ข้าพเจ้า คือศรีอาริยะเมตไตย เพราะเหตุใด

"ยกตนเป็นเจ้าโลก " ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

เพิ่มเติมเรื่องการแผ่บุญกุศล หมายถึง การแบ่งบัน ความดีให้กับผู้อื่น แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานะภาพของบุคคล ว่าบุคคลนั้นเป็นใคร เช่น เป็นปุถุชนคนธรรมดา ทั่วๆไป เขาก็จะแผ่บุญกุศล โดยการ ประพฤติดี ทั้งทาง กาย วาจา และใจ นี้เป็นหลักใหญ่ ส่วนจะประพฤติอย่างไรนั้น ก็ไปแยกแยะรายละเอียดเอาเอง
ถ้าเป็นนักบวช เขาก็จะแผ่บุญกุศล ด้วยธรรมะ คือสอนธรรม ให้ธรรมะ นี้เป็นการแผ่บุญกุศล
แล้วคุณมี ความดี อะไรที่จะมาแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้กับข้าพเจ้า ไม่รู้อย่าสะเออะน่า

ทำเป็นอวดรู้ อีก 2500 ปี ลัทธินอกศาสนา โธ่เอ๋ย อนาถในความคิด ข้าพเจ้าไม่ได้มาตั้งลัทธิ พวกคุณพูดเองเออเองทั้ง นั้น
ข้าพเจ้าเพียงประกาศตัวว่า ข้าพเจ้าคือ ศรีอาริยะเมตไตย ไม่เกี่ยวกับพุทธองค์อะไรของพวกคุณ เพราะพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ของพวกคุณไม่มีอย่างแน่นอน
เพราะ พระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ของพวกคุณนะ จะลงมาสอนเรื่องอะไรให้พวกคุณอีก เพราะอะไรอะไร ก็มีอยู่ในพระไตรปิฏกอยู่แล้ว
ข้าพเจ้า คิอบุตรแห่งพรหม ผู้พระนามว่า พระนารายณ์ เป็นเพียงคำบอกเล่าของข้าพเจ้า ไม่เกี่ยวกับหลักการ หรือธรรมะของข้าพเจ้า
ไม่อย่างนั้น พระสมณโคดม จะมีประวัติ เป็นบุตรของคนนั้นคนนี้ แถมยังมีประวัติ เสด็จขึ้นไปเยี่ยม พระบิดา พระมารดา บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ รึคุณ หัดใช้สมองอันน้อยนิดคิดพิจารณาในทางที่ถูกที่ควรซะบ้าง แล้วจะหาว่าไม่เตือน

 

สำหรับ คุณ แมงนุ่น(noone)
ถ้าคุณมึงคิดว่า ข้าฯโม้
แน่จริง เองก็มาพิสูจน์ซิวะ ทำตัวเป็นสุนัขถูกล่ามโซ่เห่าอยู่นั่นแหละ

 

พระพุทธเจ้าไม่เคยบอกให้ใครเชื่อในสิ่งที่สอน ไม่เหมือนคุณที่พอใครไม่เชื่อแย้งหน่อยก็ด่าก็ว่า

 

(ฮา)
ถ้างั้นทำไมต้องมีพระพุทธเจ้าองค์ที่๔ละครับ(ฮา)
มันก็คงเหมือนกันละนะครับ
เรื่องอื่นไม่พูดครับ เพราะไม่ทราบ(ฮา)

 

อะไรจะปานนี้อ่ะ ดุเด็ดเผ็ดมันเหลือเกินนะ เด๋วได้ออกหนังสือผมทุกคนแน่ๆ555

 

ผมเชื่อ คุณแล้วคุณเทวดา ว่าคุณเป็น คนบ้าจิงๆๆ

 

มองดู ทำตา ปริบๆ - -

 

พี่พึ่งรู้เหรอฮะ?

