ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

การรวมกลุ่มพลังเงียบของโลก...โดยใช้หลักพุทธ

เห็นเคสนี้แล้วสะท้อนหรือยังครับ

ว่าคนที่กำลังนำสาส์นโทรจิตที่อ้างว่ามาจากพระเจ้า แต่แล้วพระเจ้าก็บอกให้

เลิกยึดติดในตัวตน นั่งสมาธิ

คิดดูว่าคนในศาสนาของเขาจะต่อต้านขนาดไหน แล้วเขาเหล่านั้นจะถุกคนใน

สังคมมองอย่างไร เขากำลังขาดพยาน เคว้งคว้าง โดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยวอย่าง

ไร

แล้วถ้าได้คนพุทธ เราไปโอบอุ้มและบอกเขาว่า สิ่งที่ท่านได้รับรู้น่ะถูกต้องแล้ว

และเราก็สัมผัสได้ถึงพลังจิตของท่าน เราเข้าใจว่าท่านไม่โกหก

ผมว่าเขาแทบจะเปลี่ยนศาสนาเลยล่ะ โฮ่ๆๆๆ

 

คุณจะไปเอะอะบ๊ะเทิ่งอะไรกับ คนที่เขาอุตสาหะ แปลวิทยาทานมาให้เราอ่าน

วางอุเบกขาหน่อย

รับมาแล้วก็ใช้ปัญญา

แต่มันอยู่ที่ว่าคุณรับไม่ได้เพราะไม่ได้รับหรือเปล่า

ส่วนผม ถ้าคุณ Chayutt จะกรุณา ก็ช่วย pm ข้อวามของคนที่อ้างว่ารับมาจากพระพุทธ ให้

ผมได้วิเคราะห์หน่อยคับ อยากรู้ อยากรับ อยากใช้ปัญญา

 

ขอบคุณพี่ชยุต และพี่ๆอีกหลายๆคนที่นำบทความมาแปลให้อ่านกันนะคะ

หากไม่มีพวกพี่ ก็คงไม่ได้อ่าน

search google ก็คงไม่มาเจอ หรือเจอเป็นภาษาอังกฤษ ก็แปลไม่ออก อิอิ ^ ^

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ "ตื่น" และรู้ว่าชีวิตมันมีอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่แบบนี้จริงๆ ก็กระทู้แปลของพี่ชยุตล่ะค่ะ

อนุโมทนาค่ะ...

 

โอ้...อ่านแล้วเลยต้องรีบมาตอบครับ
และก็ขอตอบรวดเดียวเลย รวมหลายๆประเด็นหนะนะครับ

มันไม่มีอะไรเลวร้าย หรือร้ายแรงอย่างนั้นหรอกครับ
ข้อความที่ว่านั้น มันดีออกจะตายไป สอนดี และไม่ผิดเพี้ยนไปจากหลักของพุทธเลย
เพราะว่าหลักใหญ่ใจความของแนวคำสอนของพุทธ (ไม่นับปลีกย่อยนะ)
เป็นวิชชาสากลอยู่แล้วครับ..อย่าได้ห่วงตรงนั้นไป

แต่ที่ผมไม่กล้าโพสต์ ก็เพราะว่า บางส่วนที่ต่างมันก็มีอยู่
แต่ไม่ใช่การจาบจ้วง หรือ โจมตี หรืออะไรร้ายๆทำนองนั้นเลย

มันมีนิ๊ดหนึ่งเท่านั้น ที่ชาวพุทธเราอ่านแล้ว "บางคน" ที่รับ "คำนั้น" ไม่ได้
จะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมาก, แสลงใจมาก หรืออาจจะถึงขั้นตีอกชกหัวตัวเองไปเลยก็ได้

นั่นแหละครับคือประเด็น...

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม..ก็อย่างที่ผมว่าไว้ยาวเหยียดข้างบนนั่นแหละครับ
คือผมจะไม่โพสต์..

แต่ถ้าใครอยากจะอ่านจริงๆ ส่ง PM มาครับ เดี๋ยวผมจะแปลแล้วส่งไปให้นะครับ

ปล. ผมหวังว่าคงไม่มีท่านใดออกมาคัดค้านอีกนะครับว่า

"ห้ามไปอ่านนะ", "ห้ามไปแปลนะ" หรืออะไรทำนองนี้ ใช่ไหมครับ
แต่ห้ามโพสต์นี่ OK เพราะบอกแล้วว่าจะไม่โพสต์

ส่วนห้ามอ่านนี่ มันดูจะจำกัดสิทธิเสรีภาพกันจนเกินไปนะผมว่า ผมคงไม่ OK ด้วย
อีกอย่างหนึ่ง ต่อให้ไม่อ่าน ไม่แปล ข้อความพวกนั้น มันก็มีของมันอยู่แล้ว
เกลื่อนเวปไปหมด..แล้วอย่างนี้ จะต้องตามไปปิดทุกเวปใช่หรือเปล่าหนอ??

...........................................................................

 

เอาหละนะครับ เคลียร์ประเด็นนี้จบไปแล้ว
ต่อไปก็จะมาเข้าเรื่องของเรากันต่อ
ตามชื่อกระทู้กันหละนะครับ

แต่ขอเวลาแปลก่อนนะครับ
เพราะวันนี้มีข้อความใหม่มาถึง 4 ข้อความ
คงต้องเลือกเอาซักอันมาแปลหนะครับ

...................................

 

เป็นกำลังใจให้ครับ ติดตามอยู่ครับ

 

รออ่าน อย่าง ใจจด ใจจ่อ อยู่ครับ

 

ก้าวต่อไปเป็นกำลังใจให้ครับ..

