ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    เห็นด้วยอย่างยิ่ง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    มันก็มีมาหลายปีแล้วนะแบบที่ว่านี่ แต่ไม่อยากจะขัดเพราะขี้เกียจ
     
  3. เฌ

    เฌ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +415
    ^
    ^
    ท่านหนุมานฯ ณ.เวลานี้ เดี๋ยวนี้วัยรุ่นหลายๆคน ไม่รักในหลวง และมีมากขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าตกใจ เพียงแต่เป็นการไม่กล้าแสดงออกต่อเวทีสาธารณะเท่าไหร่ ... นับว่าเป็นภัยเงียบที่น่าใจหายอย่างมากมาย เหตุผลมากมายที่พวกนี้ยกมาก็ใช่ว่าแย่ คนส่วนใหญ่ไม่พูด เด็กๆกล้าพูดเพราะยังไม่บรรลุภาวะแห่งการรับรู้อย่างพอเพียง ส่วนพวกที่รู้ก็กลัวโดนกฏหมายเล่นงาน ต่างพากันนิ่งเงียบ เป็นคลื่นใต้น้ำที่น่ากลัว และเป็นอันตรายต่อสถาบันอย่างยิ่ง

    ผมก็รู้ ท่านหนุมานฯก็รู้ ... แต่พากันเฉย ไม่ยากกล่าวถึง แต่กระแสใต้น้ำนี่มันลึกและไหลเชี่ยวกราก จนน่ากลัวว่า ... วันหนึ่งในกาลหน้าอาจจะไม่เข้าที อาจจะพากันจมลงในวารีก็ได้

    แต่ผมดูๆไปแล้ว... เฉยไว้ดีกว่า!
    และที่สำคัญผมก็รู้ว่าท่านหนุมานฯเองก็รู้ ... แต่ผมว่าเฉยไว้ดีกว่า!



    ^
    ^
    ที่ผมต้องพูดเพราะมันอดไม่ได้กับพวกหากิน เหมือนพวกปลิง พวกทาก ที่คอยดูดเลือดจากสิ่งมีชีวิตอื่น โดยอาศัยจังหวะ และโอกาสที่ภัยกำลังเกิดขึ้นนี้ในการสร้างประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ที่สำคัญคือกระทู้นี้เป็นแหล่งทำมาหากิน โดยผลประโยชน์สู่ที่ดินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง โดยอาศัยแหล่งข่าวจากหมอดูบ้าง หรือไม่ก็พวกด๊อกฯทั้งหลายที่เอาสถิติมาทำนาย+วิชาการที่ฝรั่งใส่สูทผูกไททำนายไว้จากเมืองนอก และผนวกไปรวมกับนิมิตเพ้อเจ้อที่ตัวเองสร้างขึ้นมาอีกในแต่ละวัน ตามจินตนาการของตนเอง ถึงขั้นพาคนอพยพไปในพื้นที่สร้างประโยชน์ให้กับตน ผ่านสื่อต่างๆมากมาย ระดมทุน ระดมทรัพย์ กันเข้าไป เพื่อโปรโมทสิ่งที่ตัวเองคิด และที่สำคัญคือมีคนเชื่อเป็นร้อยๆคน จากหลักพันหรือหมื่นคน .. แค่นี้ก็กอบโกยและสร้างรายได้โดยการหลอกให้เชื่อไปวันๆ ... เอาความฝันเรื่องภัยร้ายๆมาเล่าให้ฟังบ้างหล่ะ สร้างกระแสความแตกตื่นๆบ้างหล่ะ คาดเดาการณ์ที่ไม่รู้ว่า 5W1H เป็นอย่างไร?

    สุดท้ายก็ผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น โดยเอาคุณธรรมบังหน้า เอาสื่อบังหน้า และมีหน่วยหน้ากล้าตายเล่นบทแทน อีกต่างหาก ตัวเอ้รอด.

    ที่พูดก็เป็นห่วงคนที่ไม่รู้ และลุ่มหลงไปกับจริตวาจา ที่ชวนเชื่อเหล่านั้นนั่นแหล่ะครับ ... หากท่านมีสติดีก็แยกแยะได้ก็ดีไปที่ไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาฯ หากท่านยังขี้ขลาดและตื่นกลัว แต่ละวันมัวแต่จ้องหาที่หลบภัยก็คงต้องพิจารณาปล่อยไปตามวาระของกระต่ายตื่นตูมส์ไป ... เวรกรรมจริงๆ!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2010
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    คนไม่มีสัจจะ คนไม่เอาสัจจะ
    ทำอะไร ก็ไม่เป็นแก่นสารทางธรรม
    มีเงินมากแค่ไหน มีอำนาจมากแค่ไหน ก็ไปไม่รอด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  5. Troysan

    Troysan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +215
    <CENTER>ขออนุญาตโพสต์เอาบุญหน่อยครับ </CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER> เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ บรรทัดที่ ๔๗๙๘ - ๔๘๑๑. หน้าที่ ๒๐๙</CENTER><CENTER>๕. จัณฑาลสูตร
    </CENTER> [๑๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อม
    เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน
    คือ อุบาสกเป็นผู้ไม่มีศรัทธา ๑ เป็นผู้ทุศีล ๑ เป็นผู้ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อมงคล
    ไม่เชื่อกรรม ๑ แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนา ๑ ทำการสนับสนุนในที่นอก
    ศาสนานั้น ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล
    เป็นอุบาสกผู้เลวทราม เศร้าหมอง และน่าเกลียด ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็น
    อุบาสกแก้ว อุบาสกปทุม อุบาสกบุณฑริก ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน คือ
    อุบาสกย่อมเป็นผู้มีศรัทธา ๑ เป็นผู้มีศีล ๑ เป็นผู้ไม่ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อกรรม
    ไม่เชื่อมงคล ๑ ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอกศาสนา ๑ ทำการสนับสนุนใน
    ศาสนา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบาสกผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล เป็น
    อุบาสกแก้ว อุบาสกปทุม อุบาสกบุณฑริก ฯ
     
  6. วิณวิญ

    วิณวิญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +2,089
    รบกวนช่วยสอนวิธีแนบไฟล์Ms wordให้หน่อยค่ะ ทำไม่เป็น...อายจัง >_<
     
  7. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +3,290
    นิ่ง..คือ..สงบ..
    สงบ..คือ..นิ่ง..
    ....จิต....
     
  8. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    บ้านเเบบพอเพียง

    <object width="640" height="385"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/n-q3yrsTAJQ&amp;hl=en_US&amp;fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/n-q3yrsTAJQ&amp;hl=en_US&amp;fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="640" height="385"></embed></object>
     
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ทราบมานานแล้วครับ แต่ก็ไม่อยากขัดเหมือนกัน เพราะที่ดีๆ ก็มี ส่วนใหญ่ที่ไม่ดี ก็มีเยอะ ทั้งในและนอกเว็บ

    ปฏิบัติตนเอง ให้เป็นคนดี ก็พอแล้วครับ
     
  10. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    สลด! 2สามีภรรยาพิจิตรถูกฟ้าผ่าตายทั้งคู่


    สลด! 2 สามีภรรยาใน จ.พิจิตร ออกปักกล้าผักชะอมกลางฝน ถูกฟ้าผ่าตายคาที่ทั้งคู่ ขณะหลบใต้ต้นสักขนาดใหญ่ ลูก 3 คน กอดศพร้องระงม

    พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไชยแสน สารวัตรเวร สภ. เมืองพิจิตร เข้าตรวจที่เกิดเหตุ บริเวณบ้านสวนแตง หมู่ 6 ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร หลังจาก รับแจ้งเหตุว่า มีฝนตกฟ้าคะนอง และเกิดฟ้าผ่า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต จึงไปยังที่เกิดเหตุพบว่า ผู้ตาย คือ นายผดุงศักดิ์ ลุนนะทัศน์ อายุ 40 ปี ผู้เป็นสามี นอนเสียชีวิตคู่กับ นางรสริน อายุ 36 ปี ผู้เป็นภรรยา สอบสวนที่เกิดเหตุทราบว่า เมื่อช่วงเย็นวานที่ผ่านมา ทั้งคู่เห็นฝนจะตกจึงออกไปปักต้นกล้าชะอม เพื่อรอรับน้ำฝน แต่เกิดฝนตกหนักจึงหลบฝนอยู่ใต้ต้นสักใหญ่และเกิดฟ้าผ่า ส่งผลให้ทั้งคู่เสียชีวิต ซึ่งร่างของ นางรสริน พบว่า สวมสร้อยคอสแตนเลส ซึ่งเป็นสื่อล่อฟ้า จนเป็นเหตุถูกฟ้าผ่าเป็นรอยไหม้


    หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านไม่มีใครกล้าออกไปช่วย อีกทั้ง ทิ้งศพไว้นานกว่า 2 ชั่วโมง จึงมีคนโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ เนื่องจาก กลัวฟ้าจะผ่าลงโทรศัพท์มือถือ ตำรวจเข้าชันสูตรศพ ท่ามกลางลูก 3 คน ที่เรียนอยู่ชั้น ม.6 , ม. 1 และ ป.4 ที่กอดศพ พ่อ , แม่ ร่ำไห้ระงมกลางสายฝนกันอย่างน่าเวทนาที่ต้องกลายมาเป็นลูกกำพร้าสูญเสีย พ่อ แม่ ไม่มีญาติพี่น้อง และเงินที่จะทำศพ พ่อ,แม่ อีกด้วย
     
  11. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +3,290
    ความจริง..คือ..กรรม..
    กรรม..คือ..ความจริง..
    ผิด..ยอมรับผิด..ปรับปรุงตัว..ไม่ทำอีก..
    ผิด..ให้อภัย..ให้โอกาส..ไม่ซ้ำเติม..
     
  12. Cutie Kung

    Cutie Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,283
    "โกนเซิน"เข้าเวียดนาม เหนือ-อีสาน-ตอ.ไทยระวังน้ำท่วม-น้ำป่า


    .:
    เนชั่น


    กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย"พายุ โกนเซิน (CONSON)"ฉบับที่ 8 (58/2553) เวลา 05.30 น.วันที่ 18 กรกฎาคม 2553 ว่า พายุโซนร้อน “โกนเซิน”(Conson) บริเวณประเทศเวียดนามตอนบนเมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (18 ก.ค. 53) มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 90 กิโลเมตรทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 21.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    ลักษณะเช่นนี้ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น และทั่วประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล ผ่านบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2553 ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้นด้วย ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในช่วงวันที่ 18-20 กรกฎาคม 2553ไว้ด้วย


    ไต้ฝุ่น"โกนเซิน"คร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์เพิ่ม 53 คน สูญหาย 43 คน


    .:
    ASTV


    [​IMG]
    เจ้าหน้าที่ทางการฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นโกนเซินในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 53 คนแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะปรับเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีก 43 คน หลังจากเกิดภัยธรรมชาติดังกล่าว
    ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กองทัพอากาศได้ส่งเฮลิคอปเตอร์และกองทัพเรือส่งเครื่องบินช่วยค้นหาผู้สูญ หายในทะเล นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นลูกแรกที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในปีนี้ ยังได้สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชนหลายพันหลังคาเรือน จมเรือและสร้างความเสียหายให้กับเรือรวม 62 ลำ ทำให้ต้นไม้หักโค่นทับประชาชนเสียชีวิต ทำให้ไฟฟ้าดับและการเดินทางทางอากาศทำได้ลำบาก



    ไต้ฝุ่น"โกนเซิน"คร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์เพิ่ม 53 คน สูญหาย 43 คน | นสพ.ประชาชาติอิสลามออนไลน์
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ทอร์นาโดถล่ม'เปอร์โตริโก'กระทบพิธีเปิดกีฬา

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พิธีเปิดมหกรรมกีฬา "เซ็นทรัล อเมริกัน แอนด์ แคริบเบียน ครั้งที่ 21" อ่วม พายุทอร์นาโดขึ้นฝั่งพัดถล่ม "เปอร์โต ริโก" พิธีเปิดต้องเลื่อนออกไปจนกว่าสภาพอากาศจะคืนสู่ภาวะปกติ...

    สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ว่า พายุทอร์นาโดพัดถล่มเปอร์โต ริโก ก่อนการแข่งขันมหกรรมกีฬา "เซ็นทรัล อเมริกัน แอนด์ แคริบเบียน ครั้งที่ 21" จะเริ่มต้นขึ้น ส่งผลให้พิธีเปิดต้องถูกเลื่อนออกไป

    พายุทอร์นาโด พัดถล่มสนามกีฬา "โอลิมปิก สเตเดียม" ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองมายาเกซ เพียง 1 ชั่วโมงก่อนพิธีเปิดอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้น แรงพายุส่งผลให้เสาไฟฟ้าหักโค่น ทับรถยนต์บริเวณใกล้เคียงพังเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน สำหรับผู้ชมที่มารอชมการแข่งขันเบสบอล ซึ่งเป็นเกมเปิดสนามหลังพิธีเปิด ต้องพากันอพยพหนีพายุจำนวนมาก

    เฟลิเป เปเรส ประธานการจัดแข่งขันมหกรรมกีฬาดังกล่าวเผยว่า การจัดงานต้องเลื่อนออกไปจนกว่าสภาพอากาศจะกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ มหกรรมกีฬา เซ็นทรัล อเมริกัน แอนด์ แคริบเบียน ครั้งที่ 21 มีชาติต่าง ๆ ทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 31 ประเทศ จัดขึ้นทุก ๆ 4 ปี สำหรับปีนี้จัดที่เมืองมายาเกซ ประเทศเปอร์โต ริโก ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. กระทั่งถึง 1 ส.ค.นี้

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    'โกนเซิน'ขึ้นฝั่งเวียดนาม สูญหาย 10 ราย

    [​IMG]

    พายุไต้ฝุ่น "โกนเซิน" ขึ้นฝั่งจังหวัดแทงหวา ทางตอนเหนือของเวียดนาม ส่งผลให้เกิดพายุลมแรงและฝนตกหนัก ชาวประมงและนักท่องเที่ยวถูกคลื่นซัดสูญหาย 10 ราย...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ว่า พายุไต้ฝุ่น "โกนเซิน" เคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ และมุ่งหน้าทางทะเลจีนใต้ ขึ้นฝั่งจังหวัดแทงหวา ทางตอนเหนือของเวียดนาม ด้วยกำลังแรงลม 83 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่งผลให้เกิดพายุลมแรงและฝนตกหนัก

    สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเวียดนามรายงานว่า นักท่องเที่ยวหญิง 4 ราย ถูกคลื่นในทะเลพัดหาย ยังไม่ทราบชะตากรรม ส่วนชาวประมงอีก 6 คนสูญหายบริเวณหมู่เกาะพาราเซล ทางตอนใต้ของทะเลจีนใต้ หลังเรือล่มขณะพยายามแล่นหาที่หลบภัย

    ทางการเวียดนามแจงว่า ได้อพยพชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ออกจากพื้นที่แล้วราว 200,000 คน ก่อนพายุขึ้นฝั่ง และประกาศเตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะเวลานี้

    มีรายงานเพิ่มเติมว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโกนเซินพัดถล่มฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 53 ราย นอกจากนี้กำลังของพายุที่เคลื่อนตัวล่าสุด ยังส่งผลถึงบางส่วนของเกาะไหหนาน ประเทศจีน คร่าชีวิตแล้ว 2 ศพ เป็นนักปั่นจักรยานและเจ้าหน้าที่กู้ภัย

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    'โกนเซิน'แผลงฤทธิ์ น่านโดนอ่วม ฝนหนักน้ำท่วมหมู่บ้าน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    จังหวัดน่านโดนพายุโซนร้อนโกนเซินเล่นงานหนัก ฝนตกหนักน้ำหลากท่วมหมู่บ้านที่ อ.ปัว และ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก มีดินถล่มปิดทางเข้าหมู่บ้าน หน่วยงานราชการเร่งมือเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว...

