วิธีแผ่เมตตาให้ได้ผลสูงสุด

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย pigbuta, 29 มีนาคม 2010.

  1. pigbuta

    pigbuta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +294
    จากที่เคยรู้มาก็ มี คนให้ท่องตั้งแต่เด็ก
    สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อะเวรา .... ให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งหมดทั้งสิ้นเทอญ

    แต่พอมา อ่านๆดูก็เห็นบอกว่า ให้แผ่เมตตาให้ คนนั้นคนนี้ ซิแล้วจะดี เจออะไรก็แผ่เมตตาให้

    จึงเกิดความสงสัยครับ ว่าจะใช้คำพูดว่าอะไรเวลาอยากแผ่เมตตาให้นาย ก.

    - ขอให้นาย ก. มีความสุขๆเถิด? เหรอครับ
    - ขอให้ หมาจรจัดที่นอนอยู่ตรงหัวมุมถนน นั้นมีความสุขๆเถิด? เหรอครับ

    การวางจิตก็พอทราบครับ ว่าให้มีความปราถนาดี เมตตา กับคนนั้นๆแล้วแผ่ออกไป แต่อยากทราบรายละเอียดที่ลึกลงไปอีกครับ ว่าคำพูดแบบไหนถึงเหมาะสม ดูกระชับรัดกุมสุด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มิถุนายน 2010
  2. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    เพื่อความกระจ่างเรื่องเมตตา

    [​IMG]


    เมตตา - วิกิพีเดีย

    ในวิสุทธิมรรค สมาธินิทเทส พรหมวิหารนิเทส แสดงลักษณะของเมตตาพรหมวิหารไว้ว่า
    • เมตตามีอาการประพฤติเกื้อกูลเป็นลักษณะ
    • มีการน้อมนำเข้าไปเกื้อกูลประโยชน์ในสัตว์เป็นรส
    • มีการบำบัดความอาฆาตเป็นปัจจุปัฏฐาน (อาการที่ปรากฏ)
    • มีการเห็นสัตว์เป็นที่ชอบใจ คือไม่โกรธเคือง ไม่ขุ่นเคืองในขณะนั้นเป็นปทัฏฐาน (เหตุใกล้)
    • มีการเข้าไปสงบความพยาบาทเป็นสมบัติ
    • มีความเสน่หาเป็นวิบัติ
    ตามอัฏสาลินี อรรถกถา พระธัมมสังคณีปกรณ์ ทุกนิกเขปกถา เหตุโคจฉกะ พระบาลีนิทเทอโทสะ (1062) ได้แสดงลักษณะของเมตตาไว้ว่า
    • เมตตามีชื่อว่าไมตรี เนื่องจากเป็นกิริยาที่สนิทสนม
    • เมตตามีชื่อว่าการเอ็นดู เพราะคอยปกป้องคุมครอง
    • เมตตามีชื่อว่าความแสวงหาผลประโยชน์เกื้อกูล
    • เมตตามีชื่อว่าความสงสาร เนื่องจากคอยหวั่นไหวตามไปด้วย
    ดังนั้น การจะแสดงว่ามีเมตตาต่อบุคคลใด จึงต้องมีลักษณะดังกล่าว ซึ่งหากว่าไม่ใช่อาการเหล่านี้ จิตขณะนั้นอาจเป็นโลภะหรือโทสะซึ่งเป็นอกุศลจิต ไม่ใช่เมตตา

    การแผ่เมตตา
    บทสวดแผ่เมตตาโดยทั่วไป จะกล่าวว่าขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงเป็นผู้ไม่มีเวร
    ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีทุกข์ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ทั้งสิ้นเถิด แต....่
    การแผ่เมตตาไม่เกี่ยวกับการท่อง "สัพเพสัตตา" สักเท่าไหร่
    ก่อนจะแผ่เมตตา จะต้องทำจิตให้มีเมตตาเสียก่อน
    เหมือนกับจะบริจาควัตถุทาน ก็ต้องหาวัตถุสิ่งของให้ได้ก่อน
    การจะสร้างกระแสเมตตาขึ้นในจิต
    ให้ประคองความรู้ตัวอยู่ที่จิตอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน
    แล้วน้อมนึกขอให้สัตว์ทั้งหลายมีความสุขโดยทั่วถึงกัน
    จนกระทั่งเกิดกระแสหรือพลังงานของความเมตตาขึ้นที่จิต
    จึงแผ่เมตตา ส่งกระแสนั้นออกไป