 

;41
ขอขอบคุณ คุณChayutt
ที่แปลบทความดีดี ให้พวกเราได้อ่านกันนะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ และยังคอยติดตามอยู่นะคะhello8

 

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณชยุตนะคะ ทุกอย่างอยู่ที่ปัญญาของเราเองในการรับรู้ข่าวสาร จึงไม่มีถูกไม่มีผิด แต่ถ้าจะมีเพราะเราคิดว่ามี ดังนั้นถูกผิดจึงอยู่ที่เราไม่ใช่เขา

 

..อ้างจากอันเดิมครับ...ตื่นเต้น! อย่่าเชียวนะ อย่่าบังอาจเชียวนะ อย่าเอาของสูงมาเล่นเชียวนะ เจ้าของกระทู้ เล่่นปั่นกระทู้พระเจ้าโน่นทีกระทู้พระเจ้านี้ทีมากมายเป็นว่าเล่น เหมือนเด็กกำลังเมามันส์คลั่งใคล้กับของเล่นแปลกๆใหม่ๆในชีวิต เชื่อมเว็ปโน่นทีเว็ปนี้ทีคิดตุตะว่ามาจากเทพโน่นเทพนี้ แต่งตั้งตนเองเป็นนักแปลแสงสว่าง แต่ดันไปเอาความรู้เวปต่างๆมาผสนปนแปตามความเชื่อส่วนตัวของตนเอง ผสมความรู้หลายแห่งเลยเกิดความเชื่อศรัทธาในข้อความแล้วเอาความคิดตัวเองผสม กับการแปลอันเลิศ เลือกหัวเรื่องสิ่งที่ตนเองสนใจนำมาเสนอเป็นกระทู้ๆๆๆๆ มีกี่กระทู้แล้วละที่ฝึกเล่นการแปลในห้องวิดนะ สนุกกับภาพก็อปปี้ภาพกันมันส์ใหญ่เลย ห้องวิดกลายพันธ์เป็นที่ฝึกแปลภาษาของเจ้าของกระทู้ไปเสียแล้ว ระวังให้ดีอย่าแตะต้องเล่นเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าของสูงเชียวนะจะบอกให้
..อัตตาเยอะจัง พี่หญ่าย!!!
เจ้าของบอร์ด..เจ้าของธรรม..เจ้าของพระพุทธเจ้าของกู!!!..เฮ้อ!!เรามีกรรมเป็นของๆตน.................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากสหพันธ์แห่งแสงสว่าง (Federation of Light)
ประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2010

ผู้รับการสื่อสาร: นาง Blossom Goodchild
ที่มา:
Blossom Goodchild - July 4, 2010


ตอนที่ 1


Blossom: สวัสดีคะ ดิฉันขอถามเรื่อง “การกระตุ้น” ที่เรากล่าวถึงกันในข้อความที่แล้วอีกได้ไหมคะ?
เพราะว่ามีหลายคนที่ทำการ “กระตุ้น” ตามวิธีการนั้นแล้ว มีอาการบางอย่างที่รุนแรงหรือชัดเจนให้สัมผัสได้

แต่ก็มีอีกหลายคนที่สัมผัสอะไรไม่ได้เลย แต่ภายหลังกลับสามารถมองเห็นออร่า
หรือรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นภายในได้

และก็มีหลายคนที่ไม่รู้สึกอะไรเลย แม้ว่าจะทำการกระตุ้นไปหลายครั้งแล้วก็ตาม

คุณสามารถอธิบายได้ไหมคะ ว่าทำไม?


ET: จริงๆแล้ว พวกเราก็เห็นควรด้วยที่จะกล่าวถึงเรื่องนี้กัน เพราะว่าพวกเรารู้ว่าหลายคนรู้สึกว้าวุ่นใจ
และไม่ค่อยพอใจที่ทำไปแล้วไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น แต่พวกเราอยากจะขอให้คุณรู้ไว้ว่า

เมื่อพวกเราบอกว่า
“ใครก็ตามที่พยายามทำการกระตุ้นตามวิธีการนี้แล้ว..
มันจะต้องได้ผลอย่างแน่นอน”


Blossom: ได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อยค่ะ แล้วทำไมบางคนถึงรู้สึกและบางคนถึงไม่รู้สึกอะไรเลยหละคะ?


ET: เพราะว่าแต่ละคน มีความจำเป็นที่จะต้องปรับสนามพลังงานมากน้อยไม่เท่ากัน
และเพราะว่าแต่ละคน มีระดับความสั่นสะเทือนในช่วงขณะนั้นๆไม่เท่ากันด้วย เราขอย้ำว่า “ในขณะนั้น” เท่านั้นนะ
ไม่ได้หมายถึงระดับความสั่นสะเทือนปกติของตัวพวกเขาจริงๆ

มีหลายคนที่คาดหวังอยากให้มันมีอาการอะไรเกิดขึ้นอย่างชัดเจน แต่เพราะว่าความอยากนั้นเอง
มันจึงไปลบล้างปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงไปเสีย และถ้าคุณชอบอาการ “อุปทาน” หละก็ แน่นอนว่ามันก็จะเกิดขึ้นจริงๆด้วย

อย่างไรก็ตามพวกเราอยากขออธิบายว่า “มันมีบางอย่างเกิดขึ้นกับแต่ละคนแล้วจริงๆ”
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ตาม

บางทีเราน่าจะพูดว่า “บางคนได้ถูกตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ให้แล้ว” ซึ่งพวกเขาจะรู้ได้ด้วยตนเองโดยปราศจากความสงสัย
เมื่อถึงเวลาที่ “นาฬิกาเริ่มปลุก”

แต่หลายคนก็อาจจะมี “สลักไกแห่งการกระตุ้น” อยู่ก็ได้ ซึ่งสลักไกที่ว่านี้ มันก็จะทำงานเมื่อถึงเวลาของมัน


Blossom: ขอบคุณค่ะ คุณมีอะไรจะเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกไหมคะ ก่อนที่เราจะไปกันต่อ ?


ET: มี, พวกเราอยากจะหมายเหตุเพิ่มเติมว่า มีพวกคุณหลายคนเหลือเกิน ที่มีความศรัทธาและมีความตั้งใจจริง
ที่จะนำพาดาวเคราะห์โลกของพวกคุณขึ้นไปสู่มิติที่สูงขึ้น มันจึงทำให้กระบวนการกระตุ้นมีความสำคัญไปโดยปริยาย

และมีพวกคุณจำนวนมาก มากกว่าที่คุณรู้ซะอีก ที่ได้ยอมตามเสียงจากภายในของตนเอง และทำตามเสียงเรียกร้องของมันแล้ว

พวกคุณเห็นไหมว่า “แผนการศักดิ์สิทธิ์” กำลังมาเชื่อมโยงกันอย่างไรบ้าง? มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ !
พวกคุณเพียงแค่นั่งลง แล้วทำใจให้สงบ แล้วรู้สึกถึงมันเท่านั้นเอง แล้วคุณก็จะได้รู้ความจริง


Blossom: ขอบคุณค่ะ, และดิฉันรู้ว่าดิฉันเคยถามคำถามนี้แล้ว แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า มันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
จากผลกระทบของเหตุการณ์น้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก เพราะว่ามีชาวโลกหลายคนที่กำลังมีชีวิตอยู่ด้วยความกลัว..
และความไม่เข้าใจ

