ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

======================================


20 พ.ค. 53


ฝ่ายธรรม

การถือข้าง---------เปรียบเสมือน-------เติมเชื้อไฟ
ให้มอดไหม้--------เรื่องไม่จบ----------ไม่หมดสิ้น
ถือข้างหนึ่ง--------เจอข้อหา-----------ฆ่าคนตาย
ส่วนอีกราย---------คือวายร้าย---------เผาแผ่นดิน

คนเดินธรรม--------ไม่แบ่งข้าง--------และแบ่งสี
อีกต้องมี-----------ความถูกต้อง------ไม่ถูกใจ
ถ้าท่านใด----------ทำได้ครบ---------ขอปรบมือ
โปรดอย่าถือ--------ที่ผมเขียน--------เพื่อเตือนใจ



องค์อินทร์ - ๙๗
ทำการแทน

======================================
ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







---------------------------------------------------------------------
หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<STYLE>body{background-image:url("http://palungjit.org/attachments/a.758354/");}</STYLE>

 

เป็นชาวพุทธแท้จริงต้องเลือกข้าง
ยืนอยู่ทางความดีที่มองเห็น
อันความชั่วมัวเมาขออย่าเป็น
สงบเย็นเห็นภัยในกรรมเวร

 

อันตัวเราอยู่ข้างองค์ราชัญมิแบ่งชันชนเชื้อเทือก่อไหน
ทั้งที่หนึ่งที่ครองเต็มดวงใจ คือพระรัตนตรัยสูงสุดเอย....


ปรารถนาให้ทุกท่านมีความสุข ขอให้เจริญในธรรมค่ะ

 

*** เอาดีเอาชั่ว อยู่กับโลกต่อไป ****

เราถือ สัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
เดินบนหนทางหลุดพ้นทุกข์

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ใกล้ถึงวาระแล้ว น้องแก้วพี่จ๋า ที่หลับใหล ใคร่ตื่นลืมตา (ใน)
จวนถึงเวลา ที่ภัยมี ในช่วงครานี้ เร่งรีบตระเตรียมชีวี
สติให้มี ปัญญาให้มา ด้วยห่วงน้องแก้วพี่จ๋า whitenagaจึงขอออกมาย้ำเตือน

 

เป็นชาวพุทธแท้จริงไม่มีข้าง

อยู่สายกลางกับความจริงที่มองเห็น

ทั้งดีชั่วคือมัวเมาเราอย่าเป็น

มองให้เห็นตัวธรรมในธรรมเอยฯ เพื่อนๆ

"อย่าฝักใฝ่ฝ่ายใด" เพราะเมื่อใจมีฝ่ายท่านจะกลายเป็นเครื่องมือ สร้างความแตกแยกให้สังคม

 

ซ้อมเตือนภัยสึนามิ 6 จังหวัดอันดามัน กรกฎาคม นี้ ​

​

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตรียมซ้อมเตือนภัยสึนามิใน 6 จังหวัด ชายฝั่งทะเลอันดามัน ในเดือนกรกฎาคม - สิงหาคมนี้

นายวิริยะ มงคลวีราพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคม - สิงหาคมนี้ จะจัดซ้อมเตือนภัยสึนามิใน 6 จังหวัด ชายฝั่งทะเลอันดามัน คือ ภูเก็ต ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง สตูล ส่วนแผนการปฏิบัติงานของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติปีนี้ คือ วางระบบเตือนภัยเพิ่มเติม เพื่อรองรับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น และปรับหอเตือนภัยอีก 40 แห่ง ให้รองรับการเป็นหอกระจายข่าว พร้อมจัดทำสื่อการเผยแพร่ข่าวสารในรูปแบบใหม่ ๆ เช่น เว็บไซต์ ด้วยงบประมาณทั้งหมด 85 ล้านบาท

ปัจจุบันมีหอเตือนภัยขนาดใหญ่ 299 แห่ง และมีหอเตือนภัยขนาดเล็ก 1,500 แห่ง สำหรับปีนี้ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้รับงบประมาณทั้งหมด 130 ล้านบาท

สำนักข่าว ไอเอ็นเอ็น

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/49117

 