    18 ก.ค. จากการประกาศของศูนย์อุตุนิยมภาคเหนือ ประกาศเตือน พายุโซนร้อน “โกนเซิน” (Conson) บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (18 ก.ค.) มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 90 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลักษณะเช่นนี้ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทั่วประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณภาคเหนือ ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 18-19 กรกฎาคม 53 ทำให้ อ.ปัว และอ.ท่าวังผา จังหวัดน่าน ได้รับผลกระทบน้ำป่าหลากเข้าท่วมหมู่บ้านทั้ง 2 อำเภอ ต้องอพยพชาวบ้านหนีน้ำไปยังที่ปลอดภัย และมีดินถล่มลงมาปิดทางเข้าหมู่บ้านสันเจริญ หมู่ 6 ต.แสนทอง อ.ท่าวังผา จ.น่าน

    โดยที่จ.น่านมีฝนตกหนักมาตั้งวันที่ 17 ก.ค. จนถึงเช้าวันที่ 18 ก.ค. ทำให้เกิดน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏร ที่อ.ปัว และอ.ท่าวังผา มีดินถล่มลงมาปิดทางเข้าหมู่บ้าน หลังจากที่นายธวัธ เพชรวีระ ปภ.จ.น่าน ได้รับรายงานสถานการณ์ฝนตกหนักทำให้พื้นที่อ.ปัว และอ.ท่าวังผา ได้รับความเสียหาย จึงได้ออกเดินทางไปตรวจสภาพ อ.ปัว 5 หมู่บ้าน 3 ตำบล ที่อยู่ในเขตเทศบาลต.ปัว ที่บ้านป่าหัด หมู่ 2 บ้านปรางค์ หมู่ 8 น้ำในแม่น้ำน่านกำลังขึ้น กระแสน้ำเชี่ยว มีเศษวัสดุกิ่งไม้ลอยมาเต็มติดกับสะพาน และที่บ้านขอน หมู่ 1 ต.ปัว บ้านแก้ม หมู่ 5 ต.วรนคร บ้านพาน หมู่ 4 ต.แงง น้ำไหลเข้าท่วมหมู่บ้านต้องมีการอพยพชาวบ้านไปยังที่ปลอดภัย กระแสน้ำได้ไหลเข้าท่วมไร่นาข้าว ส่วนท้องที่ อ.ท่าวังผา ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 5 ตำบล 13 หมู่บ้าน ได้แก่ ต.จอมพระ ต.ป่าคา ต.ศรีภูมิ ต.แสนทอง ต.ผาทอง ต.ผาตอ มีน้ำจากแม่น้ำยาว อ.สองแคว ไหลบ่านำต้นไม้กิ่งไม้ไหลไปติดที่สะพานข้ามแม่น้ำยาว บ้านปางสา หมู่ 3 ต.ผาทอง เป็นจำนวนมาก อาจเกิดอันตราย ทำให้คอสะพานขาดได้ ตลอดเส้นทาง ที่บ้านน้ำกิ หมู่ 5 บ้านสันเจริญ หมู่ 6 ต.ผาทอง ได้มีดินถล่มลงมาเป็นระยะตลอดเส้นทาง บริเวณทางเข้าหมู่บ้านสันเจริญ อีก 4 กิโลเมตรมีดินถล่มลงมาปิดทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำในลำห้วยไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ซึ่งเป็นชาวเขาเผ่าเมี้ยน ต้องช่วยกันอพยพเด็ก ผู้สูงอายุ และสัตว์เลี้ยง ขึ้นไปไว้บนโรงเรียน ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว

    ขณะที่รถของเจ้าหน้าที่สถานีอนามัย อ.ท่าวังผา ซึ่งนำเจ้าหน้าที่เข้าไปเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน เกือบจะได้รับอันตราย เพราะรถลื่นไถล รถเกือบตกเขา โชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันเข็นเดินหน้าผ่านไปได้ ทำให้รถของนายธวัธ เพชรวีระ ปภ.จ.น่าน ต้องถอยหลังกลับพร้อมกับรายงานขอความช่วยเหลือไปยังนายนรินทร์ เหล่าอารยะ นายกอบจ.น่าน ของรถเกรดเข้าไปช่วยเกรดดินที่ปิดถนนออก

    ด้านนายมนัส ขันไส นายอำเภอท่าวังผา ระบุว่า มีชาวบ้านเดือดร้อนหลายตำบล ที่ต.จอมพระ น้ำท่วมไร่นา ระดับน้ำมากกว่าปี 2549 ที่บ้านน้ำกิ ดินถล่มลงมาถมถนนยาว 50 เมตร บ้านสันเจริญ ขณะนี้ได้ขนย้ายชาวบ้านไปไว้ที่ร.ร.บ้านสันเจริญ ปลอดภัย และน้ำลดลงแล้ว ส่วนที่สะพานบ้านปางสา เป็นปัญหาใหญ่ เพราะขอนไม้กับต้นไม้ไหลมากับน้ำ ปิดกั้นทางน้ำลำน้ำยาว เกรงว่าจะสร้างความเสียหายให้กับสะพานได้ กำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ และที่บ้านนาหนุน 1 และ 2 น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้วเมื่อเวลา 09.00 น และเมื่อเวลา 15.00 น. น้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ต.ป่าคา ต.ศรีภูม

    ขณะที่นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน กล่าวว่า สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ปริมาตรน้ำฝนที่ตกในอ.เมือง วัดได้ 60.8 มล.ซึ่งถือว่าตกหนักในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองน่าน ล่าสุดน้ำได้เข้าท่วมเพิ่มใน 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านพวงพะยอม บ้านภูมินทร์-ท่าลี่ เขตเทศบาลเมืองน่าน บ้านแสงดาว อ.ภูเพียง และบ้านดอนมูลพัฒนา อ.เมือง

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้นำเรือท้องแบนเข้าช่วยลำเลียงชาวบ้านที่ต้องการออกมาจากชุมชน พร้อมช่วยกันเปิดฝาท่อระบายน้ำ เพื่อระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่านอย่างเร่งด่วนแล้ว สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองน่าน ได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 054-710261 หรือ 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

    นอกจากนี้ ปภ.จ.น่าน ระบุว่า สถานการณ์ของอุทกภัยในครั้งนี้เป็นผลมาจากการเกิดฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ก.ค. จนถึงวันที่ 18 ก.ค. ทำให้เกิดน้ำท่วมในอ.ปัว และอ.ท่าวังผา พื้นที่หลายหมู่บ้าน วัดปริมาณน้ำฝนที่อ.ปัว 129 มิลลิเมตร อ.ท่าวังผา 109.5 มิลเมตร อ.สองแคว 90.5 มิลเมตร อ.บ่อเกลือ 165 มิลเมตร อ.ทุ่งช้าง 45 มิลเมตร อ.เชียงกลาง 68 มิลเมตร ระดับน้ำในบริเวณ N 64 สะพานผาขวาง อ.ท่าวังผา เมื่อเวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.80 เมตร ขั้นวิกฤติ 9 เมตร ที่อ.เมือง N 61 อยู่ที่ 4.58 เมตร ขั้นวิกฤติ 7.00 เมตร ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ส่วนการช่วยเหลือได้ประสานกับนายนรินทร์ เหล่าอารยะ นายก อบจ.น่าน ส่งเครื่องจักรเข้าไปในพื้นที่ ช่วยนำไม้ออกจากสะพานบ้านปางสาดินถล่มลงมาปิดเส้นทางบ้านน้ำกิ-บ้านสันเจริญ ส่งเรือท้องแบนของอบจ.น่าน และปภ.น่าน ไปช่วยชาวบ้านแล้ว และได้แจ้งเตือนให้ทุกอำเภอได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

