค่ะ
หอบผ้าหอบผ่อน..อพยพ..ตามมากับเขาด้วยคน....อ่ะนะ

 

ส่งการบ้านบทที่ 2 ค่ะ
องค์ภาวนาอย่างละ 100
มีเหมือนอาไรบางอย่างยุบยิบวิ่งไปวิ่งมา
บริเวณใบหน้าและมือและขา ขนลุกบ้างบางครั้ง
ช่วงพุทโธตอนสุดท้ายนั่งได้นานกว่าเดิิม
จะพยายามต่อไปค่ะ

 

-/\- สาธุ กราบขอบพระคุณอาจารย์สุวิ ที่ช่วยย้อนความเรื่องเริ่มต้นครับ
ตามในกระทู้ เรื่องเล่า ตอนสายฯ เห็นลูกศิษย์ส่งการบ้านกันใหญ่
นึกในใจ เค้าเรียนอะไรกันหว่า 5555
ได้หนังสือเรียนจากอาจารย์สุวิแล้ว ดีใจมากๆ ครับ
แล้วจะค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ท่อง ค่อยๆ จำครับ

ขอเรียนกับอาจารย์บาสด้วยคนนึงนะครับ
ขอบคุณท่านอาจารย์ทั้ง 2 ท่านด้วยใจจริงครับ -/\-

 

ยินดีด้วยครับ............

 

ถึงแม้ว่าจะย้ายอีกซักกี่บ้าน....

ก็จะตามไปอย่างเหนี่ยวแน่น...

สลัดยังไงก็ไม่หลุด....แน่ๆ....ค่ะ

ถึงจะเป็นศิษย์ที่ขี้เกียจ... แต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะฝึกต่อไป

กำลังดูตัวเองอยู่ว่า จะขี้เกียจได้ซักกี่น้ำ..... หึ หึ....

ขี้เกียจเ่ก่งจนน่าได้โล่ห์จริงๆเล๊ย......................



ขอบคุณท่านอ.สุวิ ที่เปิดกระทู้สุดเก๋ สงสัยต่อจากนี้คนที่จะเข้ามาฝึกหรือเข้ามาอ่านกระทู้นี้ได้
คงจะมีแค่เฉพาะ "แฟนพันธ์แท้" ของอาจารย์ทั้งสอง กระมัง........................


.

 

ขอบพระคุณ อ.สุวิค่ะ ก็ขอส่งการบ้านค่ะ ยังคงฝึกสลับบท 1และ2อยู่ แต่วันอาทิตย์จะไปทำบุญที่วัด จิตตวิเวก คืนวันเสาร์เลยเข้าห้องพระ จุดเทียน นั่งควบ 2บท เริ่มจากบท 1 อย่างละ 50 จนจบ แล้วนั่งนิ่ง ๆ อีกสักพัก ก็ต่อบท2 อีกอย่างละ 50 ยังจับความรู้สึกไม่ได้ค่ะ ก็ขอตั้งใจสู้ไม่ถอยค่ะ สักวันคงจะทำได้เหมือนคนอื่นเ้ค้าบ้าง

มีบุญมาฝากค่ะ วันนี้ได้วิและสามีได้ ทำอาหารคาวหวาน พร้อมข้าวสวย และน้ำดื่ม ไปถวายเพล และถวายสังฆทาน อาหารแห้ง และยาต่างๆ และน้ำดื่ม ที่วัดจิตตวิเวก ใน Chithurst พร้อมถวายปัจจัยทำบุญ 20ปอนด์

และได้ถวายเจดีย์แก้วบรรจุพระธาตุแ้ก้วจักรพรรดิ์ แด่พระสงฆ์ที่ท่านมาจำพรรษาที่นี่ เพื่อนำกลับไปที่วัดใน สวิสเซอร์แลนด์หลังออกพรรษาพร้อมด้วยปัจจัยที่รวบรวม จากคณะบุญที่ไปด้วยกันในวันนี้ถวายท่านด้วยค่ะ