​

สุริยุปราคา-สุริยคราส และ จันทรุปราคา-จันทรคราส ปี2553 ทางด้านโหราศาสตร์ถือเป็น “สัญญาณฟ้าที่ไม่ดี” อุปราคา ปี 2553 'ลางอันตราย

เข้าสู่วันสุดท้ายของปีเก่า 2552 ก่อนจะก้าวผ่านสู่ปีใหม่ 2553 ในคืนรอยต่อข้ามปี...บนท้องฟ้าจะมีปรากฏการณ์ “อุปราคา” เกิดขึ้น และจากนั้นในรอบปี 2553 ก็จะมีอุปราคาอีก 4 ครั้ง รวมเป็น 5 ครั้ง ซึ่งอุปราคานี้ก็มีทั้งแบบที่เรียกว่า “สุริยุปราคา-สุริยคราส” และ “จันทรุปราคา-จันทรคราส”

“อุปราคา” ในด้านหนึ่งเป็นเรื่องของธรรมชาติแห่งดาว ขณะที่ทางด้านโหราศาสตร์ถือเป็น “สัญญาณฟ้าที่ไม่ดี” ทั้งนี้ กับอุปราคา หรือทางโหรเรียกว่า “พระเคราะห์บังกัน” ในปี 2553 ในด้านของการเป็นสัญญาณจากฟ้า-จากดวงดาว ทาง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ มีคำทำนาย ทายทัก ดังนี้.....

อุปราคาครั้งที่ 1 คืนส่งท้ายปีเก่า เกิดเวลา 02.14 น. วันที่ 1 ม.ค. 2553 เป็น “จันทรุปราคาแบบบางส่วน” คำทำนายโดยสรุปคือ...ต้องระวังเกิดความยุ่งยากเรื่องผู้ใช้แรงงาน เกิดการประท้วง เกิดอาชญากรรมมาก เกิดโรคระบาดหนัก เกิดความยุ่งยากในวงการศาสนา การศึกษา กฎหมาย แพทย์ อุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมาย เกิดลมพายุรุนแรง หนาวจัด การเดินทางขนส่งติดต่อสื่อสารเกิดปัญหา เกิดอัคคี ภัยใหญ่ วงการบันเทิงมีปัญหา สตรีและเด็กถูกละเมิดสิทธิรุนแรง เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญ อบายมุขเฟื่องฟู เกิดปัญหาสังคมมาก

รัฐสภาจะตกต่ำถูกครอบงำโดยอิทธิพลและผลประโยชน์ มีปัญหายุ่งยากกับประเทศเพื่อนบ้านเพราะคนต่างถิ่นต่างแดน คนหมู่มากเกิดวิวาทะ มีความคิดเห็นรุนแรง พร้อม ๆ กับมีการใช้กำลังอาวุธ

อุปราคาครั้งที่ 2 วันที่ 15 ม.ค. 2553 เวลา 14.12 น. เกิด “สุริยุปราคาแบบวงแหวน” คำทำนายโดยสรุปคือ... ต้องระวังด้านการต่างประเทศ ในบางกรณีเกิดความผันแปรครั้งสำคัญทางการเมือง ดินฟ้าอากาศแปรปรวน พืชผล-เศรษฐกิจการค้าเสียหาย อุปราคาครั้งนี้เกิดในราศีมังกร ธาตุดิน ระวังการพังทลายของดิน อาคารบ้านช่อง อาณาเขตมีปัญหา การช่วงชิงผลประโยชน์เยี่ยงโจรเกิดขึ้นมากมายตามโจโรฤกษ์ที่แนวอุปราคาปรากฏ

รัฐบาลคะแนนนิยมตกต่ำเพราะปัญหาเศรษฐกิจ คอร์รัปชั่น สุขภาพประชาชน เกิดปัญหาระหว่างชนชั้นมากขึ้น มีการโจมตีใส่ร้ายบุคคลสำคัญ เกิดการสูญเสีย-การตายเพราะความแตกแยก ต้องระวังการสูญเสีย-การลอบสังหารบุคคลสำคัญ การปฏิวัติรัฐประหาร อาจมีให้เห็นอีก