    ด้านพล.ต.ชีวัน โหละบุตร ผบ.จังหวัดทหารบกน่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งหน่วยงานเคลื่อนที่เร็วของทหาร ประกอบด้วยจังหวัดทหารบกน่าน กองพันทหารม้าที่ 10 กองพันทหารม้าที่ 15 กรมทหารพรานที่ 32 พร้อมหน่วยแพทย์ทหารจากรพ.ค่ายสุริยพงษ์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน เทศบาลเมืองน่าน ที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที โดยได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดน่าน ณ จังหวัดทหารบกน่าน พร้อมออกให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

    ขณะที่นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ สสจ.น่าน ได้ลงพื้นที่ พบว่าน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมในพื้นที่ ต.ป่าค่า และต.ศรีภูม จึงสั่งการให้ปิดสถานีอนามัย ที่ต.ป่าคา และต.ศรีภูมิ มีการขนย้ายอุปกรณ์การแพทย์หนีน้ำไปยังที่ปลอดภัย พร้อมกับเร่งประชาสัมพันธ์เตือนระวังโรคภัยที่มากับน้ำท่วม ภัยจากอุบัติเหตุ โรเลปโตสไปโรศซิส (โรคฉี่หนู) โรคทางเดินอาหาร ท้องร่วง ไทฟอยด์ โรคผิวหนัง โรคน้ำกัดเท้าหรือเท้าเปื่อย ภัยจากสัตว์มีพิษกัดต่อย งู ตะขาบ แมลงป่อง ที่หนีน้ำขึ้นไปอยู่บนบ้านเรือน โรคติดต่อทางเดินหายใจ ไข้หวัด ทอนซิลอักเสบ โรคตาแดง เกิดจากน้ำที่มีเชื้อโรคปะปนเข้าตา

    ส่วนนายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผวจ.น่าน ได้สั่งให้นายอำเภอทุกอำเภอ จัดชุดกำลังจากอส. เป็นหน่วยช่วยเหลือชุดเคลื่อนที่เร็ว ตรวจเช็คอุปกรณ์รถยนต์ เรือท้องแบน สถานที่ปลอดภัยขนย้ายราษฎร และสัตว์เลี้ยง ประสานหน่วยงานข้างเคียง อบต.ที่มียานพาหนะ พร้อมที่จะร้องขอความช่วยเหลือได้ เมื่อมีเหตุการณ์ที่เกินขีดความสามารถ รายงานด่วนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และปภ.จ.น่าน ทันที

    ไทยรัฐออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111.jpg
      111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.9 KB
      เปิดดู:
      1,740
    • 112.jpg
      112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.5 KB
      เปิดดู:
      1,420
    • 113.jpg
      113.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.8 KB
      เปิดดู:
      1,356
    • 114.jpg
      114.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.5 KB
      เปิดดู:
      74
    • 115.jpg
      115.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.6 KB
      เปิดดู:
      1,357
    • 116.jpg
      116.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.4 KB
      เปิดดู:
      1,405
    • 117.jpg
      117.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.6 KB
      เปิดดู:
      1,341
    • 118.jpg
      118.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      1,334
    • 119.jpg
      119.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.4 KB
      เปิดดู:
      1,427
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พรดี ๔ ข้อ จากท่าน ว.วชิรเมธี

    [​IMG]
    พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)

    ๑. อย่าเป็นนักจับผิด

    คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง 'กิเลส ฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก'คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส 'จิตประภัสสร' ฉะนั้นจงมองคนมองโลกในแง่ดี ' แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็นก็เป็นสุข'

    ๒. อย่ามัวแต่คิดริษยา

    'แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน' คนเราต้องมี พรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า 'เจ้ากรรมนายเวร' ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอน ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น 'ไฟสุมขอน' (ไฟเย็น) เราริษยา ๑ คน เราก็มีทุกข์ ๑ ก้อน เรา สามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี 'แผ่เมตตา' หรือ ซื้อโคมลอยมา แล้วเขียนชื่อคนที่เรา ริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป

    ๓. อย่าเสียเวลากับความหลัง

    90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ 'ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น' มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องภาระต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วยความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ' อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน ' 'อยู่กับปัจจุบันให้เป็น ' ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี 'สติ' กำกับตลอดเวลา

    ๔. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ

    'ตัณหา'ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วย เชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ 'ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม' ทุกอย่างต้องดู ' คุณค่าที่แท้จริง ' ไม่ใช่ คุณค่าเทียม เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกาคืออะไร ? คือไว้ดูเวลาไม่ใช่ใส่เพื่อความโก้หรู คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือคืออะไร ? คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้จริงของโทรศัพท์ เราต้องถามตัวเองว่า 'เกิดมา ทำไม' คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน ตามหา ' แก่น ' ของชีวิตให้เจอ

    คำว่า 'พอดี' คือ ถ้า 'พอ' แล้วจะ 'ดี' รู้จัก 'พอ' จะมีชีวิตอย่างมีความสุข'

    ที่มา http://www.chaiyapruek.co.th/index.php?mo=3&art=461824
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1253074524.jpg
      1253074524.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.6 KB
      เปิดดู:
      1,689
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  15. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23:27:29 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <center></center>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]แผ่นดินไหว3จุดริมแปซิฟิก อินโดนีเซียเตือนภัย"สึนามิ"

    [/FONT]เมื่อ วันที่ 18 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่าได้เกิดแผ่นดินตามริมขอบมหาสมุทร แปซิฟิก ตั้งแต่รัฐอลาสกา ของสหรัฐอเมริกา, ไต้หวัน เรื่อยมาจนถึงปาปัวนิวกีนี ใกล้กับอินโดนีเซีย ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นถึง 2 ครั้งห่างกันเพียง 30 นาทีส่งผลให้ทางการอินโดนีเซียประกาศเตือนภัยสึนามิรุนแรงแล้ว

    ทั้งนี้แผ่นดินไหวตามแนว "ริง ออฟ ไฟร์" หรือแนวที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบ่อยครั้งในมหาสมุทรแปซิฟิกครั้งแรกเกิดขึ้น เมื่อเวลา 21.56 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือราว 11.56 น. ตามเวลาไทย วัดความรุนแรงได้ 6.7 ริคเตอร์ จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ทางตะวันตกของหมู่เกาะ อาลูเชียนของรัฐอลาสกา ลึกลงไปใต้พื้นทะเล 35 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงบริเวณเมืองแองเคอเรจ ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐอลาสกาที่อยู่ห่างออกไปราว 1,500 กม. แต่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา (ยูเอสจีเอ) ระบุว่าไม่มีอันตรายจากคลื่นยักษ์สึนามิเกิดขึ้นแต่อย่างใด