    จากเกร็ดเมตตาพรหมวิหารจากคำภีร์พระวิสุทธิมรรค
    เมตตาจะแผ่ออกได้ก็ต่อเมื่อจิตเจริญเมตตาถึงปฐมชาณเป็นอย่างน้อย
    การแผ่เมตตาจึงได้ชื่อว่า เมตตาเจโตวิมุตติเมตตาจึงจะแผ่ออกไปได้โดยเจาะจง และอัปปมัญญา


    [แก้] อานิสงส์ของเมตตา
    โสฬสปัญญานิเทศ.69/179
    ธรรมดาพระพุทธเจ้า ทั้งหลายเมื่อทรงแสดงธรรม ย่อมทรงแผ่เมตตาไปยังบริษัท ด้วยการเเผ่เมตตา มหาชน ย่อมมีจิตเลื่อมใสในพระทศพล ธรรมดาพระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงมี รูปโฉมงดงาม น่าทัศนา มีพระสุรเสียงไพเราะ มีพระชิวหาอ่อนนุ่ม มีช่อง พระทนต์สนิท ทรงกล่าวธรรมดุจรดหทัยด้วยน้ำอมฤต ในการทรงกล่าวธรรม นั้น ผู้มีจิตเลื่อมใสด้วยการทรงแผ่เมตตา ย่อมมีความคิดอย่างนี้ว่า เราไม่ สามารถจะจับสิ่งตรงกันข้ามกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ทรงกล่าวกถาไม่มีสอง กถาไม่เป็นโมฆะ กถานำสัตว์ออกไป เห็นปานนี้ได้เลย บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมไม่ถามปัญหา เพราะความที่ตนเลื่อมใสนั่นแหละ.
    พระสุตตันตปิฎก เล่ม 15อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต ปุญญวิปากสูตร

    [๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย คำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมรู้ชัดซึ่งผลแห่งบุญอันน่าปรารถนาน่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน เราเจริญเมตตาจิตตลอด ๗ ปี ครั้นแล้ว เราไม่ได้กลับมายังโลกนี้ตลอด ๗ สังวัฏฏวิวัฏฏกัป
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่า เมื่อโลกถึงความพินาศ [ถูกไฟไหม้] เราเข้าถึงพรหมโลกชั้นอาภัสสระ เมื่อโลกยังไม่ถึงความพินาศ เราย่อมเข้าถึงวิมานพรหมอันว่างเปล่า ได้ยินว่า ในวิมานพรหมนั้น เราเป็นพรหม เป็นท้าวมหาพรหม เป็นใหญ่ใครๆ ครอบงำไม่ได้ มีความเห็นแน่นอน มีอำนาจเต็ม

    (จากนั้น)เป็นท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่แห่งทวยเทพ ๓๖ ครั้ง เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ตั้งอยู่ในธรรม เป็นธรรมราชา มีสมุทรทั้ง ๔ เป็นขอบเขต ผู้ชนะสงคราม มีชนบทถึงความสถาพรตั้งมั่น ประกอบด้วยรัตนะ ๗ ประการ รัตนะ ๗ ประการของเรานั้นคือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คฤหบดีแก้ว ขุนพลแก้วเป็นที่ ๗ อนึ่ง เราเคยมีบุตรมากกว่าพันคน ล้วนแต่เป็นคนกล้าหาญชาญชัย ย่ำยีข้าศึกได้ เรา ครอบครองปฐพีมณฑลนี้ อันมีมหาสมุทรเป็นขอบเขต โดยธรรม ไม่ต้องใช้อาชญา ไม่ต้องใช้ศาตรา ฯจบสูตรที่ ๙

    www.mettajetovimuti.org
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2010
  3. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    หลวงปู่แนะวิธีแผ่เมตตาให้บังเกิดผล

    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ท่านสอนให้ศิษย์ทุกคนได้หัดแผ่เมตตา คือส่งความปรารถนาดีแก่คน สัตว์ ศัตรูหมู่มาร โดยแผ่ไปให้ทั่วจักรวาล ยิ่งแผ่มาก ก็ยิ่งทำให้ในสบาย รักชีวิตและทรัพย์สิน คนอื่นเหมือนกับของตนเอง สังคมก็จะมีความสุขสงบอย่างถ้วนทั่ว