อุปราคาครั้งที่ 3 เกิด 26 มิ.ย. เวลา 18.32 น. เกิด“จันทรุปราคาแบบบางส่วน” ในราศีธนู ธาตุไฟ คำทำนายโดยสรุปคือ... เมื่อเกิดอุปราคาขึ้นในฤกษ์นี้จะทำให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะ ที่สังคมจะมีการเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น ไม่เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและ กัน ไม่มีความเมตตาปรานี ขาดการประนีประนอม ต้องระวังเกิดความยุ่งยากเรื่องการชุมนุมประท้วงทางการเมือง แรงงาน เกิดคดีอาชญากรรมมากขึ้น เกิดพายุใหญ่ โรคภัยในคนและสัตว์ระบาดหนัก เกิดเชื้อโรคใหม่ วงการศาสนา ศึกษา แพทย์ กฎหมาย เกิดยุ่งยากสูญเสีย การเดินทางระวังเกิดอุบัติเหตุมาก

ต้องระวังการเกิดไฟไหม้ครั้งสำคัญ เกิดเหตุการณ์สาธารณะ ที่ตื่นเต้น เกิดเหตุฆาตกรรมสำคัญ บางกรณีอาจเกิดการปะทะของกองกำลังต่าง ๆ และเกิดการตายของประชาชนและบุคคลสำคัญ

อุปราคาครั้งที่ 4 เกิด 12 ก.ค. 2553 เวลา 02.42 น. เกิด “สุริยุปราคาเป็นสรรพคราส (มืดมิดดวง)” ในราศีมิถุน ธาตุลม คำทำนายโดยสรุปคือ... ต้องระวังเกิดลมพายุรุนแรง เกิดอุบัติเหตุ-ปัญหาทางการขนส่งคมนาคมการสื่อสาร รัฐสภาถูกครอบงำโดยอิทธิพล ผลประโยชน์ มีปัญหายุ่งยากเรื่องกฎหมาย พรรคการเมืองแตกแยก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผันแปร ผู้นำ-ผู้ปกครองเกิดอันตราย บุคคลมีชื่อเสียงป่วยหนักหรือถึงแก่กรรม รัฐบาลจะใช้มาตรการที่เฉียบ ขาดเพื่อให้เกิดความยำเกรง กองทัพกองกำลังจะเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด

ต้องระวังจะมีปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงเกิดขึ้น หรือเกิดอุบัติเหตุทำให้มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินครั้งสำคัญ มีอาชญา กรรมลึกลับซับซ้อนเกิดขึ้น เกิดปัญหาลึกลับจากต่างด้าว

อุปราคาครั้งที่ 5 เกิด 21 ธ.ค. 2553 เวลา 15.14 น. เกิด “จันทรุปราคาเป็นสรรพคราส (มืดมิดดวง)” ในราศีมิถุน ธาตุ ลม คำทำนายโดยสรุปคือ...ต้องระวังเกิดยุ่งยากเรื่องผู้ใช้แรงงาน เกิดอาชญากรรมมาก เกิดโรคระบาดหนัก มีความยุ่งยากในวงการศาสนา ศึกษา กฎหมาย แพทย์ เกิดอุบัติเหตุมาก เกิดลมพายุทำลายล้างรุนแรง เกิดวิวาทะรุนแรง การใช้กำลังอาวุธ วงการศาสนาเกิดการแตกแยก การคมนาคมขนส่งสื่อสารเกิดปัญหา

วงการบันเทิง ศิลปิน มีปัญหา เกิดการสูญเสียบุคคลสำคัญในวงการ มีปัญหาระหว่างนายทุนกับผู้ใช้แรงงาน ธุรกิจขาดทุน งานบริการงานบันเทิงทรุดลง สุขภาพประชาชนถูกกระทบกระเทือน อบายมุขเฟื่องฟู ประชาชนจะลุ่มหลงในอบายมุขตามการโฆษณาชวนเชื่อ เกิดปัญหาสังคมขึ้นตามมามากมาย

ที่ว่ามาก็เป็นคำพยากรณ์โดยสรุปเกี่ยวกับ “อุปราคา” ในปี 2553 ซึ่งทางโหรมีเกณฑ์ในการพยากรณ์ที่เป็นหลักการ แต่ด้วยพื้นที่จำกัดจึงไม่อาจแจกแจงได้หมด ทั้งนี้ ทาง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ ยังระบุไว้ด้วยว่า.....