คุณคิดว่าน่าจะพูดอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับภัยพิบัติในครั้งนี้อีกบ้างไหมคะ?
เพราะบางมีมันอาจจะช่วยให้หลายคนเลิกกลัวได้ แต่ถ้าคุณคิดว่าคุณได้พูดไปหมดแล้ว ดิฉันก็จะยอมรับตามนั้นหละค่ะ


ET: ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ กำลังมาถึงปลายทาง ของวัฏจักรของมันแล้ว
เหล่าผู้ไกล่เกลี่ยของพวกคุณกำลังทุ่มเทพลัง อย่างสันติ ช่วยกันอยู่

และพวกคุณควรจะรู้ไว้ว่า ความจริงบางอย่าง ที่เคยถูกปกปิดมานาน จะไม่สามารถปกปิดไว้ต่อไปได้อีกแล้ว..

เพราะว่า พวกเราจะบอกคุณ จากผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของพวกเรา..ว่า..

เร็วๆนี้.. มันจะมีแสงสว่างที่ไม่สามารถปกปิด หรือซุกซ่อนไว้ได้อีก
สว่างขึ้นท่ามกลางพวกคุณ ให้พวกคุณได้เห็น
หรือมันจะมีการ “ออกจากการพรางตัว” (Decloaking) เกิดขึ้น
และมันจะเกิดขึ้นในระดับที่พวกเราเคยกล่าวไปแล้ว ในครั้งก่อน

หลายคนรู้เรื่องนี้แล้วจากจิตของตัวเอง หลายคนก็รู้สึกได้ภายในใจของตนเอง
และพวกเราก็รับรู้ถึงความปรารถนา และการโหยหาที่จะให้สิ่งนี้เกิดขึ้นดี และมันก็จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้


Blossom: ขออภัยที่ขัดจังหวะหนะคะ แต่ด้วยความเคารพ ตามที่เราคุยกันครั้งที่แล้ว คำว่า “เร็วๆนี้” ของคุณ
มันไม่ใช่คำที่มีความหมายเดียวกันกับของพวกเราใช่ไหมคะ เพราะว่าคำว่า “เร็วๆนี้” ของคุณมันแตกต่างจากของพวกเรามาก

คำว่า “เร็วๆนี้” ของคุณ มันอาจจะหมายถึง 2-3 ปีสำหรับพวกเรา แต่คำว่า “เร็วๆนี้” ของพวกเราก็คือ “อีกไม่กี่วันนี้”
หรือ “อีกไม่กี่เดือนนี้”

ดังนั้น ถ้าจะให้พูดตามตรงก็คือ เราเลิกใช้คำนั้นกันเถอะค่ะ เพราะว่ามันอาจจะทำให้พวกเราชาวโลก
พากันเข้าใจผิดไปใหญ่โตก็ได้


ET: พวกเรายอมรับข้อเสนอของคุณ...ด้วยความเต็มใจ แต่ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะมีศรัทธาน้อยขนาดนั้น


Blossom:…มันเป็นเพราะว่าความแตกต่างของกาลเวลาระหว่างเรา ที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น


ET: ในมุมมองของพวกเรา มันไม่มีปัญหาอะไรแบบนั้นหรอก แล้วพวกคุณจะได้เห็นด้วยตาเนื้อของพวกคุณเอง


Blossom: แล้วเราไม่ต้องรู้สึกถึงมันด้วยหัวใจแห่งจิตวิญญาณของพวกเราแล้วเหรอคะ?
เพราะว่าคุณสั่งสอนเรามาตลอดว่า สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการเรียนรู้ที่จะฟังเสียงจากความรู้สึกของตัวเอง


ET: แล้วความรู้สึกของคุณ บอกคุณว่ายังไงหละ?


Blossom: มันเป็นความรู้สึกอะไรซักอย่าง!!


ET: อะไรหละ?


Blossom: เกี่ยวกับการมาของพวกคุณ..เกี่ยวกับการปรากฏตัวของพวกคุณ อย่างที่คุณคอยบอกเรามาตลอด..เร็วๆนี้ !!


ET: งั้นตามที่คุณพูดมานี่ มันแปลว่าพวกเราไม่ได้สอนคุณ และคุณก็ไม่ได้จดจำบทเรียนแห่งการ “รู้”
ว่า “ความรู้สึก” ของคุณคือ “ความจริง” อย่างนั้นหรือ?

เพราะว่ามีเพียงความรู้สึกของคุณเองเท่านั้นที่จะเตือนคุณได้ว่าอะไรเป็นอะไร

เพราะว่าลำพังเพียงความคิดทั้งหลายในใจของคุณ มันอาจจะเกิดความลังเลสงสัย และไปทำปฏิกิริยากับพลังงานทุกรูปแบบ
แล้วอาจจะทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆขึ้นมาได้ และเพราะฉะนั้น จงถามวิญญาณของคุณ, ถามหัวใจของคุณเอง
ว่ากำลังรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆอยู่ แล้วมันจะบอกความจริงแก่คุณเสมอ เพราะว่ามันไม่สามารถ..
และมันก็ไม่ได้ถูกออกแบบมา เพื่อให้สามารถบอกสิ่งที่ไม่จริงกับคุณได้

ดังนั้นความรู้สึกนี้ ที่พวกคุณหลายคนกำลังรู้สึกอยู่นี้ คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง


Blossom: แต่พวกเราไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้กำลังบอกอะไรเรา พวกเราเพียงแต่รู้สึกเท่านั้นเอง แล้วมันบอกอะไรเราหละคะ?


ET: ให้เราถามคำถามนั้นกับคุณเถอะ..ว่าตอนนี้ความรู้สึกของคุณ กำลังบอกอะไรคุณอยู่?


Blossom: เอ่อ...นี่พวกเราคงจะไม่วนกันอยู่แต่กับคำถามนี้หรอกใช่ไหมคะ? พวกเราเริ่มต้นตอนนี้ด้วยการพูดว่า
ความรู้สึกกำลังบอกกับพวกเราว่า พวกคุณกำลังจะมา “เร็วๆนี้”


ET: ขอบคุณ, เราจะวนกันอยู่ตรงนี้ หรือว่าเราจะไปกันต่อดีหละ?


(ยังมีต่อครับ)
…………………………….

