><กระทู้ใหม่(2) ยกเลิกกระทู้ และแจ้งย้ายกระทู้ครับผม ลิ้งค์บ้านใหม่อยู่หน้า1ครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 14 มิถุนายน 2010.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    รายการจัดส่งพัสดุวันนี้ครับผม 14/07/10

    รับทราบการแจ้งที่อยู่และการโอนครับ จัดส่งให้แล้วนะครับผม

    1.คุณประวิทย์ กทม. จัดส่ง พระสมเด็จเกสร108 ปี09 หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทองพร้อมของที่ระลึก พัสดุ EMS เลขที่EH489833454TH

    2.คุณประกาศิต กทม. จัดส่ง พระสมเด็จหลังรูปเหมือน หลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้าพร้อมของที่ระลึก พัสดุ EMS เลขที่EH489833445TH

    ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
    และอุดหนุนผมนะครับ
    ขอบคุณครับผม
    (f)(f)(f)
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2010
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    แจ้งย้ายกระทู้ครับผม
    เนื่องจากกระทู้นี้เกิดความผิดพลาดเข้าไม่ได้ครับ



    รายการจองและอัตราค่าบูชา รวมถึงลำดับรายการ ยึดตามกระทู้ใหม่(3)เลยนะครับผม อย่าลืมเข้ามาเยี่ยมชมนะครับผม ฉลองบ้านใหม่ ปรับราคาลงเวอร์มากครับ เข้าเนื้อแบบซิบๆ


    ลิ้งค์กระทู้ใหม่ครับผม : [URL="http://palungjit.org/posts/4695595[/B][/URL]



    ขอบพระคุณมากครับ
    (deejai)(deejai)(deejai)
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2011
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    ปิดรายการที่ 69.พระสมเด็จองค์บดินทร์ วัดสามปลื้ม

    [​IMG]

    พระสมเด็จองค์บดินทร์ วัดสามปลื้ม จัดสร้างโดยจอมพลประภาส จารุเสถียร ในคราวฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี เพื่อเป็นเกียรติแด่เจ้าพระยาบดินทร์เดชา(สิงห์ สิงหเสนีย์) แม่ทัพทหารเอกพระบาทสมเด้จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นแม่ทัพไปปราบกบฏเขมร และชื่อเสียงของเจ้าพระยาบดินทรเดชานั้น ยังกึกก้องอยู่ในดินแดนเขมร

    มวลสารที่สำคัญประกอบด้วยดังนี้
    -ชิ้นส่วนพระสมเด็จบางขุนพรหม วัดใหม่อมตรส (จอมพลประภาส เป็นประธานการเปิดกรุ ปี 2500 มอบให้เป็นมวลสาร)
    -ผงพระกรุต่างๆ เช่น พระคง,พระวัดสามปลื้ม
    -ผงพระวัดปากน้ำ-ผงงาช้างโบราณ
    -ผงธนบัตรชำรุดที่ธนาคารแห่งประเทศไทยย่อยทำลายเป็นเศษ
    -ผงตะไบอาวุธ หอก ดาบ ง้าวโบราณ
    -ผงว่าน108
    -ผงอัญมณีต่างๆ
    -ทรายเสกพระเกจิอาจารย์108รูป
    -ผงพุทธคุณพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ ฯลฯ

    โดยประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดจักรวรรดิราชาวาส หรือวัดสามปลื้ม โดยหลวงพ่อผ่อง วัดจักรวรรดิฯร่วมกับพระเกจิอาจารย์สมัยนั้น โดยขณะประกอบพิธีเกิดลมพายุพัดเข้ามาในพระอุโบสถหมุนอยู่บนกล่องบรรจุพระเครื่องเป็นเวลานาน ทั้งมีงูเหลือมขนาดใหญ่ตกลงมาจากเพดานโบสถ์ มีพายุ ลม ฝน ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง เสียงกึกก้องโดยพระเกจิอาจารย์หลายรูปนั่งปรก อาทิ

    -หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    -หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ
    -หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต
    -หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    -หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง
    -หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
    -หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    -หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม ฯลฯ
    -ซึ่งนอกเหนือจากการปลุกเสก ณ วัดจักรวรรดิราชาวาสแล้ว ยังได้นำพระเครื่อง "องค์บดินทร์" ไปให้หลวงปู่แหวน สุจิณโณ อริยสงฆ์แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ ปลุกเสกนานถึง 6 เดือนเต็ม<!-- google_ad_section_end -->
    ปิดรายการครับ
    โดยผู้ออกแบบแม่พิมพ์พระเครื่อง "องค์บดินทร์" คือ อาจารย์อนันต์ สวัสดิสวนีย์
    เป็นพระเครื่องรูปทรงสามเหลี่ยมยอดตัดเล็กน้อย ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธปฏิมากรปางสมาธิ ประทับบนอาสนะฐานด้านหน้าเป็นฐานผ้าทิพย์ ด้านหลัง เป็นยันต์อุณาโลม และอักษรไทยว่า "องค์บดินทร์"
    สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ เนื้อองค์พระแก่มวลสารมากๆ เนื้อหาหลากหลายทั้งผงเก่าผงใหม่และผงตะไบของชนวนมวลสาร แบ่งให้บูชา 450บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)
    ( คุณgoldenpond จองแล้วครับ )

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367 ,084-1527073
    Withamon@live.com,Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2010
  4. goldenpond

    goldenpond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +313
    ขอจอง

    ขอจองอีกองค์ครับ ช่วงบ่ายจะโอนเงินให้ทั้งหมดที่จองครับ
    goldenpond
     
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    ปิดรายการ 70.พระสังฆราชสุกไก่เถื่อน วัดพลับพลา ลป.โต๊ะ/ลพ.พริ้ง/ลป.เทียม ปลุกเสก

    [​IMG]

    พระพิมพ์พระสังฆราชสุกไก่เถื่อน วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี เนื้อผงหลังประทับโค๊ดหมึก เนื้อหามวลสารหลักประกอบด้วย พระผงเก่าวัดพลับและสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักจำนวนมาก จัดสร้างโดยท่านพระครูสิรินนทคุณ ซึ่งทุกรุ่นของท่านได้นิมนต์พระเกจิดังๆในยุคนั้นมาร่วมในพิธีพุทธาภิเษกมากมาย จัดสร้างเมื่อวันที่ วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2516 โดยพระเกจิย์ที่เข้าร่วมพิธีการปลุกเสกทั้งหมด 5ชุด

    รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก อาทิ
    ชุดแรก เวลา 17.50-19.00 น.
    1. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง 2. หลวงพ่อคำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี 3. หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์ ลพบุรี 4. หลวงพ่อคล้าม วัดกุ่มหัก สระบุรี 5. หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา

    ชุดที่สอง เวลา 19.00-20.00 น.
    1. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ 2. หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี 3. หลวงพ่อแก้ว วัดปทุมวนาราม อยุธยา 4. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง 5. หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา ปทุมธานี

    ชุดที่สาม เวลา 20.00-21.00 น.
    1. หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก ระยอง 2. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม 3. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณ์ กทม. 4. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี 5. หลวงพ่อโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม.