“การเกิดของอุปราคาแต่ละครั้งจะมีผลต่อคนไทยทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมองเห็นในประเทศไทยหรือไม่ก็ตาม”

ที่มา http://www.tumsrivichai.com

 

วันนี้ท้องฟ้าทางทิศตะวันออกมีเมฆแผ่นดินไหวทั้งผืนฟ้าเลย

วันนี้ท้องฟ้าทางทิศตะวันออกมีเมฆแผ่นดินไหวทั้งผืนฟ้าเลย จะมีอะไรน่ากลัวหรือเปล่าน้า

 

วันนี้(31พค53)ตอนเช้าประมาณ 6.13 น.ออกจากบ้านเห็นเมฆแผ่นดินไหวเต็มไปหมด อยู่เหนือหัวเลย ตำแหน่งที่ถ่ายมีนบุรี จนขับรถไปถึงทางด่วน ก็ยังเห็นอยู่ แต่มองจากทางด่วนทับช้างเห็นว่ากลุ่มเมฆอยู่ไปทางตะวันออก อัพโหลดภาพมาให้ดูกันครับ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าเมฆที่ผมเห็นนี้ มีความถี่มาก กลุ่มใหญ่หนา และกินบริเวณกว้างกว่าที่เคยเห็นมา ที่สำคัญครั้งนี้ตำแหน่งที่ปรากฎอยู่บนศีรษะเราเลย ยังไงฝากเป็นข้อมูลสำหรับทุกท่านครับ

 

เห็นเหมือนกันเลยครับ ผมพึ่งอัพโหลดรูปภาพให้ดู ช้ากว่าคุณโชตนา 1 นาที : )

 

เห็นเหมือนกันค่ะ แถวๆสมุทรปราการไปทางชลบุรี ถ่ายรูปเมฆไว้เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้โพส

 

เห็นเหมือนกันคะ เเถวระยองคะ

 

อือ หือ ฝั่งอ่าวไทยเราต้องระวังตัวกันให้มากเลยนะค่ะนี่ อยู่จันทบุรี ค่ะ

ท้องฟ้าปลอดโปร่งสลับกับเมฆครึ้ม (ยังไม่มีลักษณะเมฆแผ่นดินไหว) ดูดาวดูฟ้าอยู่ทุกวันค่ะ

 

เห็นชัดเจนเช่นกันค่ะ แถวกรุงเทพกรีฑา (ไม่ไกลจากมีนบุรีเนาะ)


ปล ขอเลือกข้างนะคะ ขอเลือกพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตราบจนชีวิตจะหาไม่ค่ะ ^^

 

โอ๊ะ โอ วันที่ 2-13 มีแผนจะไปวิปัสสนาที่ จ.ปราจีนบุรีอยู่พอดี

ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา คงไม่รอดแน่นอน เพราะว่ายน้ำไม่เป็น คงได้ลอยอืดเป็นมาม่าลวกน้ำร้อน อิอิ

ปล เหมือนเดิม พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ เจ้าค่ะ

 

ใจความบางส่วน จากจดหมายเปิดผนึกชาวบ้านน้ำเค็ม


จากสถานการณ์ปัจจุบัน คนในสังคมวุ่นอยู่กับการเมืองเชิงโครงสร้างและปัญหาทางการเมือง ทำให้คนในสังคมลืมอะไรไปบางอย่าง ภัยพิบัติ ภัยไฟใหม้ น้ำท่วม ก่อการร้าย เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งเตรียมตัวรับกับมัน

จากกระแสที่เกิดจากสื่อมวลชน และนักวิทยาศาสตร์บางท่าน ออกมาเตือนเรื่องแผ่นดินไหว เกิดสึนามิ และมีนักวิชาการออกมาตอบว่า ไม่มีผลกระทบอะไร

แล้วคนในชุมชนที่เคยถูกภัยพิบัติขนาดใหญ่ สึนามิ อย่างพวกเรา จะใช้อะไรตัดสินว่าควรเชื่อใครดี หลายท่านอาจไม่เข้าใจคนอย่างพวกเรามากนัก ว่าการที่เรารอดชีวิตจาภัยพิบัติ ความทรงจำฝังลึกลงในหัวใจ