    ต่อมาเมื่อเวลา 20.03 น. ได้เกิดแผ่นดินวัดความรุนแรงได้ 5.3 ริคเตอร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองหนานอ้าว ออกไปในทะเล 69 กม.และอยู่ลึกลงไป 15 กม. และหลังสุดเมื่อเวลา 23.04 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 20.04 น.ตามเวลาไทย ได้เกิดแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 7.2 ริคเตอร์ ที่เมืองคิมเบ้ เมืองเอกของจังหวัดเวสต์นิวบริเทนของปาปัวนิวกีนี โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของตัวเมืองราว 75 กิโลเมตรและอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 57.5 กิโลเมตร หลังจากนั้นเพียง 30 นาที ได้เกิดแผนดินไหวใหญ่วัดความรุนแรงได้ 7.2 ริคเตอร์ ที่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองคันเดรียน ของจังหวัดนิวบริเทน ประเทศปาปัวนิวกีนี จุดศูนย์กลางอยู่ในทะเลห่างออกไปราว 107 กิโลเมตรและอยู่ที่ความลึก 26 กิโลเมตร ทั้งนี้ทางสำนักงานธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซียได้ประกาศเตือนภัยแผ่นดินไหว รุนแรงทันทีสำหรับพื้นที่จังหวัดปาปัวของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันกับประเทศปาปัวนิวกีนีบริเวณด้านมหาสมุทรแปซิฟิก นั่นเอง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินแต่อย่างใด

    วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20:36:56 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <center></center>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]โกนเซินถล่มเวียดนามสาบสูญ8 อุตุฯจับตาลูกใหม่เข้า"ฟิลิปปินส์"

    [/FONT]เมื่อ วันที่ 18 กรกฎาคม สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ฤทธิ์ของพายุโกนเซินที่พัดถล่มตอนเหนือของประเทศเวียดนามเมื่อคืนวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้หายสาบสูญแล้ว 8 คน เป็นชาวประมง 6 คนที่หายไปพร้อมกับเรือหาปลา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์พุ่งสูงขึ้นเป็น 68 คน และสาบสูญ 84 คน ส่วนที่จีนเสียชีวิต 2 คน ทางการเวียดนามได้ยกเลิกแผนการอพยพประชาชน 137,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว หลังจากไต้ฝุ่นโกนเซินอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและไม่เป็นอันตรายอย่างที่ คาดไว้ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเวียดนามแจ้งว่าพายุโซนร้อนโกนเซินได้อ่อนกำลังลง กลายเป็นดีเปรสชั่นและจะออกจากเวียดนามในวันนี้ (18 ก.ค.)

    วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัยพายุโกนเซิน ฉบับที่ 9 ว่า พายุอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และหนักถึงหนักมากบางแห่ง

    นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มขึ้น ขอเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาและที่ลุ่มใกล้ทางน้ำ ไหลระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงระยะนี้ รวมทั้งชาวเรือควรระมัดระวัง เนื่องจากคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น คลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 20-24 กรกฎาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย จะอ่อนกำลังลงทำให้ไทยมีฝนลดลง

    นายสมชายกล่าวอีกว่า ขณะนี้กำลังจับตาดูหย่อมความกดอากาศต่ำที่เกิดขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์ว่ามี ระดับความรุนแรงและจะก่อตัวเป็นพายุได้หรือไม่ ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ถือว่าเป็นช่วงที่มีพายุพัดเข้ามาบ่อย สถิติจะเข้ามาเดือนละ 1 ลูกเป็นอย่างน้อย
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192

    วิบากกรรมที่คอยจับจ้องข้อผิดพลาดของผู้อื่น

    [​IMG]

    ถาม – รู้สึกไม่สบายใจ เพราะหน้าที่การงานซึ่งทำอยู่ เหมือนต้องคอยจับจ้องข้อผิดพลาดของผู้อื่น จะถือเป็นกรรมว่าด้วยการเพ่งโทษหรือไม่? มีวิบากอย่างไร?

    ตอบ - ปัญญาทางโลกแบบที่ต้องคอยสังเกตุสังกา หรือตรวจสอบการกระทำของผู้อื่นนั้นมีหลายแบบครับ ลองดูแล้วกันว่าของคุณเข้าข่ายแบบใด

    ๑) การตรวจสอบแบบที่มีเจตนาป้องกัน หรือระงับยับยั้งความเสื่อมเสียของตัวเขาเอง หรือลดความเสียหายของส่วนรวม โดยมีสติ มีเหตุผล ปราศอคติชอบชังเป็นส่วนตัว อย่างนี้บางทีเมื่อต้องตักเตือนก็อาจทำให้เกิดเวรต่อผู้เจ็บใจก็จริง เพราะคนเราไม่ชอบถูกใครว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการรายงานหรือบันทึกความประพฤติที่ผิดพลาดเอาไว้ ก็จะเป็นเหมือนการไปสร้างบาดแผลไว้กลางใจคนที่โดน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้มีหน้าที่ตรวจสอบในแนวทางนี้ ตายไปก็จะไม่ไปอบายเพราะกรรมที่ต้องตรวจสอบผู้อื่นโดยสุจริต และแม้เกิดใหม่ก็จะไม่ไปอยู่ในบ้านหรือที่ทำงานที่ราวีกันอย่างไร้เหตุผล ภัยเวรที่อาจมีบ้างก็จะมาในรูปของการเจรจาแก้ปัญหากันด้วยสันติวิธี มีเหตุผล ถ้าเจอคู่เวรแบบที่ต้องพบกันประจำก็มักเป็นประเภทมีทิฐิมานะน้อย ไม่เอาชนะกันด้วยวิธีสกปรก (ใช่จะไม่มีสิทธิ์เจอคนประเภทพยายามเอาชนะด้วยวิธีสกปรกเสียเลย เพียงแต่จะไม่ใช่คู่กัดถาวร ไม่ต้องทนทู่ซี้อยู่กับเขาเป็นปีๆ)

    ๒) การตรวจสอบแบบที่มีเจตนาหาจุดอ่อนของคู่แข่ง เพื่อนำมาสร้างอาวุธทำลายล้างกัน กรรมข้อนี้นับเป็นการก่อเวรอย่างชัดเจน เหมือนเกมที่ต้องเอาชนะกัน พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์ บุคคลละความชนะและความแพ้เสียแล้ว จึงสงบระงับ นอนเป็นสุข คนที่ต้องทำงานหรือทำกิจกรรมแบบจ้องชิงชัยหักล้างกันย่อมทราบผลกรรมอันเป็นปัจจุบันได้อยู่แล้ว

    หากการเอาชนะเป็นประเภทคอขาดบาดตาย จัดเป็นกรรมที่ยืนพื้นอยู่บนโทสะ สังเกตง่ายๆว่าถ้าแพ้จะโกรธฉุนเฉียว ถ้าชนะจะสะใจสมน้ำหน้าคู่แข่ง เมื่อละจากโลกนี้อาจได้ไปอบาย เพราะอบายเป็นสถานที่รองรับกรรมซึ่งยืนอยู่บนพื้นกิเลส (คือราคะ โทสะ โมหะ) แต่ถ้ามีกรรมดีอื่นอุ้มไว้ก็อาจไม่ตกต่ำลงถึงอบาย ทว่าถึงคราวกลับมาเป็นมนุษย์อีกก็จะเข้ามาอยู่ในวังวนภัยเวรวงจรเดิมๆ มีแพ้มีชนะ มีการก่อเวร มีการนอนอมทุกข์ และมักเจอะเจอคนใกล้ชิดที่ชวนให้ระหองระแหงง่าย ต่างฝ่ายต่างชอบเอาชนะ แม้จะเป็นพ่อแม่ลูกกันแท้ๆก็ตาม ประเภทขิงก็ราข่าก็แรง เมื่อทำงานก็มักเจอแต่ภาระประเภทต้องเอาหอกดาบจริงๆไปทิ่มแทง หรือเอาขวานในปากไปจามแก้วหูผู้อื่น