    ชุดที่สี่ เวลา 21.00-22.00 น.
    1. หลวงพ่อพระโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิต กทม. 2. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม 3. หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี 4. หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง เพชรบุรี 5. หลวงพ่อพยนต์ วัดเกตุมวดีย์ สมุทรสาคร

    ชุดที่ห้า เวลา 22.00-23.00 น.
    1. หลวงพ่อพระพุทธมนต์วราจารย์ วัดสุทัศน์ฯ กทม. 2. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง 3. หลวงพ่อกาหลง (ไม่ทราบวัด) จังหวัดจันทบุรี 4. หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี 5. หลวงพ่อสะอาด วัดฝาง นนทุบุรี
    ปิดรายการครับ
    สภาพสวยเดิม เนื้อหามวลสารเข้มข้นโค๊ดหมึกค่อนข้างชัด พิมพ์ทรงคลาสสิคยิ่งส่องยิ่งมัน แบ่งให้บูชา 450บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)
    (คุณคนบรรพต ปิดแล้วครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367 ,084-1527073
    Withamon@live.com,Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2010
  6. บอมม์

    บอมม์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +474
  7. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,981
    ค่าพลัง:
    +5,390
    ได้โอนเงิน ๑๔๐๐ บาทเมื่อ๑๕ กค. เวลา๑๒.๕๘น. เป็นค่าพระ๓รายการที่อยู่ดูในpmครับ
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    ปิดรายการ 71.ของดีเมืองชล พระกริ่งหลวงพ่อโต หลวงพ่อโด่,หลวงปู่ทิม,หลวงพ่อหอม เสก

    [​IMG]

    ขอแก้ไขข้อมูลครับ พระกริ่งรุ่นแรกหลวงพ่อโต วัดโบสถ์ อ.พนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เนื้ออัลปาก้า(สร้างน้อยกว่าทองผสมรมดำ) ใต้ฐานตอกโค๊ดสองแถวตามรูป จัดสร้างโดยท่านพระอาจารย์ทองหยิบ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ โดยมีหลวงพ่อโด่ วัดนามะตูมเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย โดยจัดทำพิธีเททอง และหล่อกันที่วัด ในปีพ.ศ. 2512 เนื่องในงานฝังลูกนิมิตพระอุโบสถหลังใหม่ ( ไม่ใช่ปี2507ตามที่แจ้งไว้ในตอนแรกครับ) และ ได้มีการนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง หลายท่านด้วยกันมาร่วมปลุกเสก อันได้แก่
    1. หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม
    2. หลวงปู่หิน วัดระฆังฯ
    3. หลวงพ่อหอม วัดซากหมากฯ
    4. หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    5.หลวงปู่นาค วัดระฆังฯ
    6.หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
    7.หลวงพ่อเหมือน วัดกำแพง
    8.หลวงพ่อหยิบ วัดโบสถ์
    9.หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า
    10.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว
    11.หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
    12.หลวงพ่อม่น วัดเนินตามาก เป็นต้น
    หลังจากเสร็จสิ้นครบทุกกระบวนการแล้ว จึงนำออกมาแจกให้ร่วมทำบุญในปี พ.ศ. 2512 เป็นพระกริ่ง หล่อโบราณ สุง 3.5 ซ.ม. ดูสวยงาม ที่ก้นขององค์พระกริ่ง จะมีการตอกโค๊ต คำว่า หลวงพ่อโต ว.บ. (อันมีความหมายว่า วัดโบสถ์) ทุกองค์ สำหรับประสบการณ์เล่าขานกันมาจากคนในท้องที่ บอกกล่าวกันว่า กันศาสตราวุธ กันสรรพภยันตราย กันภูติผี ปีศาจ กันการกระทำ ย่ำยี และ แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม และอีกประสบการณ์หนึ่งคือ ประสบการณ์จากสงครามเวียดนาม อันเป็นที่เลื่องลือทางด้านคลาดแคล้วปลอดภัยจากภัยทั้งปวง ถ้าทหารไทยท่านใดที่ไปรบนำพระกริ่งหลวงพ่อโตนี้ติดตัวไปด้วย เป็นอันต้องรอดกลับมาทุกนาย (พระรุ่นนี้มีลงหนังสือ พระดีศรีเมืองชลด้วยครับ) สุรปข้อมูลทั้งหมดนะครับ ทางวัดโบสถ์ อำเภอพนัสนิคม มีการจัดสร้างและพุทธาภิเษกทั้งหมดเพียง 2ครั้งเท่านั้นครับ และพระคณาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก เป็นชุดเดียวกันทั้ง 2ครั้งเลย โดยในพิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งหลวงพ่อโตนี้ ยังมีเหรียญหลวงพ่อทองหยิบ ที่ได้จัดสร้างพร้อมกันในครั้งนี้ด้วย
    ปิดรายการครับ
    สภาพสวยเดิมกริ่งวิ่งไม่ขัดโค๊ดชัด ส่วนใหญ่พิพม์ทรงจะประมาณนี้ไม่ได้คมชัดมากมายเหมือนพระรุ่นใหม่ๆในปัจจุบันนี้ ที่เคยพบมามีอยู่ 2เนื้อครับคือ เนื้ออัลปาก้าและเนื้อทองผสมรมดำ ใต้ฐานตอกโค๊ดทุกองค์บางองค์ไม่มีก็มีครับแต่ราคาจะถูกกว่าแบบมีโค๊ด ตอนนี้พื้นที่หาของกันไม่ได้แล้วครับ เนื่องจากบรรดาลูกศิษย์ของพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกนี้ ต่างพากันหาหวงแหนและเก็บกันไว้บูชา บ้างก็เล่นหากันเป็นของหลวงปู่ทิมเลยก็มี ถือว่าเป็นพระกริ่งที่ดีและมีอนาคตไกลอีกรุ่นหนึ่งที่น่าเก็บเป็นอย่างมาก เชื่อเถอะครับ พระกริ่งรุ่นนี้มีข้อมูลบันทึกการจัดสร้างไว้ชัดเจน(บันทึกของทางวัด) จากการสอบถามผ่านทาง เจ้าอาวาสวัดโบสถ์องค์ปัจจุบันครับ(สมัยนั้นท่านเป็นพระลูกวัดยู่) อนาคตไกลจริงๆ รับประกันความแท้ทุกกรณีครับเก๊คืนเงินทันที แบ่งให้บูชา 1,599บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)
    ( คุณsupachaipnu จองแล้วครับ )

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ [COLOR=red]6000088418 [/COLOR]
    โทร.086-0441367 ,084-1527073
    Withamon@live.com,[B]Engineer0206nu@gmail.com[/B]
    [COLOR=#ff0000]*** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***[/COLOR]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2010
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    สวัสดีครับ เฮียบอมม์
    ขอบพระคุณครับที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ
    คิดถึงเฮียบอมม์เหมือนกันนะเนี่ย ไม่ได้เจอกันตั้งนาน
    รักษาสุขภาพด้วยนะครับผม
    :z6dannce_dannce_dannce_:z6
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    รับทราบการแจ้งที่อยู่และการโอนครับ คุณj999 และคุณgoldenpond

    ผมจะจัดส่งให้ตอนบ่ายสามเวลาเดิมเลยนะครับ

    ขอบพระคุณมากครับผม ที่อุดหนุนผมและให้โอกาสผมได้รับใช้อีกครั้ง:VO
     
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    รายการจัดส่งพัสดุวันนี้ครับผม 15/07/10

    1.คุณสมพร กทม. จัดส่ง
    - พระนางพญาโรงพยาบาลสงฆ์ 3โค๊ด
    - พระปิดตานะมิองค์ที่2และพระรอดองค์ที่2 หลวงปู่สี
    - สมเด็จพระพุทธบาทประชารักษ์ องค์ที่1
    - พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อรุ่งเคราเหล็ก
    - พระสมเด็จปรกโพธิ์พระพุทธบาทประชารักษ์ วัดพระพุทธบาทสระบุรี
    - พระพิมพ์เศียรแหลม วัดสามปลื้ม ปี15
    - พระนางพญาอินโดจีนวัดสุทัศน์ฯ หลังยันต์ใหญ่
    - พระสมเด็จองค์บดินทร์ วัดสามปลื้ม
    พร้อมของที่ระลึก พัสดุ EMS เลขที่EH489833817TH