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากสหพันธ์แห่งแสงสว่าง (Federation of Light)
ประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2010

ผู้รับการสื่อสาร: นาง Blossom Goodchild
ที่มา:
Blossom Goodchild - July 4, 2010


ตอนที่ 2


<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;** @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;** @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;** /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;** p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";** @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;** div.Section1 {page:Section1;** --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;** </style> <![endif]--> Blossom: เข้าใจแล้วค่ะ! คุณอยากพูดถึงเรื่องอะไรต่อคะ?


ET: การตัดสินใจ


Blossom: ตัดสินใจเรื่องอะไรคะ?


ET: ตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของพวกคุณ มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก มากเกินกว่าที่พวกคุณคิดไว้ซะอีก

เพราะช่วงเวลานี้ มันเป็นช่วงเวลาที่พวกคุณจะต้องพิถีพิถันในการตัดสินใจ
ในเรื่องราวต่างๆในชีวิตประจำวันของพวกคุณเองเป็นอย่างมาก
เพื่อยกระดับจิตวิญญาณของพวกคุณเองให้สูงขึ้น

คุณคิดว่าคุณจะประเมินค่าความเป็นตัวตนของคุณเอง และการที่คุณได้มาอยู่ที่นี่มากน้อยสักแค่ไหน?

มันจะเป็นประโยชน์กับคุณอย่างมาก ถ้าจะนำเอาความรู้สึกเข้ามาช่วยในการประเมินค่าด้วย
เพราะว่าเมื่อทำเช่นนั้นแล้ว มันจะทำให้ร่อยรอยที่เคยถูกกระตุ้นไว้ มีความถี่สูงขึ้นเรื่อยๆ
และเมื่อคุณเคลื่อนเข้าไปในระดับคลื่นความถี่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆเช่นนั้นแล้ว
การยอมรับและความเข้าใจของคุณก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย

Blossom: ดูเหมือนดิฉันจะเข้าใจนะ..คุณกำลังบอกว่า ยิ่งพวกเรารู้คุณค่าของการได้รับสิทธิพิเศษให้ลงมาเกิดบนโลกใบนี้
ในช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้มากเท่าไหร่ ระดับความสั่นสะเทือนของพวกเราก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น
และเราก็จะมองเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้นด้วย

และยิ่งเรามองเห็นคุณค่าของตนเองมากขึ้นเท่าไหร่ อะไรๆมันก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วยใช่ไหมคะ...พอมองเห็นภาพไหมคะ?


ET: นั่นแหละคือสิ่งที่พวกเรากำลังพูดถึงอยู่


Blossom: โอ้ว...ดิฉันเพิ่งได้ยินประโยคถัดไปที่คุณกำลังจะพูด และคิด..ว่า “ไปต่อกันได้หรือยัง”


ET: พวกคุณกำลังรอคอยตัวเองอยู่


Blossom: และคุณก็รู้แล้ว ว่าดิฉันจะพูดอะไรต่อ..กรุณาให้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ลึกลงไปอีกหน่อยได้ไหมคะ?

เพราะว่าดิฉันกำลังเกาะติดประเด็นนี้อยู่ ที่ผู้คนจำนวนมากกำลังรอคอยการมาถึงของ “ผู้มาจากดวงดาว” (The Star Kind) กันอยู่
ซึ่งจะมาให้ความช่วยเหลือพวกเราในทุกๆเรื่อง..

ดังนั้น มันมีอะไรเกี่ยวข้องกับคำพูดของคุณที่ว่า “พวกคุณกำลังรอคอยตัวเองอยู่” หรือเปล่าคะ?


ET: คุณเคยคิดมาก่อนหรือเปล่าว่า ผู้ที่คุณคิดว่า “มาจากดวงดาว”
จริงๆแล้วนั้น อาจจะเป็น “ตัวตนที่มีเวอร์ชั่นสูงกว่าของพวกคุณเอง” ก็ได้

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พวกคุณก็ต้องรู้อยู่ดีหละว่า
“พวกคุณเป็นเพียงส่วนย่อยส่วนเล็กๆของความเป็นตัวตนทั้งหมดของคุณ”
ที่กำลัง “เล่น” อยู่บนโลกใบนี้เท่านั้นเอง


Blossom: “เล่น” อย่างงั้นเหรอคะ?????????


ET: จริงแท้แน่นอน...นี่คือเจตจำนง..นี่คือวัตถุประสงค์เบื้องต้นของมัน นั่นก็คือเพื่อมาเล่นอะไรที่ขำๆสนุกๆ ไม่ใช่หรือ?

นี่คือเจตจำนงของพวกเราสำหรับพวกคุณ และแม้ว่าการทดลองนี้มันไม่ได้จบลง อย่างที่พวกเราคาดหมายไว้ก็ตาม
แต่โดยภาพรวมแล้ว มันก็ทำให้ได้อะไรมาไม่น้อยเหมือนกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การทดลองเล็กๆก็ตาม

พวกเราสามารถรับรู้ความรู้สึกของคุณได้ Blossom ในสิ่งที่คุณเขียนถึงพวกเรา พวกเราตระหนักดีว่า
ในขณะนี้ ในฐานะที่เป็นมนุษย์โลกคนหนึ่ง คุณอาจจะคิดว่าพวกเราไม่ค่อยเข้าใจ
ว่าพวกคุณจะต้องเผชิญกับอะไรบ้างบนโลกใบนี้ ในขณะนี้


Blossom: ไหนๆตอนนี้ก็พูดถึงมันแล้ว..ความหวาดกลัว และภัยพิบัติ และการควบคุม และการกดขี่ข่มเหง และอื่นๆ
ดูเหมือนว่ามันจะมากกว่าการทดลองเล็กๆอันหนึ่งเท่านั้นแล้วนะคะ ขออภัยนะคะที่ดิฉันต้องพูดเช่นนี้
ดิฉันไม่ได้กำลังโกรธหรอกนะคะ ไม่เลยสักนิด เพียงแต่ว่าดิฉันค่อนข้างจะ “รู้สึกถึง” สิ่งที่คุณกำลังจะพูดถึง
และดิฉันก็เข้าใจมันเท่านั้นเอง

หากว่าพวกคุณมาอยู่ที่โลกใบนี้จริงๆ และกำลังเล่นบทบาทของพวกคุณเองอยู่บ้างหละ พวกคุณก็จะพบว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะรู้สึกว่ามีความสำคัญมากๆไปเสียหมดเลย และพวกเราก็กำลังเป็นแบบนั้นอยู่