ปล.มีคนกำลังหาเรื่องให้คนนี้ ไปรับยา + ฟื้นฟูสติ ใน ศรีธัญญา เร็วๆนี้ ปล่อยเขากร่าง ต่อไป

 

ผมว่าเอาเวลาไปปฏิบัติธรรมดีกว่านะฮับ

พระศรีอาริย์ไซเบอร์

ปล เขาอาจเป็นพระศรีอาริย์จริงๆก้อได้ ใน matrix นะ

 

พระศรีฯไฮเทค เมื่อมนุษย์มีอายุยืน ๘ ๐ ปีนั้น จะมีพุทธลักษณธ ไม่เหมือนในอนาคตวงศ์
....... เพราะเป็นคนละองค์กัน เพราะมี “พุด ทะ ลัก สะ หนะ “ พิเศษดั่งนี้
......๑)ก่อนลงมาจุติ มาบำเพ็ญบารมี พระพุทธเจ้าไฮเทคกึ่งพุทธกาลนี้...ได้รับการทัดทานจากเหล่าเทวดาทั้งหลาย ว่า ...” ข้าแต่ท่านผู้เจริญอย่าลงไปเลย ไม่ต้องไปช่วยเร่งพุทธทำนายของพระพุทธเจ้านามว่า พระพุทธมะโคดม .....ว่าจะเกิดกลียุคกึ่งพุทธกาล ......หากท่านลงไปจุติ จะทำให้เกิดสังฆเพทเร็วขึ้น เพราะไปให้ข้อธรรมแก่สมมุติสงฆ์บวชใหม่ ให้เข้าใจใน อริยสัจจ์ ๔ ผิดพลาด อย่างแน่นอน“....ในที่สุดก็หนีมาเกิดจนได้
......๒)จึงเป็นเหตุให้พระมารดาฝากพระครรภ์ที่สถานพยาบาล แทบไม่ทัน
.....๓)ในระหว่างอยู่ในพระครรภ์ รกพันคอ เกือบเอาชีวิตไม่รอด
.....๔)เมื่อทรงเคลื่อนออกมาจากพระครรภ์ สันฐานกลมกลิ่งดั่งลูกขนุนแก่จัดพลัดตกจากต้น
.....๕)ตกกลิ่งไปได้ ในระยะ ๗ ก้าวเดิน
.....๖)ริมฝีปาก งดงาม ดั่งราชบุตรแห่งพระยา “ กาสร”
.....๗)ยามแย้มยิ้ม ดั่ง พระยากาสรได้พบปะพระยากาสีร์
..... ๘)ในยุคนั้นเมื่ออายุแห่งมนุษย์ยืนยาว ๘๐ ปีก็ยังยาก ก็จักเจริญด้วยอายุ ณ.สมันนั้น
......๙)จักบังเกิดในโลก จักทำให้กาลียุคเกิด ข้าวยากหมากแพง มีระบบการจัดเก็บภาษีอานๆเลย
......๑๐)ความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าไฮเทคนี้เอง จึงเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยผู้ถึงพร้อมด้วย อวิชชา (ความรู้) อจรณะ (ความประพฤติ) เป็นต้น
.....๑๑)แสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย พร้อมทั้งอรรถะพยัญชนะ ตรงตามความเป็นจริง ดั่ง ไม้ตีพริกตกลงมาท่ามกลางนภากาศ ยังปฐพี
.....๑๒)บริหารภิกษุสงฆ์คือตนคนเดียว
.....แบบรวบรัดอำนาจ
...... และบริหารภิกษุสงฆ์ ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า สมณะโคดม ให้มีร้อยเป็นอเนก
....จักกล่าวปรามาสหมู่สงฆ์นั้นเป็นปกติ กล่าวปรามาสหมู่สงฆ์นั้นว่าโง่ ที่ไม่มาฝัง “ ธรรมอริยสัจจ์ ๔ แห่งตน ที่จำและตีความอย่างผิดๆ จากพระพุทธองค์พระองค์ก่อนๆ และเต็มไปด้วย มานะ ทิฏฐิ “ ถึงขนาดต้องจดทะเบียนลิกขสิทธิ์
......๑๓) วรรณะ (ผิวพรรณ) เทียบกับพระพุทธองค์ปัจจุบัน มีความงาม ดั่ง ท่านผู้มีที่มีเล็บงาม ที่เป็นกุตถัง
......๑๔) สุข โภคะ (ทรัพย์สมบัติ) ต้องอาศัยเครดิตจากสถาบันการเงิน