    หลวงปู่แนะวิธีแผ่เมตตาให้บังเกิดผล โดยให้ทำตนและจิตใจเหมือนมารดาที่เลี้ยงลูก ให้ความรัก ความเอ็นดูสงสาร มุ่งหวังจะให้ลูกสุขกายสบายใจ มีอาชีพการงาน มีวิชาเลี้ยงตนเอง ได้ ความรักที่แม่ให้กับลูกเป็นความรักที่บริสุทธิ์ไม่มีพิษภัย และไม่ต้องการผลตอบแทนจากลูก มีแต่ให้อย่างเดียว

    ถ้าเราแผ่เมตตาเหมือนกับพระอาทิตย์ส่องแสง เมตตานั้นจะมีพลังสูงยิ่ง เพราะธรรมชาติของพระอาทิตย์ขณะที่ส่องแสงไม่ได้เลือกชุมชน สรรพสัตว์ยากดีมีจน อยู่ที่สูงหรือที่ต่ำ จะใกล้หรือไกล ก็ได้รับความร้อนเท่ากัน
    เมตตาธรรมก็เช่นกัน ขอให้แผ่ไปให้แก่ชนทุกชั้นทุกระดับ ใครจะรับได้มากน้อย สุดแต่วาสนาบารมีของผู้นั้น

    ผู้เขียน (รศ. ดร.ปฐม นิคมานนท์) เพิ่งประจักษ์ในความวิเศษของพระพุทธศาสนาเมื่อปี ๒๕๒๖ นี้เอง ก่อนหน้านั้นมัวไปลุ่มหลงศึกษาวิทยายุทธจากฝรั่งชาติตะวันตกอยู่นาน และเพิ่งมารับสัมผัสบารมีธรรมของหลวงปู่แหวน ในปี พ.ศ.๒๕๓๓ เมื่อครั้งติดตามหลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม ไปกราบหลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปทีโป ที่วัดอรัญญวิเวก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
    หลวงปู่แหวน ท่านเคยอยู่ที่วัดป่าบ้านปง (วัดอรัญญวิเวก ในปัจจุบัน) นานถึง ๑๑ ปี ก่อนจะย้ายไปพำนักที่ดอยแม่ปั๋ง และหลวงพ่อเปลี่ยน ก็ได้ตามไปอุปัฎฐากหลวงปู่เสมอมา จนกระทั่งวาระสุดท้ายในชีวิตของท่าน

    หลวงพ่อเปลี่ยน เล่าให้ฟังว่า “ทุกคืน หลวงปู่แหวน ท่านจะแผ่เมตตาไปทั่วจักรวาล แต่แปลก ที่ประเทศรัสเซีย กับประเทศบริวารรับกระแสเมตตาของท่านได้บ้างเล็กน้อย ส่วนเวียตนามไม่ยอมรับเลย สะท้อนกลับคืนหมด ประเทศเขาจึงวุ่นวายตลอด มาภายหลังก็เริ่มรับได้มากขึ้น และหลวงปู่ บอกให้หลวงพ่อเปลี่ยน ช่วยแผ่เมตตาให้ประเทศเวียตนามมากๆ ให้ทำทุกคืน

    หลวงพ่อเปลี่ยน ท่านว่า “พลังจิตของหลวงปู่เปรียบได้กับแสงพระอาทิตย์ ของอาตมา เป็นแค่แสงหิ่งห้อย เปรียบกันไม่ได้ แต่อาตมาก็ทำตามที่หลวงปู่บอกทุกคืน ตอนนี้เขาเริ่มดีขึ้น และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ..."

    หลวงพ่อปรารภว่า ท่านอยากเอาหนังสือธรรมะไปแจก โดยเฉพาะแจกให้ “พวกตัวใหญ่ๆ”ซึ่งท่านรู้ว่าควรจะแจกให้ใคร และที่ใด เป็นการช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง
    จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ผู้เขียนจึงได้มีส่วนร่วม ด้วยการไปหาผู้แปลและจัดพิมพ์หนังสือ "เมตตาธรรมค้ำจุนโลก" ซึ่งเป็นคำเทศน์ของหลวงพ่อ ออกมาเป็นภาษาเวียตนาม ตามความ ประสงค์ของท่าน
    ณ จุดนั้นเป็นต้นมา ผู้เขียนและครอบครัว จึงได้เริ่มสัมผัสกระแสเมตตา และได้รับรู้เรื่องราว เกี่ยวกับบารมีธรรม ของหลวงปู่แหวนมาโดยลำดับ นับเป็นบุญและเป็นมงคลยิ่งแก่ชีวิต ตลอดมา


    ที่มา..������������ջ���ҳ... ��ǧ�����ǹ - �����͡�����
     
  4. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    เกร็ดการแผ่เมตตาให้เป็นมหามงคล