    2.คุณจาตุรนต์ กทม. จัดส่ง
    - สมเด็จหลังจุลมงกุฏ องค์ที่2 (ไม่มีกล่อง)
    - พระผงสมเด็จพระธาตุพนม
    - พระสมเด็จหลังเจดีย์ยุทธหัตถี หลวงพ่อเก็บ วัดดอนเจดีย์ หลวงพ่อมุ่ย ร่วมเสก
    พร้อมของที่ระลึก พัสดุ EMS เลขที่EH489833825TH


    ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
    และอุดหนุนผมนะครับ
    ขอบคุณครับผม
    (f)(f)(f)
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    ปิดรายการ 71.พระสมเด็จวัดราชนัดดาปี12 ลป.กวย,ลป.โต๊ะ ปลุกเสก

    [​IMG]

    ประวัติการจัดสร้างมีการดำเนินการโดยทางวัดเองเริ่มประมาณในปีพ.ศ.2512 โดยมี “พระมหาโกเมส” จากวัดราชนัดดาซึ่งมีความสนิทกับท่านพระธรรมรัตนากรเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง(ปัจจุบันทราบว่าท่านได้ลาสิกขาแล้ว )และการดำเนินการไม่ได้มีการจัดทำเอกสารในการจัดสร้างแต่อย่างใดแต่ได้มีการถ่ายรูปไว้จำนวนหนึ่งขณะนี้สอบถาม แล้วตั้งแต่เจ้าอาวาสคือท่านพระธรรมรัตนากรมรณภาพแล้วก็ไม่ได้มีผู้ใดสนใจ รูปที่ถ่ายไว้ได้สูญหายไปไม่ทราบว่าไปตกอยู่ที่ใครบ้างถ้าตามพบจะนำมาเสนอต่อไป การกดพิมพ์พระได้ดำเนินการกดพิมพ์กันในบริเวณวัดพระพุทธบาท บริเวณใต้ถุนศาลาทำบุญ ปัจจุบันศาลาหลังนี้เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้ทำการรื้อไปแล้วซึ่งน่าเสียดายยิ่งนัก โดยพิมพ์พระเป็นพิมพ์ที่ท่านพระมหาโกเมศจัดหามาเท่าที่ทราบมีประมาณสิบกว่าพิมพ์ โดยเรียกชื่อพิมพ์คล้ายกันกับสมเด็จบางขุนพรหมแต่ได้แกะพิมพ์ให้แตกต่างกันออกไป และการพิมพ์องค์พระทำเป็นแบบสองหน้าก็มี ที่เรียกชื่อเท่าที่พบ 1) พิมพ์ทรงเจดีย์ 2) พิมพ์ฐานขาสิงห์ 3) พิมพ์เกศบัวตูม 4) พิมพ์ปกโพธิ์ 5) พิมพ์อกครุฑ 6) พิมพ์ฐานแซม7) พิมพ์วัดเกศ
    พิมพ์นอกจากนี้จะเป็นพิมพ์พิเศษที่ทำขึ้นมาเพื่อแจกแก่ผู้ที่มาช่วยงานเช่นทำเป็นพิมพ์สองหน้า ส่วนพิมพ์ทั่วไปลักษณะองค์พระด้านหน้าจะเป็นรูปแบบของแต่ละพิมพ์ทรงด้านหลังจะกดพิมพ์ด้านหลังองค์พระด้วยตราจุลมงกุฎ ซึ่งจุลมงกุฎนี้สมเด็จพระพุฒาจารย์นวมได้ทำการจัดสร้างไว้ เพื่อแจกแก่ผู้ทีร่วมทำบูญเมื่อคราวบูรณะรอยพระพุทธบาทจะมีสองแบบคือแบบพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่จะนำมากดด้านหลังองค์พระทั้งสองแบบ พระทั้งหมดจัดสร้างจำนวนเท่าใดไม่ทราบ เมื่อทำการกดพิมพ์พระเป็นจำนวนพอแก่ความต้องการแล้วได้จัดพิธีพุทธาภิเศกที่ศาลาหอเย็นใกล้รอยพระพุทธบาทในปี พ.ศ.2515ทราบว่าได้ทำพิธีใหญ่มากเกจิอาจารย์ที่มาร่วมในพิธีเท่าที่ทราบมีดังนี้
    หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    และยังมีเกจิอาจารย์อื่นๆอีกสอบถามไม่มีผู้ให้คำตอบได้
    และในปีพ.ศ. 2522ได้เข้าพิธีอีกครั้งหนึ่งสอบถามจากผู้ได้ไปนิมนต์ซึ่งได้เดินทางร่วมไปกับพระที่วัดที่จำได้มี
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    หลวงพ่อเชื้อวัดใหม่บำเพ็ญบุญ
    พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุธ)เจ้าคณะจังหวัดอุทัย (องค์นี้งูเห่าแผ่แม่เบี้ยท่านชี้มือสยบเลยจากคำบอกเล่าของผู้ที่ไปนิมนต์ท่าน)
    หลวงปู่นาค วัดหนองโปร่ง
    หลวงพ่อสุวรรณ วัดเขาบ่มกล้วย
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    พระรุ่นนี้หลวงพ่อกวยได้นำพระบางส่วนกลับไปด้วย
    ปิดรายการครับ
    พระสมเด็จรุ่นนี้โดยส่วนตัวผม ถือว่าเป็นของดีพิธีใหญ่ มวลสารเยี่ยม เกจิย์เก่า ดีครบสูตรพุทธคุณทุกทาง สภาพสวยพร้อมกล่องเดิมจากวัด มีรอยกระเทาะนิดหน่อย 1จุดตามรูปครับผม แบ่งให้บูชาองค์ละ 600 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)
    (คุณพอชูเดช ปิดแล้วครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367 ,084-1527073
    Withamon@live.com,Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2010
  13. Step&Time

    Step&Time เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    792
    ค่าพลัง:
    +4,220
    วันนี้ได้รับพระเรียบร้อยแล้วครับ
    และขอบคุณสำหรับของที่ระลึก
     
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    รับทราบครับผม ยินดีที่ได้รับใช้ครับผม
    ขอบพระคุณครับ:VO
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    ปิดรายการ 72.พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก เจ้าตำรับปลัดขิกอันเลื่องชื่อ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื้อผงน้ำมันแก่มวลสาร ด้านหลังประทับยันต์ จัดสร้างประมาณปี พ.ศ.2499

    ประวัติของท่านโดยสังเขป หลวงพ่อเหลือเป็นชาวบางคล้าชาตะเมื่อ พ.ศ.2406 ท่านได้มาเป็นศิษย์วัดสาวชะโงกเพื่อเรียนหนังสือไทยที่เรียกว่า อักขระสมัยและหนังสือใหญ่ (ขอม) ไปพร้อมกัน จนมีความรู้อ่านออกเขียนได้ ก็กลับไปช่วยบิดา-มารดาทำไร่ทำนา เมื่ออายุครบอุปสมบทหลวงพ่อเหลือก็เข้าเป็นพุทธบุตร ณ พัทธสีมาวัดสาวชะโงก หลวงพ่อคง วัดใหม่บางคล้า เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อขริก วัดสาวชะโงก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ บวชแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดสาวชะโงก ด้วยว่าหลวงพ่อเหลือสนใจในการวิปัสสนา จึงได้ไปขึ้นกรรมฐานกับหลวงพ่อขริก เมื่อปฏิบัติสมาธิจนจิตเป็นเอกัคตาแล้ว หลวงพ่อขริกก็ครอบครูวิชาอาคมให้ทั้งหมด หลวงพ่อขริกท่านเป็นพระผู้เรืองอาคม สร้างพระปิดตาแกะจากไม้คูน หลวงพ่อเหลือช่วยสอนกรรมฐานให้กับบรรดาพระ-เณรและญาติโยมแทนหลวงพ่อขริกที่ชราภาพลงไปทุกปี หลวงพ่อขริกได้ขึ้นธุดงควัตรให้หลวงพ่อเหลือ เพื่อจะได้ออกธุดงค์เดี่ยวฝึกจิตและคาถาอาคม หลวงพ่อเหลือเดินธุดงค์เดี่ยวอยู่หลายปี จนในปีหนึ่งได้ไปพบกับขบวนธุดงค์ของท่าน พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ (หลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส) ที่เดินทางมานมัสการพระศรีมหาโพธิ์ที่ ปราจีนบุรี หลวงพ่อเหลือได้พบหลวงพ่อปานและเกิดความเลื่อมใสจึงขอติดตามไปธุดงค์