    ๓) การตรวจสอบแบบที่มีอคติ มีความเกลียดชัง มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกประมาณว่าเพื่อด่าเอามัน พูดง่ายๆว่าแกพูดหรือทำอะไรมาฉันด่าแหลก จับผิดลูกเดียว เที่ยวไปโพนทะนาให้เจ็บใจ โดยไม่มีความปรารถนาดีต่อกันอยู่เลย ตายจากชาติปัจจุบันมีสิทธิ์ไปอบายมากกว่าข้ออื่น เพราะกรรมยืนพื้นอยู่บนโทสะและโมหะอย่างแรง คือคนเราต้องมีโทสะมากถึงเกลียดกันได้ขนาดทำอะไรมาด่าหมด และจะต้องมีโมหะ (หลงสำคัญผิด) ห่อหุ้มจิตมืดมิดยิ่งถึงไม่เห็นความดีของเขาเลย คล้ายม้าโดนครอบให้เห็นลู่วิ่งทางเดียว พุ่งไปในทางเดียว ไม่มีมุมมองอื่นที่แตกต่างไปจากนั้น

    หากมีสิทธิ์เกิดเป็นมนุษย์ใหม่ในคราวหน้า ก็อาจระเห็จไปอยู่ในบ้านที่ญาติๆจ้องแต่จะหาแพะรับบาป จะรู้เห็นเรื่องการโยนโทษให้คนอื่นมาตั้งแต่เด็กๆ โยนผิดได้เป็นโยน ไม่เผื่อใจไว้เห็นความผิดตัวเองบ้างเลย พอโตขึ้นก็จะมองโลกในแง่ร้ายเสียมาก ความดีชัดๆของคนอื่นมองไม่ค่อยเห็น เห็นแต่ความเลวแม้เพียงเล็กน้อยของเขา

    โลกนี้ไม่มีคนปราศจากอคติ แต่ก็มีการฝึกฝนอบรม ขัดเกลานิสัยให้อคติน้อยลงได้ ปัจจุบันชั้นเรียนประถมของบางโรงเรียนก็สอนให้หาที่ติของเพื่อนๆ รวมทั้งฝึกให้ยอมรับเสียงติติงจากคนอื่น นี่ก็เป็นแนวทางลดความลำเอียงลงได้มาก

    ในทางพุทธมีข้อธรรมประการหนึ่งคือในพรหมวิหาร ๔ คือพระพุทธเจ้าสอนให้มองผู้อื่นอย่างมีเมตตา เมื่อมีเมตตาก็ยากขึ้นที่เราจะอยากก่อเวรแม้ด้วยความคิดกับเขา แต่เมื่อต้องทำงานร่วมกัน จำเป็นต้องตักเตือนหรือบันทึกความผิดของผู้อื่นตามหน้าที่ ก็จะมีความเป็นกลาง เป็นอุเบกขา คือไม่ได้ตักเตือนหรือบันทึกความผิดของเขาด้วยอคติหรือมีเจตนาประทุษร้าย ทว่าเห็นกรรมหรือข้อบกพร่องของเขาตามจริง และทราบว่าที่ต้องเตือนหรือบันทึกความผิดไว้นั้น จัดเป็นการที่เขาต้องเสวยผลที่เขาทำมาเอง อย่างนี้ได้ชื่อว่าเราสานเวรไว้น้อยที่สุดหรือไม่มีเวรเลย (ถ้าเขาไม่ผูกใจเจ็บ)

    อยู่ในโลกมนุษย์นั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่กระทบกระทั่งกัน แม้แต่ในวินัยของพระ ยังมีบัญญัติว่า ถ้าเห็นพระด้วยกันทำผิดแล้วไม่ตักเตือนจัดเป็นอาบัติเลยทีเดียว สิ่งที่ควรคำนึงก็มีแต่ว่าจะคิดอย่างไร ตั้งจิตไว้อย่างไรจึงตักเตือนหรือบันทึกความผิดผู้อื่น โดยปราศจากการครอบงำของอคติและความชิงชังเท่านั้น

    คัดลอกมาจาก เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวโดยคุณ ดังตฤณ

    ที่มา http://dungtrin.com/prepare/archieve/prepare002.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • dangtrin.jpg
      dangtrin.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.5 KB
      เปิดดู:
      1,690
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ประจวบฯ-คืบหน้าเหตุพายุหมุน ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ประจวบฯ-คืบหน้าเหตุพายุหมุน ผู้ว่าฯเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยพร้อมประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้วบ้านเรือนพังเสียหายแล้ว 73 หลัง พื้นที่การเกษตร 150 ไร่ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท

    ความคืบหน้าปัญหาภัยพายุหมุนที่พัดถล่มบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวานที่ผ่านมาจนสร้างความเสียหาย มีบ้านเรือนพังเสียหายจำนวนมาก

    โดยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นางปรียา ศรีวัฒนตระกูล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดประจวบฯ ,ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ,สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยจังหวัด , อบต.อ่าวน้อย ,เทศบาลตำบลอ่าวน้อย ,เจ้าหน้าที่ทหารจากกองบิน 5 ,หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ จ.ประจวบฯ , ตชด.146 ,เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่หลายร้อยนายปูพรมเข้าให้ความร่วมเหลือผู้ประสบภัย

    โดยเบื้องต้นเร่งรื้อซากประหลักหักพัง กระเบื้องมุงหลังคา สังกะสี ตลอดจนเคลื่อนย้ายต้นไม้ขนาดใหญ่ที่หักโค่นลงมาเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งในเบื้องต้นประชาชนบางส่วนที่พอมีเงินอยู่บ้าง ได้ช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นด้วยการซื้อกระเบื้องมุงหลังคามาซ่อมแซมบ้านพักก่อน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดกู้ภัย ฯลฯ เข้าให้ความช่วยเหลือช่วยมุงหลังคาให้ก่อน เพราะเกรงว่าหากฝนตกลงมาอีกระลอกจะไม่มีที่พักอาศัย

    ทั้งนี้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชินูปถัมถ์ ได้นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 100 ถุง นำมามอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับประชาชนที่ประสบภัยในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง

    โดยล่าสุดขณะนี้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ประกาศให้พื้นที่ ชุมชนบ้านร่มไทร ,ชุมชนบ้าน ก.ม.5,ชุมชนบ้านเกตุเอน หมู่ที่ 6 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากเหตุลมพายุหมุน โดยล่าสุดในวันนี้มีประชาชนมาแจ้งความเสียหาย เป็นบ้านเรือนประชาชน ทั้งที่พังเสียหายทั้งหลังและบางส่วน จำนวน ทั้งสิ้น 73 หลัง คิดเป็นความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท พื้นที่ทางการเกษตรได้แก่ สวนมะม่วง สวนกล้วย สวนยางพารา และพื้นที่ผลทางการเกษตรจำนวน 150 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายจำนวน 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้แก่ ระบบไฟฟ้าในชุมชน ,ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ ที่ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    ยะลา-เตือนประชาชน เตรียมรับมืออุทกภัยและโคลนถล่ม

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เตรียมรับมืออุทกภัยและโคลนถล่ม พร้อมเตือนให้ประชาชนระมัดระวังโดยเฉพาะในตัวเมืองและเส้นทางสายยะลา-เบตง หลังเคยเกิดเหตุดินถล่มปิดถนนแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

    วันนี้(17 ก.ค.53)นายดลเดช พัฒนรัฐ นายอำเภอเบตง ได้กล่าวว่า จากการที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องอาจเกิดอุทกภัยและโคลนถล่มได้โดยเฉพาะในตัวเมืองและเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง ดังนั้นอำเภอเบตง โดยศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัยได้มีการเตรียมความพร้อมและกำหนดแผนการปฏิบัติงานหากเกิดเหตุการณ์ ไว้เป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกจะเน้นแผนป้องกันและเตรียมการป้องกันอุทกภัย ส่วนที่สอง จะเป็นการจัดเตรียมเครื่องมือและกำลังพล เพื่อประกอบการปฏิบัติตามแผนที่กำหนดไว้