.....๑๕)เมื่อพระศรีฯไฮเทค...ตรัสรู้ คือต้นกระทิง(แดง) มีกำหนดแต่พื้นถึงค่าคบแห่งไม้มหาโพธินั้น ได้ กล่าวคือ ดั่งขวดแก้วลำต้นแลลำกิ่งแห่งพระมหาโพธิพฤกษ์นั้น สีน้ำตาล มีกิ่งก้านดั่ง ต้นคาเฟอีน
........๑๖)ดอกต้นกระทิง(แดง) (ผลหรือราคา...สินค้า) นั้น ขยายแย้มเบิกบาน จนถึงถวายเพลิงพระบรมศพ เป็นเครื่องสักการบูชาปาฏิหาริย์(ราคาไม่ตก)
......๑๗) มีพระวรกายสูงได้ ๑๖๘ เชนติเมตร คือตั้งแต่พื้น ถึงยอดเกษา
......๑๘)ลักษณะข้อปล้อง มีพระกล้ามเนื้อ ในพระวรกาย....ดั่งปูนา ชูก้าม
.......๑๙)พระศรีฯไฮเทค นั้น มีพระเนตรกว้างบริสุทธิกระพริบ ถี่ๆ ด้วยความหวาดระแวง แกลงคนอื่นๆจะรู้ทัน
.......๒๐)และพระเนตรนั้นมีกำลังแลเห็นเมล็ดพันธุ์ผักกาด ที่อยู่ในความมืดได้ ด้วยนำไฟฉายมาช่วยส่องจึงเห็น
.......๒๑)ฉัพพัณณรังษีที่แผ่เป็นวงล้อมตนนั้น..ก็ด้วยการอัดฌาณของตน...ดั่งคนท้องผูกทำธุระ
.......๒๒)เป็นรัศมีที่แผ่ไปไกลแสนไกลหาที่สุดมิได้ ไม่เกินผิวหนัง ดั่งกิ่งก่าได้ทอง
........เมื่อยามปกติประดุจ จิ้งจก เปลี่ยนสีได้
......๒๓)ขณะที่ดำเนินนั้นเล่า “ ก็จะมีดอกบัวขาวใหญ่ผุดขึ้นรองรับพระบาทไม่ทัน” จึงต้องตัดรองเท้าหนังเป็นกลีบดอกบัวแทน สีขาวสว่าง
.......๒๔)องคชาติมิได้เก็บเข้าฝัก....แต่กลับพร้อมใช้งาน...หากสตรีใดเดินผ่านพอเอื่อมมือถึง หากลูบก้นไม่มีหาง สตรีนั้นอาจท้อง โดยบุตรหาบิดาไม่ได้
......๒๕)ศาสนาศรีฯไฮเทค นั้น จะสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน ต้องตามประทีปโคมไฟ เพราะรัฐบาลอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เลยนึกว่าเป็นบารมีแห่งตน
...... ด้วยเหตุฉะนี้ถ้าหากคนเมืองบัว ได้พบได้เห็น คงต้องค้อมตัว กราบแทบตีนเขาผู้นั้น แล้วอธิษฐานดั่งนี้
.....”ข้าแต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ปัจจุบัน....เป็นวาสสนาแห่งข้าพระองค์ในกึ่งพุทธกาลนี้ ที่ได้รู้ได้เห็นได้ยิน ความเป็นพุทธไฮเทค....ไม่เสียชาติเกิดจริงๆ....เขานี้แหละควรเป็นครูแห่งข้าพระองค์ ว่าไม่ควรทำตาม รู้ตาม เห็นชอบตาม พุทธไฮเทค....เพื่อจะได้ไม่เป็นการขัดขวางในการบำเพ็ญบารมี โพธิญาณของตนที่ไม่รู้ว่าจะเต็มเมือใด
......เขาควรที่จะเป็นตัวอย่างที่ดี แก่ผู้ที่หวังความเจริญ ในการปฏิบัติตน ให้มีความเห็นตรงตามคำสังสอนของพุทธองค์พระนามว่าพุทธมโคดม
.....ข้าพระพุทธเจ้าขอมีพระนิพพานเป็นที่ไปในที่สุดแห่งบารมี โดยเฉียบพลันด้วยเถิด “
....คนเมืองบัว ผู้ค้นคว้ารวบรวม มี “พุด ทะ ลัก สะ หนะ “ พิเศษนี้
....ผิดพลาดประการใดให้โจทย์โทษ คนเมืองบัว แต่เพียงผู้เดียว