    หลวงพ่อปานทดสอบวิชาอาคมและการทำสมาธิจนเห็นว่ามีพื้นฐานดีจึงรับไว้เป็นศิษย์ให้อยู่กับหลวงพ่อนก (ต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาสวัดสังกะสี ที่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นวัดนาคราช) เป็นสหธรรมิกกันมาโดยตลอด หลังจากได้เรียนวิชาจากหลวงพ่อปานแล้วจึงกลับมาวัดสาวชะโงก หลวงพ่อเหลือบอกกับศิษย์ใกล้ชิดว่า ท่านได้ธุดงค์ไปเรียนวิชากับหลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ ปรมาจารย์ผู้สร้างพระปิดตายอดนิยมในวงการพระปิดตามาจนทุกวันนี้ นอกจากนั้นได้ไปศึกษาวิชาเพิ่มเติมหลวงพ่อดำ วัดกุฏฯผ้าประเจียดที่ลงอักขระบนผ้าแดง เสื้อยันต์แดง ของหลวงพ่อเหลือสร้างชื่อเสียงให้กับทหารหาญชาวฉะเชิงเทราที่ไปรบในสงครามเรียกร้องดินแดนคืนจากฝรั่งเศส (สงครามอินโดจีนระหว่าง พ.ศ.2483-2484) ในด้านคงกระพันถูกยิงล้มแล้วพอหายจุกก็ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ จนทหารกองกำลังผสมฝรั่งเศสกับเวียดนาม ให้สมญาว่า “ทหารผี”
    ทั้งนี้ก่อนหน้าสงครามอินโดจีนท่านเป็น 1 ใน 108 พระเกจิอาจารย์ ที่ได้รับนิมนต์มาร่วมนั่งปรกพุทธาภิเษกวัตถุมงคลในงานหล่อพระรูปสมเด็จพระสังฆราช เจ้ากรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ที่วัดราชบพิตรระหว่างปี พ.ศ.2480-2481 มีผู้กล่าวด้วยความเสียดายว่า “หากหลวงพ่อเหลือท่านอนุญาตให้ศิษย์สร้างเหรียญที่ระลึกในองค์ท่านแล้วปลุกเสกแจกแบบพระเกจิอาจารย์ในยุคนั้น เหรียญรุ่นนั้นจะดังไม่แพ้เหรียญพระเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกัน” แต่ท่านปฏิเสธทุกรายที่มาขออนุญาต

    เรื่องการสร้างปลัดขิกนี่ไม่อาจชี้ขาดได้ บางท่านให้ข้อมูลว่า หลวงพ่อเหลือได้วิชาปลัดขิกมาจากหลวงพ่อขริกอาจารย์ของท่าน เพราะหลวงพ่อขริกท่านเคยสร้างพระปิดตาด้วยไม้คูนที่มีอยู่ในวัดมาก่อนหน้าแล้ว แต่บางท่านให้ข้อมูลว่าหลวงพ่อเหลือท่านได้วิชาทำปลัดขิกมาจากหลวงพ่อนก วัดสังกะสี สหายทางธรรมของท่าน โดยแลกเปลี่ยนกับวิชาลงผ้าประเจียดและเสื้อยันต์ที่หลวงพ่อเหลือท่านมีอยู่
    ปิดรายการครับ
    สถาพสวยเดิมตามอายุ แต่ด้านหลังมีรอยกระเทาะ 1จุดดังรูป พระชุดนี้ถือว่าหาได้ยากมากๆนานๆทีจะหลุดมา และจะพบสภาพที่สมบูรณ์นั้นก็ยากเช่นกัน เนื่องจากการจัดสร้างนั้นค่อนข้างน้อยและองค์พระเป็นเนื้อผงน้ำมันเนื้อค่อนข้างอ่อน การที่แตกหักนั้นกระเทาะเป็นไปได้ง่าย ราคาตามสภาพครับ แบ่งให้บูชา 699บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)
    (คุณJantip จองแล้วครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367 ,084-1527073
    Withamon@live.com,Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2010
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    ปิดรายการ 73.ลูกอมชานหมากห่อจีวร+ตะกรุด หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค

    [​IMG]

    ลูกอมชานหมากห่อจีวร ลูกพิเศษมีรูปถ่ายและตะกรุด 1ดอกพร้อมเลี่ยมเดิมจากวัด หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค จังหวัดนครสวรรค์ (รูปที่เปรียบเทียบขนาดกับเหรียญใช้รูปเก่าครับไม่ใช่ของลูกนี้) วิธีการสร้างลูกอมของท่านนั้น หลวงปู่ท่านเมื่อคายชานหมากแล้ว ก่อนมอบให้ผู้ใดท่านจะจับมาแบ่งเป็นก้อนๆ ซึ่งคำหนึ่งได้เพียง 3-4ก้อนเท่านั้น แล้วท่านจะฉีกผ้าเช็ดหมาก บ้าง ผ้าจีวร สบง ผ้าอาบน้ำฝน สีส้มๆ ห่อแล้วผูกไว้อย่างดี โดยในการขมวดปมซ่อนเงื่อนแต่ละเงื่อนนั้นต้องว่าคาถากำกับ แต่ถ่าหากแกะออกแล้ว จะห่อได้ไม่เหมือนที่ท่านทําไว้ ท่านใดได้ไว้บูชาก็พึงเก็บรักษาไว้ให้ดี เพราะนั่นเพราะเป็นสุดยอดวัตถุมงคลจริงๆ และหาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน คำหมาก หรือ ชานหมาก ที่ได้รับจากมือหลวงปู่สี ส่วนใหญ่ท่านจะฉีกเศษจีวรเก่าที่อยู่ข้างกายของท่านผูกห่อเป็นคำ มอบให้กับศิษย์ และหลวงปู่ก็จะกำชับว่า “อย่าแกะ อย่าลอง” ในเรื่องการทดลองของวัตถุมงคลหลวงปู่ มีเรื่องเล่ากันว่า นายทหารเคยเอาไปลองแขวนคอไก่แล้วลองยิงด้วยปืน แต่ปรากฏว่าไม่ออก และบางครั้งก็เอานักแม่นปืนเหรียญทองมาลองยิงถึงออกก็ไม่ถูก จนเป็นที่เลื่องลือ และแสวงหากันอย่างมากมาย แต่ พอนายทหารคนที่นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ไปทดลองยิง มากราบหลวงปู่ที่กุฏิ หลวงปู่ก็จะพูดขึ้นว่า วันนี้พวกเอ็งสนุกกัน แต่ข้าเจ็บปาก ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่หลวงปู่ห้ามทดลอง เพราะของของท่าน ท่านจะต้องคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้มีติดตัวให้พ้นเคราะห์กรรม แต่ท่านต้องรับกรรม ชานหมากของหลวงปู่ แต่รุ่นที่ออกมาจากวัดเขาถ้ำบุญนาค ส่วนใหญ่จะมีผ้าจีวรผูกมัดไว้อยู่เป็นส่วนใหญ่ ในเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ เดชฤทธิ์ ความมหัศจรรย์ ในคุณวิเศษของหลวงปู่สี ฉันทสิริ นั้น มีมากมาย โดยเฉพาะในเรื่อง “ชานหมาก” ของหลวงปู่ มีเรื่องเล่าขานถึงคุณวิเศษมากมาย ปัจจุบันท่านละสังขารแล้ว เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 สิริอายุ 128ปี
    ปิดรายการครับ
    สภาพสวยเลี่ยมเดิมจากวัด ปัจจุบันหายากแล้วลูกนี้ที่ได้มามีตะกรุดบรรจุอยู่ 1ดอกครับ แต่เรื่องข้อมูลว่าตะกรุดที่ใส่มานั้นคือตะกรุดอะไรนั้นไม่มีข้อมูลครับ แต่โดยส่วนตัวคาดว่าน่าจะเป็นตะกรุดที่หลวงปู่ท่านจารและปลูกเสกไว้แล้วเหลือ บรรดาลูกศิษย์ที่มีหน้าที่บรรจุลูกอมก็บรรจุใส่บรรจุมากับลูกอมด้วย เท่าที่พบมาหายากว่าแบบมีเกศาอีกครับ รับประกันแท้ตลอดชีวิตครับเก๊คืนเต็ม ให้บูชากันแบบเบาๆเก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้ครับ แบ่งให้บูชา 1,990บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)
    ( คุณJantip จองแล้วครับ )