ET: มันเป็นอย่างนั้นแหละ เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจมันจาก “ความรู้จากภายใน” ของพวกคุณเองว่า
พวกคุณกำลังเล่นบทบาทของตัวเองอยู่ พวกคุณกำลังทำตามความตั้งใจของตนเองอยู่
ที่จะช่วยยกระดับดาวเคราะห์โลก ดวงเล็กๆกระจ้อนร่อยดวงนี้ ให้สูงขึ้น

มันเป็นบทบาทหน้าที่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในแผนการรวมทั้งหมด
และหากว่าพวกคุณสามารถเข้าใจความกว้างใหญ่ไพศาลของ “นิรันดร” ได้
ซึ่งอันที่จริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกคุณที่จะเข้าใจ พวกคุณก็จะประจักษ์ชัดว่า
“เหตุการณ์นี้” มันก็เป็นแค่ส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของความเป็น “ตลอดกาล” เท่านั้นเอง

ทุกขั้นตอนที่ดำเนินไปบนเส้นทางอันเป็นนิรันดรแห่งความรักนี้ มันก็เป็นเพียงแค่ “ปรากฏการณ์” หนึ่งเท่านั้นเอง

ชีวิต..ทั้งชีวิต..ความรักทั้งหมด ก็คือการมีประสบการณ์กับ “ปรากฏการณ์” หนึ่งๆเท่านั้นเอง

(ยังมีต่อครับ)
……………………….

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากสหพันธ์แห่งแสงสว่าง (Federation of Light)
ประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2010

ผู้รับการสื่อสาร: นาง Blossom Goodchild
ที่มา:
Blossom Goodchild - July 4, 2010


ตอนที่ 3

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;** @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;** @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;** /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;** p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";** @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;** div.Section1 {page:Section1;** --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;** </style> <![endif]--> Blossom: ใช่ค่ะ คุณเคยบอกแล้ว แต่ดิฉันยังรู้สึกว่าคุณกำลังบอกเป็นนัยๆว่า ผู้ที่จะมากับยานอวกาศจากท้องฟ้า..
ก็คือ “ตัวตนที่มีเวอร์ชั่นสูงกว่า ของพวกเราเอง” ใช่ไหมคะ?


ET: ถูกต้องแล้ว และตอนนี้โปรดรู้ไว้เถิดว่า ระดับความสั่นสะเทือนของพวกคุณ ที่มากพอจะสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้
มันมีความสำคัญ และจำเป็นสักแค่ไหน?


Blossom: เอ่อ..ดิฉันค่อนข้างเข้าใจค่ะ ดิฉันขอเดาว่า ถ้าพวกเรายังไม่พร้อมที่จะยอมรับ และรับข้อมูลนี้หละคะ
คือเรื่องที่ดิฉันจะได้พบกับตัวตนที่สูงส่งกว่าของตนเองในที่สุดหนะค่ะ..
เพราะว่าดิฉันคนนี้, มนุษย์โลกคนนี้ ก็อาจจะตกใจจนหงายท้องไปเลยก็ได้นะคะ
แล้วถ้าพวกเราทุกคน เป็นแบบนี้เหมือนกันหมดหละคะ ?

เพราะฉะนั้น คุณบอกว่าพวกเรากำลังจะได้พบกับตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกเราเองใช่ไหมคะ..มันคืออะไรหรือคะ?
หมายถึงของพวกเราทุกคนหรือเปล่า? หรือหมายถึงของพวกเราแต่ละคน?
เรื่องใหญ่นะเนี่ย ดิฉันเพิ่งเข้าใจใจความสำคัญของสิ่งที่คุณกำลังจะพูด...มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆ


ET: เราจะพูดช้าๆ..จงพิจารณาให้ดีและจงเข้าใจไว้ด้วยว่า กลุ่มของมนุษย์โลกกลุ่มหนึ่งๆ..ซึ่งหมายถึงกลุ่มที่ใหญ่มาก..
อาจจะประกอบกันขึ้นมาเป็นรูปธรรมชีวิตแห่งดวงดาวเพียง 1 รูปธรรมก็ได้

(ประเด็นเดียวกันนี้ ท่านอาจารย์ โนวา อนาลัย ใช้คำว่า “ตัวตนรวม” ซึ่ง 1 ตัวตนรวมประกอบไปด้วยตัวตนย่อยๆหลายตัวตน
เช่น พวกเราแต่ละคนเป็นต้น – ผู้แปล)


Blossom: ยิ่งไปกว่านั้น!! สิ่งที่คุณกำลังจะบอก ซึ่งดิฉันรู้สึกได้ ดิฉันคิดว่ามันคือ..

ผู้ที่พวกเราอาจจะรู้สึกได้อย่างแรงกล้ามากๆ ว่าพวกเขามีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันอะไรบางอย่างกับเราอยู่,
ผู้ที่พวกเราบอกว่า พวกเรามีความเชื่อมโยงลึกๆด้านจิตวิญญาณกับพวกเขา ซึ่งเมื่อหล่อหลอมผู้คนเหล่านี้ทุกๆคน
เข้าด้วยกันกับเราแล้ว ก็จะกลายเป็น “หนึ่งตัวตน” ของรูปธรรมชีวิตจากดวงดาวในมิติต่างๆที่สูงกว่าขึ้นไป


ET: ถูกต้องแล้ว...

Blossom: นี่มันทำให้ดิฉันปลิวไปเลยนะเนี่ย..


ET: ลองใช้หลักการเดียวกันนี้กับแขกผู้ที่กำลังจะมาเยือน ผู้ที่คุณเรียกว่า “ผู้ที่มาจากดวงดาว” ดูสิ

ลองนึกดูว่า ในบรรดาพวกเขาเอง หลายๆรูปธรรม ก็จะรวมกันขึ้นเป็น “หนึ่งตัวตนรวม” ของตัวตนของพวกเขาเอง
ในมิติที่สูงขึ้นไปอีกด้วยเช่นเดียวกัน

ดังนั้น “ผู้ที่มาจากดวงดาว” กลุ่มหนึ่งๆ ซึ่งเป็นตัวตนที่สูงกว่าของกลุ่มของชาวโลกแต่ละกลุ่ม
พวกเขาก็จะมีตัวตนที่สูงกว่าเพียงหนึ่งเดียว และก็เป็นเช่นเดียวกันนี้ กับรูปธรรมชีวิตในมิติที่สูงกว่าขึ้นไปเรื่อยๆด้วย