ลักษณะอัศจรรย์ดีแท้ (b-wow) จาก
http://www.konmeungbua.com/webboard/...n.asp?GID=2980
<!-- / message --><!-- sig -->
ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=3182

 

อ่านแล้วตลกจังครับ คุณที่อ้างเป็นพระศรีอาริยะเมตไตย ผมไม่ได้ดูถูกคุณนะครับ และไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ศาสนาเลยแม้แต่น้อย ผมเชื่อมาตลอดว่าพระพุทธศาสนามีอายุ5พันปีแล้วจะสิ้นสุดจะเกิดพระพุทธเจ้าอีกพระองค์ขึ้นมา อาจจะเกิดมาแล้วรึยังไม่มาผมก็ไม่สามารถไปรูได้หรอกครับ แต่ที่รู้ได้เพียงอย่างเดียวคือ พระองค์นั้นมีจิตใจที่งดงามเสมอไม่คอยจ้องจับผิดคนอื่นหรอกครับ เช่น จ้องจับผิดคนที่เขียนกระทู้แบบนี้ พระองค์จะปล่อยวางและไม่มีทางว่าผู้อื่นเด็ดขาด มีแต่จะพูดด้วยหลักเหตุผล ส่วนคุณไม่เลย คอยจ้องจับผิดหาเรื่องคนอื่นเสมอ อย่าว่านู้นว่านี้เลยครับ ศีล5ของคุณรักษาให้บริสุทธิ์ได้ไหมครับ รักษา กาย วาจา และก็ใจ ทำได้ไหมครับ พระพุทธเจ้าทรงเปรียบมนุษย์ไว้เหมือนกับ บัว4เหล่า อย่างคุณผมให้เหล่าที่5เลยครับ เพราะว่าสอนไม่ขึ้นแล้ว
ผมจะแผ่เมตตาให้นะครับ เพื่อคุณจะได้ไม่นรกถึงตกก็ไม่ลำบากมากครับ ทุกคนในเว็ปจะช่วยแผ่เมตตาให้กับ มนุษย์ที่โง่เขลายังไม่กลับตัวกลับใจ แนะนำครับ ว่างๆไปเซ็คสมองบ้างครับ อย่างคุณไม่มีคุณสมบัติเลยสักข้อที่จะกล่าวถึง พระศาสดาของโลก พระพุทธเจ้าองค์ใหม่เลยครับ เพราะว่า ศีล5คุณยังไม่บริสุทธิ์ ลองเอาไปคิดดูนะครับ ถ้าคุณเอาแต่จ้องจับผิดคนอื่นที่เขียนกระทู้ขึ้นมา คุณก็ไม่ต่างอะไรกับ บัวเหล่าที่5 หรอกนะครับ และจะต่ำเสียยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก

 