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367 ,084-1527073
    Withamon@live.com,Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2010
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    ปิดรายการ 74.พระไตรรัตนจักรยุคต้น หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน

    [​IMG]

    พระไตรรัตนจักรยุคต้น หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระเนื้อดินด้านหลังประทับยันต์ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2530 เนื่องในโอกาสฉลองอายุครบ 80ปีของท่าน

    ประวัติหลวงปู่ชื้นโดยสังเขป หลวงปู่ชื้น พุทธสโร มีนามเดิมว่า "ชื้น" เกิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 18 มีนาคม 2450 เป็นบุตรของนายจัน และนางหงิม นามสกุล “ยอดฉิม” เป็นชาวหมู่บ้านไฝต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยครอบครัวได้ประกอบอาชีพด้านกสิกรรม เบื้องต้นได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดเกาะลอย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน เมื่ออายุได้ 15 ปี ก็บรรพชาเป็นสามเณร จนถึงอายุ 18 ปี จึงลาสิกขาบทออกมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาอยู่ประมาณ 3 ปี

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    หลวงปู่ได้อุปสมบท ณ วัดเกาะลอย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2470 โดยมีหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ จ.สระบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการมาด วัดหนองแคเก่า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองดี วัดเกาะลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทธสโร” ท่านเป็นพระที่ขยันหมั่นเพียรในการเรียนพระปริยัติธรรม จนกระทั่งพรรษาที่ 3 จึงสอบได้นักธรรมตรี ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกเรียนทางด้านนี้ แล้วเบนเข็มทิศไปหาความรู้ทางด้านไสยศาสตร์วิชาอาคมจากครูบาอาจารย์วัดเกาะลอย ซึ่งทั้งวิชาไสยเวทย์และแพทย์แผนโบราณ เมื่อมีความรู้รักษาตนเองได้ จึงออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรเสาะหาพระเกจิอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมอย่างต่อเนื่อง ได้ออกเดินทางจากจังหวัดสระบุรีเรื่อยมาจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมาหยุดจำพรรษาที่วัดญาณเสนในปัจจุบันนี้
    ณ อารามแห่งนี้ ท่านได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ โหราศาสตร์และวิชาเล่นแร่แปรธาตุกับพระอาจารย์สาย หรือขุนโจรย่ามแดงในอดีต ได้อยู่จำพรรษาตั้งแต่นั้นมา โดยพึงพอใจกับวิชาความรู้ที่ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมที่มาให้ท่านช่วยปัดเป่า บรรเทาความเดือดร้อนอยู่หลายปีด้วยกัน ช่วงเวลานั้นชื่อเสียงของพระอาจารย์สายและพระอาจารย์ชื้นเป็นที่ร่ำลือถึงความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรมาท่านทั้งสองจะช่วยสงเคราะห์ได้หมด ชื่อเสียงขจรไกลถึงกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นได้มีเศรษฐีผู้หนึ่งได้เกิดเป็นโรคเหน็บชา รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ยาไทยยาเทศกี่ขนานก็เอาไม่อยู่ เมื่อล่วงรู้เกียรติศักดิ์ของหลวงพ่อชื้น จึงเดินทางมาให้ท่านรักษา ท่านเสกไพรไปให้ทานปรากฏว่าหายเป็นปลิดทิ้ง เขาจึงกราบเรียนท่านไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแค นางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) กรุงเทพฯ พร้อมถวายตัวเป็นโยมอุปัฎฐาก แต่เมื่อท่านไปปรึกษากับพระอาจารย์สาย ได้รับเหตุผลและแง่คิดมากมาย จนทำให้ต้องบอกปฏิเสธไป ต่อมาพระอาจารย์สายได้ลาสิกขาบทออกไป ทำให้หลวงปู่ชื้นต้องอยู่อย่างลำพังต้อนรับญาติโยมที่นับวันจะมากขึ้นทุกวัน จึงเริ่มเบื่อหน่ายในวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคม ทำให้ร่างกายและจิตใจของท่านเกิดความร้อนรุ่ม
    ประกอบกับมีข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุรูปหนึ่งมาปลักกลดอยู่ที่หน้าวัดกุฎีทอง มีญาติโยมขึ้นกันมากมาย ปฏิปทาของพระอาจารย์รูปนั้นเป็นที่โจษขานกันมากโดยในวันพระจะไม่พูดกับใครเลยและจะไม่ฉันอาหารใดๆทั้งสิ้น ส่วนวันธรรมดาก็จะพูดน้อยมาก อัฐบริขารก็จะมีเพียงกลด จีวรและรองเท้าเก่าๆ ส่วนในย่ามก็มีเพียงกะลาสำหรับเป็นภาชนะใส่ข้าวและช้อนที่ทำจากกะลาเท่านั้น มารู้ภายหลังว่าพระอาจารย์รูปนั้นคือ “พระอาจารย์เสน เตชธัมโม ธุดงค์มาจาก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา หลวงปู่ชื้นจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปใกล้ชิด เพื่อสัมผัสและพิสูจน์ตามคำโจษขานนั้น และได้รับคำทักท้วงว่า “ท่านเดินผิดทางแล้ว” พระอาจารย์เสนย้ำอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายหน จนท่านนำคำพูดนั้นมาทบทวน และค่อยใช้สติสมาธิพิจารณาถึงความหมาย จนกระทั่งพบข้อเท็จจริงแห่งสัจธรรม ทั้งสองท่านก็ปรารถณาเป็นศิษย์-อาจารย์กัน ทบทวนศีล พระธรรมวินัยต่างๆ โดยหลวงปู่ชื้นได้นำตำราไสยศาสตร์วิชาอาคมต่างๆที่เล้าเรียนมาตั้งแต่ต้นเผาทิ้งจนหมดสิ้น จึงกลับมาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดกับพระอาจารย์เสน พร้อมทั้งนิมนต์ให้ผู้เป็นอาจารย์มาจำพรรษาที่วัดญาณเสน จากปฏิปทาที่เปลี่ยนแปลงไปของท่าน จึงมีเสียงครหาไปในทางไม่สู้ดี แต่ท่านก็ไม่สนใจยังคงมุ่งหน้าที่จะมุ่งปฏิบัติต่อไปจนถึงขั้นอุกฤษฎ์ใต้ต้นโพธิ์ข้างโบสถ์เป็นเวลา 1 เดือน ด้วยการนั่งสมาธิตลอดเวลา ยกเว้น เวลาฉัน ปัสสาวะและขับถ่ายเท่านั้น ชั่วเวลาเพียง 24 วัน จากการเริ่มปฏิบัติท่านก็สำเร็จสุดยอดวิชา“รัตนจักร” พร้อมกันนั้นท่านก็ถูกร้องเรียนไปทางคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้พิจารณาในปฏิปทาที่เพี้ยนๆเป็นต้นว่า ชอบอยู่อย่างสมถะ สันโดษ ข้างของที่ญาติโยมนำมาถวาย ใครจะหยิบอย่างไรก็ไม่ห้ามปราม หมู หมา กา ไก่ ฯลฯ จะมาอยู่ในวัดสร้างความสกปรกอย่างไรท่านก็วางเฉยไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น จึงมีมติให้ปลดท่านจากการเป็นเจ้าอาวาส หลวงปู่ชื้นท่านก็มิได้อนาทรร้อนใจใดๆทั้งสิ้น เพียงขอทางคณะสงฆ์ว่า การตั้งเจ้าอาวาสให้ตั้งจากพระที่มาจากวัดญาณเสนเท่านั้น ในความรู้สึกของชาวบ้านและญาติโยมทั่วไปก็ยังคงเคารพนับถือหลวงปู่ชื้นไม่มีเสื่อมคลาย ในวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื้นที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่าน หลวงปู่จะอัญเชิญพระรัตนจักรมาสถิตในวัตถุมงคลนั้นๆเสมอ
    หลวงปู่ชื้น พุทฺธสโร มรณภาพอย่างสงบในวัย 97 ปี ภายในกุฏิตึกทรงธรรม ต่อหน้าลูกศิษย์จำนวนมากที่เฝ้าดูแลใกล้ชิด หลังจากอาพาธมานานด้วยโรคประจำตัวหลายโรคด้วยกัน เมื่อ 17 มิ.ย. 2546