กระแสทั้งสองทาง ใครจะสร้างความเชื่อมั่นให้พวกเราได้ ที่พวกเขาออกมาบอกว่า ปีนี้ ตั้งแต่ ๑๒มิ.ย.–ธ.ค. นี้ จะเกิดแผ่นดินใหวขนาดใหญ่ และอาจเกิดสึนามิ รู้ใหมพวกเรารู้สึกอย่างไร

หลายคนกลัวย้ายบ้านหนี หลายคนไปอาศัยอยู่นอกพื้นที่ หลายคนหวาดผวานอนไมหลับ หลายคนเตรียตัวรับมือ หลายคนอาสาเข้าเวรยาม ๒๔ ชั่วโมง แล้วพวกเราควรทำอย่างไรดี

คนน้ำเค็มส่วนหนึ่ง ลุกขึ้นมาคิดร่วมกัน สิ่งที่เราจะเชื่อมั่นได้ดีที่สุดคือ เชื่อมั่นกันเองในชุมชน และแล้วเพื่อความพร้อมพอ ต่อความปลอดภัยในชีวิตของพวกเราคือ ชุมชนต้องลุกขึ้นมาจัดการตนเอง แทนที่จะรอบุคคลภายนอกให้คอยจัดการให้เป็นหลัก

การเมืองภาคพลเมืองเกิดขึ้นที่นี่ พวกเราเริ่มกันมามากกว่า ๔ ปีแล้ว เราแค่พอพร้อม หากรัฐสนับสนุนเรื่องนี้อย่างจริงจัง เราก็จะพร้อมพอต่อการรับมือกับภัยพิบัติโดยชุมชน เราจึงมีแผนรับมือพอเป็นสังเขปดังนี้

๑.ต้องมีการจัดทำข้อมูลชุมชนอย่างครอบคลุม และรอบด้าน
๒.ต้องมีการวิเคราะห์ ภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในชุมชน
๓.ต้องหาแนวทางแก้ปัญหา ของแต่ละภัยด้วยตัวเองและอาสาสมัคร
๔.ต้องทำแผนเตรียมพร้อม รับมือภัยพิบัติต่างๆ
๕.ต้องมีการซ้อมแผน อยู่เป็นประจำ
๖.สรุปทบทวนหาข้อบกพร่อง และแก้ข้อบกพร่องนั้น
๗.จัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ เพื่อช่วยให้แผน มีประสิทธิภาพมากที่สุด
๘.ประสานภาคีความร่วมมือ
๙.ต้องตระหนักและพร้อม พอที่จะอยู่กับภัยพิบัติให้ได้

จากข้างต้นเป็นแผนรับมือระยะยาวแล้ว วันที่ ๑๒ มิ.ย.นี้ละ เราจะเอากันอย่างไร ชุมชนคิดว่าสังคมต้องเรียนรู้เรื่องนี้ร่วมกัน เรียนรู้เรื่องอื่นบ้าง เพื่อเป็นบทเรียนให้สังคมรู้ว่า ภัยพิบัติเกิดขึ้นได้จริง ทั้งๆที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิด

พวกเราคิดว่า เราต้องดำเนิการอะไรบางอย่าง เพื่อสร้างความมั่นใจ ให้กับคนในชุมชน ได้ตระหนักอยู่ตลอดเวลา และทำให้พวกเราร่วมกับ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย และจังหวัดพังงา จึงจัดให้มีการซ้อมแผนใหญ่ ขึ้นที่บ้านน้ำเค็มในวันที่ ๑ มิ.ย. ๕๓ นี้

โดยขอให้มีการซ้อมเสมือนจริง โดยช่วงเช้า จะมีการซ้อมแผนอพยพหลบภัย
สึนามิ และประสานให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดสัญญาณเตือนภัยเฉพาะในหมู่บ้านน้ำเค็ม ๒ จุด เวลา ๑๑.๐๐ น.