ผมขอให้คุณ telwada ถอนตัวจากการเป็นพระศรีอาริยะเมตไตย ซักเถิดครับ เพราะ ตอนนี้โลกใกล้จะวิบัติแล้ว ยิ่งคุณได้ตำแหน่งพระศรีอาริยะเมตไตย ผมว่ายิ่งจะทำให้โลกฉิบหายวายวอด หรือวิบัติเร็วกว่าเดิม ยิ่งดูจากวลีที่คุณพิมพ์ ถ่อยจริงๆครับ รอกฎแห่งธรรมชาติสั่งสอนล่ะกัน แค่นี้พระพุทธองค์ก็ทรงถอนใจแล้วครับ ถึงคุณจะเป็นพระศรีอาริยะเมตไตยจริงหรือไม่จริง ก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร หรือเป็นไปก็เท่านั้น ช่วยอะไรไม่ได้ แล้วจะมา จะเป็นทำไม

 

ทั้ง ความรู้ และประสบการณ์ของพวกคุณยังน้อย อีกประการหนึ่ง ระดับสมองสติปัญญาของพวกคุณก็ยังไม่สูงพอ ถ้าข้าพเจ้าบ้า คงไม่มานั่งหลังขดหลังแข็ง เล่นอินเตอร์เนตให้เมื่อยตัวดอกคุณ
แล้วก็ขอบอกให้พวกคุณรู้เอาไว้
หลักการข้าพเจ้ามี พวกคุณก็คิดแยกแยะเอาจากหลักการของข้าพเจ้าก็จะเข้าใจเอง
อนึ่ง คำว่า ลัทธินั้น แตกต่าง จากหลักการทางศาสนา
เพราะลัทธิ เป็นความเชื่อของบุคคล และเป็นการเชิ่อที่ไม่สามารถพิสุจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่ อาจจะกล่าวง่ายๆว่า ลัทธิ อาจจะไม่ใช่หลักการทางธรรมชาติก็ได้
มันก็เหมือน พระไตรปิฏกของพวกคุณ บางตอน บางอย่างนั่นแหละ ที่ถูกบิดเบือนจนกลายเป็นลัทธิ เพราะ มันไม่ใช่หลักธรรมชาติ ไม่ใช่หลักความจริง
ยกตัวอย่างเช่น ระลึกชอบ ดำริชอบ อย่างนี้ มันเป็นการบังคับธรรมช่าติของมนุษย์ หรือของสัตว์ หรือของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ไปบังคับว่า ต้องคิดดีนะ ต้องนึกถึงสิ่งที่ดีนะ ซึ่งในทางที่เป็นจริงแล้ว มนุษย์ไม่ใช่มีเราเพียงคนเดียว ต้องมีการประสานปฏิสัมพันธ์ กับบุคคลรอบข้าง ดังนั้น เราก็ต้องรู้ว่า ธรรมชาติ ของมนุษย์ ย่อมมีทั้งที่คิดดี และคิดไม่ดี ต้องรู้ว่า ย่อมมีทั้งที่ปฏิบัติดี และปฏิบัติไม่ดี เป็นธรรมดาของการสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ถ้าทุกคนนึกถึงหรือคิดถึงหลักธรรมชาติ อันเป็นไปตามหลักการของข้าพเจ้า แน่นอน บุคคลย่อมเจริญด้วยสติปัญญา เพราะต่างคนต่างก็รู้ว่า การสังคมเป็นอยู่ร่วมกัน ย่อมตัองมีดี และไม่ดี เมื่อรู้แล้ว พอไปสัมผัส หรือประสบเข้า ก็จะสามารถขจัดอาสวะได้
แล้วก็ขอบอกพวกคุณไว้เลยว่า ข้าพเจ้าคือ ศรีอาริยเมตไตย ไม่ใช่แอบอ้าง ถ้าพวกคุณคิดว่าข้าพเจ้าแอบอ้าง
ก็เอาคนที่พวกคุณว่าเป็นของจริง มาพิสูจน์กับข้าพเจ้าได้ ข้าพเจ้าย้ำเสมอ ว่า กล้าท้าให้พิสูจน์ สำหรับหลักการก็พิสูจน์ไปแล้ว ใครจะหือ ใครจะเถียง ก็ว่ามาได้เลยนะ และ