ถ้าคุณเข้าใจในหลักการณ์นี้ บางทีมันอาจจะช่วยให้คุณเข้าใจความหมายของคำว่า “ความเป็นหนึ่งเดียว” ก็ได้นะ



(fractal art-spiral fantasy)

(อธิบายภาพ:
จักรวาลของเรา เต็มไปด้วย Fractal effect ซึ่งรวมถึงลำดับขั้นทางวิวัฒนาการด้วย
จากภาพแฟรกตัลนี้ เราจะเห็นว่า ภาพรวมใหญ่ ก็คือรูปเกลียวก้นหอยเพียงรูปเดียว
แต่ว่ารูปนี้ ก็จะประกอบด้วย รูปเกลียวก้อนหอยรองลงมาอีกมากมาย และรูปเกลียวก้นหอยรองนี้
ก็จะประกอบขึ้นด้วยรูปเกลียวก้นหอยย่อยๆอีกต่อหนึ่ง เป็นเช่นนี้เรื่อยไปเป็นทอดๆ
เหมือนกับสิ่งที่ข้อความนี้อธิบายเอาไว้เหมือนกัน - ผู้แปล)


Blossom: ใช่ค่ะ มันเป็นอย่างนั้น White Cloud เคยพูดถึงเรื่องนี้เอาไว้ครั้งหนึ่งแล้ว แต่ดิฉันเพิ่งจะเข้าใจ
ว่าพลังงานความรักมันแตกแยกออกไปเป็นอนุภาคย่อยๆและอื่นๆได้อย่างไร มันจะยืดยาวเกินไปหากจะพูดถึงในตอนนี้

และถึงแม้ว่า ดิฉันจะเคยเข้าใจมันแล้ว แต่ดิฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นกับมนุษย์ด้วย อย่างที่คุณเพิ่งอธิบายไปนี้

มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากสำหรับดิฉัน ดังนั้น อะไรเกิดขึ้นต่อไปค่ะ ถ้ากลุ่มของชาวโลกผู้เป็นส่วนหนึ่งของ
“ผู้ที่มาจากดวงดาว” รูปธรรมหนึ่งๆ ได้มาพบกับ“ผู้ที่มาจากดวงดาว” รูปธรรมนั้นๆแล้ว

ET: ชาวโลกผู้อยากรู้อยากเห็นที่รักเอ๋ย พวกเราจะต้องจากไปแล้ว เอาไว้ค่อยมาคุยกันต่อโอกาสหน้า
ซึ่งเราคงจำเป็นต้องอธิบายถึงเรื่อง “ลำดับขั้นทางวิวัฒนาการ” ให้คุณฟังซะแล้วหละ
ไม่ว่ามันจะเป็นการสมควรที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ให้พวกคุณทราบในตอนนี้หรือไม่ก็ตาม
เพราะว่า อย่างที่คุณรู้ ว่ามันมีคำกล่าวหนึ่งที่ว่า “เมื่อนักเรียนพร้อม ครูก็จะมา”


(จบตอนครับ)
.........................

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ

สองสามวันที่ผ่านมาถึงว่ารู้สึกแปลกๆตรงจักระที่ 7 มันแปล๊บๆ ตลอดๆเป็นระยะและขนคอลุกชันบ่อยๆ จากนั้นวันที่ 3 ก็เจ็บจิ้ดๆที่หัวใจ ตอนนั้นยังคิดว่านี่เป็นสัญญาณว่าเราจะอกหักหรือเป็นโรคหัวใจนะเออ

 

ได้อ่าน ก็เริ่มเข้าใจ ในความนึกรู้ แค่รู้เฉยๆนะครับ ที่เคยได้มาเมื่อหลายปีที่แล้ว
ผมเคยเขียนไว้ในไดอารี่ น่าจะช่วงปี 43-45
พอจะสรุปเรื่องที่เข้ากับบทความที่อ่านเป็นข้อๆ แบบคร่าวๆ
1. ปัญญาบริสุทธิ์ กุญแจ รอเวลา
2. ลายก้นหอย สลับซ้ายขวา หมุนทวน หมุนตาม (มีหนึ่งเดียว)
3. กายคือจักรวาล จักรวาลคือกาย
เอาแค่ 3 หัวข้อนี้ก่อนนะครับ เป็นสามเรื่องที่อยู่ๆผมก็นึกรู้ขึ้นมา แต่ก็ยังหาคำตอบ
เป็นบทสรุปไม่ได้ ทีนี้มาอธิบายหัวข้อ กะเรื่องราวที่มา

ปัญญาบริสุทธิ์ ชื่อเรียกนี้ผุดขึ้นมาเองครับ ตอนกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ
อยู่ๆ ก็มีคำถามว่า เราเป็นใคร แล้วเรามาทำอะไร
มันก็มีคำตอบมาว่า เราปัจจุบันนี้ ที่เป็นเรา เป็นแค่จุดรวมขององค์ความรู้อนันต์
ที่ถูกอัดเป็นก้อนพลังงาน ในนั้นจะบรรจุ สรรพความรู้มากมาย ร่างกายนี้เป็นเพียงแค่กล่อง
คำถาม แล้วเราจะเจอ หรือเข้าถึงปัญญาบริสุทธิ์นี้ได้ยังไง
คำตอบ ทุกๆคนจะมีกุญแจสำหรับไขกล่องใบนี้ เพียงแต่ว่าใครจะค้นเจอกุญแจ
คำถาม หากปัญญาบริสุทธิ์มีจริง แล้วทำไมเราเกิดมายังต้องเรียนรู้ ศึกษาวิทยาการอีก
...........
ไม่มีคำตอบ
...........
เรื่องที่ 2ลายก้นหอย
ตอนที่นั่งอยู่บนรถเมล์ นั่งม้วนตั๋วรถเมล์ เป็นรูปก้นหอย เลยมีคำถามผุดมาว่า
แล้วเจ้าลายก้นหอย มันหมุนทวนหรือตามเข็ม
สลับซ้ายหรือขวา
ก็ลองจับหมุนดู พลิกไปพลิกมา
แปลก แค่พลิก มันก็หมุนไปคนละทิศ
ได้คำตอบ ไม่มีถูกไม่มีผิด อยู่ที่มุมมอง