    หลวงปู่ชื้นเป็นพระเถระ บารมีสูง ท่านสำเร็จธรรมชั้นสูง ตั้งแต่ปี 2500 วัตถุมงคลท่านคนในพื้นที่เก็บกันมาก มีประสบการณ์เยอะ ท่านสำเร็จวิชารัตนจักร คือจักรของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จักรคืออำนาจ แปลว่าวัตถุมงคลท่านเป็นอาวุธของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เพื่อกำจัดสิ่งไม่ดี แม้แต่หลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก ยังบอกว่า "ถ้าข้าไม่อยู่แล้ว ให้ไปกราบพี่ชื้น วัดญาณเสน" และหลวงพ่อคูณยังได้บอกศิษย์ว่า ให้ไปทำบุญกับหลวงปู่ชื้น จ.อยุธยา หลวงปู่พรหมา เขมจาโร ยังให้ลูกศิษย์ที่เป็นฤาษี มาเก็บพระหลวงปู่ชื้น นอกจากนี้หลวงปู่แหวน วัดดอกแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ยังเคยเอ็ดเอากับชาวอยุธยาว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" หมายความว่า ชาวอยุธยาผู้นั้นเดินผ่านวัดหลวงปู่ชื้นกลับไม่รู้ว่ามีเพชรแท้อยู่หน้าบ้านตัวเอง แต่กลับไปกราบหลวงปู่แหวน ซึ่งห่างไปตั้งหลายร้อยกิโล เคยมีคนถามท่านด้วยตัวเองว่า พระของหลวงปู่กันนิวเคลียร์ได้ใช่ไหม ท่านตอบว่า ได้ และบอกอีกว่า นิวเคลียร์เป็นพลังทางโลกจะสู้พลังทางธรรมไม่ได้
    ปิดรายการครับ
    สถาพสวยเดิมสมบูรณ์ พิมพ์คมชัดลึก แบ่งให้บูชาองค์ละ 650บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)
    (คุณgoldenpond จองแล้วครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367 ,084-1527073
    Withamon@live.com,Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2010
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    ปิดรายการ 75.พระผงรูปเหมือนหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง พระอริยเจ้าแห่งกองทัพธรรม

    [​IMG]

    [​IMG]

    พระผงรูปเหมือนหลังพระสมเด็จ หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อผงน้ำมันจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2517