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  5. คาคะ

    คาคะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +1,533
    ที่เรารู้มานะประมานว่า อ.สุทธีวัสส์ คำภานะ บอกว่าให้เรานั้นมองไปที่สัตว์หรือคนที่เราจะแผ่ให้แล้วให้พูดว่าบูญกรรมที่ข้าพเจ้าได้ทำมาไม่ว่าอดิตชาติหรือปัจุบัจที่ที่กำลังจะทำขอแผ่ให้กับ.. แล้วเอ่ยชื่อที่เราจะแผ่ให้เขา (ทำจิตให้นิ่ง) จะรู้ได้ไงว่าถึงก็ตราบไดที่ว่าเรานั้นรู้สึกเปี่ยมล้นมีความสูข นั้นละเขาได้รับแล้ว เป็นอาไรที่ง่ายกระชับเร็วเพราะท่ามัวท่องพระคาถาบางทีท่าท่องไม่เก่งไม่ทันแล้วผู้ที่มาขอส่วนบูญจะมาได้ประเดี่ยวเองจะไม่ทันการนะ ยกตัวอย่างที่ อ.สุทธีวัสส์ ได้ทำก็คือท่านผ่านหน้าโรงฆ่าสัตว์หมูร้องเอามากๆๆท่านก็พูดแผ่เมตาให้หมูนั้นก็เงียบใจท่านก็เป็นเปี่ยม ท่ามีเวลาท่องได้ก็ดีนะคะนั้นหมายถึงว่าใจเรานิ่งอยู่ว่างแล้วนั้นละคะหรือท่องจำคาถาจนขึ้นใจแล้ว
     
  6. jee4

    jee4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +848
    อนุโมทนา สาธุ...ครับ

    การแผ่เมตตา ให้ได้ผลดีต้องแผ่ออกมาจากจิตที่บริสุทธิ์
    ไม่โกรธ ไม่แค้น ไม่หวังผล ใดๆ.....
    bubu
     
  7. pigbuta

    pigbuta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +294
    ขอบคุณทุกท่านมากครับ
    เท่าที่เข้าใจก็คือ ไม่เกี่ยวกับ คำพูดใดๆแต่ เพียงเรานึกถึงสิ่งนั้นๆแล้วมอบความรู้สึกดีๆให้ก็คือการแผ่เมตตาแล้วใช่ไหมครับ
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  8. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    การแผ่เมตตาก่อนนั่งสมาธิ หรือก่อนเริ่มปฏิบัติธรรม
    ทำให้จิตรวมเป็นสมาธิได้เร็ว เป็นไปตามพุทธวจนจริงๆ
    รวมทั้งมีความก้าวหน้าในการปฏิบัติเป็นลำดับ

    และสามารถนำเมตตาภาวนานี้บรรลุธรรมได้ด้วยเพราะเป็นกรรมฐานหนึ่งในสี่สิบวิธี

    หลวงปู่มั่นท่านแผ่เมตตา ไปในโลกธาตุต่างๆวันละสามเวลา

    คำบริกรรม ช่วยให้จิตนิ่ง หากยิ่งน้อมจิตตามความหมายของคำนั้นยิ่งทำให้ได้ผลมาก
     
  9. กังหันลม

    กังหันลม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +693
    เมตตานั้นนำมาซึ่งความสงบแก่ทุกส่วนที่รับรู้

    เป็นบาทฐานของสมาธิ

    อนุโมทนากับการวางจิตในเมตตาอย่างถูกต้องด้วยครับ


    :cool:
     
  10. vilawan

    vilawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,432
    หลวงปู่แนะวิธีแผ่เมตตาให้บังเกิดผล
    โดยให้ทำตนและจิตใจเหมือนมารดาที่เลี้ยงลูก
    ให้ความรัก ความเอ็นดูสงสาร มุ่งหวังจะให้ลูกสุขกายสบายใจ มีอาชีพการงาน มีวิชาเลี้ยงตนเองได้
    ความรักที่แม่ให้กับลูกเป็นความรักที่บริสุทธิ์ไม่มีพิษภัย และไม่ต้องการผลตอบแทนจากลูก มีแต่ให้อย่างเดียว
     
  11. hon9999

    hon9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +2,430
    ได้ความรู้ดีมากเลยครับ
    ขอบคุณผู้ถาม และ ผู้ตอบครับ
     