    สำหรับจุดเสี่ยงของอำเภอเบตงนั้น จะเป็นจุดในเมืองซึ่งมีพื้นที่ต่ำและเป็นแอ่งกระทะ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาล้อมรอบ เวลาฝนตกน้ำที่ไหลบ่าจากภูเขาก็จะเข้ามาท่วมขังบ้านเรือนราษฎร ซึ่งบางจุดน้ำจะท่วมในระดับสูง ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวทางอำเภอได้ร่วมมือกับทางเทศบาล ทำการขุดลอกคู คลอง และเตรียมเครื่องสูบน้ำ ได้รองรับแล้ว

    นายอำเภอเบตง กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาดินถล่มนั้นมักจะเกิดบนเส้นทางสาย 410 ยะลา-เบตง ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 32 ถนนสาย 410 ยะลา-เบตง บ้านก.ม. 32 ตำบลอัยเยอร์เวง ที่เคยดินถล่มปิดถนนมาแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา (23พ.ย.52) ซึ่งทางอำเภอก็ได้กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เฝ้าระวังการเกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุอย่างทันท่วงที

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    อ่างทอง-พายุฝนถล่มทั้งคืนบ้านเรือนประชาชน 3 ตำบลเสียหาย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พายุฝนถล่มทั้งคืนบ้านเรือนประชาชน 3 ตำบลเสียหายเพียบโดยเฉพาะต้นก้ามปูอายุกว่าร้อยปีหักโค่น

    เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (18 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าตรวจสอบบริเวณหมู่ที่ 8 ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งว่ามีต้นไม้อายุกว่า 100 ปี ถูกพายุพัดจนโค่น นอกจากนั้นยังมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพบพบต้นก้ามขนาดใหญ่จำนวน 2 ต้น อายุกว่า 100 ปี ถูกลมพัดจนถอนรากถอนโคนทับโรงจอดรถจนพังเสียหาย นอกจากนั้นบริเวณริมถนนสายป่าโมกอ่างทองหมู่ที่ 8 ต.โพสะ ต้นไม้ได้ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูงจนขาดทำให้บ้านเรือนหลายหลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้

    นายสิทธิชัย คุณีพงษ์ สท.เทศบาลตำบลโพสะ กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ได้เกิดเหตุพายุฝนตกอย่างหนักพร้อมมีลมกระโชกแรงซึ่งฝนได้ตกหนักบ้างเบาบ้างตลอดทั้งคืน พอตอนเช้าออกสำรวจพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนในหมู่ที่ 8 ได้รับความเสียหายจำนวน 16 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่จะเสียหายเฉพาะหลังคา นอกจากนั้นยังมีต้นก้ามปูที่อายุกว่า 100 ปี หักโค่นจำนวน 2 ต้น ทางเทศบาลจึงประสานไปยังอำเภอเพื่อขอความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว

    ด้านนายสมชาย อนะวัชกุล นายอำเภอเมืองอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากเมื่อเย็นวานได้เกิดพายุพัดอย่างหนักและทำให้บ้านเรือนประชาชนใน 3 ตำบล คือ ต.บ้านแห ต.คลองวัว และ ต.โพสะ จำนวนประมาณ 30 หลังคาเรือนเสียหาย ในเบื้องต้นได้สั่งไปยังทุกตำบลให้ออกสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัตถุประสงค์ของห้องภัยพิบัติและการเตรียมการ

    รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติ ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเกิดขึ้นโดยมนุษย์ มีทั้งทางแนววิทยาศาสตร์ พลังจิต และพุทธศาสตร์ มีการรวมตัวของกลุ่มสมาชิกเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เช่น "กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ" เพื่อเตรียมการล่วงหน้า ช่วยคนเมื่อภัยพิบัติต่างๆ มาถึง....

    ผมขออนุญาตยกตัวอย่างสมาชิกท่านหนึ่งของ"กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ" ที่กำลังทำหน้าที่นี้อยู่อย่างเข้มแข็ง คือคุณชัยมงคล โดยท่านมีเป้าหมายในการทำงานเพื่อส่วนรวมที่น่าสนใจดังนี้ครับ

    " ช่วยกันตามกำลัง ตามความถนัด ไม่หวังผลตอบแทน นักกีฬาต้องมองข้ามช็อต นักบริหารต้องมองข้ามปี นักปฏิบัติต้องมองข้ามชาติ<!-- google_ad_section_end --> "

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ชัยมงคล<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3558052", true); </SCRIPT> สมาชิก"กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ"

    [​IMG]

    ไปทำบุญข้าวเปลือก โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์2

    ไปทำบุญข้าวเปลือก 20 ถุงใส่เต็มรถ ครึ่งรถใส่ได้แค่ 10 ถุง ณ.โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์2 ต.ดงดินแดง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ของหลวงพ่ออลงกต เนื้อที่ 1,000 ไร่ ที่เข้าไปลึกหน่อยหลังเขาอากาศดี หลวงพ่อจะทำแบบครบวงจรแบบพึ่งพาตนเอง ทำนาปลูกผักเพื่อเลี้ยงตัวเองของกลุ่มผู้เป็นโรคเอดส์ มีโรงเรียนให้เด็กที่ติดเชื้อกับลูกๆของผู้ติดเชื้อ กำลังจะทำโรงไฟฟ้าเองจากต้นกระถินเป็นเชื้อเพลิง เสียดายไม่ได้เข้าไปดูข้างในโครงการ เพราะฝนตกอย่างหนักพอไปถึง ตอนนั้นเย็นแล้วด้วยคุยกันสักพักก็ลากลับ พอออกมาได้หน่อยฝนหยุด เลยถ่ายรูปหน้าโครงการได้ ถนนไม่เปียกเลย คงตกเฉพาะที่ วันหลังคงได้ไปดูงานใหม่

    ท่านใดต้องการจะบริจาค ติดต่อได้ผู้ดูแลคือคุณพันทิพย์ เบอรโทร 036-796-828,036-796-832,036-796-830,082-197-0055

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ที่มา http://palungjit.org/threads/รวบรวมความรู้ด้านเกษตรกรรม.124989/page-10
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2010
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อาร์เจนติน่าหนาวจัด แข็งตาย 9 คน อุณภูมิลดลงรวดเร็ว

    [​IMG]

    ประชาชนในอาร์เจนตินาเสียชีวิต 9 คน จากคลื่นความเย็นทวีปแอนตาร์กติกาที่พัดปกคลุมประเทศ กรมอุตุฯ คาดอาจลดต่ำถึง -14 องศาเซลเซียส รัฐบาลเร่งนำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าทำความร้อน ตอบสนองความต้องการในท้องตลาดขณะนี้...