    ประวัติพอสังเขป หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เดิมชื่อ ญาณ หรือ ยาน รามศิริ เกิดวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2430 วันจันทร์ ขึ้น 3 ค่ำ ปีกุน ณ บ้านนาโป่งบ้างก็ว่า บ้านหนองบอน ตำบลหนองใน (ปัจจุบันเป็น ตำบลนาโป่ง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย ท่านเกิดในตระกูลช่างตีเหล็ก เป็นบุตรคนที่ 2 (คนสุดท้อง) ของ นายใส หรือ สาย กับ นางแก้ว รามศิริ มีพี่สาวร่วมท้องเดียวกัน 1 คน
    เมื่อหลวงปู่แหวน อายุประมาณ 5 ขวบ พอจำความได้บ้างว่า ก่อนที่มารดาจะเสียชีวิต ได้เรียกไปสั่งเสียว่า "ลูกเอ๋ย แม่ยินดีต่อลูก สมบัติใด ๆ ในโลกนี้ จะเป็นกี่ล้านกี่โกฏก็ตาม แม่ก็ไม่ยินดี และแม่จะยินดีมาก ถ้าลูกจะบวชให้แม่จนตายในผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมามีเมียนะลูกนะ" หลังจากนั้นมารดาได้ถึงแก่กรรมลง ท่านจึงอยู่ในความดูแลของตากับยายขุนแก้ว
    อนึ่ง ยายของหลวงปู่แหวน ได้ฝันว่า เห็นหลานชายไปนั่งไปนอนอยู่ในดงขมิ้นจนเนื้อตัวเหลืองอร่ามน่าชม จึงได้มาร้องขอให้บวชเช่นเดียวกัน ท่านจึงรับปาก แล้วบวชพร้อมกับหลานยายอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และมีศักดิ์เป็นน้า ยายได้นำหลานทั้ง 2 คน ไปถวายตัวต่อพระอุปัชฌาย์ที่ วัดโพธิ์ชัย (มหานิกาย) ในหมู่บ้านนาโป่ง เพื่อฝึกหัดขานนาค ทำการบรรพชาเป็นสามเณรต่อไป
    ด้วยคำพูดของแม่ในครั้งนั้น เป็นเหมือนพรสวรรค์คอยเตือนสติอยู่ตลอดเวลา มันเป็นคำสั่งที่ก้องอยู่ในความทรงจำมิรู้เลือน จนในที่สุดท่านก็ได้บวชตามความประสงค์ของมารดาและใช้ชีวิตอยู่ในผ้าเหลืองจนตลอดอายุขัย
    หลวงปู่แหวน ได้รับการบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ. 2439 มีอายุได้ 9 ปี ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านนาโป่ง ตำบลนาโป่ง อำเภอเมือง จังหวัดเลย มีพระอาจารย์คำมา เป็นพระอุปัชฌาย์ และ พระอาจารย์อ้วน เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย เป็นพระพี่เลี้ยง จนอายุครบบวชพระ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายมหานิกายที่ วัดสร้างก่อนอก อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระอาจารย์แว่น เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อประมาณ พ.ศ. 2451 ท่านได้ตั้งสัจจาธิษฐาน ขออุทิศชีวิตพรหมจรรย์แด่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์หลังจากตั้งจิตอธิษฐานแล้ว ท่านมีความรู้สึกปลอดโปร่ง เบากายเบาใจ อยู่มา 2-3 วัน โยมอุปัฏฐาก ได้มาบอกว่า พระอาจารย์จวง วัดธาตุเทิง อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ได้ไปกราบ ญาคูมั่น พึ่งกลับมา ท่านจึงได้ไปนมัสการพระอาจารย์จวง เพื่อขอทราบที่อยู่ของ หลวงปู่มั่น ด้วยรู้สึกศรัทธาในกิตติศัพท์ความเก่งกล้าสามารถของหลวงปู่มั่นยิ่งนัก
    จากนั้น ท่านก็ได้ออกธุดงค์มุ่งสู่สำนักของ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต โดยผ่านม่วงสามสิบ คำเขื่อนแก้ว ยโสธร เลิงนกทา มุกดาหาร คำชะอี นาแก สกลนคร พรรณานิคม สว่างแดนดิน หนองหาน อุดรธานี บ้านผือ ซึ่งนับเป็นการเดินทางไกลและยาวนานเป็นครั้งแรกจนได้เข้าพบหลวงปู่มั่น ที่ดงมะไฟ บ้านค้อ
    คำแรกที่หลวงปู่มั่นสั่งสอนก็คือ "ต่อไปนี้ให้ภาวนา ความรู้ที่เรียนมา ให้เอาใส่ตู้ไว้ก่อน" ซึ่งทำให้ท่านรู้สึกยินดีมากเพราะได้บรรลุสิ่งที่ตั้งใจ
    หลังจากอยู่กับหลวงปู่มั่นได้ 4 วัน พี่เขยและน้าเขยก็มาตามให้กลับไปเยี่ยมโยมพ่อที่ไม่ได้พบกันมานาน 10 ปี จึงเข้าไปกราบลาหลวงปู่มั่น และได้รับคำเตือนว่า "ไปแล้วให้รีบกลับมา อย่าอยู่นาน ประเดี๋ยวจะเสียท่าเขา ถูกเขามัดไว้แล้วจะดิ้นไม่หลุด"
    ท่านได้กลับไปเยี่ยมบ้านในปี พ.ศ.2461เป็นที่นับถือศรัทธาของประชาชนในแถบบ้านเกิดมาก หลั่งไหลกันมากราบอย่างไม่ขาดสาย จนทำให้พักผ่อนไม่พอและล้มป่วยลงต้องพักรักษาตัวอยู่หนึ่งเดือนเต็ม ด้วยจิตที่ระลึกถึงคำสั่งของพระอาจารย์ว่า "อย่าอยู่นานให้รีบกลับมาภาวนา" กับคำสั่งเสียของแม่ว่า "แม่ยินดีมากถ้าลูกจะบวชให้แม่ แล้วก็ให้ตายกับผ้าเหลือง" ทำให้ท่านตัดสินใจรีบเดินทางกลับไปอยู่รับการอบรมภาวนาต่อแล้วจึงได้แยกไปหาที่วิเวกบำเพ็ญสมาธิภาวนาตามความเหมาะสมกับจิตของตน เมื่อถึงวันอุโบสถจึงได้ถือโอกาสเข้านมัสการถามปัญหาข้อข้องใจในการปฏิบัติจากหลวงปู่มั่นจนเป็นที่เข้าใจแล้ว จึงกลับสู่ที่ปฏิบัติของตนดังเดิม โดยยึดมั่นในคำเตือนของหลวงปู่มั่นว่า "ให้ตั้งใจภาวนา อย่าได้ประมาท ให้มีสติอยู่ทุกเมื่อ จงอย่าเห็นแก่การพักผ่อนหลับนอนให้มาก"
    ในระยะแรกออกปฏิบัตินั้น ท่านไม่ได้ร่วมทำสังฆกรรมฟังการสวดปาติโมกข์ เพราะยังไม่ได้ญัตติเป็นธรรมยุต พระมหานิกายที่ได้รับการอบรมจากท่านหลวงปู่มั่นครั้งนั้นมีหลายรูป เมื่ออยู่ไปนาน ๆ ได้เห็นความไม่สะดวกในการประกอบสังฆกรรมดังกล่าว จึงไปกราบขออนุญาตให้ญัตติเป็นธรรมยุต ซึ่งบางรูปก็ได้รับอนุญาต บางรูปก็ไม่ได้รับอนุญาต โดยหลวงปู่มั่นให้เหตุผลว่า "ถ้าพากันมาญัตติเห็นพระธรรมยุตเสียหมดแล้ว ฝ่ายมหานิกายจะไม่มีใครมาแนะนำในการปฏิบัติ มรรคผลไม่ได้ขึ้นอยู่กับนิกาย แต่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแนะนำสั่งสอนไว้แล้ว ละในสิ่งที่ควรเว้น เจริญในสิ่งที่ควรเจริญ นั่นแหละ คือ ทางดำเนินไปสู่มรรคผลนีพพาน"
    ประมาณ พ .ศ.2464 ท่านได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อพำนักและศึกษาธรรม กับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) แห่งวัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ ซึ่งหลวงปู่มั่นยกย่องอยู่เสมอว่าเชี่ยวชาญทั้งทางการเทศน์และการปฏิบัติธรรม
    หลังจากที่ท่านได้รับฟังธรรมและเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย พม่า และเชียงตุง จากท่านเจ้าคุณพระอุบาลีฯ แล้ว ก็ได้จาริกไปพม่า อินเดีย โดยผ่านทาง แม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก ข้ามแม่น้ำเมย ขึ้นฝั่งพม่าต่อไปยังขลุกขลิกมะละแหม่ง ข้ามฟากไปถึงเมาะตะมะ ขึ้นไปพักที่ดอยศรีกุตระ กลับมามะละแหม่ง แล้วโดยสารเรือไปเมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย แล้วต่อรถไฟไปเมืองพาราณสี เที่ยวนมัสการปูชนียสถานต่าง ๆ แล้วจึงกลับโดยเส้นทางเดิม ถึงฝั่งไทยที่อำเภอแม่สอด เดินเที่ยวอำเภอสามเงา
    ปีต่อมา เดือนตุลาคม ท่านได้จาริกธุดงค์ไปเชียงตุง และ เชียงรุ้ง ในเขตพม่า โดยออกเดินทางไปด่านอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผ่านหมู่บ้านชาวเขา พักตามป่าเขา จาริกผ่านเชียงตุง แล้วต่อไปทางเหนือ อันเป็นถิ่นชาวเขา เช่น จีนฮ่อ ซึ่งอยู่ตามเมืองแสนทวี ฝีฝ่า หนองแส บางเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง พอฝนตกชุกจวนเข้าพรรษาก็กลับเข้าเขตไทย นับได้ว่าท่านได้ธุดงค์จาริกไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่งในและนอกประเทศส่วนใหญ่จะพำนักอยู่ในเขตจังหวัดอุบลฯ อุดรฯ และตั้งใจจะไปให้ถึงสิบสองปันนาสิบสองจุไท แต่ทหารฝรังเศสห้ามเอาไว้ จึงไปถึง วัดใต้หลวงพระบาง แล้วก็กลับพร้อมกับหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
    ทางภาคเหนือ ท่านได้มุ่งเดินทางไป ค่ำไหนนอนนั่น จากอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลยออกไป อำเภอด่านซ้าย ผ่านอำเภอน้ำปาด อำเภอนครไทย อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ตัดไปอำเภอนาน้อย แพร่ หมู่บ้านชาวเย้า อำเภอสูงเม่น อำเภอเด่นชัย ลำปาง แล้วต่อไปยังเชียงใหม่ เที่ยวดูภูมิประเทศโดยรอบเขาดอยสุเทพ
    ท่านได้รับความเมตตาจาก ท่านเจ้าคุณพระอุปาลีคุณูปมาจารย์ ด้วยดีตลอดมา ประมาณปี พ.ศ.2470 ท่านเจ้าคุณเห็นว่า หลวงปู่แหวน เป็นผู้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติมีวิริยะอุตสาหะปรารภความเพียรสม่ำเสมอไม่ท้อถอย มีข้อวัตรปฏิบัติดี มีอัธยาศัยไมตรีไม่ขึ้นลง คุ้นเคยกันมานาน เห็นสมควรจะได้ญัตติเสีย หลวงปู่แหวน จึงตัดสินในเป็นพระธรรมยุต ที่พัทธสีมา วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์ มี พระนพีสิ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ต่อมา หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ซึ่งเคยเป็นสหธรรมิกร่วมธุดงค์กัน ก็ได้ญัตติเป็นธรรายุตเหมือนกัน
    ในระหว่างที่จาริกแสวงหาวิเวกอยู่ทางภาคเหนือนั้น ท่านได้พบกับหลวงปู่ขาว อนาลโย และได้แยกย้ายกันจำพรรษาตามป่าเขา ท่านเคยได้แยกเดินทางทุ่งบวกข้าว จนถึงป่าเมี่ยงขุนปั๋ง พอออกพรรษา หลวงปู่มั่น พระอาจารย์พร สุมโน ได้มาสมทบที่ป่าเมี่ยงขุนปั๋ง ขณะนั้น พระอาจารย์เทสก์ เทสรํสี พระอาจารย์อ่อน ญาณสิร ิมาร่วมสมทบอีก เมื่อทุกท่านได้รับโอวาทจากหลวงปู่มั่นแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไป หลวงปู่แหวนพร้อมหลวงปู่ขาว พระอาจารย์พร ไปที่ดอนมะโน หรือ ดอยน้ำมัว ส่วนหลวงปู่มั่นอยู่ที่กุฏิชั่วคราวที่ชาวบ้านสร้างถวายที่ป่าเมี่ยบขุนปั๋งนั่นเอง
    ภายหลังหลวงปู่มั่น เดินทางกลับอีสานแล้ว หลวงปู่แหวนยังคงจาริกแสวงวิเวกบำเพ็ญธรรมอยู่ป่าเมี่ยงแม่สาย หลวงปู่เล่าว่า อากาศทางภาคเหนือถูกแก่ธาตุขันธ์ดี ฉันอาหารได้มาก ไม่มีอาการอึดอัด ง่วงซึม เวลาภาวนาจิตก็รวมลงสู่ฐานสมาธิได้เร็ว นับว่าเป็นสัปปายะ
    ประมาณปี พ.ศ. 2474 ขณะที่หลวงปู่แหวนปฏิบัติธรรมอยู่ที่เชียงใหม่ ได้ทราบข่าวว่า ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีฯ ประสบอุบัติเหตุขณะขึ้นธรรมาสน์เพื่อแสดงธรรมถึงขาหักจึงเดินทางจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ และแวะกราบเรียนให้หลวงปู่มั่นทราบที่อุตรดิตถ์ แล้วเดินทางโดยรถไฟถึงโกรกพระ นครสวรรค์ ลงเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยามาถึงวัดคุ้งสำเภา พักค้างคืนหนึ่ง แล้วลงเรือล่องมาถึงกรุงเทพฯ เฝ้าพยาบาลท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ นานหนึ่งเดือน จึงกราบลาไปจำพรรษาที่เชียงใหม่
    ปี พ.ศ.2498 ท่านจำพรรษาที่ วัดบ้านปง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เกิดอาพาธแผลที่ขาอักเสบทรมานมาก ท่านจำพรรษาอยู่รูปเดียว ชาวบ้านไม่เอาใจใส่ได้ ท่านพระอาจารย์หนู สุจิตฺโต วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ พาหมอมาจี้ มาทำการผ่าตัดโดยไม่ต้องฉีดยาชา ใช้มีดผ่าตัดเพียงเล่มเดียว ท่านมีความอดทนให้กระทำจนสำเร็จและหายได้ในที่สุด
    อีกหลายปีต่อมา พระอาจารย์หนูเห็นว่า หลวงปู่แหวน แก่มากแล้ว ไม่มีผู้อุปัฏฐาก จึงได้ชักชวนญาติโยมไปนิมนต์ให้ ท่านมาจำพรรษาที่ วัดดอยแม่ปั๋ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 ในฐานะพระผู้เฒ่าทำหน้าที่ปฏิบัติธรรมอย่างเดียวไม่ต้องเกี่ยงข้องกับภาระหน้าที่อื่นใด และท่านก็ได้ตั้งสัจจะว่า จะไม่รับนิมนต์ ไม่ขึ้นรถ ไม่ลงเรือ แม้ที่สุดจะเกิดอาพาธหนักเพียงใด ก็จะไม่ยอมเข้านอนโรงพยาบาล ถึงธาตุขันธ์จะทรงอยู่ต่อไปไม่ได้ ก็จะให้สิ้นไปในป่าอันเป็นที่อยู่ แล้วท่านก็ได้ปฏิบัติตามที่ตั้งใจไว้ได้