ไอ้พวกเปรตนรก เดียร์ถี
อย่าทำเป็นได้ที กล่าวร้าย
ว่าข้าฯนี้ ปรมาส ทำลาย
พวกฉิบหาย มึงจงคิดให้ดี

 

***มันก็เหมือน พระไตรปิฏกของพวกคุณ บางตอน บางอย่างนั่นแหละ ที่ถูกบิดเบือนจนกลายเป็นลัทธิ เพราะ มันไม่ใช่หลักธรรมชาติ ไม่ใช่หลักความจริง
ยกตัวอย่างเช่น ระลึกชอบ ดำริชอบ อย่างนี้ มันเป็นการบังคับธรรมช่าติของมนุษย์ หรือของสัตว์ หรือของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ไปบังคับว่า ต้องคิดดีนะ ต้องนึกถึงสิ่งที่ดีนะ***
โห..ท่าน ไม่กลัวนรกจะกินกบาลรึไง เล่นถึงพระไตรปิฎก เล่นถึงอะไรต่ออะไร ไปไกลแล้วนะ เล่นของสูงทั้งนั้น เอาอย่างนี้ดิ ถ้าเป็นของแท้นะ ไปออกทีวีเลย ไปหาหลวงตามหาบัว บอกว่า กระผมคือ พระศรีอาริยะเมตไตร จุติลงมาเกิด ไปบอกเลย แล้วสอนธรรมมะแก่ท่านด้วยนะ ออกทีวีเลย ออกวิทยุเลย ทำซีดี แจกฟรีเลย เอาเลย จะคอยเปิดข่าวดู เอานะถ้าแน่จริงทำด้วยนะ เดียร์ถี

 

อย่าลืมทำนะ ถ้าแน่จริงทำด้วยนะ จะไปคาราวะถึงที่เลย ไปป่าวประกาศให้ทั่วประเทศเลยนะ แล้วพอทั่วประเทศแล้ว ไปบอกประเทศอื่นที่บันถือพุทธด้วยนะ โดยเฉพาะ อินเดีย ไปเลย เคยดูข่าวรามะน้อยที่นั่งๆอยู่แล้วไฟลุกอ่ะ ท่านยังไม่อวดเลย และยังพูดว่าเราไม่ช่ายพระศรีอาริยะเมตไตรอย่าเอาเราไปเปรียบกับท่านผู้เป็นศาสดาของโลกเลย อย่าลืมทำนะอ้างว่าเป็นพระศรีอาริยะเมตไตรไม่ช่ายหรอ เรื่องแค่นี้สำหรับ พระศรีอาริยะเมตไรตัวจริงแล้วอ่ะก็ ไม่มีทางทำไม่ได้หรอกเพราะท่านมีบารมีสูง มีเทวาอารักคอยช่วยเหลือ อย่างเจ้านะ อย่าว่าแต่เทวาอารักเลย แค่สัตว์นรกเห็นยังส่ายหน้าเลย เราชาวพุทธเมื่อเห็นสิ่งไม่ชอบเราไม่อยากจะนิ่งเฉยหรอกนะ เพราะยิ่งนิ่งเฉยยิ่งไปไกลแล้ว มันจะเสื่อมเพราะคนโง่เขลานี้แหละ ปัจจุบันนี้พระพุทธศาสนาก็สอนผิดๆไปมากเต็มทนแล้วนะ แต่ก็พออภัยได้ไม่ได้หนักหนาขนาดอ้างตัวเป็นพระศรีอาริยะ และไม่ได้ว่ากล่าวร้ายของคำสอนพระพุทธเจ้า และไม่ได้ละเมิดต่อพระไตรปิฎก เราลูกหลานชาวพุทธ นับถือพระรัตนไตร มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และเชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ไม่เคยทำตัวนอกคอกเลย ไปทำด้วยนะท่านผู้เจริญ
ไปป่าวประกาศ ออกทีวี ไปหาพระอาจารย์ที่คนนับถือมากๆ ไปหาพระสังฆราชไปบอกให้ทั่ว ไปบอกเลยนะท่าน อย่าเก่งแต่ปาก ที่เห่าหอนไปเรื่อยๆ เห็นแล้วเซ็ง คนเก่งนะไม่มาเห่าหรอกเขาทำกันให้รู้ไปนานแล้ว