    สำนักข่าวบีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ว่า ประชาชนในกรุงบูเอโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เสียชีวิต 9 คน จากสภาวะอุณหภูมิร่างการต่ำเกินไป ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนจรจัดไร้บ้าน

    ข่าวระบุว่า อากาศที่เย็นจัดในช่วงนี้ พัดมาจากทวีปแอนตาร์กติกา ส่งผลให้อุณหภูมิในประเทศแถบอเมริกาใต้ลดต่ำลง ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาอาร์เจนตินา เผยว่า คลื่นความเย็น อาจส่งผลให้อาร์เจนตินาอากาศหนาวจัดทั่วทั้งประเทศ และอุณหภูมิอาจลดต่ำถึง -14 องศาเซลเซียส ที่เมืองปาตาโกเนีย ทางตอนกลางของประเทศ ส่วนทางตอนเหนืออาจอยู่ระหว่าง 0-3 องศาเซลเซียส

    นอกจากนี้ รัฐบาลอาร์เจนตินายังเพิ่มการนำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าทำความร้อนจากบราซิล รวมถึงสั่งกำจัดการใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติในวงการอุตสาหกรรม เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในขณะนี้

    ด้านประเทศปารากัว อุรุกวัย และโบลิเวีย มีรายงานผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากอากาศหนาวจัดเช่นกัน แต่ข่าวไม่ระบุจำนวนแน่ชัด และส่งผลกระทบถึงชิลี ภาคใต้ของบราซิล และภาคตะวันออกของเปรู ด้านกระทรวงศึกษาธิการโบลิเวีย ประกาศหยุดเรียนกระทั่งถึงวันที่ 21 ก.ค. เนื่องจากสภาพอากาศเย็นจัดเกินไป เกรงเด็กนักเรียนอาจป่วยหนัก

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    ไฟป่ากรีซลาม 40 จุด ทางการเร่งอพยพคนหนี

    [​IMG]

    กรีซเผชิญไฟป่า ลุกลามกว่า 40 จุดทั่วประเทศ ทางการเกรงเข้าใกล้บ้านเรือนประชาชน เร่งอพยพคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยจำนวนมาก...

    สำนัก ข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ว่า เกิดไฟป่าลุกลามกว่า 40 จุดทั่วกรีซ รวมถึงเมืองลาฟริโอ ห่างจากกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของประเทศเพียง 30 กิโลเมตร และอาจลุกลามใกล้บ้านเรือน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยจำนวนมาก

    สำหรับ เพลิงไหม้จุดแรก เอพี เผยว่าเริ่มลุกลามช่วงกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ( 17 ก.ค. ) ตามเวลาท้องถิ่น ก่อให้เกิดฝุ่นควันโขมงน่านฟ้าใกล้กับกรุงเอเธนส์ กำลังลมที่รุนแรงส่งผลให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้ทิศทางลมพัดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และมีรายงานว่าสร้างความเสียหายกับบ้านเรือนประชาชนบางส่วน

    ทางการกรีซเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยหลายแห่ง เพราะเกรงว่าอาจลุกลามถึงแห่งที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกันก็ส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 150 คน พร้อมเครื่องบิน 6 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ ออกปฏิบัติภาระกิจดับไฟป่า

    ไฟป่าครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของฤดูกาล เมื่อ 3 ปีที่แล้วเกิดเหตุไฟป่าลุกไหม้ครั้งรุนแรงสร้างความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินประชาชนชาวกรีซมหาศาล

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    เกิดแผ่นดินไหว 6.7 ริกเตอร์ เขย่า'อลาสกา'ไม่เตือนสึนามิ

    [​IMG]

    แผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 6.7 ริกเตอร์ แถบหมู่เกาะอาลิวเชียนของ รัฐอลาสกา ของสหรัฐฯ แต่ไม่มีรายงานความเสียหายและไม่พบภัยคุกคามจากคลื่นยักษ์สึนามิ...

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 6.7 ริกเตอร์ ที่ภูมิภาคห่างไกล แถบหมู่เกาะอาลิวเชียนของ รัฐอลาสกา ของสหรัฐฯ เมื่อเวลา 21.56 น.ของวันที่ 17 ก.ค. ตามวันเวลาท้องถิ่น แต่ไม่มีรายงานความเสียหายและไม่พบภัยคุกคามจากคลื่นยักษ์สึนามิ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกใต้ท้องทะเลเบริง ราว 34 ก.ม. ซึ่งทะเลเบริง อยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้อ่าวดัชต์ ฮาร์เบอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแองคอเรจทางตะวันตกราว 1,500 ก.ม.และมีผู้อยู่อาศัยราว 2,000 คน และต่างรับรู้แรงสั่นสะเทือนแค่เล็กน้อย

    ไทยรัฐออนไลน์ วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 111.jpg
      111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72 KB
      เปิดดู:
      1,241
    • 112.jpg
      112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      53.6 KB
      เปิดดู:
      1,364
    • 113.jpg
      113.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.4 KB
      เปิดดู:
      1,279
  20. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 10:14:05 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <center></center>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]ตะลึง "ตาลีบัน" ฝึก "กองทัพลิงก่อการร้าย" เพื่อสังหารกองทัพอเมริกัน[/FONT]

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<style> P { margin: 0px; } </style> สำนักข่าวพีเพิ้ลเดลี่ของจีนรายงานว่า กลุ่มตาลีบัน ของอัฟกานิสถาน ได้พัฒนาวิธีการใหม่ในการก่อการร้ายอีกครั้งโดยการนำ "ลิง" มาฝึกฝนให้เป็นอาชญากร โดยทางกลุ่มตาลีบัน ได้ฝึกให้พวกมันรู้จักใช้ปืนและปืนใหญ่ นอกจากนั้นยังฝึกให้พวกมันรู้จักจดจำ สังเกต และโจมตีทหารที่ใส่เครื่องแบบทหารของกองทัพสหรัฐฯ แต่จริงๆแล้วความคิดในการนำลิงมาฝึกเพื่อใช้ประโยชน์ทางกองทัพนั้น มีความคิดริเริ่มมาจาก "หน่วยสืบราชการลับสหรัฐ" หรือ "ซีไอเอ" ในสมัยสงครามเวียตนาม โดยใช้ "ถั่วและกล้วย" เพื่อเป็นเครื่องล่อให้ "กองทัพลิง" สังหารชาวเวียตนามที่หลบอยู่ในป่า ตามรายงานของสื่อมวลชนอังกฤษแห่งหนึ่ง

    ตามรายงานพบว่าลิงที่นำมาทำการฝึกส่วนใหญ่จะใช้ลิงแสม และลิงบาบูน ในขณะที่พวกมันยังเป็นทารก โดยพวกพวกมันจะถูกนำมาขายให้กับกองทัพตาลีบันอีกต่อหนึ่ง เมื่อนำมาฝึกในฐานทัพลับของกลุ่มตาลีบัน ให้ฝึกใช้อาวุธสงครามประเภทต่างๆ เพื่อให้เป็นลิงนักฆ่า

    เมื่อเร็วๆนี้ ผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษรายหนึ่งได้เดินทางไปยังแคว้นวาซิริสถาน ประเทศปากีสถาน ติดกับชายแดนประเทศอัฟกานิสถาน โดยเขาได้สังเกตเห็นว่า "ทหารลิง" บางตัวได้มีการติดอาวุธปืน "เอเค 47" และปืนกลขนาดเล็กไว้ด้วย ซึ่งในอดีตพบว่าทางกองทัพตาลีบันได้ปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอด

    อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มตาลีบัน ได้นำกลุ่มลิงดังกล่าวออกแสดงต่อนักท่องเที่ยวบริเวณชายแดนปากีสถานและ อัฟกานิสถาน ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากลุ่มตาลีบันได้นำลิงมาใช้ในฐานะ "เครื่องมือชวนเชื่อ" โดยแหล่งข่าวภายในของกองทัพสหรัฐฯ ได้กล่าวยืนยันว่า กองทัพทหารลิงของกลุ่มตาลีบันนั้น "มีอยู่จริง" โดยผู้เชี่ยวชาญในกองทัพได้เรียกกลุ่มลิงติดอาวุธเหล่านี้ว่า "ขบวนการลิงก่อการร้าย"

    "ถ้ากลุ่มคนที่รักสัตว์รู้ว่า ลิงจะต้องได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบดังกล่าว พวกเขาก็จะกดดันให้ททางรัฐบาลสหรัฐฯ ถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานแน่นอน" คนวงในของกลุ่มตาลีบันคนหนึ่งกล่าว
    [/FONT]
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi][​IMG]
    [/FONT]
     

แชร์หน้านี้

Loading...