  12. paul1234

    paul1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +634
    <TABLE style="WIDTH: 194pt; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 cellPadding=0 width=258 border=0><COLGROUP><COL style="WIDTH: 38pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1865" width=51><COL style="WIDTH: 65pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3145" width=86><COL style="WIDTH: 65pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 3181" width=87><COL style="WIDTH: 26pt; mso-width-source: userset; mso-width-alt: 1243" width=34><TBODY><TR style="HEIGHT: 15pt" height=20><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 38pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=51 height=20></TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 65pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=86></TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 65pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=87></TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; WIDTH: 26pt; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" width=34></TD></TR><TR style="HEIGHT: 15.75pt" height=21><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 15.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=21></TD><TD class=xl66 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=2>อนุโมทนา... สาธุ...</TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"></TD></TR><TR style="HEIGHT: 24.75pt; mso-height-source: userset" height=33><TD class=xl67 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #002060 2pt double; HEIGHT: 24.75pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=4 height=33>ขอให้เจริญในธรรม..และถึงซึ่งนิพพาน</TD></TR><TR style="HEIGHT: 23.25pt; mso-height-source: userset" height=31><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; HEIGHT: 23.25pt; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8" height=31></TD><TD class=xl68 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8; mso-ignore: colspan" align=left colSpan=2>ทาน ศิล สมาธิ ปัญญา</TD><TD class=xl65 style="BORDER-RIGHT: #ece9d8; BORDER-TOP: #ece9d8; BORDER-LEFT: #ece9d8; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: #b6dde8"></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    อนุโมทนาครับ

    เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเลยครับ

    ผมจะได้ปฎิบัติได้ถูกต้องครับ
     
  14. kkookk

    kkookk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +1,326
    เจริญพรหมวิหาร(ธรรมของพรหม) 4 ให้มาก...
    หากหมั่นเจริญพรหมวิหารอยู่เป็นตลอด โลกจะมีแต่ความสงบสุข...
    ในช่วงที่บ้านเมืองและโลกกำลังเป็นแบบนี้...
    การเจริญพรหมวิหารและแผ่เมตตาเหมาะสมที่สุดครับ...

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยครับ...^ ^
     
  15. arrin123

    arrin123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อนุโมทนาสาธุค่ะ^ ^~

    ________________________________--
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=cnt_01 width=255></TD><TD class=cnt_02 width=431></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=cnt_01>"สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี" "จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน"
    "สุขใดในโลกล้วนไม่ยั่งยืน ผู้ใดปล่อยวางพิจารณาในความทุกข์เห็นโทษของความสุขผู้นั้นชื่อได้ว่าพบความสุขอันยิ่งใหญ่"<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    </TD><TD class=cnt_02></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. เย็นจิต

    เย็นจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +709
    อโหสิกรรม ก่อนแผ่เมตตา ขณะแผ่วางจิตที่อุณาโลม (ระหว่างคิ้ว) ทำบ่อยๆ แล้วจิตส่วนนี้จะแทรกขึ้นมาตอนเห็นสัตว์ทั้งปวงได้รับทุกข์ ...
     
  17. krit59

    krit59 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +346
    การแผ่ เมตตานั้น อย่างน้อยต้องมีฌาณ1 เพราะต้องออกมาจากจิตที่เป็นสุข
    คนรับก็จะเป็นสุขด้วย ถ้าแผ่ออกมาในขณะที่จิตเป็นทุกข์ มันก็เลยทุกข์กันหมด
     
  18. march_troy

    march_troy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +23
    อนุโมทนาสาธุกับเกร็ดความรู้ดีๆ จากท่านทั้งหลายด้วยครับ สาธุ
     
  19. lady_ta

    lady_ta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2008
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +380
    อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ.

    บุญรักษาค่ะ.
     
  20. butterfly7777

    butterfly7777 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +81
    การแผ่ เมตตานั้น อย่างน้อยต้องมีฌาณ1 เพราะต้องออกมาจากจิตที่เป็นสุข
    คนรับก็จะเป็นสุขด้วย ถ้าแผ่ออกมาในขณะที่จิตเป็นทุกข์ มันก็เลยทุกข์กันหมด

    ..............................
    เคยทราบว่า ไม่ว่าทุกข์หรือสุขใจ ก็ควรแผ่ ยิ่งถ้าทุกข์ควรต้องแผ่เมตตาเยอะ แล้วอย่างนี้คนที่เราแผ่เมตตาให้ ก็ยิ่งต้องทุกข์อีกใช่มั้ยคะ ไม่ควรหรอก ฤ
     

แชร์หน้านี้

Loading...