 

- - นั่งดูจนตากลม

 

ขอร้องล่ะครับ ผมอยากให้คุณ telwada ถอนตัว สละสิทธิ์ ในการรับตำแหน่งพระศรีอาริยะเมตไตยเถ่อะครับ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเถอะครับ และเห็นแก่ความผาสุขของมวลมนุษย์เถอะครับ เท่านี้ทุกคนก็เจ็บช้ำในวิบัติต่างๆมากพอแล้วครับ ทุกคนย่อมรับกรรมที่ตนเองทำทั้งนั้น โปรดอย่าได้มีอะไรมากไปกว่านี้เลยครับ
รับไม่ได้จริงๆครับที่โลกเราจะมีพระศรีอาริยะเมตไตยที่นิสัยไม่ดี ต่ำทราม ถ่อย จิวิปริต ก็เหมือนกับให้คนบ้าวิกลจริตพิการ เป็นนักโทษขมขื่นแล้วฆ่า มาเป็นผู้บริหารประเทศคุณ telwada จะยอมรับไม่ละครับ หยุดเถอะครับ ถึงโลกจะแตกหรือไม่แตก ก็ปล่อยเป็นไปตามกฎแห่งธรรมชาติเถอะครับ ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตน มีเมตตาต่อกัน รักษาศีลธรรมของตนเองให้ดีที่สุดก็พอ มีหรือไม่มีพระศรีอาริยะเมตไตย ผมก็ยังใช้เงินของผมซื้อข้าวกินเอง ยังต้องฝ่าน้ำท่วมเพื่อไปทำงาน ยังต้องคิดวิธีว่ากูจะนอนที่ไหนอย่างไรดี น้ำท่วมขนาดนี้ มีหรือไม่มีพระศรีอาริยะเมตไตยก็แค่นั้นช่วยดูดน้ำออกไปทีได้ไหมล่ะ จะเป็น จะมี จะมาทำไม คำสอนของพระพุทธเจ้าก็ยังไม่หายไปไหน ใครทำดีก็
ไปสวรรค์ คนชั่วก็ตกนรกอยู่ดี ไม่ว่าใครหน้าไหนหรือใหญ่แค่ไหนก็หนีกฎธรรมชาติไม่พ้น ต่อให้นั่งฌาณจนมีพลังวิเศษแต่ทำตัวถ่อยห่าวหยิ่งช่วงแรกก็ไม่พ้นนรกอยู่ก็เพราะกฎธรรมชาติ จะช้าหรือเร็วก็ต้องเจอ ช่วงใครยังไม่เจอมันย่อมไม่สำนึก ก็ปล่อยให้มันห่าวหยิ่งไปก่อนเถอะครับ จะช้าหรือเร็วก็ต้องเจอ สรุป แล้วใย จะเป็น จะมา จะมีทำไม พระศรีอาริยะเมตไตย พระพุทธองค์ทรงถอนใจ (ทำไปได้ คุณ telwada) บอกที่อยู่คุณมาสิครับจะได้ไปพิสูจน์ ไม่บอกจะไปรู้รึ แค่นี้ยังไม่ตรัสรู้เลยคุณ ทำไปได้!