    นับตั้งแต่ท่านขึ้นไปภาคเหนือแล้ว ท่านก็ไม่เคยไปจำพรรษาที่ภาคอื่นอีกเลย ท่านเคยอยู่บนดอยสูงกับชาวเขาเกือบทุกเผ่า อยู่ในป่าเขาภาคเหนือตอนบน เช่น เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ส่วนภาคเหนือตอนล่าง เช่น แพร่ น่าน ตาก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ท่านเคยจาริกไปครั้งคราว จึงนับได้ว่า วัดดอยแม่ปั๋ง เป็นสถานที่ซึ่ง หลวงปู่อยู่จำพรรษามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 จวบจนมรณภาพ

    หลวงปู่แหวน มีโรคประจำตัวคือ เป็นแผลเรื้อรังที่ก้นกบยาวประมาณ 1 ซม. มีอาการคัน ถ้าอักเสบก็จะเจ็บปวดมาก และอีกโรคหนึ่งคือ เป็นต้อกระจกนัยน์ตาด้านซ้าย เป็นต้อหินนัยน์ตาด้านขวา หมอได้เข้าไปรักษาเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2518 ซึ่งรักษาแล้วสุขภาพก็ยังแข็งแรงตามวัย แต่ต่อมาปี 2519 ร่างกายเริ่มซูบผอม อ่อนเพลีย ฉันอาหารได้น้อย ขาทั้ง 2 เป็นตะคริวบ่อย ต่อมา 2520 สุขภาพทรุด ค่อนข้างซูบเหนื่อยอ่อน เวียนศีรษะถึงกับเซล้มลง และประสบอุบัติเหตุขณะครองผ้าจีวรในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2522 ซึ่งเป็นวันที่ทางวัดจัดงานผูกพัทธสีมา ส่งผลให้เจ็บบั้นเอวและกระดูดสันหลัง ลุกไม่ได้ ต้องนอนอยู่กับที่ รักษาอยู่เดือนหนึ่ง ก็หายเป็นปกติ แต่เนื่องจากหลวงปู่อายุมากแล้ว จึงมีอาการอาพาธมาโดยตลอด คณะแพทย์ก็คอยให้การรักษาด้วยดีเช่นกัน จนกระทั่งใน วันอังคารที่ 2 กรกฏาคม พ.ศ.2528 เวลา 21.53 น. การหายใจครั้งสุดท้ายก็มาถึง หลวงปู่แหวน ท่านได้ละร่างอันเป็นขันธวิบากไปด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุได้ 98 ปี
    ปิดรายการครับ
    สถาพสวยเดิมสมบูรณ์คราบแป้งเดิม พิมพ์คมชัดลึก แบ่งให้บูชาองค์ละ 350บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)
    ( คุณgoldenpond จองแล้วครับ )

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367 ,084-1527073
    Withamon@live.com,Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2010
  19. วาตานาเบ้

    วาตานาเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +2,283
  20. goldenpond

    goldenpond เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +313
    มีคนจองหรือยังครับ ถ้ายัง ผมขอจองทั้ง 2 องค์
    goldenpond
     

แชร์หน้านี้

Loading...