โดยมีการเตรียม และซ้อมอพยพจริงเต็มรูปแบบ เมื่ออพยพคนสู่ที่ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว มีทีมเฝ้าระวัง แจ้งเหตุตอนเวลา ๑๓ .๐๐ น.ว่ามีเรือเฟอร์รี่บรรทุกข้ามฟาก ชนกับเรือบรรทุกน้ำมัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บมากมาย ในช่วงนี้

จากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ได้ถูกยกระดับเป็นภัยพิบัติขนาด ๓-๔ เป็นภัยพิบัติที่เกินศักยภาพของจังหวัด ซึ่งต้องระดมทีมช่วยเหลือในกลุ่มจังหวัด กองทัพภาค ๓ ภูเก็ต (ทหารเรือ) นำเฮลิคอปเตอร์ มาช่วยกู้ภัย

ตำรวจน้ำนำเรือตรวจการมากู้ภัย ทีมกู้ชีพในพื้นที่และใกล้เคียง ทีมกู้ภัยใกล้เคียง และทีมกู้ภัยทางน้ำของกลุ่มจังหวัด ฯ

ทั้งหมดร่วมกันกู้ภัยในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมมั่นใจว่า เราอยู่ร่วมกับภัยพิบัติได้อย่างปลอดภัย หากมีการเตรียมพร้อม


ด้วยความเชื่อมั่น
ผู้ประสานงานชุมชนบ้านน้ำเค็ม

 

ถือเป็นโอกาสอันดีของ คุณimmortal_truth ครับ เพราะปราจีนฯใกล้เขาใหญ่ มีอะไรก็ขึ้นเขาใหญ่ไว้ก่อน
ผมมีข้อสังเกตประการหนึ่ง(ความเห็นส่วนตัวครับ) ประชาชนที่อยู่ในเมืองและโดยเฉพาะประชาชนที่ไม่เคยรับรู้ข้อมูลเหล่านี้มาก่อน ไม่มีการเตรียมการอะไรเลย ไม่อาจคาดคะเนได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหรือผลกระทบต่างๆ ที่ตามมาจากแผ่นดินไหวคืออะไรบ้าง จะประเมินสถานการณ์ต่อไม่ได้ว่าสมควรจะอยู่ในเมืองต่อหรือรีบขยับขยายออกมาจากเมืองเสียเพื่อไปยังที่สูง
ผมกำลังพูดถึงว่าเมื่อแผ่นดินไหว เขื่อนทางทิศตะวันตกของไทยอาจได้รับผลกระทบ และถ้ารุนแรงขนาดนั้นระบบสื่อสาร ระบบไฟฟ้าคงขัดข้อง ปัญหาคือคนทั่วไปจะไม่รู้ข่าวสารหรือรู้ได้ด้วยความยากลำบาก ประกอบกับไม่ทราบข้อมูลต่าง ๆ จึงไม่อาจคาดหมายได้ว่าควรที่จะอพยพออกจากเมืองหรือไม่ อย่างไร

 

หัวหน้าให้ไปทำงานที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ตั้งแต่วันที่ 10 - 14 มิย. ค่ะ เทศกาลผีตาโขน ส่วนตัวเชื่อว่ภัยธรรมชาติ ระบุวันให้ชัดๆ ลงไปไม่ได้ แต่ถ้าบอกกว้างๆ ว่าเป็น 3 เดือน 6 เดือน ช่วงนี้ช่วงนั้น ก็คงพอจะได้นะคะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เรือรบยิวยิงถล่มกองเรือช่วยเหลือของตุรกี ตายไม่น้อยกว่า 10 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 พฤษภาคม 2553 13:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ชาวปาเลสไตน์บนเรือลำหนึ่ง ซึ่งกำลังเตรียมขบวนเรือมุ่งหน้าสู่ท่าเรือกาซา​

เอเอฟพี - สถานีโทรทัศน์และวิทยุของอิสราเอลเผย กองกำลังยิวโจมตีเรือลำหนึ่ง ซึ่งบรรทุกนักเคลื่อนไหวฝ่ายสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ของตุรกี ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ก่อนถูกกองทัพเซ็นเซอร์รายงานข่าวดังกล่าว​

สถานีโทรทัศน์ช่อง 10 ซึ่งเป็นของเอกชนรายงาน โดยไม่อ้างถึงแหล่งข่าวว่า หน่วยจู่โจมทางทะเลเปิดฉากยิงกราด หลังถูกผู้โดยสารในขบวนเรือให้ความช่วยเหลือ ขว้างขวาน และมีดใส่ ซึ่งช่อง 10 ไม่ได้ระบุว่าผู้ที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นคนบนเรือลำนั้น หรือเจ้าหน้าที่กองทัพเรืออิสราเอล​