 

ขอร้องล่ะครับ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเถอะครับ คิดเสียว่าสงสารเถอะครับ รับไม่ได้จริงๆครับ สละสิทธิในตำแหน่งพระศรีอาริยะเมตไตยเถอะครับ ปล่อยให้คนที่มีศีลธรรม มีเมตตา เข้ารับตำแหน่งแทนเถอะครับ สละสิทธิเถอะขอร้องเถอะครับคุณ telwada ไม่งั้นโลกเราจะวิบัติแน่ครับ เพราะมีพระศรีอาริยะเมตไตยปัญญาอ่อนองค์แรก จนทำให้ต้องลงในกินเนสก์บุ๊ค ฝรั่งเค้าจะหัวเราะประเทศเราได้นะครับ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเถอะครับ คุณ telwada ถ้าคุณอยากให้พิสูจน์ก็โพสต์รูปถ่ายพร้อมที่อยู่ปัจจุบันด่วนเลยครับ ทางเราจะติดต่อกลับไป

 

ศาสนา ที่มีบนโลกมนุษย์ ล้วนมีจุดมุ่งหมาย เพื่อขัดเกลากิเลสตัณหา หรือขัดเกลา ความโลภ ความโกรธ ความหลง ในตัวมนุษย์ให้เบาบางลง
ศาสนา ที่มีบนโลกมนุษย์ ล้วนมีจุดมุ่งหมาย เพื่อสั่งสอนให้มนุษย์ได้รู้จัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง และสอนให้รู้จักวิธี ขจัดซึ่ง ความโลภ ความโกรธ ความหลง เหล่านั้น
ความโลก ความโกรธ ความหลง เป็นต้นตอแห่งพฤติกรรมต่างๆของสรรพสิ่งที่มีชีวิต ทั้งที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง และที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ พฤติกรรมต่างๆเหล่านั้น ย่อมประกอบไปด้วย พฤติกรรมทางกาย วาจา และใจ พฤติกรรมต่างๆเหล่านั้น ล้วนมีสาเหตุมาจาก ความโลภ ความโกรธ และความหลง
พฤติกรรมต่างๆที่เกิดจากความโลภ ความโกรธ ความหลง ล้วนเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่งที่มีชีวิต ทั้งที่เคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง และที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
พฤติกรรมต่างๆ ทั้งทางกาย วาจา และใจ ล้วนก่อให้เกิดธรรมะ คือคำสอน เพื่อให้สิ่งที่มีชีวิตทั้งหลาย ที่สามารถเข้าใจในการติดต่อสื่อสาร ได้รู้ว่า พฤติกรรม ทั้ง ทางกาย วาจา และใจ อันเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่งนั้น
ล้วนเป็น เหตุแห่งทุกข์
ล้วนเป็น เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์
ล้วนเป็น เหตุแห่งความดับทุกข์ และ
ล้วนเป็น หนทางดับทุกข์
ทุกข์ ในที่นี้ ก็คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง อันก่อให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ ทั้งทาง กาย วาจา และใจ ล้วนเป็นหลักการ เป็นธรรมะแห่งข้าพเจ้า กล่าวคือ
ความโลภ ความโกรธ ความหลง อันก่อให้เกิดพฤติกรรมต่างๆทั้ง ทางกาย วาจา และใจ นั้น ล้วนมีสาเหตุมาจาก
1.)การให้ทาน และ 2.) การครองเรือน
3.) กตัญญู และ 4.) เจรจา
5.) สรรพอาชีพ และ 6.) ประพฤติ ( เมื่อยื่นขอจดลิขสิทธิ์ครั้งแรกนั้น ใช้คำว่า สัมมาอาชีพ ประพฤติ เนื่องจากตอนนั้น นึกหาคำไม่ได้)
7.) ระลึก และ 8.) ดำริ
ทั้ง 4 คู่ 8 ข้อนี้ เป็นทั้ง เหตุแห่งทุกข์ เป็นทั้ง สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ เป็นทั้ง สาเหตุให้ถึงความดับทุกข์ และ เป็นทั้ง หนทางดับทุกข์
ศรีอาริยเมตไตย

ไม่สามารถอ่าน ความคิดเห็นของคุณได้ เพราะสัญญาณ อินเตอร์เน็ตมีปัญหา