เรื่องที่ 3ค่อนข้างยาว เพราะรู้สึกมาตั้งแต่เด็กๆ จนตอนนี้ยังรู้สึก

ว่า เราเป็นเหมือนจักรวาลเล็กๆ ในอีกจักรวาล และอีกจักรวาล เป็นอนันนต์
ทุกสิ่งเกิด ดับ เกิดดับ ไม่สิ้นสุด ทั้งภายในตัวเรา ภายนอกตัวเรา พอเห็นรูป Fractal effect ก็เข้าใจสิ่งที่เรารู้สึกมาตั้งแต่เด็กเลย ว่า ใช่ แบบนี้เลย
เป็นรูปที่สรุปได้ชัดเจน

ที่เขียนมาเป็นส่วนหนึ่งของเส้นใย ที่ผมเคยเขียนไว้
แต่ไม่ค่อยอยากจะพูดหรือบอกใครครับ กลัวคนอื่นจะว่าเราบ้า
ก็เลยทำเป็นไม่สนใจกับสิ่งที่นึกรู้มา ที่ผ่านมา คิดว่าคงเกิดจากอุปทานของเราเองมากกว่า แต่พอได้มาอ่านหลายเรื่อง ตรงกับที่เราเคยรับรู้เลย
ขอบคุณครับ

 

<table id="post3507874" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> 06-07-2010, 11:31 AM </td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> #26 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_3507874", true); </script>
ผู้สนับสนุนเว็บ พลังจิต



วันที่สมัคร: Aug 2005
สถานที่: Vietnam
อายุ: 38
ข้อความ: 3,356
Groans: 85
Groaned at 15 Times in 11 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 15,166
ได้รับอนุโมทนา 41,426 ครั้ง ใน 3,686 โพส
พลังการให้คะแนน: 2891


</td> <td class="alt1" id="td_post_3507874" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ข้อความสื่อสารทางโทรจิตมาจากท่านเมตาตรอน (Metatron)

ผู้รับการ สื่อสาร: Tyberonn
วันที่รับการสื่อสาร: 20 กรกฎาคม 2008
ที่มา:
Inner Earth, Devic Kingdom & UFO Phenomena > Earth Keeper

เรื่อง: อาณาจักรใต้พิภพ, อาณาจักรเทวะ และ ปรากฏการณ์ UFO

ตอนที่ 16 - จบครับ

<link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;** @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;** @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;** /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;** p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";** @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;** div.Section1 {page:Section1;** --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;** </style> <![endif]--> กล่าวปิดท้าย


เราจะขอกล่าวทิ้งท้ายไว้ให้พวกคุณว่า ทุกสรรพชีวิตล้วนเกิดมาจากแสงสว่างทั้งสิ้น
และแสงสว่างที่ว่านั้น ก็กำเนิดมาจาก “จิตสำนึก” หรือ “สติสัมปชัญญะ” (consciousness)
ซึ่งนั่นก็คือจาก “ความคิด!” นั่นเอง

ภารกิจของพวกคุณบนดาวเคราะห์โลกใบนี้ คือการมาเรียนรู้ถึงความเป็นทวิภาวะ
(Duality – หมายถึงการมีทั้งดี-ทั้งชั่วในคนๆเดียวกัน และอื่นๆที่เป็นคู่ตรงข้ามกันแบบนี้ – ผู้แปล)
เพื่อที่จะมาเรียนรู้, มาพัฒนา และมาค้นหาแสงสว่างให้เจอ วัตถุประสงค์ของพวกคุณ ก็คือการมาเผชิญชีวิต
และเพื่อมาแสวงหาความเข้าใจ

เพื่อที่จะมาทำให้ความลึกลับของชีวิตเปิดเผยตัวออกมา พวกคุณจะพบว่า
ความรักคือความสั่นสะเทือนแห่งการสรรสร้างของทุกสิ่งทุกอย่าง และพวกคุณจะพบว่า
การแสวงหาความรู้ ซึ่งหมายถึงความรู้ที่แท้จริงเท่านั้น คือกุญแจสำคัญแห่งการพัฒนา…

...เรา ได้บอกคุณไปแล้วว่าความรักคือกุญแจ ความรักคือภาษาแห่งแสงสว่างอย่างหนึ่ง
และมันก็อยู่ในรูปแบบต่างๆมากมาย พวกเราได้บอกคุณไปแล้วว่า “ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข”
(Unconditional Love) คือรูปแบบที่สูงสุดของความรัก ซึ่งในมิติที่ 3 ของพวกคุณ ไม่อาจจะเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้

แม้ว่ามันจะสามารถจินตนาการถึงได้ แต่ว่าก็จะไม่สามารถประจักษ์แจ้งจริงๆได้ในมิติที่ 3
แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่า ความรักแบบไม่มีเงื่อนไขนี้ ไม่มีอยู่สำหรับพวกคุณ หรือว่าจะไม่สามารถเข้าถึงมันได้
หากว่ายังอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ เพราะว่าจริงๆแล้วมันก็มีอยู่ เพียงแต่ว่ามันอยู่ในมิติที่ 5 ขึ้นไปเท่านั้นเอง

ประเด็นนี้อาจจะทำให้พวกคุณงง เพราะว่าพวกคุณคิดว่า พวกคุณก็ได้ประจักษ์กับความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
มาบ้างแล้วเหมือนกัน ซึ่งนั่นก็ถูกต้อง เพราะว่าพวกคุณได้ประจักษ์แล้วจริงๆ พวกคุณสามารถทำได้
และก็ทำได้จริงๆซะด้วย แต่ที่ทำได้นั้นหนะ ไม่ใช่ตอนที่พวกคุณกำลังอยู่ในทวิภาวะแห่งมิติที่ 3 นี้หรอกนะ

เพราะว่ามิติที่ 3 นี้ มันเป็นมิติแห่งความมีเงื่อนไข และมันก็ถูกโปรแกรมเอาไว้อย่างลึกซึ้ง
และถูกออกแบบมาให้มีความเป็นขั้วที่สลับซับซ้อนมากๆ

ในมิติที่ 3 นี้ ความรักมันก็มีขั้วตรงข้ามเป็นของมันเองด้วย เช่นเดียวกันกับแสงสว่าง
และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในสเปกตรัมของแม่เหล็กไฟฟ้า

ในมิติที่ 3 นี้ ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข มันจะถูกรับรู้ได้ ก็ต่อเมื่ออยู่ในสนามพลังแห่งจุดศูนย์ (Zero Point Field) เท่านั้น
ซึ่ง ณ. สภาวะนั้น มันจะปราศจากความเป็นขั้ว สนามพลังแห่งจุดศูนย์นี้ ไม่ใช่ทวิภาวะอย่างหนึ่ง และก็ไม่มีความเป็นขั้วด้วย

แบบแผนของมิติที่ต่ำที่สุด ที่จะสามารถรับรู้ถึงคุณสมบัติของความรักแบบไม่มีเงื่อนไขได้ ก็คือมิติที่ 5
และที่มิติที่ 5 นี่เอง ที่พวกคุณรับรู้มันได้ ตามที่กล่าวไปแล้วนั้น คุณเข้าใจไหม๊?