ขณะที่สถานีวิทยุของกองทัพอิสราเอลเผยว่า มีผู้เสียชีวิตในการปะทะกันครั้งนี้ 10-14 คน โดยเหตุการณ์เริ่มขึ้นหลังจากผู้โดยสารบนเรือพยายามแย่งอาวุธจากเจ้าหน้าที่หน่วยคอมมานโด ที่กำลังบุกเรือลำหนึ่งในขบวน​

อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการปะทะกันนั้นเกิดขึ้นกับเรือเพียง 1 ลำจากขบวนเรือทั้งหมด 6 ลำหรือไม่ และกองทัพยิวก็ไม่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์แต่อย่างใด​

หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพอิสราเอลก็ได้สั่งเซ็นเซอร์การรายงานข่าวทุกทาง ที่เกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตในระหว่างเหตุโจมตีเรือ ที่ถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในกรุงเยรูซาเล็มแล้ว​

นอกจากนี้ องค์กรการกุศลของตุรกีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนเรือให้ความช่วยเหลือนั้น ได้บอกกับผู้สื่อข่าวจากกรุงอังการาว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนบนเรือลำหนึ่งในเหตุปะทะดังกล่าว​

​

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000074711
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พายุโซนร้อนถล่มอเมริกากลางเกิดน้ำท่วม-ดินถล่มดับไม่ต่ำกว่า 90 ราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 พฤษภาคม 2553 10:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​

พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในกัวเตมาลา​

หมู่บ้านในกัวเตมาลาประสบภัยดินถล่ม​

เหยื่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ​

ชาวบ้านต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยของตัวเอง​

เอเอฟพี - พายุโซนร้อนลูกแรกของปี “อากาธา” พัดลถ่มอเมริกากลาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 90 รายในกัวเตมาลา และเอลซัลวาดอร์ ท่ามกลางฝนตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มในหลายพื้นที่​

เจ้าหน้าที่เผยว่า พายุโซนร้อนอากาธาทำให้ประชาชนมากกว่า 74,000 คนต้องอพยพหนีจากที่อยู่อาศัย เนื่องจากฝนตกหนักใน 4 ประเทศ ซึ่งรวมถึงเม็กซิโก และฮอนดูรัส​

หัวหน้าหน่วยฉุกเฉินของกัวเตมาลาระบุว่า จนถึงขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 73 รายทั่วประเทศ ส่วนใหญ่มาจากเหตุดินถล่ม ขณะที่หนังสือพิมพ์เปรนซา ลีเบรรายงานยอดผู้เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการที่ 80 ราย ในจำนวนนั้นเป็นเด็ก 4 คน โดยรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันเสาร์ (29) ที่ผ่านมา​

ในเอลซัลวาดอร์ เจ้าหน้าที่กล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม และดินถล่มรวม 9 ราย ส่วนฮอนดูรัส เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตจากพายุอากาธาอีกอย่างน้อย 8 ราย​

พายุอากาธาพัดถล่มกัวเตมาลาในคืนที่ผ่านมา ด้วยความแรง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะลดความเร็วลงเหลือเพียงพายุดีเปรสชันเมื่อค่อยๆ เข้าในพื้นที่สูง ทว่า ความเสียหายอันเกิดจากฝนตกหนัก และกระแสลมแรงทำให้รัฐบาลเอลซัลวอดอร์ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่นเดียวกับฮอนดูรัส​

สำหรับพื้นที่ประสบภัยพายุลูกนี้ร้ายแรงที่สุดในกัวเตมาลา คือ หมู่บ้านในเขตโซโลลา ซึ่งดินถล่มทับบ้านเรือนหายไป 25 หลัง คร่าชีวิตชาวบ้าน 15 คน อีก 10 คนยังคงสูญหาย โดยศพถูกฝังทันทีเพื่อป้องกันโรคระบาด​

ด้านโคลอมเบีย และสหรัฐฯ เสนอส่งเครื่องบินให้ความช่วยเหลือในการอพยพคนออกจากพื้นที่ประสบภัย โดยเครื่องบินกองทัพสหรัฐฯ 6 ลำกำลังเดินทางจากฐานทัพในฮอนดูรัสแล้ว​

​

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000074574​