ชาวโลกที่รักทั้งหลาย ในขณะที่พวกคุณกำลังเจริญเติบโตอยู่นี้ พวกเราอยากจะบอกคุณว่า ในมิติที่สูงๆกว่านั้น
แท้ที่จริงแล้ว พวกคุณได้ตระหนักรู้อย่างสมบูรณ์แบบ ถึงความสลับซับซ้อนของตัวตนทั้งหมดของพวกคุณเอง
ที่มีจำนวนนับพันๆ ที่แผ่ขยายออกมาจากวิญญาณของพวกคุณเองเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งความตระหนักรู้ผ่านทางตัวตนเหล่านี้เองที่พวกคุณเรียกว่า “จิตใต้สำนึก” (Subconscious mind)
ซึ่งมันคือประกายหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า (spark of God) และพวกคุณทุกคนก็สามารถเข้าถึงมันได้
ด้วยวิธีการทำจิตสำนึกให้สงบนิ่ง (quieting the conscious mind) ด้วยการลงมือปฏิบัติ!
ด้วยความพากเพียรพยายาม! ด้วยการเข้าให้ถึงสภาวะที่สมบูรณ์แบบดังกล่าวนั้น มันเป็นความฝันที่สวยงาม
และมันก็สลับซับซ้อนพอๆกับ “ลูกบาศก์ 12 มิติแห่งเมตาตรอน” (Metatron’s 12 dimensional cube)

จงทำความลึกลับให้กระจ่างเถิด !


เราคือเมตาตรอน และพวกคุณคือผู้ที่เรารัก


...และมันก็เป็นเช่นนี้เอง....

………………………………
</td></tr></tbody></table>

 

มีความใกล้เคียงกันมากในความคิด ทุกวันนี้ความคิดเปลี่ยนไปมากมาย แต่สื่งที่ยังคงอยู่ คือความเชื่อในพระพุทธศาสนา หลักคำสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเป็นครูที่ยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล

ตอนเป็นเด็กมักจะสงสัยอยู่เสมอ ว่า นอกจักรวาลไกลออกไปจะเป็นอะไร แล้วนอกของข้างนอกจักรวาลจะเป็นอะไรอีก เคยถามคุณครู ท่านไม่เข้าใจว่า เราถามถึงสิ่งใด ท่านไม่มีคำตอบ หลายปีผ่านมาคนที่ให้คำตอบกลับเป็นพระสงฆ์ ที่เคร่งครัดในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา

แต่เมื่อได้ มาอ่านข้อความแปลของคุณชยุต ได้ต่อยอดถึงคำตอบเหล่านั้น
และรับทราบว่า อานุภาพของมันยิ่งใหญ่นักและใช้ได้ในชีวิตประจำวันจริงๆ ความเป็นหนึ่งเดียว...ขอทุกสรรพสิ่ง

ขอบคุณ คุณชยุต และเพื่อนๆอีกครั้งค่ะ

 

ET: เราจะพูดช้าๆ..จงพิจารณาให้ดีและจงเข้าใจไว้ด้วยว่า กลุ่มของมนุษย์โลกกลุ่มหนึ่งๆ..ซึ่งหมายถึงกลุ่มที่ใหญ่มาก..
อาจจะประกอบกันขึ้นมาเป็นรูปธรรมชีวิตแห่งดวงดาวเพียง 1 รูปธรรมก็ได้

(ประเด็นเดียวกันนี้ ท่านอาจารย์ โนวา อนาลัย ใช้คำว่า “ตัวตนรวม” ซึ่ง 1 ตัวตนรวมประกอบไปด้วยตัวตนย่อยๆหลายตัวตน
เช่น พวกเราแต่ละคนเป็นต้น – ผู้แปล)


Blossom: ยิ่งไปกว่านั้น!! สิ่งที่คุณกำลังจะบอก ซึ่งดิฉันรู้สึกได้ ดิฉันคิดว่ามันคือ..

ผู้ที่พวกเราอาจจะรู้สึกได้อย่างแรงกล้ามากๆ ว่าพวกเขามีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันอะไรบางอย่างกับเราอยู่,
ผู้ที่พวกเราบอกว่า พวกเรามีความเชื่อมโยงลึกๆด้านจิตวิญญาณกับพวกเขา ซึ่งเมื่อหล่อหลอมผู้คนเหล่านี้ทุกๆคน
เข้าด้วยกันกับเราแล้ว ก็จะกลายเป็น “หนึ่งตัวตน” ของรูปธรรมชีวิตจากดวงดาวในมิติต่างๆที่สูงกว่าขึ้นไป


ET: ถูกต้องแล้ว...



มันคือ การแบ่งภาคมาเกิด เช่น พระนารายณ์อวตาร

หรือการแบ่งภาคมาเกิดของพระพรหม และเมื่อตายไปแล้วดวงจิตทุกดวงก็หวังจะได้

กลับไปรวมเป็นเนื้อเดียวกับพระพรหม

 

วิวัฒนาการก้าวกระโดด จะกระโดดไปไหน ถ้าว่างเอาเวลาไปคิดถึงความตายกันบ้างก็ดีนะ วิวัฒนาการไปแค่ไหนก็ตายอยู่ดี ตายเกิดตายเกิด วิวัฒนาการอยู่ใต้วัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด วิวัฒนาการก้าวกระโดด กระโดดอยู่บนกองทุกข์หรอ

คิดถึงความตายกันมากๆหน่อย เผื่อจะได้วิวัฒนาการไปสู่ความเหนือวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด สุดยอดแห่งการวิวัฒเราทำกันเองได้มีผู้สอนวิธีไว้นานแล้ว

วิวัฒก้าวกระโดดไปเป็นเนื้อเดียวกับพรหม เชย ต๊อกด๋อยจัง -*-

ไม่เห็นด้วยเพราะอะไรตอบด้วยนะท่านผู้วิวัฒกระโดด ดึ๋งๆ อยู่บนกองทุกข